คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ตอ้ งพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎกี ำรเรยี นรทู้ ี่ได้รับไปสู่กำรปฏบิ ัติ ส่ิงสำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผูเ้ รียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรส่ือสำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรูปแบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ
แผนผงั มโนทัศนเ์ ปา้ หมายการเรียนรู้/ หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ทักษะกำรฟงั (Listening skill) 1. ซอื่ สัตย์สจุ ริต 1) คำศัพท์หมวดหมู่เกีย่ วกบั กิจกรรม 2) ทกั ษะกำรพูด (Speaking skill) 2. มีวินัย สนั ทนำกำรในเวลำว่ำง 3) ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading skill) 3. ใฝ่เรียนรู้ 2) บทสนทนำท่ีถำมถงึ กจิ กรรมที่ทำใน 4) ทกั ษะกำรเขยี น (Writing skill) 4. มุ่งม่ันในกำรทำงำน เวลำว่ำง 5. มีจติ สำธำรณะ e.g. A: What do you like doing in กระบวนการกลุ่ม your free time? 1) จบั คูส่ นทนำ B: I like cooking. 2 ) ระดมสมอง 3) บทสนทนำชักชวน 3) ฝึกกิจกรรมกลมุ่ ตำม e.g. Lucy: Let’s have a party. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ Mary: That’s a good idea. 4) Grammar: - be + going to + V.1 e.g. They are going to have a party tomorrow. I am going to recycle bottles. - Persuasion (กำรชกั ชวน) Let’s + V.1 (Let’s = Let us) a t 7 เป้าหมายการเรยี น . ( h Free Time a v e = หลกั ฐานการเรียนรู้ e a t 1. กำรเขียนแผน่ ประกำศเพ่ือชักชวนใ)หน้ ักเรยี นคนอื่น ๆ มำเขำ้ รว่ มชมรม 2. กำรเขยี น e-mail เพือ่ เชิญชวนเพือ่ นๆ มำรว่ มงำนวนั เกดิ ของตน 3. กำรเขียน e-mail เพื่อเลS่ำhใeห้เพอื่ นฟังวำ่ นักเรยี นกำลงั จะทำกจิ กรรมอะไรในฤดรู อ้ นน้ี 4. กำรจดั ทhำaแsผน่ aป้ำbยa(tPhoster) ของชมรม 5. กำรรวบtรwวมicคeำศaัพทdใ์ aนy.Your word book (has = take)
แผนผังมโนทศั น์ขัน้ ตอนการทากจิ กรรมประกอบการจัดการเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรียนรู้แนวการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลังเรียน (ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 65)
ผังมโนทศั น์ หนว่ ย แผนที่ 1 What do you do in your free time? reหsนe่วnยF,tกreา จานวน 3 ช่ัวโมง จานวน แผนที่ 3 Are you going to play football? จานวน 3 ชว่ั โมง ภาษาไทย การเรียนร 1.สรปุ ใจควำมสำคญั ของเร่ืองทอี่ ่ำน 2.กำรเขียนประโยค สุข 1กำรใช้เวลำว่ำง 2.กำรออกกำลงั ก
ยการเรียนรทู้ ี่ 11 Free time ารเรียนรู้ที่ 11 แผนท่ี 2 The Smile Resort จานวน 3 ชั่วโมง eSeimtimpele Tense แผนท่ี 4 น 14 ช่วั โมง จานวน 5 ชัว่ โมง รูแ้ บบบรู ณาการ ศิลปะ : ทศั นศลิ ป์ วำดภำพและระบำยสี ขศึกษา พละศกึ ษา งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ กำย
แผนบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวท่ดี ี 1. ออกแบบกำรจดั กิจกรรม ตรงตำม 1. ออกแบบกำรเรยี นรสู้ ่งเสรมิ กระบวนกำรคิด 1. ศึกษำแนวทำงกำรจัดกำรเรียนรู้ล่วงหนำ้ ตวั ชี้วดั 2. ใช้เทคนิคกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่หี ลำกหลำย 2. จัดเตรยี มกำรวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลือกสื่อ แหล่งเรยี นรเู้ หมำะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมินผลตรงตำมเนอื้ หำ เงือ่ นไขความรู้ เง่ือนไขคุณธรรม 1. รู้จกั เทคนคิ กำรสอนทีส่ ง่ เสรมิ กระบวนกำรคดิ และนักเรยี น 1. มคี วำมขยัน เสยี สละ และม่งุ มน่ั ในกำรจัดหำสื่อมำพัฒนำนักเรยี น สำมำรถเรยี นร้ไู ดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข ให้บรรลตุ ำมจดุ ประสงค์ 2. มคี วำมอดทนเพื่อพัฒนำนักเรียนโดยใช้เทคนิคกำรสอนท่ี หลำกหลำย นักเรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภมู คิ ุ้มกันในตวั ทดี่ ี 1. กำรใชเ้ วลำในกำรทำกจิ กรรม/ภำระงำน 1. ฝึกกระบวนกำรทำงำนเปน็ กลมุ่ 1. วำงแผนกำรศกึ ษำใบงำน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ทันเวลำ 2. ฝกึ กระบวนกำรสงั เกต อธบิ ำย ทกั ษะกำร 2. นำควำมรู้เร่ือง ลกั ษณะของสง่ิ ของตำ่ งๆ 2. เลอื กสมำชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั เนื้อหำท่ี สบื ค้นหำควำมรู้ ขอ้ มูลตำ่ งๆ ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ได้ เรียนและศักยภำพของตน เง่อื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. มีควำมรู้เร่อื ง ลักษณะของอำชพี ต่ำงๆ ตลอดจนสำมำรถสร้ำงจดั ทำ 1. มคี วำมรับผดิ ชอบ และปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลงของกล่มุ ชิน้ งำน ผลงำนและใบงำนไดต้ ำมวัตถปุ ระสงค์ 2. มีสติ มสี มำธชิ ่วยเหลือกันในกำรทำงำนร่วมกนั ส่งผลตอ่ การพฒั นา 4 มิตใิ ห้ย่งั ยืนยอมรับต่อการเปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มีควำมรู้ควำมเข้ำใจสถำนกำรณต์ ำ่ งๆใน มีควำมรู้และเขำ้ ใจ มคี วำมรู้และเขำ้ ใจ มีควำมร้แู ละเขำ้ ใจกำร กำรดำเนนิ ชีวติ กระบวนกำรทำงำน เกี่ยวกับ ลกั ษณะ ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั กล่มุ สง่ิ ของตำ่ งๆ ทักษะ (P) สำมำรถสรำ้ งชน้ิ งำน ผลงำน ใบงำน ทำงำนได้สำเร็จตำม ใช้แหล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลอื แบง่ ปันซึ่ง แบบทดสอบเร่ือสถำนกำรณต์ ่ำงๆในกำร เปำ้ หมำย ดว้ ย ทำลำยส่ิงแวดล้อม กัน และกัน ดำเนินชีวติ ได้ตรงตำมวัตถุประสงค์ กระบวนกำรกลุม่ ค่านยิ ม (A) เห็นประโยชนข์ องเรียนรู้ เกย่ี วกบั เห็นคุณคำ่ และ เห็นคณุ คำ่ ของกำรใช้ ปลกู ฝงั นสิ ยั กำร ลักษณะของสถำนกำรณ์ต่ำงๆในกำร ภำคภูมิใจในกำร แหล่งเรยี นรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งปนั ดำเนนิ ชีวิตต่ำงๆ ทำงำนร่วมกันได้ ทำลำยส่ิงแวดลอ้ ม สำเรจ็
โครงสรา้ งหน่วยการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 11 เวลา 14 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาองั กฤษ เรอื่ ง Free time แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน เวลาเรียน (ชว่ั โมง) 1. What do you do in your 1. กำรเขียนแผน่ ประกำศเพื่อชกั ชวนใหน้ ักเรียนคนอ่ืน free time? ๆ มำเข้ำร่วมชมรม 3 2. The Smile Resort 1. เขียน e-mail เพื่อเชิญชวนเพอื่ นๆ มำรว่ มงำนวนั เกิด 3 ของตน 3. Are you going to play 1. กำรเขียน e-mail เพือ่ เล่ำให้เพอ่ื นฟังว่ำ นักเรยี น 3 football? กำลงั จะทำกจิ กรรมอะไรในฤดูร้อนนี้ 5 4. going to….. 1. กำรจดั ทำแผน่ ปำ้ ย (Poster) ของชมรม 14 รวมเวลำเรยี น
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง Free time เวลา 14 ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ต 1.1 : เขา้ ใจและตีความเร่อื งที่ฟงั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล ตวั ช้วี ัด 2.อ่ำนออกเสยี งประโยค ข้อควำม และบทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตำมหลักกำรอ่ำน ตวั ชี้วดั 3.ระบุ / วำดภำพ สัญลักษณ์หรอื เครอื่ งหมำยตรงตำมควำมหมำยของประโยคและ ขอ้ ควำมส้ันๆ ทฟี่ ังหรืออ่ำน ตัวชี้วัด 4. บอกใจควำมสำคัญ และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอำ่ นบทสนทนำ และนิทำน งำ่ ยๆ หรือเรือ่ งสั้นๆ มาตรฐาน ต 1.2 : มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและ ความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ดั 4. พูด / เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรอ่ื งใกล้ตัว ตวั ชว้ี ดั 5. พูด / เขียน แสดงควำมรู้สกึ ของตนเองเก่ียวกับเรื่องต่ำงๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่ำงๆ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 : นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งต่างๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ชวี้ ัด 1. พดู / เขยี นให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกล้ตวั มาตรฐาน ต 2.1 : เข้าใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชี้วดั 3. เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรมตำมควำมสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 : เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ชว้ี ดั 1. บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหว่ำงกำรออกเสียงประโยคชนิดต่ำงๆ กำรใช้ เครือ่ งหมำยวรรคตอนและกำรลำดบั คำ (order) ตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำ ตำ่ งประเทศและภำษำไทย มาตรฐาน ต 4.1 : ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ตวั ชีว้ ัด 1. ฟงั / พูด และอ่ำนออกเสยี งในสถำนกำรณ์ที่เกดิ ขึ้นในห้องเรียนและสถำนศึกษำ มาตรฐาน ต 4.2 : ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมอื พ้นื ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพและ การแลกเปลยี่ นเรียนร้กู ับสงั คมโลก ตัวชวี้ ัด 1. ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น และรวบรวมข้อมูลต่ำงๆ
2. สาระสาคญั กำรเรยี นรู้คำศัพทเ์ ก่ยี วกับสง่ิ ของตำ่ งๆ ท่สี ำมำรถนำกลบั มำใช้ไดใ้ หม่ อุปกรณ์เคร่ืองใช้ในบ้ำน คำคุณศพั ท์ และคำกรยิ ำ บทสนทนำเกยี่ วกับกำรอนรุ ักษโ์ ลก ประโยคคำสัง่ (Imperative Sentence) กำรใช้ ประโยค be + going to + V.1 เพือ่ บอกเหตุกำรณใ์ นอนำคต กำรออกเสยี งคำทีข่ นึ้ ต้นด้วยอักษร p กำรอ่ำน จบั ใจควำม และกำรเขยี นเรียงควำม ซง่ึ เป็นกำรเรยี นรู้ภำษำอังกฤษเพอื่ นำไปใชส้ ่อื สำรในชีวติ ประจำวนั 3. สาระการเรียนรู้ 1) ความรู้ (Knowledge : K) 1) คำศัพทห์ มวดหมู่เกี่ยวกับกิจกรรมสนั ทนำกำรในเวลำว่ำง 2) บทสนทนำที่ถำมถงึ กจิ กรรมทท่ี ำในเวลำว่ำง e.g. A: What do you like doing in your free time? B: I like cooking. 3) บทสนทนำชกั ชวน e.g. Lucy: Let’s have a party. Mary: That’s a good idea. 4) Grammar: - be + going to + V.1 e.g. They are going to have a party tomorrow. I am going to recycle bottles. - Persuasion (กำรชกั ชวน) Let’s + V.1 (Let’s = Let us) e.g. Let’s join English club. We are going to save the planet. 5) Pronunciation: initial sound [s] [z] 6) กำรอ่ำนจบั ใจควำม 7) กำรเขียนเรยี งควำม 8) มำรยำททำงสงั คม และวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ 9) กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำรเลน่ เกม กำรร้องเพลง 10) กำรใช้ภำษำในกำรฟัง/พูด ในสถำนกำรณ์ง่ำยๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียน 11) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ที่เก่ียวข้องใกล้ตัว จำกส่ือและแหล่ง กำรเรียนรู้ต่ำง ๆเรยี นรู้ตำ่ ง ๆ 2) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) 1) ทกั ษะกำรฟัง (Listening skill) - คำศัพท์ ประโยค 2) ทักษะกำรพดู (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทักษะกำรอำ่ น (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทักษะกำรเขยี น (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนกำรกลมุ่
-จบั คสู่ นทนำ -ระดมสมอง -ฝึกกจิ กรรมกลุ่มตำมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กล้ำแสดงออก 2) ม่ันใจในกำรพดู ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสื่อสำร 3) มีควำมสุข สนุกสนำนกับกำรเรยี นภำษำองั กฤษกำรเรยี นรู้ต่ำง ๆ เรยี นรู้ต่ำง ๆ 2) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) 1) ทักษะกำรฟัง (Listening skill) - เข้ำใจในส่งิ ทไี่ ดย้ ิน หรือสนทนำ 2) ทกั ษะกำรพดู (Speaking skill) - จบั ใจควำม ออกเสยี งเนอื้ หำไดถ้ ูกตอ้ ง สำมำรถถำ่ ยทอดขอ้ มูลเน้ือหำได้ 3) ทักษะกำรอ่ำน (Reading skill) - เขำ้ ใจตวั อกั ษร คำ และภำพท่ีเห็นในหนงั สอื เรยี น และแบบฝึกหัดและอ่ำนออก เสยี งได้ 4) ทักษะกำรเขยี น (Writing skill) - สำมำรถเขียนตวั อักษร คำศพั ท์ และประโยคงำ่ ยๆ ได้ 5) กระบวนกำรกล่มุ - จับคู่สนทนำ - ระดมสมอง - ฝึกกจิ กรรมกลุ่มตำมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กล้ำแสดงออก 2) มนั่ ใจในกำรพดู ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสื่อสำร 3) มีควำมสขุ สนกุ สนำนกับกำรเรียนภำษำองั กฤษ 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ ีวติ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซื่อสตั ย์สจุ รติ 2. มวี นิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 5. มีจติ สำธำรณะ
6. ชิ้นงาน 1. กำรเขยี นแผน่ ประกำศเพื่อชกั ชวนให้นกั เรยี นคนอ่ืนๆ มำเข้ำรว่ มชมรม 2. กำรเขียน e-mail เพือ่ เชญิ ชวนเพื่อนๆ มำร่วมงำนวนั เกิดของตน 3. กำรเขยี น e-mail เพอ่ื เล่ำใหเ้ พื่อนฟังวำ่ นกั เรยี นกำลงั จะทำกิจกรรมอะไรในฤดรู อ้ นน้ี 4. กำรจดั ทำแผน่ ป้ำย (Poster) ของชมรม 5. กำรรวบรวมคำศัพทใ์ น Your word book 7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น/หลัง เรยี น แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงำน ใบงำน รอ้ ยละ 60 ช้ินงำน แบบประเมนิ ชิ้นงำน ระดับคุณภำพ 2 สงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบประเมนิ ทักษะทำงภำษำ รำยบคุ คลกำร ระดับคุณภำพ 2 สังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 สงั เกตควำมมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่ัน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภำพ 2 ระดับคณุ ภาพ ระดบั แปลผล คะแนน รอ้ ยละ ระดับ 4 ดเี ยย่ี ม 9 - 10 80 - 100 ระดับ 3 ดี 7 - 8 70 – 79 ระดบั 2 พอใช้ 5 - 6 60 - 69 ระดบั 1 ปรบั ปรุง 1-4 0 - 59 เกณฑ์กำรตดั สิน นกั เรียนได้คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ถือว่ำผำ่ นเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 What do you do in your free time? (ชัว่ โมงท่ี 1-3) 1.ทดสอบก่อนเรียน 2.ครูทบทวนคำศพั ท์ และสง่ิ ท่ีนกั เรยี นได้เรยี นไปใน Unit 5 3.นักเรียนฟังบทควำมซึ่งเป็นกิจกรรมในเวลำวำ่ งของเด็ก 5 คน ได้แก่ Mike, Jane, Jack, Paul และ Cathy แล้วลำกเส้นเพ่ือจับคู่ช่ือเด็ก ๆ ทั้ง 5 กับภำพกิจกรรมต่ำง ๆ ใน หนังสือเรียน หน้า 75 ข้อ 2 Listen and draw lines to match the names with the pictures. 4.นกั เรยี นจบั คู่กนั (Pair work ) เพือ่ ฝึกบทสนทนำชักชวนคู่สนทนำให้เข้ำรว่ มชมรมกับตน 5.กำรเขียนแผ่นประกำศเพ่ือชกั ชวนให้นกั เรยี นคนอ่นื ๆ มำเข้ำรว่ มชมรม กจิ กรรมที่ 2 The Smile Resort (ช่วั โมงที่ 4-6) 1.นักเรียนฝกึ แต่งประโยคบอกกิจกรรมทช่ี อบทำในเวลำว่ำงจำกรูปภำพท้ัง 6 ใน แบบฝกึ หดั หน้า 55 ข้อ 2 What does he/she like doing in his/her free time? Look and say. ก่อนอื่นครูให้นักเรียนดูว่ำ
ใครทำกจิ กรรมอะไร แลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคลงในสมดุ ของตนเอง ซึง่ นักเรียนอำจปรึกษำกับเพื่อน ครูคอย เดนิ สงั เกตกำรณ์และชว่ ยเหลือนกั เรียน 2.นักเรียนอ่ำนประกำศเก่ียวกับ Smile youth club ใน หนังสือเรียน หน้า 77 ข้อ 5 Read the notice and answer the questions. แต่กอ่ นอ่ืนครใู หน้ ักเรียนอ่ำนคำถำมท้ัง 5 ข้อ แล้วชว่ ยกันแปล เพื่อ จะได้ร้จู ุดมุ่งหมำยในกำรอ่ำน 3.นักเรียนทบทวนกำรออกเสียง [s], [z] ท้ำยคำ (final sound) ครูบอกนักเรียนว่ำ ในประโยค Present Simple Tense นั้น ถ้ำประธำนของประโยคเป็นเอกพจน์ กริยำจะเติม s เช่น คำกริยำท่ีนักเรียนจะ ได้ฟังจำก Track 77 ครูให้นักเรียนดูคำศัพท์ท่ีจะฟังและออกเสียงตำมใน แบบฝึกหัด หน้า 57 English sounds 4.เขยี น e-mail เพื่อเชญิ ชวนเพือ่ นๆ มำรว่ มงำนวนั เกดิ ของตน กจิ กรรมที่ 3 Are you going to play football? (ชั่วโมงที่ 7-9) 1. ครูทบทวนคำศัพท์และเนื้อหำวชิ ำท่ีเรียนในบทเรียนทีผ่ ่ำนมำ 2. ครบู อกจดุ ม่งุ หมำยในกำรเรยี นว่ำในบทนี้ นกั เรียนจะเรยี นรู้กำรใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อกำร บอกเหตกุ ำรณ์ในอนำคต verb to be + going to + v.1 กำรอ่ำนจับใจควำม และกำรเขยี น 3.ครสู อน Grammar be + going to + v.1 โดยครบู อกนักเรยี นวำ่ กำรทเ่ี รำจะแต่งประโยคเพ่ือบอก อนำคตอนั สัน้ เรำสำมำรถใชโ้ ครงสร้ำงประโยค กิจกรรมที่ 4 going to….. (ชั่วโมงที่ 10-14) 1.ใหน้ ักเรยี นช่วยกันคดิ และตอบครูว่ำ Present Simple Tense ใช้กบั เหตุกำรณ์ทเ่ี กดิ ข้ึนจริงใน ปัจจุบัน แตใ่ ชก้ บั เหตกุ ำรณ์ที่กำลังจะเกิดขนึ้ ในอนำคต 2.นักเรยี นฝกึ บทสนทนำกบั เพอ่ื นร่วมช้นั ด้วยคำกรยิ ำท่ีกำหนดไวใ้ น หนังสอื เรียน หนา้ 80 ขอ้ 5 Ask and answer with your partner. Use the words in the box. โดยให้ทำกจิ กรรม 3.นักเรียนฝึกเขียน e-mail เชิญเพ่ือนมำงำนวันเกิดของตนใน หนังสือเรียน หน้า 81 ข้อ 8 Write an e-mail to invite a friend to your birthday party. Use Harry’s e-mail as a model. โ ด ย ดูรูปแบบ e-mail ของ Harry ในขอ้ 7 ให้นักเรียนเขยี นลงในกระดำษ เสรจ็ แลว้ ให้หัวหนำ้ หอ้ งรวบรวมงำนแลว้ มำสง่ ครู 4.กำรเขียน e-mail เพื่อเล่ำใหเ้ พื่อนฟังวำ่ นกั เรยี นกำลงั จะทำกิจกรรมอะไรในฤดรู อ้ นนี้ 9.แหลง่ เรียนรู้ / ส่ือ 1. หนังสือเรยี น Smile ป.5 2. แบบฝกึ หดั Smile ป.5 3. Audio CD Smile ป.5 4. บัตรภำพ บตั รคำ แถบประโยค 5. เกมวงกลมมหำภัย (Dangerous circle game)
แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หน่วยการเรียนรู้ท่ี 11 เรื่อง Free time กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 Choose the correct answer. 1. They are painting………..now. a. swimming b. pictures c. rides d. stamps 2. It is very hot so she goes…………….. a. swimming b. pictures c. rides d. stamps 3. He collects …………… in his free time. c. rides d. stamps a. milk and bread b. hamburgers 4. He ……………a bike in his free time. a. travels b. drinks c. rides d. runs 5. Som and Sri like playing……….. a. travels b. drinks c. rides d. games 6. The……………..are running. a. horses b. bike c. band d. back 7. Susan bought some beautiful clothes. She’s going to put on a ……….. . a. bath b. decorate c. show d. barbecue 8. I’m going to …………….. my room with balloons. a. cook b. photo c. decorate d. show 9. Let’s ………… the Sport Club. a. borrow b. drink c. book d. join 10. What do you like doing in your free time? a. It closes on Saturdays and Sundays. b. That sounds great. c. I like dancing. d. We can sing, dance and have a barbecue party.
เฉลย แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 12 เร่อื ง Free time กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 Choose the correct answer. 1. They are painting………..now. a. swimming b. pictures c. rides d. stamps 2. It is very hot so she goes…………….. a. swimming b. pictures c. rides d. stamps 3. He collects …………… in his free time. c. rides d. stamps a. milk and bread b. hamburgers 4. He ……………a bike in his free time. a. travels b. drinks c. rides d. runs 5. Som and Sri like playing……….. a. travels b. drinks c. rides d. games 6. The……………..are running. a. horses b. bike c. band d. back 7. Susan bought some beautiful clothes. She’s going to put on a ……….. . a. bath b. decorate c. show d. barbecue 8. I’m going to …………….. my room with balloons. a. cook b. photo c. decorate d. show 9. Let’s ………… the Sport Club. a. borrow b. drink c. book d. join 10. What do you like doing in your free time? a. It closes on Saturdays and Sundays. b. That sounds great. c. I like dancing. d. We can sing, dance and have a barbecue party.
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 11 Free time เรอ่ื ง What do you do in your free time? 1.สาระสาคัญ กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมสันทนำกำรในเวลำว่ำง บทสนทนำถำม-ตอบ เก่ียวกับกิจกรรมใน เวลำว่ำง กำรใช้ประโยคชักชวน (Persuasion) และกำรตอบรับ/ปฏิเสธ กำรออกเสียงคำท่ีลงท้ำยด้วย s กำรอ่ำนจับใจควำมและกำรเขียนเรียงควำม ซึ่งเป็นกำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษเพื่อนำไปใช้สื่อสำรใน ชีวติ ประจำวนั 2.มาตรฐาน / ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความ คิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล ตัวชว้ี ดั 2 อำ่ นออกเสียงประโยค ข้อควำม และบทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตำมหลักกำรอำ่ น ตวั ชว้ี ดั 3 ระบ/ุ วำดภำพ สญั ลักษณ์ หรอื เคร่ืองหมำยตรงตำมควำมหมำยของประโยคและ ขอ้ ควำมส้ันๆท่ีฟงั หรอื อำ่ น ตวั ช้ีวดั 4 บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำนบทสนทนำและนิทำน งำ่ ยๆ หรือ เรอ่ื งส้นั ๆ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.อำ่ นออกเสยี งประโยค ข้อควำม และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องและบอกใจควำมสำคัญ และตอบคำถำม จำกกำรฟงั และอำ่ นบทสนทนำและนทิ ำนง่ำยๆ หรือ เรื่องส้ันๆได้ 2.บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำมจำกกำรฟังและอำ่ นบทสนทนำและนิทำนงำ่ ยๆ หรือ เร่อื งสั้นๆ ได้ 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) บทสนทนำชกั ชวน e.g. Lucy: Let’s have a party. Mary: That’s a good idea ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟงั กำรพูด กำรอ่ำน กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรับผิดชอบ ขยัน ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน 2. มคี วำมเชื่อมั่นในตนเอง กล้ำแสดงออก 3. มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรยี นภำษำองั กฤษ
5.สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 6.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน 7.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 What do you do in your free time? ข้นั นา (Warm up) นักเรียนดูภำพกจิ กรรมทง้ั 5 ใน แบบฝกึ หดั หนา้ 55 ข้อ 1 Look, unscramble and write. แล้ว ช่วยกันบอกครูวำ่ แต่ละภำพสอื่ ควำมหมำยอะไรบ้ำง - นกั เรียนจับคกู่ บั เพอ่ื นข้ำงเคียง (pair work) เพื่อเขียนคำศัพทล์ งในช่องว่ำงด้วยตวั อักษร ท่ีกำหนดให้ ซ่ึงตัวอักษรเหล่ำน้ีไม่ได้เรียงกันเป็นคำที่สมบูรณ์ เสร็จแล้วครูสุ่มนักเรียน 5 คู่ ให้ ยืนขึน้ อำ่ น คนละ 1 ขอ้ 1. go swimming 4. play in a band 2. collect stamps 5. ride a bike 3. paint a picture - ครูให้หัวหนำ้ หอ้ งออกมำเขียนคำศัพท์ท่ีถกู ต้องบนกระดำน นักเรียนต่ำงตรวจงำนของตนและ แก้ไขให้ถูกต้อง ขน้ั นาเสนอ (Presentation) นักเรียนฝึกแต่งประโยคบอกกิจกรรมท่ีชอบทำในเวลำว่ำงจำกรูปภำพท้ัง 6 ใน แบบฝึกหัด หน้า 55 ข้อ 2 What does he/she like doing in his/her free time? Look and say. ก่อนอ่ืนครูให้นักเรียน ดูวำ่ ใครทำกิจกรรมอะไร แล้วใหน้ กั เรยี นแตง่ ประโยคลงในสมุดของตนเอง ซง่ึ นักเรยี นอำจปรึกษำกับเพื่อน ครู คอยเดนิ สงั เกตกำรณแ์ ละช่วยเหลือนกั เรียน - ครเู รยี กนักเรียนใหย้ ืนข้นึ อ่ำนคนละ 1 ประโยค แล้วออกมำเขยี นบนกระดำน นกั เรียนท่ีเหลอื ตำ่ ง ตรวจงำนของตนและแก้ไขให้ถูกต้อง 1. Pat likes collecting stamps in her free time. 2. Tony likes riding a bike in his free time. 3. Kate likes reading in her free time. 4. David likes painting a picture in his free time.
5. May likes taking photos in her free time. - ครใู ห้นักเรียนระวงั กำรใช้ Present Simple Tense และ his/her (possessive adjective) ขน้ั ฝกึ (Practice) นักเรียนอ่ำนประโยค 1-5 และประโยค a-f ใน แบบฝึกหัด หน้า 56 ข้อ 3 Read and match. แล้วจับคู่ประโยคให้สัมพันธ์กัน ให้นักเรียนจับกลุ่มกันทำงำน กลุ่มละ 3 คน เพื่อช่วยกันคิด เสร็จแล้วช่วยกัน เฉลยคำตอบ จำกน้นั ครูเรียกนกั เรยี น 6 คน ให้ยนื ข้นึ อำ่ นคนละ 1 ประโยค 1. b 2. a 3. e 4. f 5. c 6. d ข้นั นาไปใช้ (Production) นักเรียนอ่ำนออกเสียงคำที่กำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 56 ข้อ 4 Complete the dialogue. Then listen and check. พร้อมกัน แล้วเติมคำเหล่ำนี้ลงในบทสนทนำให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วครูสุ่มนักเรียน 2 คน ให้ยืนขึ้นอ่ำนบทสนทนำ แล้วเปิด Track 76 ให้นักเรียนฟังเพื่อตรวจคำตอบ ครูเขียนเฉลยบนกระดำน ใหน้ กั เรียนแก้ไขงำนของตน A: What do you like doing in your free time? B: I like playing football. How about you? A: I like playing the guitar. B: I like it too. A: Really? Then let’s join the music club. B: That’s a good idea! 1. do 2. doing 3. like 4. playing 5. too 6. let’s ข้นั สรปุ (Wrap up) ให้นักเรียนอ่ำนบทสนทนำพร้อมกัน แล้วช่วยกันแปล จำกน้ันให้นักเรียนแถวหน้ำ เดินไปจับคู่กับ นักเรียนแถวหลัง (pair work) เพื่อฝึกพูดบทสนทนำโดยใช้ข้อมูลจริงของนักเรียน ครูให้นักเรียนฝึกพูดกับเพ่ือน 2-3 คน จนคลอ่ ง แลว้ ส่มุ ตวั อย่ำง 3 คู่ ให้ออกมำสนทนำหนำ้ ช้ันเรยี น
ชั่วโมงที่ 2 Dangerous Circle ขัน้ นา (Warm up) . 1. นักเรียนทบทวนคำศัพท์ และโครงสร้ำงประโยคตำมที่ได้เรียนในช่ัวโมงที่ผ่ำนมำ แล้วครูชูภำพ กิจกรรมสันทนำกำรในเวลำว่ำงทลี ะภำพ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยค 2. ครูบอกนักเรียนว่ำ ในช่ัวโมงต่อไปน้ี นักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับกิจกรรมสันทนำกำร และฝึก ทักษะด้ำนกำรอ่ำนและกำรเขียน ขัน้ นาเสนอ (Presentation) ใหน้ ักเรียนเลน่ เกม Dangerous Circle (วงกลมมหำภัย) เพื่อฝกึ บทสนทนำ โดยมีวธิ ีเล่นเกม ดงั นี้ 1) ครูใช้ชอลก์ ลำกเสน้ เป็นวงกลมบนพืน้ ขนำดเสน้ ผ่ำนศูนยก์ ลำงใหเ้ หมำะสมกับจำนวน ผู้เล่น เรียกวงกลมน้ีวำ่ Dangerous Circle 2) นกั เรียนจับมอื กันเป็นวงกลม ล้อมรอบวงกลมดงั กลำ่ ว 3) ครเู ปดิ เพลง นักเรียนจับมือกัน แล้วเดินหมุนไปรอบ ๆ วงกลม 4) เมื่อครูปิด เพลง นกั เรยี นพยำยำมดึงคนอ่นื ๆ ใหเ้ ข้ำไปเหยยี บเสน้ หรือเข้ำไปภำยในวงกลม มหำภัยใหไ้ ด้ 5) ผูท้ ีเ่ ข้ำไปเหยียบเสน้ วงกลมต่ำงจับคู่กนั เพื่อฝึกสนทนำตำมรปู แบบในหนงั สอื เรยี น หนำ้ 76 ข้อ 4 เช่น Somsri: What do you like doing in your free time? Narong: I like playing the violin. Somsri: Let’s join the music club. Narong: That’s a good idea. เป็นต้น 6) ถำ้ ขนำดของวงกลมเล็ก ใหผ้ ูเ้ ลน่ เกมเขำ้ ไปอยู่ในวง และพยำยำมดงึ เพ่อื นใหเ้ หยยี บ เสน้ วงกลม 7) นักเรยี นคู่ทเ่ี หลือในวงกลมสุดทำ้ ย คอื ผูช้ นะ จะได้รบั รำงวัลจำกครู แตก่ ่อนรบั รำงวัล ต้องพดู สนทนำดงั กล่ำว ถ้ำไม่มีคู่ ครเู ป็นคูส่ นทนำ ขัน้ ฝึก (Practice) นักเรียนอ่ำนประกำศเก่ียวกับ Smile youth club ใน หนังสือเรียน หน้า 77 ข้อ 5 Read the notice and answer the questions. แต่ก่อนอื่นครใู หน้ ักเรยี นอ่ำนคำถำมทัง้ 5 ข้อ แลว้ ชว่ ยกันแปล เพื่อ จะได้ร้จู ดุ มงุ่ หมำยในกำรอ่ำน ขนั้ นาไปใช้ (Production) จำกน้ันครูใหเ้ วลำนกั เรียนอ่ำนประกำศ 10 นำที แล้วตอบคำถำม เสรจ็ แลว้ ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครู สมุ่ นกั เรยี น 5 คน ใหอ้ อกมำเขียนคำตอบบนกระดำน
1. It’s about the summer programme. 2. No, it isn’t. 3. No, I can’t. 4. I can play games of baseball, ping-pong and learn to play the guitar and paint pictures. 5. It’s on Saturday June 21st and July19th. ครูให้นกั เรยี นอ่ำนข้อควำมในประกำศทลี ะบรรทดั แล้วช่วยกนั แปล Background Information 1. The + เคร่ืองหมายดนตรี เชน่ She is playing the piano. They are playing the violins. แตไ่ มใ่ ช้กบั การเลน่ กีฬา เชน่ We are playing football. He is playing ping-pong. 2. PM. ยอ่ มาจาก Post meridiem ใช้กบั ชว่ งเวลาเท่ียงวนั ถงึ เท่ียงคนื ขนั้ สรุป (WArMap. ยuอ่ pม)าจาก Ante meridiem ใช้กบั ชว่ งเวลาเที่ยงคนื ถึงเที่ยงวนั นักเรียนเขียนประกำศด้วยตนเอง โดยใช้วลีที่กำหนดใน หนังสือเรียน หน้า 77 ข้อ 6 Complete the notice. Use ทthงั้ eamp.hแrลaะsepsmi.nใชt้กhบัeตbวั oเลxขto1-1h2elเpทา่ yนoนั้u.เชน่ ักบเรา่ ียน1สโำมมงำร=ถ1ดูตpmัวอ. ยไม่ำงใ่ กชำ่ ร1เ3ขpียmน.ได้จำก ประกำศในข้อ 5 เสร็จแล้วนำมำส่งครูตรวจ ครูคัดเลือกผลงำน 3 ช้ิน แล้วให้เจ้ำของผลงำนออกมำนำเสนอ หน้ำชนั้ เรยี น
ENGLISH CLUB SUMMER PROGRAMME Open Mondays to Saturdays: 1 pm. to 6 pm. Closed on Saturdays and Sundays Things we do Play board games, watch English films, listen to English songs sing English songs, practise dialogues, speaking contest, play scrabble barbecue party, singing contest Special activities Monday November 25th: speaking contest Tuesday NoveBmacbkergr2o6uthn:dscrIanbfbolremcoantitoenst ครูให้ความWรู้เพedมิ่ nเeตsมิdaแyกNน่ กัovเรeียmนbeดrงั 2น7ี t้ h: singing contest 1. ช่ือวนั มFีrsidขa้าyงNทo้าvยemแปbeลrว2า่ 9ทthกุ :ๆbaวrนbั ecue party เชน่ on Saturdays = every Saturday Sundays = every Sunday 2. board games ได้แก่ เกมท่ีเลน่ บนแผน่ กระดาน มีผ้เู ลน่ อยา่ งน้อย 2 คน ได้แก่ หมากรุก หมากฮอส หมากล้อม เป็นต้น 3. “dialogue” คือ “ conversation” 4. คาวา่ “barbecue” นนั้ ชาวตา่ งชาตมิ กั เขียนตวั ยอ่ ว่า “BBQ”
ช่วั โมงท่ี 3 The Smile Resort ขนั้ นา (Warm up) ให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 77 English sounds ครูเปิด Track 69 ให้นักเรียนฟัง และฝึก ออกเสียง /s/ และ /z/ ท้ำยคำกรยิ ำ walks lives puts joins takes plays - ถ้ำนกั เรียนออกเสียงไม่ถูกต้อง ครใู ห้นกั เรยี นดูปำกครู แลว้ พดู ตำม - ครใู ห้นักเรียนฝกึ พูดตำม CD อกี หลำยคร้ังจนคลอ่ ง แลว้ พูดพรอ้ ม ๆ กนั ครูสมุ่ นักเรยี นแถวหลัง 3 คน ให้ยนื ขึ้นอ่ำน 1 คน อ่ำนทั้ง 6 คำ - ครกู ล่ำวตกั เตือนนกั เรยี นบำงคนทท่ี ำนทอฟฟ่ีมำกจนฟันผุ ซึง่ อำจมีส่วนทำให้กำรออกเสียง /s/ และ /z/ ไดไ้ ม่ดีเท่ำท่คี วร ทง้ั ๆ ท่คี รูเคยสอนเรือ่ ง Healthy food ไปแลว้ ขน้ั นาเสนอ (Presentation) นักเรียนอ่ำนบทควำมเพ่ือประชำสัมพันธ์ให้ผู้คนมำเที่ยวที่ The Smile Resort ใน แบบฝึกหัด หน้า 57 ข้อ 5 Read and answer the questions. ครูให้นักเรียนอ่ำนคำถำมทั้ง 3 ข้อก่อน เพื่อจะได้รู้ จดุ มงุ่ หมำยในกำรอำ่ น ครอู นญุ ำตใหน้ ักเรียนปรึกษำกับเพื่อนได้ - ครูถำมคำถำมแล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบ ครูสมุ่ ตวั อย่ำงนักเรียน 3 คน ให้ออกมำเขยี นคำตอบ บนกระดำน ครตู รวจและแก้ไขอกี ครั้ง 1. It is for children 9-14 years old. 2. There are four activities. 3. I can find more information at the website: www.smileresort.com ขั้นฝกึ (Practice) นักเรียนอ่ำนจดหมำยจำก May Johnson ถึง Mr. Smith เพ่อื ถำมถึงขอ้ มูลในกำรเขำ้ ร่วมโปรแกรมกำร ทำกิจกรรมต่ำง ๆ ใน แบบฝึกหัด หน้า 57 ข้อ 6 May likes music. She wrote a letter to Mr. Smith to find more information about his music programme. Put the words in the correct order to complete the letter. ครูให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมคร่ำวๆ (Scan) แล้วบอกครูว่ำ May Johnson และ Mr. Smith เป็นใคร แล้วบอกครูว่ำ Mr. Smith เป็นผู้จัดกิจกรรม ส่วน May Johnson เป็นผู้สนใจเข้ำร่วม กจิ กรรม - ให้นักเรียนเรียงคำที่กำหนดให้เป็นประโยคคำถำมให้ถูกต้องทั้ง 4 ประโยค เพื่อให้ใจควำมใน จดหมำยสมบรู ณ์ แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ
ข้นั นาไปใช้ (Production) ครใู หน้ ักเรียน 4 คน ออกมำเขยี นประโยคท่ีเรยี งถูกตอ้ งแล้วบนกระดำน - When does the programme begin? - How much does it cost? - How many days the programme is? ขั้นสรปุ (Wrap up) - When does the programme end? นักเรียนทบทวนกำรออกเสียง [s], [z] ทำ้ ยคำ (final sound) ครบู อกนักเรยี นวำ่ ในประโยค Present Simple Tense น้ัน ถ้ำประธำนของประโยคเป็นเอกพจน์ กริยำจะเติม s เช่น คำกริยำท่ีนักเรียนจะได้ฟังจำก Track 77 ครูให้นกั เรยี นดคู ำศัพท์ท่จี ะฟงั และออกเสียงตำมใน แบบฝกึ หดั หน้า 57 English sounds talks gives gets says paints waters - ครเู ปด /Track 77 ให้นักเรยี นฟังและออกเสียง จนนกั เรยี นออกเสยี งได้คลอ่ ง จำกนั้นให้นกั เรยี น ออกเสียงโดยพร้อมเพรยี งกัน - 8. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์การผ่าน สงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสังเกตกำรพูดถำม-ตอบ ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดีขึ้นไป ตรวจใบงำน ตรวจใบงำน ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป 9. สื่อ / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Smile ป.5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป.5 3. Audio Smile ป.5 4. บัตรภำพ บตั รคำ แถบประโยค
Worksheet ท่ี 2.1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 11 เร่ือง Free time แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง The smile resort ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 Look at the pictures and write the sentences. 12 3 4 5 67 8 1. They like riding bike. 2. He likes ________________________________ 3. ________________________________________ 4. ________________________________________ 5. ________________________________________ 6. ________________________________________ 7. ________________________________________ 8. ________________________________________
เฉลย Worksheet ท่ี 2.1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 11 เรื่อง Free time แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง The smile resort ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 Look at the pictures and write the sentences. 12 3 4 5 67 8 1. They like riding bike. 2. He likes ________________________________ 3. ________________________________________ 4. ________________________________________ 5. ________________________________________ 6. ________________________________________ 7. ________________________________________ 8. ________________________________________
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 11 Free time เรอ่ื ง Are you going to play football? 1.สาระสาคัญ กำรเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับกิจกรรมสันทนำกำรในเวลำว่ำง บทสนทนำถำม-ตอบ เก่ียวกับกิจกรรมใน เวลำว่ำง กำรใช้ประโยค be + going to + V.1 เพื่อบอกเหตุกำรณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนำคต กำรออกเสียงคำที่ ขึ้นต้นด้วย w กำรอ่ำนจับใจควำม และกำรเขียนเรียงควำม เป็นกำรเรียนรู้ภำษำ เพื่อนำไปใช้สื่อสำรใน ชีวติ ประจำวนั 2.มาตรฐาน / ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 2.2 : เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ตวั ชี้วัด 1. บอกควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงกำรออกเสยี งประโยคชนดิ ตำ่ งๆ กำรใช้ เคร่ืองหมำยวรรคตอนและกำรลำดับคำ (order) ตำมโครงสรำ้ งประโยคของภำษำ ตำ่ งประเทศและภำษำไทย 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกควำมเหมอื น/ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงกำรออกเสียงประโยคชนิดตำ่ งๆ กำรใชเ้ คร่ืองหมำยวรรค ตอนและกำรลำดับคำ (order) ตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย 4.สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) Grammar: - be + going to + V.1 e.g. They are going to have a party tomorrow. I am going to recycle bottles. - Persuasion (กำรชกั ชวน) Let’s + V.1 (Let’s = Let us) e.g. Let’s join English club. We are going to save the planet. ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟงั กำรพูด กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1.มีควำมรับผิดชอบ ขยนั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น 2.มคี วำมเชือ่ มนั่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 3.มเี จตคติทีด่ ตี ่อกำรเรยี นภำษำอังกฤษ 5.สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
6.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ มั่นในกำรทำงำน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 Put on a show ข้ันนา (Warm up) 1. ครูทบทวนคำศัพท์และเน้ือหำวิชำที่เรยี นในบทเรยี นท่ผี ำ่ นมำ 2. ครูบอกจุดมุ่งหมำยในกำรเรียนว่ำในบทน้ี นักเรยี นจะเรยี นรกู้ ำรใชเ้ วลำวำ่ งให้เกดิ ประโยชน์ต่อกำร บอกเหตุกำรณใ์ นอนำคต verb to be + going to + v.1 กำรอ่ำนจบั ใจควำม และกำรเขยี น ข้นั นาเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภำพท้ัง 7 และกลุ่มคำใต้ภำพในหนังสือเรียน หน้า 78 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครเู ปิด Track 70 ใหน้ กั เรียนฟัง 1 รอบ และออกเสียงตำม โดยช้ไี ปทลี ะภำพใหต้ รงตำมเสยี ง ท่ไี ด้ ยินจำก Track 70 ด้วย put on a show take photos have a barbecue go shopping decorate a room blow up balloons invitation ขนั้ ฝกึ (Practice) ให้นักเรียนช่วยกันแปลควำมหมำยของกลุ่มคำโดยเดำจำกภำพ แล้วครูเปิด Track 70 อีก 2 รอบ ให้นักเรยี นออกเสียงตำมจนคล่อง จำกนัน้ ครใู ห้นักเรียนออกเสียงพร้อมกันโดยไม่ฟงั Track 70 ขั้นนาไปใช้ (Production) ครูช้ที ภ่ี ำพของเดก็ 5 คน ใน หนงั สือเรยี น หนา้ 78 ขอ้ 2 Listen and match the names with the pictures. ครถู ำมว่ำเด็กท้งั 5 คน คอื ใครบำ้ ง นกั เรยี นตอบวำ่ Mike, Jane, Jack, Paul, Cathy - ครูให้นักเรียนดูภำพกิจกรรมทั้ง 10 อย่ำง และถำมว่ำมีกิจกรรมอะไรบ้ำง นักเรียนช่วยกันโดย เรียงจำกข้อ a-h - ครูเปิด Track 71 ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ เพื่อจับคู่กิจกรรมกับบุคคลให้ถูกต้อง บุคคลหน่ึงอำจทำ กิจกรรมมำกกว่ำ 1 อย่ำงได้ จำกน้ันให้นักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ
Paul: Hello, Cathy. Are you going to the Smile Youth Club party on Saturday night? Cathy: Yes, I am. I’m going to put on a fashion show. I’m going to send out invitations to all my friends and family. Paul: That’s great! Are you going to have any music? Cathy: Yes, Jack is going to play the guitar. He plays with the school band. David: That’s good. Jack can play the guitar very well. And what about the food Cathy : Jane is going to have a barbecue. She’s going to go shopping with Mike. Paul: Who is going to decorate the room? Cathy: Mike is going to decorate the room with balloons. Paul: And who is going to blow up all the balloons? Cathy: Jack. Paul: Great! Cathy: What are you going to do, Paul? Paul: I’m going to take photos. I’m going to put them on the wall in the club. Mike b, d Jane b, c Jack f, g Paul a Cathy e, h ข้ันสรุป (Wrap up) ครูแจก script ให้นักเรียนดูและฟัง Track 71 ประกอบอีกครั้ง เมื่อนักเรียนฟัง Track 71 จบ จึง ชว่ ยกนั แปลตำม script
ช่ัวโมงที่ 2 Are you going to play football? ขน้ั นา (Warm up) ครสู อน Grammar be + going to + v.1 โดยครบู อกนักเรยี นวำ่ กำรทีเ่ รำจะแต่งประโยคเพื่อบอก อนำคตอนั ส้ัน เรำสำมำรถใช้โครงสรำ้ งประโยค ดังนี้ verb to “be” + going to + v.1 แปลว่ำ กำลังจะ.....(กรยิ ำ).... verb to “be” ได้แก่ “is, am, are” มรี ปู แบบกำรใช้แตกตำ่ งกันตำมประธำนของประโยค ดังนี้ I am go shopping. He is cook dinner. She is feed the dog. It is going to sing a song. We are study English. You are go to school. They are take a bath. ประโยคปฏิเสธ เรำสำมำรถเปล่ยี นประโยคบอกเลำ่ ใหเ้ ป็นประโยคปฏิเสธ โดยกำรเตมิ not หลงั Verb to “be” เชน่ บอกเลา่ She is going to take a bath. ปฏิเสธ She is not going to take a bath. บอกเลา่ I am going to travel to England. ปฏเิ สธ I am not going to travel to England. บอกเล่า They are going to pass the exam. ปฏิเสธ They are not going to pass the exam. รูปย่อ is not isn’t are not aren’t am not ไมม่ ีรูปยอ่ แต่ สามารถใช้ I’m not แทนได้ ประโยคคาถาม ประโยคบอกเล่ำสำมำรถเปลยี่ นเป็นประโยคคำถำมไดโ้ ดยกำรนำ Verb to “be” มำวำงไว้หนำ้ ประโยค เรียงส่วนที่เหลือเหมือนเดิม และเติมเครอ่ื งหมำยคำถำม Question Mark ทำ้ ยประโยค เชน่
บอกเลา่ He is going to see a movie. Is he going to see a movie? ตอบ Yes, he is. หรอื No, he isn’t. บอกเลา่ They are going to buy a car. คาถาม Are they going to buy a car? ตอบ Yes, they are. หรอื No, they aren’t. บอกเล่า I am going to pass the test. คาถาม Am I going to pass the test? ตอบ Yes, you are. หรอื No, you aren’t. ประโยคคาถาม Wh-Questions เรำใช้ Wh-Questions วำงไวบ้ นประโยคคำถำม เมอื่ ตอ้ งกำร คำตอบอืน่ ๆ ที่ไมใ่ ช่ Yes หรอื No ประโยคคาถาม Is she going to do? ถามถึงสิ่งของ What is she going to do? ตอบ She’s going to (กรยิ ำ). ถามถึงสถานท่ี Where is she going to do? ตอบ She’s going to go (สถำนท)่ี . ถามถึงเวลา When is she going to do? ตอบ She’s going to do at (เวลำ). ถามถงึ วธิ กี าร How is she going to do? ตอบ She’s going to do (วธิ กี ำร). ถามถึงเหตผุ ล Why is she going to do? ตอบ She’s going to do because (บอกเหตผุ ล). การออกเสียงประโยคคาถาม o ประโยคคำถำมที่ตอ้ งกำรคำตอบ เช่น Yes หรอื No เรำจะขึ้นเสยี งสูงท้ำยประโยค เช่น Are you going to play football? Is she going to go to the party? o ประโยค Wh-Question ใหล้ งเสียงต่ำทำ้ ยประโยค เชน่ Where is he going to sing? How are they going to go to London? ข้นั นาเสนอ (Presentation) นกั เรียนดภู ำพของ Anna, Ben, Mark, Harry และ May ใน หนังสอื เรียน หนา้ 79 Look and say what they are going to do tomorrow. ภำพเด็กท้ัง 5 นี้โยงเส้นไปยังภำพอุปกรณ์ต่ำง ๆ ซึ่งส่ือถึง กิจกรรมท่ีแต่ละคนทำ ครใู ห้นักเรยี นอ่ำนประโยคตัวอยำ่ งในหนงั สอื เรียนเพ่อื เปน็ แนวทำงในกำรพดู เชน่ Students: Anna is going to go shopping tomorrow. ขัน้ ฝกึ (Practice) ให้นักเรียนแตง่ ประโยคของเด็กคนอืน่ ๆ โดยเขยี นลงในสมุด ครเู น้นย้ำใหเ้ ตมิ “tomorrow” ซง่ึ แปลวำ่ “พรงุ่ นี้” ไวท้ ำ้ ยประโยค เช่น - Ben is going to take photos tomorrow.
- Mark is going to send out invitations to all my friends tomorrow. - Harry is going to have barbecue tomorrow. - May is going to decorate the room with balloons tomorrow. ขน้ั นาไปใช้ (Production) เมื่อนักเรียนแต่งประโยคเสร็จแลว้ นำมำสง่ ครู เม่ือครูตรวจแลว้ ให้นำกลบั ไปฝึกพูด จำกน้ันครูสุ่มเรียก นักเรยี น 4 คน ให้ยนื ขนึ้ พดู คนละ 1 ประโยค ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครูให้นักเรียนดูรูปภำพในหนังสือเรียน หน้ำ 79 ข้อ 3 อีกคร้ัง แล้วจับคู่กับเพ่ือนข้ำงเคียงฝึกสนทนำ ตำมรูปแบบประโยคสนทนำใน หนงั สือเรียน หน้า 79 ข้อ 4 Look at 3 again. Then ask and answer with your partner. - ครูแบ่งนกั เรียนในหอ้ งออกเปน็ 2 กลุม่ คอื ผู้ถำมและผู้ตอบ เพ่อื อ่ำนบทสนทนำทีละกลุ่ม พรอ้ มกนั - ครูทำฉลำกรำยชื่อนักเรียน ให้จับคนละ 1 ใบ เพื่อฝึกสนทนำกับเพ่ือนคนอ่ืนบ้ำง โดยดูรูปแบบ กำรสนทนำในหนงั สอื เรียน - ครูสุ่มตวั อยำ่ งนักเรียน 2 คู่ ใหอ้ อกมำพูดหน้ำชั้นเรียน ใหเ้ น้นกำรออกเสียงสูงหรือต่ำทำ้ ยคำถำม เช่น Suda: Is Ben going to have a barbecue tomorrow? Malee: No, he isn’t. Suda: What is he going to do? Malee: He’s going to take photos.
ช่วั โมงท่ี 3 What are they going to do? ขน้ั นา (Warm up) นักเรยี นหำคำศัพท์เกยี่ วกบั กิจกรรมในเวลำวำ่ งทซ่ี ่อนอยู่ในตำรำงปรศิ นำในแบบฝึกหัด หนา้ 58 ข้อ 1 Find seven words about free time activities. ซึ่งมีอยู่ 7 คำ ใครหำพบก่อนเป็นคนแรกคือผชู้ นะ เสรจ็ แล้วครเู ฉลยคำตอบให้นักเรียนฟงั barbecue decorate show shopping photo game ride ข้ันนาเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภำพ 5 ภำพ ในแบบฝึกหัด หน้า 58 ข้อ 2 Look and write. What are they going to do? ครใู ห้นักเรียนแต่งประโยคตำมภำพทง้ั หมดด้วยโครงสร้ำงประโยค verb to be + going to + v.1 นกั เรยี นสำมำรถปรึกษำกนั ได้ แลว้ ครสู ่มุ นกั เรียน 5 คน ใหอ้ ่ำนประโยคท่ีตนแตง่ แลว้ ออกมำเขียนบน กระดำน 1. He’s going to take photos. 2. She’s going to go shopping. 3. She’s going to decorate a room. 4. He’s going to have a barbecue. ข้ันฝึก (Practice) 5. He’s going to blow up balloons. นกั เรียนดภู ำพกิจกรรมต่ำง ๆ ใน แบบฝึกหดั หนา้ 59 ขอ้ 3 Look and answer. แลว้ ตอบคำถำม โดยข้อ 1 ได้ทำไว้ใหด้ ูเป็นตัวอย่ำงแล้ว ให้นักเรียนอ่ำนตวั อยำ่ งพรอ้ มกนั กอ่ นทำแบบฝกึ หดั ขน้ั นาไปใช้ (Production) เม่อื ทำเสรจ็ แล้วครูส่มุ นักเรยี น 4 คน ใหอ้ ำ่ นคำถำมและคำตอบ ขน้ั สรุป (Wrap up) สมุ่ นักเรียน 4 คน ให้ออกมำเขียนคำตอบบนกระดำน คนละ 1 ข้อ
2. Yes, he’s going to play the guitar. 3. No, he isn’t going to go shopping. 4. No, he isn’t going to plant a tree. 5. Yes, he’s going to paint a picture. 8. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์การผา่ น วธิ ีการ แบบสังเกตกำรพดู ถำม-ตอบ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี ึน้ ไป สังเกตกำรพดู ถำม-ตอบ ตรวจใบงำน ตรวจใบงำน ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินรอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป 9. ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป.5 2. แบบฝกึ หดั Smile ป.5
3. Audio Smile Wป.o5rksheet ท่ี 3.1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 11 เรอ่ื ง Free time 4. บัตแรผภนำพกาบรจัตดัรคกำารแเถรยีบนปรรทู้ะโี่ ย2คเร่ือง Are you going to play football? ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 Match the verbs with the nouns. 1. take a. shopping 2. have b. a room 3. go c. trees 4. decorate d. coins 5. put on e. picture 6. blow up f. balloon 7. plant g. newspaper 8. paint h. photos 9. read i. a show 10. collect j. a barbecue Read and draw. 2. She is going to take photos. 1. He is going to blow up balloons.
3. Audio Smเiฉleลยป.5Worksheet ที่ 3.1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 11 เรอื่ ง Free time 4. บตั แรผภนำพกาบรจัตดัรคกำารแเถรยีบนปรรทู้ะโ่ี ย2คเรอ่ื ง Are you going to play football? ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 Match the verbs with the nouns. 1. take a. shopping 2. have b. a room 3. go c. trees 4. decorate d. coins 5. put on e. picture 6. blow up f. balloon 7. plant g. newspaper 8. paint h. photos 9. read i. a show 10. collect j. a barbecue Read and draw. 2. She is going to take photos. 1. He is going to blow up balloons.
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 4 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 11 Free time เรอื่ ง going to………. 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมสันทนำกำรในเวลำว่ำง บทสนทนำถำม-ตอบ เก่ียวกับกิจกรรมใน เวลำว่ำง กำรใช้ประโยค be + going to + V.1 เพ่ือบอกเหตุกำรณ์ท่ีจะเกิดข้ึนในอนำคต กำรออกเสียงคำที่ ขึ้นต้นด้วย w กำรอ่ำนจับใจควำม และกำรเขียนเรียงควำม เป็นกำรเรียนรู้ภำษำ เพ่ือนำไปใช้ส่ือสำรใน ชีวติ ประจำวัน 2.มาตรฐาน / ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ต 4.1 : ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และ สังคม ตวั ชี้วดั 1. ฟงั / พูด และอ่ำนออกเสยี งในสถำนกำรณ์ที่เกิดขึน้ ในห้องเรียนและสถำนศึกษำ มาตรฐาน ต 4.2 : ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมือพนื้ ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบ อาชีพและการแลกเปล่ียนเรียนรู้กับสงั คมโลก ตัวช้ีวัด 1. ใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ต่ำงๆ 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ฟัง / พูด และอ่ำนออกเสยี งในสถำนกำรณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและสถำนศึกษำได้ 2. ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่ำงๆ 4.สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1) Pronunciation: initial sound [s] [z] 2) กำรอ่ำนจับใจควำม 3) กำรเขยี นเรียงควำม 4) มำรยำททำงสงั คม และวัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ 5) กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เชน่ กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง 6) กำรใช้ภำษำในกำรฟัง/พูด ในสถำนกำรณ์งำ่ ยๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ ในห้องเรยี น 7 ) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งใกลต้ วั จำกสื่อและแหล่ง ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟงั กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1.มีควำมรับผดิ ชอบ ขยนั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น 2.มีควำมเชือ่ ม่ันในตนเอง กล้ำแสดงออก 3.มเี จตคติท่ีดตี ่อกำรเรยี นภำษำองั กฤษ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ ีวติ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซอ่ื สัตย์สุจริต 2. มวี ินยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งมั่นในกำรทำงำน 5. มจี ิตสำธำรณะ 7.กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 going to….. ขั้นนา (Warm up) 1. นักเรยี นทบทวนคำศพั ทท์ ไ่ี ด้เรียนมำในสัปดำหก์ ่อน โดยชูบัตรภำพ เพ่อื ให้นกั เรียนออกเสียง คำศพั ท์ 2. ครบู อกจดุ มุง่ หมำยในกำรเรยี นรู้ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรูก้ ำรใช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชนต์ อ่ จำกชัว่ โมง ทแ่ี ลว้ โดยกำรพดู สนทนำ กำรอ่ำน และกำรเขียนข้ันนาเสนอ (Presentation) ขัน้ นาเสนอ (Presentation) ใหน้ ักเรียนทบทวนกำรใชป้ ระโยค Present Simple Tense อีกคร้งั โดยให้นักเรียนช่วยกันสรุป ดงั นี้ Present Simple Tense ใช้กบั เหตกุ ำรณ์ท่เี กิดข้นึ เป็นประจำ สมำ่ เสมอ หรอื เป็นนิสยั ถำ้ ประธำนเป็นเอกพจน์ กรยิ ำเติม s ถ้ำประธำนเปน็ พหูพจน์ กริยำไมเ่ ติม s (I ไม่เตมิ s) ในประโยค Present Simple Tense มักมีคำบอกควำมถ่ีในกำรกระทำ ได้แก่ always, often, usually, every day, sometimes - ครูใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบระหว่ำง Present Simple Tense และ Future Simple Tense verb to be + going to + v.1 will (shall) + v.1 โดยให้นักเรียนช่วยกนั คิดและตอบครวู ำ่ Present Simple Tense ใช้กบั เหตกุ ำรณ์ที่เกิดขนึ้ จรงิ ในปจั จบุ นั แตใ่ ช้กับเหตุกำรณท์ ี่กำลงั จะเกิดข้นึ ในอนำคต - ครถู ำมนักเรยี นต่อไปว่ำ แล้ว Verb to “be” going to + V.1 ซง่ึ แสดงถึงเหตุกำรณ์ทีก่ ำลงั จะ
เกิดขน้ึ ในอนำคตแตกตำ่ งจำกกำรใช้ will หรือ shall + V.1 อย่ำงไร ให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ จำกนัน้ ครจู ึงเฉลยวำ่ 1) will (shall) + v.1 บอกถึงควำมแนน่ อนของเหตุกำรณท์ ี่จะเกดิ ขน้ึ ในอนำคต เช่น I will be twelve years old next year. We will go to Pattaya in summer. 2) verb to be + going to + v.1 บอกเหตุกำรณ์ท่ีจะเกดิ ขึ้นในอนำคต แตไ่ ม่ แน่นอนเทำ่ will (shall) + V.1 เชน่ She’s going to go shopping tomorrow. They are going to see a movie. ขัน้ ฝึก (Practice) นักเรียนฝึกบทสนทนำกับเพื่อนร่วมชั้นด้วยคำกริยำท่ีกำหนดไว้ใน หนังสือเรียน หน้า 80 ข้อ 5 Ask and answer with your partner. Use the words in the box. โดยใหท้ ำกิจกรรม ดงั น้ี - ครใู ห้นักเรยี นอ่ำนกล่มุ คำที่กำหนดให้พร้อม ๆ กนั แลว้ แปลควำมหมำย - ครแู บง่ นกั เรยี นในชน้ั ออกเปน็ 2 กลุ่ม เพอ่ื อ่ำนบทสนทนำในหนังสือเรียน เช่น Boys: What do you do in your free time? Girls: I collect coins. Boys: What are you going to do this weekend? Girls: I’m going to paint pictures. ข้ันนาไปใช้ (Production) ครูให้นักเรียนพิจำรณำเปรียบเทียบคำถำมและคำตอบท่ี 1 กับคำถำมและคำตอบที่ 2 ว่ำแตกต่ำงกัน อย่ำงไร และใช้ Tense อะไร นักเรียนพิจำรณำและเปรียบเทียบ แล้วจึงบอกครูว่ำ คำถำม- คำตอบที่ 1 ใช้ Present Simple Tense บอกเหตุกำรณ์ท่ีเกิดขึ้นเป็นประจำบ่อย ๆ เสมอ ๆ ส่วนคำถำม- คำตอบท่ี 2 ใช้ verb to be + going to + v.1 แสดงถึงเหตกุ ำรณท์ ี่กำลงั จะเกิดข้นึ ในอนำคต ข้ันสรปุ (Wrap up) 1. นกั เรยี นฝึกพดู สนทนำด้วยกลุม่ คำท่ีกำหนดให้ และดรู ปู ประโยคสนทนำในหนงั สือเรียน 2. ครูสุ่มนักเรียน 3 คู่ ให้ออกมำพูดสนทนำหน้ำช้ันเรียน โดยครูให้นักเรียนระวังกำรใช้ Tense และ กำรออกเสยี งสงู หรือตำ่ ทำ้ ยประโยคคำถำม เช่น Punya: What do you do in your free time? Mall: I watch TV. Punya: What are you going to do this weekend? Mall: I’m going to go cycling. 2.นักเรียนอำจเปลยี่ นจำก “this weekend” เปน็ tomorrow, next week กไ็ ด้
ช่วั โมงที่ 2 Match the sentences. ขน้ั นา (Warm up) นักเรียนอ่ำนประโยคทั้ง 8 ข้อ ใน หนังสือเรียน หน้า 80 ข้อ 6 Read and circle the correct answer. แล้วเลือกคำกริยำที่ถูกต้อง ซ่ึงในแต่ละข้อจะมีตัวเลือก 2 ตัวเลือก จำกนั้นครูเรียกนักเรียนให้ยืนข้ึน พดู เฉลยคำตอบคนละ 1 ขอ้ 1. is going to paint 5. are going to play 2. is going to water 6. never join 3. is going to take 7. flies ขั้นนาเสนอ (Pres4e.nitsagtiooinng)to have นักเรียนอำ่ น e-mail แล้วตอบคำถำมใน หนังสอื เรียน หน้า 81 ข้อ 7 Read e-mail at the bottom first. Then answer the questions. โดยกอ่ นอน่ื ให้นักเรยี นอ่ำนคำถำมพร้อม ๆ กันและแปล เป็นภำษำไทย เพอ่ื จะไดร้ ้เู ป้ำหมำยในกำรอำ่ น e-mail ครูกำหนดเวลำให้นักเรียนอ่ำนและหำคำตอบ 10 นำที ขน้ั ฝกึ (Practice) นกั เรยี นอ่ำนคำถำมทีละข้อ แลว้ ตอบพรอ้ ม ๆ กัน ครเู ขยี นคำตอบส้นั ๆ บนกระดำน 1. Harry 2. Saturday, June 10 at 5 pm. 3. At Harry’s house 4. Paul 5. Pat ขั้นนาไปใช้ (Production) นักเรียนฝึกเขียน e-mail เชิญเพื่อนมำงำนวันเกิดของตนใน หนังสือเรียน หน้า 81 ข้อ 8 Write an e-mail to invite a friend to your birthday party. Use Harry’s e-mail as a model. โ ด ย ดู รูปแบบ e-mail ของ Harry ในข้อ 7 ให้นักเรียนเขียนลงในกระดำษ เสร็จแล้วให้หัวหน้ำห้องรวบรวมงำนแล้ว มำส่งครู
(ตวั อยา่ ง) Hi George, I’m going to have my birthday party and I want you to come. The party is on Sunday, November 24, at my apartment. I hope you can come. See you, Patchara ขัน้ สรปุ (Wrap up) ครสู อนนกั เรยี นออกเสยี ง [w] แลว้ ครูให้รวบรวมคำศัพท์ท้ังหมดที่ได้เรยี นมำ เขยี นลงใน Your word book พรอ้ มวำดภำพประกอบให้สวยงำม ชวั่ โมงท่ี 3 Look and compare ขนั้ นา (Warm up) นักเรียนจบั คู่คำกริยำทำงซ้ำยมือใหส้ ัมพันธ์กับคำศัพท์ทำงด้ำนขวำมอื ใน แบบฝึกหัด หนา้ 59 ขอ้ 4 Match the verbs with the nouns. โดยดคู ำศพั ท์ในหนังสือเรยี น แลว้ ลำกเสน้ จบั คู่ ครูแนะนำใหน้ กั เรียน ใชด้ นิ สอสลี ำกเสน้ เพ่อื กนั กำรสบั สน (เสน้ ละ 1 ส)ี - นกั เรยี นอ่ำนกลมุ่ คำท่ีจับคู่แล้วทลี ะข้อ พร้อม ๆ กัน เพื่อเฉลยคำตอบ แลว้ ครเู ขียนคำตอบบน กระดำน เพ่ือใหน้ ักเรยี นตรวจควำมถูกต้อง 1. j 2. h 3. a 4. i 5. b 6. d 7. e 8. f 9. c 10. g ขั้นนาเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภำพทั้ง 2 ภำพ และอ่ำนประโยคที่บรรยำยใต้ภำพ ใน แบบฝึกหัด หน้า 60 ข้อ 5 Look and compare. แล้วพิจำรณำว่ำข้อใดเป็นกิจวัตรที่เป็นนิสัย (habit) และข้อใดเป็นเหตุกำรณ์ที่จะเกิดขึ้นใน อนำคต จำกนน้ั เขยี นคำตอบลงในช่องว่ำง Picture 1 is about a routine. Picture 2 is about future plans.
ข้นั ฝึก (Practice) จำกนั้นอ่ำนประโยคทั้ง 6 ข้อ แล้วเลือกคำกริยำท่ีถูกต้อง ซึ่งแต่ละข้อมี 2 ตัวเลือก เสร็จแล้วครู เรียกช่ือนักเรียน 6 คน ให้ยืนข้ึนอ่ำนคนละ 1 ประโยค พร้อมเฉลยคำตอบ ครูเขียนคำตอบบนกระดำนเพ่ือให้ นักเรียนตรวจดว้ ยตนเอง 1. walks 4. is going to play 2. are going to play 5. waters 3. goes 6. comes ขน้ั นาไปใช้ (Production) นักเรียนเรียงคำที่กำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 60 ข้อ 6 Put the words in the correct order. ให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์และได้ใจควำม ครูให้นักเรียนปรึกษำกับเพื่อนร่วมช้ันได้ จำกน้ันครูเรียก นักเรียน 5 คน ให้ยืนขึ้นอ่ำนประโยค แล้วออกมำเขียนบนกระดำน นักเรียนท่ีเหลือช่วยกันตรวจควำมถูกต้อง เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนอ่ำนประโยคทีเ่ รียงถูกตอ้ งแลว้ พร้อม ๆ กนั 1. What does he like doing? 2. What is he going to do tomorrow? 3. Do you like collecting stamps? 4. Is he going to ride a bike? 5. What is he doing now? ขัน้ สรุป (Wrap up) 1. นักเรียนอำ่ นจดหมำยจำก Pamela ถงึ Carla และจำก Paul ถงึ Pamela ใน แบบฝึกหดั หนา้ 61 ข้อ 7 Read and complete. จำกนนั้ จงึ นำคำท่กี ำหนดให้ไปเตมิ ลงในช่องวำ่ งในจดหมำย ครูให้ อำสำสมคั ร 2 คน อำ่ นจดหมำยคนละฉบบั แล้วออกมำเขียนบนกระดำน 1. going 5. house 2. party 6. Thanks 3. Sunday 7. come 4. five 8. have
ครตู รวจทำนและแกไ้ ขอีกครงั้ เพ่อื ใหน้ ักเรียนแกไ้ ขงำนของตน 2. นักเรยี นตอบคำถำมเกย่ี วกบั ตนเองตำมควำมเปน็ จรงิ ใน แบบฝึกหัด หนา้ 61 ข้อ 8 Answer the questions about yourself. โดยนักเรียนทุกคนอ่ำนประโยคคำถำมท้ัง 4 ข้อ พร้อมกันก่อน และช่วยกัน แปล จำกน้ันจึงตอบคำถำม แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ Suggested Answer 1. I’m going to play the guitar this evening. 2. I’m going to go shopping tomorrow morning. 3. I’m going to swim in the river at the weekend. 4. My family is going to go to the sea at the weekend. ช่วั โมงที่ 4 I like painting. ขน้ั นา (Warm up) 1. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนคำศัพทแ์ ละเนือ้ หำทไี่ ด้เรียนในบทที่ผำ่ นมำ 2. ครูบอกจุดประสงค์ของนักเรยี นในชว่ ง Smile activities ว่ำ นกั เรยี นจะได้ทบทวนในส่ิงที่เรียนมำ ขนั้ นาเสนอ (Presentation) ให้นักเรียนนำประโยคต่ำง ๆ ในบทสนทนำที่วำงสลบั ที่กันใน หนังสือเรียน หน้า 82 ข้อ 1 Put the dialogue in the correct order. Then listen and check. มำเรียงเป็นบทสนทนำที่สมบูรณ์ จำกนั้น ฟงั Track 72 แลว้ ตรวจทำนคำตอบ ข้ันฝึก (Practice) 1. ครูเปิด Track 72 ให้นักเรียนฟัง 3 รอบ นักเรียนฟัง Track 72 แล้วเขียนหมำยเลขตำมลำดับ ประโยคทไี่ ดย้ นิ หนำ้ ประโยคของบทสนทนำ What are you doing? I’m painting a picture. Do you like art? Yes, I do. How about you? Well, I don’t like painting. I like taking photos. I’m going to take photos at our club tomorrow. I’m going to be at the club tomorrow too. I’ll see you there.
2. นกั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ แลว้ จบั ค่กู บั เพ่อื นฝึกพูดบทสนทนำ 135642 ข้ันนาไปใช้ (Production) นักเรียนนำคำต่ำง ๆ ท่ีไม่ได้เรียงเป็นประโยคมำเรียงใหม่ให้เป็นประโยคในบทสนทนำที่สมบูรณ์ใน หนงั สอื เรียน หน้า 82 ขอ้ 2 Put the words in the correct order. Then listen and check. ข้นั สรุป (Wrap up) - ครูแจกกระดำษ A4 ใหน้ กั เรยี นเขยี นเปน็ ประโยคท่ถี กู ตอ้ ง ครใู หน้ กั เรียนปรึกษำกบั เพ่ือนๆ ได้ - ครเู ปดิ Track 73 ให้นกั เรยี นฟัง 2 รอบ เพ่ือตรวจควำมถูกต้อง แล้วจับคกู่ ับเพ่ือนเพ่ือฝกึ พูดบท สนทนำ A: Let’s join the photography club. B: I don’t like taking photos. A: What do you like doing? B: I like painting. A: You should join the art club. 8. การวัดและประเมินผล B: That’s a good idea. เกณฑ์การผ่าน วิธีการ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินในระดับดีขนึ้ ไป เครื่องมอื ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินร้อยละ 60 ขนึ้ ไป สังเกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ ตรวจใบงำน ตรวจใบงำน 9. สอื่ / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Smile ป.5 2. แบบฝึกหดั Smile ป.5 3. Audio Smile ป.5
Worksheet ท่ี 4.1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 11 Free time แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง going to…………….ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 Put the words in the correct answers. 1. David/ is/ to/ going/ do/ shopping? 2. to/ going/ do/she/what/is/ tomorrow? 3. they/ are/ take/ going/ to/ photos? 4. going/ is/ to/ she/ balloons/ blow up? 5. does/ he/ what/ doing/ like? Match the sentences from two boxs and write new sentences using going to. …….. see my dentist 0. Ms.Sunee is hot. 1. I’m very thirsty. …….. buy her present 2.I’ve got a toothache. …….. have a hot bath 3. It’s our mom’s birthday. ……... have a glass of water. 4. I am cold. …0…. go swimming. 0. He is going to go swimming. 1. ……………………………………………………………………………………………………… 2. ……………………………………………………………………………………………………….. 3. ……………………………………………………………………………………………………….. 4. ……………………………………………………………………………………………………….. Excellent Good Fair
เฉลย Worksheet ท่ี 4.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 Free time แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง going to…………….ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 Put the words in the correct answers. 1. David/ is/ to/ going/ do/ shopping? 2. to/ going/ do/she/what/is/ tomorrow? 3. they/ are/ take/ going/ to/ photos? 4. going/ is/ to/ she/ balloons/ blow up? 5. does/ he/ what/ doing/ like? Match the sentences from two boxs and write new sentences using going to. …….. see my dentist 0. Ms.Sunee is hot. 1. I’m very thirsty. …….. buy her present 2.I’ve got a toothache. …….. have a hot bath 3. It’s our mom’s birthday. ……... have a glass of water. 4. I am cold. …0…. go swimming. 0. He is going to go swimming. 1. ……………………………………………………………………………………………………… 2. ……………………………………………………………………………………………………….. 3. ……………………………………………………………………………………………………….. 4. ……………………………………………………………………………………………………….. Excellent Good Fair
ภาคผนวก
แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา วชิ า ................................................................................................ ช้ัน ......................................................................... Lesson ......................................................................................... กจิ กรรม ................................................................. คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนน ลงในตาราง ใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง เลขที่ ช่ือ-นามสกลุ พูดสนทนาเ ่ีกยวกับการอ ุน ัรกษ์ รวม สรุปผลการ ่ิสงแวดล้อม การนา ่ิสงของกลับมา คะแนน ประเมิน ใช้และการประหยัดพลังงาน ออกเ ีสยง สะกด และบอก ผา่ น ไม่ผา่ น ความหมายคาศัพท์ ี่ทกาหนดได้ ัฟงและ ่อานจับใจความได้ ให้ประโยค Verb to be + going to +V.1 ได้ เ ีขยนเ ีรยงความ ่งาย ๆ เ ่ีกยวกับการ อ ุน ัรกษ์ ่ิสงแวดล้อมและการ ประหยัดพลังงาน ลงชื่อ ..................................................... ผ้ปู ระเมิน การประเมิน : นกั เรียนท่ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
แบบประเมนิ ชิ้นงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตการนาเสนอชิ้นงาน โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตาราง ใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง การนาเสนอผลงาน (ในภาพรวม) สรุปผลการ การเต ีรยมความพ ้รอม ่กอนนาเสนอ (ห ืรอ ความสามัค ีค ่รวม ืมอในการทางาน) ประเมิน ความ ูถกต้องของ ิ้ชนงาน ความเ ีรยบ ้รอยสวยงาม รวม การ ีมความ ิคด ิรเ ่ิรมส ้รางสรรค์ เลขท่ี ช่ือ-นามสกลุ คะแน ไม่ น ผา่ น ผา่ น ลงช่ือ ............................................................. ผู้ประเมิน
การประเมิน : นกั เรียนท่ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20) ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน ในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องวา่ ง ใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน และตามความเป็ นจริง โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี 4 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนมาก และบ่อยคร้ัง สม่าเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ 2 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง 1 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิบางคร้ัง คุณลกั ษณะอนั รายการประเมนิ ระดบั คะแนน พงึ ประสงค์ด้าน 4 32 1 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรัก และภูมิใจในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซ่ือสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผอู้ ่ืน 3. มวี นิ ัย 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมนั่ ในการ 6.1 มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรค เพื่อใหง้ านสาเร็จ 7. รักความเป็ นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั การใหเ้ พ่ือส่วนรวม และเพื่อผอู้ ่ืน 8.2 แสดงออกถึงการมีน้าใจหรือการใหค้ วามช่วยเหลือผูอ้ ่ืน 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพื่อส่วนรวมเมื่อมีโอกาส
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: