ตวั อย่างการออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ยคาอธิบายรายวชิ า - โครงสรา้ งรายวชิ า... วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี ..... - โครงการสอน... รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี...... - การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ที่ - ตวั อยา่ งแผนจดั การเรยี นรู้
ว15101วิทยาศาสตร์ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ น้าหนัก : ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 รายวชิ าพื้นฐาน เวลาเรยี น 120 ช่วั โมง ศกึ ษา วิเคราะห์ สว่ นประกอบของดอกและโครงสรา้ งทเี่ กีย่ วกบั การสืบพนั ธุ์ของพชื ดอก วฏั จกั รชีวิตของพืชและสตั ว์ การขยายพนั ธ์ุพชื และสัตว์ จ้าแนกประเภท ลักษณะของพชื และสัตวใ์ น การศึกษาความแตกต่างของตนเองกับคนในครอบครัว การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ทดลอง อธิบายสมบตั ขิ องวสั ดชุ นดิ ต่างๆ ท่ีมคี วามยืดหยุ่น ความแขง็ ความเหนียว การน้าความร้อน และความหนาแน่น ซงึ่ มีสมบตั บิ างประการแตกตา่ งกัน และการนา้ ไปใช้ในชีวติ ประจา้ วนั ทดลองและ อธิบายการหาแรงลัพธ์ท่กี ระทา้ ต่อวัตถุ ความดนั อากาศ ของของเหลว แรงพยุงของของเหลว การลอยและการจมของวัตถุ และแรงเสียดทาน การเกิดเสยี งและการเคล่อื นทีข่ องเสียงแบบต่างๆ และอันตรายท่ีเกดิ จากเสียง ส้ารวจ ทดลอง และ อธบิ ายการเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง ฝน และลกู เหบ็ วัฏจักรของน้า ลม และการน้าความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจา้ วนั ได้ ออกแบบและสร้างเคร่อื งมืออย่างง่ายในการวัดอุณหภูมิ ความชืน้ และความกดอากาศ ผลการเกิด ลม ฟูา อากาศที่มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของภูมิประเทศและภมู ิอากาศ ของประเทศไทยและประเทศสมาชกิ อาเซียน สังเกตและอธบิ ายการเกดิ ทิศ และปรากฏการณ์การข้นึ -ตก ของดวงดาว การหมุนรอบตัวเองของโลก โดยการใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะและหาความรู้ การสังเกต การส้ารวจ การสบื ค้นและการ คาดการณ์ การบันทกึ ขอ้ มูลในเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ การน้าเสนอผลงานและข้อสรุป การสรา้ งคา้ ถามแสดงความคดิ เหน็ การนา้ เสนอจัดแสดงผลงานโดยวิธีตา่ งๆ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถ ในการตดั สินใจ เหน็ คณุ ค่าของการนา้ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจ้าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรมและคา่ นยิ มที่ เหมาะสม รหัสตัวชี้วดั ว 1.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5ว 1.2ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 ว 3.1ป.5/1, ป.5/2 ว 4.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ว 4.2ป.5/1 ว 5.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ว 6.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ว 7.1ป.5/1 ว 8.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8 รวมทงั้ หมด 34 ตวั ชี้วัด
โครงสรา้ งรายวิชา... วิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี ..... สาระ พนื้ ฐาน เพ่มิ เติม รหสั วชิ า.......ว15101 ..... ชน้ั ....ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5.... ภาคเรยี นท่ี....1......... จา้ นวน......3... หน่วยกติ จ้านวน....3.....คาบ/สปั ดาห์ จ้านวน....120......คาบ/ปี มาตรฐาน / ตัวชวี้ ดั / หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ย สาระสา้ คัญ เวลา คะแนน ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ (คาบ) ว 1.1ป.5/1 1 การด้ารงชวี ติ - พืชดอกเม่ือเจริญเตบิ โตเตม็ ท่จี ะออกดอก เมือ่ 12 10 ว 1.1ป.5/2 ของพชื ดอกไดร้ ับการผสมพันธจ์ุ ะกลายเปน็ เป็นเมล็ด ว 1.1ป.5/3 ผลมเี มลด็ ซึง่ สามารถออกเป็นต้นพชื ตน้ ใหม่ หมนุ เวียนเปน็ วฏั จกั ร - ดอกของพชื โดยทั่วไปประกอบดว้ ย กลบี เลี้ยง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมยี - สว่ นประกอบของดอกท้าหน้าท่เี ก่ยี วกบั การ สืบพนั ธ์ุ ได้แก่ เกสรเพศเมีย ประกอบด้วยรังไข่ ออวลุ และเกสรเพศผู้ ประกอบดว้ ยอบั เรณู และละอองเรณู - พชื ดอกมกี ารสิบพนั ธุท์ ั้งแบบอาศัยเพศและไม่ อาศัยเพศ การขยายพันธพุ์ ชื เพ่ือเพม่ิ ปรมิ าณ และคุณภาพของพืชไดห้ ลายวิธี ไดแ้ ก่ การเพาะ เมล็ด การปกั ชา การตอนกิ่ง การติดตา การ ทาบกง่ิ การเสยี บยอด และการเพาะเมลด็ ว 1.2 ป5/3 2 ความหลาก พืชแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื พชื ดอกกับพชื 3 4 ว 1.2 ป5/4 หลายของพชื ไมม่ ดี อก หากแบง่ พืชดอกโดยใช้ลักษณะ ภายนอกเป็นเกณฑ์จะแบ่งเปน็ พชื ใบเล้ยี งเดี่ยว และพืชใบเลีย้ งคู่ โดยสงั เกตจากราก ลา้ ต้น และใบ รวม 120 100 คะแนนระหว่างเรียน 70 คะแนนสอบปลายปี 30 รวมคะแนนทั้งปี 100
โครงการสอน... รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี ..... สาระ พนื้ ฐาน เพ่มิ เตมิ ภาคเรยี นท่ี....1......... รหสั วิชา........ว15101 ..... ชั้น....ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5.... จา้ นวน....120......คาบ/ปี จา้ นวน.....3... หนว่ ยกิต จ้านวน....3.....คาบ/สัปดาห์ ครผู สู้ อน นางกัญญา แสนสุข สปั ดาห์ท/่ี หน่วยท่ี/ชื่อหน่วย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการ จ้านวน วัน/เดอื น/ปี เรียนรู้/ตัวช้วี ัด ชวั่ โมง 1-4 1/การดา้ รงชีวติ -สว่ นประกอบของดอกและโครงสรา้ งทเ่ี กี่ยวกับ ว 1.1ป.5/1 12 1พค.-12พค. 63 ของพืช -การสบื พันธุ์ของพชื ดอกสตั ว์ ว 1.1ป.5/2 3 -การขยายพันธ์ุพืช ว 1.1ป.5/3 5 2/ความหลาก - ประเภทของพชื แบ่งพชื ดอกโดยใชล้ ักษณะ ว 1.2 ป5/3 15พค.-20 พค.63 หลายของพืช ภายนอกเป็นเกณฑ์ ว 1.2 ป5/4 - พชื ใบเลย้ี งเดย่ี ว และพืชใบเลยี้ งคู่
การออกแบบหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื งศึกษาชีวติ พชื (หนว่ ยที 1การดารงชีวิตของพืช) รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 15 ช่ัวโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ (หน่วยที่1) การด้ารงชวี ิตของพืช 2. เปาู หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.1เข้าใจหน่วยพ้ืนฐานของสิง่ มชี วี ิต ความสัมพนั ธข์ องโครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบต่างๆ ของสงิ่ มีชีวิตที่ ท้างานสมั พนั ธก์ ัน มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอื่ สารส่ิงทีเ่ รียนรูแ้ ละ น้าความรูไ้ ปใช้ในการดา้ รงชีวติ ของตนเองและดูแลส่ิงมีชวี ติ 1.มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 สง่ิ มชี ีวติ กับกระบวนการด้ารงชวี ิต มาตรฐาน ว 1. 1 เข้าใจหน่วยพ้ืนฐานของสง่ิ มีชีวิต ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหนา้ ท่ีระบบต่างๆของสง่ิ มีชวี ติ ที่ท้างาน สมั พนั ธ์กัน มีกระบวรการสืบเสาะหาความรสู้ ือ่ สารสงิ่ ทเี่ รยี นรู้และนา้ ความรูไ้ ปใชใ้ นการด้ารงชวี ิตของตนเองและดูแลส่งิ มีชีวิต ตวั ชีว้ ดั ว 1.1 ป 5/1 สังเกตและระบุส่วนประกอบของดอกและโครงสรา้ งที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธ์ุของพชื ดอก ว 1.1 ป 5/2 อธิบายการสบื พนั ธุข์ องพชื ดอก การขยายพันธ์ุพชื และน้าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ว 1.1 ป 5/3 อธบิ ายวฏั จกั รชีวิตของพืชดอกบางชนดิ 3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด พชื ดอกเมอ่ื เจรญิ เตบิ โตเตม็ ทจ่ี ะออกดอก เมอ่ื ดอกไดร้ ับการผสมพนั ธ์ุจะกลายเปน็ เป็นเมล็ด ผลมเี มล็ด ซ่ึงสามารถออกเปน็ ต้นพืชต้นใหม่หมุนเวยี นเป็นวัฏจักร ดอกของพืชโดยทั่วไปประกอบด้วย กลบี เลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมียส่วนประกอบของดอกทา้ หน้าท่ีเกย่ี วกบั การสบื พนั ธ์ุ ไดแ้ ก่ เกสรเพศเมยี ประกอบด้วยรังไข่ ออวุลและเกสรเพศผู้ ประกอบด้วยอับเรณู และละอองเรณู พืชดอกมกี ารสิบพนั ธทุ์ งั้ แบบอาศยั เพศและไมอ่ าศัยเพศ การขยายพันธ์ุพชื เพื่อเพิ่มปรมิ าณและคุณภาพของพชื ได้หลายวธิ ี ไดแ้ ก่ การเพาะเมล็ด การปกั ชา การตอนกง่ิ การตดิ ตา การทาบกิ่ง การเสียบยอด และการเพาะเมลด็ 4. สาระการเรยี นรู้ 1 ดา้ นความรู้ - พืชและสว่ นประกอบของพืช ขยายพันธ์ุพชื พืชใบเลยี้ งคูแ่ ละพืชใบเล้ียงเด่ยี ว - สว่ นประกอบของดอกและโครงสร้างท่เี ก่ยี วข้องกบั การสบื พันธุ์ของพืชดอก - การสบื พันธุข์ องพืชดอก การขยายพันธพ์ุ ืช และนา้ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ - อธิบายวัฏจกั รชวี ติ ของพชื ดอกบางชนิด 2 ดา้ นทกั ษะ/ กระบวนการ/กระบวนการคิดทักษะการวเิ คราะห์ - สา้ รวจ สืบค้นหนา้ ท่ีของสว่ นประกอบตา่ งๆของดอก - ทดลองและอธิบายการขยายพันธุ์พชื ทส่ี นใจ 3. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการจ้าแนก
4. สมรรถนะส้าคัญของผ้เู รยี น 4.1นกั เรียนมคี วามความสามารถในการสื่อสาร 4.2 นักเรียนมีความความสามารถในการคิด 4.3 นกั เรยี นมีความความสามารถ ในการแกป้ ญั หา 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 นกั เรียนมีความสนใจ ใฝุเรียนรู้ 5.2 นกั เรียนมีความมุ่งมน่ั ในการทา้ งาน 5. ชิน้ งาน/ภาระงาน - การทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน - บันทึกการทา้ กิจกรรมเร่ืองสว่ นประกอบของดอกและโครงสร้างทเี่ กย่ี วข้องกับ การสืบพนั ธุ์ของพืชดอก - บันทึกการทา้ กจิ กรรมเรอ่ื งการสบื พันธุข์ องพชื ดอก การขยายพันธ์ุพชื - บันทึกการทา้ กิจกรรมเรอ่ื ง ว้ฏจกั รชวี ิตของพชื ดอกบางชนดิ 6. การวดั และประเมินผล รายการประเมนิ วิธกี ารประเมนิ เครอ่ื งมือประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบ ได้คะแนนไม่ น้อยกว่าร้อย 1. ด้านความรตู้ ามจุดประสงค์ ทา้ แบบทดสอบ ละ 60 ขน้ึ ไป ใบกิจรรม 2 ด้านกระบวนการปฏิบัติ ทา้ กิจกรรม ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อย กจิ กรรม แบบบันทกึ การสงั เกต ละ 60 ขน้ึ ไป 3.ผลการประเมนิ ด้าน การสงั เกต ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - แบบบันทึกการสังเกต เกณฑ์ 4.ผลการประเมนิ ทกั ษะ/ - การสังเกตพฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น กระบวนการ/กระบวนการ - น้าเสนอปาู ยนเิ ทศ/การ - นา้ เสนอปูายนิเทศ/การ เกณฑ์ ทางวิทยาศาสตร์ - ปฏบิ ตั ิการทดลอง -ปฏบิ ตั ิการทดลอง - แสวงหาแหล่งขอ้ มลู /คะแนน -แสวงหาแหล่งข้อมูล/ ทกั ษะ - -คะแนนทกั ษะกระบวนการ กระบวนการทางวิทยาศาสตร/์ ทางวทิ ยาศาสตร์/การท้างาน การทา้ งานกลุม่ ของนักเรยี น กลมุ่ ของนกั เรียน
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบการประเมนิ ตามตัวบ่งช้ี ของพฤตกิ รรมการจัดกระทาและรนะดาับเสคนะแอนปน้ายนิเทศ ตัวบ่งช้ี 3 2 1 ( ต่้ากวา่ 5 คะแนน) ( 8-10 คะแนน) ( 5-7 คะแนน) จัดปูายนเิ ทศได้แต่ ไมส่ อดคลอ้ งกบั หวั ข้อที่ การจดั กระทา้ และน้าเสนอ รวมรวมข้อมลู และจดั ปาู ยนเิ ทศ รวมรวมข้อมลู และจัดปาู ย กา้ หนด ปูายนิเทศ ได้สมั พนั ธก์ ัน และถกู ตอ้ งตาม นเิ ทศได้ มกี ารนา้ เสนอ หัวข้อท่กี ้าหนด มคี วามสวยงาม ข้อมูลให้เห็นถึง มีความคิดสรา้ งสรรค์ และมกี าร ความสัมพนั ธก์ ับหวั ขอ้ ท่ี เชือ่ มโยงให้เหน็ เปน็ ภาพรวม กา้ หนด มจี ินตนาการ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ/ ระดับคุณภาพ คะแนน 8-10 คะแนน ได้ระดบั คณุ ภาพ ดี คะแนน 5-7 คะแนน ได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน ตา้่ กว่า 5 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น ได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขน้ึ ไป
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบการประเมิน ตามตัวบ่งชข้ี องพฤตกิ รรมการปฏิบัติการทดลอง ระดับคะแนน ตวั บ่งช้ีทกั ษะการ 32 1 ปฏิบตั ิการทดลอง (ต้า่ กว่า 5 คะแนน) 1. การทดลองตาม (8-10 คะแนน) (5-7 คะแนน) ทดลองตามวธิ ีการและขั้นตอน แผนทก่ี า้ หนด ที่ กา้ หนดไว้หรอื ด้าเนินการข้าม ทดลองตามวธิ ีการและ ทดลองตามวธิ ีการและ ข้นั ตอนทกี่ า้ หนดไวไ้ มม่ ีการ 2. การใช้อปุ กรณ์และ/ ปรบั ปรุงแก้ไข หรอื เครอื่ งมอื ข้ันตอนทก่ี า้ หนดไว้อย่างถูกตอ้ งมี ขั้นตอนทก่ี ้าหนดไวโ้ ดยครูเปน็ ผู้ ใช้อุปกรณ์และ/หรือเคร่ืองมือ ไม่ถูกต้อง 3. การบันทกึ ผลการ การปรบั ปรงุ แกไ้ ขเป็นระยะ แนะน้าในบางส่วนมีการปรับปรุง ทดลอง บนั ทึกผลไม่ครบไมม่ ีการระบุ แกไ้ ขบ้าง หนว่ ยและไมเ่ ป็นไปตามการ 4. การจัดกระทา้ ทดลอง ขอ้ มูลและการน้าเสนอ ใช้อปุ กรณ์และ/หรอื เครอื่ งมือใน ใชอ้ ุปกรณ์และ/หรือเครอ่ื งมอื ใน ไม่มกี ารจัดกระท้าข้อมูลและมี การน้าเสนอไม่ส่อื ความหมาย 5. การสรปุ ผลการ การทดลองได้อย่างคล่องแคล่วและ การทดลองได้อย่างถูกต้องตาม และไมช่ ัดเจน ทดลอง สรปุ ผลการทดลองได้ตาม ถูกต้องตามหลักการปฏิบตั ิ หลกั การปฏบิ ัติแต่ไมค่ ล่องแคล่ว ความคดิ เหน็ โดยไม่ใชข้ อ้ มลู 6. การดูแลและการเกบ็ จากการทดลอง อุปกรณ์และ/หรอื บนั ทึกผลเป็นระยะอยา่ ง บันทึกผลเปน็ ระยะไม่ระบุหน่วยไม่ ไม่ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครอื่ งมือ เครอ่ื งมือในการทดลอง ถกู ต้องมรี ะเบียบและเป็นไปตาม เป็นระเบียบและเป็นไปตามการ และไม่สนใจท้าความสะอาด รวมทงั้ เก็บไม่ถกู ต้อง การทดลอง ทดลอง จดั กระทา้ ขอ้ มูลอย่างเป็นระบบและ จดั กระทา้ ขอ้ มูลอย่างเป็นระบบ นา้ เสนอด้วยแบบตา่ งๆอย่างชัดเจน น้าเสนอด้วยแบบต่างๆแตย่ งั ไม่ ถกู ต้อง ถูกต้อง สรุปผลการทดลองได้อยา่ งถูก ต้อง สรุปผลการทดลองได้ถูกต้องแตย่ ัง กระชับชัดเจนและครอบคลุมขอ้ มูล ไม่ครอบคลุมขอ้ มลู จากการ จากการวิเคราะห์ทัง้ หมด วิเคราะห์ทัง้ หมด ดแู ลอุปกรณ์และ/หรือเคร่ืองมือใน ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื เคร่ืองมือใน การทดลองและมีการท้าความ การทดลองและมีการท้าความ สะอาดและเก็บอย่างถูกต้องตาม สะอาดแต่เกบ็ ไมถ่ ูกต้อง หลกั การ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบการประเมนิ ตามตัวบง่ ชี้ของพฤติกรรมการแสวงหาแหลง่ ข้อมลู ของนักเรียน ตัวบง่ ชที้ ักษะการ 3 ระดบั คะแนน 1 แสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล (8-10 คะแนน) 2 (ต่า้ กว่า 5 คะแนน) 1. การวางแผน มกี ารวางแผนที่จะคน้ คว้า มีการวางแผนท่จี ะคน้ คว้า ค้นควา้ แหลง่ ขอ้ มลู แหลง่ ข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ท่ี (5-7 คะแนน) แหลง่ ข้อมลู เพียงแหล่งเดียว หลากหลายเชอื่ ถือได้ มกี ารวางแผนทจ่ี ะคน้ คว้า และได้ขอ้ มูลทีต่ รงตาม 2. การเก็บรวบรวม แหล่งขอ้ มูลจากแหล่งการ จุดประสงค์ ขอ้ มลู มกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลตามแผนที่ เรียนรูด้ ้วยหลากหลายวธิ ี มกี ารบนั ทกึ ขอ้ มูลเปน็ ระยะ 3.การจัดกระท้าขอ้ มลู กา้ หนดทุกประการ มีการคัดเลอื กและ/หรือ ไมม่ กี ารจัดกระทา้ ข้อมูล 4. การน้าเสนอขอ้ มูล มีการจดั กระท้าขอ้ มูลอยา่ งเป็น ประเมินขอ้ มลู ระบบแยกแยะขอ้ มลู และจัดกลุ่ม มีการจดั เรียงล้าดับขอ้ มลู 5. การสรปุ ผล ขอ้ มลู อยา่ งถูกตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ ง เสนอขอ้ มลู ด้วยแบบนา้ เสนอตา่ งๆ 6. การเขยี น ได้ถกู ตอ้ งกะทัดรดั ชัดเจนและสอ่ื เสนอขอ้ มลู ดว้ ยแบบน้า เสนอ เสนอขอ้ มูลที่ไม่สอ่ื ความหมาย รายงาน ความหมาย สรปุ ผลไดอ้ ยา่ งถกู ต้องกระชบั และ ตา่ งๆแต่ยงั ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกตอ้ งและไม่ชัดเจน ชดั เจนมเี หตุผลท่ีอา้ งองิ จากการ สืบคน้ ได้ สรปุ ผลได้กระชบั กะทดั รดั แต่ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ขอ้ มูลและไม่ เขียนรายละเอียดตรงตาม จดุ ประสงค์ถูกตอ้ งและชัดเจน ไม่ชัดเจน ถกู ตอ้ ง เขยี นรายงานโดยใชภ้ าษา เขียนรายงานโดยส่ือ ถูกต้อง ความหมายได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทาง เกณฑก์ ารให้คะแนน วทิ ยาศาสตร์ 1. ทกั ษะการสังเกต 321 2.ทกั ษะการจ้าแนก ใช้ประสาทสัมผัส อย่าง ใชป้ ระสาทสัมผัส อย่าง ใชป้ ระสาทสัมผสั อยา่ ง ใดอย่างหน่ึงหรอื หลาย ใดอย่างหนึง่ หรอื หลาย ใดอยา่ งหน่ึงหรือหลาย อย่าง เพือ่ หาขอ้ มลู หรือ อย่าง เพือ่ หาขอ้ มูล หรือ อย่าง เพ่อื หาขอ้ มลู หรือ รายละเอียดของสง่ิ ต่าง ๆ รายละเอยี ดของส่ิงต่าง ๆ รายละเอยี ดของสง่ิ ต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถ้วน ไดถ้ กู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ ไดถ้ กู ตอ้ งเปน็ บางสว่ น การแบง่ พวก หรอื การแบ่งพวก หรอื การแบง่ พวก หรอื เรียงลา้ ดับวตั ถุหรือสง่ิ ที่ เรยี งล้าดบั วัตถหุ รอื ส่งิ ท่ี เรยี งลา้ ดบั วัตถหุ รือสิ่งท่ี อยใู่ นปรากฏการณ์ โดย อยใู่ นปรากฏการณ์ โดย อยู่ในปรากฏการณ์ โดย ใช้เกณฑ์ ความเหมือน ใช้เกณฑ์ ความเหมือน ใชเ้ กณฑ์ ความเหมือน ความแตกต่างหรอื ความแตกต่างหรือ ความแตกต่างหรอื ความสัมพันธอ์ ย่างใด ความสมั พนั ธ์อยา่ งใด ความสมั พันธอ์ ย่างใด อย่างหนง่ึ ได้ถกู ต้อง อย่างหนง่ึ ได้ถกู ต้อง อย่างหน่งึ ได้ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ สมบรู ณ์ไดถ้ ูกต้องเป็น สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องเป็นบางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ/ ระดับคณุ ภาพ คะแนน 8-10 คะแนน ได้ระดบั คุณภาพ สูง ปานกลาง คะแนน 5-7 คะแนน ได้ระดับคณุ ภาพ ต้า่ คะแนน ต้า่ กว่า 5 คะแนน ได้ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การผ่าน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ ปานกลาง ขึ้นไป
แบบบนั ทึกการให้คะแนนแบบประเมินการประเมินพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ คา้ ช้แี จง แบบส้ารวจฉบบั น้ี ใหน้ กั เรียนส้ารวจการทา้ งานกลุ่ม เพอื่ เป็นแนวทางในการปรับปรุง พฤตกิ รรมการท้างานกลุ่มของตนเองให้มปี ระสิทธภิ าพสงู ขึ้น ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไปโปรดเตมิ ค้าในข้อความในช่องวา่ งใหส้ มบรณู ์ ชอื่ กลมุ่ ที่ ...... สา้ รวจคร้งั ที่ ...... ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ... เร่ือง............................................. วันท่ี ..... เดอื น...................พ.ศ.....................เวลา ................. รายชื่อสมาชกิ ในกลมุ่ 1. ......................................................2. ............................................... 3..................................... ...............4.................................................. ตอนท่ี 2 ความคดิ เห็นเก่ียวกับพฤติกรรมการทา้ งานกลมุ่ ใหน้ ักเรียนส้ารวจโดยเขียนเครือ่ งหมาย / ลงในช่องตรงกบั ความคิดเหน็ ของนกั เรียน รายการพฤติกรรม การปฏิบตั ิ สมา้่ เสมอ บางครัง้ ไม่เคย 1. จัดกลมุ่ อยา่ งรวดเร็วและไม่สง่ เสียงดัง 2. จดั แบง่ หนา้ ที่และเปล่ยี นหน้าทีก่ ันท้างาน 3. ตั้งใจท้างานกลุ่มไม่เดินไปมา 4. พดู คุยกันเสียงดังเฉพาะในกล่มุ 5. มีการตรวจสอบขอ้ มูลโดยซักถามจนเพือ่ น ๆ ในกลุ่มเข้าใจตรงกันทกุ คน 6. ทกุ คนในกล่มุ ช่วยกันแสดงความคิดเหน็ เพ่อื หาค้าตอบที่ดที สี่ ดุ 7. สมาชิกทกุ คนมีความสามคั คีและชว่ ยเหลือกนั เมอ่ื มีปัญหา 8. การท้างานของกลุ่มเสร็จเรียบร้อยตามเวลาทก่ี า้ หนด 9. ทุกคนมคี วามกระตอื รอื รน้ ท่จี ะชว่ ยเหลอื งานของกลมุ่ 10. เม่อื มปี ญั หาจะซักถามครูเมื่อสมาชิกทกุ คนในกลุ่มไมเ่ ข้าใจ และทา้ ไม่ได้ ผลการประเมนิ ได้คะแนนรวม.......คะแนนพฤตกิ รรมในการทา้ งานกลุ่มของสมาชกิ อยู่ในระดบั ...... การประเมนิ การท้างานกลุ่ม ใชเ้ กณฑ์การประเมินดงั น้ี คะแนน การแปลผล 18 – 20 พฤตกิ รรมในการทา้ งานกลมุ่ ของสมาชกิ อยใู่ นระดับดีมาก 15 – 17 พฤติกรรมในการท้างานกลุ่มของสมาชกิ อยใู่ นระดบั ดี 10 – 14 พฤติกรรมในการท้างานกลุ่มของสมาชิกอยูใ่ นระดับดีพอใช้ ต่้ากวา่ หรือเท่ากับ 9 ตอ้ งปรับปรุงพฤติกรรมในการท้างานของกลุ่ม
7.การจัดการเรยี นรู้ โดยดาเนนิ การ ดังน้ี 1. สังเกตส่วนประกอบของดอกไม้ที่เก่ยี วข้องกบั การสบื พนั ธ์ไุ ด้ 2. ศึกษาและระบุโครงสร้างของพชื ดอกทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการสบื พนั ธุไ์ ด้ 3. ท้ากจิ กรรมเพ่อื ศกึ ษาการถา่ ยเรณขู องพืชและการปฏสิ นธไิ ด้ 4. สังเกตและอธบิ ายการสืบพนั ธแุ์ บบอาศัยเพศของพืชดอกได้ 5. ศกึ ษา อธบิ าย วเิ คราะห์ความแตกต่างระหว่างการถา่ ยเรณกู บั การปฏสิ นธิได้ 6. ศกึ ษา อธิบายการทา้ กิจกรรมการขยายพันธ์ุของพืชโดยวธิ ีด้วยการเพาะเมล็ดการปักชา้ การตอนกงิ่ การติดตา การทาบกิง่ การเสยี บยอด และการเพาะเล้ยี งเนอ้ื เย่อื 8.สื่อ / แหล่งเรยี นรู้ 3 ต้นพชื และดอกไม้ชนดิ ตา่ งๆแว่นขยาย กระดาษสีดา้ 4 ใบกจิ กรรม/ใบความรู้ 5 การเพาะเมลด็ มปี ุย๋ คอก เมลด็ พืช ภาชนะหรือแปลงผัก 6 การตอนกง่ิ มตี ้นมะนาว มดี ควน่ั ตมุ้ ตอน เชอื ก 7 การทาบกง่ิ ก่งิ พันธ์ุ พลาสตกิ พัน เชอื ก มดี 8 การติดตา ตน้ ตอ มีด พลาสตกิ พนั เชอื ก แผน่ ตาพืช 9 การเสยี ดยอด ต้นตอ มีด พลาสตกิ พนั เชือก กิง่ ยอดพนั ธดุ์ ี 10 การปกั ชา้ มีดปบลายแหลม กิง่ ปักช้า เ- 11. เมล็ดบ้งุ หรอื เมลด็ ถ่ัวเขียวถุงพลาสติก เวลาเรยี น/จานวนช่วั โมง 15 ช่ัวโมง
ตวั อยา่ งแผนจดั การเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ า ว 15101 วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่ือง ศึกษาชวี ิตพืช เวลา 15 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรยู้ อ่ ยท่ี 1 เรอื่ ง ส่วนประกอบของดอกและ โครงสร้างการสืบพันธ์ุ เวลา 2 ช่ัวโมง ของพชื ใช้สอนวนั ท.่ี ........เดือน................................พ.ศ.. .....................เวลา.................................น. 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 ส่ิงมชี วี ติ กับกระบวนการดา้ รงชีวิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหนว่ ยพนื้ ฐานของสงิ่ มชี วี ติ ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทรี่ ะบบตา่ งๆของสิ่งมีชีวติ ท่ี ท้างานสัมพันธก์ ัน มกี ระบวรการสืบเสาะหาความรู้สอื่ สารสิง่ ท่ีเรยี นรู้และน้าความรไู้ ปใช้ในการด้ารงชวี ติ ของตนเองและดแู ล ส่ิงมีชีวิต ตวั ช้ีวดั ว 1.1 ป 5/1 สังเกตและระบสุ ่วนประกอบของดอกและโครงสร้างทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การสบื พันธ์ขุ องพืชดอก 2. สาระการเรยี นรู้ - ระบสุ ว่ นประกอบและหนา้ ท่ขี องพชื ดอก - โครงสร้างของพชื ดอกท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การสบื พนั ธ์ุ 3. สาระสาคญั พชื ดอกประกอบด้วย กลีบเลยี้ ง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซึ่งเปน็ โครงสรา้ งที่เกีย่ วขอ้ ง กบั การสบื พนั ธ์ุ ของพชื ดอก 4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ชี้วัด 1) ดา้ นความรู้ 1.1 ระบุส่วนประกอบและหน้าทข่ี องพืชดอกได้ถูกตอ้ ง 1.2 โครงสร้างของพชื ดอกทีเ่ กี่ยวข้องกบั การสบื พันธุ์ได้ 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ - ท้ากิจกรรมกิจกรรมท่ี 1.1-1.2 ส่วนประกอบและหน้าท่ขี องดอก - ท้ากจิ กรรมท่ี 1.3-1.6 การจ้าแนกสว่ นประกอบดอกของพืช จา้ แนกดอกของพชื โดยใช้ส่วนประกอบ เป็นเกณฑ์ และใชเ้ พศเป็นเกณฑ์ และสืบคน้ ข้อมลู สว่ นประกอบและการจ้าแนก พืชดอกได้ - ทา้ แบบฝกึ การคิด เรอื่ ง หนา้ ที่และสว่ นประกอบของดอก และฝึกคดิ ...ปริศนาวิทยาศาสตรเ์ รื่อง หน้าที่ ของดอกได้
3. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. นักเรยี นมีความสนใจ ใฝุเรยี นรู้ 2. นกั เรยี นมีความม่งุ มัน่ ในการท้างาน 4. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1 ทักษะการสงั เกต 2 ทกั ษะการจา้ แนก 3 ทักษะการลงความเห็นจากข้อมลู 4 การน้าเสนอข้อมูลหน้าช้นั เรยี น 5 พฤติกรรมในกระบวนการกล่มุ 5.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 การสรา้ งความสนใจ - ทดสอบกอ่ นเรยี น ทา้ ขอ้ สอบปรนัย 10 ขอ้ 1.1 นักเรียนดูภาพดอกไม้ หรือดอกไม้ ท่นี า้ มาใหศ้ กึ ษาและรว่ มกนั สนทนาจากภาพดงั นี้ นักเรียนเห็นส่วนประกอบสว่ นใดบา้ งของดอกไม้ 1.2 นกั เรียนดดู อกไม้จรงิ 2-3 ชนิดท่ีน้ามาแล้วรว่ มกันบอกว่าดอกไม้มสี ว่ นประกอบใดบ้าง 1.3 ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นกั เรียนได้ทราบว่าการเรียนรู้ในครั้งน้ีเป็น การเรียนรู้เกี่ยวกับ การสังเกต ส่วนประกอบของดอกไมท้ เ่ี กี่ยวข้องกับการสืบพนั ธไ์ุ ด้ และระบุโครงสรา้ งของพชื ดอกทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับการสบื พันธุไ์ ด้ ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นคว้า 2.1 แบ่งกลุ่มนักเรยี น กลมุ่ ละ4-6 คน โดยคละความสามารถและเพศ แบ่งหน้าทรี่ ับผดิ ชอบงานกล่มุ ตวั แทน กลมุ่ ออกมารบั ใบกิจกรรมท่ี 1 สว่ นประกอบของดอกและ โครงสร้างการสืบพนั ธ์ุของพชื 2.2 ให้นักเรียนรว่ มกนั ศกึ ษาภาพจากใบกจิ กรรมสว่ นประกอบ แล้วครูซกั ถามตามประเด็นดังน้ี ดอกไม้ทุกชนดิ มีสว่ นประกอบครบท้ัง 4 สว่ นหรือไม่ (ตอบไมท่ ุกชนิดดอกไม้บางชนิดอาจไมม่ ีส่วนประกอบสว่ นใดส่วนหน่ึง) ส่วนประกอบใดของดอกไมท้ ่ีใช้ในการสืบพันธ์ุ (ตอบเกสรตัวผแู้ ละเกสรตวั เมีย) ดอกไม้ทม่ี ีลักษณะของส่วนประกอบแตล่ ะส่วนแตกตา่ งกันเช่นมสี ีของกลบี ดอกไมเ่ หมอื นกัน มีลกั ษณะเกสรเพศผแู้ ละเกสรเพศเมียตา่ งกันจะสามารถใช้ดอกสืบพันธ์ุไดเ้ หมือนกนั หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบสามารถใชด้ อกสืบพนั ธุ์ไดโ้ ดยการถา่ ยละอองเรณจู นเซลลส์ บื พนั ธุ์เพศผ้ผู สมกบั เซลลส์ บื พันธเ์ุ พศเมียและ เกิดการปฏิสนธ)ิ 2.3 ให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาการท้ากจิ กรรมที่ 1.1 -1.6 หนา้ 11-16 แลว้ บนั ทึกผล
ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ 3.1 ให้แต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมาน้าเสนอผลการสา้ รวจหนา้ ชั้น 3.2 ให้แต่ละกลมุ่ บนั ทึกผลการสา้ รวจดอกไมข้ องเพือ่ นกล่มุ อื่นท่ไี มซ่ ้ากบั กล่มุ ของตนเองดว้ ย 3.3 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ วา่ มดี อกไม้ต่างชนิดกันท่นี า้ มาส้ารวจทั้งหมดก่ีชนิดเปน็ ดอกไม้ชนิดใดบา้ ง 3.4 ให้นกั เรยี นนา้ ขอ้ มลู การส้ารวจมาร่วมกันสรปุ วา่ มีดอกไมท้ ม่ี สี ว่ นประกอบครบทง้ั 4 สว่ นหรอื ไม่เป็นดอกอะไรบ้าง มีดอกไมท้ ี่มีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมยี อยู่ในดอกเดียวกนั หรอื ไมเ่ ป็นดอกอะไรบ้าง มดี อกไมท้ ีม่ เี กสรเพศผู้หรือเกสรเพศเมียเพยี งอย่างเดียวหรือไม่เป็นดอกอะไรบ้าง ขนั้ ท่ี 4 ขยายความรู้ 4.1 นักเรยี นรว่ มกันศกึ ษากจิ กรรม แบบฝกึ การคดิ หนา้ ท่ี และสว่ นประกอบของดอก และฝึกคิด...ปริศนา วทิ ยาศาสตรเ์ ร่อื ง หน้าท่ีของดอก 4.2 แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั นา้ กจิ กรรมและบันทึกผลการทา้ กิจกรรม น้ามาจดั ปูายนเิ ทศ ขนั้ ที่ 5 การประเมนิ 5.1. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งแบบบนั ทกึ ผลการท้ากจิ กรรม หากไมท่ นั ทา้ นอกเวลาเรียน 5.2 ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังน้ี สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทา้ งานรว่ มกัน สังเกตการ ตอบค้าถามของนกั เรียนในช้ันเรียน ประเมินการท้าใบกจิ กรรมของนกั เรยี น ทดสอบหลงั กอ่ นเรียน ทา้ ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ 6. ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้ - ใบกจิ กรรม ส่วนประกอบของดอกและ โครงสร้างการสืบพนั ธข์ุ องพชื ดอก - ใบความรู้ สว่ นประกอบของดอกและ โครงสรา้ งการสบื พันธขุ์ องพชื ดอก - วสั ดุ อปุ กรณ์ และสารเคมี - ดอกไม้ 5 ชนดิ /กลมุ่ - แว่นขยาย 1 อนั /กลมุ่ 7. กิจกรรมเสนอแนะ - 8. ชิ้นงาน/ภาระงาน - ทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน - ใบกิจกรรม 9. การวดั และประเมินผล รายการประเมนิ วิธกี ารประเมิน เครอ่ื งมือประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนไม่ร้อยละ 60 ข้นึ ไป 1. ด้านความรตู้ ามจุดประสงค์ ทา้ แบบทดสอบ แบบทดสอบ ได้คะแนนไม่ร้อยละ 60 ขึ้นไป ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 2 ดา้ นกระบวนการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ท้ากิจกรรม ใบกิจรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. ผลการประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง การสังเกต แบบบันทึกการ ประสงค์ สังเกต 4. ผลการประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ/ การสังเกต แบบบนั ทกึ การ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สงั เกต 10. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหวั หน้างานบริหารวิชาการ ได้ทา้ การตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ของนางกญั ญา แสนสขุ แลว้ มคี วามคิดเห็น ดงั นี้: 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมได้นา้ เอากระบวนการเรียนรู้ ทเี่ นน้ ผเู้ รียนเป็นส้าคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ท่ยี ังไม่เน้นผ้เู รยี นเป็นส้าคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ นา้ ไปใช้ได้จรงิ ควรปรับปรุงก่อนนา้ ไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ........................................................................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................................................................................ ลงชอื่ (นางกญั ญา แสนสุข) หัวหน้างานบรหิ ารวชิ าการโรงเรยี นบ้านมะรอื โบตก วนั ท่ี..........เดอื น...................…..พ.ศ….................. ความคดิ เห็นของผบู้ รหิ าร/ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ..................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ผู้ตรวจสอบ (นายบญุ ชว่ ย เพช็ รมณี) ผูอ้ า้ นวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก วันที.่ ......เดอื น.................. …..พ.ศ…....................
บนั ทกึ ผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว15101 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนว่ ยการเรียนรยู้ ่อยที่ 1 ส่วนประกอบของดอกและ โครงสร้างการสบื พนั ธขุ์ องพชื 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการจดั การเรียนการสอนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ่ตู ัวชี้วัด (นกั เรยี นทงั้ หมด .... คน) นักเรยี นมีผลการประเมนิ ระดบั ดีมาก.....-..... คน คิดเป็นรอ้ ยละ.........- ......... นกั เรียนมผี ลการประเมนิ ระดับด.ี .........-.......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..........-........ นักเรียนมีผลการประเมินระดับพอใช.้ .....-....... .คน คดิ เป็นร้อยละ.........-.......... นักเรยี นมีผลการประเมนิ ระดบั ปรับปรุง....-..... คน คิดเป็นรอ้ ยละ.........-.......... 1.2 ผลการประเมนิ ด้านกระบวนการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมิน…………………คน คิดเป็นร้อยละ.......-............ นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ …..…-.……..…คน คิดเป็นรอ้ ยละ.......-............ 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ………-……..…คน คดิ เป็นร้อยละ......-............ นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ……-.…….... คน คดิ เป็นร้อยละ........-........... 1.4 ผลการประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ …………….….คน คิดเป็นรอ้ ยละ.......-.... .. นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน.......-............คน คิดเป็นร้อยละ......-............. 2. ปัญหาอปุ สรรค …......................................................... ไม่มี…………….....................………………………………….….…………. 3. การปรับปรงุ แกไ้ ข ……………………………………..……………………ไม่ม…ี ……………………………………………………………………………… 4. ขอ้ คิดเหน็ เพมิ่ เติม / ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม .......………………………………………………… ไมม่ ี……………..…………………….………………………………………… ลงช่อื ผสู้ อน (นางกัญญา แสนสชุ ) ครู โรงเรยี นบ้านมะริอโบตก วนั ท่ี………..เดือน….................................พ.ศ...2563......
ภาคผนวก
บตั รขนั้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรม เร่อื ง สว่ นประกอบของดอกและโครงสรา้ งการสืบพนั ธุข์ องพืชดอก ประเด็นปัญหา ดอกของพืชแต่ละชนดิ มีสว่ นประกอบและโครงสรา้ งการสืบพันธ์ุ ของพชื ดอกแตกตา่ งกันหรอื ไม่ ขัน้ ตอนการทากจิ กรรม เมอื่ นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ เรียบร้อยแล้ว ใหป้ ฏิบตั ิกจิ กรรมดงั นี้ ใหศ้ กึ ษาบัตรกิจกรรม เร่อื ง สว่ นประกอบของดอก และโครงสร้างการสบื พันธ์ุ ของพชื ดอก ตามวธิ ีทา้ ดังนี้ 1) แบ่งกลุ่ม และท้ากิจกรรมที่ 1.1-1.6 ตามล้าดบั แบบฝกึ การคิด หนา้ ทแ่ี ละ ส่วนประกอบของดอกและ ฝึกคดิ ...ปรศิ นาวทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง หน้าท่ีของดอก โดยปฏิบตั ิตามคา้ สง่ั ในแตล่ ะกจิ กรรม 2) นา้ ผลการส้ารวจมาเปรยี บเทยี บกับกล่มุ อนื่ 3) เลขานกุ ารกล่มุ บนั ทกึ ผลการศกึ ษา ค้นควา้ ลงในแบบบันทกึ ผล 4) ส่งตวั แทนกลุ่มนา้ เสนอผลการศกึ ษา ค้นคว้าหน้าช้ันเรยี น 5) เกบ็ แบบบนั ทึกผลเขา้ แฟมู สะสมงานของกลุ่ม
กิจกรรมท่ี 1.1-1.6 ส่วนประกอบของดอกและโครงสร้างการสืบพันธ์ุของพชื ดอก จดุ ประสงคข์ องการเรยี นรู้ 1. ระบสุ ่วนประกอบและหนา้ ทขี่ องพืชดอกได้ถูกต้อง 2. จ้าแนกสว่ นประกอบของดอกของพชื ดอกได้ 3. จ้าแนกดอกของพชื โดยใช้ส่วนประกอบเป็นเกณฑ์ 4. จา้ แนกดอกของพืชโดยใช้เพศเป็นเกณฑ์
กิจกรรมที่ 1.1 สว่ นประกอบของดอก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1 ระบุสว่ นประกอบของดอกไม้ได้ ค้าชี้แจง ใหน้ กั เรียนสา้ รวจและสงั เกตสว่ นประกอบของดอกไมแ้ ล้วติดส่วนประกอบลงในกรอบให้ถูกตอ้ ง กลีบดอก กลีบเลี้ยง เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้ ช่ือ-สกลุ ......................................................เลขท่ี........ชนั้ ..................................................
กิจกรรมที่ 1.2 ส่วนประกอบและหน้าทีข่ องดอก จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ระบุส่วนประกอบและหนา้ ท่ีดอกของพชื ได้ถูกต้อง คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนใสช่ อ่ื ส่วนประกอบของดอกไมแ้ ล้วบอกหน้าที่ให้ถูกตอ้ ง ตารางบนั ทึกกิจกรรม หนา้ ที่ สว่ นประกอบของดอก ........................................................................................................... กลีบดอก ........................................................................................................... ........................................................................................................... กลีบเล้ียง ........................................................................................................... ........................................................................................................... เกสรเพศเมีย ........................................................................................................... ........................................................................................................... เกสรเพศผู้ ........................................................................................................... ชื่อ-สกุล......................................................เลขท่ี........ช้ัน..................................................
กิจกรรมท่ี 1.3 การจาแนกส่วนประกอบดอกของพืช จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - จา้ แนกส่วนประกอบของดอกไม้ของพชื ได้ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนส้ารวจและสงั เกตสว่ นประกอบของดอกไม้ 5 ชนดิ แล้วบนั ทึกผลการศึกษาลงในตาราง พรอ้ มทั้งตอบคา้ ถามให้ถูกตอ้ ง ตารางบนั ทึกกิจกรรม สว่ นประกอบของดอกไม้ ช่อื ดอกไม้ กลบี ดอก กลบี เลี้ยง เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมยี คาถามประกอบกิจกรรม 1. ดอกสมบรูณ์หรอื ดอกครบสว่ นไดแ้ ก่....................................................................................... 2. ดอกไมส่ มบรณู ห์ รือดอกไม่ครบส่วนไดแ้ ก.่ .............................................................................. 3. ดอกสมบรูณเ์ พศไดแ้ ก.่ ............................................................................................................ 4. ดอกไมส่ มบรูณ์เพศได้แก่............................................................................................................. ชื่อ-สกลุ ......................................................เลขท่ี........ช้ัน..................................................
กจิ กรรมที่ 1.4 การจาแนกดอกของพืชโดยใช้สว่ นประกอบเป็นเกณฑ์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - จา้ แนกดอกของพืชโดยใช้ส่วนประกอบเปน็ เกณฑ์ คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเขียนแผนผงั ความคดิ การจ้าแนกดอกของพืชโดยใช้ส่วนประกอบเปน็ เกณฑ์ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................................... ............................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. ........................ ดอกครบส่วน/ดอกสมบรณู ์ การจาแนกดอกของพชื โดยใช้สว่ นประกอบเปน็ เกณฑ์ ดอกไมค่ รบส่วน/ดอกไม่สมบรูณ์ ได้แก่....................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................................. ....................... ..................................................................................................................................................... ชื่อ-สกลุ ......................................................เลขที่........ช้ัน..................................................
กจิ กรรมที่ 1.5 การจา้ แนกดอกของพืชโดยใชเ้ พศเป็นเกณฑ์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - จ้าแนกดอกของพืชโดยใช้เพศเป็นเกณฑ์ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคิดการจ้าแนกดอกของพชื โดยใช้เพศเป็นเกณฑ์ ได้แก่....................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. ........................ ดอกสมบรูณ์เพศ การจาแนกดอกของพืช โดยใชเ้ พศเปน็ เกณฑ์ ดอกไมส่ มบรณู เ์ พศ ได้แก.่ ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................... ..................................................................................................................................................... ช่ือ-สกลุ ...................................................................เลขที่........ชน้ั ...................................
ฝกึ คิด...ปริศนาวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง หนา้ ที่ของดอก 13 2 4 ลี ด ก . . . . 5ง แนวตัง้ เป็นส่วนทีห่ ่อหุ้มดอกอ่อน เปน็ สว่ นของพืชทม่ี ีสสี ันสวยงาม และมกี ล่นิ หอม เป็นสว่ นประกอบของดอกทม่ี ีท้ังตวั ผ้แู ละตัวเมีย แนวนอน เป็นสว่ นประกอบของดอกที่หอ่ หมุ้ เกสร หนา้ ทีข่ องกลบี ดอกคือ.............................. ช่ือ-สกลุ ......................................................เลขท่ี..............ชั้น..................................................
ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื ง สว่ นประกอบและโครงสรา้ งการสบื พนั ธ์ุของพืชดอก สาระสา้ คญั ดอกของพืชประกอบดว้ ยส่วนตา่ งๆที่ส้าคัญ ไดแ้ ก่ กลีบเล้ียง กลีบดอก เกสรตวั ผู้และ เกสรตัวเมยี พืชดอกแต่ละชนดิ มลี กั ษณะและส่วนประกอบแตกต่างกนั พืชดอกบางชนิดมี ส่วนประกอบครบ บางชนิดมสี ว่ นประกอบไมค่ รบ ส่วนประกอบและหนา้ ทข่ี องพชื ดอก ภาพที่ 1 แสดงส่วนประกอบของพืชดอก ทมี่ า: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2556]
ดอกไม้มีสว่ นท่สี า้ คัญ เรยี งกันเปน็ วงตดิ กัน 4 ช้ัน จากวงนอกเขา้ ไปหาวงใน ดงั นี้ 1. กลบี เลย้ี ง กลบี เล้ียงเป็นส่วนท่ีอยนู่ อกสดุ มักมีสเี ขียวคล้ายใบ กลบี เลย้ี งจะช่วยห่อหมุ้ ส่วนทีอ่ ยขู่ ้างในของดอกไว้ ในขณะทดี่ อกยงั อ่อนอยเู่ พ่ือปอู งกนั อนั ตรายจากแมลง ภาพท่ี 2 แสดงกลีบเลยี้ งของพชื ดอก ที่มา: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2556] กลีบดอก เป็นขนั้ ในถดั จากกลีบเล้ียงเข้าไป มกั มีขนาดใหญ่กว่ากลีบเล้ียง มีสตี า่ งๆ เหน็ ได้ชดั เจนทา้ หนา้ ท่ีล่อแมลงให้ มาผสมเกสร ภาพที่ 3 แสดงกลบี ดอกของพืชดอก ทมี่ า: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2556]
เกสรเพศผู้ เปน็ ส่วนทีอ่ ยถู่ ัดจากกลีบดอกเข้าไป เปน็ อวัยวะสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศผู้ขอเกสรตัวผปู้ ระกอบด้วย 3.1) อับละอองเรณู ซง่ึ มีละอองเรณอู ยู่ภายในมลี ักษณะเป็นผงสีเหลอื ง และภายในละอองเรณูมีเซลลส์ ืบพนั ธุ์ 3.2) กา้ นชูอับละอองเรณู ภาพท่ี 4 แสดงส่วนประกอบเกสรเพศผูข้ องดอก ทม่ี า: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2556] เกสรเพศเมยี เกสรตวั เมียเปน็ สว่ นท่อี ยู่ชัน้ ในสุด ท้าหนา้ ท่ีสร้างเซลลส์ ืบพนั ธุเ์ พศเมีย ประกอบด้วย 4.1) ยอด เกสรตวั เมีย คือ ส่วนปลายสดุ ของก้านเกสรตัวเมีย มลี กั ษณะเป็นปุม มีขนหรอื มนี า้ หวานเหนยี วๆ อยู่ 4.2) กา้ นเกสรตวั เมยี คอื ส่วนท่อี ยูต่ อ่ จากยอดเกสรตวั เมยี ลงมา มีลักษณะเปน็ ท่อยาว เรียวลงมาถึงรังไข่ 4.3) รงั ไข่ คือ ส่วนท่อี ยู่ติดกับฐานรองดอกมีลกั ษณะพองโตออกเป็นกระเปาะ 4.4) ออวุล คอื สว่ นทเี่ รียงอยูภ่ ายในรังไขมีลกั ษณะเป็นเมด็ กลม ๆ เล็ก ๆ สีขาวนวล ภาพที่ 5 แสดงสว่ นประกอบเกสรตัวเพศเมียของดอกแค ทีม่ า: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2556]
ใบความรู้ท่ี 2 เร่อื ง การจาแนกประเภทของดอกโดยใชด้ อกและเพศเปน็ เกณฑ์ การแบ่งประเภทของดอกโดยใชก้ ารมหี รอื ไมม่ ีเกสรตวั ผู้และตวั เมียเปน็ เกณฑ์ แบง่ ได้ 2 ประเภท คือ กลบี ดอก ภาพที่ 6 แสดงประเภทของพืชดอกที่ใชด้ อก และเพศเป็นเกณฑ์ ท่มี า: http://student.nu.ac.th/duangjai/lesson5.htm [2562]
1. ดอกสมบูรณเ์ พศ (Perfect flower) หมายถึง ดอกไม้ทีม่ ที ัง้ เกสรตวั ผู้และเกสรตัวเมยี รวมอยู่ในดอกเดยี วกัน เชน่ ดอกมะเขือ ดอกถั่ว ดอกผักบงุ้ ดอกบวั ดอกมะม่วง ดอกแพงพวย เปน็ ต้น ตัวอย่างดอกสมบูรณ์เพศ ดอกบัว ดอกชบา ดอกดาวกระจาย ดอกกลว้ ยไม้ ดอกมะเขอื ดอกพรกิ ภาพท่ี 7 แสดงประเภทพืชดอกสมบรณู เ์ พศ ทม่ี า: https://www.google.co.th/search?q [2563]
2. ดอกไม่สมบูรณ์เพศ (Imperfect flower) หมายถงึ ดอกไม้ท่ีมเี ฉพาะเกสรตัวผหู้ รือเกสรตวั เมยี เพียงอย่างเดยี ว เชน่ ดอกข้าวโพด ดอกบวบ ดอกต้าลึง ดอกฟกั ทอง ดอกแตงกวา เป็นต้น ดอกไมบ้ างชนิดมเี กสรเพยี งอย่างใดอย่างหนึ่ง เทา่ น้นั ซ่ึงเรียกวา่ ดอกไม่สมบรู ณ์เพศเช่น ดอกบวบ ดอก ฟักทอง ดอกตา้ ลึง เป็นต้น ดอกทม่ี แี ตเ่ กสรตวั ผ้รู ียกว่า ดอกตวั ผแู้ ละดอกที่มีแตเ่ กสรตวั เมยี เรยี กวา่ ดอกตัวเมีย ตวั อย่างของดอกไมส่ มบรู ณ์เพศ ดอกไม้บางชนดิ ไมม่ ีกลบี ดอก เชน่ ดอกหน้าวัว ดอกครสิ ต์มาส บางชนดิ มีกลบี ดอกเล็ก ไมเ่ ด่นออก มา เชน่ ดอกเฟอื่ งฟาู ดอกดอนยา่ ดอกไมเ้ หลา่ น้ีจะมีสว่ นทเ่ี ป็นใบเปลีย่ นแปลงไปเหมือนกลบี ดอก ทา้ ใหเ้ ข้าใจผิดคดิ ว่าเปน็ กลบี ดอกได้ ดอกแตงกวา ดอกตา้ ลงึ ดอกมะละกอตวั เพศผู้ ดอกมะละกอตัวเพศเมยี
การแบง่ ประเภทของดอกโดยใช้สว่ นประกอบของดอกเปน็ เกณฑ์ แบ่งได้ 2 ประเภทคือ มี 1. ดอกครบส่วน (Complete flower) หมายถึง ดอกไมท้ มี่ สี ว่ นประกอบครบทุกส่วนคือ กลบี เลีย้ งกลบี ดอก เกสรตัวผู้ และเกสรตวั เมยี เรียงตามลา้ ดบั จากชนั้ นอกสุดเขา้ ไปยงั ชัน้ ในสุด เช่น ดอกแพงพวย ดอกการเวก ดอกชงโค ดอกผักบุ้ง เปน็ ตน้ ดอกมะเขอื ดอกแพงพวย ดอกผกั บุง้ ภาพท่ี 9 แสดงประเภทพชื ดอกครบสว่ น ทมี่ า: https://www.google.co.th/search?q [2563] 2. ดอกไมค่ รบสว่ น (Incomplete flower) หมายถึง ดอกไม้ท่มี สี ว่ นประกอบไม่ครบ ทกุ ส่วน ซ่งึ อาจจะมี ส่วนประกอบสว่ นใดส่วนหนง่ึ ขาดหายไป เชน่ ดอกต้าลึง ดอกแตงกวา ดอกบวบ ดอกข้าวโพด ดอกจา้ ปา ดอกบวบ ภาพท่ี 10 แสดงประเภทพชื ดอกไม่ครบสว่ น ท่ีมา: https://www.google.co.th/search?q [2563
เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรียน และแนวค้าตอบของกจิ กรรม
กิจกรรมท่ี 1 ส่วนประกอบของดอก กลบี ดอก อย่ใู นดุลยพนิ จิ ผสู้ อน กลบี เลย้ี ง เกสรเพศเมยี เกสรเพศผู้
กจิ กรรมท่ี 2 สว่ นประกอบและหน้าทขี่ องดอก เกสรตัวผู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ เกสรตวั เมยี กลีบดอก กลีบเลย้ี ง หน้าที่ ล่อแมลงให้ผสมเกสร ตารางบันทึกกจิ กรรม ห่อหมุ้ และปูองกนั ดอกอ่อน สร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศเมีย สว่ นประกอบของดอก สรา้ งเซลล์สืบพนั ธเ์ุ พศผู้ กลบี ดอก กลีบเลี้ยง เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้
กจิ กรรมที่ 3 การจา้ แนกสว่ นประกอบดอกของพืช ตารางบนั ทึกกจิ กรรม ส่วนประกอบของดอกไม้ เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมยี ช่อื ดอกไม้ กลีบดอก กลบี เลี้ยง ชบา เฟือ่ งฟาู ดาวเรือง มะเขือ มะละกอ คา้ ถามประกอบกจิ กรรม ดอกสมบรณู ห์ รอื ดอกครบส่วนได้แก่ ชบา มะเขือ ดอกไมส่ มบรูณ์หรอื ดอกไม่ครบส่วนไดแ้ ก่ เฟือ่ งฟาู มะละกอ ดอกสมบรูณเ์ พศไดแ้ ก.่ ชบา มะเขือ เฟ่ืองฟาู ดอกไม่สมบรณู ์เพศได้แก่ มะละกอ
กิจกรรมที่ 4 การจา้ แนกดอกของพืชโดยใช้สว่ นประกอบเปน็ เกณฑ์ (ตัวอยา่ งคา้ ตอบ) ได้แก่ ดอกพรกิ ดอกบวั ดอกกุหลาบ ดอกพรู่ ะหง ดอกมะเขือ ดอกครบสว่ น/ดอกสมบรูณ์ การจาแนกดอกของพชื โดยใชส้ ว่ นประกอบเปน็ เกณฑ์ ดอกไม่ครบส่วน/ดอกไมส่ มบรณู ์ ไดแ้ ก่ดอกมะระ ดอกมะพร้าว ดอกบวบ ดอกฟักทอง ดอกตา้ ลึง กจิ กรรมท่ี 5 การจา้ แนกดอกของพืช(ตัวอยา่ งค้าตอบ) ได้แก่ ดอกพูร่ ะหง ดอกบัว ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ดอกมะเขอื ดอกสมบรณู ์เพศ การจาแนกดอกของพืช โดยใชเ้ พศเกณฑ์ ดอกไม่สมบรูณเ์ พศ ไดแ้ ก่ดอก ดอกตา้ ลึง ดอกมะยม บวบ ดอกฟกั ทอง ดอกมะละกอ ดอกข้าวโพด
กิจกรรมท่ี 6 ส่วนประกอบและการจาแนกพืชดอก .1) สว่ นประกอบของเกสรเพศเมียอย่บู นสุดมีลักษณะเปน็ ขน มีนา้ เหนียว ๆ เรยี กว่า ยอดเกสรเพศเมีย 2) เกสรตวั ผ้ปู ระกอบด้วย กา้ นชอู บั ละอองเรณกู ับอบั ละอองเรณู 3) เกสรเพศผู้ คอื เกสรทอี่ ย่ตู รงกลางของดอก . 4) ดอกฟกั ทองเปน็ ดอกทมี่ เี กสรตวั เมยี เกสรตัวผ้อู ยู่ภายในดอกเดียวกัน . 5) ดอกมะเขือ ดอกชบา ดอกข้าว ดอกบวั เปน็ ดอกสมบรณู เ์ พศ 6) ดอก คือ กิ่งหรอื ใบที่เปล่ียนแปลงไป มีหน้าท่ี สืบพนั ธุ์ 7) สว่ นของดอกทใี่ ชใ้ นการสืบพันธ์คุ ือเกสรเพศผแู้ ละเกสรเพศเมยี 8) อบั ละอองเรณู มีสเปริ ม์ ซ่งึ เป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศเมยี 9) กลีบดอก เปน็ ชัน้ ท่อี ย่ถู ัดเขา้ มาจากกลีบเลยี้ ง มหี น้าทีล่ อ่ แมลงให้ เขา้ มาผสมพันธ์ุ 10) เปน็ ดอกครบส่วน
แบบฝึกการคิด หนา้ ทีแ่ ละสว่ นประกอบของดอก คาชี้แจง นักเรียนอา่ นขอ้ ความแลว้ เขยี นค้าตอบลงในผงั มโนทัศนใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ดอกไม้ประกอบดว้ ยสว่ นสา้ คัญ 4 ส่วน คือ กลีบเลี้ยง กลบี ดอก เกสรตวั ผู้ และ เกสรตวั เมยี กลบี เลีย้ งห่อหมุ้ ดอกทย่ี ังออ่ น กลีบดอกชว่ ยลอ่ แมลง เกสรตวั ผู้ทา้ หน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้ และ เกสรตัวเมยี ทา้ หน้าท่สี ร้างเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศเมยี ดังนัน้ ดอกไมจ้ งึ ทา้ หน้าท่ใี นการสบื พนั ธ์ุ การสืบพันธ์ุ ห่อหุ้มกลีบดอก สรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุ เพศเมยี หนา้ ที่ เกสรตวั เมีย กลบี เลยี้ ง ดอกไม้ กลบี ดอก ส่วนประกอบ เกสรตวั ผู้ ชว่ ยล่อแมลง สร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุ เพศผู้
ฝึกคิด...ปรศิ นาวิทยาศาสตร์ เรื่อง หนา้ ท่ีของดอก 13 ก2เ 4 ก ลี บ ด อ ก บอส เ กร ล้ี ไ ย ม้ 5 ล่ อ แ ม ล ง แนวตงั้ 1. เปน็ สว่ นที่หอ่ หมุ้ ดอกออ่ น 2. เป็นส่วนของพชื ทีม่ ีสีสนั สวยงาม และมกี ลน่ิ หอม 3. เปน็ ส่วนประกอบของดอกทม่ี ที ้งั ตวั ผแู้ ละตัวเมีย แนวนอน 4. เป็นสว่ นประกอบของดอกที่หอ่ หมุ้ เกสร 5. หนา้ ท่ีของกลีบดอกคือ..............................
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: