Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลักษณะภาษาไทย และอิทธิพลภาษาต่างประเทศ

ลักษณะภาษาไทย และอิทธิพลภาษาต่างประเทศ

Published by อาธิยา, 2021-05-27 14:09:07

Description: ลักษณะภาษาไทย และอิทธิพลภาษาต่างประเทศ

Search

Read the Text Version

7 มกราคม 2564

~ หลกั ภาษา ~ ลกั ษณะของภาษาไทย ผสู้ อน อาธยิ า ฉิมสอาด

ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาตไิ ทย มเี อกลกั ษณ์เฉพาะของตวั เอง เป็นมรดกทางภมู ปิ ัญญาไทย ตวั อยา่ งคาไทยแท้

ทดสอบหนอ่ ยนะจะ๊ ข้อใดคอื ทำไทยแท้ ข้อใดคอื คำไทยแทท้ ุกคำ – ก. ศอก – ก. ยืน เดิน น่งั นอน – ข. แข – ข. เกา้ อี้ โตะ๊ เตยี ง ตู้ – ค. กีฬา – ค. ดนิ นา้ ลม ไฟ – ง. เตน้ ท์ – ง. พ่อ แม่ ป๊ า ยาย

ลกั ษณะภาษาไทย – เป็นภาษาท่ีเป็นคาโดด (ตระกลู ภาษาไท-กะได) มีความหมายชดั เจนสมบรู ณใ์ นตวั เอง สว่ นใหญ่ คำไทยจะเป็ นคำพยำงคเ์ ดยี ว เชน่ _________________________________________ – คาไทยแทจ้ ะมีตวั สะกดตรงตามมาตรา ไม่นิยมใชต้ ัวกำรันต์ – คาไทยไมม่ ีการเปล่ยี นแปลงรูปคา หรอื การวางตาแหน่งของประโยค *เปรยี บเทียบคาไทยกบั องั กฤษ ( เช่น การใช้ verb ) องั กฤษ I go. She goes. We are going. ภาษาไทย ฉนั ไป เธอไป เรากาลงั ไป – การเรยี งกลมุ่ คา สลบั ท่ี ทำใหค้ วำมหมำยเปลย่ี น เชน่ นอ้ ยใจ – ใจนอ้ ย , นา้ ตก – ตกนา้ , ใจดี – ดีใจ

ลกั ษณะภาษาไทย – กำรเรียงตำแหน่งของคำในประโยค ถา้ เราสลบั ท่ี จะทาใหค้ วามหมายเปล่ยี น !!!! เช่น ลงิ ไลเ่ ดก็ สลบั เป็น ............... ฉนั รกั เธอ สลบั เป็น ................. – สว่ นใหญ่คำขยำยจะอยู่ดำ้ นหลังคำหลัก เช่น มะนาวเปรยี้ ว ปลาตวั ใหญ่ เสอื้ สีขาว – ภาษาไทยเป็นภาษาท่ีมลี ักษณะนำม โดยบอกลกั ษณะของคานามทงั้ หนา้ และหลงั หนงั สอื 1 ……. ……ชา้ งกาลงั เดนิ

ลกั ษณะภาษาไทย – ภำษำไทยมเี สยี งและรูปของวรรณยุกต์ เม่ือเปล่ยี นรูปและเสยี ง กท็ าใหค้ วามหมายเปล่ยี น เชน่ – คาในภาษาไทยบางคามีความหมายหลายอยา่ ง หรอื มีมากกวา่ 1 ความหมาย ตอ้ งสงั เกตบรบิ ท ของคาในประโยค เชน่ บา้ นของผมเปิดรา้ นตดั ผม

- คำไทยแทอ้ ำจมีหลำยพยำงคไ์ ด้ ซ่ึงสงั เกตไดว้ ำ่ คำไทยแทท้ ี่มีหลำยพยำงคน์ ้ี จะเกิดจำกกำรกร่อนของเสียง กำรแทรก เสียง และกำรเติมพยำงคห์ นำ้ คำมูล 1. กำรกร่อนของเสียง เกิดจำกคำเดิมมี ๒ พยำงค์ แต่เมื่อพดู เร็วๆ เขำ้ คำแรกของพยำงคจ์ ึงกร่อนลงเหลือเพียงเสียง “อะ” เช่น หมากขาม กร่อนเป็ น มะขาม สาวใภ้ ” สะใภ้ 2. กำรแทรกเสียง เกิดจำกคำเดิมมี ๒ พยำงค์ ภำยหลงั มีกำรแทรกเสียง “อะ” เขำ้ ไปตรงกลำงคำ เช่น ผกั เฉด แทรกเสียงอะกลางคากลายเป็ น ผกั กะเฉด (ปัจจุบันนิยมใช้ ผกั กระเฉด) ลูกท้อน ” ลูกกระท้อน (ปัจจุบนั นิยมใช้ลูกกระท้อน) 3. กำรเติมพยำงคห์ นำ้ คำมูล เกิดจำกกำรเติมเสียง “อะ” เขำ้ ไปหนำ้ คำมูล ซ่ึงมกั จะข้ึนตน้ ดว้ ย “กะ กระ ปะ ประ” ท้งั คำที่ เติมเสียงอะและไม่ไดเ้ ติมเสียงอะ จะมีควำมหมำยใกลเ้ คียงกนั เช่น โตกตาก เตมิ เสียงอะกลายเป็ น กระโตกกระตาก เดยี๋ ว ” ประเดยี๋ ว

- คำไทยแทส้ ่วนใหญ่สร้ำงคำดว้ ยกำรนำคำมำรวมกนั หรือมำประสมกนั ทเ่ี รียกวำ่ คาประสม เช่นคำวำ่ แม่นา้ หัวสูง ลูกกวาด พดั ลม นา้ ตก ฯลฯ - คำไทยแทส้ ่วนใหญ่ไม่มีพยญั ชนะ ตอ่ ไปน้ี คือ ฆ ณ ญ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ธ ศ ษ ฬ ดงั น้นั จึงมีเฉพำะบำงคำเท่ำน้นั ท่ีคำไทยแทจ้ ะมีพยญั ชนะเหล่ำน้ีผสมอยู่ เช่น ฆ่ำ ศอก เธอ ณ หญำ้ ฯลฯ

- คาท่ีออกเสยี งไอ มีเฉพาะคาท่ีเป็นสระไมม้ ว้ น (ใ) และสระไมม้ ลาย (ไ) เทา่ นนั้ ท่ี ถือเป็นคาไทยแท้ เชน่ ใต้ ใส่ ใจ ไฟ ไว ไหล่ ฯลฯ ดงั นนั้ คำไทยแทจ้ ะไม่มรี ูป “อัย” และ “ไอย” - คาไทยแทไ้ มน่ ิยมคาควบกลา้ (ยกเวน้ ควำย ควำม กริ่ง เกรง ผลิ เพรำะ เป็ นคำไทย )





การยืม คือ การท่ีภาษาหนง่ึ นาคาหรอื ลกั ษณะทางภาษาของอีก ภาษาหนง่ึ เขา้ ไปใชใ้ นภาษาของตนเอง ภำษำไทยมกี ำรยมื คำมำจำกภำษำอน่ื มำใช้ปะปนอยู่ มำกมำยแม้กระท่งั สมัยพ่อขุนรำมคำแหงกย็ ังปรำกฏหลักฐำนกำร ยมื คำภำษำบำลสี ันสกฤต และภำษำเขมรมำใช้ในภำษำไทย

สาเหตสุ าคญั ท่ีทาใหภ้ าษาตา่ งประเทศเขา้ มา ในประเทศไทยมี 2 ประการคือ 1. เหตผุ ลดา้ นความจาเป็น 2. เหตผุ ลดา้ นจิตวิทยา

คำยมื ภำษำบำล-ี สันสกฤต - ใชเ้ ป็นคาศพั ทด์ า้ นศาสนา - ใชเ้ ป็นคาศพั ทด์ า้ นประเพณี (มาฆบชู า ตกั บาตรเทโว เทศนม์ หาชาติ ฉตั รมงคล) - ใชเ้ ป็นคาศทั พด์ า้ นวฒั นธรรม ศลิ ปะ (มโหรี ดนตรี ป่ีพาทย)์ ดาราศาสตร์ (สรุ ยิ คติ จนั ทรคติ จนั ทรคราส) การแต่งกาย (มงกฎุ ชฎา สงั วาล) ส่งิ ก่อสรา้ ง (นภศลู ปราสาท เจดีย)์ เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ (อาวธุ ทพั พี คนโท) คาราชาศพั ท์ (พระเนตร พระบาท พระกรรณ) ใชเ้ ป็นคาดา้ นวชิ าการ ( วทิ ยุ โทรทศั น์ แพทย์ เภสชั ) ใชเ้ ป็นคาดา้ นวรรณคดี (ครุฑ สเุ มรุ หิมพานต)์

ตารางสรุปหลกั คาภาษาบาลแี ละสันสกฤต คาสันสกฤต ๑. สระสนั สกฤต คาบาลี มี ๑๔ ตวั คือ อะ อำ อิ อี อุ อู เอ โอ ไอ เอำ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ ๑. สระบำลีมี ๘ ตวั คือ อะ อำ อิ อี อุ อู เอ โอ ๒. พยญั ชนะสนั สกฤตมี ๓๕ ตวั คือ เพิม่ ศ และ ษ ๒. พยญั ชนะบำลีมี ๓๓ ตวั ๓. มีหลกั ตวั สะกดและตวั ตำมไม่แน่นอน ๓. มีหลกั ตวั สะกดและตวั ตำมท่ีแน่นอน ๔. สนั สกฤตมี รร (รอหนั ) ๔. บำลีไม่มี รร (รอหนั ) ๕. สนั สกฤตใชพ้ ยญั ชนะควบกล้ำ ๕. บำลีไม่ใชพ้ ยญั ชนะควบกล้ำ ๖. สนั สกฤตไม่ใช้ ฬ แต่ใช้ ฑ, ฒ แทน ๖. บำลีใช้ ฬ ๗. สนั สกฤตไม่มีคำวำ่ “ริ” มีเฉพำะ ร ๗. บำลีจะมีคำวำ่ “ริ” อยรู่ ะหวำ่ งคำ ๘. สนั สกฤตใช้ ณ ตำมหลงั ร ฤ ษ ๘. บำลีใชต้ วั ณ ในภำษำเดิม ๙. สนั สกฤตมีคำวำ่ “เครำะห์” ๙. บำลีไม่มีคำวำ่ “เครำะห์”

คายืมภาษาองั กฤษ - คาด้านวชิ าการ โลกตะวนั ตกเป็นผนู้ ำควำมเจริญทำงดำ้ นวชิ ำกำรภำษำไทยจึงไดร้ ับคำศพั ทม์ ำใชเ้ ป็นจำนวนมำก เช่น กลูโคส แกรนิต ไทเทเนียม เลนส์ - ใช้เป็ นคาเกย่ี วกบั อาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่ม วฒั นธรรมกำรกินทำงตะวนั ตกส่งผลกระทบต่อสงั คมไทย เช่น กำแฟ เคก้ ช็อกโกแลต แซนดว์ ชิ ไอศกรีม โซดำ สลดั แฮม - คาภาษาองั กฤษทเี่ ป็ นชื่อของกฬี า เช่น กอลฟ์ แบดมินตนั สกี สเกต - ใช้เป็ นคาเรียกช่ือเคร่ืองดนตรี ประเทศไทยไดร้ ับวฒั นธรรมทำงดนตรีท่ีทนั สมยั มำจำกตะวนั ตกทำใหไ้ ดร้ ับคำภำษำองั กฤษที่ เป็นช่ือเครื่องดนตรีเหล่ำน้นั มำใชด้ ว้ ย เช่น กีตำร์ แซ็กโซโฟน เปี ยโน ไวโอลิน - ใช้เป็ นคาเรียกส่ิงของเครื่องใช้ เช่น คลิป คตั เตอร์ ชอลก์ โซฟำ ฟิ วส์ เน็กไท - ใช้เป็ นคากริยาบางคา เช่น ชอปปิ ง ซีเรียส เซอร์เวย์ ป้ัม เคลียร์ เซ็น

คายืมภาษาองั กฤษ ปัจจุบนั ไทยรับเอำคำภำษำองั กฤษเขำ้ มำใชม้ ำก เนื่องจำกรับเอำเทคโนโลยตี ะวนั ตกมำใชจ้ ึงเกิดคำ ใหม่ข้ึนมำใชใ้ นภำษำมำกมำย ลกั ษณะของกำรรับภำษำองั กฤษเขำ้ มำใชใ้ นภำษำไทย มีดงั น้ี ๑. ทบั ศพั ทโ์ ดยตรงอำจจะเปล่ียนแปลงเสียงและคำ บำ้ ง เช่น โกโก้ ไอศกรีม ยรี ำฟ เชิ้ต ทีม คลินิก แบตเตอรี่ ลิปสติก วติ ำมิน แทก็ ซี่ กีตำร์ เป็นตน้ ๒. บญั ญตั ิศพั ท์ อำจใชค้ ำไทยแปลภำษำองั กฤษ เช่น เครื่องปรับอำกำศ มำจำก air conditioner ภูมิหลงั มำจำก background เป็นตน้ หรืออำจจะใชศ้ พั ทท์ ี่มำจำกภำษำบำลีสนั สกฤต แปลคำ ภำษำองั กฤษดว้ ย กำรสร้ำงคำใหม่ ข้ึนมำ เช่น ทศั นคติ (attitude) รัฐธรรมนูญ (constitution) วิทยำนิพนธ์ (thesis) เป็นตน้ ๓. กำรประสมคำข้ึนใหม่ เช่น รถมอเตอร์ไซค์ (motorcycle) ผำ้ ไนลอน (nylon) ไฟ นีออน (neon) เป็นตน้ ตวั อย่างคาภาษาองั กฤษในภาษาไทย โควตำ คำร์บอน รถเมล์ ไมคโ์ ครโฟน ชอลก์ อลั บ้มั บอล เบส บิล โบนสั เชียร์ เบอร์ โปสเตอร์ แฟชนั่ เช็ค เทนนิส สูท โนต้ ยนี ส์ ไฮโดรเจน วิตำมิน เป็นตน้

คายืมภาษาจีน ไทยกบั จีนมีควำมสมั พนั ธก์ นั ทำงกำรทูตและกำรคำ้ มำต้งั แต่สมยั สุโขทยั สืบมำ จนถึงปัจจุบนั ชำวจีนมำทำมำหำกินในไทย แต่งงำนกบั คนไทย จนกลำยเป็นพลเมืองไทยเช้ือ สำยจีน เป็นจำนวนมำก มีกำรผสมผสำนทำงวฒั นธรรมประเพณีต่ำงๆ คำยมื ส่วนใหญ่เป็น สำเนียงไทยแตจ้ ิ๋ว มกั เป็นคำใชเ้ รียก ส่ิงของ เครื่องใช้ อำหำร พืชผกั ผลไม้ รวมท้งั คำที่เกี่ยวกบั วฒั นธรรมจีน แต่ไทยนิยมนำคำจำกภำษำจีนมำใชใ้ นกำรพดู ไม่นิยมใชใ้ นภำษำเขียน ภาษาไทยได้รับคาจากภาษาจนี มาใช้อย่างแพร่หลาย แบ่งเป็ นด้านต่างๆ ดงั นี้ 1. ใช้เป็ นคาเรียกช่ืออาหาร เช่น เกำเหลำ เตำ้ ทึง เตำ้ หู้ เตำ้ ฮวย บะฉ่อ พะโล้ เตำ้ เจ้ียว เป็นตน้ 2. ใช้เป็ นคาเรียกพืชผกั ผลไม้ เช่น กยุ ช่ำย เก๊กฮวย ตงั โอ๋ ฉำฉำ เป็นตน้ 3. ใช้เป็ นคาเรียกส่ิงของเครื่องใช้และเคร่ืองแต่งกาย เช่น เก๊ะ เข่ง ตงั เก เกี๊ยะ เอี๊ยม เป็นตน้ 4. ใช้เป็ นคาเรียกเครือญาติ เช่น ก๋ง เจ๊ ซอ้ ตี๋ แป๊ ะ เฮีย ม่วย เป็นตน้ 5. ใช้เป็ นคาเรียนสิ่งก่อสร้างและสถานที่ เช่น เก๋ง หำ้ ง เป็นตน้ 6. ใช้เป็ นคาด้านประเพณแี ละวฒั นธรรม เช่น กงเตก๊ เต๋ำ เซียมซี งิ้ว เป็นตน้ 7. ใช้เป็ นคากริยาบางคา เช่น จ๋อ เจี๊ยะ ชีช้ำ โละ ฮ้วั เป็นตน้

คายืมภาษาเขมร ไทยกบั เขมรมีควำมสมั พนั ธก์ นั มำนบั ปี ต่ำงถ่ำยทอดวฒั นธรรมและอำรยธรรม ซ่ึงกนั และกนั ในสมยั โบรำณ ไทยไดร้ ับอกั ษรขอมบรรจงและขอมหวดั มำใช้ ซ่ึงไทยถือวำ่ ศกั ด์ิสิทธ์ิ จึงมกั มีกำรบนั ทึกเร่ืองรำวเก่ียวกบั ศำสนำลงบนแผน่ หิน ใบลำน ใชต้ วั อกั ษรขอม เขียนคำถำอำคมต่ำง ๆ ปรำกฏตำม พระพิมพ์ เหรียญ พระเครื่อง ตะกรุด ผำ้ ยนั ตต์ ่ำง ๆ ภำษำไทยไดร้ ับภำษำเขมรมำใชอ้ ยำ่ งแพร่หลำย แบ่งเป็นดำ้ นต่ำง ๆ ดงั น้ี 1.ใช้เป็ นคาสามัญท่ัวไป คำยมื ภำษำเขมรท่ีปรำกฏใชเ้ ป็นคำสำมญั ทว่ั ไปในภำษำไทยมีอยเู่ ป็น จำนวนมำก เช่น เกดิ กราบ กาลงั ควร เจริญ เชลย 2.ใช้เป็ นคาด้านวรรณคดี ถอ้ ยคำในวรรณคดีไทยหลำยเรื่องมีคำยมื ภำษำเขมรปะปนอยเู่ ป็น จำนวนมำก เช่น กรรเจยี ก กรรแสง ขจี ไพร ทรวง 3.ใช้เป็ นราชาศัพท์ คำยมื ภำษำเขมรที่ใชเ้ ป็นรำชำศพั ทใ์ นภำษำไทยมีอยู่ 2 ประเภทดงั น้ี 3.1 นำหนำ้ เช่น เสวย เขนย ถวาย ขนง โปรด ตรัส เสดจ็ 3.2 คำธรรมดำของเขมรที่ไทยนำมำใชเ้ ป็นคำรำชำศพั ทจ์ ะเติมคำวำ่ “ทรง” “พระ” หรือ “ทรงพระ” นำหนำ้ เช่น ทรงดาเนิน ทรงทราบ พระดาริ ทรงพระเจริญ

คายืมภาษาชวา-มลายู ประเทศมำเลเซียซ่ึงใชภ้ ำษำชวำ-มลำยู มีอำณำเขตติดต่อกบั ภำคใต้ ของประเทศไทยมีควำมสมั พนั ธ์กนั ทำงดำ้ นประวตั ิศำสตร์มำเป็นเวลำนำน ประวตั ิกำรติดตอ่ มีมำต้งั แตส่ มยั สุโขทยั กำรที่ไทยติดต่อกบั มลำยนู อกจำกจะทำใหม้ ีภำษำมลำยเู ขำ้ มำปะปน ในภำษำไทยแลว้ ยงั ปรำกฏวำ่ มีภำษำของชนชำติอื่นอีกหลำยภำษำที่เขำ้ มำ ปะปนในภำษำไทยโดยผำ่ นทำงมลำยู ไดแ้ ก่ ภาษาชวา ภาษาอาหรับ ภาษา เปอร์เซีย โดยเฉพาะภาษาชวา ซ่ึงอยใู่ นตระกลู เดียวกบั ภำษำมลำยู คำภำษำชวำ ส่วนใหญ่จะเขำ้ มำปะปนในภำษำไทยเน่ืองจำกไทยรับวรรณคดี เรื่องอิเหนำ และใชค้ ำภำษำชวำจำนวนมำกในวรรณคดีเร่ืองน้ี

คายืมภาษาชวา-มลายู ภำษำไทยไดร้ ับภำษำชวำ-มลำยมู ำใชอ้ ยำ่ งแพร่หลำยแบ่งเป็นดำ้ นตำ่ ง ๆ ดงั น้ี 1. ใช้เป็ นคาเรียกช่ือพืช เช่น กระดงั งำ ทุเรียน นอ้ ยหน่ำ มงั คุด สำคู 2. ใช้เป็ นคาเรียกช่ือสัตว์ เช่น กะปะ กะพง โลมำ อุรังอุต้งั 3. ใช้เป็ นคาเรียกสิ่งของคาภาษาชวา-มลายู เช่น กำยำนกแุ หละ ปำเตะ๊ สลกั 4. ใช้เป็ นชื่อสถาน เช่น กดุ งั มสั ยดิ เบตง ภูเกต็ 5. ใช้เป็ นคาด้านวฒั นธรรม เช่น ตุนำหงนั บำ้ ป่ ำ บุหงำรำไป บูดู รองเงง็ องั กะลุง 6. ใช้เป็ นคากริยาบางคาในภาษาถ่นิ ปักษ์ใต้ เช่น ตะเบะ๊ 7. ใช้เป็ นคาในวรรณคดเี รื่องอเิ หนา คำยมื ภำษำชวำ-มลำยสู ่วนหน่ึงมำจำกวรรณคดีไทยเรื่องดำหลงั ใน สมยั รัชกำลท่ี ๒ และเร่ืองอิเหนำในสมยั รัชกำลที่ ๒ โดยเฉพำะเร่ืองอิเหนำน้นั ไดร้ ับกำรยกยอ่ งวำ่ เป็นยอด ของกลอนบทละคร เช่น กระยำหงนั (วมิ ำน) คะหมงั (เสนำ) บุหรง (นกยงู ) มะงุมมะงำหรำ (เท่ียวป่ ำ) อสญั แดหวำ (เทวดำซ่ึงเป็นตน้ สกลุ )

คายืมภาษาต่างประเทศ อื่นๆ - เปอร์เซีย กหุ ลาบ คาราวาน ตราชู บดั กรี สักหลาด - โปรตุเกส กะละแม กะละมงั สบู่ เลหลงั ปิ่ นโต - ฝร่ังเศส กงสุล ครัวซองต์ คูปอง แชมเปญ บุฟเฟ่ ต์ - ญปี่ ่ ุน กโิ มโน คาราเต้ ซูโม ยูโด สุกยี้ ากี้ - ทมฬิ กะไหล่ กุลี กานพลู กามะหยี่ อาจาด - อาหรับ กะลาสี การบูร ก้นั หยนั่ กะไหล่ ฝิ่ น - มอญ มะ เม้ย เปิ งมาง พลาย ประเคน - พม่า หม่อง กะปิ ส่วย

งานทม่ี อบหมาย สาหรับ วนั พฤหัสบดี ที่ 7 มกราคม 2564 เกบ็ คะแนนแบบทดสอบ เรื่อง ลกั ษณะภาษาไทย และอทิ ธิพลภาษาต่างประเทศ คะแนนสอบ 10 คะแนน จาก Google Form *กาหนดเวลาส่ง ก่อน 12.00 น. *


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook