แผนภาษาอังกฤษป.5หน่วยที่2

คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎีกำรเรยี นรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่กำรปฏบิ ัติ สิง่ สำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผู้เรียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรสอื่ สำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ

แผนผงั มโนทัศนเ์ ป้าหมายการเรียนร้/ู หลักฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทกั ษะกำรฟงั (Listening skill) 1. ซ่อื สตั ย์สจุ รติ 1) ความรู้ (Knowledge : K) 2) ทักษะกำรพูด (Speaking skill) 2. มีวินยั 1. กลมุ่ คา ประโยค และ 3) ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading skill) 3. ใฝเ่ รียนรู้ ความหมายเก่ยี วกับตนเอง และโรงเรียน 4) ทักษะกำรเขยี น (Writing skill) 4. มุ่งมัน่ ในกำรทำงำน 2. ประโยค บทสนทนา และเน้อื เรื่อง 5. มีจติ สำธำรณะ สัน้ ๆ ทีม่ ภี าพประกอบ กระบวนการกลุ่ม 3. คาศพั ท์ และประโยคเก่ียวกบั วธิ ีการ 1) จบั คสู่ นทนำ เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เช่น 2 ) ระดมสมอง A: How do you go to school? 3) ฝกึ กจิ กรรมกลุ่มตำม B: I always walk to school. แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 4. Present Simple Tense 5. ประโยคและข้อความท่ใี ช้ในการพูด ใหข้ ้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง 6. คา กล่มุ คาท่ีมีความหมายสัมพนั ธ์ กบั ข้อมลู ต่าง ๆ เช่น กราฟ 7. กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การรอ้ งเพลง เปา้ หมายการเรียน Present Simple Tense หลกั ฐานการเรียนรู้ 1. การพูดถาม-ตอบเกีย่ วกับวิธกี ารเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ 2. การใช้คากริยาวิเศษณบ์ อกความถีป่ ระกอบประโยค 3. การอ่านออกเสยี งอเี มลตามที่กาหนด 4. การทากราฟแทง่ เพ่ือแสดงข้อมูลทีก่ าหนด 5. การรวบรวมคาศัพท์ใน Your word book

แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทากจิ กรรมประกอบการจดั การเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรียนร้แู นวการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลังเรียน (ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60)

ผังมโนทัศน์ หนว่ ยการเรียนร้ทู resent Simple Tense แผนท่ี 1 Present Simple Tense หนว่ ,ยก จานวน 4 ชั่วโมง Present S จานวน ภาษาไทย การเรยี นร 1.สรปุ ใจความสาคัญของเรื่องทอ่ี ่าน 2.การเขยี นประโยค • การเรยี นรสู้ ิ่งข

ท่ี 2 P Present Simple Tense การเรยี นร้ทู ี่ 1 แผนที่ 3 Jigsaw Sentences จานวน 4 ชั่วโมง Simple Tense น 12 ช่ัวโมง รแู้ บบบรู ณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศลิ ป์ • วาดภาพและระบายสี การงานอาชพี ของต่างๆ

แผนบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี 1. ออกแบบการจัดกิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรียนรสู้ ง่ เสรมิ กระบวนการคิด 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรียนร้ลู ่วงหนา้ ตวั ช้วี ัด 2. ใช้เทคนิคการจัดการเรยี นรูท้ ่หี ลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลือกส่ือ แหล่งเรียนรเู้ หมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วัดผลประเมินผลตรงตามเนื้อหา เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. รูจ้ กั เทคนคิ การสอนทีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนักเรียน 1. มีความขยนั เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจัดหาส่อื มาพัฒนานกั เรียน สามารถเรียนรู้ไดอ้ ย่างมีความสขุ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพ่ือพฒั นานักเรียนโดยใชเ้ ทคนคิ การสอนท่ี หลากหลาย นกั เรียน ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภมู ิคมุ้ กนั ในตัวที่ดี 1. การใช้เวลาในการทากจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทางานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝกึ กระบวนการสงั เกต อธบิ าย ทักษะการ 2. นาความรเู้ รอื่ ง ลักษณะของสงิ่ ของต่างๆ 2. เลือกสมาชิกกลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เนอ้ื หาที่ สบื ค้นหาความรู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ เรยี นและศักยภาพของตน เงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม 1. มีความรเู้ รื่อง ลกั ษณะของอาชพี ตา่ งๆ ตลอดจนสามารถสรา้ งจดั ทา 1. มคี วามรับผิดชอบ และปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงของกลมุ่ ชน้ิ งาน ผลงานและใบงานไดต้ ามวัตถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มาธิชว่ ยเหลอื กนั ในการทางานร่วมกนั สง่ ผลต่อการพัฒนา 4 มติ ิให้ยัง่ ยืนยอมรบั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงในยุคโลกาภวิ ัฒน์ วัตถุ สังคม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรคู้ วามเข้าใจลักษณะของอาชพี มคี วามรแู้ ละเข้าใจ มีความร้แู ละเข้าใจ มคี วามร้แู ละเข้าใจการ ตา่ งๆ กระบวนการทางาน เกีย่ วกับ ลักษณะ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน กล่มุ ส่งิ ของต่างๆ ทักษะ (P) สามารถสรา้ งช้นิ งาน ผลงาน ใบงาน ทางานได้สาเรจ็ ตาม ใช้แหล่งเรียนรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งปนั ซ่ึง แบบทดสอบเรอ่ื งลกั ษณะของอาชีพต่างๆ เปา้ หมาย ดว้ ย ทาลายสิ่งแวดล้อม กัน และกัน ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ กระบวนการกลมุ่ คา่ นิยม (A) เห็นประโยชน์ของเรยี นรู้ เก่ียวกับ เหน็ คณุ คา่ และ เหน็ คณุ คา่ ของการใช้ ปลกู ฝงั นิสยั การ ลักษณะสิ่งของตา่ งๆ ภาคภูมิใจในการ แหล่งเรยี นร้โู ดยไม่ ช่วยเหลอื แบ่งปนั ทางานรว่ มกันได้ ทาลายสิ่งแวดลอ้ ม สาเรจ็

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เวลา 8 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ เรอ่ื ง Present Simple Tense แผนการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน เวลาเรยี น (ช่วั โมง) 1. Present Simple Tense 1.แตง่ ประโยค 2. Jigsaw Sentences 4 1.แตง่ ประโยค 2.การรวบรวมคาศัพทใ์ น Your word book 4 รวมเวลำเรยี น 8

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 8 ชัว่ โมง เร่ือง Present Simple Tense 1.มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วดั 1. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้ เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลาดับคา (order) ตามโครงสรา้ งประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ตัวช้วี ัด 1. ฟัง/พดู และอา่ น/เขียน ในสถานการณต์ ่างๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ับสงั คมโลก ตัวชว้ี ดั 1. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมลู ต่างๆ 2. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศัพท์เก่ียวกับวิชาที่เรียน วิธีการเดินทางไปโรงเรียน การใช้ Present Simple Tense และการออกเสยี งประโยคคาถาม ซ่ึงจะตอ้ งลงเสยี งต่า จะทาให้ผูเ้ รียนสามารถพดู และเขียนเกีย่ วกับ วชิ าที่เรียน และวิธีการเดินทางไปโรงเรียนได้ โดยจะเป็นพ้ืนฐานความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ ส่ือสารในชีวิตประจาวนั 3. สาระการเรียนรู้ 1) ความรู้ (Knowledge : K) 1. กล่มุ คา ประโยค และความหมายเก่ยี วกบั ตนเอง และโรงเรียน 2. ประโยค บทสนทนา และเน้ือเรื่องสน้ั ๆ ทีม่ ภี าพประกอบ 3. คาศัพท์ และประโยคเก่ียวกับวิธีการเดนิ ทางไปยังสถานทต่ี ่าง ๆ เช่น A: How do you go to school? B: I always walk to school. 4. Present Simple Tense

5. ประโยคและข้อความทใี่ ช้ในการพูดให้ข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง 6. คา กล่มุ คาท่มี ีความหมายสัมพันธ์กับข้อมลู ต่าง ๆ เชน่ กราฟ 7. กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง 8. การใช้ภาษาในการฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกดิ ข้ึนในห้องเรียน 9. การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ท่เี กย่ี วข้องใกลต้ วั จากสื่อและแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ 2) ทกั ษะ/กระบวนกำร (Process : P) 1) ทักษะกำรฟงั (Listening skill) - คำศัพท์ ประโยค 2) ทกั ษะกำรพูด (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทักษะกำรอำ่ น (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทักษะกำรเขียน (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนกำรกลมุ่ -จบั ค่สู นทนำ -ระดมสมอง -ฝึกกจิ กรรมกลมุ่ ตำมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะกำรคดิ อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ - ทักษะกำรคดิ อย่ำงมีวจิ ำรณญำณ 4.2 ความสามารถในการส่อื สาร - กระบวนกำรปฏบิ ตั ิ (ฟงั พูด อ่ำน เขียน) - กระบวนกำรทำงำนกล่มุ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - ซ่อื สัตยส์ ุจรติ - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. การพดู ถาม-ตอบเกยี่ วกับวิธีการเดนิ ทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ 2. การใชค้ ากรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถ่ปี ระกอบประโยค 3. การอา่ นออกเสียงอีเมลตามทกี่ าหนด 4. การทากราฟแท่งเพ่ือแสดงขอ้ มลู ทกี่ าหนด 5. การรวบรวมคาศัพท์ใน Your word book 7. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรียน แบบทดสอบก่อน/หลัง เรียน รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ช้นิ งาน ใบงาน ร้อยละ 60 สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินชิ้นงาน ระดับคุณภาพ 2 แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา รายบคุ คลการ ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดับคุณภาพ 2 ระดับคุณภาพ 2 สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั่ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการทางาน ระดับคุณภำพ ระดับ แปลผล คะแนน ร้อยละ ระดบั 4 ดีเยี่ยม 9 - 10 80 - 100 ระดบั 3 7-8 70 – 79 ระดบั 2 ดี 5-6 60 - 69 ระดบั 1 พอใช้ 1-4 0 - 59 ปรับปรงุ เกณฑ์กำรตัดสนิ นกั เรียนได้คะแนนระดบั พอใช้ ข้ึนไป ถอื ว่ำผ่ำนเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 Present Simple Tense (ชั่วโมงที่ 1-4) 1.ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูและนักเรยี นทักทายกัน จากนั้นให้นกั เรยี นนาการบ้านและงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายมาส่งครู

กจิ กรรมที่ 2 Jigsaw Sentences (ช่ัวโมงที่ 5-8) 1.นกั เรียนเขยี นข้อมลู เกี่ยวกับตนเองใน หนงั สือเรยี น หน้า 12 ข้อ 2 Complete the text about yourself. Then tell your friends. ซึง่ ข้อมลู ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกนั ดงั นัน้ ครูจงึ ย้า ให้นกั เรียนทางานดว้ ยตนเอง ไม่ควรลอกงานผอู้ ืน่ 2.นักเรียนดูภาพ 6 ภาพ ใน หนังสือเรียน หน้า 14 ข้อ 4 Look at the pictures and listen to Sam’s story. ซ่ึงเป็นภาพเก่ียวกับกิจวัตรประจาวันของ Sam ครูชี้ทีละภาพ แล้วให้ นักเรียนบอกว่าแต่ละภาพ Sam ทาอะไร เพื่อเตรียมพร้อมในการฟัง CD สุดท้ายครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า Sam อาศัยอยู่ใน New York ประเทศอเมริกา New York เปน็ เมืองท่ีใหญ่มากและมีหลายส่ิงที่น่าสนใจ คนจึงเรียกเมืองน้ีว่า “The Big Apple” ในอเมริกานักเรียนไม่มีเคร่ืองแบบนักเรียน ครูชี้แผนท่ี USA ประกอบการสอนดว้ ย 9.แหล่งเรยี นรู้ / สื่อ 1. หนังสอื เรยี น Smile ป. 5 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5

แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง Present Simple Tense กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 Choose the correct answer. 1. They ____ their parents. a) love b) loves c) likes d) hate d) is writing 2. I ____ a letter to my penfriend. d) is washing d) sold a) writes b) write c) wrote d) is thinking 3. She ____ up. d) don’t a) wash b) washes c) washed d) doesn't play d) make 4. She ____ everything in her shop. a) sells b) is selling c) sell 5. He ____ of his homework on Maths lesson. a) thinks b) thought c) think 6. John ______ pork twice a week. a) eats b) is eating c) eat eat 7.We ______ football every Monday evening. a) plays b) play c) is playing 8. We ______ snowman in winter. a) making b) do c) makes 9. Ron ____ the table for dinner. a) sets b) are setting c) set d) is setting 10. Sandra ____ a bath. a) haves b) has c) have d) is having

เฉลย แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง Present Simple Tense กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 Choose the correct answer 1. They ____ their parents. a) love b) loves c) likes d) hate 2. I ____ a letter to my penfriend. a) writes b) write c) wrote d) is writing 3. She ____ up. a) wash b) washes c) washed d) is washing 4. She ____ everything in her shop. a) sells b) is selling c) sell d) sold 5. He ____ of his homework on Maths lesson. a) thinks b) thought c) think d) is thinking 6. John ______ pork twice a week. a) eats b) is eating c) eat d) don’t eat 7.We ______ football every Monday evening. a) plays b) play c) is playing d) doesn't play 8. We ______ snowman in winter. a) making b) do c) makes d) make 9. Ron ____ the table for dinner. a) sets b) are setting c) set d) is setting 10. Sandra ____ a bath. a) haves b) has c) have d) is having

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 Present Simple Tense เรอ่ื ง Present Simple Tense 1.สาระสาคญั การเรียนรู้คาศัพท์เก่ียวกับวิชาท่ีเรียน วิธีการเดินทางไปโรงเรียน การใช้ Present Simple Tense และการออกเสียงประโยคคาถาม ซึ่งจะตอ้ งลงเสยี งตา่ จะทาให้ผู้เรียนสามารถพูดและเขียนเกย่ี วกับ วชิ าที่เรียน และวิธีการเดินทางไปโรงเรียนได้ โดยจะเป็นพ้ืนฐานความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ ส่ือสารในชีวติ ประจาวัน 2. มาตรฐาน / ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวัด 1. บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้ เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลาดบั คา (order) ตามโครงสรา้ งประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้วี ดั 1. ฟงั /พดู และอา่ น/เขียน ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรค ตอน และการลาดับคา (order) ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยได้ 2.ฟงั /พดู และอ่าน/เขียน ในสถานการณ์ต่างๆ ทีเ่ กิดขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษาได้ 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. กล่มุ คา ประโยค และความหมายเก่ียวกบั ตนเอง และโรงเรียน 2. ประโยค บทสนทนา และเนอ้ื เรื่องสนั้ ๆ ท่มี ภี าพประกอบ 3. คาศพั ท์ และประโยคเกย่ี วกบั วิธกี ารเดนิ ทางไปยงั สถานท่ีต่าง ๆ เชน่ A: How do you go to school? B: I always walk to school. 4. Present Simple Tense 5. ประโยคและข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง 6. คา กลุม่ คาทม่ี ีความหมายสมั พันธ์กับข้อมลู ตา่ ง ๆ เช่น กราฟ

7. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม การร้องเพลง 8. การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี น 9. การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ที่เก่ยี วข้องใกล้ตัวจากสอ่ื และแหล่ง ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟงั กำรพูด กำรอำ่ น กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรบั ผิดชอบ ขยนั ใฝ่รูใ้ ฝ่เรยี น 2. มีควำมเชอื่ มัน่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 3. มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อกำรเรียนภำษำอังกฤษ 5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. ม่งุ มั่นในการทางาน 7.กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 Present Simple Tense (1) ขน้ั นา (Warm up) 1. ครูและนักเรียนทักทายกัน จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นนาการบ้านและงานที่ไดร้ บั มอบหมายมาสง่ ครู 2. ครูทดสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี นด้วยบตั รภาพและบตั รคา โดยครูเขียนหมายเลขของบตั รภาพ แต่ละใบรวม 10 ใบ แล้วติดเรียงกันบนกระดาน ติดบัตรคากระจัดกระจาย ให้นักเรียนเขียนคาศัพท์ หมวดหมู่ยานพาหนะใหถ้ ูกต้องตามหมายเลข โดยเขยี นคาตอบลงในสมุดของตนเอง 3. เสร็จแล้วครูสุ่มนักเรียน 10 คน ให้ออกมาเขียนเฉลยบนกระดาน ครูตรวจและแก้ไข แล้วให้ นักเรยี นทกุ คนตรวจงานของตนดว้ ยความซ่ือสัตย์ คนที่ถูกเกินกว่า 7 ข้อ ถือว่าผ่านเกณฑ์ ข้นั นาเสนอ (Presentation) ครทู บทวนยานพาหนะที่นักเรียนใช้ในการเดนิ ทางตา่ ง ๆ ด้วยของเล่นพลาสติกเลก็ ๆ เช่น เครอ่ื งบินพลาสติก เรอื มอเตอร์ไซค์ รถจกั รยาน รถเกง๋ รถไฟ รถประจาทาง และรองเท้าเล็ก ๆ ครูวาง ส่งิ เหล่านีบ้ นโต๊ะ แล้วหยบิ ขน้ึ มาทลี ะชน้ิ ใหน้ ักเรียนทั้งชน้ั พดู ระบุคาศัพท์ให้ถกู ต้อง - ครตู ิดบัตรคาเหลา่ นบี้ นกระดาน always sometimes never *often ครบู อกนักเรียนวา่ “often” แปลวา่ บ่อยๆ ครบู อกว่าคาเหล่าน้เี ปน็ คาทบี่ อกความถี่ของ การกระทา

- ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกม Music Chairs โดยนาเกา้ อี้มาเรียงเปน็ วงกลม แตใ่ หม้ จี านวนน้อยกวา่ นักเรียน 2 ตัว เช่น ถ้านักเรยี นมี 20 คน ใหจ้ ดั เก้าอี้ 18 ตวั ในกรณีท่จี านวนนักเรียน มีมากเกินไป ให้แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 วง เท่าๆ กัน วธิ กี ารเลน่ มดี งั นี้ 1) ครเู ปิดเพลงทีม่ จี ังหวะสนุกสนาน นักเรยี นเดนิ รอบเก้าอี้และเตน้ ราตามจังหวะเพลง 2) เมือ่ เพลงหยดุ ใหน้ กั เรยี นวง่ิ หาเก้าอี้ตัวท่ีว่าง แลว้ นัง่ ลง 3) ผทู้ ีไ่ ม่มเี กา้ อีน้ ง่ั ใหย้ นื กลางวง เพ่อื ตอบคาถามทลี ะคน โดยผู้ถามคือนักเรยี นทีไ่ ด้นง่ั บน เก้าอี้ ตามรูปแบบ A: How do you come to school? B: I (Adverb of Frequency) come by (vehicle). นักเรยี นสามารถดูรูปแบบประโยคคาถามและคาตอบใน หนังสือเรียน หน้า 10 ข้อ 5 Ask your friends. โดยครยู ้าว่าวธิ กี ารเดินทางใช้ by + ยานพาหนะ แต่ถ้า เดนิ ทางเท้า ให้ใช้คาวา่ “walk” 4) ผทู้ ไี่ ด้ตอบคาถามแลว้ ให้ออกนอกวง นักเรยี นท่ีเหลือเรมิ่ ต้นเล่นเกมใหม่ โดยดงึ เก้าอ้ี ออกไป 2 ตวั จนเหลือผชู้ นะ 2 คนสุดท้าย ขัน้ ฝกึ (Practice) นักเรียนอ่านประโยคคาถามทั้ง 5 ข้อ ใน หนังสือเรียน หน้า 10 ข้อ 6 Match the questions with the answers. แล้วช่วยกันแปล จากน้ันจับคู่คาถามกับคาตอบที่อยู่ทางด้านขวามือ โดยการลากเส้น เสรจ็ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ ครเู ขยี นเฉลยบนกระดาน เพ่อื ให้นักเรยี นตรวจและแก้ไขงาน ของตน 1. c 2. e 3. d 4. a 5. b ครูส่มุ นกั เรยี น 5 คน ให้ยืนขึน้ อา่ นคนละ 1 ขอ้ โดยอ่านทง้ั คาถามและคาตอบ ขัน้ นาไปใช้ (Production) ครูนาตกุ๊ ตาจงิ โจ้ตวั เลก็ ๆ มาแสดงให้นกั เรยี นดู และถามนักเรยี นว่าคอื อะไร และอยู่ที่ไหน Teacher: What is it? Students: A kangaroo. Teacher: Where is it? Students: It’s in Australia. Teacher: Well done! - ครูบอกนักเรียนวา่ จิงโจเ้ ป็นสตั ว์ประจาชาตขิ องประเทศออสเตรเลีย (Australia) ซึ่งเปน็ ทั้ง ประเทศและทวปี อยู่ค่อนไปทางใตข้ องลูกโลก (ถา้ มีแผนทใ่ี นห้องเรียน ครูช้ใี หด้ ูด้วย) - ครใู ห้นกั เรียนอ่านเร่ืองราวของ ด.ช. เจฟ ในหนังสอื เรยี น หนา้ 11 ข้อ 7 Read and number. ซงึ่ เปน็ e-mail แนะนาตนเองของ ด.ช. เจฟ ใหน้ กั เรียนอา่ นเรอ่ื งราวของ ด.ช. เจฟ ในใจ ซง่ึ ในแตล่ ะย่อหนา้ จะมีหมายเลข 1-5 กากับ

- เมือ่ นักเรียนอ่านเสร็จแลว้ จึงนาหมายเลขทั้ง 5 ใสล่ งในชอ่ งว่างทางดา้ นซ้ายมือ ซงึ่ จาแนก ออกเป็น 5 หวั ข้อ โดยไมเ่ รียงลาดบั กัน ได้แก่ a. Jeff’s free time: pets/hobbies - เวลาว่างของเจฟ: สัตวเ์ ล้ียง/งานอดเิ รก b. Jeff’s school day - วันในโรงเรยี นของเจฟ c. Say goodbye - กล่าวลา d. Say hello - กลา่ วสวัสดี e. About Jeff - เก่ียวกบั เจฟ ขั้นสรปุ (Wrap up) นกั เรียนชว่ ยกันแปลหัวขอ้ a-e ก่อนท่จี ะเขยี นหมายเลขกากบั เสรจ็ แล้วใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ a คือ ยอ่ หนา้ ที่ 4 b คือ ยอ่ หนา้ ท่ี 3 c คือ ยอ่ หนา้ ที่ 5 d คือ ยอ่ หนา้ ท่ี 1 e คือ ยอ่ หนา้ ที่ 2 ครอู ่าน e-mail ของ ด.ช. เจฟ ทีละย่อหน้า แลว้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั แปลความหมาย และ ขออาสาสมคั รนักเรียน 1 คน ลกุ ข้นึ อ่านให้เพ่ือนๆ ฟัง ชวั่ โมงท่ี 2 Present Simple Tense (2) ข้ันนา (Warm up) ครูให้นักเรยี นเขียน e-mail ถึง ด.ช. เจฟ เพอื่ แนะนาตนเอง และครบู อกลาดับขนั้ ตอนในการ เขยี น e-mail ดังน้ี 1. กล่าวสวัสดี 2. แนะนาตนเอง และบอกข้อมลู เลก็ น้อยเก่ยี วกับตนเอง 3. กล่าวถึงกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรยี น 4. กล่าวถงึ การใชเ้ วลาวา่ ง สตั วเ์ ลยี้ ง และงานอดิเรกของตนเอง 5. กล่าวลา หรือครูให้นักเรียนดูใน หนังสือเรียน หน้า 11 ข้อ 8 Write to Jeff. Tell him about yourself. ครเู นน้ ใหน้ กั เรียนมคี วามคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ และดูตวั อยา่ งในข้อ 7 เม่ือถึงเวลาที่กาหนด ครู รวบรวมช้ินงานของนักเรียนและสมุ่ หยบิ ขึ้นมา 2-3 ชิ้น ใหเ้ จ้าของผลงานออกมาอ่านหน้าชน้ั เรยี น

ตวั อย่างผลงานของนักเรียน Hello, My name is Ladda. I live in Bangkok. I am 10 years old. I always go to Witthaya International School by bus. But if it rains, I go by taxi. My school starts at eight in the morning. I have English every day. But my favourite subject is maths. I have lunch at noon in the canteen. We have playtime at half past three. I go back home at 4 o’clock. I have a little rabbit at home. Her name is Bunny. She is white and pink. I play badminton with my neighbours every evening. Then I have dinner. I do a lot of homework every night. Write to me soon. Bye. See you. Ladda ข้นั นาเสนอ (Presentation) นักเรียนดูตารางความถี่ในการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียน 6 คน ด้วยวิธีการต่าง ๆ ใน แบบฝึกหัด หน้า 10 ข้อ 5 Look at the table. Write answers to the question. แล้ว ตอบคาถาม ครูเน้นใหน้ ักเรียนใช้ Present Simple Tense และให้นักเรยี นทางานเป็นคู่ ๆ (pair work) เพื่อปรึกษากัน แล้วช่วยกันเฉลยคาตอบ ครูสุ่มนักเรียน 5 คน ให้ออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน ครู ตรวจทานและแกไ้ ข 1. Maria sometimes goes to school by bicycle. 2. No, he doesn’t. 3. Anna and Lisa always go to school by bus. 4. Jack always walks to school. 5. No, he doesn’t. ขั้นฝึก (Practice) นกั เรยี นทบทวนการใชป้ ระโยคคาถาม Present Simple Tense ใน แบบฝกึ หดั หน้า 10 ข้อ 6 Complete the sentences with “do” or “does” and then match with the answers. โดยให้นกั เรียนจับค่คู าตอบใหส้ ัมพันธ์กบั คาถาม แตก่ ่อนอ่ืนนักเรียนต้องเติม “Do” หรือ “Does” ในประโยคคาถาม นกั เรยี นสามารถดูการสรา้ งประโยคคาถามได้ในบทเรียนที่ผ่านมา เสรจ็ แล้วครู ส่มุ นกั เรยี น 5 คน ให้ยืนขึ้นอา่ นประโยคคาถามและคาตอบ

2. Does - a 3. do - e 4. Do - b 5. does - f 6. Does - c นกั เรียนแก้ไขงานของตนเอง แล้วอา่ นประโยคคาถามและคาตอบพร้อม ๆ กนั ทงั้ 6 ข้อ ขั้นนาไปใช้ (Production) นักเรียนอ่านข้อความ “My School Day” ใน แบบฝึกหัด หน้า 11 ข้อ 7 Read and write the words. ซ่ึงในข้อความดงั กลา่ วมีรปู ภาพ 10 ภาพ แทนคาศัพท์ ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (Group work) เพื่อหาคาศัพท์ตามรูปภาพเหล่านั้น ครูให้เวลานักเรียนทากิจกรรม 10 นาที จากนัน้ จงึ เรยี กแต่ละกล่มุ ใหเ้ ฉลยคาตอบ กล่มุ ละ 1 ขอ้ และออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน 1. car 5. history 9. half past three 2. half past eight 6. music 10. volleyball 3. assembly 7. I.T. 4. geography 8. playtime นกั เรยี นอ่านประโยคพร้อม ๆ กนั แล้วหยุดทลี ะย่อหนา้ เพือ่ ชว่ ยกนั แปล ขั้นสรปุ (Wrap up) ครูให้นักเรียนทา แบบฝึกหัด หน้า 11 ข้อ 8 Write about your school day. Use the reading as a model. แจกกระดาษขนาด A4 ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผน่ เพอ่ื เขยี นเกยี่ วกับกจิ กรรมของ ตนที่ โรงเรียน โดยใช้ข้อมูลตามความเป็ นจริง และให้ใช้ป ระโยค Present Simple Tense นักเรียนสามารถดูตัวอย่างรูปแบบการเขียนได้จากแบบฝึกหัดที่ผ่านมา ครูให้นักเรียนใช้ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ในการเขยี น ตัวอย่าง My name is Warith Thongmadun. I am 11 years old. I study at grade 5 at Witthaya International School in Suratthani. My house is near the school. So I walk to school every day. My school starts at 9. We wear uniforms to school. The uniform is white and red. We have three subjects in the morning. And two subjects in the afternoon. We study English every day. My favourite subjects are music and computer. We have lunch in the canteen at noon. We have assembly at 3 o’clock every afternoon. We prepare for Sports Day. Then I play football with my friends. We have fun. I go home at half past four.

ช่ัวโมงที่ 3 Present Simple Tense (3) ขนั้ นา (Warm up) ครทู ักทายนักเรยี น และให้นักเรียนนางานที่ไดร้ ับมอบหมายมาสง่ ครู ครูคืนแบบฝกึ หดั แกน่ กั เรยี น ข้ันนาเสนอ (Presentation) ใหน้ กั เรียนฟัง CD/Track 10 แต่กอ่ นที่ครจู ะเปิด CD ให้นกั เรียนฟงั ครูใหน้ ักเรียนสารวจเน้ือหา โดยอา่ นบทสนทนาครา่ วๆ ระหวา่ ง Ben และ Anna ในหนังสอื เรียน หนา้ 12 ข้อ 1 Read and complete. Then listen and check. และลองเดาวา่ ควรจะเตมิ อะไรลงในช่องว่างในบทสนทนา ดังกล่าว ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั 2-3 ครงั้ Ben: Hi, Anna. How are you? Anna: I’m fine. Thank you. Ben: How did you come to school today? Anna: I walked to school. And you? Ben: I came by bus. Er… Is there assembly today? Anna: Yes, there is. Ben: Thank you. Anna: You’re welcome. ข้นั ฝึก (Practice) นักเรียนฟัง CD แล้วเติมคาลงในช่องว่าง จากนั้นครูเฉลยโดยเปิด CD บทสนทนาของแต่ละคน แล้วหยุดให้นักเรียนช่วยกันแปลความหมายจนจบบทสนทนา ครูเขียนประโยคที่หายไปบนกระดาน ให้ นักเรียนคัดลอกลงในสมุด เสร็จแล้วแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็น Ben อีกกลุ่มหน่ึงเป็น Anna ให้อ่านบทสนทนาสลับกัน จากนน้ั ท้ัง 2 กลมุ่ เปลี่ยนบทบาทกนั และเร่ิมต้นอ่านบทสนทนาอีกคร้ัง พรอ้ ม ๆ กนั ขนั้ นาไปใช้ (Production) นกั เรียนเขยี นข้อมูลเก่ียวกบั ตนเองใน หนังสอื เรียน หนา้ 12 ข้อ 2 Complete the text about yourself. Then tell your friends. ซงึ่ ขอ้ มูลของแตล่ ะคนจะไมเ่ หมือนกัน ดังนนั้ ครจู ึงย้า ให้นกั เรียนทางานดว้ ยตนเอง ไม่ควรลอกงานผอู้ ื่น ข้นั สรุป (Wrap up) เม่อื ทาเสร็จแล้วครูให้นกั เรยี น 2-3 คน ยืนข้ึนอ่านข้อมูลของตนเอง

Hi! My name’s Preeda. I’m 11 years old. I’m a student at Smile School. My school starts at 9 and finishes at 4.30. I go to school by boat. My favourite subject is maths. I like it because it’s fun. I don’t like history because it is difficult. ชว่ั โมงที่ 4 Present Simple Tense (4) ขนั้ นา (Warm up) ครูชี้ภาพของ ด.ช. Nicholas ใน หนังสือเรียน หน้า 13 ข้อ 3 Read and wrire T (true) or F (false). Then correct the false statements. และชูรถจักรยานพลาสติกของ เล่นเด็กคันเล็กๆ แล้วบอกนักเรียนว่า ข้อความท่ีจะได้อ่านต่อไปน้ีเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ด.ช. Nicholas ซ่ึง อาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ Nicholas เดินทางไปโรงเรียนด้วยรถจักรยาน ครูขอให้นักเรียนตั้งใจอ่าน ข้อความ แล้วอ่านประโยคข้างล่าง 5 ประโยค ถ้าประโยคใดถูกต้องตามเน้ือเร่ืองให้เขียน T (ถูก) แต่ถ้า ประโยคใดผิดให้เขียน F (ผิด) และแก้ไขให้ถูกต้องด้วย นักเรียนสามารถปรึกษากับเพื่อนๆ ได้ ครูให้เวลา ในการอ่าน 10 นาที ให้นกั เรียนอา่ นในใจไม่ออกเสียง เมอ่ื นักเรยี นทาเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคาตอบ 1. Nicholas lives in Australia. F แกไ้ ขเป็น Nicholas lives in Singapore. F 2. He goes to school by bus. แกไ้ ขเป็น He goes to school by bike. F 3. His school starts at half past nine. T แกไ้ ขเป็น His school starts at half past eight. F 4. He studies Chinese. 5. He likes P.E. แกไ้ ขเป็น He likes I.T. จากน้ันครูสุ่มนักเรียน 4 คน ให้ยืนข้ึนอ่านข้อความเก่ียวกบั Nicholas คนละ 3 บรรทดั ขั้นนาเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภาพ 6 ภาพ ใน หนังสือเรียน หน้า 14 ข้อ 4 Look at the pictures and listen to Sam’s story. ซึ่งเป็นภาพเก่ียวกับกิจวัตรประจาวันของ Sam ครูช้ีทีละภาพ แล้วให้ นักเรียนบอกว่าแต่ละภาพ Sam ทาอะไร เพื่อเตรียมพร้อมในการฟัง CD สุดท้ายครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า Sam อาศัยอยู่ใน New York ประเทศอเมริกา New York เปน็ เมืองท่ีใหญ่มากและมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ

คนจึงเรียกเมืองนี้ว่า “The Big Apple” ในอเมริกานักเรียนไม่มีเคร่ืองแบบนักเรียน ครูช้ีแผนท่ี USA ประกอบการสอนด้วย ขั้นฝกึ (Practice) จากน้ันครเู ปิด CD/Track 11 ใหน้ ักเรียนฟงั 2-3 ครั้ง This is Sam. He’s ten years old. He lives in New York, a big city in the USA. He’s got two brothers. Sam always has breakfast at 7 o’clock. He always goes to school by bus. He starts school at 9 o’clock and finishes at half past three. He hasn’t got a school uniform. His favourite subject is geography. He loves playing football. ขัน้ นาไปใช้ (Production) นักเรียนช่วยกันบอกเน้อื หาใจความใน CD ทีไ่ ดย้ ิน ครชู ่วยเรยี งลาดับเนือ้ เรื่องใหต้ รงตาม CD ซง่ึ ความจรงิ ภาพประกอบทใ่ี หเ้ รียงลาดับเหตกุ ารณ์ตาม CD อยู่แล้ว ขั้นสรุป (Wrap up) จากน้ันครูให้นักเรียนเขียนเรื่องราวเก่ียวกับ Sam โดยเรียงตามลาดับรูปภาพท้ัง 6 ภาพ และใช้ Present Simple Tense ครอู นุญาตใหน้ ักเรยี นทาเป็นการบ้านและสง่ ในช่วั โมงต่อไป 8. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์การผา่ น สังเกตการพูดถาม-ตอบ แบบสงั เกตการพูดถาม-ตอบ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี นึ้ ไป ตรวจใบกิจกรรม ใบกจิ กรรม ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 60 ขึ้นไป ประเมินการทาแผนผังความคิด แผนผังความคิด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดีข้นึ ไป ประเมินการพูดนาเสนอ แบบประเมินการพดู ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดีขึน้ ไป 9. สือ่ / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6 4. พจนานุกรม

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 Present Simple Tense เร่อื ง Jigsaw Sentences 1.สาระสาคญั การเรียนรคู้ าศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียน วิธีการเดินทางไปโรงเรียน การใช้ Present Simple Tense และการออกเสียงประโยคคาถาม ซ่ึงจะต้องลงเสียงต่า จะทาให้ผู้เรียนสามารถพูดและเขียนเกี่ยวกับวิชาท่ี เรียน และวิธีการเดินทางไปโรงเรียนได้ โดยจะเปน็ พนื้ ฐานความรู้เก่ียวกับการใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ในชีวติ ประจาวัน 2. ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม ตวั ชวี้ ดั 1. ฟงั /พูด และอ่าน/เขยี น ในสถานการณต์ ่างๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ฟงั /พดู และอ่าน/เขียน ในสถานการณ์ต่างๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในห้องเรยี นและสถานศึกษาได้ 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. Present Simple Tense 2. ประโยคและข้อความที่ใช้ในการพูดใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรับผดิ ชอบ ขยัน ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน 2. มีควำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชวี ิต

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซอื่ สตั ย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มุง่ มัน่ ในการทางาน 5. มีจติ สาธารณะ 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 Jigsaw Sentences (1) ขั้นนา (Warm up) ครใู ห้เลน่ เกม Jigsaw Sentences โดยครเู ตรียมอปุ กรณ์ทีใ่ ช้เลน่ เกม ได้แก่ กระดาษสีขาว ฟ้า ชมพูเข้ม เขยี ว เหลือง และนา้ ตาลออ่ น จากนนั้ จงึ เขยี นทัง้ 6 ประโยค ลงในกระดาษสีประโยคละ 1 สี ดังนี้ - I am / eleven / years / old. - They / walk to / school. - We / go / home / at / four. - What / is / your / favourite / subject? - He / has / maths / and art / on Friday. - Lisa / sometimes / goes to / school / by bus. ขน้ั นาเสนอ (Presentation) เม่อื เขียนประโยคเสรจ็ แล้วครูใชก้ รรไกรตัดแบ่งแต่ละประโยคออกเป็นส่วนๆ ตามท่ีแบง่ ไว้ใหข้ ้างต้น แล้วรวบรวมใส่ถุงคละกนั ไปทุกสี ทาประมาณ 6-7 ชดุ ให้เพียงพอกับจานวนกล่มุ ของนักเรียน ซ่งึ วิธกี าร เลน่ เกมมดี ังต่อไปนี้ 1) นักเรยี นแบง่ ออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 5 คน โดยให้นักเรยี นทีเ่ รยี นเก่งและเรียนอ่อน อยู่คละกนั (Mixed ability group) 2) ครแู จกถุงใสช่ ิน้ สว่ นประโยคท้ัง 6 ให้ทกุ กล่มุ 3) แต่ละกลุม่ เรยี งประโยคให้ถูกตอ้ งตามสี โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วม ครแู นะนักเรยี น ในการเรียงประโยคให้ถูกต้อง ดังนี้ - ประโยคภาษาองั กฤษมักขึ้นต้นด้วยอักษรตวั ใหญ่ และจบประโยคดว้ ยจดุ (full stop) แต่ถา้ ประโยคคาถามจะลงท้ายด้วย “?” (Question mark) - ระดบั สีของกระดาษบอกความยากง่ายของประโยค เชน่ ประโยคบนกระดาษสีขาว จะง่ายที่สุด แต่ประโยคบนกระดาษสชี มพูเข้มจะยาวทีส่ ดุ และซบั ซ้อน เมื่อเรยี ง ตามลาดบั ความงา่ ย-ยากของประโยคกบั กระดาษสตี า่ ง ๆ ดงั นี้ สขี าว สเี หลอื ง สนี ้าตาลอ่อน สีเขยี ว สฟี ้า และสีชมพเู ข้ม 4) กลุ่มใดเรียงประโยคไดเ้ สร็จก่อนและถกู ต้องใหย้ กมือข้ึน เพือ่ ครูจะไดเ้ ดินมาตรวจวา่ ถกู ต้องหรอื ไม่ ถา้ นักเรยี นทาได้ถูกตอ้ งหมดทุกข้อ ครูอนุญาตใหก้ ลมุ่ น้นั ออกไปพักผอ่ น นอกห้องเรยี น

5) เมอื่ ทุกกลุม่ เรยี งประโยคไดห้ มดทุกสแี ลว้ ครเู รยี กทุกคนกลับเข้าหอ้ งเรียนและส่มุ ตัวอย่าง 6 กลุ่ม ให้ตวั แทนกลุม่ ยืนขึ้นอา่ นประโยคทเ่ี รยี งถูกต้องแล้ว โดยใหส้ มาชิก ในกลมุ่ ยนื เรียงกนั หนา้ หอ้ งเรียน และถือบัตรคาทเ่ี รียงเปน็ ประโยคท่ีสมบรู ณใ์ หท้ ุกคนดู ขน้ั ฝึก (Practice) นักเรียนอ่านบทสนทนาในแบบฝึกหัด หน้า 12 ข้อ 1 Read and complete. แล้วนา ประโยคที่กาหนดให้เติมลงในบทสนทนาให้สมบูรณ์ ครูให้นักเรียนจับคู่ทางานกับเพื่อนที่น่ังอยู่ใกล้ๆ (pair work) จากนัน้ นักเรยี นทกุ คนช่วยกนั เฉลย ครเู ขยี นคาตอบบนกระดาน b c ad จากนนั้ ครูสุ่มนักเรยี น 4 คู่ ใหย้ ืนขึ้นอา่ นบทสนทนาทลี ะคู่ ขน้ั นาไปใช้ (Production) นกั เรยี นดูภาพใน แบบฝึกหดั หนา้ 12 ข้อ 2 Read and complete. Use the words in the box. ครูถามว่าภาพทเ่ี หน็ คืออะไร นกั เรยี นตอบว่า Springfield Primary School แล้วให้ นกั เรยี นอ่านข้อความเกีย่ วกับโรงเรียนดังกล่าว และนาคาที่กาหนดให้ไปเตมิ ลงในชอ่ งว่าง 6 ชอ่ ง ให้ได้ ใจความสมบูรณ์นักเรยี นสามารถค้นหาคาศัพท์ที่ไมท่ ราบในพจนานุกรม ข้นั สรปุ (Wrap up) เฉลย ครเู ขียนคาตอบใหน้ ักเรียนดูบนกระดาน 1. large 4. science 2. students 5. gym 3. are 6. computer เสร็จแล้วใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงดงั ๆ พร้อมกนั และชว่ ยกันแปลความหมาย ชัว่ โมงที่ 2 Jigsaw Sentences (2) ขน้ั นา (Warm up) ทบทวนคาศัพท์ท่ีเรยี นไป ข้นั นาเสนอ (Presentation) ครูให้เลน่ เกม Jigsaw Sentences ขน้ั ฝึก (Practice) เขยี นประโยคเสร็จแล้วครใู ชก้ รรไกรตดั แบ่งแตล่ ะประโยคออกเป็นสว่ นๆ ตามที่แบ่งไวใ้ ห้ข้างต้น แล้วรวบรวมใสถ่ ุงคละกันไปทุกสี ทาประมาณ 6-7 ชดุ ให้เพยี งพอกับจานวนกล่มุ ของนกั เรยี น

ขน้ั นาไปใช้ (Production) เขยี นประโยคเสร็จแล้วครูใชก้ รรไกรตัดแบ่งแต่ละประโยคออกเป็นส่วนๆ ตามท่ีแบ่งไวใ้ หข้ า้ งตน้ แล้วรวบรวมใส่ถงุ คละกนั ไปทุกสี ทาประมาณ 6-7 ชุด ใหเ้ พียงพอกับจานวนกล่มุ ของนักเรียน ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครู นักเรียนรว่ มสรุปสงิ่ ทีเ่ รียน ชว่ั โมงที่ 3 Jigsaw Sentences (3) ขั้นนา (Warm up) ทบทวนคาศัพท์ท่ีเรียนไป ขนั้ นาเสนอ (Presentation) ครใู ห้เล่นเกม Jigsaw Sentences ขน้ั ฝึก (Practice) เขียนประโยคเสรจ็ แลว้ ครูใช้กรรไกรตดั แบ่งแตล่ ะประโยคออกเปน็ สว่ นๆ ตามที่แบง่ ไว้ใหข้ า้ งต้น แลว้ รวบรวมใสถ่ ุงคละกันไปทุกสี ทาประมาณ 6-7 ชดุ ใหเ้ พียงพอกับจานวนกลุม่ ของนกั เรียน ขั้นนาไปใช้ (Production) เขียนประโยคเสรจ็ แล้วครูใชก้ รรไกรตดั แบ่งแต่ละประโยคออกเป็นสว่ นๆ ตามท่ีแบง่ ไวใ้ หข้ ้างตน้ แล้วรวบรวมใสถ่ งุ คละกันไปทุกสี ทาประมาณ 6-7 ชดุ ใหเ้ พยี งพอกับจานวนกลมุ่ ของนักเรยี น ข้นั สรปุ (Wrap up) ครู นกั เรยี นร่วมสรุปสง่ิ ท่เี รยี น ชว่ั โมงท่ี 4 Jigsaw Sentences (4) ขนั้ นา (Warm up) 1.ทาแบบทดสอบหลังเรยี น ขั้นนาเสนอ (Presentation) เรยี งประโยค ขน้ั ฝึก (Practice) เรยี งประโยค ข้ันนาไปใช้ (Production) เรียงประโยค ข้นั สรปุ (Wrap up) ครู นกั เรียนร่วมสรปุ ส่ิงท่ีเรยี น

8. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์การผา่ น สงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสังเกตกำรพูดถำม-ตอบ ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในระดับดีขน้ึ ไป ตรวจใบกจิ กรรม ใบกจิ กรรม ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป ประเมนิ กำรทำแผนผังควำมคิด แผนผังควำมคิด ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในระดับดขี ้นึ ไป ประเมินกำรพูดนำเสนอ แบบประเมินกำรพดู ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินในระดับดีขึ้นไป โครงงำน 9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หดั Smile ป. 5 3. Audio Smile ป. 5 8.การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 60 ชิ้นงาน แบบประเมินขิ้นงาน สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินทกั ษะทางภาษา รายบคุ คลการ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ในการทางาน ระดับคุณภำพ แปลผล คะแนน ร้อยละ ระดับ ดีเย่ียม 9 - 10 80 - 100 4 7-8 70 – 79 3 ดี 5-6 60 - 69 2 พอใช้ 1-4 0 - 59 1 ปรับปรงุ

เกณฑ์กำรตัดสนิ นกั เรยี นได้คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ถอื วำ่ ผ่ำนเกณฑ์ 9.สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บตั รภาพ บัตรคา แถบประโยค 5. เกม What is it? 6. เกม Jigsaw Sentences 7. เกมใบ้คายานพาหนะ

ภาคผนวก