Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Cell

Cell

Published by krunipaporn, 2019-05-14 23:04:20

Description: 10-cell

Keywords: cell,biology,organelle

Search

Read the Text Version

กอลจบิ อด:ี Golgi body

กอลจบิ อดี: Golgi body กอลจบิ อดี มีรปู ร่างเป็นลักษณะคลา้ ยชามซ่ึงเรียกวา่ ซิสเทอร์นา (cisterna หรอื flattened sac) เป็นถุงแบนๆ หรอื เปน็ ทอ่ เรยี ง ซ้อนกัน เปน็ ชัน้ ๆ มจี านวนไม่แนน่ อน มปี ระมาณ 5-10 ชน้ั มัก พบ 2-8 อัน ตรงปลายของถงุ มักโปง่ ออก ที่ตัง้ ข้นึ ตามชือ่ ของ คามิลโล กอลจิ (camillo golgi) นักชวี วิทยา ชาวอติ าเลยี น ในปี พ.ศ.2423 โดยศกึ ษาจากเซลลป์ ระสาท

กอลจิบอดี: Golgi body

กอลจิบอดี: Golgi body เก็บสะสมสาร ที่เซลล์สรา้ งขนึ้ กอ่ นทีจ่ ะปล่อยออกนอกเซลล์ เตมิ คารโ์ บไฮเดรตให้กบั โปรตีน หรือลพิ ิด เกี่ยวขอ้ งกับ การสรา้ งอะโครโซม (acrosome) ซงึ่ อย่ทู ่สี ่วนหวั ของสเปิร์ม โดยทาหน้าท่ีเจาะไข่ เมอ่ื เกดิ ปฏิสนธิ เกีย่ วข้องกับการสรา้ ง Acetyl coline (สารส่อื ประสาท)

แวควิ โอล : Vacuole

แวคิวโอล : Vacuole เป็นถุง มเี ย่อื หุม้ ชัน้ เดยี วท่ีเรยี กวา่ โทโนพลาสต์ (tonoplast) แวคิวโอลจะอยภู่ ายในเซลล์ยูคาริโอต (eukaryotic cell) โดยทวั่ ไปจะพบในเซลลพ์ ืช และสตั วช์ น้ั ตา่

แวควิ โอล : Vacuole มี 3 ชนิด ได้แก่ 1. แซบแวควิ โอล (sap vacuole) 2. ฟูดแวคิวโอล (food vacuole) 3. คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล (contractile vacuole)

แซบแวคิวโอล : Sap vacuole พบเฉพาะในเซลลพ์ ืชเท่านั้น ทาหนา้ ที่ สะสมของเหลวซง่ึ ส่วนใหญเ่ ปน็ น้า และสารบางชนดิ เชน่ สารสี ไอออน แป้ง นา้ ตาล กรดอะมิโน ผลกึ และสารพษิ ต่างๆ ในเซลล์พชื ที่ยังอ่อนอยู่ แซบแวคิวโอลจะมีขนาดเลก็ รปู รา่ งคอ่ นขา้ งกลม แต่เมอ่ื เซลล์แกข่ ้นึ แวคิวโอลชนดิ นจ้ี ะมี ขนาดใหญ่และเกือบเตม็ เซลล์

ฟูดแวควิ โอล : Food vacuole พบในโพรโทซวั พวกอะมบี า และพวกท่ีมีขนซเิ ลีย นอกจากนย้ี งั พบในเซลล์เม็ดเลอื ดขาวและฟาโกไซทิกเซลล์ ทาหนา้ ที่ บรรจุอาหารทีร่ ับมาจากภายนอกเซลลเ์ พ่อื ยอ่ ยสลาย ตอ่ ไป ซง่ึ เกิดจากการนาอาหารเข้าสู่เซลล์หรอื การกินแบบ ฟาโกไซโทซิส (phagocytosis) โดยจะทาการย่อยโดยนา้ ย่อย จากไลโซโซมต่อไป

คอนแทรก็ ไทลแ์ วคิวโอล : Contractile vacuole พบในเซลล์ของส่ิงมีชีวิตเซลลเ์ ดียว เชน่ อะมบี า พารามีเซยี ม ทาหน้าที่ ขบั ถ่ายน้าทม่ี ากเกนิ ความตอ้ งการ และของเสยี ท่ี ละลายนา้ ออกจากเซลล์ และควบคมุ สมดุลนา้ ภายในเซลล์ให้ พอเหมาะด้วย

ทีม่ าของภาพ: http://slidepla yer.com/slide /4089243/

ไลโซโซม : Lysosome ทม่ี า : http://student.nu.ac.th/u46410320/Lysosome.htm ทม่ี า : http://www.nndb.com/people/189/000130796/

ไลโซโซม : Lysosome มีลักษณะเป็นถุง รปู ร่างกลมรี มเี ยอ่ื ห้มุ ช้ันเดียว เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง ประมาณ 0.15-0.8 ไมครอน พบในเซลลส์ ตั วแ์ ละ พืชบางชนิด  ย่อยสลายอนภุ าค และโมเลกุลของสารอาหารภายใน เซลล์หรือทาลายเชอื้ โรค และสิ่งแปลกปลอมทีเ่ ข้าสู่เซลล์  ย่อยสลายทาลายเซลลท์ ่ีตายแลว้ หรือเซลล์ที่มอี ายมุ าก

เพอรอกซโิ ซม: Peroxisome

เพอรอกซโิ ซม: Peroxisome เพอรอกซิโซม (Peroxisome) หรือ ไมโครบอดี (microbodies) เป็นออรแ์ กเนลล์ขนาดเล็ก ท่ีมเี ยื่อห้มุ ชัน้ เดยี ว รปู รา่ งคลา้ ย ไลโซโซม แตส่ ามารถแบ่งตวั ได้เอง คลา้ ยกับไมโทคอนเดรีย และคลอโรพลาสต์ ภายในประกอบด้วย เอนไซม์หลายชนิด ทม่ี หี นา้ ทส่ี าคัญ ในกระบวนการเมตาบอลิสม์ ของกรดไขมนั

เพอรอกซิโซม: Peroxisome เป็นโครงสร้างท่เี ล็กกวา่ ไรโซโซม และมีจานวนน้อย พบมากในตับและไต มเี อนไซมท์ ีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การสงั เคราะห์ ไฮโดรเจนเพอรอ์ อกไซด์ (hydrogen peroxide) บรรจภุ ายใน

เพอรอกซโิ ซม: Peroxisome เพอรอกซโิ ซมจะหลั่งเอนไซมช์ อ่ื แคแทเลส (Catalase) มายอ่ ย ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งเปน็ พษิ ตอ่ เซลล์ ให้กลายเปน็ โมเลกลุ น้า ในพืชเพอรอกซิโซม มีบทบาท สาคัญ คอื เปลยี่ นกรดไขมนั ทส่ี ะสมอยใู่ นเมล็ดพืช ใหเ้ ปน็ คารโ์ บไฮเดรต สาหรับใชเ้ ปน็ แหลง่ พลงั งาน ในการงอกของ เมล็ด

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast ทม่ี า : https://study.co m/cimages/mul timages/16/pho tochloroplasts mosscell.jpg

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast พบในเซลล์พชื สาหร่าย และ ไซยาโนแบคทเี รยี (cyanobacteria) มีขนาดเสน้ ผ่านศูนย์กลาง 4-6 ไมโครเมตร ยาวประมาณ 1-5 ไมโครเมตร คลอโรพลาสต์ เปน็ พลาสติด ชนดิ หนึง่

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast พลาสตดิ เปน็ ออร์แกเนลล์ ที่พบในพชื ซง่ึ ได้แก่ 1) อะไมโลพลาสต์ (amyloplast) เป็นพลาสติด ทไี่ มม่ สี ี พบทีร่ ากและสว่ นหัวของพชื ทาหนา้ ทเ่ี ก็บสะสมแป้ง 2) โครโมพลาสต์ (chromoplast) มีรงควตั ถุ สีแดง และ สีส้มบรรจอุ ย่ใู หส้ แี ดงและสีส้ม แกผ่ ลไม้ ดอกไม้ และใบไม้ในฤดู ใบไมร้ ว่ ง

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast 3) คลอโรพลาสต์ (chloroplast) มี รงควัตถุ สเี ขยี วเรียกว่า คลอโรฟลิ ล์ (chlorophyll) มีเอนไซม์ และโมเลกุลอนื่ ๆ ที่จาเปน็ สาหรบั การสังเคราะหด์ ้วยแสง พบในใบและส่วน อืน่ ๆ ของพืชท่ี มสี ีเขียว คลอโรพลาสต์มเี ยื่อหมุ้ 2 ชน้ั คอื เย่อื หุม้ ช้ันนอก และเย่ือห้มุ ช้ันใน

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast ภายในคลอโรพลาสต์ ประกอบดว้ ย ถุงแบน ๆ ทเ่ี กิดจากเยอ่ื หุ้มชนั้ ใน เรยี กวา่ ไทลาคอยด์ (thylakoid) วางซ้อนทับกันอยเู่ ป็นกอง ๆ ซึง่ แตล่ ะ กองของไทลาคอยด์ เรยี กวา่ กรานัม (granum) ของเหลวทีบ่ รรจอุ ยู่รอบ ๆ ไทลาคอยด์ เรียกวา่ สโตรมา (stroma) ซง่ึ จะมี DNA ไรโบโซมของ คลอโรพลาสต์ และเอนไซม์ที่ใชใ้ นการ สังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต คลอโรฟิลล์ อยทู่ ่ี เยือ่ หุม้ ไทลาคอยด์ (thylakoid membrane)

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast ที่มา : http://www.assignmen tpoint.com/wp- content/uploads/2017/ 05/Chloroplast0.jpg

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast ท่ีมา : https://micro.magnet.fsu.e du/cells/chloroplasts/imag es/chloroplastsfigure1.jpg

คลอโรพลาสต์ : Chloroplast หน้าท่ี เป็นทเ่ี กิดกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) การสงั เคราะห์ด้วยแสง คอื กระบวนการท่พี ลงั งานแสงถูก เปล่ียนเปน็ พลังงานเคมี คาร์โบไฮเดรต โดยสามารถเขียนเปน็ สมการไดด้ ังนี้ พลงั งานแสง + CO2+ H2O ---> C6H12O6 + O2 + H2O

ไมโทคอนเดรยี : Mitochondria ทมี่ า : http://fat.surin.rmuti.ac.th /teacher/songchai/mitoch ondrion2.jpg

ไมโทคอนเดรยี : Mitochondria ไมโทคอนเดรยี รูปร่างคลา้ ยเม็ดถั่ว ดา้ นในกลวง มเี ยื่อ 2 ชน้ั เยอื่ ชน้ั ในมีส่วนยน่ื พับเขา้ ไปด้านในสว่ นกลวง สว่ นทยี่ ่นื เขา้ ไปน้ี เรียกว่าครสิ ต(ี cristae) ภายในบรรจุของเหลวประกอบไปด้วยสารหลายชนดิ เรียกวา่ แมทรกิ ซ(์ Matrix)ซงึ่ จะพบเอนไซม(์ Enzyme)ที่เกี่ยวข้องกบั วัฏจักรเครบสท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกับกระบวน การหายใจระดบั เซลล์

ไมโทคอนเดรยี : Mitochondria ท่ีมา : https://sites.google.com/a /lublae.ac.th/my-site4/mi- tho-khxn-de-riy-khux- xari

ไมโทคอนเดรยี : Mitochondria หน้าทข่ี องไมโตคอนเดรีย ได้แก่ การสร้างพลังงานในรปู ของ อะดีโนซนี ไตรฟอสเฟต (adenosine triphosphate : ATP) โดยกระบวนการออกซิเดชัน และยงั ทาหน้าที่ สังเคราะหค์ โี ตน บอดี (ketone body) ทั้งยงั ควบคุมระดับของแคลเซยี ม ไอออนใน ไซโตพลาสซึมของเซลล์ดว้ ย

เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ ทม่ี า : http://www.majordiffer ences.com/2013/10/dif ference-plant-cell-vs- and-animal- cell.html#.WjNRvVXi ZqM

ความแตกตา่ งของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ ส่งิ เปรยี บเทียบ เซลล์พชื เซลล์สตั ว์ รูปร่างของเซลล์ ค่อนข้างเปน็ เหลย่ี ม กลม/รี/ไมแ่ น่นอน ผนังเซลล์ มี ไม่มี คลอโรพลาสต์ มี ไมม่ ี เซนทรโิ อล ไม่มี มี ขนาดของแวควิ โอล ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก

เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ ที่มา : http://www.phsch ool.com/science/b iology_place/bioc oach/cells/images /dualcelA.jpg


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook