วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น เทคโนโลยีสำหรบั โทรศพั ท์เคลอื่ นท่ีได้ถกู พฒั นำขนึ ้ อย่ำงตอ่ เนื่อง ตงั้ แตโ่ ทรศพั ท์เคล่อื นท่ียคุ แรก ซ่งึ ใช้งำน ระบบอนำลอ็ ก จนถงึ ยคุ ปัจจบุ นั ท่ีโทรศพั ท์กลำยเป็นสว่ นหนึง่ ของชีวติ ประจำวนั ของ ผ้คู นสว่ น ใหญ่ในสงั คมกำรใช้งำนอนิ เตอร์เนต็ เป็นไปด้วยควำมรวดเร็วและแพร่หลำย อย่ำงไรก็ตำมควำมต้องกำรใน กำรเข้ำถึงข้อมลู เหลำ่ นี ้ยงั คงเพิ่มขนึ ้ อย่ำงตอ่ เนื่อง ซ่ึงเรำจำเป็นท่ีจะต้องหำเทคโนโลยีใหมเ่ พ่ือรองรบั ควำม ต้องกำรที่เพิ่มสงู ขนึ ้ รวมถึง รองรับกำรใช้งำนในรูปแบบใหมๆ่ เพ่ือสนองตอ่ กำรพฒั นำสงั คมดจิ ิทลั ในยคุ 4.0 เทคโนโลยี 5G คือเทคโนโลยีทจี่ ะเข้ำมำตอบโจทย์ในเร่ืองนี ้ระบบ 5G จะสำมำรถรองรับกำรใช้งำนที่ ต้องกำรอตั รำกำรสง่ ข้อมลู ท่ีสงู กวำ่ 4G รองรบั อปุ กรณ์เช่ือมตอ่ กบั ระบบจำนวนมหำศำลรวมทงั้ ยงั สำมำรถนำมำใช้ในกิจกำรท่ีต้องกำรกำรสง่ ข้อมลู ท่ีรวดเร็วและทนั ที โดยเฉพำะกจิ กำรที่ต้องกำรควำม แมน่ ยำสงู ซง่ึ กำรท่ีระบบ 5G จะสำมำรถกำรรองรบั กำรใช้งำนเหลำ่ นีไ้ ด้ จำเป็นต้องใช้ เทคนิคใหมๆ่ รวมถึงจำเป็นต้องใช้คลน่ื ควำมถี่ในปริมำณมำกขนึ ้ โดยเฉพำะควำมถ่ีในย่ำนที่สงู กวำ่ 1 GHz 5G เป็นเครือขำ่ ยไร้สำยทถ่ี กู พฒั นำและเริ่มใช้ในปีพ.ศ. 2561 เป็นต้นมำ เทคโนโลยีพืน้ ฐำนได้แก่คลืน่ ควำมถ่ี (Millimeter wave bands 26, 28, 38, และ 60 GHz) มปี ระสทิ ธิภำพสงู สดุ ถงึ 20 จิกะบิตตอ่ วนิ ำที MIMO (Multiple Input Multiple Output - 64-256 antennas) ประสิทธิภำพสงู ซึ่งเร็วกวำ่ 4G ถึง 10 เทำ่ 5G ย่ำนควำมถี่ตำ่ และกลำงใช้ควำมถี่ระหวำ่ ง 600 MHz ถงึ 6 GHz โดยเฉพำะระหวำ่ ง 3.5-4.2 GHz ในปีพ.ศ. 2560 หลำยบริษัทตำ่ งพฒั นำเทคโนโลยี 5G เชน่ Samsung, Intel, Qualcomm, Nokia, Huawei, Ericsson, ZTE รวมถึงกำรมำของ Internet of Things อยำ่ งเชน่ Smart Home, Smart Infrastructure, Smart City, Smart Car เป็นต้น ตำมคอนเซป็ ต์ “Anything that can be connected, will เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น be connected.” หรืออะไรท่ีสำมำรถเช่ือมตอ่ ได้ก็จะถกู เชอ่ื มตอ่ ด้วยระบบอินเทอร์เนต็ แตเ่ พ่ือให้มี ประสทิ ธิภำพกำรทำงำนสงู สดุ และอะไรที่ต้องกำรแสดงผลเรียลไทมจ์ งึ จำเป็นต้องมคี วำมรวดเร็วในกำร รบั สง่ ข้อมลู เชน่ กำรศกึ ษำ, กำรขนสง่ , กำรแพทย์ เป็นต้น กำรพฒั นำมำตรฐำนสำหรบั ระบบ 5G หรือมำตรฐำน IMT for 2020 and beyond ของ ITU-R นนั้ มี วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั แตกตำ่ งจำกระบบโทรศพั ท์เคล่ือนที่ยคุ ท่ีผำ่ นมำตงั้ แตย่ คุ 1G ถึง 4G โดยระบบ 5G ไมไ่ ด้ มี วตั ถปุ ระสงคเ์ พียงเพ่ือให้เกดิ กำรเชื่อมโยง กำรรองรับกำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำร และกำรเข้ำถงึ ข้อมลู ของคน (Humancentric communication) เพียงอยำ่ งเดียวอกี ตอ่ ไป แตย่ งั มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือรองรับควำมต้องกำร ในกำร ตดิ ตอ่ สอื่ สำรของสรรพสิง่ (Machine-centric communication) ในภำคสว่ นตำ่ งๆ ของเศรษฐกิจ หรือท่ีเรำ เรียกวำ่ Verticals ซง่ึ ได้แก่ ภำคอตุ สำหกรรม ภำคกำรขนสง่ ภำคกำรเงิน หรือ ภำคของส่อื เป็น ต้น อีกด้วย กำรท่ีระบบ 5G สำมำรถรองรับกำรตดิ ตอ่ สือ่ สำรในภำคสว่ นตำ่ งๆ ของเศรษฐกจิ จะสง่ ผลให้ โลกของเรำก้ำวสู่ ยคุ ท่ี 4 ของกำรปฏิวตั ิอตุ สำหกรรมซง่ึ เป็นยคุ ของกำรเปลีย่ นผำ่ นสสู่ งั คมดจิ ิทลั อยำ่ งเตม็ ตวั แนวโน้มอตุ สำหกรรม จะมกี ำรเช่ือมตอ่ ระหวำ่ งอปุ กรณ์และเครื่องมอื ตำ่ งๆ หรือทีเ่ รียกวำ่ Internet of things (IoT) และกำรท ำงำน แบบอตั โนมตั จิ ะเข้ำมำมบี ทบำทส ำคญั โดยกำรท ำงำนตำ่ งๆท่เี ป็นกิจวตั ร ของมนษุ ย์ในปัจจบุ นั อำจถกู แทนที่ด้วย เทคโนโลยี อตุ สำหกรรมจะมคี วำมแขง็ แกร่งขนึ ้ รวดเร็วขนึ ้ และ ฉลำดขนึ ้ เทคโนโลยีสือ่ สำรจะไมเ่ ป็นเพียงแค่ สว่ นประกอบหน่งึ ในวิถีชีวิตของเรำอกี ตอ่ ไป แตจ่ ะเป็นสง่ิ จ ำเป็นที่เรำขำดไมไ่ ด้ในชีวติ ประจ ำวนั รวมทงั้ จะเป็น แรงผลกั ดนั ให้เกิดกำรรวบรวมข้อมลู และองคค์ วำมรู้ ขนำดใหญ่ และข้อมลู เหลำ่ นีจ้ ะเป็นกญุ แจสำคญั ในกำรเพิ่ม ศกั ยภำพและประสทิ ธิภำพในกำรใช้ชีวิตของ มนษุ ย์ ไมว่ ำ่ จะในด้ำนเศรษฐกิจหรือสงั คม เนื่องจำกเทคโนโลยี 5G จะท ำให้อตั รำ คว ำมเร็ วในกำ รสง่ ข้อมลู แบบไร้ส ำยนนั้ เทียบเทำ่ กบั กำรเชื่อมตอ่ แบบไฟเบอร์ เทคโนโลยี 5G จงึ จะมีบทบำทสำคญั ในด้ำน ตำ่ งๆ เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น มำกมำย ไมว่ ำ่ จะเป็น เกษตรกรรม ยำน ยนต์ กำรขนสง่ สงิ่ ก่อสร้ำง พลงั งำน กำรเงิน สขุ ภำพ อตุ สำหกรรมกำรผลติ กำรบนั เทิง ควำมมนั่ คงปลอดภยั และพฤติกรรมผ้บู ริโภค ทงั้ นี ้ITU-R ได้กำหนด มำตรฐำน IMT for 2020 and beyond ซึง่ มีขดี ควำมสำมำรถในด้ำน ตำ่ งๆเพ่ิมขนึ ้ จำกมำตรฐำน IMT- Advanced ระบบ 4G โดยมรี ำยละเอียดท่ีสำคญั ตำม แผนภำพใยแมงมมุ ในรูป จะเหน็ วำ่ ระบบ 5G จะมี อตั รำกำรสง่ ข้อมลู สงู สดุ (Peak data rate) เพ่ิมขนึ ้ 20 เทำ่ , อตั รำกำรสง่ ข้อมลู ท่ีผ้ใู ช้ได้รบั (User experienced data rate) เพิ่มขนึ ้ 10 เทำ่ , ควำมหน่วงของระบบ (Latency) ลดลง 10 เทำ่ , ควำมสำมำรถ ในกำรรับข้อมลู ในขณะเคลอ่ื นที่ (Mobility) โดยสำมำรถรองรบั กำรเคลอื่ นท่ีมีควำมเร็วเพิ่มขนึ ้ 1.5 เทำ่ , ควำมหนำแน่นในกำรเช่ือมตอ่ (Connection density) ซึง่ หมำยถึงจ ำนวนอปุ กรณ์ท่ีระบบสำมำรถ รองรับ ได้ เพ่ิมขนึ ้ 10 เท่ำ, ประสทิ ธิภำพกำรใช้พลงั งำนของโครงขำ่ ย (Energy efficiency) เพิ่มขนึ ้ 100 เทำ่ , ประสทิ ธิภำพกำรใช้คล่นื ควำมถี่ (Spectrum efficiency) เพิ่มขนึ ้ 3 เทำ่ และอตั รำกำรสง่ ข้อมลู สงู สดุ ตอ่ พืน้ ท่ี (Area traffic capacity) เพ่ิมขนึ ้ 100 เทำ่ ซ่งึ ขดี ควำมสำมำรถท่ีมำกขนึ ้ เหลำ่ นี ้จะตอบสนอง ควำมสำมำรถใน รองรบั กำรท ำงำนของ ระบบ 5G ใน 3 ด้ำนหลกั eMBB หรือ enhanced Mobile Broadband คอื กำรใช้งำนในลกั ษณะที่ต้องกำรกำรสง่ ข้อมลู ควำมเร็วสงู ในระดบั กิกะบิตตอ่ วนิ ำที (Gbps) ซึ่งกำรใช้งำนลกั ษณะนตี ้ อบสนองควำมต้องกำรกำรสง่ และรับข้อมลู ท่ีมำกขนึ ้ เร่ือย ๆ เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น นำโนเทคโนโลยี (องั กฤษ: Nanotechnology) คอื เทคโนโลยีท่ีเกี่ยวข้องกบั กระบวนกำรจดั กำร กำร สร้ำงหรือกำรวเิ ครำะห์ วสั ดุ อปุ กรณ์ เครื่องจกั รหรือผลิตภณั ฑ์ที่มีขนำดเลก็ มำก ๆ ในระดบั นำโนเมตร (ประมำณ 1-100 นำโนเมตร) รวมถึงกำรออกแบบหรือกำรประดิษฐ์เคร่ืองมือ เพ่ือใช้สร้ำงหรือวเิ ครำะห์ วสั ดใุ นระดบั ที่เลก็ มำก ๆ เชน่ กำรจดั อะตอมและโมเลกลุ ในตำแหนง่ ที่ต้องกำรได้อย่ำงถกู ต้องแมน่ ยำ สง่ ผลให้โครงสร้ำงของวสั ดุ หรืออปุ กรณ์ มสี มบตั พิ เิ ศษขนึ ้ ไมว่ ำ่ ทำงด้ำนกำยภำพ เคมี หรือชีวภำพ และ สำมำรถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ นำโนเทคโนโลยี เป็นเทคโนโลยีของวทิ ยำศำสตร์ประยกุ ต์ ท่ีเอำไปใช้ ประโยชนใ์ นกำรออกแบบเพื่อประดษิ ฐ์วสั ดหุ รือผลติ ภณั ฑ์ใหมๆ่ กำรสงั เครำะห์วสั ดทุ ี่มีข้อด้อยลดลง กำร ตรวจวเิ ครำะห์และวนิ ิจฉยั ท่ีมีควำมละเอียดแมน่ ยำยิ่งขนึ ้ สำหรบั วสั ดหุ รือส่งิ ของท่เี ลก็ มำกอยใู่ นระดบั นำโน เมตร ซึ่งนำโนเทคโนโลยจี ะให้ควำมสำคญั แกก่ ระบวนกำรเตรียมหรือกำรใช้เทคโนโลยีในชว่ งแรก โดยเริ่ม จำกกำรควบคมุ แตล่ ะโมเลกลุ หรือ อะตอม ท่ีสง่ ผลตอ่ กำรประกอบหรือกำรรวมตวั กนั ทำให้เกิดเป็นสำรที่มี ขนำดใหญ่ ทำให้นำโนเทคโนโลยีมีควำมพิเศษ คอื มีควำมเฉพำะเจำะจง สำมำรถควบคมุ กำรทำงำนของ สำรท่ีสร้ำงขนึ ้ ได้ทงั้ ในด้ำนเคมแี ละฟิ สกิ ส์อยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ โดยหนว่ ยนำโนเมตร (nanometer) ที่ ใช้สญั ลกั ษณ์ตวั ยอ่ nm เป็นหน่วยของระบบ SI ซึง่ ที่ค้นุ เคยกนั ดีคือ ระดบั เซนตเิ มตรและเมตร ซึ่ง 1 นำ โนเมตร คือควำมยำว 1 ในสิบล้ำนของเซนตเิ มตร (10-7 cm) หรือ ในพนั ล้ำนของเมตร (10-9 m) เม่อื เปรียบเทียบกบั สว่ นประกอบในร่ำงกำยท่ีมขี นำดเลก็ เช่น โมเลกลุ ของดีเอน็ เอ มคี วำมกว้ำง 2.5 นำโนเมตร ซง่ึ ขนำด 1 นำโนเมตร คอื ขนำดของอะตอมท่ีมีควำมเลก็ กวำ่ เส้นผำ่ ศนู ย์กลำงของเส้นผมมนษุ ยถ์ ึงแปด หมนื่ เทำ่ โดยสงิ่ ทมี่ ีขนำดในช่วง 1-100nmจดั วำ่ เป็นนำโนเทคโนโลยีเกือบทงั้ สนิ ้ เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น ประโยชน์ของนำโนเทคโนโลยีเป็นควำมหวังทจ่ี ะฝ่ำวกิ ฤตปิ ัจจบุ นั ของมนษุ ยชำตไิ ด้หลำกหลำย อยำ่ งดงั นี ้ 1.พบทำงออกทจ่ี ะได้ใช้พลงั งำนรำคำถกู และสะอำดเป็นมิตรกบั ส่งิ แวดล้อม 2.มนี ำ้ ทส่ี ะอำดเพยี งพอสำหรับทกุ คนในโลก 3.ทำให้มนษุ ย์สขุ ภำพแข็งแรงและอำยยุ นื กวำ่ เดมิ (มนษุ ย์อำจมีอำยเุ ฉลย่ี ถงึ 200 ปี) 4.สำมำรถเพม่ิ ผลผลติ ทำงกำรเกษตรได้อย่ำงพอเพยี งกบั ประชำกรโลก 5.เพิม่ ศกั ยภำพในกำรตดิ ตอ่ สอื่ สำรของผ้คู นทงั ้ โลกอย่ำงทวั่ ถงึ ทดั เทียม 6.สร้ำงหนุ่ ยนต์นำโนทีส่ ำมำรถซ่อมแซมควำมบกพร่องของเซลล์เม็ดเลอื ดแดง คอยทำลำย เซลลแ์ ปลกปลอมต่ำง ๆ 7.มีควำมสำมำรถในกำรประกอบตวั เอง และทำสำเนำตวั เอง 8.กำรใช้เทคโนโลยีในเทคโนโลยีเพื่อสขุ ภำพ 9.กำรใช้นำโนเทคโนโลยีในกำรผลติ ภณั ฑ์อำหำรเสริมเพอื่ สขุ ภำพและทำงกำรแพทย์ 10.ในอนำคตเรำอำจใช้นำโนเทคโนโลยีสร้ำงอวยั วะเทยี ม เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น ตวั อยำ่ งผลงำนจำกนำโนเทคโนโลยี คอนกรีตชนิดหนง่ึ ใช้เทคโนโลยนี ำโน ใช้ Biochemical ทำปฏิกริ ิยำย่อยสลำยกบั มลภำวะ ที่เกดิ จำกรถยนต์ เช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ ในประเทศองั กฤษได้เริ่มมกี ำรใช้เทคโนโลยีนใี ้ น กำรสร้ำงถนนและอโุ มงค์ตำ่ งๆ เพอ่ื ลดมลภำวะบนท้องถนน และขณะเดียวกนั เทคโนโลยีนำโน ทำให้อนภุ ำคคอนกรีตมีขนำดเลก็ มำก ฝ่นุ และแบคทีเรีย ไม่สำมำรถฝังตวั ในเนอื ้ คอนกรีตได้ ทำให้อำคำรท่ีใช้คอนกรีตชนดิ นี ้ดใู หม่เสมอ และยงั คงไมส่ ะสมเชือ้ โรค เสอื ้ นำโน ด้วยกำรฝังอนภุ ำคนำโนเงนิ (silver nanoparticle) ทำให้เกดิ ปฏกิ ริ ิยำกบั กำรเจริญเตบิ โตของแบคทเี รีย หรือกำรใช้อนภุ ำคสงั กะสอี อกไซด์ระดบั นำโนเมตรท่ีสำมำรถ ทำงำนได้เม่อื ถกู กระต้นุ ด้วยแสงทต่ี ำมองเห็น หรือแสงขำวมำกเคลอื บเส้นใยหรือสง่ิ ทอ ทำให้ เกดิ อนมุ ลู อสิ ระท่ีสำมำรถกำจดั สำรอนิ ทรีย์ต่ำงๆ โดยกำรแตกสลำยตวั ทำให้ยบั ยงั ้ กำร เจริญเตบิ โตของเชือ้ จลุ นิ ทรีย์และลดกลนิ่ อบั ท่ีเกดิ ขนึ ้ ได้ โดยมีกำรนำมำพฒั นำผลติ ภณั ฑ์เสอื ้ นำโนหลำยรูปแบบ เชน่ เสอื ้ กฬี ำนำโนยบั ยงั ้ เชิอ้ จลุ นิ ทรีย์และกลน่ิ ไม้เทนนสิ นำโนผสมท่อคำร์บอนนำโน เป็นตวั เสริมแรง (reinforced) ทำให้แข็งแรงขนึ ้ (อ่ำน วสั ดผุ สม) ชดุ นกั เรียนปลอดเชือ้ และกลน่ิ อนั เป็นควำมร่วมมอื ระหว่ำงนกั วิจยั สวทช. กบั บริษัท สยำมชดุ นกั เรียน จำกดั ในกำรพฒั นำเทคโนโลยกี ำรเคลอื บผ้ำด้วยอนภุ ำคไทเทเนียมไดออกไซด์ ซง่ึ ใช้ แสงเป็นตวั กระต้นุ ให้เกดิ ปฏิกริ ิยำยอ่ ยสลำย หรือทเี่ รียกว่ำ โฟโตแคตลสิ ต์ (photocatalyst) โดยไทเทเนียมไดออกไซด์ทโ่ี ดนกระต้นุ ด้วยแสงยวู ี จะเกดิ กำรแตกตวั และทำปฏิกริ ิยำกบั นำ้ จนได้เป็นอนมุ ลู อิสระซง่ึ จะสำมำรถไปย่อยสลำยโปรตีนหรือสำรเคมี ต่ำงๆ จนทำให้เชือ้ แบคทเี รียและกลน่ิ อบั หมดไป จงึ มีกำรนำเทคโนโลยีกำรเคลอื บผ้ำด้วย อนภุ ำคไทเทเนียมไดออกไซด์นไี ้ ปใช้กบั กระบวนกำรผลติ ชดุ นกั เรียนต่อไป เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น Bluetooth บลทู ธู (Bluetooth) เป็นข้อกำหนดสำหรับอตุ สำหกรรมเครือข่ำยสว่ นบคุ คล (Personal Area Networks - PAN) แบบไร้สำย บลทู ธู ช่วยให้อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สส์ ำมำรถเชือ่ มตอ่ กนั ได้ เช่น โทรศพั ท์มอื ถือ พดี ี เอ คอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คล โดยผำ่ นทำงคลนื่ วทิ ยุ ที่มำของช่อื บลทู ธู นนั ้ นำมำจำกพระนำมพระเจ้ำฮำรลั ด์บลทู ทู ของ ประเทศเดนมำร์ก[1] เพอ่ื เป็นกำรรำลกึ ถึงกษัตริย์บลทู ทู ผ้ปู กครองประเทศกลมุ่ สแกนดิเนเวยี ซง่ึ ในปัจจบุ นั เป็นกลมุ่ ผ้นู ำ ในด้ำนกำรผลติ โทรศพั ท์มือถอื ป้อนสตู่ ลำดโลก และระบบบลทู ธู นี ้ก็ถกู สร้ำงขนึ ้ มำเพอื่ ใช้กบั โทรศพั ท์มอื ถอื และเร่ิมต้น จำกประเทศในแถบนดี ้ ้วยเชน่ กนั บลทู ธู จะใช้สญั ญำณวิทยคุ วำมถีส่ งู 2.4 GHz. (จิกะเฮริ ์ซ) แต่จะแยกย่อยออกไป ตำมแต่ละประเทศ อยำ่ งในแถบยโุ รปและอเมริกำ จะใช้ชว่ ง 2.400 ถงึ 2.4835 GHz. แบง่ ออกเป็น 79 ชอ่ งสญั ญำณ และจะใช้ช่องสญั ญำณท่ีแบ่งนี ้เพ่ือสง่ ข้อมลู สลบั ช่องไปมำ 1,600 ครงั ้ ตอ่ 1 วินำที สว่ นทีญ่ ่ีป่ นุ จะใช้ควำมถี่ 2.402 ถงึ 2.480 GHz. แบ่งออกเป็น 23 ช่อง ระยะทำกำรของบลทู ธู จะอย่ทู ี่ 5-100 เมตร โดยมรี ะบบปอ้ งกนั โดยใช้กำรป้อนรหัส ก่อนกำรเชื่อมต่อ และ ปอ้ งกนั กำรดกั สญั ญำณระหว่ำงสอื่ สำร โดยระบบจะสลบั ชอ่ งสญั ญำณไปมำ จะมีควำมสำมำรถใน กำรเลอื กเปลีย่ นควำมถ่ีทใ่ี ช้ในกำรติดต่อเองอตั โนมตั ิ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียงตำมหมำยเลขช่อง ทำให้กำรดกั ฟังหรือ ลกั ลอบขโมยข้อมลู ทำได้ยำกขนึ ้ โดยหลกั ของบลทู ธู จะถกู ออกแบบมำเพอื่ ใช้กบั อปุ กรณ์ท่มี ีขนำดเลก็ เนอ่ื งจำกใช้กำร ขนสง่ ข้อมูลในจำนวนท่ไี ม่มำก อยำ่ งเช่น ไฟลภ์ ำพ, เสยี ง, แอปพลเิ คชนั ต่ำงๆ และสำมำรถเคลอื่ นย้ำยได้ง่ำย ขอให้อยใู่ น ระยะทีก่ ำหนดไว้เท่ำนนั ้ (ประมำณ 5-100 เมตร) นอกจำกนีย้ งั ใช้พลงั งำนตำ่ กินไฟน้อย และสำมำรถใช้งำนได้นำน โดย ไม่ต้องนำไปชำร์จไฟบ่อยๆ ด้วยควำมสำมำรถในกำรสง่ ข้อมลู ของบลทู ธู นนั ้ ขนึ ้ กบั แต่ละ class ทใ่ี ช้ ซงึ่ มี 4 class ดงั นี ้ •Class 1 กำลงั สง่ 100 มิลลวิ ัตต์ ระยะประมำณ 100 เมตร •Class 2 กำลงั ส่ง 2.5 มลิ ลิวตั ต์ ระยะประมำณ 10 เมตร •Class 3 กำลงั ส่ง 1 มิลลวิ ตั ต์ ระยะประมำณ 1 เมตร •Class 4 กำลงั ส่ง 0.5 มิลลิวตั ต์ ระยะประมำณ 0.5 เมตร ข้อกำหนด และคณุ สมบตั ิของ Bluetooth แบง่ เป็นรุ่นตำ่ งๆ ดงั นี ้ •Bluetooth 1.0 •Bluetooth 1.1 •Bluetooth 1.2 z •Bluetooth 2.0 •Bluetooth 2.0 EDR •Bluetooth 2.1 EDR •Bluetooth 3.0 •Bluetooth 4.0 •Bluetooth 4.1 •Bluetooth 4.2•Bluetooth 5 •Bluetooth 5.1 Bluetooth 7 ระบบ EDR : Enhanced Data Rate เพิม่ ควำมเร็วในกำรสง่ ข้อมลู สงู สดุ เป็น 3 Mbps. เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น เมอ่ื พดู ถงึ Bluetooth (บลทู ธู ) ทกุ คนยอ่ มรู้จกั มนั ในฐำนะท่ีเป็นหนง่ึ ในรูปแบบกำรเช่ือมตอ่ ไร้สำยระหวำ่ งอปุ กรณ์ อจั ฉริยะ (Smart Device) ต่ำง ๆ ทีใ่ นปัจจบุ นั ก็ต่ำงกใ็ ช้มนั ด้วยกนั ทงั ้ นนั ้ ไม่ว่ำจะเป็น นำฬกิ ำสมำร์ทวอทช์ (Smartwatch), สมำร์ทแบนด์ (Smart Band), ปำกกำสไตลสั ดิจทิ ลั (Digital Stylus Pen), หฟู ังไร้สำย (Wireless Headphone), ลำโพงไร้สำย (Wireless Speaker) และอปุ กรณ์อืน่ ๆ อกี มำกมำย บทควำมเกี่ยวกบั Bluetooth อน่ื ๆ •วธิ ีรับ-สง่ ไฟล์แบบไร้สำย อยำ่ งรวดเร็วด้วยคณุ สมบตั ิ Nearby Sharing บน Windows 11 •7 สงิ่ ทีค่ วรรู้ก่อนซอื ้ ลำโพงบลทู ธู (7 Things to know before buying a Bluetooth Speaker) •Bluesnarfing คืออะไร ? และจะป้องกนั กำรโจมตแี บบ Bluesnarfing ได้อย่ำงไร ? •วธิ ีแก้ปัญหำ Windows 10 เลน่ เพลงผ่ำนอปุ กรณ์ Bluetooth แล้วคณุ ภำพเสยี งแย่ •วิธีใช้หฟู ัง Bluetooth เป็นไมค์ไร้สำยเวลำถ่ำยวิดโี อผ่ำนมอื ถือ แตค่ ณุ รู้ไหมว่ำบลทู ธู นนั ้ มี Class แถมยงั มีเวอร์ชนั กำกบั กำรอปั เดตควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยที ี่มำกบั ตวั มนั ในแต่ละ เวอร์ชนั ด้วย ทีนี ้มนั มีควำมแตกตำ่ งกนั อยำ่ งไรบ้ำง เรำจะพำคณุ ไปรู้จกั กบั บลทู ธู โดยละเอียดกนั เนือ้ หำภำยในบทควำม • Bluetooth คอื อะไร (What is Bluetooth ?) •ประวตั ิควำมเป็นมำของ Bluetooth (History of Bluetooth) •Class ของ Bluetooth คอื อะไร ? (What is Bluetooth Class ?) •Bluetooth ในแต่ละเวอร์ชนั แตกต่ำงกนั อยำ่ งไร ? (What is the different between each Bluetooth version ?) •AptX ท่ใี ช้กบั Bluetooth คืออะไร ? (What is AptX ?)ADVERTISEMENT Bluetooth คืออะไร (What is Bluetooth ?) เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น Bluetooth (บลทู ธู ) คือ มำตรฐำนเทคโนโลยไี ร้สำยท่เี อำไว้แลกเปลยี่ นข้อมูลในระยะสนั ้ ระหว่ำงอปุ กรณ์บลทู ธู ด้วยกนั ทงั ้ กบั อปุ กรณ์อปุ กรณ์เคลอ่ื นที่ และอปุ กรณ์ท่ีไมเ่ คลอื่ นที่ โดยใช้คลื่นวิทยุ UHF ในแถบย่ำนควำมถี่ ISM ท่ีเป็นย่ำนท่มี ี ไว้สำหรับกำรใช้งำนด้ำนอตุ สำหกรรม วทิ ยำศำสตร์ และกำรแพทย์ ตงั ้ แต่ 2.402 ถงึ 2.48 GHz. และทำกำรสร้ำงพนื ้ ท่ี เครือข่ำยสว่ นตัวเพอื่ รองรบั กำรเชือ่ มต่อกบั อปุ กรณ์ใกล้เคียงด้วย ประวตั คิ วำมเป็นมำของ Bluetooth (History of Bluetooth)ประวตั ิควำมเป็นมำของ Bluetooth นนั ้ ตวั ชอ่ื Bluetooth ถกู ตงั ้ ขนึ ้ ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) โดย Jim Kardach จำก Intel ทีเ่ ป็นผ้พู ฒั นำระบบทที่ ำให้โทรศพั ท์มือถือสำมำรถตดิ ตอ่ สอ่ื สำรกบั คอมพวิ เตอร์ได้ ซง่ึ ในขณะท่ีเขำคดิ ค้นเทคโนโลยดี งั กลำ่ วขนึ ้ เจ้ำตัวก็กำลงั อย่ใู นระหว่ำงกำรอำ่ นนยิ ำยประวตั ศิ ำสตร์เร่ือง The Long Ships ของผ้แู ต่ง Frans G. Bengtsson ท่ีมเี นอื ้ หำเกย่ี วกบั ชนเผ่ำไวกงิ ้ และกษัตริย์เดนชิ ใน ศตวรรษที่ 10 ท่มี นี ำมว่ำ Harald Bluetooth เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น เทคโนโลยี iqv6 เป็นดงั ท่เี ข้ำใจกนั อย่ำงกว้ำงขวำงวำ่ อินเทอร์เน็ต คอื อภิมหำเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ทใี่ หญ่ที่สดุ ในโลก อีกทงั ้ ยงั เป็นเครือขำ่ ยสำรพดั ประโยชน์จนใครท่ีไม่ เคยใช้งำนอนิ เทอร์เน็ตอำจจะเป็นบุคคลตกยุคสมยั ไปได้ง่ำยๆด้วยเหตุ นีเ้อง ทำให้แตล่ ะปีกำรเติบโตของกำรใช้งำนเช่อื มตอ่ อินเทอร์เนต็ ทัว่ โลก รวมถึงประเทศไทย เพิ่มขนึ ้ อยำ่ งรวดเร็ว จนทำให้ หมำยเลขตดิ ต่อบนเครือขำ่ ยอินเทอร์เน็ต หรือ ไอพี แอดเดรสทีเ่ ปรียบเสมอื นหมำยเลขโทรศพั ท์ที่ใช้ติดตอ่ สอ่ื สำรกนั กำลงั จะหมดไปในอนำคต ดงั นนั ้ หลำยประเทศจงึ เร่ิมนำเอำเทคโนโลยีกำรติดต่อบนเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เน็ตรุ่นท่ี 6 หรือ IPv6 มำ ใช้ควบค่กู บั เทคโนโลยีกำรตดิ ต่อบนเครือขำ่ ยอินเทอร์เนต็ รุ่นที่ 4 หรือ IPv4 อยำ่ งไรก็ตำม หลำยคนท่ยี งั ไม่รู้อำจจะสบั สน ว่ำ กำรเปลยี่ นไปใช้ IPv6 นนั ้ จำเป็นหรือไม่แท้จริงแล้วผลกระทบเป็นเชน่ ไร และในประเทศไทยผ้เู กย่ี วข้องมี ควำมพร้อมให้บริกำรมำกน้อยแค่ไหนและอย่ำงไร ดงั นนั ้ วนั นี…้ เรำจะพำกนั ไปหำคำตอบเหลำ่ นี ้ IPv6 คอื อะไร IPv6 ยอ่ มำจำก \"Internet Protocol Version 6\" ซง่ึ จะเป็น Internet protocol รุ่นต่อไป ออกแบบและคิดค้นโดย IETF เพอื่ ท่ีจะนำมำใช้แทน Internet Protocol รุ่นปัจจบุ นั คือ IP Version 4 (\"IPv4\") ปัจจบุ นั นีส้ ว่ นใหญ่ เรำจะใช้ IPv4 ท่ีมอี ำยเุ กอื บ 20 ปีแล้ว และเริ่มจะมปี ัญหำคอื IPv4 addresses กำลงั ใกล้จะหมด เน่อื งจำกมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ ทต่ี ้องกำรจะตอ่ กบั Internet เพม่ิ ขนึ ้ ทกุ วนั IPv6 จงึ ถกู คิดขนึ ้ มำเพอื่ แก้ไขปัญหำท่ีเกิดใน IPv4 เช่น เพมิ่ จำนวน IP address ที่ ใกล้จะหมด และได้เพิ่มควำมสำมำรถ บำงอย่ำงให้ดีขนึ ้ กวำ่ IPv4 ด้วย เชน่ ควำม สำมำรถในด้ำน routing และ network autoconfiguration IPv6 ถกู กำหนดให้แทนที่ IPv4 แบบคอ่ ย เป็นคอ่ ยไป คือช่วงระหวำ่ งกำรเปลย่ี นจำก IPv4 เป็น IPv6 คงใช้เวลำหลำยปี จะต้องให้ IP ทงั ้ สองเวอร์ชน่ั ทำงำน ร่วมกนั ได้เคร่ืองไหนเปล่ียนเป็น IPv6 แล้วก็ต้องให้ IPv4 เข้ำใช้บริกำรได้IPv6 ในประเทศไทย รศ.ดร.สนิ ชยั กมลภิวงศ์ สถำบนั วิจยั เทคโนโลยีเครือขำ่ ย ภำควิชำวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวศิ วกรรมศำสตร์ มหำวิทยำลยั สงขลำนครินทร์ ให้คำตอบเกี่ยวกบั ควำมสำคญั และควำมจำเป็นในกำรใช้งำน IPv6 วำ่ IPv4 เร่ิมเปิดใช้ งำนมำตงั ้ แต่ปี ค.ศ.1981 รวมระยะเวลำมำกกว่ำ 26 ปี มเี ลขหมำยรองรับ 4.29 พนั ล้ำนเลขหมำย อย่ำงไรก็ตำม ปัจจบุ นั เลขหมำย IPv4 ถกู ใช้งำนแล้ว 2.5 พนั ล้ำนเลขหมำย โดยคำดว่ำ จะหมดไปประมำณปี ค.ศ. 2010 “มกี ำรแจกจ่ำย IPv4 ไปแล้ว 2.5 พนั ล้ำนเลขหมำย 1.4 พนั ล้ำนเลขหมำยอย่ใู นอเมริกำ 550 ล้ำนเลขหมำยอยู่ ในยโุ รป 155 ล้ำนเลขหมำยอย่ใู นญ่ีป่ นุ 125 ล้ำนเลขหมำยอยใู่ นจีน 20 ล้ำนเลขหมำยอย่ใู นอเมริกำใต้และอกี 100 เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น ล้ำนเลขหมำยอย่ใู นทีอ่ ื่นๆ ทว่ั โลก สว่ นในประเทศไทยมีกำรใช้งำน 3.47 ล้ำนเลขหมำยจำกจำนวนผ้ใู ช้อนิ เทอร์เนต็ ประมำณ 13 ล้ำนรำย” อำจำรย์สถำบนั วิจยั เทคโนโลยีเครือขำ่ ย ม.สงขลำนครินทร์ อพั เดทสถำนะจำนวนเลขหมำย IPv4 ในปัจจบุ นั รศ.ดร.สนิ ชยั เชอ่ื วำ่ จำกจำนวนผ้ใู ช้อนิ เทอร์เน็ตทเ่ี พม่ิ มำกขนึ ้ เร่ือยๆ ทำให้หลำยฝ่ำยคำดกำรณ์กนั ว่ำ IPv4 จะหมดในเร็วๆ นี ้โดยภำยในปี ค.ศ.2050 มีข้อมลู ว่ำ จะมีกำรใช้งำนอินเทอร์เน็ตมำกถงึ 9 พนั ล้ำนเลขหมำย ขณะที่ในปี ค.ศ.2006 ที่ผำ่ นมำ มีผ้ใู ช้โทรศพั ท์มือถอื ทวั่ โลกแล้ว 2.03 พนั ล้ำนเคร่ือง และมีแนวโน้มว่ำ จะมีกำรใช้งำน อนิ เทอร์เนต็ ผ่ำนโทรศพั ท์มือถือและอปุ กรณ์สอื่ สำรอ่ืนๆ ด้วยเทคโนโลยีต่ำงๆปัจจบุ นั และอนำคตจะมีกำรเชือ่ มต่อ อนิ เทอร์เนต็ ด้วยแทป็ เลตพซี แี ละพีดเี อ เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีตำ่ งๆ เช่น 3 จี ไวไฟ และไวร์แม็ก เพ่ิมมำกขนึ ้ เร่ือยๆ ทจ่ี ะ สง่ ผลให้IPv4 ทีเ่ หลอื จำนวนจำกดั อำจไม่เพยี งพอตอ่ ควำมต้องกำร ดงั นนั ้ ชว่ งนหี ้ ลำย ๆ ประเทศจงึ เตรียมพร้อมและให้ ควำมรู้กำรใช้งำน IPv6 ที่มีเลขหมำยไว้รองรับมำกถึง 340 ล้ำนล้ำนล้ำนล้ำนเลขหมำย สำหรับผลดีของกำรนำ IPv6 มำใช้ อำจำรย์สถำบนั วจิ ยั เทคโนโลยเี ครือขำ่ ย ม.สงขลำ นครินทร์ ชีใ้ ห้เห็นว่ำ เป็นไปไมไ่ ด้ท่จี ะไม่เปลย่ี น เพรำะว่ำ ในทีส่ ดุ เรำจะไม่มีเลขหมำย IPv4 ให้ใช้งำน รวมทงั ้ ยำกลำบำก ในกำรเช่อื มต่อกบั ประเทศอื่น และอตุ สำหกรรมไอซีทคี งยำกลำบำก นอกจำกนนั ้ ยงั จะทำให้อปุ กรณ์คอนซูมเมอร อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรือ ซีอี สำมำรถเพ่อื ให้สำมำรถเช่ือมต่อ และใช้งำนร่วมกนั ผำ่ นเครือขำ่ ยอินเทอร์เนต็ ด้วยเลขหมำย IPv6 และมำถึงทกุ วนั นี ้รศ.ดร.สนิ ชยั อพั เดทแผนงำนและสถำนกำรณ์กำรใช้งำน IPv6 ในประเทศอนื่ ๆ วำ่ ปัจจบุ นั อเมริกำได้ประกำศใช้ IPv6 ตงั ้ แตป่ ี ค.ศ 2005 แม้จะได้รบั กำรจดั สรรเลขหมำย IPv4 มำกท่ีสดุ สว่ นประเทศในแถบ เอเชยี เช่น ญ่ีป่ นุ ทีม่ ีกำรใช้งำนอนิ เทอร์เน็ตอยใู่ นอนั ดบั ต้นๆ นนั ้ ได้เตรียมให้หนว่ ยงำนรำชกำรใช้งำน IPv6 อยำ่ งเป็น ทำงกำรภำยในปี ค.ศ.2008 สว่ นเกำหลจี ะใช้กำรเชื่อมตอ่ ซีอี IPv6 ในปี ค.ศ.2010 โดยปี ค.ศ.2008 จะเปิด ให้บริกำร IPv6 ในเชิงพำณิชย์ ในสว่ นของเมอื งไทย ดร.อำจนิ จิรชพี พฒั นำ ผ้อู ำนวยกำรสำนกั สง่ เสริมและพฒั นำกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและ กำรสอื่ สำร กระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอื่ สำร หรือ ไอซีที เปิดเผยวำ่ กระทรวงไอซีทไี ด้เตรียมควำมพร้อม เก่ียวกบั กำรใช้งำน IPv6 เอำไว้แล้ว โดยได้กำหนดแผนไว้ 3 ระยะ ได้แก่ แผนระยะสนั ้ ระหวำ่ ง แผนระยะกลำงและแผน เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น ระยะยำวเพอ่ื ให้กำรดำเนนิ งำนของผ้ทู ี่เกี่ยวข้องทงั ้ หมดเกิดควำมชดั เจนและเป็นไปในทิศทำงเดียวกนั ผ้อู ำนวยกำรสำนกั สง่ เสริมและพฒั นำกำรไอซีที กระทรวงไอซที ี เปิดเผยแผนกำรใช้งำน IPv6 ในประเทศไทยวำ่ ระยะสนั ้ ระหว่ำงปี พ.ศ. 2550-2551 จะจัดตงั ้ ศนู ย์เช่ียวชำญ IPv6 ทม่ี ีหน้ำทีอ่ อกใบรับรอง IPv6 รวมทงั ้ จดั ฝึกอบรมและออกใบ รับรอง ระยะกลำงปี พ.ศ.2550-2552 จดั ตงั ้ เครือข่ำยภำครัฐให้เป็นโครงข่ำยหลกั ท่ีสำมำรถรองรบั กำรใช้งำน และในระยะ ยำว ปี พ.ศ.2550-2553 กำหนดให้ผ้ใู ห้บริกำรอินเทอร์เนต็ หรือ ไอเอสพีสำมำรถให้ IPv6 แก่ผ้ใู ช้อนิ เทอร์เน็ต ทำงด้ำน ดร.เฉลมิ พล ชำญศรีภิญโญ นกั วจิ ัยจำกศนู ย์เทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอร์แห่งชำติ หรือ เนคเทค และสมำชกิ สมำคม IPv6 ประเทศไทย ให้ข้อมลู สถำนกำรณ์ปัจจบุ นั กำรใช้งำนและให้บริกำร IPv6 ในประเทศไทยว่ำ สว่ นใหญ่ยงั ใช้ในเครือขำ่ ยด้ำนกำรศกึ ษำวจิ ยั และใช้เฉพำะกลมุ่ สำหรบั ในสว่ นของไอเอสพีนนั ้ หลำยรำยได้มีกำรทดสอบ กำรใช้และให้บริกำร แต่ยงั ไมม่ ีกำรเปิดให้บริกำรจริง เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น Wi-Fi ยอ่ มำจำก wireless fidelity) หมำยถึงชดุ ผลติ ภัณฑ์ตำ่ งๆ ทส่ี ำมำรถใช้ได้กบั มำตรฐำนเครือข่ำย คอมพิวเตอร์แบบไร้สำย (WLAN)ซงึ่ อย่บู นมำตรฐำน IEEE 802.11 เดิมทีวำยฟำยออกแบบมำใช้สำหรับอปุ กรณ์ พกพำต่ำงๆ และใช้เครือข่ำย LANเทำ่ นนั ้ แต่ปัจจบุ นั นยิ มใช้วำยฟำยเพอื่ ตอ่ กบั อินเทอร์เน็ต โดยอปุ กรณ์พกพำต่ำงๆ สำมำรถเช่ือมต่อกบั อินเทอร์เน็ตได้ผำ่ นอปุ กรณ์ทเ่ี รียกวำ่ แอคเซสพอยต์ และบริเวณทรี่ ะยะทำกำรของแอคเซสพอยต์ ครอบคลมุ เรียกว่ำ ฮอตสปอตแตเ่ ดิมคำวำ่ Wi-Fi เป็นชอ่ื ทตี่ งั ้ แทนตวั เลข IEEE 802.11 ซ่ึงง่ำยกวำ่ ในกำรจดจำ โดย นำมำจำกเครื่องขยำยเสยี งHi-Fi อย่ำงไรกต็ ำมในปัจจบุ นั ใช้เป็นคำยอ่ ของ Wireless-Fidelity โดยมีแสดงใน เว็บไซต์ของ Wi-Fi Alliance โดยใช้ช่อื วำยฟำยเป็นเครื่องหมำยกำรค้ำเทคโนโลยี Wi-Fi ใช้คลน่ื วิทยคุ วำมถีส่ งู สำหรบั รับสง่ ข้อมูลภำยในเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่สำมำรถใช้งำน Wi-Fi ได้ต้องมีกำรติดตงั ้ แผงวงจรหรืออปุ กรณ์รับสง่ Wi-Fi ซงึ่ มีช่ือเรียกว่ำ Network Interface Card (NIC) แต่ปัจจบุ นั เครื่อง คอมพวิ เตอร์โน๊ตบ๊คุ ท่ีมจี ำหนำ่ ยในท้องตลำดมกั ได้รับกำรตดิ ตงั ้ ชิปเซต็ (Chipset) ที่ทำหน้ำท่ีเป็นตัวรับสง่ สญั ญำณ Wi-Fi ไปในตวั ทำให้สะดวกต่อกำรนำไปใช้งำนมำกขนึ ้ กำรติดตอ่ สอ่ื สำรด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ทำได้ทงั ้ แบบเชอื่ มต่อ โดยตรงระหวำ่ งเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องผำ่ นอปุ กรณ์ตวั กลำง (Ad-hoc) และแบบที่ผำ่ นอปุ กรณ์จดุ เชอื่ มตอ่ (Access Point) ดงั แสดงในรูปท่ี 1 เนอ่ื งจำกกำรติดตงั ้ เครือข่ำย Wi-Fi ทำได้งำ่ ยและไมต่ ้องใช้ควำมรู้ในเชิงลกึ ทำงด้ำนวิศวกรรมเครือข่ำย แม้จะมพี นื ้ ท่ีครอบคลมุ ในระยะทำงจำกดั แต่ก็ถือว่ำเพียงพอทีต่ ่อกำรใช้งำนในสำนกั งำนและบ้ำนพกั อำศยั โดยทวั่ ไป จงึ ทำให้ผ้คู นทั่วไปนิยมใช้งำน Wi-Fi กนั มำก สง่ ผลให้เกดิ กำรขยำยตวั ของตลำด ผ้บู ริโภคอยำ่ งรวดเร็วในปัจจบุ นั ดงั แสดงในรูปที่ 10 ซง่ึ เป็นกำรแสดงจำนวนพืน้ ท่ีที่มกี ำรเปิดให้บริกำร Wi-Fi ใน สหรัฐอเมริกำ ทงั ้ ทเ่ี ป็นกำรให้บริกำรฟรี และทมี่ ีกำรคิดคำ่ ใช้จ่ำย โดยทวั่ ไปมกั เรียกพืน้ ท่เี หลำ่ นีว้ ำ่ Hotspotเทคโนโลยี เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น Wi-Fi มีกำรพฒั นำมำตำมยคุ สมยั ภำยใต้กำรกำกบั ดแู ลของกลมุ่ พนั ธมติ ร WECA (Wireless Ethernet Compatibility Alliance) เริ่มจำกข้อกำหนดมำตรฐำน IEEE 802.11 ซงึ่ กำหนดให้ใช้คลน่ื วทิ ยคุ วำมถ่ี 2.4 กิกะเฮติ รซ์ เป็นตวั กลำงในกำรตดิ ตอ่ สอื่ สำรกบั จดุ เชอื่ มตอ่ (AP หรือ Access Point) ข้อกำหนดดงั กลำ่ วเป็นเพียง หลกั กำรทำงทฤษฎีเทำ่ นนั ้ จนกระทงั่ เม่ือมกี ำรกำหนดให้มำตรฐำน IEEE 802.11a (อตั รำเร็ว 54 เมกะบติ ต่อวนิ ำท)ี และ IEEE 802.11b (อตั รำเร็ว 11 เมกะบิตตอ่ วินำท)ี ซง่ึ ใช้คลน่ื วิทยคุ วำมถ่ี 5 กกิ ะเฮิตรซ์ และ 2.4 กกิ ะเฮิตรซ์ ตำมลำดบั เป็นมำตรฐำนสำกลสำหรับใช้งำนในปัจจบุ นั และได้มีกำรพฒั นำมำตรฐำน Wi-Fi ต่อเนอ่ื งไปเป็น IEEE 802.11g(อตั รำเร็ว 54เมกะบิตตอ่ วนิ ำท)ี ซงึ่ ในปัจจบุ นั กลำ่ วได้วำ่ กำรรบั สง่ ข้อมลู ผำ่ นเครือข่ำยแบบ Wi-Fi ทงั ้ สอง ควำมถี่สำมำรถทำได้ด้วยอตั รำเร็วสงู สดุ ถงึ 54เมกะบติ ตอ่ วนิ ำทีเทียบเทำ่ กนั อยำ่ งไรก็ตำม อตั รำเร็วทแ่ี ท้จริงในกำรรับสง่ ข้อมูลผำ่ นอปุ กรณ์ AP ของผ้ใู ช้งำนแต่ละคนอำจมีค่ำไม่เท่ำกนั ขนึ ้ อยกู่ บั สภำพแวดล้อมในกำรใช้งำน และจำนวนผ้ใู ช้งำนทแี่ บง่ กนั รบั สง่ ข้อมลู ผ่ำนอปุ กรณ์ AP ร่วมกนั นอกจำกนนั ้ ยงั ขอึ ้ ยกู่ บั รูปแบบในกำรรับสง่ ข้อมลู ของแตล่ ะคนอีกด้วย แม้กำรวำงเครือขำ่ ยสอ่ื สำรไร้สำยแบบ Wi-Fi จะมีพนื ้ ทีใ่ ห้บริกำรจำกดั ในระยะไม่มำกนัก แตก่ ำรตดิ ตงั ้ อปุ กรณ์ AP เพอ่ื สร้ำงพืน้ ท่ีบริกำรให้ต่อเน่ืองกนั ก็ทำให้เพม่ิ ขอบเขตในกำรให้บริกำรได้ ปัจจบุ นั มกี ำรพฒั นำรูปแบบกำรวำงเครือข่ำยอปุ กรณ์ AP ชนดิ พเิ ศษซง่ึ มกี ำรใช้งำนร่วมกบั สำยอำกำศขยำยควำมแรง สญั ญำณ ทำให้สำมำรถให้บริกำร Wi-Fi ในพืน้ ทีก่ ว้ำงขนึ ้ และ AP แต่ละชดุ ต่ำงก็สำมำรถรบั สง่ ข้อมลู หำกนั ได้ โดย ตำ่ งทำหน้ำทเ่ี ป็นวงจรสอื่ สญั ญำณ (Transmission) ให้แก่กนั และกนั เรียกเทคโนโลยีดงั กลำ่ วว่ำ Wireless- Mesh ในทำงปฏิบตั ิมกั มีควำมเข้ำใจกนั วำ่ เทคโนโลยี Wi-Fi กบั มำตรฐำน WLAN เป็นสง่ิ เดยี วกนั แต่แท้จริงแล้ว WLAN มีควำมหมำยถงึ กำรให้บริกำรสอื่ สำรข้อมูลในลกั ษณะแบง่ กนั ใช้แบนด์วิดท์ ระหว่ำงเครื่องลกู ข่ำย ซง่ึ สว่ นใหญ่เป็นเครื่อง คอมพิวเตอร์ กบั เครือขำ่ ยสอ่ื สำรไร้สำยโดยผ่ำนทำงอปุ กรณ์สถำนีฐำนหรือจุดเช่ือมต่อ ทงั ้ นไี ้ ม่มกี ำรกำหนดมำตรฐำนกำร เทคโนโลยี WI-FI
วิชา ระบบรกั ษาความปลอดภยั คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น เช่ือมตอ่ ทำงเทคนิคให้ตำยตวั นอกเหนือจำกเทคโนโลยี Wi-Fi แล้ว ยงั มเี ทคโนโลยีอ่ืน ๆ ท่ีเข้ำข่ำยให้บริกำรแบบ WLAN ไม่ว่ำจะเป็นเทคโนโลยี WiMAX มำตรฐำนกำรสอื่ สำรแบบ Bluetoothเทคโนโลยี Home RF หรือ แม้กระทง่ั เทคโนโลยี HiperLAN ซง่ึ 2 เทคโนโลยีหลงั นนั ้ ยงั ไมไ่ ด้รับกำรยอมรบั ใช้งำนอย่ำงแพร่หลำย กำรติดตงั ้ ชิป เซต็ ไว้ภำยในกก็ ลำยเป็นอปุ กรณ์มำตรฐำน มีรำคำถกู เพม่ิ ควำมสะดวกในกำรใช้งำนและเออื ้ ตอ่ กำรเตบิ โตของตลำด เท่ำใดนกั ในปัจจบุ นั แม้กำรนำเทคโนโลยี Wi-Fi มำใช้งำนจะมีควำมแพร่หลำย ทงั ้ อปุ กรณ์ AP และเครื่องลกู ขำ่ ย ซงึ่ สว่ นใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์ใช้งำน แตเ่ ทคโนโลยี Wi-Fi เองกย็ งั มีข้อจำกดั ในกำรใช้งำนอย่หู ลำยประกำร ไม่ว่ำจะเป็น เรื่องควำมปลอดภยั กำรใช้งำนร่วมกนั ของอปุ กรณ์ตำ่ งรุ่น และควำมยำกลำบำกในกำรทำกำไรให้กบั ผ้ใู ห้บริกำรเครือขำ่ ย ควำมปลอดภยั (Security) เทคโนโลยี Wi-Fi มีจดุ อ่อนในเรื่องของมำตรกำรรกั ษำควำมปลอดภยั ท่เี กดิ จำกกำร ลกั ลอบเข้ำใช้เครือข่ำยโดยบคุ คลที่สำมซง่ึ อำจใช้เครื่องรับสง่ สญั ญำณและซอฟท์แวร์บำงชนิดบนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ มำตรฐำนกำรรักษำควำมปลอดภัยที่มีมำพร้อมกบั Wi-Fi ซ่ึงมีช่ือเรียกว่ำ WEP (Wired Equivalent Privacy) ไม่สำมำรถปอ้ งกนั กำรลกั ลอบเข้ำใช้งำนเครือข่ำยคอมพิวเตอร์โดยผ่ำนทำง AP ได้แต่อยำ่ งไร ซงึ่ IEEE เทคโนโลยี WI-FI
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: