Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการปลูกมะเขือ

คู่มือการปลูกมะเขือ

Published by warunee tawdee, 2020-07-15 04:45:52

Description: คู่มือการปลูกมะเขือ

Search

Read the Text Version

มะเขอื มะเขือเปราะ (Thai Eggplant) เปน็ มะเขอื ท่ีนยิ มรับประทานสดหรอื ใชป้ ระกอบ อาหาร เพราะผลมะเขอื เปราะมคี วามกรอบ ไมม่ ีเส้นใย มรี สหวาน และรบั ประทานได้ทง้ั ผล • วงศ์ : Solanaceae (วงศ์มะเขอื ) • ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Solanum virginianum L. • ชอื่ สามญั : Thai Eggplant • ชือ่ ท้องถ่นิ ไทย : ภาคกลาง และทั่วไป – มะเขือเปราะ ภาคเหนอื – มะเขอื ขยั คา – มะเขอื คางกบ – มะเขอื จาน – มะเขือแจ้ – มะเขอื แจ้ดิน – มะเขือดา ภาคอสี าน – มะเขือเผาะ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลาต้น มะเขอื เปราะ เปน็ ไม้ลม้ ลุกอายขุ า้ มปี มลี าต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเลก็ สงู ประมาณ 20-100 เซนตเิ มตร ลาตน้ แตกกิ่งแขนงต้ังแต่ระดับตา่ แตกก่ิงแขนงย่อยสน้ั เกดิ ท่ซี อกใบ เปลอื กลาตน้ บาง มสี ีเขยี วเขียวอมเทา เปลอื กที่ปลายกิ่งมสี เี ขยี วออ่ น สว่ นแกนเนอื้ ไม้ เปน็ ไม้เนื้อออ่ น สขี าว เปราะหกั งา่ ย

ใบ มะเขือเปราะ เป็นพืชใบเลย้ี งคู่ แตกออกเปน็ ใบเดีย่ วสลบั กนั บนก่งิ มกี ้านใบทรงกลม ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ขนาดใบกวา้ งประมาณ 5-10 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร แผ่นใบเรยี บ มขี นปกคลมุ ทัง้ ดา้ นลา่ ง และด้านบน แผน่ ใบออ่ นนมุ่ ฉกี ขาดไดง้ ่าย ขอบใบเวา้ โคง้ เปน็ ลูกคลนื่ และงมุ้ เข้าหากลางใบ แผ่นใบมเี ส้นกลางใบสี เขียวออ่ นขนาดใหญ่ มเี สน้ แขนงใบเรยี งสลับกนั ออกดา้ นข้าง ดอก มะเขือเปราะ ออกเปน็ ดอกเด่ยี วๆหรอื ออกเปน็ ชอ่ ข้ึนอยู่กับสายพันธุ์ ดอกจะแทงออก บรเิ วณซอกใบต้งั แต่โคนตน้ จนถงึ ปลายก่ิง ดอกทอ่ี อกเปน็ ช่อมีกา้ นชอ่ ดอกสนั้ แตม่ ีขนาด ใหญ่ สว่ นดอกยอ่ ยหรอื ดอกเดีย่ วมีก้านดอกทรงกลม ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร โคน ก้านใหญ่ ปลายก้านเรยี วเล็กลง ถดั มาเป็นตวั ดอก ดอกตูมมลี กั ษณะเปน็ หลอด ดอกบาน แผก่ ลบี ดอกออก ประกอบด้วยกลบี เลยี้ งสีเขยี วขนาดเล็ก 5 กลบี หุ้มห่อฐานดอกไว้

ถดั มาเป็นกลบี ดอก จานวน 5 กลบี โคนกลบี และกลางกลีบเชอ่ื มตดิ กัน ปลายกลีบแยก เป็นแฉก 5 แฉก มลี ักษณะแหลมตรงกลางกลีบ แผ่นกลบี ดอกไม่เรียบ มีสีขาว มขี นปก คลมุ ถดั มาตรงกลางดอกเป็นเกสรตวั ผทู้ ม่ี ลี กั ษณะเป็นทรงกระบอกสเี หลือง จานวน 5 อัน ยาวประมาณ 0.5-1 เซนตเิ มตร และตรงกลางของเกสรตวั ผูเ้ ป็นเกสรตวั เมยี มกี ้าน เกสรสเี หลืองอมสม้ แทงยื่นยาวกวา่ เกสรตวั ผู้ จานวน 1 อนั ดา้ นลา่ งสดุ ของฐานดอก เปน็ รังไข่ ผล มะเขอื เปราะออกเปน็ ผลเดยี่ วหรอื ออกรวมกันเปน็ ชอ่ แตล่ ะผลมกี ้านผลที่พฒั นามาจาก กา้ นดอก โคนกา้ นบรเิ วณขว้ั ผลใหญ่ โคนกา้ นติดก่ิงเลก็ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ถดั มาเป็นตวั ผลท่ีข้ัวผลหุม้ ดว้ ยกลบี เลย้ี งขนาดใหญ่ สเี ขียว จานวน 5 กลบี ซ่ึงพฒั นามา จากกลีบเล้ยี งของดอก โคนกลีบใหญ่เช่อื มตดิ กนั ปลายกลีบเรยี วแหลม และมขี นออ่ น ปกคลุมทว่ั กลบี เลีย้ ง ทง้ั น้ี มะเขือเปราะบรเิ วณกา้ นผล และกลบี เลย้ี งจะไมม่ ีหนาม แต่ จากมะเขอื ขนื่ (อสี าน) จะพบหนามบรเิ วณดงั กล่าว

ผลแตล่ ะผลมลี กั ษณะทรงกลมหรอื เปน็ รูปไข่ ขนาดผลกว้างประมาณ 3-5 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร เปลือกผลหนา เรียบ และเปน็ มัน มหี ลายสีข้นึ อยู่กับสาย พนั ธุ์ อาทิ สีขาว สีเขยี วออ่ น สเี ขยี วเขม้ และมลี ายปะสีขาว เปน็ ต้น เมอ่ื ผลสกุ จะ เปลยี่ นเปน็ สเี หลืองในทกุ พนั ธุ์ ถัดมาดา้ นในเปน็ เมล็ดทีแ่ ทรกตวั ในเน้อื ผล ทง้ั นี้ เปลอื ก ผล และเนอ้ื ด้านในจะแยกออกจากกันอยา่ งชัดเจน และแยกออกไดง้ า่ ยเม่อื ผลแก่หรือ สุก เน้ือเปลอื กผลมีลกั ษณะออ่ น และกรอบ เมอื่ แกจ่ นเหลอื งจะแข็งข้ึน มรี สเฝ่อื น เลก็ นอ้ ย สว่ นเนอื้ ผลด้านในมีรสหวาน เฝือ่ นนอ้ ยกว่าเปลอื ก ดังนั้น มะเขอื เปราะจึงนยิ ม รับประทานในระยะผลออ่ นหรอื ผลที่ยังไมส่ กุ เขยี วออ่ นปะขาว พนั ธม์ุ ะเขือเปราะตามสี พันธุม์ ะเขือเปราะท่ีนยิ มปลูก ไดแ้ ก่ 1. พันธุส์ ีเขยี วเข้มปะขาว ตัวอยา่ งชอ่ื พันธ์ุ ไดแ้ ก่ พันธพุ์ วงหยกจักรพันธ์ มีมลู นิธชิ ยั พฒั นาเป็นผู้จดสทิ ธบิ ตั รสายพันธุ์ เปน็ พนั ธุผ์ สมระหว่างพนั ธขุ์ าวกรอบแม่โจ้กับพนั ธ์ุ EP 06 มหาวิทยาลยั แม่โจ้ มีลกั ษณะเดน่ คือ ผลออกเปน็ พวง ผลมขี นาดเล็ก 2-3 เซนตเิ มตร พืน้ ผลสีเขยี วเขม้ มลี ายปะสขี าวทที่ า้ ยผล [2] 2. พนั ธุ์สเี ขยี วออ่ นปะขาว

3. พันธุ์สีเขียวออ่ นลว้ น (หยดน้าคา้ ง) 4. พนั ธุ์สีขาวล้วน เขียวออ่ น ลว้ น ขาวลว้ น

ประโยชนม์ ะเขือเปราะ 1. ผลมะเขอื เปราะสดใช้รับประทานเป็นผักคู่กบั อาหารต่างๆ อาทิ นา้ พริก ลาบ ซุบ หนอ่ ไม้ สม้ ตา และคัว่ กล้งิ เปน็ ตน้ 2. มะเขือเปราะใช้ประกอบอาหารเดย่ี วๆ อาทิ ซบุ มะเขือ (อาหารอสี าน) หรอื ใช้ ประกอบอาหารตา่ งๆ อาทิ แกงคั่ว แกงเลยี ง แกงออ่ ม และผัดต่างๆ เป็นต้น 3. มะเขือเปราะใช้ใส่เปน็ ส่วนประกอบของส้มตา 4. เศษผล และใบมะเขอื เปราะใช้ทานา้ หมกั ชวี ภาพ 5. ลาต้น และใบสดนามาสมุ รมควัน ช่วยไล่เหลือบ ยุง 6. สารโซลาโซดนี ทพี่ บในมะเขือเปราะ ใช้เป็นสารตง้ั ตน้ สาหรบั สงั เคราะห์สารสเตยี รอยดค์ อรต์ โิ ซน และฮอรโ์ มนเพศบางชนิด คณุ คา่ ทางโภชนาการมะเขือเปราะ (ผล 100 กรัม) • Proximates นา้ กรมั 87.9 พลังงาน กิโลแคลอ 50 รี่ โปรตนี กรัม 1.8 ไขมัน กรัม 0.8 คารโ์ บไฮเดรต กรัม 8.8 เสน้ ใย กรัม 2.5 เถา้ กรัม 0.7 • Minerals

แคลเซยี ม มิลลิกรมั 38 เหลก็ มลิ ลกิ รมั 1.2 ฟอสฟอรัส มิลลกิ รมั 70 • Vitamins วิตามนิ C มลิ ลิกรมั 3 ไทอะมีน มิลลกิ รมั 0.07 ไรโบฟลาวนิ มิลลิกรมั 0.16 ไนอะซีน มิลลกิ รมั 2.4 วิตามิน A, RE ไมโครกรมั 29 ท่มี า : [3] สรรพคุณมะเขอื เปราะ ผล – ชว่ ยลดไข้ – ชว่ ยตา้ น และยบั ยง้ั มะเรง็ ตับ และมะเรง็ ลาไส้ – ช่วยลดการอักเสบ – ช่วยกระตุ้นการขบั ถา่ ย – ช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเน้อื เรยี บ – ชว่ ยต้านโรคมะเรง็ – ช่วยบารุงหวั ใจ – ช่วยลดความดนั เลอื ด – ช่วยลดระดับนา้ ตาลในเลือด – น้าตม้ ใช้ด่มื ช่วยปอ้ งกัน และรักษาโรคเบาหวาน ประเทศที่ใชป้ ระโยชน์จากนา้ ตม้ ใน

ด้านน้ี ไดแ้ ก่ ประเทศอนิ เดีย – ชว่ ยกระตนุ้ การเผาพลาญนา้ ตาลให้เป็นพลงั งาน – ชว่ ยขบั พยาธิ ใบ – ใบสดนามาต้มดืม่ แกอ้ าการรอ้ นใน – นา้ ต้มจากใบใช้เป็นยาขบั ปัสสาวะ – ใบสดนามาขยา กอ่ นพอกประคบรักษาแผล ช่วยหา้ มเลอื ดของแผล – ใบสดนามาเคยี้ ว ช่วยแก้อาการเหงอื กอกั เสบ – นา้ ตม้ จากใบใช้อาบ แกผ้ ดผื่นคนั ตามผวิ หนัง ราก – รากนามาลา้ งน้าแล้วตม้ ด่ืม ลดอาการคันคอ ช่วยบรรเทาอาการไอ – น้าตม้ จากรากแก้อาหารอักเสบในลาคอ – น้าตม้ ใชเ้ ป็นยาแกห้ อบหดื – นา้ ต้มใชเ้ ปน็ ยาขบั ปสั สาวะ – รากสดนามาเคยี้ ว ชว่ ยบรรเทาอาหารเหงือกบวม เหงอื กอกั เสบ และบรรเทาอาการ ปวดฟนั เพิ่มเตมิ จาก : [1], [4] การปลกู มะเขือเปราะ วธิ ีเพาะกล้า เมล็ดจากผลสกุ ในแปลง ใหแ้ ยกเมล็ดออก และเกบ็ รกั ษาในหอ่ ผ้านาน 1-2 เดอื น หาก เปน็ เมลด็ พันธจ์ุ ากตลาดสามารถใช้เพาะได้ทันที เตรยี มแปลงเพาะขนาดกวา้ งประมาณ 1 เมตร ยาวตามปรมิ าณทีต่ อ้ งการเพาะ ใหพ้ รวน ดิน พร้อมกาจัดวชั พชื ออกกอ่ น จากนน้ั หว่านปยุ๋ คอกรองพ้ืน 1 ถัง/ตารางเมตร กอ่ น คลุกพรวนด้วยจอบ กอ่ นนาเมล็ดหว่านลงแปลง พยายามใหเ้ มล็ดห่างกนั 2-4 เซนตเิ มตร หลงั จากนั้น ใชค้ ราดเกล่ียหนา้ ดนิ ต้ืนให้กลบเมลด็ ก่อนรดนา้ ใหช้ ุ่ม และดูแลให้นา้

ตอ่ เนื่อง วันละ 1 คร้ัง ในช่วง 7 วันแรก จากนน้ั ลดเหลอื 2 วนั /ครั้ง เมื่ออายกุ ลา้ ได้ ประมาณ 10-15 วัน จงึ ย้ายปลกู ลงแปลงตอ่ ท้ังน้ี อาจเพาะในกะบะเพาะกไ็ ด้ การเตรียมแปลงปลกู แปลงปลูกจะต้องไถพรวนดนิ และกาจดั วชั พืชอย่างนอ้ ย 1 ครัง้ จากนนั้ หว่านรองพนื้ ด้วยปยุ๋ คอก 1-2 ตนั /ไร่ กอ่ นไถพรวนแปลงอีกรอบ การปลกู เป็นแถว หากต้องการทาร่องปลูก ให้หว่านโรยป๋ยุ คอกตามรอ่ งกอ่ น และไมต่ ้อง หวา่ นรองพน้ื ตอนไถกลบ วิธยี า้ ยกลา้ และการปลกู การย้ายกลา้ ปลูก ควรดแู ลกล้าจนมอี ายุประมาณ 10-15 วัน หรือแตกใบจริงแลว้ 3-5 ใบ โดยรดน้าใหช้ มุ่ ก่อนถอนย้ายกลา้ และตอ้ งเตรยี มแปลงให้เสร็จก่อน ขุดหลมุ ปลกู ลึกประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร เรยี งเปน็ แถวๆ ระยะห่างระหวา่ งต้น และ แถว ประมาณ 80-100 เซนติเมตร หลงั จากปลกู รดน้าใหช้ ุ่ม การใหน้ า้ หลงั การปลกู 7-14 วนั แรก ควรใหน้ ้าทุกวัน จากน้ัน ลดเหลือ 2 วัน/ครัง้ แต่ต้องใหช้ ุ่ม ในทุกครง้ั จนอายมุ ะเขอื ไดป้ ระมาณ 2 เดอื น จึงลดเหลอื ประมาณ 3 ครง้ั /อาทติ ย์ การใส่ป๋ยุ หลงั ปลูกแล้ว 20-25 วนั ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รอบโคนต้น ประมาณต้นละ 1 หยิบมือ และให้อกี รอบเม่ือต้นอายไุ ด้ 45-50 วัน ในสูตร 12-12-24 ในอัตราเทา่ เดมิ ทง้ั น้ี ควรให้ ป๋ยุ คอกรว่ มด้วยอย่างนอ้ ย 1 ครง้ั การกาจดั วชั พชื หลังปลกู แลว้ 20-30 วัน ใหก้ าจดั วชั พชื ดว้ ยจอบถากหรอื ใช้มือถอน และอกี คร้ังเมอื่ อายุ ครบ 2 เดอื น หรอื กาจดั เม่อื พบเห็นวชั พืช

การเก็บผลผลติ หลงั ปลูกประมาณ 45-60 วนั มะเขอื เปราะจะเร่มิ ตดิ ผล และทยอยเกบ็ ผลได้หลังจาก ปลกู 60-80 วนั และเกบ็ ต่อเนื่องนานกว่า 4-5 เดอื น ทงั้ นี้ การเก็บผล ควรใช้กรรไกรตดั ขั้วผล ไมค่ วรใชม้ อื เด็ด เพราะอาจทาให้ยอดขาดหรือโคนต้นถอนได้ แตห่ ากใชม้ อื ตอ้ งมี ความชานาญ และระมดั ระวงั เป็นพิเศษ

เอกสารอ้างองิ ขอบคณุ ภาพจาก www.bansuanporpeang.com/, Pantip.com/, vegetweb.com/, บริษทั 108 เทคโนฟารม์ จากดั http://www.the-than.com/samonpai/P/58.html https://puechkaset.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8% 82%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0% B8%B2%E0%B8%B0/ [1] หมอชาวบ้าน, มะเขอื เปราะลดน้าตาลในเลือด, ออนไลน,์ สืบค้นเม่ือ 1 เมษายน 2560, เข้าถึงไดท้ ี่ : https://www.doctor.or.th/article/detail/5704/. [2] สานกั คมุ้ ครองพนั ธพ์ุ ชื กรมวชิ าการเกษตร, ออนไลน,์ สบื คน้ เมอื่ 3 เมษายน 2560, เขา้ ถึงไดท้ ่ี : http://www.doa.go.th/pvp/images/stories/indexpp2518/AnnoDOA_namepl ant/t753.pdf/ [3] กองโภชนาการ, 2544, ตารางแสดงคณุ คา่ ทางโภชนาการของอาหารไทย. [4] mcpswis.mcp.ac.th/, กินผกั อยา่ งไรใหไ้ ดป้ ระโยชน,์ ออนไลน,์ สืบค้นเมื่อ 2 เมษายน 2560, เข้าถึงได้ที่ : http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi- bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=12384/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook