จากภาพตอ่ ไปนเ้ี ปน็ ภาพต้นไม้ครอบครัวของ Ann Brown จงตรวจดูความสมั พันธ์ของบุคคลในภาพ และเติมคาลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง Mr. John Brown Mrs. Mery Brown Ann Brown Rose Brown Ted Brown จากข้อ 6 – 9 เลอื กขอ้ ความต่อไปนี้ เพื่อเตมิ ลงในช่องวา่ ง เพ่อื ให้ได้ใจความสมบรู ณ์ a. Mother b. Brother c. Sister d. Father This is Ann Brown’s family. Mr. John Brown is Ann’s 6 d. father Mrs. Mary Brown is his 7.mother Ted Brown is her 8brother and Rose Brown is her 9sister 10. My ……………… is older than my mother. a. sister b. brother c. aunt d. son
My Family GRANDFATHER GRANDMOTHER FATHER MOTHER BROTHER SISTER
UNCLE AUNT NEPHEW NIECE HUSBAND WIFE
Direction : Match the pairs. แม่ 1. Grandfather 2. Grandmother หลานสาว 3. Uncle ลกู ชาย 4. Mother ลูกสาว 5. Father หลานชาย 6. Sister ย่า, ยาย 7. Daughter 8. Niece ลุง 9. Nephew พ่ีสาว, นอ้ งสาว 10. Son พอ่ ปู่, ตา
Direction : Study the pictures. Then fill in the blanks with the correct words from the box. Mr. Som Mrs. Som Mrs. Sam Mr. Sam Mrs. Noi Mr. Noi Sumalee Nipon
Cousin Niece Grandmother Uncle Father Grandfather Aunt Mother Son Sister – in – law Daughter Brother – in – law 1. Sumalee is the of Mr. and Mrs. Sam. 2. Nipon is the of Mr. and Mrs. Noi. 3. Sumalee is Nipon’s . 4. Mrs. Sam is Nipon’s . 5. Mr. Noi is Sumalee’s . 6. Mrs. Sam is Mrs. Noi’s . 7. Mr. Noi is Mr. Sam’s . 8. Mr. Som is the of Mr. Sam and Mrs. Noi. 9. Mrs. Som is the of Mr. Sam and Mrs. Noi. 10. Mr. Som is the of Sumalee and Nipon. 11. Mrs. Som is the of Sumalee and Nipon. 12. Sumalee is Mr. and Mrs. Som’s .
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 Happy with English Vocabulary เรื่อง My Pets 1.สาระสาคัญ การเรียนร้คู าศัพทภ์ าษาอังกฤษเก่ียวกับสัตย์เลยี้ ง การเรยี นรขู้ องนักเรียนจะไดพ้ บคาศัพท์ ประเภทต่างๆ มีความสาคัญต่อการเรียนวิชาภาษาองั กฤษ การทน่ี ักเรยี นสามารถรคู้ าศัพท์ภาษาองั กฤษที่ ถกู ต้อง จะทาให้การเรียนภาษาองั กฤษมีความหมายมากยิ่งข้ึน และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ต 1.1 เขำ้ ใจและตคี วำมเร่อื งท่ฟี ังและอำ่ นจำกส่อื ประเภทตำ่ งๆ และ แสดงควำมคดิ เหน็ อยำ่ งเหตุผล ป. 4/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น และ ครอบครัว มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะกำรส่ือสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่ำวสำรแสดงควำมร้สู กึ และ ควำมคิดเหน็ อย่ำงมีประสิทธิภำพ ป. 4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตวั มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขำ่ วสำร ควำมคิดรวบยอด และควำมคิดเห็นในเรอ่ื งตำ่ งๆ โดยกำร พดู และกำรเขยี น ป. 4/3 พดู แสดงควำมคดิ เหน็ ง่ำยๆ เก่ยี วกบั เรื่องตำ่ งๆ ใกล้ตวั 4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) กำรเรียนรูค้ ำศัพทภ์ ำษำอังกฤษเก่ียวกบั ครอบครัว ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟัง กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรับผดิ ชอบ ขยัน ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน 2. มคี วำมเชื่อมัน่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 3. มเี จตคตทิ ี่ดีต่อกำรเรยี นภำษำองั กฤษ 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชวี ิต 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 2. มวี ินยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมั่นในกำรทำงำน 5. มีจติ สำธำรณะ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ข้ันนา (Warm up) 1.ครทู กั ทายและสนทนากับนักเรียน 2.ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 10 ขอ้ 3.นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาคาศัพท์ ทค่ี รเู ขยี นบนกระดาน ครูให้นักเรยี นฝึกอา่ นคาศัพทบ์ นกระดาน โดย มคี ณุ ครคู อยใหค้ วามชว่ ยเหลือ 4.แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู หน้ กั เรียนโดยเน้นยา้ ใหร้ ูว้ า่ นกั เรยี นต้องปฏบิ ตั ิตามลาดับข้ันตอนคา ชีแ้ จงท่ีมใี นแบบฝึกทักษะ 5.ครชู ้ีแจงวิธกี ารใชแ้ บบฝกึ ทักษะ ข้ันนาเสนอ (Presentation) 1.นกั เรียนรวมกล่มุ ๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เก่ง-อ่อน ปานกลาง แตล่ ะกลุม่ ดาเนินการเลือกหวั หน้า เลขานกุ าร ที่เหลือเป็นสมาชิก 1.1 หวั หนา้ กลุ่มแตล่ ะกลุม่ รับแบบฝึกทกั ษะ เรื่อง My Pets ตามจานวนสมาชิกในกล่มุ โดย ปฏิบัตกิ ิจกรรมดังน้ี 1.2 อา่ นบตั รช้ีแจงแล้วปฏิบตั ิตามคาชแ้ี จงอย่างเปน็ ขั้นตอน 1.3 ครูคอยอธบิ ายเพิ่มเตมิ เมื่อนกั เรยี นมีขอ้ สงสัย ข้นั ฝึก (Practice) 1.นักเรียนอา่ นคาศัพท์จากใบความรู้ 2.นักเรยี นทาExercise 1 3.ขณะนักเรียนทากจิ กรรมครูแจ้งให้ทราบว่าการทางานรว่ มกันใหช้ ่วยเหลอื ซง่ึ กันและกัน ให้มคี วาม สามคั คใี นกลุ่มและยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชกิ ในกลุ่มเดียวกัน การทางานจงึ จะประสบผลสาเรจ็ พร้อม สงั เกตพฤติกรรมการทางานของนกั เรยี น ขัน้ นาไปใช้ (Production) จากการนาเสนอเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถาม – ออกเสียง
ขน้ั สรปุ (Wrap up) 1.ครเู พ่มิ เติมในเร่ืองที่นักเรียนไมพ่ ูดถงึ โดยครูครูอธบิ ายการวธิ กี ารแตง่ ประโยคบอกเล่าและประโยค คาถาม What is it ? It is a ( ชอื่ สตั ว์/หรอื สิ่งของ) . Is it a ( ช่ือสตั ว์/หรอื ส่งิ ของ) ? 1.1 นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ ราย สรุปบทเรยี นทีไ่ ดจ้ ากการทา Exercise 1 1.2 ครกู ลา่ วคาชมเชยการทากิจกรรมกลมุ่ ของนักเรยี น ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั นา (Warm up) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันทบทวนความรู้จากชวั่ โมงผ่านมา โดยครบู อกคาภาษาไทยและให้นกั เรยี น ออกมาเขียนคาภาษาอังกฤษบนกระดาน และนักเรียนคนอืน่ ที่ไมไ่ ด้ออกมาเขียนใหเ้ ขียนคาที่ครบู อกลงในสมดุ โดยใหเ้ ขยี นทง้ั คาแปลและคาศัพท์ให้ถกู ตอ้ ง ขนั้ นาเสนอ (Presentation) 1.นักเรยี นท่ถี ูกส่มุ ออกมาเขียนคาศัพท์ 2.ครคู อยเฉลยคาตอบและให้นกั เรียนเขียนคาศัพท์ท่ีถูกลงในสมุด ข้ันฝึก (Practice) 1.นักเรียนรวมกลมุ่ ๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เก่ง-อ่อน ปานกลาง แตล่ ะกลุ่มดาเนินการเลือกหวั หนา้ เลขานุการ ที่เหลือเปน็ สมาชกิ 1.1 หัวหน้ากลุม่ แตล่ ะกลุ่มรบั แบบฝึกทกั ษะ เรอ่ื ง My Pets ตามจานวนสมาชิกในกลุ่มโดย ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมดงั นี้ 1.1.1 อ่านบตั รช้ีแจงแลว้ ปฏบิ ัติตามคาชแี้ จงอย่างเปน็ ข้ันตอน 1.1.2 ครูคอยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เมื่อนักเรยี นมีข้อสงสัย 1.1.3 นกั เรียนอ่านคาศัพท์จากใบความรู้ 1.1.4 นักเรียนทาExercise 2 1.1.5 นกั เรียนทาExercise 3 1.1.6 ขณะนักเรยี นทากจิ กรรมครแู จ้งให้ทราบวา่ การทางานร่วมกันใหช้ ว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกัน ให้มคี วามสามคั คีในกลมุ่ และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน การทางานจงึ จะ ประสบผลสาเรจ็ พรอ้ มสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรียน ขน้ั นาไปใช้ (Production) 1.จากการนาเสนอเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถาม – ออกเสียง 2.ครูเพ่มิ เติมในเรื่องที่นักเรียนไม่พูดถงึ โดยครูครอู ธิบายการวธิ ีการแต่ง ข้นั สรุป (Wrap up) 1.นักเรียนและครูร่วมกันอภปิ ราย สรปุ บทเรยี นท่ีไดจ้ ากการทา Exercise 2-3 2. ครกู ล่าวคาชมเชยการทากิจกรรมกลมุ่ ของนักเรยี น
ชว่ั โมงท่ี 3 ขนั้ นา (Warm up) ครูให้นกั เรียนดูภาพสัตวท์ ค่ี รูนามาเป็นตัวอยา่ งแลว้ บอกนักเรยี นว่า สตั วท์ ุกตวั ในภาพเปน็ สตั ว์เลย้ี ง จากนัน้ ให้นกั เรียนแปลคาศัพท์ชื่อสตั ว์ใน เป็นภาษาไทย แลว้ ครเู ปดิ ให้นักเรยี นฟงั เสยี งสัตว์ และบอกว่าเป็น เสยี งของสัตวช์ นิดใด (คาตอบ dog / cat / budgie ขน้ั นาเสนอ (Presentation) นกั เรียนดูภาพประกอบแลว้ ครกู ระตุ้นการอภปิ รายโดยถามคาถามใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเห็นวา่ ภาพท่เี หน็ นน้ั คืออะไร พร้อมให้เหตุผลประกอบ T : Do you think it is a cat? S1 : No, it isn’t a cat. T : Why not? S2 : It’s got feathers. T : What else can you see? S3 : It’s got a beak. T : So what animal is it? S4 : I think it’s a budgie. ขัน้ ฝกึ (Practice) 1.นกั เรียนรวมกล่มุ ๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลมุ่ ดาเนนิ การเลอื กหัวหนา้ เลขานกุ าร ท่ีเหลือเปน็ สมาชกิ 1.1.1 หัวหน้ากลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ รบั แบบฝึกทักษะ เรื่อง My Pets ตามจานวนสมาชกิ ในกลุ่มโดย ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดังน้ี 1.1.1.1 อ่านบตั รช้แี จงแล้วปฏิบตั ติ ามคาช้แี จงอยา่ งเป็นข้นั ตอน 1.1.1.2 ครูคอยอธบิ ายเพิ่มเตมิ เมอื่ นักเรยี นมขี ้อสงสยั 1.1.1.3 นักเรียนอ่านคาศัพทจ์ ากใบความร้ใู นหนา้ ท่ี 7 – 9 1.1.1.4 นักเรียนทาExercise 4 ในหน้าท่ี 14 1.1.1.5 ขณะนักเรยี นทากิจกรรมครแู จ้งใหท้ ราบว่าการทางานร่วมกันใหช้ ว่ ยเหลอื ซงึ่ กันและกัน ให้มคี วามสามัคคีในกล่มุ และยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน การทางานจึงจะ ประสบผลสาเรจ็ พร้อมสังเกตพฤติกรรมการทางานของนักเรยี น ขั้นนาไปใช้ (Production) 1.นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ 2.ครสู รปุ ความคดิ รวบยอดโดยครูใหน้ กั เรียนจินตนาการว่าตนเองมีสัตวเ์ ลยี้ งประหลาด แล้วจบั ค่เู ล่า เกย่ี วกับสตั วเ์ ล้ียงของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟัง โดยตอ้ งพูดเก่ียวกับชนิดของสตั วเ์ ลี้ยง ชือ่ อายุ มันดเู หมอื นอะไร และ มนั สามารถทาอะไรได้ จากนั้นครสู ุ่มเรยี กนกั เรียนนาเสนอสัตวเ์ ล้ียงของตนเอง ข้นั สรุป (Wrap up) 1. ครสู รุปความคดิ รวบยอดโดยครูใหน้ ักเรยี นจนิ ตนาการว่าตนเองมสี ตั วเ์ ลีย้ งประหลาด แลว้ จบั คู่ เลา่ เกย่ี วกบั สตั ว์เลย้ี งของตนเองใหเ้ พ่ือนฟงั โดยตอ้ งพูดเกีย่ วกับชนดิ ของสัตว์เล้ยี ง ชือ่ อายุ มนั ดู เหมอื นอะไร และมนั สามารถทาอะไรได้ จากน้ันครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนนาเสนอสตั ว์เล้ยี งของตนเอง
คาตอบ I’ve got a wonderful little dog. Her name is Dolly and she’s over a year and a half old. She’s got big eyes, small ears and short legs. She can run fast and she can swim. She swims really well! 2. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 8. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผ่าน สังเกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพูดถำม-ตอบ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินในระดับดขี น้ึ ไป ตรวจใบกจิ กรรม ใบกิจกรรม ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมนิ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป ประเมนิ กำรทำแผนผังควำมคิด แผนผงั ควำมคดิ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี น้ึ ไป ประเมนิ กำรพดู นำเสนอ แบบประเมนิ กำรพูด ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในระดับดีขนึ้ ไป โครงงำน 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบฝึกทักษะการเขียนคาศพั ท์ ชุด Fun with Vocabulary กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เล่มท่ี 3 เร่ือง My Pets
Pre-test เล่มท่ี 3 เรอื่ ง My Pets Directions : Choose the correct answer and fill () in the answer sheet. (10 points) 1. Where does a fish live? 6. Where does a squirrel live? a. In the house a. in a box b. in the sky b. in a house c. in the jar c. on a tree d. in the water d. in a river 2. What animal has four legs? 7. A…………… walks slowly. a. chick a. squirrel b. dog b. duck c. cock c. parrot d. duck d. turtle 3. What animal can bark? 8. What does a cat like eat? a. dog a. dog b. cat b. rabbit c. turtle c. fish d. parrot d. parrot 4. What animal has long ears? 9. A…………… can speak. a. rabbit a. squirrel b. squirrel b. duck c. cat c. parrot d. turtle d. cat 5. A …………… can run fast. 10.A…………… crows in the morning a. turtle a. cock b. mouse b. parrot c. fish c. duck d. parrot d. rabbit
My Pets CAT RABBIT PARROT COCK CHICK SQUIRREL
FISH DUCK PIGLET MOUSE DOG TURTLE
Direction : Match the pairs. กระรอก เป็ด 1 rabbit หนู 2 turtle ลกู ไก่ 3 fish ไกต่ ัวผู้ 4 parrot 5 squirrel กระต่าย 6 piglet ปลา 7 mouse เตา่ 8 duck นกแก้ว 9 chick ลูกหมู 10 cock
Direction : Find the words. 1. a t c 2. u t r t e l 3. c k u d 4. p a o r r t 5. i p g l t e 6. a r b b t i 7. s q u r i r e i 8. g d o 9. f s h i 10. m o s u e
Direction : Tick or in front of the sentences. 1 A rabbit has long ears. 2 A dog says meow – meow. 3 A parrot can speak. 4 A turtle can run fast. 5 A chick says jeep – jeep. 6 A duck and a fish can swim. 7 A squirrel lives in the water. 8 A piglet has two legs. 9 A cat likes to eat a fish. 10 A cock crows in the afternoon.
คาศพั ท์ Vocabulary คาแปล 1. Cat แมว 2. Rabbit คาอ่าน กระตา่ ย 3. Parrot แคท นกแก้ว 4. Dog แรบบิท สนุ ขั 5. Turtle แพเรทิ เตา่ 6. Mouse ดอก หนู 7. Chick เทอเทลิ ไก,่ ลกู ไก่ 8. Cat เมาซ์ แมว 9. Fish ชิค ปลา 10. Cock แคท ไกต่ วั ผู้ 11. Duck ฟชิ เป็ด 12. Piglet คอก ลูกหมู ดัค พกิ ลทิ
Direction : Find the correct word “Animal”, circle and write it in the box. ARC TDORMBUF L POKGNT NGDCA T CO E H E K I L DOWR DDCOCKEURDDOGOP J NX HEAEHP L SEOUT LHUCVO OSQU I RRE LVKAEHBAXV LYZDCRASBB I T TURT L E ADUCKRR E L TOOREAOAS NQ F A S HS AUC E K V R B S K E SOCCREPNYK I CHLBAVR KKZ F AWAOED JMT F I SH I B H E E P B E UWP A R RO T COB 1. .................................... 7. .................................... 2. .................................... 8. .................................... 3. .................................... 9. .................................... 4. .................................... 10. .................................... 5. .................................... 11. .................................... 6. .................................... 12. ....................................
Post-test เล่มท่ี 3 เรอ่ื ง My Pets Directions : Choose the correct answer and fill () in the answer sheet. (10 points) 1. Where does a fish live? 6. Where does a squirrel live? a. In the house a. in a box b. in the sky b. in a house c. in the jar c. on a tree d. in the water d. in a river 2. What animal has four legs? 7. A…………… walks slowly. a. chick a. squirrel b. dog b. duck c. cock c. parrot d. duck d. turtle 3. What animal can bark? 8. What does a cat like eat? a. dog a. dog b. cat b. rabbit c. turtle c. fish d. parrot d. parrot 4. What animal has long ears? 9. A…………… can speak. a. rabbit a. squirrel b. squirrel b. duck c. cat c. parrot d. turtle d. cat 5. A …………… can run fast. 10.A…………… crows in the morning. a. turtle a. cock b. mouse b. parrot c. fish c. duck d. parrot d. rabbit
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 Happy with English Vocabulary เรอ่ื ง Fruits 1.สาระสาคัญ การเรยี นร้คู าศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับผลไม้ การเรยี นรู้ของนกั เรยี นจะไดพ้ บคาศัพท์ ประเภทต่างๆ มีความสาคัญต่อการเรียนวชิ าภาษาองั กฤษ การที่นักเรียนสามารถรู้คาศัพท์ภาษาองั กฤษท่ี ถูกต้อง จะทาให้การเรียนภาษาองั กฤษมคี วามหมายมากยิ่งขน้ึ และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ 2. ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้ำใจและตีควำมเรอื่ งที่ฟังและอำ่ นจำกส่ือประเภทต่ำงๆ และ แสดงควำมคิดเห็น อย่ำงเหตุผล ป. 4/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เพื่อน และ ครอบครัว มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะกำรสอ่ื สำรทำงภำษำในกำรแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่ำวสำรแสดงควำมรู้สกึ และ ควำมคิดเหน็ อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ ป. 4/1 พดู /เขยี นให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ วั มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่ำวสำร ควำมคดิ รวบยอด และควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ โดยกำร พูดและกำรเขยี น ป. 4/3 พูดแสดงควำมคดิ เหน็ ง่ำยๆ เกี่ยวกบั เรือ่ งตำ่ งๆ ใกลต้ ัว 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) กำรเรียนรคู้ ำศัพทภ์ ำษำอังกฤษเกี่ยวกับครอบครวั ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรับผิดชอบ ขยัน ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น 2. มีควำมเชือ่ มน่ั ในตนเอง กลำ้ แสดงออก 3. มเี จตคติท่ีดีต่อกำรเรยี นภำษำองั กฤษ 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ ีวิต 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซอื่ สตั ย์สจุ รติ 2. มวี ินยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มุ่งมั่นในกำรทำงำน 5. มจี ติ สำธำรณะ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั นา (Warm up) 1.ครทู กั ทายและสนทนากับนักเรยี น 1.1 ครูทกั ทายนักเรียนพร้อมทัง้ นาเสนอเพลง The fruit song ให้นักเรยี นฟงั แล้วให้ นักเรยี นรอ้ งตาม 1.2 จากนัน้ ครูนาสนทนาเกี่ยวกับเนือ้ เพลงว่าเกย่ี วกบั อะไร 1.3 ครใู ห้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 10 ขอ้ 1.4 แจ้งจุดประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ ักเรยี นโดยเนน้ ย้าให้รู้ว่า นักเรยี นตอ้ งปฏิบัติตามลาดับ ข้ันตอนคาชี้แจงทม่ี ีในแบบฝกึ ทกั ษะ 1.5 ครชู ี้แจงวธิ กี ารใช้แบบฝกึ ทกั ษะ ขัน้ นาเสนอ (Presentation) นักเรยี นรว่ มกนั ศึกษาคาศัพท์ ทค่ี รเู ขียนบนกระดาน ครูให้นักเรยี นฝึกอ่านคาศัพท์บนกระดาน โดยมี คุณครูคอยให้ความชว่ ยเหลือ ขนั้ ฝึก (Practice) 1.นักเรียนรวมกล่มุ ๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เก่ง-อ่อน ปานกลาง แตล่ ะกลมุ่ ดาเนนิ การเลอื กหัวหน้า เลขานกุ าร ที่เหลือเป็นสมาชิก 1.1 หัวหนา้ กลุม่ แต่ละกลุ่มรับแบบฝกึ ทกั ษะ เรอื่ ง Fruits ตามจานวนสมาชิกในกลมุ่ โดยปฏิบตั ิ กิจกรรมดังนี้ 1.1.1 อ่านบัตรชี้แจงแล้วปฏิบตั ติ ามคาช้แี จงอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 1.1.2 ครคู อยอธิบายเพ่ิมเตมิ เมือ่ นักเรยี นมขี ้อสงสัย 1.1.3 นกั เรียนอา่ นคาศัพท์จากใบความรู้ 1.1.4 ครนู าเสนอบัตรภาพเกย่ี วกบั สตี ่างๆ ไดแ้ ก่ apple, papaya, orange, banana, mango, rambutan ทลี ะภาพโดยครูออกเสียงใหน้ กั เรยี นฟงั แล้วให้นกั เรยี นออกเสียงตาม 2-3 คร้ัง
ขัน้ นาไปใช้ (Production) ครูนาเสนอบัตรคาพร้อมกับบัตรภาพ พร้อมทงั้ ครนู าสะกดคา แล้วใหน้ กั เรยี นออกเสียงตาม 2-3 ครง้ั นักเรียนทาExercise 1 ขณะนักเรียนทากจิ กรรมครูแจ้งใหท้ ราบวา่ การทางานรว่ มกันใหช้ ว่ ยเหลอื ซ่ึงกันและกัน ให้มี ความสามัคคีในกลุ่มและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกล่มุ เดียวกัน การทางานจึงจะประสบผลสาเร็จ พรอ้ มสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนกั เรยี น ขน้ั สรุป (Wrap up) 1 จากการนาเสนอเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถาม – ออกเสียง 2 ครใู ห้นกั เรียนบอกช่อื ผลไม้ตามบัตรคาที่ครแู สดงให้ดูพร้อมทั้งครตู ิดบตั รคาประกอบ เพ่ือทบทวน ความรอู้ ีกคร้ัง 3 นกั เรียนและครรู ่วมกันอภิปราย สรุปบทเรยี นที่ได้จากการทา Exercise 1 4 ครกู ลา่ วคาชมเชยการทากจิ กรรมกลมุ่ ของนักเรียน ชว่ั โมงที่ 2 ขน้ั นา (Warm up) ครูให้นกั เรียนฝกึ สะกดคา ออกเสียง และบอกความหมายของผลไม้ทคี่ รูกาหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ข้ันนาเสนอ (Presentation) ครูให้นกั เรยี นบอกชอ่ื ผลไมท้ ่ีครูนามา โดยแบง่ นักเรียนออกเป็น 2 กล่มุ โดยกลมุ่ ท่ี 1 นาส่งิ ของขึ้น มาแล้วเป็นคนถามวา่ What fruit is it? กลมุ่ ที่ 2 ตอบวา่ It is banana. ถ้าเป็นกล้วย ขน้ั ฝกึ (Practice) นกั เรยี นรวมกลุ่มๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เก่ง-อ่อน ปาน กลาง แต่ละกล่มุ ดาเนนิ การเลือกหวั หนา้ เลขานกุ าร ท่ีเหลอื เป็นสมาชกิ ขั้นนาไปใช้ (Production) หวั หน้ากลุม่ แต่ละกลุ่มรบั แบบฝึกทกั ษะ เร่ือง Fruits ตามจานวนสมาชกิ ในกลุ่มโดยปฏิบตั ิกจิ กรรม ดงั นี้ 1 อ่านบตั รชีแ้ จงแลว้ ปฏิบตั ติ ามคาชีแ้ จงอย่างเป็นขนั้ ตอน 2 ครคู อยอธิบายเพิม่ เติมเมื่อนักเรียนมีขอ้ สงสยั 3 นักเรยี นอา่ นคาศพั ท์จากใบความรู้ 4 นักเรยี นทา Exercise 2 5 นักเรยี นทา Exercise 3 6 ขณะนักเรียนทากิจกรรมครูแจ้งให้ทราบว่าการทางานร่วมกันให้ช่วยเหลือซึง่ กันและ กนั ให้มีความสามคั คีในกลุ่มและยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลมุ่ เดียวกัน การทางานจงึ จะประสบ ผลสาเร็จ พร้อมสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานของนกั เรียน ขั้นสรุป (Wrap up) 1 ใหน้ ักเรียนวาดผลไม้ท่ตี นเองชอบมา 1 อยา่ งพร้อมท้งั ระบายสีให้สวยงาม
พร้อมทงั้ เขียนบรรยายใตภ้ าพวา่ It is ผลไม้. 2 จากการนาเสนอเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถาม – ออกเสียง 3 ครใู หน้ กั เรยี นบอกช่ือผลไมต้ ามบตั รคาท่ีครูแสดงให้ดูพร้อมท้ังครูติดบตั รคาประกอบ เพ่อื ทบทวน ความรอู้ ีกครัง้ 4 นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภิปราย สรุปบทเรยี นท่ไี ด้จากการทา Exercise 2-3 5 ครูกลา่ วคาชมเชยการทากิจกรรมกล่มุ ของนกั เรยี น ชว่ั โมงที่ 3 ขน้ั นา (Warm up) จากโครงสร้างประโยค This is a ball. ครนู าภาพผลไม้แลว้ พูดประโยค This is a …….. . หรอื It is a …….. . เช่น This is a banana. It is a mango. It is a coconut. This is an apple. ข้นั นาเสนอ (Presentation) นกั เรยี นรวมกลุ่มๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เก่ง-ออ่ น ปาน กลาง แต่ละกลมุ่ ดาเนินการเลือกหัวหนา้ เลขานกุ าร ทเี่ หลือเป็นสมาชกิ ขน้ั ฝกึ (Practice) หวั หนา้ กลมุ่ แตล่ ะกลุ่มรับแบบฝึกทักษะ เร่ือง Fruits ตามจานวนสมาชิกในกล่มุ โดยปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ 1 อ่านบตั รชแี้ จงแลว้ ปฏบิ ัตติ ามคาชีแ้ จงอย่างเป็นขน้ั ตอน 2 นักเรยี นพดู คาศัพทแ์ ละพูดประโยค 3 นักเรียนรบั บตั รผลไมจ้ ากครทู กุ คน 4 ครูชูภาพผลไมแ้ ล้วใหน้ กั เรียนทุกคนออกเสยี งคาศัพทข์ องผลไม้นนั้ 5 นักเรยี นอ่านคาศัพท์จากใบความรู้ 6 นกั เรียนทา Exercise 4 7 ขณะนักเรียนทากจิ กรรมครูแจง้ ใหท้ ราบวา่ การทางานร่วมกนั ใหช้ ่วยเหลือซึง่ กัน และกนั ใหม้ ีความสามัคคใี นกลุม่ และยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของสมาชิกในกลุ่มเดยี วกนั การทางานจึงจะ ประสบผลสาเรจ็ พร้อมสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรียน ขัน้ นาไปใช้ (Production) นกั เรยี นและครูรว่ มกนั อภปิ ราย สรุปบทเรียนท่ีไดจ้ ากการทา Exercise 4 ขน้ั สรุป (Wrap up) 1 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ขอ้ 2 จากการนาเสนอเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถาม – ออกเสียง 3 ครกู ลา่ วคาชมเชยการทากิจกรรมกลมุ่ ของนักเรียน
8.การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 ชิ้นงาน แบบประเมินขนิ้ งาน สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินทักษะทางภาษา รายบุคคลการ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่น แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ในการทางาน ระดับคุณภำพ แปลผล คะแนน รอ้ ยละ ระดบั ดเี ยย่ี ม 9 - 10 80 - 100 4 7-8 70 – 79 3 ดี 5-6 60 - 69 2 พอใช้ 1-4 0 - 59 1 ปรับปรุง เกณฑ์กำรตดั สนิ นกั เรียนได้คะแนนระดบั พอใช้ ขน้ึ ไป ถอื วำ่ ผำ่ นเกณฑ์ 9.สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้ แบบฝกึ ทักษะการเขยี นคาศัพท์ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชน้ั ประถมศึกษา ปีที่ 4 เลม่ ที่ 4 เร่อื ง Fruits
Pre-test / Post -test เลม่ ท่ี 4 เรอ่ื ง Fruits Directions : Choose the correct answer and fill () in the answer sheet. (10 points 1. 6. a. Mango a. Coconut b. Banana b. Apple c. Apple c. Rasberry d. Mangosteen d. Grape 7. .............................. grow in a cold country. 2. What fruit has a lot of black seeds? a. Durians a. Watermelon b. Grapes b. Grape c. Apple c. Carrot d. Coconuts d. Coconut 8. What do monkeys like to eat? 3. What fruit is green or purple in color? a. Grapes a. Banana b. Bananas b. Coconut c. Durians c. Grape d. papaya d. Apple 9. 4. a. Grape a. Waterlemon b. Pineapple b. Watermelon c. Rose apple c. Watercoconut d. Orange d. Waterapple 10. What fruit has a strong smell? 5. What fruit has a hard shell with juice a. Durian inside? b. Banana a. Orange c. Apple b. Apple d. Watermelon c. Coconut d. Grape
Fruits MANGO PINEAPPLE BANANA DURIAN WATERRMELON ORANGE
MANGOSTEEN APPLE STRAWBERRY RAMBUTAN CHERRY COCONUT
GRAPE ROSE APPLE PAPAYA CANTALOUPE KIWI RASPBERRY
Vocabulary คาศัพท์ คาอา่ น คาแปล 1. Mango แมงโก มะม่วง 2. Pineapple ไพนแ์ อพเพิล สบั ปะรด 3. Banana บะนานะ กลว้ ย 4. Durian ดิวเรยี น ทเุ รียน 5. Watermelon วอเทอรเ์ มลอน แตงโม 6. Orange ออเรนจ์ 7. Mangosteen แมงกะสทีน สม้ 8. Apple แอพเพิล มังคุด 9. Strawberry สตรอว์เบอรี่ แอปเป้ลิ 10. Rambutan แรมบูแทน สตรอเบอรร์ ่ี 11. Cherry เชอรี เงาะ 12. Coconut โคโคนทั เชอร์ร่ี 13. Grape เกรพ มะพร้าว 14. Rose Apple โรซ แอพเพลิ อง่นุ 15. Papaya พะพายา ชมพู่ 16. Cantaloupe แคนทะลูพ มะละกอ 17. Kiwi คีวี แคนตาลูป 18. Raspberry แรสเบอะรี กวี ี ราสเบอร์รี่
Direction : Match the pairs. Cherry 1. Apple 2. Strawberry 3. Orange 4. Pineapple 5. Papaya 6. Mango 7. Watermelon 8. Rose apple 9. Grape 10.
Direction : Find the words. 1. I W K I 2. A A B N A N 3. O N C U C T O 4. P Y A A P A 5. P A G R E 6. R U D I N A 7. B A R T N M U A 8. R G E A N O 9. S B R R A Y R E P 10 Y H C R R E
Direction : Tick or in front of the sentences. 1 An mango grows in a cold country. 2 An orange is orange in color. 3 A durian has a lot of thorns. 4 A papaya is black in color. 5 A grape is green or purple in color. 6 A rambutan is pink in color. 7 A strawberry grows in a hot country. 8 A mangosteen is purple in color. 9 Monkeys like to eat cantaloupe. 10 A watermelon has a lot of black seed.
Direction : Find the correct word “Animal”, circle and write it in the box. GRAP ESDUR I AN UBMANGOS T E EN AARPS EAP P L ES VNRAS P B E RR Y T AA P Y COCONU T V SNWA T E RME I ON R AMBU T AN SOWD ORANGE LONGAN GP INEAPPLESX 7. .................................... 13. .................................... 8. .................................... 14. .................................... 9. .................................... 15. .................................... 10. .................................... 16. .................................... 11. .................................... 17. .................................... 12. .................................... 18. ....................................
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 5 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 Happy with English Vocabulary เร่ือง In School 1.สาระสาคัญ การเรียนรู้คาศัพทภ์ าษาอังกฤษเกยี่ วกบั หมวดสง่ิ ของตา่ งๆ ในโรงเรียน การเรยี นรูข้ อง นกั เรียนจะได้พบคาศัพทป์ ระเภทตา่ งๆ มีความสาคญั ต่อการเรยี นวชิ าภาษาอังกฤษ การที่นกั เรียนสามารถรู้ คาศัพทภ์ าษาองั กฤษทถี่ ูกต้อง จะทาให้การเรียนภาษาองั กฤษมีความหมายมากยง่ิ ขนึ้ และสามารถนาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวันได้ 2. ตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน ต 1.1 เขำ้ ใจและตคี วำมเร่ืองทฟ่ี ังและอ่ำนจำกสอ่ื ประเภทตำ่ งๆ และ แสดงควำมคิดเห็น อย่ำงเหตผุ ล ป. 4/2 เลือก/ระบุภาพหรือสญั ลักษณ์ หรือเคร่ืองหมายตามตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆ ท่ีฟังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะกำรสอื่ สำรทำงภำษำในกำรแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่ำวสำรแสดงควำมรู้สึกและ ควำมคดิ เห็นอย่ำงมีประสทิ ธิภำพ ป. 4/4 พดู /เขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับตนเอง เพอื่ น และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขำ่ วสำร ควำมคิดรวบยอด และควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ โดยกำร พดู และกำรเขียน ป. 4/1 พดู /เขียนให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกลต้ วั ป. 4/3 พูดแสดงความคดิ เห็นงา่ ยๆ เก่ียวกับเรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตัว 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) กำรเรยี นรูค้ ำศัพทภ์ ำษำอังกฤษเกยี่ วกับครอบครวั ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟงั กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มคี วำมรบั ผดิ ชอบ ขยัน ใฝ่ร้ใู ฝ่เรยี น 2. มคี วำมเชื่อม่ันในตนเอง กลำ้ แสดงออก
3. มีเจตคติทดี่ ีต่อกำรเรยี นภำษำอังกฤษ 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ ีวิต 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจรติ 2. มวี ินัย 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ ม่ันในกำรทำงำน 5. มจี ิตสำธำรณะ 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ขนั้ นา (Warm up) 1.ครูทักทายและสนทนากับนักเรียน 2.ครูเสนอเพลง in on under จากใบความรู้ นกั เรียนร้องตาม 2 - 3 ครง้ั พร้อมทาท่าทาง ประกอบ 3.ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 ขอ้ ข้ันนาเสนอ (Presentation) 1.นกั เรียนร่วมกันศึกษาคาศัพท์ ท่คี รเู ขียนบนกระดาน ครใู หน้ กั เรียนฝึกอ่านคาศัพท์บนกระดาน โด มีคุณครคู อยใหค้ วามชว่ ยเหลือ 2.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นกั เรยี นโดยเน้นยา้ ให้รวู้ ่า นกั เรียนต้องปฏบิ ัตติ ามลาดบั ข้ันตอนคาชแี้ จงที่มี ในแบบฝกึ ทักษะ 3.ครชู แี้ จงวธิ ีการใชแ้ บบฝกึ ทักษะ ขั้นฝกึ (Practice) 1 นกั เรยี นรวมกลุ่มๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เกง่ -อ่อน ปานกลาง แต่ละกลมุ่ ดาเนินการเลอื กหวั หน้า เลขานุการ ที่เหลอื เป็นสมาชกิ 1.1 หัวหน้ากลมุ่ แตล่ ะกลุ่มรับแบบฝึกทักษะ เรอ่ื ง Fruits ตามจานวนสมาชกิ ในกล่มุ โดย ปฏิบตั ิกิจกรรมดงั นี้ 1.2 อ่านบัตรช้ีแจงแล้วปฏิบัติตามคาชี้แจงอยา่ งเป็นขัน้ ตอน ครูนาเสนอคาศัพท์ in, on, under, Where, have, They ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตาม 1.3 ครนู าเสนอประโยค A: Do you have a pencil?
B: Yes, I do A: Where is your pencil B : It is in/on/under the book 1.4 นกั เรียนอา่ นคาศัพท์จากใบความรู้ 1.5 นักเรียนทาExercise 1 1.6 ขณะนักเรียนทากจิ กรรมครูแจ้งให้ทราบว่าการทางานรว่ มกนั ให้ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ให้มีความสามคั คใี นกลมุ่ และยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชิกในกลุ่มเดยี วกัน การทางานจงึ จะ ประสบผลสาเร็จ พรอ้ มสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรียน ขั้นนาไปใช้ (Production) นกั เรียนฝกึ อา่ นออกเสยี งคาศัพท์ และฝึกสนทนาประโยคโดยใชห้ นงั สือ ดนิ สอ และกระเปา๋ ประกอบการสนทนา S1 : Do you have a pencil? S2 : Yes, I do S1 : Where is your pencil? S2 : It is in/on/under the book. ขน้ั สรุป (Wrap up) จากการนาเสนอเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถาม – ออกเสยี ง 1. ครูให้นักเรยี นบอกชอื่ ผลไม้ตามบตั รคาทีค่ รแู สดงให้ดูพร้อมทงั้ ครตู ิดบัตรคาประกอบ เพื่อทบทวน ความร้อู ีกครั้ง 2ใ นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภปิ ราย สรปุ บทเรียนทีไ่ ด้จากการทา Exercise 1 3.ครกู ล่าวคาชมเชยการทากิจกรรมกล่มุ ของนักเรยี น ชวั่ โมงท่ี 2 ขน้ั นา (Warm up) ครูเดนิ เขามาในชัน้ เรียน แลวกลาวทักทายนักเรียนวา Teacher : Good morning (afternoon). Welcome back to school. Students : Good morning (afternoon), teacher. Teacher : Class, are you ready to learn English? Students : Yes. ขั้นนาเสนอ (Presentation) 1.สนทนากับนกั เรยี นเรื่องอปุ กรณต์ าง ๆ ในโรงเรยี น 2. นกั เรียนบอกช่ืออุปกรณต์ าง ๆ ครูเขียนบนกระดาน (อาจเปนภาษาไทยก็ได ข้นั ฝึก (Practice) 1.นักเรียนรวมกลุ่มๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดาเนนิ การเลอื กหวั หน้า เลขานุการ ท่ีเหลือเปน็ สมาชกิ 1.1 หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรบั แบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง Fruits ตามจานวนสมาชกิ ในกลุ่มโดยปฏบิ ัติ กจิ กรรมดงั น้ี
1.1.1 อา่ นบตั รชีแ้ จงแลว้ ปฏิบัติตามคาช้แี จงอยา่ งเปน็ ข้ันตอน 1.1.2 ครนู าเสนอรูปภาพเก่ียวกบั อปุ กรณต์ าง ๆ ในห้องเรียน หรอื นกั เรยี นดภู าพ หองตางๆ ครูสอนคาศัพทใหมทีป่ รากฏโดยนาบัตรภาพไปติดพรอมกับบตั รคาศัพทใหมบนกระดานใหตรงกับ ชือ่ อุปกรณท์ คี่ รเู ขียนไว นักเรียนฝกอานออกเสยี งใหถูกตอง ดงั นี้ Blackboard Chalk School bag Pen Eraser Book Computer Scissors 1.1.3 ใหนกั เรียนพดู บอกชือ่ หองตางๆ ในโรงเรยี นของตนเอง 1.1.4 นักเรียนอา่ นคาศัพท์จากใบความรู้ 1.1.5 นักเรียนทาExercise 2 1.1.6 นกั เรยี นทาExercise 3 1.1.7 ขณะนักเรยี นทากิจกรรมครแู จ้งให้ทราบวา่ การทางานรว่ มกันใหช้ ว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั ให้มคี วามสามัคคใี นกลุ่มและยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน การทางานจงึ จะ ประสบผลสาเรจ็ พร้อมสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรยี น ข้ันนาไปใช้ (Production) 1. จากการนาเสนอเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถาม – ออกเสียง 2. ครใู หน้ กั เรยี นบอกชือ่ ผลไม้ตามบัตรคาที่ครูแสดงใหด้ ูพร้อมทั้งครตู ดิ บตั รคาประกอบ เพ่ือทบทวน ความรู้อีกคร้ัง ข้นั สรุป (Wrap up) 1.นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภปิ ราย สรปุ บทเรยี นท่ไี ด้จากการทา Exercise 2-3 2.ครกู ลา่ วคาชมเชยการทากิจกรรมกล่มุ ของนักเรียน ช่วั โมงท่ี 3 ขน้ั นา (Warm up) นกั เรียนทบทวนความรู้เดิมโดยรว่ มสนทนากบั ครูโดยใชภ้ าพและของจริงในห้องเรยี นดว้ ยการใช้ ประโยค What’s this ? or What’s that ? What are these ? or What are those ? และการตอบ It is a/ an…… และ They are …….…(s,es) ข้นั นาเสนอ (Presentation) นกั เรยี นรวมกลุ่มๆละ 4-6 คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เก่ง-อ่อน ปาน กลาง แต่ละกลุม่ ดาเนินการเลือกหวั หน้า เลขานกุ าร ที่เหลอื เปน็ สมาชิก ขั้นฝึก (Practice) หวั หน้ากลุม่ แตล่ ะกลมุ่ รบั แบบฝกึ ทักษะ เรื่อง Fruits ตามจานวนสมาชกิ ในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ 1. อา่ นบตั รชแี้ จงแลว้ ปฏบิ ตั ติ ามคาชแ้ี จงอย่างเปน็ ขั้นตอน 2. นกั เรียนแต่ กลมุ่ ไปสารวจสิง่ ของต่าง ๆ ภายในห้องสมดุ และเขียนคาศพั ท์ เหล่านั้นโดยใช้พจนานกุ รมภาพสี และ Dictionary แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนนาเสนอคาศัพท์ 3. นกั เรียนฝกึ อ่าน สะกด และบอกความหมายของคาศพั ท์ 4. นักเรยี นกลมุ่ เดิม นาคาศัพท์ แต่งประโยคคาถามเลยี นแบบจากตวั อยา่ งและใช้ ใบ ความรตู้ อบถึงสงิ่ ต่าง ๆ ในห้องสมดุ ว่าแตล่ ะอย่างอยู่ทีใ่ ด ใหเ้ พอื่ นตอบ
5. หลังจากทากจิ กรรมเสร็จให้นักเรียนอา่ นคาศัพทจ์ ากใบความรู้ 6. นกั เรยี นทา Exercise 4 7. ขณะนักเรียนทากจิ กรรมครูแจง้ ใหท้ ราบว่าการทางานร่วมกันใหช้ ่วยเหลือซ่งึ กัน และกนั ให้มีความสามัคคีในกลมุ่ และยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มเดยี วกนั การทางานจงึ จะ ประสบผลสาเรจ็ พร้อมสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรยี น ข้นั นาไปใช้ (Production) นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปราย สรปุ บทเรียนที่ไดจ้ ากการทา Exercise 4 ขั้นสรุป (Wrap up) 1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ 2 ครูกล่าวคาชมเชยการทากิจกรรมกลุ่มของนักเรียน 8.การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน แบบทดสอบหลังเรียน รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 ช้นิ งาน แบบประเมนิ ขน้ิ งาน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คลการ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ มั่นใน แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 การทางาน ระดับคุณภำพ แปลผล คะแนน ร้อยละ ระดับ ดีเยี่ยม 9 - 10 80 - 100 4 7-8 70 – 79 3 ดี 5-6 60 - 69 2 พอใช้ 1-4 0 - 59 1 ปรับปรงุ เกณฑ์กำรตัดสิน นักเรียนได้คะแนนระดบั พอใช้ ขนึ้ ไป ถอื ว่ำผำ่ นเกณฑ์ 9.สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ แบบฝกึ ทักษะการเขยี นคาศัพท์ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 เลม่ ท่ี 4 เร่ือง In School
Pre-test / Post-test เล่มที่ 5 เรอื่ ง In School Directions : Choose the correct answer and fill () in the answer sheet. (10 points) 1. 6. a. desk a. blackboard b. bench b. pencil c. blackboard c. desk d. chair d. school bag 2. Students use a………….to write on a book. a. chair 7. What do the children like to kick? b. pen a. football c. dictionary b. dictionary d. computer c. book 3. People sit on a ............... d. chair a. clock b. bench 8. A……..….tells the time. c. book a. pen d. desk b. book c. clock 4. d. bench 9. a. chalk a. notebook b. blackboard b. dictionary c. school bag c. football d. eraser d. eraser 5. Students put books in a ……….. 10. A ………….. tells the meaning of a. pen words b. bench a. book c. blackboard b. desk d. school bag c. dictionary d. clock
In School BLACKBOARD CHALK DESK BENCH SCHOOL BAG CHAIR
PEN PENCIL RULER ERASER BOOK NOTEBOOK
DICTIONARY CLOCK MAP COMPUTER FOOTBALL SCISSORS
คาศัพท์ Vocabulary คาแปล 13. Blackboard กระดานดา 14. Chalk คาอา่ น 15. Desk แบลคบอรด์ ชอล์ก 16. Bench โต๊ะเขยี นหนงั สือ 17. School bag ชอลค์ 18. Chair เดส ม้านงั่ ยาว 19. Pen เบน กระเป๋านักเรยี น 20. Pencil สคลู แบก 21. Ruler แชร์ เก้าอี้ 22. Eraser เพน ปากกา 23. Book เพนซลิ ดินสอ 24. Notebook รูลเลอะ ไมบ้ รรทดั 25. Dictionary อเิ รเชอะ ยางลบ 26. Clock บุค หนงั สอื 27. Map โนทบุค สมดุ 28. Computer ดิคชะเนรี พจนานกุ รม 29. Football คลอค นาฬกิ าแขวน 30. Scissors แมพ แผนที่ คอมพิวเทอะ คอมพิวเตอร์ ฟุลบอล ลกู ฟุตบอล ซสิ เซอะ กรรไกร
Direction : Put the word in the box. 1. E 2. R 3. C 4. B 5. C 6. D 7. C 8. B 9. P 10. F
Direction : Answer these questions. “Yes, it is.” Or “No, it is not. 1. Is this a bench? 2. Is this a book? 3. Is this a football? 4. Is this a chair? 5. Is this a blackboard? 6. Is this a school bag? 7. Is this a pen? 8. Is this a chalk? 9. Is this a desk? 10. Is this a notebook?
Direction : Write the words in the boxes. Across Down 1. กรรไกร 1. คอมพิวเตอร์ 2. ชอลค์ 2. นาฬกิ า 3. ลูกฟตุ บอล 3. เก้าอี้ 4. ยางลบ 4. เกา้ อ้ียาว 5. โต๊ะ 5. กระดานดา 6. สมุด 6. หนังสอื
Search