Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 13 ประโยชน์จุดจี๊ด ของพริกสุดแซ่บ

13 ประโยชน์จุดจี๊ด ของพริกสุดแซ่บ

Published by warunee tawdee, 2020-05-26 02:03:30

Description: 13 ประโยชน์จุดจี๊ด ของพริกสุดแซ่บ

Search

Read the Text Version

13 ประโยชน์จดุ จ๊ดี ของพริกสุดแซ่บ! ลดความ เส่ยี งโรคมะเร็ง-หัวใจ-นา้ ตาลในเลอื ด พริก สมนุ ไพรรสเผ็ดรอ้ น ที่หลายๆ คนตดิ ใจ ประโยชนข์ องพรกิ นัน้ ดงี ามมาก ท้งั ช่วยลดน้าหนกั สรา้ งภูมติ า้ นทาน ลดนา้ ตาลในเลอื ด ป้องกนั โรคมะเรง็ และลดความเสยี่ งโรคหวั ใจ 2 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศลิ า อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

พรกิ ประวัตแิ ละความเป็นมา มีการบันทกึ ว่าพริกถูกคน้ พบครง้ั แรกเมื่อประมาณ 7,000 ปกี อ่ นทีอ่ เมรกิ ากลางและ อเมรกิ าใต้ โดยครสิ โตเฟอร์ โคลัมบสั จากนัน้ กม็ ีการน้าพริกมาปลูกและเผยแพรไ่ ปทวั่ ยโุ รป และลามไปทวั่ โลก ท้าให้พริกมีชอ่ื เรยี กแตกต่างกันไปมากมาย เช่น พรกิ ภาษาอังกฤษคอื Chili หรือ Chili peppers ซึ่งกม็ าจากคา้ ว่าพริกในภาษาสเปน หรอื chile โดยพรกิ จัดอยใู่ นวงศ์ Solanaceae สกลุ Capsicum ซง่ึ พริกมชี ื่อทาง วิทยาศาสตร์ว่า Capsicum spp. ส่วนประเทศไทยของเราก็ร้จู กั และคนุ้ เคยกับการปลูกพรกิ มานานแลว้ และสายพันธ์ุ ของพรกิ ในประเทศไทยกม็ อี ยไู่ มน่ อ้ ย รวมทั้งหมดประมาณ 831 สายพันธ์ุ สามารถ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 กล่มุ ใหญๆ่ ตามชนดิ ของพรกิ ได้แก่ พรกิ ชฟ้ี า้ พริกขหี้ นเู มด็ ใหญ่ และพรกิ ขีห้ นเู มด็ เลก็ ชื่อเสียงท่ีโดดเด่นทสี่ ุดของพรกิ ต้องยกให้เรอ่ื งความเผด็ เพราะว่าพริกคือเคร่ืองเทศท่ใี ห้ รสเผ็ดร้อนชนิดหนงึ่ เนอื่ งจากในพรกิ มี “สารแคปไซซิน” (Capsicin) ทเ่ี ป็นสารทีใ่ ห้ ความเผด็ รอ้ น โดยสารชนิดนจี้ ะกระจายอย่ใู นทุกส่วนของพรกิ แตส่ ว่ นทพ่ี บมากทส่ี ดุ หรอื เผ็ดมากที่สดุ ก็คือ รกหรอื ไสข้ องพรกิ น่นั เอง ซ่งึ สารนมี้ ีคณุ สมบตั พิ ิเศษตรงที่ สามารถทนความร้อนไดด้ ีแม้ว่าจะผา่ นกระบวนการทา้ ใหส้ กุ หรือตากแดดรอ้ นๆ จนแหง้ แลว้ กต็ าม แตพ่ รกิ กย็ ังคงความเผด็ ร้อนไวไ้ ด้ดังเดมิ 3 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

ประโยชน์ดีๆ ของการกินเผด็ 1. ช่วยลดนา้ หนัก การรับประทานพริกช่วยลดน้าหนักได้ เน่อื งจากแคปไซซนิ ในพรกิ มี สาร thermogenic ซ่ึงเป็นสารกอ่ ความร้อนในรา่ งกาย สง่ ผลดีต่อระบบเผาผลาญ ชว่ ย กระตุน้ การเผาผลาญไดด้ ี จึงมสี ว่ นช่วยใหน้ ้าหนกั ของเราลดเรว็ ขนึ้ อีกทงั้ พรกิ ยงั มีกรด แอสคอรบ์ กิ ท่ีชว่ ยเรง่ ให้ร่างกายเปลย่ี นไขมันเป็นพลังงานได้ โดยมกี ารศกึ ษาจาก ประเทศญป่ี ่นุ พบว่า การรบั ประทานพริก 10 กรัม ช่วยเพมิ่ อตั ราการเผาผลาญใน ร่างกายไดอ้ ย่างรวดเรว็ และนานถึง 30 นาทเี ลยทเี ดยี ว แต่จะให้รบั ประทานพริก สดๆ เป็น 10 กรมั เลยก็คงไมไ่ หว ฉะน้นั ใครทอี่ ยากใชพ้ ริกชว่ ยลดน้าหนัก จะลอง หนั มารบั ประทานพรกิ ในรูปแบบสารสกดั ดกู ไ็ ด้ นอกจากน้ี ยงั พบวา่ วิตามนิ ซที สี่ ูงมากในพรกิ สามารถขยายเสน้ เลอื ดในล้าไส้และ กระเพาะอาหาร ช่วยใหร้ า่ งกายดดู ซึมอาหารไดด้ แี ละทา้ ใหร้ ะบบขับถา่ ยของเราดขี นึ้ อกี ด้วย 4 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศลิ า อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

2. ท้าให้อารมณด์ ี สารแคปไซซินในพริกสามารถกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอรฟ์ ิน ซง่ึ ช่วยบรรเทาอาการ เจ็บปวด อีกท้งั ยังลดการสร้างฮอรโ์ มนทท่ี ้าให้เครยี ด ชว่ ยใหเ้ ราอารมณด์ ี สดชืน่ ทา้ ให้ ความดนั โลหติ ลดลง รสู้ กึ ผ่อนคลาย และมีความสขุ มากขนึ้ ได้ 3. ชว่ ยใหเ้ จริญอาหาร 5 นอกจากสารเอ็นดอรฟ์ นิ จะช่วยท้าให้เราอารมณด์ ีขึน้ แลว้ ยงั ทา้ ให้เรารู้สึกวา่ อาหาร อรอ่ ยข้นึ ได้อีกตา่ งหาก อีกท้งั พริกจะไปท้าให้ตอ่ มน้าลายทา้ งานมากขนึ้ จนไปกระตนุ้ ปลายประสาทให้สมองส่วนกลางรับรู้การอยากอาหาร ดงั นน้ั ไม่ตอ้ งแปลกใจเลยถ้าคน สว่ นมากจะชอบรับประทานอาหารรสเผด็ หรอื รู้สกึ ว่าอาหารที่มีรสเผ็ด ยง่ิ เผด็ ก็ยิง่ รบั ประทานอรอ่ ย 4. บรรเทาอาการปวด อยา่ งท่บี อกไปแลว้ วา่ สารแคปไซซนิ ในพรกิ สามารถกระตุ้นให้รา่ งกายหล่งั สารเอน็ ดอร์ ฟนิ ซง่ึ เป็นสารท่ีบรรเทาอาการเจ็บปวดแบบธรรมชาติ จงึ ชว่ ยใหเ้ รารสู้ กึ เจ็บปวดนอ้ ยลง ได้ โดยสมัยก่อนมีการนา้ พริกข้ีหนมู าท้าลกู ประคบ หรอื ทา้ เปน็ นา้ มนั นวดแก้ปวดเม่ือย ตามข้อ ขณะทใี่ นปจั จุบนั กม็ กี ารน้าสารแคปไซซินมาเป็นสว่ นประกอบของขีผ้ งึ้ และ เจล ใช้ทาบรรเทาอาการปวดบวมบริเวณผวิ หนงั รวมทั้งอาการปวดท่เี กดิ จากเสน้ เอน็ เข่าอกั เสบ แกป้ วดข้อ ปวดเมอ่ื ยตามตัว รวมทัง้ เรมิ และงูสวดั ดว้ ย ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศลิ า อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

5. บา้ รุงสายตา 6 พรกิ มวี ิตามินเอและวติ ามนิ ซีอยู่คอ่ นขา้ งมาก อกี ทงั้ สขี องพรกิ ทไ่ี มว่ ่าจะเป็นสแี ดง เหลือง เขยี ว ก็มีเบต้าแคโรทนี ซงึ่ เปน็ สารต้านอนุมลู อสิ ระทมี่ สี รรพคณุ บ้ารุงและปอ้ งกัน ความเสอ่ื มของจอประสาทตาได้ ยิ่งเม่ือรวมพลงั กับวิตามนิ เอและวติ ามนิ ซีทีอ่ ยูใ่ นพรกิ ด้วยแลว้ ก็จดั ว่าพริกเปน็ อาหารทช่ี ว่ ยบา้ รุงสายตาที่ดีชนดิ หนึง่ เลยล่ะคะ่ ทวา่ การจะ รับวติ ามนิ เอและวติ ามนิ ซีจากพรกิ นนั้ ควรต้องรบั ประทานพริกสดๆ ท่ไี มผ่ ่านการ ปรงุ สกุ ดงั น้นั ควรเลอื กรับประทานพริกทมี่ คี วามเผ็ดนอ้ ยอย่างพรกิ หยวก พรกิ หวาน หรือใครรับประทานเผ็ดเก่งมากจะรบั ประทานเปลือกพริกในส้มตา้ อนั นีก้ แ็ ลว้ แตส่ ะดวก 6. ชว่ ยใหจ้ มูกโลง่ หายใจสะดวกขึ้น จะสงั เกตไดว้ า่ เวลาเรารบั ประทานพรกิ เข้าไปสกั พักจะมีอาการน้ามูก น้าตาไหล นนั่ ก็ เปน็ เพราะรสเผ็ดๆ รวมทง้ั สารกอ่ ความรอ้ นในพรกิ จะไปชว่ ยลดปริมาณนา้ มูก และสิง่ กดี ขวางในทางเดนิ ระบบหายใจ ทา้ ให้จมูกโลง่ ลดอาการคดั จมกู ช่วยให้หายใจสะดวกขน้ึ แถมยังบรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะทเ่ี หนียวขน้ ชว่ ยให้ขบั เสมหะออกมาไดง้ ่ายอีก ด้วย ดังนัน้ ผู้ทม่ี ีปัญหาเก่ยี วกับระบบทางเดนิ หายใจ ทัง้ หอบหืด ภมู แิ พ้ ไซนสั และ หลอดลมอกั เสบ เราขอแนะนา้ ใหร้ ับประทานพรกิ เปน็ ประจา้ เลย แตก่ ็ระวังอยา่ รบั ประทานเผด็ มากเกนิ ไปนะคะ ไม่อย่างนน้ั อาจจะเกิดอาการระคายเคืองใน กระเพาะอาหารตามมาได้ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

7. เสรมิ สรา้ งภูมติ า้ นทาน พริกมีวติ ามนิ เอและวติ ามนิ ซีสงู มาก ซ่ึงเปน็ ทร่ี กู้ ันดวี า่ วิตามินเอและวติ ามนิ ซีเป็น สารอาหารทีส่ า้ คญั ตอ่ ระบบภมู คิ มุ้ กันและช่วยป้องกันโรคไข้หวดั ได้ แถมในพริกยัง มเี บตา้ แคโรทนี และสารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระทชี่ ว่ ยเสรมิ สร้างระบบภมู ิคมุ้ กนั ในรา่ งกายของ เราให้แขง็ แรงขึ้นไดอ้ ีกดว้ ย 8. ลดนา้ ตาลในเลอื ด 7 มกี ารศกึ ษาพบวา่ แคปไซซินในพริกช่วยยับยง้ั การดูดซึมน้าตาลกลโู คสได้ โดยมกี าร ทดลองใหห้ ญงิ วยั หมดประจ้าเดือน 10 คน ดมื่ นา้ ตาลกลโู คส 75 กรัม แล้วเจาะเลือด เก็บขอ้ มลู ก่อนดื่มและหลงั ดมื่ ท่ีเวลา 15 นาที 30 นาที และ 60 นาที ในขณะท่วี ันตอ่ มา ใหด้ ืม่ น้าตาลกลูโคสเหมอื นเดิม แต่เพมิ่ การรับประทานพรกิ เข้าไปดว้ ย ซ่งึ พบว่า ระดับ น้าตาลในเลอื ดวนั ทร่ี ับประทานพรกิ ร่วมดว้ ย มีระดบั ต้่ากวา่ วนั ที่ไม่รบั ประทาน ประมาณ 20% ซ่งึ ก็สรุปได้ว่าพริกน่าจะชว่ ยลดระดับน้าตาลในเลอื ดได้นน่ั เอง 9. ชว่ ยให้ระบบไหลเวยี นเลอื ดดขี น้ึ รไู้ หมวา่ การรบั ประทานพรกิ เปน็ ประจ้าชว่ ยใหร้ ะบบไหลเวียนเลอื ดดขี ึน้ เพราะสาร แคปไซซินสามารถยับยง้ั การหดตวั ของหลอดเลอื ด ท้าใหห้ ลอดเลอื ดขยายตัว สง่ เลอื ดไป เลยี้ งอวยั วะสว่ นต่างๆ ไดด้ ี อีกท้ังในพรกิ ยงั มีเบตา้ แคโรทนี และวิตามนิ ซี ทชี่ ว่ ยเพม่ิ การ ยดื ตวั ของผนงั หลอดเลอื ดใหร้ บั กับแรงดันตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และชว่ ยเสรมิ สรา้ ง ผนงั หลอดเลอื ดใหแ้ ข็งแรงขนึ้ ลดอาการหลอดเลือดอุดตนั และหลอดเลอื ดตบี ได้ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศลิ า อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

10. ควบคุมคอเลสเตอรอล 8 มงี านวจิ ยั ทดลองใหผ้ ้ปู ว่ ยทีม่ ไี ขมันในเลอื ดสงู รบั ประทานพรกิ ข้ีหนู 5 กรัม รว่ มกบั รบั ประทานอาหารปกตเิ ปน็ ระยะเวลา 4 สัปดาห์ แล้วน้าผลมาเปรียบเทียบกับผู้ป่วยท่ไี ม่ รับประทานพริก ซ่ึงจากการทดลองพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มทีร่ บั ประทานพรกิ มีระดบั คอเลสเตอรอลชนดิ ไมด่ ี (LDL) คงที่ แตม่ ีระดับคอเลสเตอรอลชนดิ ดี (HDL) เพิ่มขึน้ ในขณะทผี่ ู้ปว่ ยที่ไมร่ บั ประทานพริกเลย มีระดบั คอเลสเตอรอลทง้ั หมดสงู ขึ้น จึง สรุปได้วา่ การรบั ประทานพรกิ ชว่ ยควบคมุ ระดบั คอเลสเตอรอลชนดิ ไม่ดใี หค้ งทแ่ี ละเพ่มิ คอเลสเตอรอลชนดิ ดีได้ นอกจากนี้ ยังมงี านวจิ ยั พบวา่ สารแคปไซซนิ มสี รรพคณุ ช่วยยบั ยง้ั ไมใ่ ห้ร่างกายสร้าง คอเลสเตอรอลชนิดไมด่ ี ในขณะท่ีช่วยสง่ เสริมให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลชนดิ ดี เพ่ิมขึ้นได้ ทา้ ใหเ้ รามปี รมิ าณไตรกลีเซอไรด์ต้า่ ลงอกี ดว้ ย 11. ป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมสี าเหตหุ ลกั มาจากการขาดธาตุเหลก็ เนอื่ งจากธาตุเหลก็ เปน็ องคป์ ระกอบ สา้ คญั ในการสรา้ งเม็ดเลอื ดแดง โดยช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลอื ดแดงรวมทงั้ ฮโี มโกลบนิ ใหม้ ี ปริมาณเพมิ่ ขนึ้ ซึ่งในพริกก็มธี าตุเหล็กประกอบอย่พู อสมควร รวมถึงยงั มีทองแดงท่ี ชว่ ยให้ร่างกายดดู ซึมธาตุเหล็กไดเ้ ป็นอยา่ งดี อีกทง้ั ยังมกี รดโฟลิกทีช่ ว่ ยเสริมให้เซลล์ เมด็ เลือดแดงแข็งแรง ดงั นน้ั พรกิ จึงถอื เปน็ อกี หนึง่ อาหารท่ีชว่ ยป้องกนั โลหิตจางได้ 12. ลดความเส่ียงโรคมะเรง็ วิตามินซีในพริกมฤี ทธย์ิ บั ย้งั การสรา้ งไนโตรซามีน ซึ่งเปน็ สารก่อมะเร็งในระบบทางเดิน อาหาร แถมยงั ช่วยสรา้ งคอลลาเจน ซงึ่ เป็นโปรตนี ท่หี ยดุ การแพรก่ ระจายของ เซลลม์ ะเร็ง ซึง่ เรากบ็ อกไปก่อนหน้าน้ีแลว้ วา่ พริกมีวติ ามินซสี ูงมาก ดงั นัน้ การ รับประทานพริกจงึ ช่วยลดความเส่ยี งโรคมะเร็งได้ ยงิ่ ไปกว่านั้นในพรกิ ยังมเี บตา้ แคโร ทีน ซงึ่ เป็นท่รี ู้กนั ดีวา่ สารเบต้าแคโรทนี เปน็ สารต้านอนมุ ลู อสิ ระ สามารถลดอตั ราการ กลายพันธุข์ องเซลล์ และชว่ ยทา้ ลายเซลลม์ ะเร็ง โดยเฉพาะมะเรง็ ปอดและมะเรง็ ช่องปากได้ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

13. ลดความเสย่ี งโรคหัวใจ เพยี งแคร่ ับประทานพรกิ กช็ ว่ ยลดความเส่ยี งโรคหวั ใจลงได้แลว้ เพราะพรกิ จะไปช่วยลด การจบั กลุ่มของเกลด็ เลือด ชว่ ยละลายลม่ิ เลอื ด ทา้ ใหเ้ ลอื ดไม่จับตวั เป็นก้อน จนอุดตนั หลอดเลอื ด ไมเ่ พียงเทา่ นนั้ เพราะอยา่ งทเ่ี ราบอกไปแลว้ ว่าการรบั ประทานพรกิ ยงั ชว่ ย ควบคมุ ระดบั คอเลสเตอรอล โดยป้องกันไม่ใหต้ บั สรา้ งคอเลสเตอรอลชนดิ ไม่ดี ท้าให้มี ปรมิ าณไตรกลเี ซอไรด์ตา้่ ลง จงึ สง่ ผลดีต่อหัวใจและสุขภาพ ดังน้นั หากเรารับประทาน พริกเป็นประจ้ากจ็ ะช่วยลดความเสย่ี งของการเกดิ โรคหวั ใจไดพ้ อสมควร 9 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศลิ า อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ

แหล่งอ้างอิง https://www.technologychaoban.com/thai-local-wisdom/article_91304 10 ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอปากคาด ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บงึ กาฬ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook