1
2 โครงการพฒั นาเครอื ขา่ ยครูในการพฒั นากจิ กรรมการเรียนรู้ ทม่ี ุ่งส่งเสริมผูเ้ รยี นดา้ นทกั ษะการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ร่วมกับสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา มัธยมศกึ ษา เขต 39 และโรงเรยี นเฉลิมขวัญสตรี ชอ่ื ผลงาน ผลการใชก้ ระบวนการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning เรอ่ื ง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ของนกั เรยี น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 เพื่อสง่ เสริมทักษะการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน (ค22101) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชอ่ื เจ้าของผลงาน นางสาวยพุ ิน แปน้ แอ้น ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเฉลิมขวัญสตรี อำเภอเมือง จงั หวัดพิษณุโลก เบอรโ์ ทรศพั ท์ โรงเรยี น 055-258003 โทรสาร 055-241947ต่อ 201 มือถอื 083-4108298 E-mail [email protected] 1. ความสำคัญและความเป็นมา ในการจดั การศึกษากระทรวงศกึ ษาธิการไดก้ ำหนดพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 หมวด 4 มาตราที่ 22 กล่าววา่ การจัดการศึกษาต้องยดึ หลกั วา่ ผ้เู รยี น ทุกคนมีความสามารถเรยี นรู้และพัฒนาตนเองไดแ้ ละถอื วา่ ผ้เู รยี นมีความสำคัญท่ีสดุ กระบวนการจัดการศึกษา ตอ้ งส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพและมาตราท่ี 24 (1) จดั เน้ือหาสาระ และกิจกรรมใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจและความถนดั ของผเู้ รียน โดยคำนงึ ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล (2) ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชญิ สถานการณ์ และการประยกุ ต์ความรู้มาใช้เพอ่ื ป้องกัน และแก้ไขปญั หาและ (3) จัดกจิ กรรมให้ผ้เู รียน ได้เรยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ ฝึกการปฏบิ ตั ิ ให้ทำได้ คิดเปน็ ทำเปน็ รักการอา่ นและเกดิ การใฝร่ อู้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ท้ังน้สี อดคล้องการสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนมีการพฒั นาศกั ยภาพ ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม ความรู้ ทักษะทางปัญญา ทักษะความสมั พันธร์ ะหวา่ งบุคคลและความรับผิดชอบ และ ทกั ษะการคิดวเิ คราะหเ์ ชิงตัวเลข การสื่อสารและการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ซึ่งคณุ ลักษณะดงั กลา่ วเปน็ ความสามารถของผูเ้ รยี นท่ที ำใหส้ ามารถเรียนรแู้ บบนำตนเองและเรียนรูไ้ ดต้ ลอดชีวติ
3 Active Learning เปน็ แนวคดิ ค่อนข้างใหม่ในการปฏิรูประบบการศึกษาแบบเดิมท่เี น้นการถ่ายทอด ความรจู้ ากผู้สอนสผู่ ู้เรียนโดยตรง โดยอาศยั กระบวนการจดั การเรยี นรูท้ ่ีผูเ้ รยี นไดล้ งมือกระทำและได้ใช้ กระบวนการคิดเกี่ยวกบั ส่ิงทเี่ ขาได้กระทำลงไป (Bonwell, 1991) นำวธิ กี ารสอน เทคนคิ การสอนท่ี หลากหลายมาใช้ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้และกิจกรรม กระตุ้นใหผ้ ู้เรียนมีสว่ นรว่ มในชัน้ เรียน ส่งเสรมิ ปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างผู้เรยี นกบั ผ้เู รียนและผู้เรียนกับผ้สู อน ActiveLearning จงึ เป็นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปญั ญา (Constructivism) ที่เนน้ กระบวนการเรียนรูม้ ากกวา่ เน้ือหาวิชา เพอ่ื ชว่ ยให้ผ้เู รียนสามารถเช่อื มโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกดิ ขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบตั ิจรงิ ผา่ นส่อื หรือกิจกรรมการเรยี นรู้ ท่ีมีครูผู้สอนเป็น ผู้แนะนำ กระตุ้น หรอื อำนวยความสะดวก ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรียนรขู้ ้นึ โดยกระบวนการคดิ ขั้นสงู กลา่ วคือ ผู้เรียนมกี ารวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการประเมนิ ค่าจากสง่ิ ที่ไดร้ บั จากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรยี นรู้ เป็นไปอย่างมคี วามหมายและนำไปใช้ในสถานการณอ์ ืน่ ๆได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ (สถาพร พฤฑฒิกลุ , 2558) ลกั ษณะของการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning เปน็ ดงั น้ี (ไชยยศ เรอื งสุวรรณ, 2553) 1. เป็นการเรยี นการสอนทพ่ี ฒั นาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแกป้ ญั หา และการนำความรู้ ไปประยกุ ต์ใช้ 2. เปน็ การเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในกระบวนการเรยี นรูส้ ูงสดุ 3. ผูเ้ รยี นสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 4. ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในการเรียนการสอนทงั้ ในด้านการสรา้ งองค์ความรู้ การสรา้ งปฏสิ มั พนั ธร์ ว่ มกนั ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน 5. ผเู้ รยี นเรียนรคู้ วามรบั ผิดชอบรว่ มกัน การมีวินยั ในการทํางาน และการแบ่งหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบ 6. เปน็ กระบวนการสรา้ งสถานการณใ์ ห้ผู้เรยี นอา่ น พูด ฟงั คดิ อยา่ งลุ่มลึก ผ้เู รียนจะเปน็ ผูจ้ ัดระบบ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง 7. เปน็ กิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคดิ ข้นั สูง 8. เปน็ กิจกรรมทีเ่ ปิดโอกาสให้ผู้เรียนบรู ณาการข้อมูลข่าวสาร หรอื สารสนเทศ และหลักการ ความคดิ รวบยอด 9. ผสู้ อนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อใหผ้ ู้เรียนเปน็ ผู้ปฏบิ ัติด้วยตนเอง 10. ความร้เู กดิ จากประสบการณ์ การสรา้ งองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผ้เู รยี น
4 บทบาทของอาจารยผ์ ู้สอนในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning ดังน้ี (ณชั นนั แก้วชัยเจริญกจิ , 2550) จดั ให้ผเู้ รียนเปน็ ศูนยก์ ลางของการเรยี นการสอน กจิ กรรม ตอ้ งสะทอ้ นความตอ้ งการในการพัฒนาผูเ้ รยี นและเนน้ การนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตจริงของผู้เรยี น 1. สร้างบรรยากาศของการมสี ่วนรว่ ม และการเจรจาโต้ตอบที่สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมปี ฏิสัมพันธท์ ด่ี ี กับผสู้ อนและเพ่อื นในชั้นเรยี น 2. จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นมีสว่ นรว่ มในทกุ กิจกรรมรวมท้งั กระตุ้นใหผ้ ู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ 3. จัดสภาพการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ สง่ เสริมใหเ้ กิดการร่วมมอื ในกล่มุ ผเู้ รยี น 4. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ทา้ ทาย และให้โอกาสผู้เรยี นได้รบั วธิ ีการสอนท่ีหลากหลาย 5. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรยี นการสอนอยา่ งชดั เจน ทง้ั ในสว่ นของเน้ือหา และกิจกรรม 6. ครผู สู้ อนต้องใจกว้าง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ เของท่ผี ู้เรียน จากประสบการณ์ในการสอนคณิตศาสตร์ ครมู ักใช้รูปแบบการสอนในการบรรยาย อธบิ ายยกตัวอยา่ ง และสาธติ วิธีการหาคำตอบ และนกั เรียนสว่ นใหญ่ก็ไม่ชอบเรยี นวิชาคณิตศาสตร์ และพบวา่ ในบางครัง้ นักเรียน เกดิ อาการงว่ งนอนในขณะเรยี น พบปัญหาในการสอนวชิ าดงั น้ัน AL จงึ ถือเป็นการจัดการเรยี นการสอน ประเภทหนงึ่ ที่สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมีคณุ ลักษณะสอดคลอ้ งกับการเปลีย่ นแปลงในยุคปจั จบุ นั ดงั น้ัน ผู้สอนจงึ จำเปน็ ตอ้ งปรับเปลยี่ นวธิ กี ารจดั การเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกบั การเปลี่ยนแปลง ของสังคม เทคโนโลยี จากผูส้ อนคือผถู้ ่ายทอด ปรับเปลย่ี นบทบาทเปน็ ผูช้ ้ีแนะวิธีการคน้ ควา้ หาความร้เู พ่อื พฒั นาผ้เู รียนใหส้ ามารถแสวงหาความรู้และประยกุ ตใ์ ชท้ ักษะต่าง ๆ สรา้ งความเข้าใจดว้ ยตนเอง จนเกดิ เป็น การเรยี นรอู้ ยา่ งมีความหมาย โดยใช้เทคนคิ การจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื (Collaborative learning group) ในวิชาคณติ ศาสตร์ 3 เร่ือง ปริซึมและทรงกระบอก เพ่อื พฒั นาผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนกั เรยี นซ่ึงจะสง่ ผลให้ผูเ้ รียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ ตลอดชีวิตสอดคลอ้ งกับจดุ มุ่งหมายและหลักการจัด การเรียนรตู้ ามพระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และตามนโยบายของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพอ่ื การพัฒนามนุษยท์ ยี่ ่ังยนื ตอ่ ไป
5 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนคณิตศาสตร์หลงั การเรยี น โดยใช้กระบวนการจดั การ เรียนรู้แบบ Active Learning เรือ่ ง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 2. เพอื่ ศึกษาทักษะการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรมของนกั เรยี นท่ไี ด้รบั การจดั การเรียนรู้ดว้ ย กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning 3.เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ท่มี ีต่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3. เปา้ หมาย 3.1 เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ 3.1.1 นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นเฉลมิ ขวัญสตรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 71 คน 3.2 เปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพ 3.2.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เรือ่ ง ปรซิ ึมและทรงกระบอก ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หลังจากไดร้ บั การจดั การเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบ Active Learning สงู กวา่ เกณฑ์ร้อยละ 70 3.2.2 นกั เรียนมีทักษะการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม อยู่ในระดบั ดีข้ึนไป ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทงั้ หมด 3.2.3 นกั เรียนมคี วามพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรูแ้ บบ Active Learning ภาพรวมอยู่ในระดับ ดีข้นึ ไป 4. นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 4.1 นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 หมายถึง นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2.2 และ นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษา ปที ่ี 2.3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 จำนวน 71 คน 4.2 กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบ Active Learning หมายถงึ เปน็ การเรยี นรู้ผา่ นการปฏิบัติ หรือ การ ลงมอื ทำซึ่ง ” ความรู้ ” ที่เกดิ ขน้ึ ก็เป็นความรู้ทีไ่ ด้จากประสบการณ์ กระบวนการในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ที่ผ้เู รียนต้องได้มีโอกาสลงมอื กระทำมากกว่าการฟงั โดยใชว้ ธิ ีการสอน 1) วธิ ีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) 2) วธิ ีการสอน การเรยี นรดู้ ้วยการคน้ พบ (Discovery Learning) 3) วิธกี ารสอนโดยการลงมอื ปฏบิ ตั ิ ( Practice ) 4)การจัดการเรยี นรู้แบบเปิด (Open - approach) 5) การระดมพลงั สมอง (Brainstorming) 6) การสอนของรปู แบบจก๊ิ ซอร์ ( Jigsaw )
6 5. แนวคดิ หลกั การ กรอบแนวคดิ ในการจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ บบ Active Learning ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง ปริซึมและทรงกระบอก - แนวคิดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบ - ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น Active Learning - ทักษะสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม แบบ Active Learning - ความพึงพอใจของนักเรยี น เรอื่ ง ปริซึมและทรงกระบอก ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 - แนวคิดการการเรียนรู้แบบ รว่ มมอื - แนวคดิ การจดั การเรยี นรู้ทเ่ี น้น ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ
7 แผนภาพ แสดงการออกแบบผลงาน/นวตั กรรม การเรยี นรแู้ บบ Active Learning เร่ือง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 (Plan) ศึกษา/วิเคราะห์หลักสูตร/แนวคิดทฤษฎีทีเ่ กย่ี วข้อง ดำเนินงำน (Do) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบบ Active Learning นกั เรียนสร้างสรรค์ สร้างสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ทำแบบทดสอบ (Check) ไม่พบข้อ ตรวจแบบทดสอบ บกพร่อง สอบไม่ผ่านเกณฑ์ บกพร่ อง และตรวจผลงาน ผลงานไมส่ มบรู ณ์ สอบผ่านเกณฑ์ ผลงานสมบูรณ์ (Action) สอบถามความพึงพอใจ สรปุ รายงานผล/เผยแพร่
8 6. วธิ ีดำเนินงานและการเก็บรวบรวมขอ้ มูล 6.1 การดำเนนิ การกอ่ นทดลองจดั การเรยี นรู้ ดงั น้ี 6.1.1 ทำการทดสอบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น กอ่ นการทดลอง (Pre-test) โดยใช้แบบทดสอบ วัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เรอ่ื ง ปรซิ ึมและทรงกระบอก 6.2 การดำเนนิ การทดลองการจัดการเรยี นรู้ โดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบ Active Learning โดยครูผ้สู อนดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นร้แู บบ Active Learning จำนวน 9 ช่ัวโมง ด้วยวธิ ีการจดั การเรยี นรู้ ดงั นี้ 1) วธิ สี อนแบบสาธิต (Demonstration Method) 2) วธิ กี ารสอน การเรยี นรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) 3) วิธีการสอนโดยการลงมอื ปฏิบัติ ( Practice ) 4) การจัดการเรียนร้แู บบเปิด (Open - approach) 5) การระดมพลังสมอง (Brainstorming) 6) การสอนของรปู แบบจ๊ิกซอร์ ( Jigsaw ) 6.3 การดำเนนิ งานหลังการทดลอง 6.3.1 ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและประเมินทกั ษะการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม หลงั การทดลอง (Post-test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น และแบบประเมนิ ทักษะการ สรา้ งสรรค์และนวตั กรรมฉบับเดียวกันกับแบบวัดก่อนเรียน 6.3.2 นำผลการการทดสอบมาหาค่าความแตกตา่ งของคะแนนเฉล่ยี ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ด้วยการทดสอบค่าที (t-test) เพื่อทดสอบผลสัมฤทธ์ิหลงั เรียนหลังเรยี นกับเกณฑ์ทต่ี ้ังไว้ 6.3.3 ทำการประเมินความคิดสรา้ งสรรค์สรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรมช้นิ งานของนักเรียน และบอกเป็นระดบั คุณภาพ 5 ระดบั ได้แก่ มากที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย และน้อยทส่ี ุด 6.3.4 สำรวจพึงพอใจของนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ท่มี ีตอ่ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ แบบ Active Learning
9 7. ผลการดำเนนิ การ/ผลสมั ฤทธ/์ิ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 7.1 ผลทเ่ี กดิ ตามวัตถปุ ระสงค์ 1.การทดสอบหลงั เรยี นของนกั เรียนมีคะแนนเฉลย่ี เทา่ กับ 24.31 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.03 และเมือ่ เปรยี บเทยี บระหว่างเกณฑ์กบั คะแนนของนกั เรยี น หลงั เรียน พบวา่ คะแนนสอบของผูเ้ รยี น หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์อยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับ .05 ปรากฏดงั ตาราง 1 ตารางท่ี 1 ค่าเฉล่ยี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน คา่ สถติ ิทดสอบที และระดบั นยั สำคัญทางสถิติ ในการทดสอบ เปรียบเทียบกับเกณฑ์รอ้ ยละ 80 กบั คะแนนสองหลังเรยี นของนกั เรียน N คะแนน Mean S.D. % of Mean t Sig. เต็ม (1-tailed) หลงั เรยี น 71 30 24.31 2.09 81.03 13.31* 0.0000 จากตารางพบว่า การทดสอบหลังเรียนของนกั เรยี นมคี ะแนนเฉลี่ยเท่ากบั 24.31 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 81.03 และเมอ่ื เปรียบเทยี บระหว่างเกณฑ์กับคะแนนสอบของนกั เรียน หลงั เรยี น พบวา่ คะแนนสอบของนักเรียนหลงั เรียนสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคญั ทางสถิติที่ระดับ .05 2. ทกั ษะการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม ของนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 โรงเรยี นเฉลิมขวญั สตรี อำเภอเมอื ง จงั หวดั พิษณุโลก 2.1 นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 มีทักษะการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม อย่ใู นระดับมากขน้ึ ไป คดิ เป็น ร้อยละ 78.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑท์ ี่ตั้งไว้ ปรากฏดังตาราง 2 ตารางท่ี 2 แสดงจำนวนนักเรียนทม่ี ที ักษะการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรมในระดบั คณุ ภาพต่างๆ ระดบั คุณภาพ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยท่สี ดุ รวม 71 จำนวน(คน) 5 56 10 0 0 100 ร้อยละ 7.04 78.88 14.08 0.00 0.00
10 2.2 ผลงานทกั ษะการสร้างสรรค์และนวตั กรรม นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 โรงเรียนเฉลิมขวญั สตรี อำเภอเมอื ง จงั หวัดพษิ ณุโลก ตาราง 3 รายชือ่ นวัตกรรมและแรงบันดาลใจ ของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 โรงเรยี นเฉลมิ ขวญั สตรี อำเภอเมือง จงั หวัดพิษณุโลก ที่ ชอื่ นวตั กรรม แรงบนั ดาลใจ 1 ตกึ ยุพิน เคยเรยี นทตี่ กึ 14 และเรยี นกับครูยพุ ิน และครูยุพนิ เปน็ ครู ทป่ี รึกษาจงึ เปน็ แรงบนั ดาลใจในการสร้างตึกยุพิน บ้านแสนสวยงามกบั เรขาคณิต บา้ นเปน็ ส่งิ ที่มีปริซึมและทรงกระบอกเปน็ ส่วนประกอบอยู่ 2 นา่ สนุก มากมายและพวกเราได้นำสิง่ ของท่เี ป็นปรซิ มึ และทรงกระบอก ท่ีมอี ยูท่ ัว่ ไปใชใ้ นการตกแต่งบ้าน 3 แมวแงว้ ๆ กล่มุ ดฉิ ันชอบแมวค่ะ และเห็นวา่ รปู เดิมที่ทำงา่ ยไปจงึ คิดหวั ข้อ ใหม่เกย่ี วกับสตั วแ์ ละไดข้ อ้ สรุปในการทำเปน็ รูปแมว ลนิ้ ชักของโลก ปกติคนเรามักใช้ลิน้ ชักเกบ็ ของและเราจงึ เหน็ ว่าปจั จบุ นั โลก 4 ของเราเปลย่ี นแปลงไป เลยนำความเปล่ียนแปลงของโลก ไว้ในลนิ้ ชัก 5 Memory box อัลบมั้ เป็นส่งิ ท่ีใชเ้ ก็บรูปภาพเพอ่ื ส่อื ถงึ ความทรงจำที่ดี ทำให้เมือ่ มองรปู ในอัลบม้ั ก็รูส้ ึกมคี วามสุขและเพลิดเพลิน 6 Magic Teacher Box ครูยุพนิ 7 ชั้นใสส่ ารพัดของกกุ๊ กิก๊ การนำเศษวสั ดุมาทำสิ่งของเครื่องใช้ 8 บ้านโคมไฟ เล่ือนเจอในอินเตอรเ์ นต็ และสนใจอยากทำคะ 9 แทง่ ไฟ exo สมาชิกในวงเป็นแฟนคลิปไอดอลเกาหลีวงหน่ึง แลว้ แท่งไฟ ของวงนนั้ มีเรื่องทรงกระบอกเขา้ มาเก่ียวดว้ ย ทำให้เลอื กทจ่ี ะทำ ช้ินงานนี้ขึน้ มาจำลองของจริง โดยแบบท่ที ำก็จำลองแบบมาจาก ของจริง และไดภ้ าคภมู ิใจในตวั เราที่ทำเพราะเรารักและตดิ ตาม พวกเขาจนทำให้เราสามารถทำงานชิ้นนข้ี นึ้ มา 10 เคร่อื งเขียนจากไมไ้ อติมสายร้งุ อยากทำของทที่ ำเอง ไม่ต้องเสียเงินมาก เอาของเหลือมาใช้ให้ เกิดประโยชน์
11 ตาราง 3 รายชื่อนวตั กรรมและแรงบันดาลใจ ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี อำเภอเมอื ง จงั หวดั พิษณโุ ลก (ตอ่ ) ท่ี ชือ่ นวัตกรรม แรงบันดาลใจ 11 บา้ นแฮมสเ์ ตอรส์ ุดหรรษาของ บ้านหนเู ดิมของเพือ่ นสกปรกและธรรมดามากเกินไป และมีราคา นามิ ลูฟี่ ลอร์ ท่คี ่อนข้างแพงตามคุณภาพ และอาจจะไมไ่ ด้ตรงตามทเ่ี รา ต้องการ ดังน้นั เราจงึ อยากทจ่ี ะประดษิ ฐ์เองเพ่อื ทีจ่ ะไดต้ รงตาม จดุ ประสงคแ์ ละต้นแบบที่คดิ เอาไว้ และไดม้ คี วามคดิ สร้างสรรค์ ในการคดิ แบบบ้านหนูแฮมส์เตอร์อีกดว้ ย 12 บา้ นเรือนไท๊ไทย แรงบันดาลใจไดม้ าจากศาลพระภมู แิ ละเกดิ การดัดแปลงมาเปน็ บา้ นเรอื นไทย ความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำ ต้นไม้ ดอกไม้ และ ดัดแปลงคล้ายบ้านปัจจบุ ันอีกดว้ ย การผสมผสานความสดใส ให้กับบา้ นเรอื นไทยดว้ ยสรี งุ้ บนหลังคา 13 BOOM BOX การไดไ้ ปเหน็ คลิปเซอร์ไพรส์วนั เกดิ ในยูทปู จึงมีความคดิ ท่ีทำ ผลงานชนิ้ น้ีขน้ึ มา 14 โมเดลเคก้ ชาโคล ชว่ งเดือนกนั ยายน - ตลุ าคม จะมีวนั เกดิ เพื่อน ๆ เยอะ กเ็ ลยเห็น เพอ่ื นเปา่ เค้กอยูบ่ ่อย ๆ เลยทำเป็นโมเดลเคก้ ชาโคลขึ้นมา
12 3.ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนทมี่ ีตอ่ การเรียนมีตอ่ การเรียนโดยใช้เรยี นโดยใช้กระบวน การจดั การเรียนรแู้ บบ Active Learning ปรากฏดังตาราง 3 ตาราง 4 ผลการสำรวจความคดิ เห็นทีม่ ตี อ่ การเรียนรู้แบบ Active Learning เรือ่ ง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรยี นเฉลิมขวญั สตรี สว่ น ข้อที่ รายการประเมนิ คา่ เฉลยี่ เบ่ยี งเบน มาตรฐาน 1 นักเรยี นใช้ประสบการณเ์ ดิมมาเชอ่ื มโยงกบั การเรยี นมากขนึ้ 4.12 0.74 2 นักเรียนใช้ประสบการณเ์ ดมิ มาเชือ่ มโยงกบั การเรียนมากข้ึน 4.27 0.63 3 นักเรยี นไดท้ ำกจิ กรรมแลกเปล่ยี นเรียนรจู้ ากกลมุ่ 4.39 0.66 4 นกั เรยี นได้ฝึกการคดิ อย่างหลากหลาย 4.39 0.61 5 นักเรียนได้ฝกึ การสรา้ งสรรคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง 4.27 0.67 6 นกั เรยี นได้รับขอ้ มูลความร้อู ย่างเป็นระบบและเพียงพอ 4.15 0.67 7 นกั เรยี นมีโอกาสคดิ วางแผนนำความรใู้ ช้ประโยชน์ 4.36 0.70 8 นักเรียนเต็มใจรว่ มกิจกรรมในชนั เรียนทุกครง้ั 4.36 0.65 นักเรียนมีโอกาสทำกจิ กรรมตามความสามารถอย่างมี 9 ความสขุ 4.30 0.77 นกั เรียนมีโอกาสฝึกตนเองให้มวี นิ ยั และรับผดิ ชอบ 10 ในการทำงาน 4.36 0.60 11 นกั เรียนทำงานทุกคร้ังทไี่ ด้รับมอบหมาย 4.33 0.65 12 นักเรียนมีโอกาสแสดงความคิดเหน็ ซกั ถามในห้องเรียน 3.85 0.80 13 นกั เรียนมีโอกาสเรยี นรู้รว่ มกับเพ่อื นในช้นั เรยี น 4.33 0.69 14 นักเรยี นมโี อกาสลงมอื ทำคิดในระหวา่ งการเรียน 4.42 0.61 รวม 4.28 0.74 จากตาราง 4 พบว่านักเรียนมีความพงึ พอใจอยู่ในระดับมากทีส่ ดุ ( = 4.28 ,S.D. = 0.74) เมือ่ พิจารณาราย ข้อพบวา่ นักเรยี นมโี อกาสลงมือทำคิดในระหวา่ งการเรยี น อยใู่ นระดับมากทสี่ ดุ ( = 4.42 ,S.D. = 0.61) รองลงมาคอื นักเรยี นไดฝ้ กึ การคดิ อยา่ งหลากหลาย ( = 4.39 ,S.D. = 0.61) นักเรยี นได้ทำกิจกรรม แลกเปล่ยี นเรยี นรู้จากกลมุ่ ( = 4.39 ,S.D. = 0.66)
13 7.2 ผลสัมฤทธิข์ องงานท่เี กิดกบั ผเู้ รยี น (1) นกั เรียนทุกคนไดเ้ รียนรู้ในรปู แบบใหม่ ไดล้ งมือปฏิบัตเิ อง (2) นกั เรยี นทกุ คนได้รับการพฒั นาด้านทักษะการคดิ และสามารถสรา้ งและสรปุ องค์ความรูไ้ ดด้ ้วยตนเอง 7.3 ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั (1) นักเรียนนำองคค์ วามรแู้ ละทกั ษะการคดิ ไปใช้ เช่ือมโยง และเปน็ พ้นื ฐานการในคิด ในการทำรายวชิ าอน่ื ๆ (2) ครูผสู้ อนไดพ้ ัฒนาตนเองและทักษะในการถ่ายทอดใหก้ บั นกั เรยี นอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 7.4 การเผยแพร่ (1) เผยแพรใ่ ห้แก่ครูผ้สู อนในระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 และคณะครูในกลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ (2) เผยแพรใ่ ห้แก่คณะครูที่มาศกึ ษาดูงาน ณ โรงเรียนเฉลิมขวญั สตรี (3) เผยแพร่ทางเวบ็ ไซต์ของโรงเรยี น https://sites.google.com/a/chs.ac.th/yuphin/ 8. ปัจจัยทสี่ ง่ ผลใหง้ านสำเร็จ ปัจจัยที่ส่งผลใหง้ านสำเร็จเกดิ ข้นึ จากผู้มีส่วนเก่ียวขอ้ งตงั้ แต่ 8.1 นักเรียนมีความพร้อมและใหค้ วามสำคญั ตอ่ การเรียนมีความมุ่งม่ันสู่ความสำเรจ็ 8.3 ครูผู้สอนมีความรับผิดชอบ เสยี สละ และสร้างสรรคน์ วตั กรรมเพอ่ื พฒั นาผเู้ รียนอย่างสม่ำเสมอ 8.4 ผู้บริหารโรงเรยี น อำนวยความสะดวกในการจดั หางบประมาณ ในการพฒั นาสือ่ และ ด้านอาคารสถานท่ใี นการจัดกิจกรรม (ห้องเรียน / ห้องคอมพวิ เตอร์)
14 บรรณานกุ รรม ไชยยศ เรืองสุวรรณ. Active Learning. สืบคน้ จาก http://www.drchaiyot.com เมื่อ 25 กรกฎาคม 2552. ณชั นนั แกว้ ชยั เจริญกิจ. บทบาทของครูผ้สู อนในการจัดกจิ กรรมและวธิ ีการปฏบิ ัติตามแนวทางของ Active สถาพร พฤฑฒกิ ุล. เอกสารประกอบการฝกึ อบรม “คุณภาพผ้เู รียน.......เกิดจากกระบวนการเรียนรู้” (3 ธันวาคม 2558) คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลยั บูรพา วิทยาเขตสระแกว้ Learning. สืบคน้ จาก http://www.itie.org เม่อื 25 กรกฎาคม 2552. C.C. Bonwell, J.A. Eison, “Active Learning: Creating Excitement in the Classroom.” ERIC Digest.Washington D.C.: ERIC Clearinghouse on Higher Education, 1991. R.E. Mayer, “Should There Be a Three-Strikes Rule Against Pure Discovery Learning? The Case forGuided Methods of Instruction.” Americal Psychologist, Vol.59 No.1, January 2004: pp.14-19.
15 แบบสรปุ ผลคะแนนหลังเรียน เรอ่ื ง ปริซึมและทรงกระบอก ของนกั เรียน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 โดยใชก้ ระบวนการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning ท่ี ชอ่ื - สกลุ คะแนนหลงั เรียน 1 เด็กหญงิ พิชญา ปญั ญาโรจน์ 28 2 เดก็ หญงิ ณฤดี ลมิ้ คงงาม 25 3 เดก็ หญงิ ญาณิน สุขสวุ รรณ 27 4 เด็กหญิง นภสั สรณ์ ออ่ งเมอื ง 25 5 เด็กหญิง ชลิตศา ศรีกอง 27 6 เด็กหญงิ กนั ตก์ นิษฐ์ ไพสิฐสวุ รรณ 28 7 เด็กหญิง ปวริศา จิวะวิทูรกจิ 28 8 เดก็ หญิง ปภาวี เชอ้ื ปรางค์ 25 9 เดก็ หญงิ ฐานะมาศ ศรีไชยเจริญวงศ์ 25 10 เดก็ หญงิ วรรัต ศิริมี 24 11 เด็กหญงิ นัทธมน โค้วเจริญ 19 12 เด็กหญงิ พลอยจันท์ ทพั เพง็ 23 13 เด็กหญงิ ศิริกลั ยา เลิศธรรมชัย 23 14 เดก็ หญงิ รกั ษอ์ ักษร สำเรจ็ งาน 24 15 เด็กหญิง เพชรพฤศา เหมพจิ ิตร 25 16 เด็กหญงิ พจศณนท ขนั แก้ว 23 17 เดก็ หญิง กัญญภัทร ครา้ มศรี 24 18 เดก็ หญงิ สาริศา สุรินทรางกรู 26 19 เดก็ หญิง กชพร สันติวรี ะการ 27 20 เดก็ หญิง ธนพร บญุ จันทร์ 25 21 เด็กหญิง รญั ชนา เทยี มนุช 25 22 เดก็ หญงิ ปัณฑารีย์ ฟักปลั่ง 25 23 เดก็ หญงิ วรศิ รา มาตพร 25 24 เดก็ หญิง ณชิ ากร เรอื งเทย่ี ง 26 25 เด็กหญิง กัญญาพัชร คมุ้ ญาติ 25 26 เด็กหญิง ศศิประภา เนตรจินดา 25 27 เดก็ หญงิ ญาดาพัฒน์ พฒั นทวีสินสกลุ 26
16 แบบสรปุ ผลคะแนนหลังเรยี น เร่อื ง ปริซมึ และทรงกระบอก ของนกั เรยี น ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning ท่ี ชอ่ื – สกุล คะแนนหลังเรยี น 28 เด็กหญิง ภรู ชิ กร โตงามรักษ์ 25 27 29 เดก็ หญงิ ศิรภา วชริ าศรศี ริ กิ ุล 25 25 30 เดก็ หญิง ศริ ภัสสร ศริ มิ าก 25 29 31 เดก็ หญิง กลุ ภสั สรณ์ บญุ ชู 25 24 32 เดก็ หญงิ ณัฐธิชาภรณ์ สิทธิ 24 23 33 เด็กหญิง กานต์พชิ ชา เงินแจง้ 24 25 34 เด็กหญงิ กนั ย์นวพร เพชรนติ ย์ 25 25 34 เด็กหญงิ นนั ทธ์ นาภา ดแี จ้ง 25 23 36 เดก็ หญิง ฐติ ิมา สดุดี 22 25 37 เดก็ หญิง นิพาดา เหมือนเพช็ ร 23 25 38 เด็กหญงิ สตรรี ัตน์ ศรีคง 26 24 39 เด็กหญงิ ณฏั ฐวี นาคำ 23 23 40 เด็กหญงิ ปุญญิศา จันทะคณุ 23 25 41 เด็กหญงิ อรรัมภา พรมสม้ ซา่ 42 เด็กหญิง ณัณฐิชา มุกสวุ รรณ 43 เดก็ หญงิ จารุจริ สั ย์ โยมะบตุ ร 44 เดก็ หญิง สชุ ัญญา นันทะสิงห์ 45 เด็กหญงิ ปณิตา อนิ ทอำภา 46 เด็กหญงิ รุจริ าภรณ์ ธนวรรณ 47 เดก็ หญิง สิริพร ดษิ ใจ 48 เด็กหญงิ อติกานต์ เขียวดี 49 เด็กหญิง ปัญญาพร หอมสุ่ม 50 เดก็ หญิง เขมจิรา สุวรรณทะ 51 เด็กหญิง ณัฏฐนันท์ ทรพั ย์สุข 52 เด็กหญงิ พิชญธดิ า พากเพยี ร 53 เดก็ หญงิ ปาลดิ า คนใหญ่
17 แบบสรปุ ผลคะแนนหลงั เรียน เรอื่ ง ปริซมึ และทรงกระบอก ของนกั เรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โดยใช้กระบวนการจดั การเรียนรูแ้ บบ Active Learning ที่ ชอื่ – สกุล คะแนนหลงั เรียน 54 เดก็ หญิง กรมณีคราญ จรสั ศรี 23 21 55 เด็กหญงิ จณสิ ตา ทองแบบ 24 24 56 เดก็ หญงิ บัณฑติ า สอนราช 22 20 57 เดก็ หญิง แพรวา ห้องมา 19 24 58 เดก็ หญงิ กิรณา ฟักเจรญิ 25 24 59 เดก็ หญิง สริ ิพรรษา ไพบูลยว์ รพสิ ิฐ 23 20 60 เด็กหญิง ฐติ ารยี ์ พัฒนาพานิชกลุ 20 21 61 เดก็ หญงิ ยุคลธร เรืองฤทธิ์ 27 28 62 เดก็ หญงิ ตรรี ตั น์ รม่ โพธ์ธิ ารทอง 23 22 63 เด็กหญิง รณิ ณพัชร ขนั ทอง 81.03 64 เดก็ หญิง พัฒน์นรี หมอนแพร 65 เด็กหญงิ วัชราภรณ์ ทองทัศน์ 66 เด็กหญงิ ชวัลลกั ษณ์ แก้วลบ 67 เด็กหญงิ ณฐั ณิชา ธนะวงศ์ธนาสกลุ 68 เดก็ หญงิ เปมกิ า เจริญผล 69 เด็กหญิง ชตุ ิกาญจน์ อัจยุตโภคนิ 70 เด็กหญิง นภษร ไชยะโสดา 71 เด็กหญิง ศริ ภัสสร โฉมทรัพย์เย็น ค่าเฉลยี่
18 แบบสรุปผลการประเมินทกั ษะการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม หลังเรยี น เรอื่ ง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ของนกั เรียน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning ท่ี ชอ่ื – สกุล คะแนนทกั ษะการสรา้ งสรรค์ ระดบั คณุ ภาพ 1 เด็กหญิง พิชญา ปัญญาโรจน์ และนวัตกรรม(40) 2 เด็กหญิง ณฤดี ลิ้มคงงาม 3 เด็กหญงิ ญาณิน สุขสุวรรณ 34 มากท่ีสดุ 4 เดก็ หญงิ นภัสสรณ์ ออ่ งเมอื ง 22 ปานกลาง 5 เดก็ หญิง ชลติ ศา ศรกี อง 22 ปานกลาง 6 เดก็ หญงิ กนั ตก์ นิษฐ์ ไพสฐิ สุวรรณ 34 มากที่สดุ 7 เด็กหญิง ปวรศิ า จวิ ะวิทูรกจิ 33 มาก 8 เดก็ หญิง ปภาวี เช้อื ปรางค์ 28 มาก 9 เดก็ หญิง ฐานะมาศ ศรีไชยเจรญิ วงศ์ 32 มาก 10 เด็กหญงิ วรรตั ศริ ิมี 22 ปานกลาง 11 เดก็ หญงิ นัทธมน โค้วเจรญิ 30 มาก 12 เด็กหญิง พลอยจันท์ ทพั เพง็ 33 มาก 13 เด็กหญิง ศิรกิ ลั ยา เลศิ ธรรมชัย 22 ปานกลาง 14 เด็กหญงิ รกั ษ์อกั ษร สำเร็จงาน 24 ปานกลาง 15 เด็กหญิง เพชรพฤศา เหมพจิ ิตร 24 ปานกลาง 16 เดก็ หญงิ พจศณนท ขนั แกว้ 34 มากท่ีสุด 17 เดก็ หญิง กญั ญภัทร ครา้ มศรี 32 มาก 18 เดก็ หญงิ สารศิ า สุรินทรางกรู 30 มาก 19 เด็กหญิง กชพร สนั ตวิ ีระการ 32 มาก 20 เด็กหญิง ธนพร บญุ จนั ทร์ 32 มาก 21 เดก็ หญิง รัญชนา เทียมนชุ 30 มาก 22 เด็กหญงิ ปัณฑารยี ์ ฟกั ปลงั่ 34 มากที่สุด 23 เด็กหญงิ วริศรา มาตพร 30 มาก 24 เดก็ หญงิ ณิชากร เรอื งเทยี่ ง 28 มาก 25 เด็กหญงิ กญั ญาพชั ร คุ้มญาติ 32 มาก 34 มากท่สี ุด 33 มาก
19 แบบสรุปผลการประเมนิ ทักษะการสร้างสรรค์และนวตั กรรม หลังเรยี น เรอื่ ง ปรซิ ึมและทรงกระบอก ของนักเรียน ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 โดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบ Active Learning ที่ ช่อื – สกุล คะแนนทักษะการสรา้ งสรรค์ ระดบั คณุ ภาพ และนวัตกรรม(40) 26 เด็กหญิง ศศิประภา เนตรจนิ ดา 24 ปานกลาง 27 เด็กหญงิ ญาดาพฒั น์ พัฒนทวีสนิ สกุล 30 มาก 28 เด็กหญงิ ภูริชกร โตงามรักษ์ 28 มาก 29 เด็กหญิง ศิรภา วชิราศรศี ริ ิกลุ 28 มาก 30 เดก็ หญิง ศริ ภสั สร ศริ มิ าก 33 มาก 31 เด็กหญิง กลุ ภัสสรณ์ บญุ ชู 24 32 เด็กหญิง ณัฐธิชาภรณ์ สิทธิ 22 ปานกลาง 33 เดก็ หญงิ กานตพ์ ิชชา เงินแจ้ง 24 ปานกลาง 34 เด็กหญงิ กันย์นวพร เพชรนิตย์ 28 ปานกลาง 34 เด็กหญงิ นันท์ธนาภา ดแี จง้ 33 36 เด็กหญิง ฐติ มิ า สดุดี 28 มาก 37 เด็กหญงิ นิพาดา เหมือนเพช็ ร 30 มาก 38 เด็กหญงิ สตรีรัตน์ ศรคี ง 30 มาก 39 เด็กหญงิ ณฏั ฐวี นาคำ 33 มาก 40 เดก็ หญิง ปุญญิศา จันทะคณุ 30 มาก 41 เดก็ หญิง อรรัมภา พรมสม้ ซา่ 28 มาก 42 เดก็ หญงิ ณัณฐิชา มกุ สุวรรณ 30 มาก 43 เดก็ หญงิ จารจุ ิรัสย์ โยมะบุตร 30 มาก 44 เด็กหญิง สุชัญญา นนั ทะสิงห์ 28 มาก 45 เดก็ หญิง ปณติ า อนิ ทอำภา 30 มาก 46 เด็กหญงิ รจุ ิราภรณ์ ธนวรรณ 30 มาก 47 เด็กหญงิ สิริพร ดิษใจ 30 มาก 48 เดก็ หญงิ อติกานต์ เขียวดี 30 มาก 49 เดก็ หญงิ ปญั ญาพร หอมสุ่ม 28 มาก 50 เด็กหญงิ เขมจริ า สุวรรณทะ 28 มาก มาก มาก
20 แบบสรปุ ผลการประเมินทกั ษะการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม หลงั เรียน เร่ือง ปรซิ มึ และทรงกระบอก ของนักเรียน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรียนรูแ้ บบ Active Learning ที่ ชอ่ื – สกุล คะแนนทกั ษะการสร้างสรรค์ ระดบั คุณภาพ และนวตั กรรม(40) 51 เดก็ หญงิ ณัฏฐนนั ท์ ทรพั ยส์ ุข 30 มาก 28 มาก 52 เด็กหญงิ พิชญธิดา พากเพียร 28 มาก 28 มาก 53 เด็กหญงิ ปาลดิ า คนใหญ่ 28 มาก 28 มาก 54 เด็กหญิง กรมณีคราญ จรสั ศรี 30 มาก 28 มาก 55 เดก็ หญงิ จณิสตา ทองแบบ 30 มาก 30 มาก 56 เด็กหญิง บัณฑิตา สอนราช 30 มาก 30 มาก 57 เด็กหญงิ แพรวา หอ้ งมา 30 มาก 28 มาก 58 เดก็ หญงิ กิรณา ฟกั เจริญ 31 มาก 31 มาก 59 เดก็ หญงิ สิริพรรษา ไพบูลย์วรพิสฐิ 33 มาก 33 มาก 60 เดก็ หญิง ฐติ ารยี ์ พัฒนาพานิชกุล 33 มาก 31 มาก 61 เดก็ หญิง ยุคลธร เรืองฤทธิ์ 28 มาก 62 เด็กหญงิ ตรีรัตน์ ร่มโพธิธ์ ารทอง 63 เด็กหญิง ริณณพัชร ขันทอง 64 เด็กหญงิ พฒั นน์ รี หมอนแพร 65 เดก็ หญงิ วชั ราภรณ์ ทองทศั น์ 66 เดก็ หญิง ชวัลลกั ษณ์ แกว้ ลบ 67 เดก็ หญิง ณฐั ณิชา ธนะวงศ์ธนาสกุล 68 เดก็ หญิง เปมิกา เจริญผล 69 เด็กหญิง ชตุ ิกาญจน์ อัจยุตโภคนิ 70 เด็กหญิง นภษร ไชยะโสดา 71 เด็กหญิง ศิรภสั สร โฉมทรพั ยเ์ ย็น
21 สรปุ จำนวนนักเรียนท่ีมที กั ษะการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรมในระดับคณุ ภาพต่างๆ ระดับคุณภาพ มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทีส่ ุด รวม 71 จำนวน(คน) 5 56 10 0 0 100 ร้อยละ 7.04 78.88 14.08 0.00 0.00
22 ภาพประกอบการเรยี นรู้แบบ Active Learning เร่อื ง ปริซึมและทรงกระบอก ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 นกั เรยี นไดฝ้ ึกปฏิบัติการหาปริมโารตงรเแรลยี ะนพเื้นฉทลี่ผมิ ิวขขอวงญั ปรสิซตึมรีโดยการนำกลอ่ งผลิตภัณฑ์ ที่มลี กั ษณะเปน็ ปริซมึ ฐานตา่ ง ๆ
23 แบบประเมนิ ทักษะการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม วันท.่ี ..............เดอื น.....................................พ.ศ. ..................เร่อื ง ..................................................................... รายวชิ า.................... รหสั วิชา..........................ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท.ี่ .................กลุ่มที่...................... รายชอ่ื สมาชกิ กล่มุ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. คำชแี้ จง ทำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนนใหต้ รงกับความเป็นจรงิ มากท่สี ดุ รายการประเมนิ นำ้ หนัก ระดับคะแนน หมายเหตุ 4 321 1. สร้างเทคนิคการคิดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำความคิดสู่ การสร้างผลงานหรอื ชนิ้ งานที่เป็นนวัตกรรม 2. สะท้อนการคิด การวิพากษ์ เพื่อประเมินและปรับปรุง เทคนคิ การคดิ ของตนเอง จนนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงาน หรอื ชนิ้ งานทเ่ี ปน็ นวัตกรรม 3. มีกระบวนการออกแบบ และสร้างช้ินงานหรือผลงานที่ เป็นนวัตกรรมได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อดำเนินการสร้างผลงานหรือ ชน้ิ งาน จนเกดิ เปน็ นวัตกรรมของผู้เรยี น 5. สะท้อนการคิด การวิพากษ์ เพื่อประเมินและปรับปรุง ชิน้ งานหรอื ผลงานท่ีเปน็ นวตั กรรมได้อย่างต่อเน่อื ง 6. ผลงานหรือชิ้นงานที่เป็นนวัตกรรมของผู้เรียนสามารถ นำไปใช้เพื่อการแก้ปัญหาหรืออำนวยความสะดวกในการ ใช้ชีวิตได้อย่างหลากหลาย 7. สื่อสารถ่ายทอดแนวคิดการใช้ผลงานหรือชิ้นงานที่เป็น นวตั กรรมของผู้เรียนไปยงั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 8. ใช้ทรัพยากรดิจิทัลและมัลติมีเดียเพื่อนำเสนอผลงาน หรอื ชน้ิ งานทเ่ี ปน็ นวตั กรรมอยา่ งสร้างสรรค์ รวม ลงชอื่ ................................................................................... () ผู้ประเมนิ
24 เกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม ตวั ช้วี ัด 4 ระดับคุณภาพ 1 32 1. สรา้ งเทคนิคการ ระบุแนวทางการ ระบแุ นวทางการ ระบแุ นวทางการ ไม่พบหลกั ฐานที่ คดิ อย่างสรา้ งสรรค์ สร้างเทคนคิ การ สร้างเทคนิคการ สร้างเทคนิคการ แสดงใหเ้ หน็ ถึง เพอ่ื นำความคดิ สู่ คิดทแี่ สดงถงึ ความ คดิ ทแ่ี สดงถึงความ คิดที่แสดงถึงความ การระบแุ นว การสรา้ งผลงานหรือ แปลกใหม่และ แปลกใหม่และ แปลกใหมแ่ ละ ทางการสร้าง ช้ินงานท่ีเป็น แตกตา่ งจาก แตกตา่ งจาก แตกต่างจาก เทคนิคการคิดท่ี นวัตกรรม เทคนิคการคิด เทคนิคการคิดอ่นื ๆ เทคนคิ การคิดอ่ืนๆ แสดงถึงความ อ่นื ๆ ท่วั ไปได้ ท่ัวไปได้ 2 เทคนคิ ท่วั ไปได้ 1 เทคนิค แปลกใหมแ่ ละ มากกวา่ หรือ ทน่ี ำไปสกู่ ารสรา้ ง ทีน่ ำไปส่กู ารสร้าง แตกตา่ งจาก เท่ากบั 3 เทคนิค ผลงานหรอื ชิ้นงาน ผลงานหรือชิน้ งาน เทคนิคการคิดอืน่ ๆ ที่นำไปสู่การสร้าง ไดอ้ ย่าง ไดอ้ ย่าง ทวั่ ไป ท่ีนำไปสู่ ผลงานหรือช้นิ งาน สมเหตุสมผล โดย สมเหตุสมผล โดย การสรา้ งผลงาน ได้อย่าง อาจเป็นการนำ อาจเป็นการนำ หรือชนิ้ งานได้ สมเหตุสมผล โดย องค์ความร้เู ดมิ องค์ความร้เู ดมิ อยา่ งสมเหตุสมผล อาจเปน็ การนำ และความรู้ใหม่มา และความรู้ใหมม่ า องคค์ วามรู้เดมิ สรา้ งเปน็ เทคนคิ สรา้ งเปน็ เทคนิค และความรู้ใหมม่ า การคิดใหม่ หรือ การคิดใหม่ หรือ สรา้ งเปน็ เทคนคิ เป็นการนำเทคนคิ เปน็ การนำเทคนิค การคดิ ใหม่ หรอื การคดิ ทมี่ ีอยแู่ ล้ว การคดิ ทม่ี ีอยแู่ ล้ว เป็นการนำเทคนคิ มาพฒั นา มาพฒั นา การคดิ ทม่ี ีอยู่แลว้ ปรบั ปรุงจนมี ปรบั ปรงุ จนมี มาพฒั นา คณุ สมบัติใหม่ได้ คณุ สมบัติใหมไ่ ด้ ปรบั ปรุงจนมี คุณสมบตั ใิ หม่ได้ 2. สะทอ้ นการคิด มกี ารระบุผลการ มีการระบผุ ลการ มกี ารระบผุ ลการ ไม่พบหลกั ฐานที่ การวพิ ากษ์ เพอ่ื สะทอ้ นคิดและ สะทอ้ นคดิ และ สะทอ้ นคดิ และ แสดงใหเ้ ห็นถึง ประเมินและ การวิพากษ์ที่ การวพิ ากษท์ ่ี การวพิ ากษท์ ่ี การระบุผลการ ปรบั ปรุงเทคนิคการ สามารถระบแุ ละ สามารถระบแุ ละ สามารถระบแุ ละ สะทอ้ นคดิ และ คดิ ของตนเอง จน อธิบายถึงจดุ เดน่ อธบิ ายถงึ จดุ เดน่ อธบิ ายถงึ จุดเด่น การวิพากษ์ ท่ี
25 ตัวช้ีวัด 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 32 นำไปส่กู าร จุดด้อยของเทคนิค จดุ ด้อยของเทคนคิ จดุ ด้อยของเทคนิค แสดงใหเ้ ห็นถึง สร้างสรรค์ผลงาน การคิดที่สรา้ งขน้ึ การคดิ ท่ีสรา้ งขนึ้ การคดิ ที่สร้างขึน้ การประเมนิ และ หรอื ช้นิ งานทเี่ ปน็ ได้อย่างถูกต้อง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ได้ แต่ขาดความ ปรบั ปรงุ เทคนคิ นวัตกรรม เหมาะสม มีความ เหมาะสม มีความ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม การคิด ทน่ี ำไปสู่ ชัดเจน และ ชดั เจน แต่ไม่ ไมม่ ีความชัดเจน การสร้างสรรค์ สามารถนำจุดด้อย สามารถนำจุดดอ้ ย และไมส่ ามารถนำ ผลงานหรอื ชิ้นงาน ดังกล่าวมา ดงั กลา่ วมา จุดด้อยดงั กลา่ วมา ท่ีเป็นนวัตกรรม ปรับปรุงแก้ไข ปรบั ปรงุ แกไ้ ข ปรับปรงุ แก้ไข และพฒั นาเทคนิค และพัฒนาเทคนคิ และพัฒนาเทคนคิ การคิด จนนำไปสู่ การคิด จนนำไปสู่ การคิด จนนำไปสู่ การสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ ผลงานหรอื ชิ้นงาน ผลงานหรอื ช้ินงาน ผลงานหรือชิน้ งาน ทีเ่ ปน็ นวัตกรรมให้ ท่เี ปน็ นวัตกรรมให้ ท่ีเปน็ นวัตกรรมให้ ดขี ้นึ ดขี ึ้น ดีขึ้น 3. มกี ระบวนการ ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ ไม่พบหลกั ฐานที่ ออกแบบ และสรา้ ง ออกแบบและสรา้ ง ออกแบบและสรา้ ง ออกแบบและสรา้ ง แสดงใหเ้ ห็นถึง ชิน้ งานหรือผลงานที่ ช้นิ งานหรือผลงาน ช้ินงานหรือผลงาน ชิน้ งานหรอื ผลงาน การใช้ เปน็ นวตั กรรมได้ ท่มี คี วามเช่อื มโยง แต่ขาดขั้นตอนทีม่ ี แตข่ าดข้นั ตอนท่ีมี กระบวนการ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ครบทงั้ 4 ข้นั ตอน ความเช่อื มโยงใน ความเชือ่ มโยงใน ออกแบบและสร้าง ไดแ้ ก่ จนเกดิ เปน็ กระบวนการ กระบวนการ ช้นิ งานหรือผลงาน 1) สบื คน้ และ นวัตกรรมได้อยา่ ง ออกแบบอย่าง ออกแบบมากกวา่ รวบรวมขอ้ มูล สร้างสรรค์ นอ้ ย 1 ข้นั ตอน 1 ขัน้ ตอน ขน้ึ ไป สารสนเทศและ ดิจทิ ัลอย่างเปน็ ลำดับข้นั ตอน 2) ใช้ขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ าก การสืบค้น ประกอบการ ตัดสินใจในการ
26 ตัวช้วี ัด 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 32 ออกแบบ และสร้าง ชิ้นงานหรือผลงาน 3) กำหนดโครงสร้าง ของผลงานหรอื ช้ินงานในรูปแบบ ของเอกสารหรือ แบบจำลองตาม วธิ กี ารออกแบบท่ี เลือกใช้สรา้ งผลงาน หรอื ช้ินงาน 4) เลือกแบบของ การสร้างผลงานหรือ ชิ้นงานที่จะตอ้ งมี การตรวจสอบถงึ ข้อดี ข้อเสยี และ ส่วนอืน่ ๆ ที่ เกี่ยวข้อง ไดอ้ ย่าง เหมาะสม 4. ทำงานร่วมกับ มีการประชมุ เพ่ือ มีการประชุมเพือ่ มีการประชมุ เพ่อื ลงมือปฏิบัตโิ ดยไม่ ผอู้ ื่น เพอ่ื ดำเนนิ การ ระดมความคิดของ ระดมความคดิ ของ ระดมความคิดของ มีการระดม สรา้ งผลงานหรอื สมาชกิ ภายในกล่มุ สมาชกิ ภายในกลมุ่ สมาชิกภายในกลุ่ม ความคิดของ ชน้ิ งาน จนเกิดเปน็ ผ่านการอภิปราย ผา่ นการอภปิ ราย ผ่านการอภิปราย สมาชกิ ภายในกลมุ่ นวตั กรรมของ ลงข้อสรปุ ร่วมกนั ลงขอ้ สรปุ ร่วมกัน ลงข้อสรุปร่วมกัน ในการวางแผนการ ผู้เรยี น ในการวางแผนการ ในการวางแผนการ ในการวางแผนการ ทำงาน และไมแ่ บง่ ทำงาน โดยแบง่ ทำงาน โดยแบ่ง ทำงาน โดยแบง่ หรอื ไมม่ ีความ หนา้ ท่คี วาม หน้าที่ความ หน้าทีค่ วาม ชดั เจนในหนา้ ท่ี รับผดิ ชอบของ รบั ผิดชอบของ รับผดิ ชอบของ ความรบั ผิดชอบ สมาชิกทุกคน สมาชกิ 3-4 คน สมาชิก 2 คน ของสมาชิกภายใน ภายในกลุ่มอย่าง ภายในกลุม่ และ ภายในกล่มุ และ กลมุ่ ชัดเจน และ สมาชิก 3-4 คน สมาชกิ 2 คน
27 ตัวช้ีวัด 4 ระดับคณุ ภาพ 1 32 สมาชิกทุกคน ปฏบิ ตั ติ ามหนา้ ทีท่ ่ี ปฏบิ ัติตามหน้าทท่ี ี่ ปฏิบัติตามหน้าทท่ี ่ี รับผิดชอบ รบั ผิดชอบ รบั ผดิ ชอบ 5. สะท้อนการคิด มีการระบผุ ลการ มีการระบผุ ลการ มกี ารระบุผลการ ไม่พบหลกั ฐานท่ี การวิพากษ์ เพ่อื สะท้อนคดิ และ สะท้อนคิดและ สะทอ้ นคดิ และ แสดงถึงการระบุ ประเมินและ การวิพากษ์ถึง การวิพากษถ์ งึ การวพิ ากษถ์ งึ ผลการสะทอ้ นคิด ปรับปรงุ ชิ้นงานหรือ วิธกี ารประเมนิ วิธกี ารประเมิน วธิ กี ารประเมิน และการวิพากษ์ถึง ผลงานท่ีเปน็ ประสิทธภิ าพของ ประสทิ ธภิ าพของ ประสทิ ธิภาพของ วธิ กี ารประเมิน นวัตกรรมได้อย่าง ผลงานหรอื ช้ินงาน ผลงานหรอื ชิน้ งาน ผลงานหรอื ชิน้ งาน ประสทิ ธิภาพของ ตอ่ เน่อื ง ทสี่ รา้ งข้ึนอยา่ ง ท่ีสรา้ งขนึ้ อย่าง ท่ีสรา้ งข้ึน แต่ไม่ ผลงานหรอื ช้ินงาน เหมาะสม สามารถ เหมาะสม สามารถ สามารถระบุถึง ท่ีสรา้ งขนึ้ รวมทัง้ ระบุถงึ จดุ บกพรอ่ ง ระบถุ งึ จดุ บกพรอ่ ง จุดบกพร่องของ ไม่สามารถระบถุ ึง ของผลงาน หรอื ของผลงานหรือ ผลงานหรอื ช้นิ งาน จดุ บกพร่องของ ช้ินงาน และนำ ชน้ิ งานได้ แต่ไม่ และไม่สามารถนำ ผลงาน หรือ จุดบกพรอ่ ง สามารถนำ จดุ บกพรอ่ ง ชนิ้ งาน และไม่ ดงั กลา่ วมา จดุ บกพรอ่ ง ดังกลา่ วมา สามารถนำ ปรับปรงุ และ ดงั กล่าวมา ปรบั ปรงุ และ จดุ บกพรอ่ ง พฒั นาผลงานใหด้ ี ปรบั ปรงุ และ พฒั นาผลงานให้ดี ดงั กลา่ วมา ข้ึน พัฒนาผลงานใหด้ ี ขึ้น ปรับปรงุ และ ขึน้ พฒั นาผลงานให้ดี ขึ้น 6. ผลงานหรือ ระบวุ ตั ถปุ ระสงค์ ระบวุ ัตถปุ ระสงค์ ระบุวัตถปุ ระสงค์ ผลงานหรอื ชน้ิ งาน ชนิ้ งานท่เี ป็น ของการนำผลงาน ของการนำผลงาน ของการนำผลงาน ท่ีสร้างขึ้นไม่ นวตั กรรมของ หรอื ชิน้ งานที่สร้าง หรอื ช้ินงานทีส่ ร้าง หรอื ชน้ิ งานที่สรา้ ง สามารถนำไปใช้ ผู้เรียนสามารถ ขึ้นไปใช้เพอื่ การ ข้ึนไปใช้เพอ่ื การ ข้ึนไปใชเ้ พ่ือการ เพื่อการแกป้ ญั หา นำไปใช้เพ่ือการ แกป้ ัญหาหรือ แกป้ ญั หาหรอื แกป้ ญั หาหรือ หรอื อำนวยความ แกป้ ัญหาหรือ อำนวยความ อำนวยความ อำนวยความ สะดวกในการใช้ อำนวยความสะดวก สะดวกในการใช้ สะดวกในการใช้ สะดวกในการใช้ ชีวิตในดา้ นอืน่ ๆ ในการใชช้ ีวติ ได้ ชีวิตได้มากกว่า ชีวิตไดเ้ ท่ากบั 2 ชีวิตไดเ้ พียง ได้หรือใชง้ านไดไ้ ม่ อยา่ งหลากหลาย หรือเท่ากับ 3 ประการ และ ประการเดยี ว และ ตรงตาม
28 ตัวชี้วัด 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 32 ประการขึน้ ไป สามารถใช้งานได้ สามารถใชง้ านได้ วตั ถปุ ระสงค์ที่ และสามารถใช้ ตรงตาม ตรงตาม กำหนด งานได้ตรงตาม วตั ถปุ ระสงค์ท่ี วัตถปุ ระสงค์ท่ี วัตถปุ ระสงค์ที่ กำหนด กำหนด กำหนด 7. สื่อสารถ่ายทอด ใช้ภาษาพดู เขยี น ใช้ภาษาพูด เขยี น ใช้ภาษาพดู เขยี น ไม่สามารถใช้ แนวคดิ การใช้ และกรยิ าทา่ ทาง และกริยาท่าทาง และกริยาท่าทาง ภาษาพดู เขยี น ผลงานหรือชิน้ งานที่ ในการสอ่ื สาร ในการสือ่ สาร ในการสอ่ื สาร และกรยิ าท่าทาง เปน็ นวตั กรรมของ ถา่ ยทอดแนวคดิ ถ่ายทอดแนวคดิ ถา่ ยทอดแนวคิด ในการสือ่ สาร ผเู้ รียนไปยงั ผอู้ นื่ ได้ การใช้ผลงานหรือ การใชผ้ ลงานหรือ การใชผ้ ลงานหรือ ถ่ายทอดแนวคิด อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ช้นิ งานทีเ่ ป็น ชนิ้ งานท่เี ปน็ ชน้ิ งานทเี่ ป็น การใช้ผลงานหรือ นวตั กรรมของ นวัตกรรมของ นวตั กรรมของ ชนิ้ งานทเี่ ปน็ ผเู้ รียน ได้อย่าง ผู้เรียน ได้อย่าง ผ้เู รยี น ไม่ นวตั กรรมของ เหมาะสม มคี วาม เหมาะสมแตข่ าด เหมาะสม ผเู้ รียนไปยังผ้อู นื่ น่าสนใจ ความนา่ สนใจ ขาดความน่าสนใจ ได้ สอื่ สารแนวคิดได้ สื่อสารแนวคิดไม่ สื่อสารไดไ้ ม่ชดั เจน อย่างชัดเจน และ ชดั เจน และไม่มี และไม่มี มปี ฏสิ มั พนั ธก์ ับ ปฏิสมั พันธ์กับผู้ฟงั ปฏสิ ัมพันธ์กับผฟู้ งั ผฟู้ งั 8. ใชท้ รัพยากร มหี ลกั ฐานทีแ่ สดง มหี ลกั ฐานทแ่ี สดง มีหลกั ฐานทแ่ี สดง ไมพ่ บหลักฐานที่ ดจิ ิทัลและมัลตมิ ีเดีย ถึงการเลอื กใช้ ถงึ การเลือกใช้ ถึงการเลือกใช้ แสดงถึงการ เพ่อื นำเสนอผลงาน ทรพั ยากรดิจิทัล ทรพั ยากรดจิ ิทลั ทรพั ยากรดจิ ิทลั เลือกใช้ทรพั ยากร หรอื ชนิ้ งานท่เี ปน็ และมัลตมิ ีเดียใน และมลั ตมิ ีเดียใน และมัลตมิ ีเดยี ใน ดจิ ิทัลและ นวัตกรรมอย่าง การนำเสนอ การนำเสนอ การนำเสนอ มัลติมเี ดยี ในการ สร้างสรรค์ ผลงานหรือชิ้นงาน ผลงานหรอื ชน้ิ งาน ผลงานหรอื ชิ้นงาน นำเสนอผลงาน ท่เี ปน็ นวัตกรรมได้ ทเี่ ปน็ นวัตกรรมได้ ท่ีเป็นนวตั กรรม หรอื ชิ้นงานทเ่ี ป็น อยา่ งเหมาะสม มี อยา่ งเหมาะสม แต่ แต่ไม่เหมาะสม นวตั กรรม ความน่าสนใจ เชน่ ขาดความนา่ สนใจ และขาดความ นำเสนอในรูปแบบ เช่น นำเสนอใน น่าสนใจ เชน่ ของอนิ โฟกราฟกิ รปู แบบของอินโฟ นำเสนอในรูปแบบ
29 ตัวชวี้ ัด 4 ระดบั คุณภาพ 1 32 เสยี ง และวิดีโอ กราฟกิ เสยี ง และ ของอนิ โฟกราฟิก ฯลฯ วดิ โี อ ฯลฯ เสียง และวดิ ีโอ ฯลฯ เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 34-40 หมายถงึ มีทกั ษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมในระดับมากท่ีท่ีสุด คะแนน 28-33 หมายถึงมที ักษะการสร้างสรรค์และนวตั กรรมในระดบั มาก คะแนน 22-27 หมายถึงมที ักษะการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 16-21 หมายถงึ มที กั ษะการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรมในระดับนอ้ ย คะแนน 10-15 หมายถงึ มที กั ษะการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรมในระดับนอ้ ยทท่ี ่ีสุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: