หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี เรื่อง การคน้ หาขอ้ มูล จุดประสงค์ 1. คน้ หาขอ้ มูลในอินเทอร์เน็ต และการ พิจารณาผลการคน้ หา 2. ใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการติดต่อส่ือสารและ ทาํ งานร่วมกนั 3. ประเมินความน่าเช่ือถือของขอ้ มูลได้ อยา่ งถูกตอ้ ง สาระส�ำคญั การคน้ หาขอ้ มูลในอินเทอร์เน็ต เป็นการคน้ หาขอ้ มูลจากค�ำส�ำคญั ที่กระชบั ชดั เจน ครอบคลุม ใจความส�ำคญั โดยใชเ้ คร่ืองมือคน้ หา ซ่ึงสามารถใชข้ อ้ ความหรือรูปภาพในการคน้ หาขอ้ มูล และตอ้ ง พิจารณาผลการคน้ หาวา่ มีแหล่ง อา้ งอิงท่ีน่าเชื่อถือหรือไม่ก่อนน�ำ ไปเผยแพร่
การคน้ หาขอ้ มูล การน�ำความรู้เก่ียวกบั อินเทอร์เน็ต มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการศึกษาหาความรู้ ไดแ้ ก่ การสืบคน้ ขอ้ มูลทาง อินเทอร์เน็ต โดยการใชง้ านอินเทอร์เน็ตเก่ียวกบั การศึกษาน้ีจะสามารถแบ่งเน้ือหาออกเป็น 3 ระดบั ดงั น้ี 1. การสืบคน้ ขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต 2. การน�ำขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตมาใชง้ าน 3. การสร้างแหล่งขอ้ มูลดว้ ยตนเอง การคน้ ควา้ ดว้ ยการใช้ Search Engine การใชง้ านงานอินเทอร์เน็ตที่นิยมใชก้ นั อยา่ งมาก จะไดแ้ ก่การเขา้ เยย่ี มชมเวบ็ ไซตต์ ่างๆ เพ่ือหาความรู้ แต่การเขา้ เยยี่ มชมน้นั ในกรณีท่ีเรารู้วา่ เวบ็ ไซตเ์ หล่าน้นั มีช่ือวา่ อะไร เน้ือหาของเวบ็ มุ่งเนน้ เก่ียวกบั ส่ิงใด เราสา สามารถที่จะเขา้ เยย่ี มชมไดท้ นั ท่ี แต่ในกรณีที่เราไม่ทราบชื่อเวบ็ เหล่าน้นั แต่เรามีความตอ้ งการที่จะคน้ หา เน้ือหาบางอยา่ ง มีวธิ ีการจะเขา้ สืบคน้ ขอ้ มูลได้ โดยการใชค้ วามสามารถของ Search Engine Search Engine จะมีหนา้ ท่ีรวบรวมรายชื่อเวบ็ ไซตต์ ่างๆ เอาไว้ โดยจดั แยกเป็นหมวดหมู่ ผใู้ ชง้ านเพยี งแต่ ทราบหวั ขอ้ ที่ตอ้ งการคน้ หาแลว้ ป้อน ค�ำหรือขอ้ ความของหวั ขอ้ น้นั ๆ ลงไปในช่องท่ีก�ำหนด คลิกป่ ุมคน้ หา เท่าน้นั ขอ้ มูลอยา่ งยอ่ ๆ และรายช่ือเวบ็ ไซตท์ ่ีเก่ียวขอ้ งจะปรากฏใหเ้ ราเขา้ ไปศึกษาเพ่มิ เติมไดท้ นั ที Search Engine แต่ละแห่งมีวธิ ีการและการจดั เกบ็ ฐานขอ้ มูลท่ีแตกต่างกนั ไปตามประเภทของ Search Engine ท่ีแต่ละเวบ็ ไซตน์ �ำมาใชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูล ดงั น้นั การท่ีจะเขา้ ไปหาขอ้ โดยวธิ ีการ Search น้นั อยา่ งนอ้ ยเราจะ ตอ้ งทราบวา่ เวบ็ ไซตท์ ี่จะเขา้ ไปใชบ้ ริการ ใชว้ ธิ ีการหรือ ประเภทของ Search Engine อะไร เน่ืองจากแต่ละ ประเภทมีความละเอียดในการจดั เกบ็ ขอ้ มูลต่างกนั ไป 2
แหล่งขอ้ มูลท่ีเช่ือถือได้ เม่ือเราตอ้ งการขอ้ มูลเพอื่ น�ำมาใชป้ ระโยชนใ์ นงานดา้ นต่างๆ เราสามารถคน้ หาขอ้ มูลไดจ้ ากแหล่ง ขอ้ มูลรอบตวั ท่ีมีอยมู่ ากมาย และควรเลือกคน้ หาจากแหล่งขอ้ มูลที่เชื่อถือได้ ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นแหล่งที่มีการ รวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมีหลกั เกณฑ์ มีเหตุผล และมีการอา้ งอิง จึงใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ ง ตรงตามความเป็นจริง ตวั อยา่ งแหล่งขอ้ มูลที่เชื่อถือได้ มีดงั น้ี 1. เจา้ ของขอ้ มูล เป็นผทู้ ี่มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกบั ขอ้ มูล น้นั ๆ สามารถใหข้ อ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ งตรงความเป็นจริงมากกวา่ บุคคลอ่ืน ที่รับฟังขอ้ มูลมาเล่าต่อ ซ่ึงอาจจดจ�ำมาผดิ และอาจเสริมเติมแต่ง ท�ำใหข้ อ้ มูลผดิ เพ้ืยนไปได้ 2. หน่วยงานหรือผมู้ ีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะดา้ น เป็น หน่วยงาน บุคคลที่ท�ำงานหรือศึกษาคน้ ควา้ ในดา้ นใดดา้ นหน่ึง ท�ำให้ มีความรู้จากประสบการณ์ในการท�ำงานหรือการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ ง จริงจงั ลึกซ้ึง จึงมีขอ้ มูลที่ถูกตอ้ งตรงความเป็นจริง 3. หน่วยงานของรัฐ เป็นหน่วยงานท่ีมีขอ้ มูลซ่ึงมีผลต่อ ความเป็นอยขู่ องประชาชนและการพฒั นาประเทศ เน่ืองจากขอ้ มูล จากหน่วยงานของรัฐจะถูกน�ำไปใชใ้ นการก�ำหนดนโยบาย วางแผน ลงมือปฏิบตั ิงาน และใชอ้ า้ งอิง จึงเป็นขอ้ มูลส�ำคญั ท่ีตอ้ งมีการ รวบรวม เกบ็ รักษา หรือสร้างขอ้ มูลข้ึนอยา่ งรอบคอบและระมดั ระวงั เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ งตรงความเป็นจริงเสมอ 3
ข้นั ตอนการคน้ หาขอ้ มูล 1. ข้นั ก�ำหนดหวั ขอ้ เพือ่ จะไดค้ น้ หาขอ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ ง 2. ข้นั คน้ หาขอ้ มูล สามารถคน้ หาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลต่างๆ 3. ข้นั เลือกแหล่งขอ้ มูล เลือกแหล่งขอ้ มูลท่ีสามารถคน้ หาขอ้ มูลเจอได้ 4. ข้นั เตรียมอุปกรณ์ เป็นข้นั ตอนการเลือกเตรียมอุปกรณ์ ที่ใชใ้ นการคน้ หาขอ้ มูล 5. ข้นั การคน้ หาและรวบรวมขอ้ มูล สามารถคน้ หาสอบถามจากผรู้ ู้ หรือเอกสารท่ีมีความเช่ือถือได้ จากน้นั จึง จะสามารถรวบรวม จดบนั ทึกขอ้ มูลได้ 6. ข้นั พจิ ารณาและสรุป เป็นข้นั ตอนสุดทา้ ยของการคน้ หาขอ้ มูล เม่ือเราน�ำขอ้ มูลที่คน้ หาไดแ้ ลว้ และท�ำการ รวบรวมจดบนั ทึก เรากต็ อ้ งน�ำขอ้ มูลน้นั มาพิจารณาและสรุปที่ท่ีเราตอ้ งการคน้ หา ตามหวั ขอ้ ท่ีเราก�ำหนด จาก น้นั จึงจะน�ำเสนอขอ้ มูลได้ การสืบคน้ ขอ้ มูลดว้ ย Search Engine เสิร์ชเอนจิน (search engine) หรือ โปรแกรมคน้ หาและคือ โปรแกรมท่ีช่วยในการสืบคน้ หาขอ้ มูล โดย เฉพาะขอ้ มูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมท้งั ขอ้ ความ รูปภาพ ภาพเคล่ือนไหว เพลง ซอฟตแ์ วร์ แผนที่ ขอ้ มูล บุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซ่ึงแตกต่างกนั ไปแลว้ แต่โปรแกรมหรือผใู้ หบ้ ริการแต่ละราย เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่ จะคน้ หาขอ้ มูลจากค�ำส�ำคญั (คียเ์ วริ ์ด) ท่ีผใู้ ชป้ ้อนเขา้ ไป จากน้นั กจ็ ะแสดงรายการผลลพั ธ์ท่ีมนั คิดวา่ ผใู้ ชน้ ่าจะ ตอ้ งการข้ึนมา ในปัจจุบนั เสิร์ชเอนจินบางตวั เช่น กเู กิลจะบนั ทึกประวตั ิการคน้ หาและการเลือกผลลพั ธ์ของผู้ ใชไ้ วด้ ว้ ย และจะน�ำประวตั ิท่ีบนั ทึกไวน้ ้นั มาช่วยกรองผลลพั ธ์ในการคน้ หาคร้ังต่อ ๆ ไป การสืบคน้ เวบ็ ไซตข์ อ้ มูลดว้ ย Search Engine ข้นั ตอนการสืบคน้ เวบ็ ไซตข์ อ้ มูลดว้ ย Search Engine 1. ท�ำการเปิ ดเวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ ริการ http://www.google.co.th/ 2. เลือกหวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการคน้ ในท่ีน้ีจะเลือกหวั ขอ้ “เวบ็ ” 3. พิมพ์ keyword (ขอ้ ความ) ท่ีตอ้ งการสืบคน้ ลงในช่อง text box 4. กดที่ป่ ุม “คน้ หา” 5. ระบบจะท�ำการคน้ หาเวบ็ ไซตท์ ่ีตรงกบั keyword ท่ีตอ้ งการ และแสดงออกมาในรูปแบบของลิ้งคพ์ ร้อมค�ำอธิบายประกอบ 4
การสืบคน้ รูปภาพดว้ ย Search Engine ข้นั ตอนการสืบคน้ รูปภาพดว้ ย Search Engine 1. ท�ำการเปิ ดเวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ ริการ http://www.google.co.th/ 2. เลือกหวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการคน้ ในท่ีน้ีจะเลือกหวั ขอ้ “รูปภาพ” 3. พมิ พ์ keyword (ขอ้ ความ) ที่ตอ้ งการสืบคน้ ลงในช่อง text box 4. กดท่ีป่ ุม “คน้ หา” 5. ระบบจะท�ำการคน้ หารูปภาพที่ตรงกบั keyword ท่ีตอ้ งการ และแสดงรูปภาพท่ีคน้ หาพ การสืบคน้ วดี ิโอดว้ ย Search Engine ข้นั ตอนการสืบคน้ วดี ิโอดว้ ย Search Engine 1. ท�ำการเปิ ดเวบ็ ไซตท์ ่ีใหบ้ ริการ http://www.youtube.com/ 2. พมิ พ์ keyword (ขอ้ ความ) ที่ตอ้ งการสืบคน้ ลงในช่อง text box 3. กดที่ป่ ุม “search” 4. ระบบจะท�ำการคน้ หาวดี ิโอท่ีตรงกบั keyword ที่ตอ้ งการ และ แสดงวดี ิโอท่ีคน้ หาพบ การสืบคน้ ค�ำศพั ทด์ ว้ ย Search Engine ข้นั ตอนการสืบคน้ ค�ำศพั ทด์ ว้ ย Search Engine 1. ท�ำการเปิ ดเวบ็ ไซตท์ ่ีใหบ้ ริการ http://dict.longdo.com 2. พิมพค์ �ำศพั ทท์ ี่ตอ้ งการสืบคน้ ลงในช่อง text box 3. เลือกบริการ “dictionary” 4. กดที่ป่ ุม “submit” 5. ระบบจะท�ำการคน้ หาค�ำศพั ทท์ ่ีตอ้ งการพร้อมค�ำแปล 5
หน่วยการเรียนรู้ที่ เร่ือง ขอ้ มูลและสารสนเทศ จุดประสงค์ 1. รวบรวมขอ้ มูล ประมวลผล สร้างทาง เลือกประเมินผล เพ่ือแกป้ ัญหาในชีวติ ประ จาํ วนั 2. ใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตที่หลากหลายในการรวบรวม สาระส�ำคญั การรวบรวมขอ้ มูล ประมวลผล จะท�ำ ใหไ้ ดส้ ารสนเทศเพื ่อใชใ้ นการแกป้ ัญหาหรือการตดั สินใจ ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ การใชซ้ อฟตแ์ วร์ช่วยในการรวบรวมและประมวลผลขอ้ มูล จะช่วยใหก้ ารแกป้ ัญหาท�ำ ไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ งและ รวดเร็ว
ขอ้ มูล ขอ้ มูล (Data) คือ สิ่งต่าง ๆ ท่ีอยรู่ อบ ๆ ตวั เรา มนุษยไ์ ดร้ ับขอ้ มูลจากประสาทสมั ผสั ผา่ นอวยั วะต่าง ๆ เช่น การมองเห็นภาพถ่ายดว้ ยดวงตา การไดย้ นิ เสียงเพลงดว้ ยหู การไดก้ ลิ่นน้ำ� หอมดว้ ยจมูก การไดร้ สชาติ อาหารดว้ ยลิ้น และการรู้สึกเยน็ ดว้ ยผวิ หนงั ตารางแสดงตวั อยา่ งขอ้ มูล แหล่งขอ้ มูล แหล่งขอ้ มูลหรือแหล่งคน้ ขอ้ มูล คือ ส่ิงต่าง ๆ ที่ใหข้ อ้ มูลแก่เราหรือท�ำ ใหเ้ รา ไดร้ ับขอ้ มูล แหล่งขอ้ มูลแบ่งเป็น 4 ประเภท ดงั น้ี 9
1. บุคคล เป็นผเู้ ช่ียวชาญทางดา้ นขอ้ มูลน้นั ๆ หรือผทู้ ี่มี ประสบการณ์เกี่ยวกบั ขอ้ มูลน้นั เช่น โปรแกรมเมอร์สามารถ ใหข้ อ้ มูลดา้ นซอฟตแ์ วร์คอมพวิ เตอร์แก่เราพนกั งานจ�ำ หน่าย สินคา้ สามารถใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สินคา้ ที่จ�ำ หน่ายได้ พนกั งาน ท�ำความสะอาดสามารถใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั วธิ ีการท�ำ ความ สะอาดได้ การคน้ หาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลประเภทน้ีจะตอ้ ง อาศยั การสมั ภาษณ์และการสงั เกตบุคคลน้นั ๆ หรืออาจใหบ้ ุคคลน้นั ทาํ แบบสอบถามกไ็ ด้ 2. สตั วแ์ ละส่ิงของ หมายถึง สตั วแ์ ละสิ่งของที่มีส่วน เก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ มูลน้นั ๆการคน้ หาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูล ประเภทน้ีจะตอ้ งใชก้ ารสงั เกตและการทดลอง เช่น การ สงั เกตขอ้ มูลเก่ียวกบั การกินอาหารของววั การทดลองทางเคมี กบั กอ้ นหินเพื่อใหร้ ู้อายขุ องกอ้ นหินน้นั 3. สถานที่ เป็นแหล่งขอ้ มูลท่ีรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ ไว้ ในที่เดียวกนั เช่น หอ้ งสมุดพพิ ธิ ภณั ฑ์ ศูนยก์ ารเรียนรู้ และ สถานท่ีท่ีเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั ขอ้ มูลน้นั ๆ เช่น ธนาคาร หา้ งสรรพสินคา้ ตลาด การคน้ หาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูล ประเภทน้ีผคู้ น้ หาจะตอ้ งมีเวลาค่อนขา้ งมาก เนื่องจากแหล่ง ขอ้ มูลประเภทน้ีมีขอ้ มูลจ�ำ นวนมากและไม่เฉพาะเจาะจง 4. ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นแหล่งขอ้ มูลท่ีเกิดข้ึนจากความ กา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยชี ่วยใหส้ ามารถคน้ หาขอ้ มูลไดส้ ะดวก และรวดเร็วยง่ิ ข้ึน มีท้งั สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีรวบรวมขอ้ มูลใน ลกั ษณะของเครือข่าย คือ สามารถเชื่อมต่อไปยงั ส่ือ อิเลก็ ทรอนิกส์อื่น ๆท�ำ ใหผ้ ใู้ ชไ้ ดร้ ับขอ้ มูลอยา่ งไม่สิ้นสุด เช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบอินเทอร์เน็ต(Intranet) สื่อ อิเลก็ ทรอนิกส์ที่รวบรวมขอ้ มูลไวใ้ นส่ือบนั ทึกขอ้ มูล เช่น การ์ด ความจ�ำ(Memory Card) แผน่ ซีดี (CD) แผน่ ดีวดี ี (DVD) 10
สารสนเทศ สารสนเทศ (Information) หมายถึง ขอ้ มูล หรือ ส่ิงซ่ึงไดจ้ ากการน�ำขอ้ มูลที่ เกบ็ รวบรวมไวม้ าประมวลผล เพือ่ น�ำมาใชป้ ระโยชนต์ ามวตั ถุประสงค์ หรือ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มูลท่ีมีความหมายซ่ึงสามารถน�ำไปใชป้ ระโยชน์ ดงั น้นั สารสนเทศจึงหมายถึงขอ้ มูลที่ผา่ นการประมวลผลดว้ ยวธิ ีการที่เหมาะสมและถูก ตอ้ ง เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ทต์ รงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ โดยอาจเขียนแผนภาพแสดง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลและสารสนเทศ ดงั น้ี ตวั อยา่ งสารสนเทศท่ีเกิดจากการประมวลผล 11
การประมวลผลสารสนเทศ (information processing) การประมวลผลสารสนเทศ หมายถึง การด�ำเนินการต่างๆกบั ขอ้ มูล เพื่อใหไ้ ด้ ผลลพั ธ์ที่มีความหมาย และมีประโยชนต์ ่อการน�ำไปใชง้ านมากยงิ่ ข้ึน เช่น การ รวบรวมขอ้ มูล การค�ำนวณ การคน้ คืน การแสดงผล การส�ำเนาขอ้ มูล 12
ชนิดของขอ้ มูลแบ่งตามแหล่งที่มาของขอ้ มูล ขอ้ มูลท่ีแบ่งตามแหล่งที่มา มี 2 ชนิด คือ 1) ขอ้ มูลปฐมภูมิ (primary data) ขอ้ มูลปฐมภูมิ คือ ขอ้ มูลที่เกบ็ รวบรวมมาจากแหล่งขอ้ มูลข้นั ตน้ ท่ีไดม้ าจาก แหล่งขอ้ มูลโดยตรง เช่น ขอ้ มูลนกั เรียนที่ไดม้ าจากการตอบแบบสอบถาม การ ส�ำรวจ การสมั ภาษณ์ การวดั การสงั เกต การทดลอง ขอ้ มูลสินคา้ ที่ไดจ้ ากการใช้ เคร่ืองอ่านบาร์โคด้ ขอ้ มูลบตั รเอทีเอม็ ที่ไดจ้ ากเคร่ืองอ่านแถบแม่เหลก็ ขอ้ มูลที่ได้ จะมีความถูกตอ้ ง ทนั สมยั และเป็นปัจจุบนั มากกวา่ ขอ้ มูลทุติยภูมิ 2) ขอ้ มูลทุติยภูมิ (secondary data) ขอ้ มูลทุติยภูมิ คือ ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากแหล่งที่รวบรวมขอ้ มูลไวแ้ ลว้ โดยมีผหู้ น่ึงผู้ ใด หรือหน่วยงานไดท้ �ำการเกบ็ รวบรวมหรือเรียบเรียงไว้ ซ่ึงขอ้ มูลเหล่าน้นั สามารถน�ำมาใชอ้ า้ งอิงไดเ้ ลย เช่น ขอ้ มูลส�ำมะโนประชากร สามารถอา้ งอิงไดจ้ าก ส�ำนกั งานสถิติแห่งชาติ ขอ้ มูลปริมาณน้ำ� ฝนจากกรมชลประทาน ขอ้ มูลทางสถิติ ต่างๆ ที่มีการบนั ทึกไวแ้ ลว้ ขอ้ มูลจากรายงานการวจิ ยั และบนั ทึกการนิเทศ การที่จะตดั สินใจวา่ ขอ้ มูลไหนเป็นขอ้ มูลปฐมภูมิหรือขอ้ มูลทุติยภูมิน้นั มี หลกั การสงั เกต คือ ถา้ เป็นขอ้ มูลปฐมภูมิจะตอ้ งเป็นขอ้ มูลท่ีผเู้ ขียนหรือผปู้ ระเมิน ผลไดพ้ บเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ลงมือส�ำรวจศึกษาคน้ ควา้ หรือเป็นการแสดงความคิด เห็นเริ่มแรกดว้ ยตนเอง มิไดค้ ดั ลอกมาจากผอู้ ่ืน แต่ถา้ เป็นขอ้ มูลที่ไดค้ ดั ลอกมาจาก บุคคลอื่น แลว้ น�ำมาเรียบเรียงใหม่ ถือวา่ เป็นขอ้ มูลทุติยภูมิ 13
ความสมั พนั ธ์ของขอ้ มูลสารสนเทศ การน�ำสารสนเทศไปใชง้ าน 1. ดา้ นการวางแผน 2. ดา้ นการตดั สินใจ 3. ดา้ นการด�ำเนินงาน 14
หน่วยการเรียนรู้ท่ี เรื่อง ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั จุดประสงค์ 1. บอกวธิ ีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งเหมาะสมและปลอดภยั 2. อธิบายมารยาทท่ีดีในการติดต่อสื่อสาร โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ สาระส�ำคญั การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหก้ ารด�ำ เนินชีวติ หรือการท�ำ งานสะดวกสบายมากข้ึน สามารถเขา้ ถึงขอ้ มูล ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งหลากหลายและง่ายยงิ่ ข้ึน จึงมีขอ้ มูลจ�ำ นวนมาก ซ่ึงเป็นขอ้ มูลเป็น ประโยชนห์ รือเป็นขอ้ มูลท่ีอาจก่อให้ เกิดโทษ จึงควรพจิ ารณาเลือกใชอ้ ยา่ งเหมาะสม การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศอาจตอ้ งติดต่อหรือเก่ียวขอ้ งกบั บุคคลต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงอาจเป็นบุคคลที่เรารู้จกั และไม่รู้จกั การมีมารยาทท่ีดีในการติดต่อส่ือสารจะช่วยสร้างมิตรภาพท่ีดีของการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมและควร ป้องกนั ตนเองจากคนที่ไม่รู้จกั หรือคนร้าย ซ่ึงจะน�ำความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายใหแ้ ก่เรา
ภยั คุกคามการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการป้องกนั การใชง้ านไอทีโดยการเช่ือมต่อกบั อินเตอร์เน็ต ช่วยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถติดต่อส่ือสาร และเขา้ ถึงขอ้ มูลจาก แหล่งขอ้ มูลที่อยทู่ ว่ั โลกไดส้ ะดวก และรวดเร็ว แต่ในทางกลบั กนั ถา้ ใชง้ านไม่ระมดั ระวงั ขาดความรอบคอบ อาจก่อใหเ้ กิดปัญหาจากการคุกคามการหลอกลวงผา่ นเครือข่ายได้ นอกจากน้ีการเขา้ ถึงเน้ือหาที่ไม่เหมาะสมก็ สร้างปัญหาดา้ นสงั คมใหก้ บั เยาวชนจ�ำนวนมาก ดงั น้นั การเรียนรู้การใชง้ านไอทีไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและ ปลอดภยั จึงมีความจ�ำเป็นอยา่ งยง่ิ วธิ ีการคุกคาม ภยั คุกคามท่ีมาจากมนุษยน์ ้นั มีหลากหลายวธิ ี โดยมีต้งั แต่การใชค้ วามรู้ข้นั สูงดา้ นไอทีไปจนถึงวธิ ีการท่ี ไม่จ�ำเป็นตอ้ งใชค้ วามรู้ และความสามารถทางเทคนิคเช่น 1 การคุกคามโดยใชห้ ลกั จิตวทิ ยา เป็นการคุกคามที่ใชก้ ารหลอกลวงเพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่ตอ้ งการโดยไม่ ตอ้ งใชค้ วามรู้ความช�ำนาญดา้ นไอที เช่น การใชก้ ลวธิ ีในการหลอกเพื่อใหไ้ ดร้ หสั ผา่ นหรือส่งขอ้ มูลที่ส�ำคญั ให้ โดยหลอกวา่ จะไดร้ ับรางวลั แต่ตอ้ งท�ำตามเง่ือนไขที่ก�ำหนด แต่ตอ้ งป้องกนั ไดโ้ ดยใหน้ กั เรียนระมดั ระวงั ใน การใหข้ อ้ มูลส่วนตวั กบั บุคคลใกลช้ ิดหรือบุคคลอ่ืน 2 การคุกคามดว้ ยเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม ขอ้ มูลและเน้ือหาที่มีอยใู่ นแหล่งต่างๆบนอินเตอร์เน็ตมีจ�ำนวน มากเพราะสามารถสร้าง และเผยแพร่ไดง้ ่าย ท�ำใหข้ อ้ มูลอาจไม่ไดร้ ับการตรวจสอบความถูกตอ้ งและความ เหมาะสม ดงั น้นั ขอ้ มูลบางส่วนอาจก่อใหเ้ กิดปัญหากบั นกั เรียนได้ 3 การคุกคามโดยใชโ้ ปรแกรม เป็นการคุกคามโดยใชโ้ ปรแกรมเป็นเครื่องมือส�ำหรับก่อปัญหาดา้ นไอที โปรแกรมดงั กล่าวเรียกวา่ มลั แวร์ (malicious software : malware) ซ่ึงมีหลายประเภทเช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ ค�ำท่ีเขียนดว้ ยเจตนาร้าย อาจท�ำใหผ้ ู้ ใชง้ านเกิดความร�ำคาญหรือก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อขอ้ มูล หรือระบบ โดยไวรัสคอมพวิ เตอร์จะติดมากบั ไฟล์ และสามารถ แพร่กระจายเม่ือมีการเปิ ดใชง้ านไฟล์ 20
เวริ ์ม หรือท่ีเรียกกนั วา่ หนอนคอมพวิ เตอร์ เป็น โปรแกรมอนั ตรายท่ีสามารถแพร่กระจายไปสู่เคร่ือง คอมพิวเตอร์เครื่องอ่ืนในเครือข่ายไดด้ ว้ ยตนเอง โดยใชว้ ธิ ีหาจุด อ่อนของระบบรักษาความปลอดภยั แลว้ แพร่กระจายไปบน เครือข่ายไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และก่อใหเ้ กิดความเสียหายท่ีรุนแรง มา้ โทรจนั เป็นโปรแกรมท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยโปรแกรม ทว่ั ไปเพ่อื หลอกลวงใหผ้ ใู้ ชต้ ิดต้งั และเรียกใชง้ าน แต่เม่ือเรียก ใชง้ านแลว้ กจ็ ะเริ่มท�ำงานเพ่อื สร้างปัญหาต่างๆตามผเู้ ขียน ก�ำหนด เช่นท�ำรายขอ้ มูล หรือลว้ งขอ้ มูลท่ีเป็นความลบั โปรแกรมดกั จบั ขอ้ มูลหรือ สปายแ์ วร์ (Spyware) เป็น โปรแกรมท่ีแอบขโมยขอ้ มูลของผใู้ ชร้ ะหวา่ งใชง้ าน คอมพิวเตอร์ เพอ่ื น�ำไปใชแ้ สวงหาผลประโยชนต์ ่างๆ เช่น เกบ็ ขอ้ มูลพฤติกรรมการใชง้ านอินเตอร์เน็ตเพอ่ื น�ำไปใชใ้ นการ โฆษณา เกบ็ ขอ้ มูลรหสั ผา่ นเพื่อน�ำไปใชใ้ นการโอนเงินออกจาก บญั ชีผใู้ ช้ ระเบิดเวลา (Logic Bomb) เป็นโปรแกรมอนั ตรายท่ีจะ เร่ิมท�ำงาน โดยมีตวั กระตุน้ บางอยา่ ง หรือก�ำหนดเง่ือนไขการ ท�ำงานบางอยา่ งข้ึนมา เช่น App ส่งขอ้ มูลออกไปยงั เครื่องอื่นๆ หรือลบไฟลข์ อ้ มูลทิ้ง 21
โปรแกรมเรียกค่าไถ่ เป็นโปรแกรมขดั ขวางการเขา้ ถึง ไฟลข์ อ้ มูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศพั ทม์ ือถือดว้ ยการ เขา้ รหสั จนกวา่ ผใู้ ชจ้ ะจ่ายเงินใหผ้ เู้ รียกค่าไถ่ จึงจะไดร้ ับรหสั ผา่ นเพอ่ื ที่จะสามารถใชง้ านไฟล์ รูปแบบการป้องกนั ภยั คุกคาม 1 . ตรวจสอบจากส่ิงที่ผใู้ ชร้ ู้ เป็นการตรวจสอบตวั ตนจากสิ่งท่ีผใู้ ชง้ านรู้แต่เพยี งผเู้ ดียว เช่น บญั ชีรายชื่อผใู้ ชก้ บั รหสั ผา่ นการตรวจสอบวธิ ีน้ีเป็นวธิ ีท่ีไดร้ ับ ความนิยมสูงสุด เนื่องจากเป็นวธิ ีท่ีง่าย และระดบั ความปลอดภยั เป็นที่ยอมรับไดห้ ากนกั เรียนลืมรหสั ผา่ น สามารถติดต่อผดู้ ูแล เพือ่ ขอรหสั ผา่ นใหม่ 2. ตรวจสอบจากส่ิงท่ีผใู้ ชม้ ี เป็นการตรวจสอบตวั ตนจากอุปกรณ์ที่ผใู้ ชง้ านตอ้ งมี เช่น บตั ร สมาร์ตการ์ด โทเกน้ อยา่ งไรกต็ าม การตรวจสอบวธิ ีน้ีมีค่าใช้ จ่ายในส่วนของอุปกรณ์เพิม่ เติม และมกั มีปัญหาคือ ผใู้ ชง้ านมกั ลืมหรือท�ำอุปกรณ์ที่ใชต้ รวจสอบหาย 3. ตรวจสอบจากส่ิงท่ีเป็นส่วนหน่ึงของผใู้ ช้ เป็นการตรวจสอบขอ้ มูลชีวมาตร(biometrics) เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา ใบหนา้ เสียง การตรวจสอบน้ีท่ีมีประสิทธิภาพสูงสุดแต่ มีค่าใชจ้ ่ายท่ีสูง เม่ือเปรียบเทียบ กบั วธิ ีอ่ืน และตอ้ งมีการจดั เกบ็ ลกั ษณะเฉพาะของบุคคล ซ่ึงมีผใู้ ชบ้ างส่วนอาจจะเห็นวา่ เป็ นการละเมิดสิทธ์ ิความเป็ นส่วนตวั 22
ลิขสิทธ์ การใชง้ านไอทีโดยการเชื่อมต่อกบั อินเตอร์เน็ต ช่วยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถติดต่อ ส่ือสาร และเขา้ ถึงขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลท่ีอยทู่ ว่ั โลกไดส้ ะดวก และรวดเร็ว แต่ใน ทางกลบั กนั ถา้ ใชง้ านไม่ระมดั ระวงั ขาดความรอบคอบอาจก่อใหเ้ กิดปัญหาจากการ คุกคามการหลอกลวงผา่ นเครือข่ายได้ นอกจากน้ีการเขา้ ถึงเน้ือหาที่ไม่เหมาะสมก็ สร้างปัญหาดา้ นสงั คมใหก้ บั เยาวชนจ�ำนวนมาก ดงั น้นั การเรียนรู้การใชง้ านไอทีได้ อยา่ งเหมาะสมและปลอดภยั จึงมีความจ�ำเป็นอยา่ งยง่ิ 23
การป้องกนั ความเป็นส่วนตวั ความเป็นส่วนตวั (privacy) เป็นลิขสิทธ์ิพ้ืนฐานท่ีส�ำคญั ของมนุษยท์ ุกคน ความเป็นส่วนตวั ของขอ้ มูลและสารสนเทศ เจา้ ของสามารถปกป้องและควบคุมการ เปิ ดเผยขอ้ มูลของตนเองใหก้ บั ผอู้ ื่นและสาธารณะได้ โดยเจา้ ของสิทธิ นอกจากจะ เป็นบุคคลแลว้ อาจเป็นกลุ่มบุคคลหรือองคก์ รกไ็ ด้ การเขา้ ถึงขอ้ มูลในเอกสารหรือสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ของผอู้ ่ืนโดยไม่ไดร้ ับ อนุญาต เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตวั เช่น เวบ็ ไซตห์ รือ แอปพลิเคชนั บางตวั ที่ ติดตามความเคลื่อนไหว หรือพฤติกรรมของผใู้ ชง้ านเพ่ือเรียนรู้พฤติกรรมส�ำหรับ ปรับปรุงคุณภาพการใหบ้ ริการ หรือการวางแผนการตลาด นอกจากการถูกละเมิดความเป็นส่วนตวั จากผอู้ ่ืนแลว้ ผใู้ ชอ้ าจยนิ ยอมที่จะเปิ ด เผยขอ้ มูลส่วนตวั ของตนเอง เนื่องจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะก่อใหเ้ กิดปัญหาใน อนาคตและยากต่อการกลบั มาแกไ้ ข 24
หน่วยการเรียนรู้ท่ี เร่ือง การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ ในการแกป้ ัญหา จุดประสงค์ 1. แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ 2. การคาดการณ์ผลลพั ธ์ สาระส�ำคญั การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเป็นการน�ำ เอากฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใชใ้ นการ พิจารณาปัญหา โดยสามารถอธิบายการท�ำ งานหรือการคาดการณ์ผลลพั ธ์ไดอ้ ยา่ งเป็นข้นั ตอน มีเหตุผล รองรับในการแกป้ ัญหาและการ ตดั สินใจ
การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา (problem solving) เป็นการคน้ หาค�ำตอบ หาวธิ ี แกป้ ัญหาหรือท�ำงานน้นั ใหส้ �ำเร็จ โดยเริ่ม จากการก�ำหนดค�ำถามเกี่ยวกบั ปัญหาน้นั วา่ เราจะแกป้ ัญหาหรือท�ำงานน้นั ใหส้ �ำเร็จไดอ้ ยา่ งไร การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา คือ การแกไ้ ขปัญหาโดยการน�ำกฎเกณฑห์ รือเงื่อนไขมาใช้ พิจารณา โดยจะใชเ้ หตุผลหรือใชป้ ระสบการณ์มาอธิบายวธิ ีการแกไ้ ขปัญหาโดยคาดหวงั วา่ จะไดผ้ ลลพั ธ์ตามที่ คาดการณ์ไว้ ท�ำไมตอ้ งคิดแกป้ ัญหาอยา่ งมีตรรกะ - เพราะท�ำใหเ้ กิดโอกาสผดิ พลาดนอ้ ย - เพราะเมื่อเกิดความเคยชินกบั การคิดอยา่ งมีตรรกะ จะท�ำใหไ้ ม่เช่ือเร่ืองอะไรง่าย ๆ - เพราะจะท�ำใหค้ วามคิดที่น�ำเสนอไดร้ ับการยอมรับจากผอู้ ่ืนมากข้ึน เนื่องจากฟังดูแลว้ มีเหตุมีผล เหมาะสม 28
การใหเ้ หตุผล (reasoning) เป็นการคิดและอธิบายความคิดออกมาเป็นแผนงานส�ำหรับการแกป้ ัญหา น้นั เราอาจเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาโดยการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นแผนภาพ เป็นขอ้ ความ ซ่ึงแสดงวธิ ีการแก้ ปัญหาออกมาเป็นล�ำดบั ข้นั ท�ำใหม้ องเห็นวธิ ีการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งชดั เจน โดยแต่ละข้นั จะตอ้ งพจิ ารณาเง่ือนไข หรือเหตุผลประกอบดว้ ย สถานการณ์ตวั อยา่ ง ร้านนมแห่งหน่ึง มีโปรโมชนั่ พิเศษ นกั เรียนสามารถน�ำขวดนมเปล่า 3 ขวด มาแลกนมขวด ใหม่ไปด่ืมได้ 1 ขวดทนั ที ถา้ นกั เรียนมีเงินจ�ำนวนจ�ำกดั สามารถซ้ือนมไดเ้ พยี ง 9 ขวดเท่าน้นั ถามวา่ นกั เรียนจะไดด้ ื่มนมท้งั หมดกี่ขวด (รวมท่ีน�ำไปแลกฟรีดว้ ย) สรุปไดว้ า่ นกั เรียนซ้ือนม 9 ขวด และนกั เรียนแลกนมฟรี 4 ขวด เพราะฉะน้นั นกั เรียนไดด้ ื่มนม ท้งั หมด 13 ขวด 29
ในชีวติ ของนกั เรียนจะพบปัญหาท่ีแตกต่างกนั ปัญหาต่าง ๆ อาจมาจาก ส่ิงท่ีพบรอบตวั ความ อยากรู้อยากเห็นหรือการก�ำหนดค�ำถามของนกั เรียนกไ็ ดเ้ ช่นกนั ปัญหาแต่ละปัญหาอาจมีวธิ ีแก้ ปัญหาที่แตกต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั การใชเ้ หตุผลในการตดั สินใจหรือการเลือกวธิ ีการแกป้ ัญหาของแต่ละ คน ตวั อยา่ ง การปรุงบะหมี่ก่ึงส�ำเร็จรูปเพ่อื รับประทานการแกป้ ัญหาน้ีสามารถถ่ายทอดความคิดเป็น ขอ้ ความได้ ดงั น้ี ภาพความคิด การปรุงบะหม่ีส�ำเร็จรูป ภาพความคิด การปรุงบะหม่ีส�ำเร็จรูป โดยใชห้ มอ้ ไฟฟ้า โดยใชกระติกน้ำ� ร้อนไฟฟ้า 30
ข้นั ตอนในการแกป้ ัญหา ปัญหาบางปัญหาสามารถแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีการง่าย ๆ ส�ำหรับปัญหา ที่มีความซบั ซอ้ นมากข้ึน การวางแผนการแกป้ ัญหาเป็นข้นั ตอน จะท�ำใหก้ ารแกป้ ัญหาน้นั มีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน โดยข้นั ตอน การแกป้ ัญหาท�ำได้ ดงั น้ี 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: