Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบเสนอเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษา 2564.

แบบเสนอเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษา 2564.

Published by Teacher.Orawan Pudmon, 2021-09-14 15:38:55

Description: แบบเสนอเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษา 2564.

Search

Read the Text Version

แบบเสนอเคา้ โครงการวจิ ัยในชน้ั เรียน ปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรุง) ................................................................................................................................................ ชื่อเร่อื ง การพฒั นาบทเรียนออนไลน์ เร่ือง Funny Free time สำหรบั นักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ชื่อผู้วจิ ยั นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ 1. ความเป็นมาและความสำคญั ปจั จุบนั ความเจริญเติบโตทางเทคโนโลยีมคี ่อนข้างสูงและรวดเรว็ ถือเป็นโลกยคุ แห่งการติดต่อส่ือสาร ที่ทันสมัย โดยผู้ส่งสารสามารถสร้างช่องทางการติดต่อกับผู้รับสารได้อย่างหลากหลาย คอมพิวเตอร์สามารถ สร้างสื่อการเรียนรู้ ต่างๆและได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวุฒิภาวะทางปัญญา ของเด็ก ผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญ สื่อในรูปแบบต่างๆ อาทิ เช่นเกม เพลง หนังสือ งานศิลปะ สื่อมัลติมีเดีย หรือ แม้แตส่ ือ่ ออนไลน์ ในหลากหลายรูปแบบ สามารถตอบสนองการเรยี นรู้ของเด็กเยาวชนได้เป็นอย่างดี โดยสืบ เนื่องมาจากยุคความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ดังได้กล่าวมาแล้ว สื่อการสอน ออนไลน์เป็นช่องทางเลือกหนึ่งที่สำคัญในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อ พัฒนาการทางด้านการจำคำศัพท์ ของเด็กได้เป็นอย่างดี เพราะจะสามารถดึงดูดความสนใจของเด็ก โดยการอาศัย เทคนิค ทั้งความสวยงามทาง ภาพและเสียงประกอบกัน ทำให้นา่ สนใจมากย่งิ ข้ึน ทงั้ นีเ้ ด็กสามารถฝึกออกเสยี งได้ ใกลเ้ คียงกบั เจ้าของภาษา ในกรณีที่เราสามารถเพิ่มรูปแบบของสื่อในส่วนของเสียงเข้าไปด้วย อีกทั้งยังสามารถชมภาพ ที่สวยงามผ่าน การสร้างสรรค์ผลงานออกมาในรูปแบบของสื่อ เกมมัลติมีเดีย บทเรียนออนไลน์ การเรียนภาษาอังกฤษจาก เพลง จากภาพยนตร์ หนังสอื อา่ นเล่น และจากการเล่นเกม ยังเปน็ วธิ ีทใ่ี ช้ได้ผลเสมอ สิง่ เหล่านี้ทำให้เกิดความ สนุก และพัฒนาสมองไปด้วย เกมพัฒนาความจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น เกมครอสเวิร์ด เกมปริศนาอักษร ไขว้ เกมหาคำศัพท์ เกมบิงโก เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมเหล่านี้นอกจาก จะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำของ สมองเป็นอย่างดี แล้วยังช่วยให้มีสมาธิและฝึกความอดทนในการที่จะต้องพยายามแก้ปัญหาให้สำเร็จ สอดคล้องกับผลการวิจัยของ Andrew Laghos ซึ่งได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเกมมัลติมีเดียสำหรับ นักเรียน ประถมศึกษา เพื่อการศึกษาและความบันเทิง พบว่าการนำเกมมาใช้ในการเรียนการสอนสามารถทำให้เด็กมี สว่ นร่วมและมีความสามารถในการรับรูย้ าวนานกว่า การเรียนแบบปกติ อีกทั้งยงั สง่ ผลใหเ้ ด็กเกิดความ บันเทิง ในการเรยี นอีกด้วย (Andrew Laghos: 2553) ภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาสากลของนานาประเทศท่ัวโลกท่ีใช้ติดตอสื่อสารประสานงานกนั สือ่ สารภาษา เดียวกันสามารถไปได้ทั่วโลก ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในเชงิ พาณิชย์และบริการทองเที่ยว ภาษาอังกฤษ จึงเป็น ภาษาที่ควรปลูกฝังความรู้ด้านต่างๆทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียนให้แก่นักเรียนซึ่งจำเป็น ต้องเรียนเป็น ภาษาต่างประเทศ (International language) เพื่อให้มีความรู้สามารถติดตอสื่อสาร แลกเปลี่ยนข่าวสารและ

เทคโนโลยีต่างๆ กับชนชาติอื่น ตลอดจนทำความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวต่างชาติ แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนาในความสามารถของการทำ งานก่อให้เกิดความ เจริญกา้ วหน้าสูป่ ระเทศ การเรียนภาษาอังกฤษผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องฝึกความสามารถด้านต่างๆทั้ง ด้านการอ่าน การฟัง การพูด และการเขียนเพราะจะสามารถทำให้นักเรียนนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง ถูกต้อง คำศัพทภ์ าษาอังกฤษเป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาอังกฤษ เนือ่ งจากการไม่รู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ จะ ส่งผลเสียต่อไปในส่วนของทั้งการฟังอ่าน พูดและเขียน คำศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นถือเป็นองค์ประกอบ สำคัญ ตั้งแต่ระดับคำวลีและ ประโยคซึ่งประกอบ เป็นข้อความที่ยาวขึ้นตามลำดับจะเห็นได้ว่า ความสามารถด้านการ อ่าน ภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใชค้ วามสามารถดา้ นความจำของ สมองมาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง และแนวโน้ม ในอนาคตภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาต่างประเทศ ที่มีโอกาสใช้ใน ชวี ติ ประจำวันมากกวา่ ภาษา อน่ื ๆ ความสามารถทางด้านความจำจึงเป็นสิ่งทีส่ ำคัญมาก การอา่ นช่วยให้คน รอบร้ฉู ลาดทนั โลก ทนั เหตกุ ารณ์ และเป็นกุญแจนำไปสู่ความสำเร็จ หากว่านักเรยี นไม่เข้าใจคำศัพท์แล้วก็ จะไม่ สามารถทจี่ ะเข้าใจเนื้อหา ท่อี า่ นและจะมผี ลทำให้การเรียนรู้ ทางด้านภาษาองั กฤษของนกั เรียนอยู่ใน เกณฑ์ทีต่ ่ำกวามาตรฐาน การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษในยคุ ศตวรรษที่ 21 เป็นสงิ่ ทค่ี นไทยสามารถเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ยเน่ืองจาก ความทันสมัยของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ใช้แค่อยู่ในตำราเรียนเท่านั้น แต่ความรู้ ภาษาอังกฤษตา่ งๆ ไดเ้ ขา้ มาอยใู่ นอินเทอร์เน็ตมากมายแคเ่ พยี งเราสัมผสั หรอื คลกิ ขอ้ มูล ความรตู้ ่างๆ ก็ไหลมา รวมอยู่หนา้ จอมือถอื ทเี่ รามี จากสภาพดงั กลา่ วขา้ งตน้ ผวู้ ิจยั จึงมีความสนใจท่ีจะการพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ เรอื่ ง Funny Free time สำหรับนกั เรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เพอื่ ใหน้ กั เรียนมกี ารแลกเปลี่ยนข้อมูลกิจกรรมที่ทำในเวลาของ ตนเองกับบคุ คลอนื่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสมกบั โอกาส ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และ เพื่อช่วยในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรยี นอย่างมีคุณภาพ 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพบทเรยี นออนไลน์ เรือ่ ง Funny Free time สำหรับนกั เรยี น ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 2. เพ่อื ศึกษาผลสัมฤทธ์กิ ารเรียนด้วยบทเรยี นออนไลน์ เร่อื ง Funny Free time สำหรบั นักเรยี น ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 3. เพือ่ ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ทเี่ รยี นดว้ ยบทเรียนออนไลน์ เรอ่ื ง Funny Free time 3. สมมติฐานของการวิจยั

1. บทเรียนออนไลน์ เร่ือง เรื่อง Funny Free time สำหรบั นกั เรียน ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 มี ประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 2. ผลสัมฤทธิก์ ารเรียนดว้ ยบทเรยี น เรอื่ ง Funny Free time สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 หลงั เรียนสงู กว่าก่อนเรียน 3. ความพงึ พอใจของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ท่เี รียนดว้ ยบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง เรอื่ ง Funny Free time อยู่ในระดับมาก 4.ขอบเขตของการวจิ ัย ประชากร นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 วชิ าภาษาอังกฤษ จำนวน 49 คน กลมุ่ ตัวอย่าง นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 วชิ าภาษาอังกฤษ จำนวน 25 คน ตัวแปรทใ่ี ช้ในการวิจัย ตัวแปรอิสระ (Independent Variables) ได้แก่ บทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง เร่ือง Funny Free time ตวั แปรตาม (Dependent Variables) ไดแ้ ก่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นวิชาภาษาอังกฤษ ความพึงพอใจของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ทเ่ี รยี นด้วยบทเรยี น ออนไลน์ เร่อื ง การอ่านจบั ใจความ ภาษาองั กฤษ เนอ้ื หาท่ใี ช้ในการวจิ ยั เน้อื หาท่ีใช้ในการวจิ ยั คร้ังน้ี ไดแ้ ก่ บทเรียนออนไลน์ เร่ือง Funny Free time ใบงาน ใบความรู้ แบบทดสอบ วชิ าภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 5.ระยะเวลาทใี่ ช้ในการวิจัย ผวู้ ิจยั ทำการทดลองในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 10 ชัว่ โมง 6.เน้ือหาทใ่ี ชใ้ นการวิจัย ดา้ นเนอื้ หาในการดำเนินการวิจัยในการวจิ ัยในครัง้ น้ผี ู้วจิ ยั ได้กำหนดเนือ้ หาของคำศพั ท์ภาษาองั กฤษ ทีน่ ำมาใช้ฃโดยนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษา อังกฤษชน้ั ประถมศึกษา ปที ี่ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐานพุทธศักราช 2544 ปรับแผนการสอนตามหลกั สตู รใหม่ 2551 การศึกษาครั้งนใี้ ชเ้ นอ้ื หารายวชิ าภาษาอังกฤษ สาระ สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร ,สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม ,สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พันธก์ ับกลมุ่ สาระการ เรียนรู้ ,สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชมุ ชนและโลก นยิ ามศัพท์เฉพาะ

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถในการเรียนของนักเรียน ในรายวิชา ซึ่งวัดได้จาก คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน แบบทดสอบย่อยในแต่ละหัวข้อ แบบประเมินการ ปฏิบตั กิ ารทดลอง และแบบประเมินการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ หมายถึง พฤติกรรมการเรียนในการทำงานกลุ่ม ได้แก่ การช่วยเหลือกลุ่ม มีความรับผิดชอบ การแสดงความคิดเห็น รับฟังความคิดเห็น และสามารถระบุบทบาท หน้าที่ของตนเองในการทำงานร่วมกับเพื่อนในกลุ่มได้ ตั้งแต่วางแผนการทำงาน การดำเนินตามแผนที่วางไว้ ตลอดจนการนำเสนอผลงาน ซึง่ สามารถตรวจสอบได้ โดยการสมั ภาษณ์ แบบประเมินตนเองและเพื่อนในกลุ่ม ในการทำงานเปน็ กลุม่ และแผนภาพสงั คมมติ ิ บทเรยี นออนไลน์ หมายถึง บทเรียนบนเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต ในรูปแบบของเวบ็ บล็อก (Web Blog) ทีค่ รผู สู้ อนสรา้ งขนึ้ โดยใช้ googlesite.com เรื่อง Funny Free time ในรายวชิ า ภาษาอังกฤษ ของ นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โดยมีบทเรียนจํานวน 4 เร่ือง ประกอบด้วย รูปภาพ เน้ือหา คาํ ศัพท์ คําถาม ทา้ ยบทเรียน กระท้ถู ามตอบ และมหี ้องสนทนาระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนและ ผเู้ รยี นกับผู้สอน แบบฝึกทักษะ หมายถึง สื่อหรือเอกสารการเรียนประเภทหนึ่ง ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อให้นักเรียนฝึก ปฏบิ ตั ิเพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจและทักษะเพิ่มขึ้น เพอื่ พฒั นาทักษะในด้านหนึ่งๆ ที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา พัฒนาการใหก้ ับนักเรียน และเรียงลำดับจากง่ายไปหายาก โดยเน้นการฝกึ ทักษะตามกระบวนการท่ีได้กำหนด ไวแ้ ละสามารถนำไปใชไ้ ด้ในชวี ติ ประจำวัน ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ หมายถึง อัตราส่วนระหว่างค่าร้อยละของค่าเฉลี่ยจาก การปฏิบัติ กจิ กรรมระหวา่ งเรียน โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะกบั คา่ รอ้ ยละของคะแนนทไ่ี ด้จากการทำแบบทดสอบหลังเรียน โดย ใช้ประสิทธภิ าพ 80/80 เปน็ เกณฑ์ตดั สนิ 80 ตัวแรก หมายถึง ประสิทธิภาพของกระบวนการโดยพิจารณาจากร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของ นกั เรยี นจากการเรียนโดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจบั ใจความ 80 ตัวหลัง หมายถึง ประสิทธิภาพของผลผลิตโดยพิจารณาจากร้อยละของคะแนนเฉลี่ยจาก แบบทดสอบหลงั เรยี น ของนักเรียนหลงั เรียนทุกแผนโดยมีคะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ความพึงพอใจ หมายถงึ ความคดิ เห็นของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ทีม่ ตี ่อการ จดั การเรยี นการ สอนด้วยบทเรียนออนไลน์ เร่ือง Funny Free time ดา้ นเนอ้ื หา ด้าน การนาํ เสนอด้วยภาพและสปี ระกอบ และการเช่ือมโยงเนื้อหา และด้านแบบทดสอบและการ ประเมนิ ผล ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั 1.ไดส้ ื่อบทเรียนออนไลน์เพ่ือนําไปใช้ในการเรียนการสอน เร่ือง Funny Free time ภาษาอังกฤษ ท่ี มปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. ทําใหน้ ักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิการเรียน เรือ่ ง Funny Free time เพมิ่ ขนึ้ ใน ระดับมาก 3. ผูเ้ รียนพึงพอใจบทเรยี นออนไลน์ เรือ่ ง Funny Free time

4 ไดแ้ นวทางการพฒั นาบทเรียนออนไลนใ์ นรายวิชาอืน่ ๆ เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้อง การศกึ ษาครัง้ นี้ ผวู้ จิ ัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวข้องเพ่ือให้เข้าใจ หลกั การ ทฤษฎี ตลอดจน ผลงานวจิ ยั ตา่ งๆทม่ี ีสว่ นเกี่ยวข้องกับการศกึ ษา ตามหัวข้อดังต่อไปน้ี 1. หลกั สูตรและการเรียนการสอนกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ 2. เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การศึกษาและพัฒนา 1. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน 2. ความหมายของจุดประสงค์การเรียนรู้ 3. พฤตกิ รรมทค่ี าดหวังทางด้านสติปัญญา 4. การสอนรูปแบบตา่ งๆ 5. การวดั ผลประเมินผล 3.เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ งกับบทเรียนออนไลน์ 1 ความหมายของบทเรียนออนไลน์ 2 ประเภทของบทเรยี นออนไลน์ 3. องค์ประกอบของบทเรยี นออนไลน์ 4. หลักการออกแบบบทเรยี นออนไลน์ 5. การออกแบบพัฒนาเวบ็ ไซต์ 6. งานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวข้อง วธิ กี ารดำเนนิ การวิจัย ประชากร นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 วิชาภาษาองั กฤษ จำนวน 49 คน กลุ่มตวั อยา่ ง นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 วชิ าภาษาอังกฤษ จำนวน 25 คน วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการวจิ ัยครั้งน้ีผวู้ ิจยั มวี ตั ถุประสงค์เพื่อพฒั นาบทเรียนออนไลน์ เร่อื ง Funny Free time ภาษาองั กฤษ สําหรบั นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ผวู้ ิจยั ได้ดําเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมูลของกลุ่ม ตวั อยา่ งที่ ใช้ในการวจิ ัยครง้ั นี้ เป็นนักเรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) ตาํ บลคลองหน่ึงอาํ เภอคลองหลวง จังหวัดปทมุ ธานี สังกัดสาํ นกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 โดยใชว้ ิธีการสุ่มตัวอยา่ งแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จาํ นวน 2 หอ้ งเรยี น นักเรียน 25 คน มีข้ันตอนดงั น้ี

1) ผ้วู จิ ัยชี้แจงให้กลมุ่ ตัวอย่างทราบถึงวัตถุประสงค์และขนั้ ตอนการเรียน โดยใชบ้ ทเรยี น ออนไลน์ เรื่อง Funny Free time สาํ หรับนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 2) ผ้วู จิ ัยให้กลมุ่ ตวั อยา่ งทําแบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง Funny Free time สําหรับนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ที่เป็นกลมุ่ ตัวอย่าง แล้วบนั ทึกคะแนนที่ได้ จากการทดสอบครั้งนีเ้ ป็น คะแนนการทดสอบก่อนเรียน 3) จากนัน้ อธิบายและสาธติ ข้ันตอนการเรียนโดยใช้บทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง Funny Free time สาํ หรบั นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 พร้อมท้ังช้ีแจงจดุ มุ่งหมายและเงื่อนไขใน การเรียนใหก้ ลมุ่ ตัวอยา่ ง ทราบถึงกระบวนการเรยี นในคร้ังนี้ วา่ เปน็ การเรยี นผ่านอินเทอร์เน็ต ใชไ้ ด้ ทงั้ คอมพวิ เตอร์ และสมาร์ทโฟน ผู้เรยี นตอ้ งอา่ นคําช้ีแจงและปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ ในการเรยี น 4) ดาํ เนินการทดลองโดยใช้บทเรยี นออนไลน์ ออนไลน์ เร่ือง Funny Free time สําหรบั นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 จํานวน 10 ชว่ั โมง ๆ ละ 60 นาที ในการเรียนแต่ละบทเรยี น พร้อมทาํ แบบฝกึ หัดหลงั เรียน 5) เมื่อดําเนินการทดลองโดยใช้บทเรียนออนไลน์ เรื่อง Funny Free time สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครบทกุ บทเรียนแล้ว ผูว้ ิจัยให้กลุ่มตวั อย่างทาํ แบบทดสอบวัดผล การเรยี นรูเ้ รอื่ ง Funny Free time สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และบันทึกผล การทดสอบให้เป็นคะแนนแบบทดสอบ วดั ผลการเรียนรหู้ ลังเรยี น และให้ตอบแบบสอบถามความ พงึ พอใจในการเรยี น 6) นําผลท่ีได้จากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของกล่มุ ตวั อยา่ งมาตรวจให้ คะแนน โดย ตอบคําถามถกู ต้อง = 1 คะแนน ตอบคาํ ถามผดิ = 0 คะแนน และนําผลคะแนนทไี่ ดม้ า ทดสอบด้วยวธิ ที าง สถติ ิ เพื่อทดสอบสมมตฐิ าน 7) นําผลท่ีได้จากการตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจต่อบทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง Funny Free time สาํ หรบั นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 มาวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติ เพือ่ ทดสอบสมมติฐาน เคร่อื งมือในการวิจัย 1. การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เรื่อง Funny Free time ภาษาองั กฤษ สาํ หรับนักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 2.การประเมินคุณภาพบทเรียนออนไลน์ เรื่อง Funny Free time ภาษาอังกฤษ สําหรบั นักเรยี นชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 จากผูเ้ ช่ยี วชาญเพ่อื หาคุณภาพของสื่อที่มีประสิทธภิ าพ 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ใชเ้ ปน็ แบบทดสอบสาํ หรบั วัดผลการเรยี นรู้ ก่อนเรยี นและ หลังเรียนจากการใชบ้ ทเรยี นออนไลน์ เร่ือง Funny Free time ภาษาองั กฤษ สาํ หรับนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 เพอื่ ใชส้ ําหรับวัดพ้นื ฐานความร้เู ดิมและผลสัมฤทธหิ์ ลังเรยี น

4. แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ทม่ี ตี อ่ บทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง เรอื่ ง Funny Free time 5.การวเิ คราะหข์ ้อมูล การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เร่อื ง รอ่ื ง Funny Free time ภาษาอังกฤษ สาํ หรับนกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 สามารถสรุปสถิตทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ ดังนี้ สถิติทใ่ี ช้ในการพัฒนาเครื่องมือ 1. การหาประสทิ ธภิ าพของส่ือจากสูตร E, E, (ชัยยงค์ พรหมวงศ์, 2556, น. 10) เมอ่ื E1 คือ ประสทิ ธภิ าพของบทเรยี นออนไลน์ จากการทาํ แบบฝกึ หัดระหว่างเรียน E2 คอื ประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์ จากการทาํ แบบทดสอบหลังเรียน EX คอื คะแนนรวมของผเู้ รยี นจากการทําแบบฝึกหัดระหว่างเรยี น TF คอื คะแนนรวมของผูเ้ รยี นจากการทําแบบทดสอบหลังเรยี น N คือ จํานวนผเู้ รียน 4 คอื คะแนนเตม็ ของแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรยี น B คือ คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลงั เรยี น การวิเคราะหค์ ุณภาพเคร่ืองมือ 2.การวิเคราะหแ์ บบทดสอบเพอ่ื หาค่าดัชนคี วามสอดคล้อง IOC (บุญใจ ศรีสถิตยน์ รากร ,2555, น. 122) เมื่อ IOC คือ ค่าดชั นีความสอดคลอ้ ง R คอื คะแนนรวมความคิดเห็นของผู้เชีย่ วชาญ N คอื จํานวนผเู้ ชี่ยวชาญ

โดยกําหนดเกณฑก์ ารพิจารณา ดงั นี้ +1 หมายถึง คาํ ถามสอดคลอ้ งกบั จดุ มุ่งหมายทีต่ ้องการวัด 0 หมายถงึ ไมแ่ น่ใจว่าคําถามสอดคลอ้ งกับจุดมุ่งหมายที่ต้องการวัด -1 หมายถึง คําถามไม่สอดคล้องกบั จุดมุ่งหมายทตี่ ้องการวัด ค่าดชั นคี วามสอดคล้องที่ผา่ นเกณฑ์คณุ ภาพ คอื 50 ขน้ึ ไป 3.การวเิ คราะห์ขอ้ มลู แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้แบบมาตรสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ได้แก่ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ดุ (บุญชม ศรสี ะอาด, 2553, น. 121) ระดับความคิดเห็น ระดับความพึงพอใจ 5 หมายถงึ ระดบั ความพงึ พอใจมากท่ีสุด 4 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมาก 3 หมายถึง ระดับความพึงพอใจปานกลาง 2 หมายถงึ ระดับความพึงพอใจนอ้ ย 1 หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ยท่ีสุด เกณฑ์การแปลความหมาย คา่ เฉลย่ี ระดบั ความพึงพอใจ คา่ เฉลี่ย 4.51 - 5.00 หมายถงึ ระดบั ความพงึ พอใจมากทส่ี ดุ ค่าเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง ระดับความพึงพอใจมาก คา่ เฉลีย่ 2.51 – 3.50 หมายถงึ ระดบั ความพึงพอใจปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.51 - 2.50 หมายถงึ ระดับความพงึ พอใจน้อย ค่าเฉลีย่ 1.00 – 1.50 หมายถงึ ระดบั ความพงึ พอใจน้อยท่ีสุด การวิเคราะห์แบบทดสอบ 3.5.4 การหาค่าอํานาจจําแนก (1) ของแบบทดสอบ (บุญชม ศรี สะอาด, 2553, น. 98)

เม่อื r คือ อํานาจจาํ แนก Ru คือ จาํ นวนคนกลมุ่ สูงที่ตอบถูก Rl คือ จาํ นวนคนกลุ่มต่าํ ทตี่ อบถกู f คอื จํานวนคนในกลุม่ สูงและกลมุ่ ต่ำ (ซง่ึ เท่ากัน) เกณฑก์ ารแปลความหมายค่าอํานาจจําแนก (พิสณุ ฟองศรี, 2557, น. 171) คา่ อาํ นาจจาํ แนก ความหมาย 0.60 - 1.00 ดมี าก 0.40 - 0 59 พอใช้ 0.10 - 0.19 ตำ่ ต้องปรับปรงุ 0.00 - 0.09 ตำ่ มา ต้องปรับปรงุ การหาค่าระดับความยาก (P) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยใชส้ ูตรของเบรนแนน (Brennan) (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2545, หนา้ 84 ) ดงั นี้ P = R N เมอื่ P หมายถงึ ระดับความยาก R หมายถงึ จำนวนผตู้ อบถูกทั้งหมด N หมายถงึ จำนวนนักเรียนสอบทัง้ หมด ค่าความยาก ความหมาย 0.80 - 1.00 งา่ ยมาก ตอ้ งปรับปรงุ 0.60 - 0.79 คอ่ นข้างง่าย 0.40 - 0 59 ปานกลาง 0.20 - 0.39 ค่อนข้างยาก 0.00 - 0.19 ยากมาก ต้องปรบั ปรุง การหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สูตร KR-20 (ลว้ นสายยศ และอังคณา สายยศ ,2543, หน้า 197-198)

rtt = n n 1 1 −  Pq  −  S2   t เมอ่ื rtt หมายถงึ ค่าความเชอื่ มนั่ ของแบบทดสอบ สัดส่วนของผทู้ ำได้ในขอ้ หนงึ่ ๆ นน่ั คือ P หมายถงึ สัดส่วนของคนทำถูกกับคนทัง้ หมด สัดสว่ นของผทู้ ำผดิ ในข้อหนึ่งๆ หรอื คอื q หมายถึง 1- p จำนวนขอ้ สอบแบบทดสอบ n หมายถงึ ความแปรปรวนของคะแนนท้ังฉบบั S2 หมายถึง t 3. สถติ ิท่ีใชท้ ดสอบสมมติฐาน 1. ทดสอบความแตกตา่ งระหว่างคะแนนเฉลี่ยโดยใช้สถติ ิ Dependent Samples t-test t =  D ; df = n-1 N  D2 − ( D)2 N −1 เมือ่ t หมายถึงคา่ สถติ ิที่ใชใ้ นการพจิ ารณาใน t – distribution D หมายถงึ ความแตกตา่ งของคะแนนแต่ละคู่ N หมายถงึ จำนวนกลุ่มตัวอย่างหรือจำนวนคะแนนแต่ละคู่  D หมายถงึ ผลรวมทง้ั หมดของผลตา่ งของคะแนนกอ่ นเรยี น และหลังเรียน  D2 หมายถงึ ผลรวมของกำลังสองของผลต่างของคะแนนก่อน เรียนและหลงั เรียน 2. สถิติพน้ื ฐาน ทีน่ ำมาใช้วเิ คราะหข์ ้อมลู ในการวิจัยครั้งน้ีมีดังต่อไปน้ี ค่าเฉลย่ี แทนคา่ ∑ ������ ������̅ = ������ ������̅ คือ ค่าเฉลย่ี ∑ ������ คอื ผลรวมของคะแนนของผ้เู รียน ������ คอื จำนวนผู้เรยี น

เกณฑก์ ารแปลความหมายค่าเฉลี่ยของคะแนน ค่าเฉลีย่ 4.51 - 5.00 หมายถึง เหน็ ดว้ ยอยา่ งย่งิ คา่ เฉลย่ี 3.51 - 4.50 หมายถึง เหน็ ดว้ ย คา่ เฉล่ยี 2.51 – 3.50 หมายถึง ไม่แน่ใจ คา่ เฉลี่ย 1.51 - 2.50 หมายถึง ไม่เห็นด้วย ค่าเฉลย่ี 1.00 – 1.50 หมายถึง ไม่เห็นด้วยอย่างย่ิง 3. คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชส้ ูตร Ferguson (Ferguson, 1981 : 49) 2 ∑ ������2 − (∑ ������)2 ������. ������. = √ ������(������ − 1) แทนคา่ ������. ������. คอื ค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐาน ∑ ������2 คือ ผลรวมของกำลังสองของคะแนน (∑ ������)2 คอื ผลรวมของคะแนนท้ังหมดยกกาลังสอง ������ คอื จำนวนคนในกลมุ่ ตัวอย่าง นำข้อมูลที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนมาสร้างตาราง เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนของนักเรียนรายบุคคลมา เพื่อดู พฒั นาการของนักเรียนและจุดบกพรอ่ งต่อไป ระยะเวลาในการดำเนนิ การวิจัย ระยะเวลาในการดำเนินการวจิ ัย เดอื นสิงหาคม ถงึ เดอื นกนั ยายน พ.ศ.2564

เดือน ก.ค. ส.ค. ก.ย. รายการ/กิจกรรม ก. ขน้ั เตรยี มการ 1. ศกึ ษาเอกสารงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 2. รวบรวมขอ้ มลู ต่างๆทีจ่ ำเป็นเพอื่ จัดทำโครงรา่ งวจิ ัย 3. สร้างและหาคุณภาพเครื่องมอื ที่ใชใ้ นการวิจยั 4. ทดสอบและแก้ไขเครื่องมือทใ่ี ช้ในการวิจัย ข. ขนั้ การเกบ็ ข้อมลู 5. เลือกกล่มุ เปา้ หมาย/ สุ่มกล่มุ ตวั อย่างจากประชากร 6. ดำเนนิ การเก็บข้อมลู ตามแผนที่วางไว้ ค. ข้ันการประมวลผลและวเิ คราะหข์ ้อมูล 7. นำข้อมูลท่ไี ดม้ าวิเคราะห์และแปลความหมาย ง. การรายงานและการเผยแพรผ่ ลงาน 8. เขยี นรายงาน 9. จัดพมิ พร์ ายงาน ลงช่ือ...........................................................ผดู้ ำเนนิ การวจิ ยั (นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ) ตำแหนง่ ครู เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรยี น เพื่อโปรดพิจารณา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... ลงชอ่ื (นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรงุ )