นิยายเร่ืองหน่ึง สามารถเปลี่ยนชีวิตคนเราได.้ ...จริงหรือ ณฐั สิมา พลแสน วทิ ยาลยั อาชีวศึกษา นครราชสีมา
ถา้ ใครเป็นคนช่างอ่านเหมือนดิฉนั กอ็ าจจะบอกวา่ จริง งานเขียนดี ๆสกั เร่ือง ขอ้ เขียนดี ๆ สกั บท หรือแมแ้ ต่เพยี งบรรทดั เดียวกอ็ าจจะเปลี่ยนชีวติ คนเราได้ เปลี่ยนมุมมอง และทศั นคติการมองโลกของคนเราได้ ตอนสิบขวบ ดิฉนั เริ่มรู้จกั การอ่านนิยายเร่ืองยาวเรื่องแรกในชีวตินิยายเร่ืองน้นั คือ เร่ือง “รักเร่” ของคุณโสภาค สุวรรณ ซ่ึงตีพิมพล์ งในนิตยสารขวญั เรือน ดิฉนั ติดตามชีวติ ของผหู้ ญิงคนหน่ึง “วายนู ” ที่ไดร้ ับโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ และไดพ้ บกบั พระเอกของเร่ือง“คุณรามิล” ซ่ึงเป็นคนหนุ่มไฟแรง เป็นเลขานุการเอกท่ีอายนุ อ้ ยท่ีสุดหล่อ มีชาติตระกลู มีการงานทา มีชีวติ ที่ดูเหมือนจะฟฟู ่ องอยใู่ นอากาศหรูหราสุดแสน.....มีแม่ครัว มีพอ่ ครัว มีคนขบั รถ ทาหนา้ ท่ีอนั ทรงเกียรติเป็นตวั แทนประเทศไทย ดูแลรักษาผลประโยชน์ของไทยในต่างประเทศ (แมว้ า่ ในนิยายเรื่องน้นั คุณรามิล เธอไม่ไดท้ าหนา้ ท่ีรักษาผลประโยชนข์ องชาติมากเท่าตามรักษาผลประโยชนข์ องตวั เอง คือ ตามงอ้ นางเอกกเ็ ถอะนะ)
ตอนน้นั ดิฉนั ไม่เคยคิดฝันที่จะเป็นนกั การทูต หรือเป็นขา้ ราชการหรอกค่ะ คิดวา่ อยากเป็นภรรยาทูตมากกวา่ ดูมีหนา้ มีตา ดูหรูหรา แต่งตวัสวยงาม มีคนรับใชล้ อ้ มหนา้ ลอ้ มหลงัรักเร่ กลายเป็นนิยายเรื่องโปรด ที่ทาใหด้ ิฉนั รู้จกั กบั โลกของสถานทตูในต่างแดนเป็นคร้ังแรก เพราะรามิลไดม้ ีโอกาสไปประจาการที่สถานทตู ท่ีออสเตรีย รัสเซีย และอเมริกา....และแลว้ วนั หน่ึง ดิฉนั กไ็ ดม้ ีโอกาสเขา้ มาอยใู่ นโลกท่ีดิฉนั เคยใฝ่ฝันถึงเมื่อตอนสิบขวบ........มนั ทาใหด้ ิฉนั รู้วา่ ความจริง กบั ความฝันมนัแตกต่างกนั โดยสิ้นเชิงค่ะอาจจจะเพราะดิฉนั เป็นคนที่ไม่ค่อยรู้จกั ความตอ้ งการของตวั เองเท่าไหร่กไ็ ด้ ความคิดอยากเป็นนกั การทตู หายไปจากหวั สมอง ไม่เคยคิดถึงอีกเลย จนกระทง่ั อยู่ ม. ปลาย ที่ตอ้ งคิดวา่ จะเลือกคณะอะไรดี? ดิฉนั ก็เหมือนเดก็ นกั เรียน ม. ปลายส่วนมาก ท่ีใชช้ ีวติ สนุกสนานไปวนั ๆไม่ไดค้ ิดถึงวา่ อนาคตตอ้ งทางานเป็นอะไร (มนั เป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดช่วงเวลาหน่ึงในชีวติ เลยล่ะคะ่ )วนั หน่ึงดิฉนั จูงมือเพอื่ นสนิทคนหน่ึง เดินไปท่ี UN ที่ราชดาเนิน ตรงสะพานมฆั วานรังสรรคน์ น่ั แหละค่ะ เดินอาจ ๆ เขา้ ไป แลว้ กไ็ ปเจอคุณพ่ี Receptionist ท่านหน่ึง
“ติดต่อเร่ืองอะไรคะ?”“กไ็ ม่มีอะไรมากหรอกค่ะพ่ี หนูอยากถามคาหน่ึง ถา้ อยากทางานที่ตึกน้ีหนูตอ้ งเรียนอะไรคะพ่ี?”เจอคาถามน้ีเขา้ ไป คุณพ่ีท่านน้นั กม็ ึนไปเหมือนกนั แค่ แต่ดิฉนั นบั วา่เป็นคนโชคดี ที่ไดเ้ จอกบั คุณพี่ท่านน้ี ที่เป็นคนมีจิตใจเอ้ืออารีย์“งานที่น่ีเป็นการทาสญั ญาปี ต่อปี เงินเดือนดีกจ็ ริง แต่กเ็ ป็นเจา้ หนา้ ที่ทอ้ งถิ่น ถา้ นอ้ งอยากทางานที่น่ีจริง ๆ ทาไมไม่ลองเรียนดา้ นรัฐศาสตร์ดูล่ะ แลว้ กเ็ ขา้ ทางานท่ีกระทรวงต่างประเทศดีกวา่ จากน้นั เกบ็ เกี่ยวประสบการณ์และลองมาทางานที่น่ี พว่ี า่ จะดีกวา่ นะจะ๊ ”ความประทบั ใจในตวั คุณพี่ท่านน้นั ยงั ตรึงอยใู่ นใจของดิฉนั เวลาที่นงั่เขียนบลอ็ กอยกู่ ย็ งั นง่ั ยมิ้ เม่ือคิดวา่ เวลาท่ีคนเรามีจิตใจเอ้ืออารียต์ ่อกนัแลว้ มนั ซาบซ้ึงในจิตในใจสักเพียงไหน ถา้ ดิฉนั ไปเจอคุณพ่ที ี่กาลงัอารมณ์เสีย และดุดิฉนั เขา้ ไป ป่ านน้ีจะเป็นยงั ไงนะ มนั กค็ งเป็นอะไรที่จาไดไ้ ม่รู้ลืมอีกนนั่ แหละค่ะ.....แต่ในอีกทางหน่ึงหากทวา่ ความคิดที่จะทางานที่กระทรวงการต่างประเทศ กห็ ายไปอีกแวบ้ ใหญ่ ๆ เมื่อดิฉนั สอบติดคณะสงั คมศาสตร์ ไม่ใช่รัฐศาสตร์อยา่ งที่ฝัน.....แต่ดิฉนั กส็ นุกมากท่ีไดเ้ รียนดา้ นประวตั ิศาสตร์ และการท่องเที่ยวดิฉนั ไดฝ้ ึกงานที่บริษทั ทวั ร์ และมีโอกาสนาเดก็ นกั เรียนไปเรียน
ซมั เมอร์ท่ีประเทศองั กฤษถึง 2 คร้ัง เป็นประสบการณ์ที่สนุกไม่รู้ลืมแถมก่อนเรียนจบดิฉนั มีโอกาสไดท้ างานกลุ่ม จดั ทวั ร์ นาคณะลูกทวั ร์(กเ็ พ่อื น ๆ กนั ท้งั น้นั ) ไปออกทวั ร์จริง ๆ คณะของเราเป็นกลุ่มเส้นทางประวตั ิศาสตร์ สุโขทยั -พิษณุโลก ดิฉนั ลืมเรื่องกระทรวงฯ ไปเสียสนิทไม่ไดค้ ิดถึงอีกเลยจวบจนเมื่อคุณพอ่ ถามวา่ ดิฉนั จะไปเรียนต่อโทดา้ นไหน กบ็ อกพอ่ ไปวา่ อยากเรียนประวตั ิศาสตร์ เพราะเป็นวชิ าที่ชอบ (สงสยั จะชอบจมอยู่กบั อดีต) พอ่ ทาหนา้ รับไม่ได้ ตอนน้นั สาขาที่เป็นท่ีนิยมในตลาดแรงงานคงไม่พน้ MBA หรือดา้ นเศรษฐศาสตร์ แต่ดิฉนั ไม่ชอบ.....พอ่ อยากใหเ้ รียนอะไรกไ็ ด้ ที่จบกลบั มามีงานทาแน่ ๆ ดูแลว้ งานดา้ นประวตั ิศาสตร์ คงไม่น่าจะหางานทาไดห้ รอก...พอ่ เลยแนะนาวา่ ลองสมคั รไปเรียนดา้ น International Relations ดูสิ....ดิฉนั กเ็ ลยเริ่มหาขอ้ มลูเก่ียวกบั สาขาวชิ าน้ี แต่กย็ งั ไม่คิดจะทางานราชการ เพราะที่บา้ นคุน้ เคยกบั งานราชการ ดิฉนั โตมาแบบคนท่ีไม่ชอบขา้ ราชการ ไม่ประทบั ใจและไม่นึกอยากเป็ นหน่ึงในกลุ่มคนเหล่าน้ นัแต่วา่ การนงั่ หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั การเรียนต่อดา้ น IR กท็ าใหอ้ ารมณ์ฝันหวานยามเดก็ คิดถึงคุณรามิลและวายนู ฟ้ งุ กระจายเตม็ สมองดิฉนั ตดั สินใจไปเรียนต่อดา้ น International Studies คราวน้ี ไม่ไดค้ ิดถึงคุณรามิลคนเดียวแลว้ แต่เพียงเพราะไดอ้ ่านนิยายอีกเรื่อง.............มิรา
หญิงสาวที่ทางานในค่ายผอู้ พยพ ตวั เอกในนิยายเร่ืองโสมส่องแสง ของคุณทมยนั ตี ดิฉนั เพอ้ อีกแลว้ ....อยากไปทางานที่อาฟริกา อยากช่วยเดก็กาพร้า อยากทางานเพอ่ื สงั คมโลก (น่าจะไปสมคั รเป็นนางงามไหมเนี่ย!?) ดิฉนั ลงเลือกวชิ าโทดา้ นการพฒั นาทนั ที Famine and FoodSecurity เป็นวชิ าที่สนุกที่สุด ดิฉนั ชอบอ่านหนงั สือดา้ นการพฒั นา และประสบการณ์ของเพ่ือนร่วมช้นั ท่ีมีเพยี บ ไม่วา่ จะทางานใน OxfamUNICEF ฯลฯปี ที่เรียบจบ ดิฉนั พยายามส่งใบสมคั รไปขอฝึกงานท่ี UN และ UNIDOที่เวยี นนาแต่กต็ อ้ งพบกบั ความผดิ หวงั UN freeze ตาแหน่งต่าง ๆท้งั หมด เรียกวา่ แทบจะไม่จา้ งงานเพม่ิ เลย ถา้ ไม่จาเป็นพอกลบั มาบา้ น....เขม็ ทิศชีวติ จึงไดเ้ ปล่ียนทิศทางของมนั อีกคร้ังหน่ึงตลอดระยะเวลา 8 เดือนท่ีเรียนจบกลบั มา ดิฉนั ไปสมคั รงานเป็นนกั ข่าวไปทางานเป็นผชู้ ่วย consultant และทางานท่ี NGO ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ในระหวา่ งน้นั เพ่อื นรักคนหน่ึง (ปัจจุบนั เสียชีวติ ไปแลว้ ) เป็นคนดูหมอแม่นมาก ๆ ไดบ้ อกกบั ดิฉนั วา่“งานท่ีไดท้ าจริง ๆ จะเร่ิมทาตอนปลายปี คราวน้ีจะทายาว”“เอ.....น่ีฉนั กไ็ ดง้ านทาแลว้ นะ......ฉนั กช็ อบงานท่ีนี่ดว้ ยอะ่ ”
“ไม่หรอก.....งานท่ีเป็นงานของเธอน่ะ ตอ้ งเริ่มทาปลายปี น้ีแลว้ จะดี...”ดิฉนั ไม่เช่ือคาทานายของเพ่ือนคนน้ีเลยในตอนน้นั และกไ็ ม่ไดส้ นใจเรื่องการสมคั รสอบกระทรวงฯ เลย แต่ต่อมากเ็ กิดเบ่ือหน่ายงานที่ทามาก ๆ และแลว้ วนั หน่ึงกไ็ ดร้ ับโทรศพั ทจ์ ากผอู้ าวโุ สท่านหน่ึงท่ีคุน้ เคยกนั มาต้งั แต่ดิฉนั ยงั เรียนอยมู่ ธั ยมปลาย ท่านบอกวา่ ขบั รถผา่ นหนา้กระทรวงการต่างประเทศ เห็นประกาศรับสมคั ร ท่านกเ็ ลยคิดถึง และอยากใหล้ องไปสอบดู....”ใครเลยจะไปคิดวา่ ดิฉนั จะสอบติด และมนั กเ็ ปล่ียนชีวติ ของดิฉนั ไปเกือบท้งั ชีวติ ทีเดียวค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: