Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนภาษาอังกฤษป.6เรื่อง play safe

แผนภาษาอังกฤษป.6เรื่อง play safe

Published by Teacher.Orawan Pudmon, 2020-11-26 20:56:49

Description: แผนภาษาอังกฤษป.6เรื่อง play safe

Search

Read the Text Version

favourite sport” ซ่ึงนักเรียนสำมำรถใช้ข้อควำมและคำถำมในข้อ 5 ช่วยในกำรเขียน จำกน้ันให้แต่ละกลุ่มส่ง ตวั แทนออกมำอำ่ นใหเ้ พือ่ นฟังหน้ำช้นั เรยี น แล้วครนู ำผลงำนของนกั เรยี นไปติดบอรด์ ตวั อย่าง Our favourite sport is ice skating. We play on Saturday and Sunday at the Mall. We buy tickets and hire skate shoes. They are not expensive. There are a lot of young people there. We always skate at high speed round and round. Sometimes we fall down, but we help ourselves to begin again. We like ice skating because it is fun and exciting. ข้ันสรุป (Wrap up) 1. ครูออกเสียงคำศัพท์ใน แบบฝึกหัด หน้า 17 หัวข้อ English sounds กิจกรรม Listen and circle the words you hear. ให้นักเรียนออกเสยี งตำม แล้วครูเปิด CD/Track 24 ให้นักเรียนฟงั และวงรอบ คำศพั ทท์ ไ่ี ด้ยนิ จำกน้นั ครเู ปดิ CD อีกครั้ง เพ่ือเฉลยคำตอบ thigh tore thought thigh tore thought 2. ครูให้นักเรียนไปค้นหำควำมหมำยของคำศัพท์ท่จี ะเรยี นในบทเรียนถัดไปในหนังสือเรียน หน้ำ 22 กรอบ Word box ลว่ งหน้ำ พร้อมทงั้ เปดิ พจนำนุกรมเพื่อหำพยำงค์ทีอ่ อกเสียงเน้นหนักในคำเหลำ่ นี้ ชั่วโมงท่ี 2 If clause (2) 1. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนคำศัพท์กฬี ำด้วยบตั รคำ และใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกโครงสรำ้ งประโยคท่ีเรยี นใน Lesson 1 2. ครทู ดสอบคำศัพท์ที่เรียนใน Lesson 1 โดยใหน้ ักเรยี นเขียนคำศัพทต์ ำมทีค่ รบู อก 3. ครูให้นักเรยี นเล่นเกม “ทดสอบควำมจำ” โดยแบง่ นักเรยี นออกเป็น 2 กลมุ่ เทำ่ ๆ กัน แล้วอธบิ ำยกติกำ กำรเลน่ ให้นักเรียนฟงั ดังน้ี 1) ครูให้นกั เรียนแขง่ กนั ทีละกลุม่ โดยกล่มุ แรกเร่ิมเล่นกอ่ น ใหน้ กั เรียนยนื เรียงแถว จำกนั้นครจู บั เวลำ กำรเลน่ เกม 3 นำที - คนที่ 1 ของแถวพดู ชื่อกีฬำ - คนท่ี 2 พูดช่อื กีฬำของคนท่ี 1 กอ่ น แล้วจึงพูดชอ่ื กีฬำของตนเอง ซึง่ ต้องไมซ่ ำ้ กับคนที่ 1 - คนที่ 3 พูดชอ่ื กีฬำของคนท่ี 1 และ 2 แลว้ จงึ พูดชือ่ กีฬำของตนเอง ซง่ึ ต้องไมซ่ ้ำกับ

คนท่ี 1 และ 2 ทำอยำ่ งนี้ไปเรื่อย ๆ - คนท่จี ำช่ือกฬี ำไม่ไดใ้ ห้ไปตอ่ ทำ้ ยแถว แล้วให้คนถัดไปเรม่ิ เล่นเกมใหม่ 2) สมำชิกคนใดของกลุ่มจำชอื่ กีฬำไม่ได้ กลุ่มน้ันจะโดนหกั 2 คะแนน เมื่อหมดเวลำครูรวมคะแนนทีถ่ กู หกั จำกน้ันใหก้ ลุ่มที่ 2 ออกมำเลน่ เกมเหมือนกล่มุ แรก 3) กลุม่ ที่ถูกหกั คะแนนนอ้ ยกวำ่ จะเปน็ ผชู้ นะ และสำมำรถให้กลุม่ ท่แี พท้ ำตำมคำส่ังได้ ข้นั นาเสนอ (Presentation) 1. ครเู ตรยี มบัตรภำพตอ่ ไปนี้ เสือ้ ชูชพี (lifejacket) ถุงมือ (gloves) ท่ีคำดศอก (elbow pad) ที่คำดเข่ำ(knee pad) แว่นดำน้ำ (goggles) หมวกกันนอ็ ค (helme ครูชูบตั รภำพทีละใบ พร้อมกับออกเสยี งคำศพั ท์ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตำม แล้วครูชบู ตั รภำพสลับกัน ให้ นกั เรยี นออกเสยี งคำศัพท์ดว้ ยตัวเอง เม่ือนักเรยี นจำคำศัพท์ได้ แล้วครูนำบัตรภำพไปตดิ บนกระดำน แลว้ สุ่มเรียกนักเรยี นหรือหำอำสำสมัครมำเขียนคำศัพท์ใตบ้ ัตรภำพ 2. ครูเปดิ CD/Track 19 ให้นกั เรยี นฟังคำศัพทใ์ นหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 1 Listen, point and repeat. แลว้ ช้ีภาพ และฝึกออกเสียงตาม lifejacket gloves elbow pad knee pad goggles helmet twisted ankle hurt จำกน้ันครบู อกนักเรียนว่ำคำศัพท์เก่ียวกบั อปุ กรณต์ ่ำงๆ เปน็ คำนำม (noun) รวมถึงคำว่ำ twisted ankle ซงึ่ บอกอำกำรบำดเจบ็ โดยคำวำ่ twisted ทำหน้ำท่ีเปน็ คำคณุ ศพั ท์ (adjective) ขยำยคำนำม คำว่ำ ankle ตอ่ มำครูเขยี นประโยคต่อไปนี้บนกระดำน แลว้ ถำมนกั เรยี นวำ่ hurt เปน็ คำชนิดใด My knee is hurt. My knee hurts เมอ่ื ได้คำตอบว่ำ hurt เป็นได้ทงั้ คำคุณศัพท์ (adjective) และคำกริยำ (verb) ครูใหน้ ักเรียนช่วยกัน ระบุว่ำ hurt ในประโยคใดทำหนำ้ ท่ีเป็นคำคุณศัพท์ และประโยคใดทำหน้ำทีเ่ ป็นคำกริยำ เพรำะอะไร (hurt ตำมหลงั verb to be เปน็ คำคณุ ศพั ท์ ส่วน hurts เปน็ คำกรยิ ำเพรำะเตมิ s ได้) ครอู ธบิ ำยเพ่ิมเตมิ ว่ำ คำวำ่ hurt (adj.) นอกจำกจะตำมหลัง Verb to be ได้แลว้ ยังตำมหลังคำวำ่ get ได้อกี ด้วย เช่น You can get hurt. 3. ครูสอนคำศัพทเ์ กยี่ วกบั อปุ กรณ์เพ่ิมเตมิ ได้แก่คำว่ำ swimsuit, bat, racket โดยครูบอกชื่อกฬี ำ ให้นกั เรียนช่วยกันบอกอุปกรณ์ทีใ่ ช้กับกีฬำชนิดนนั้ ดงั น้ี swimming - swimsuit, baseball - bat, tennis - racket จำกนัน้ ครูทบทวนคำศัพท์ท่เี รียน โดยแบ่งนักเรียนออกเปน็ 4 กลุ่ม ครูแจกบัตรคำให้นักเรียนกลุม่ ละ 1 ชุด แล้วครชู ูบัตรภำพทีละ 1 ใบ ให้สมำชิกแตล่ ะกลุ่มช่วยกันหำบัตรคำที่ตรงกับบตั รภำพ และชูบัตรคำ น้ันข้ึนมำให้เร็วท่ีสุด กลุม่ ใดทำได้เรว็ ทส่ี ดุ และถกู ต้องจะเป็นผู้ชนะ

4. ครูเขยี นตวั อย่ำงประโยคบนกระดำน ดงั น้ี If you go to the beach, wear a hat. ครอู ธบิ ำยว่ำประโยคเง่อื นไขสำมำรถนำมำใชใ้ นกำรสัง่ กำรบอกให้ทำ หรือกำรใหค้ ำแนะนำได้ จำกนัน้ ครูให้นักเรียนช่วยกนั วเิ ครำะหโ์ ครงสร้ำงประโยค If + present simple, v.1 ครูให้ตวั อย่ำงนักเรยี นเพ่ิมบนกระดำน เชน่ If you ride a motorcycle, wear a helmet. If you go skiing, wear goggles. ในกรณใี ห้คำแนะนำ ครูบอกวำ่ สำมำรถใชเ้ พ่มิ ได้อีกโครงสรำ้ งหนง่ึ โดยครูเขยี นตวั อย่ำงประโยคบน กระดำน และให้นักเรยี นช่วยกันวเิ ครำะห์โครงสร้ำง If you go to the beach, you should wear a hat. If you go to the beach, you can play beach volleyball. (If + present simple, subject + can/should + v.1) ขัน้ ฝกึ (Practice) ครูให้นักเรยี นจับคภู่ ำพกีฬำกับภำพอุปกรณ์ในหนังสือเรยี น หนา้ 22 ขอ้ 2 Match the sports with the equipment. ให้สัมพันธ์กัน เสร็จแล้วให้นักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 2-d 3-b 4-a จำกน้นั ใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคเงื่อนไขท่ใี ชใ้ นกำรสงั่ หรือให้คำแนะนำ โดยใชข้ ้อมลู จำกภำพที่จับคู่ ถูกต้องแล้ว เมื่อนักเรียนแตง่ ประโยคเสร็จแลว้ ครสู ่มุ เรียกนักเรียน 3 คน ออกมำเขียนประโยคบนกระดำนคนละ 1 ข้อ แลว้ ครตู รวจควำมถูกต้อง และให้นักเรียนอ่ำนประโยคพร้อมกัน 2. If you go sailing, wear a lifejacket. 3. If you go skateboarding, wear knee pads. 4. If you go swimming, wear goggles.

Background Information ประโยคเงื่อนไข (Conditionals) โครงสร้างประโยค If clause + main clause หรือ main clause + if clause ตวั อยา่ ง If the weather is good tomorrow, we’ll have a picnic. หรือ We’ll have a picnic if the weather is good tomorrow. ประโยคเงื่อนไขมีหลายโครงสร้าง โดยท่ีเรียนในบทน้ีคือ - Zero conditional ที่ใชส้ ั่ง บอกใหท้ า หรือใหค้ าแนะนา โครงสร้าง If + present simple + v.1 (imperative) ตวั อยา่ ง If you go to the beach, wear suncream. - First conditional ท่ีใชใ้ หค้ าแนะนา โครงสร้าง If + present simple + can/should + v.1 ตวั อยา่ ง If you go to the beach, you should wear suncream. ข้อสังเกต ในการเขียนประโยคเงื่อนไข เขียนได้ 2 แบบ คือ นา If clause วางไว้ ขา้ งหนา้ และตอ้ งมีเคร่ืองหมาย comma (,) คนั่ If clause และตามดว้ ย main clause อีกแบบคือ นา main clause วางไวข้ า้ งหนา้ แลว้ ตามดว้ ย If clause ซ่ึงไม่ตอ้ งมีเคร่ืองหมาย comma คนั่ เช่น If it rains, I will not go. หรือ I will not go if it rains. ขัน้ นาไปใช้ (Production) 1. นักเรยี นดูภำพ a-d ในหนังสือเรยี น หน้า 23 ข้อ 3 Listen and number. และครูถำมว่ำบุคคล ในแต่ละภำพกำลงั ทำอะไร ให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบ ต่อมำครเู ปิด CD/Track 20 ให้นักเรียนฟังบทสนทนำ แลว้ ใส่ หมำยเลขในช่องข้ำงๆ ภำพให้ตรงกบั บทสนทนำ โดยครเู ปดิ CD ทลี ะบทสนทนำ เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยคำตอบ จำกน้นั ให้นักเรียนอำ่ นประโยค 1-4 แลว้ ครเู ปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟังบทสนทนำอีกคร้งั แลว้ ตอบวำ่ ประโยคดังกล่ำวถูก (T) หรอื ผิด (F) แล้วครเู ฉลยคำตอบรว่ มกนั

1. Tom: I am going to go skateboarding. Could you give me some advice? Teacher: Sure. There are three things to remember when you go skateboarding. First, always wear a helmet. You can’t go skateboarding if you don’t wear a helmet. Second, wear knee pads and elbow pads. And third, don’t go skateboarding on the street. Tom: OK. I’ve got a helmet. I’m going to buy knee pads and elbow pads. 2. Teacher: Ow! Peter. Are you OK? Peter: No, my knee hurts! Teacher: Oh dear! Let’s have a look. 3. Ann: What’s wrong, Jane? Jane: I’ve got a cold. I went sailing yesterday. Ann: You should go home and a rest. Jane: Yes, you are right. 4. Nick: Ow! David: What’s wrong, Nick? Nick: I have a twisted ankle. David: Oh dear! Let’s have a look. a-4 b-2 c-1 d-3 1. T 2. T 3. F 4. T 2. ครูอธิบำยกำรใช้ go และ play กับกฬี ำ แล้วให้นักเรียนเปิด หนังสือเรยี น หน้า 23 ขอ้ 4 Classify the words. ครูให้นักเรียนแยกคำศัพท์เกี่ยวกับกีฬำที่กำหนดให้ว่ำต้องใช้ร่วมกับ go หรือ play เสร็จแล้วครู เฉลยคำตอบโดยเขยี นตำรำงบนกระดำน แล้วสุ่มเรียกนกั เรียนออกมำเขียนคำศัพทล์ งในตำรำงใหถ้ ูกต้อง และครู ตรวจควำมถกู ตอ้ ง

Background Information play ใชก้ บั กีฬาที่มีอุปกรณ์การเล่นเป็ นลูกบอล หรือกีฬาที่มีการแขง่ ขนั กนั เช่น - They play tennis. - I can play baseball. - He plays football. - She plays chess with her uncle. go ใชก้ บั กีฬาท่ีเติม -ing เช่น - He goes skiing. - I go snowboarding. - She goes swimming. go play skateboarding sailing football skiing tennis climbing ping-pong cycling baseball surfing basketball chess/cards ขัน้ สรุป (Wrap up) จำกนั้นครูให้นักเรียนจับคู่กบั เพื่อนพูดถำม-ตอบเก่ียวกับกีฬำที่ตนเองเล่น โดยใช้รปู ประโยคคำถำมและ คำตอบในหนงั สือเรียน เช่น Sam: What sports do you do? George: I play basketball. เมือ่ ถำม-ตอบกับคู่ของตนเองแลว้ ครใู ห้นักเรียนเปลย่ี นคู่กับคู่อ่ืนๆ อกี 3 คู่ และเปลี่ยนคำศัพทเ์ กี่ยวกับ กีฬำในกำรตอบคำถำมดว้ ย

ชั่วโมงที่ 3 If clause (3) ขัน้ นา (Warm up) ครใู หน้ กั เรียนทำ แบบฝึกหดั หน้า 18 ขอ้ 1 Look at the pictures and write the words. โดย ดภู ำพและเขียนคำศัพท์ให้สัมพันธ์กัน ขณะทีน่ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ครูเตรยี มบัตรคำและบัตรภำพ ดังนี้ lifejacket, gloves, trainers, knee pads, helmet, ankle, goggles เมือ่ นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดเสรจ็ แล้วครู ติดบตั รภำพบนกระดำน จำกนั้นชูบัตรคำทีละใบโดยไมเ่ รียงตำมข้อ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตำมบตั รคำนน้ั แล้วครู สุ่มเรยี กนกั เรยี น 1 คน นำบัตรคำท่อี อกเสียงแลว้ ไปตดิ ใตบ้ ัตรภำพให้ถูกตอ้ ง เช่น Teacher: Can you pronounce this word, please? (ครชู บู ัตรคำ gloves) Students: Gloves. Teacher: Susan, stick this paper under the picture on the board. Susan: (นำบัตรคำไปติดใตภ้ ำพถุงมอื ) Teacher: Correct! Very good! ถำ้ คนท่ีถกู สุ่มเรียกวำงบัตรคำผดิ ใหค้ รูเลือกนักเรยี นอีกคนมำช่วยวำงบตั รคำใหถ้ ูกตอ้ ง และครเู ฉลย คำตอบอกี คร้งั หรอื ครอู ำจมอบหมำยให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั น้ีเป็นกำรบำ้ น 1. lifejacket 2. gloves 3. trainers 4. goggles 5. knee pads 6. ankle 7. helmet ขน้ั นาเสนอ (Presentation) ครูให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 18 ข้อ 2 Complete the sentences. โดยเลือกคำที่กำหนดให้ ไปเติมลงในประโยคให้เหมำะสม เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 6 คน ให้อ่ำนประโยคคนละ 1 ประโยค หรือครู อำจจะใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดนเ้ี ปน็ กำรบ้ำน 1. If you ski, wear goggles. 2. If you go skateboarding, wear knee pads. 3. If you play baseball, you need a bat. 4. If you swim, wear a swimsuit. 5. If you play tennis, you need a racket. 6. If you go sailing, wear a lifejacket. ข้นั ฝกึ (Practice) ครูแบง่ นักเรยี นออกเปน็ 5-6 กลุ่ม ให้แตล่ ะกลมุ่ ทำ แบบฝึกหัด หน้า 19 ข้อ 3 Look at the pictures and complete the sentences. โดยดูภำพ อำ่ นคำถำม และเตมิ คำลงในประโยคคำตอบให้ ถูกต้อง เสร็จแล้วครถู ำมคำถำมทลี ะข้อ ให้ทุกกลุ่มชว่ ยกันตอบ จำกน้นั ให้นักเรียนถำม-ตอบข้ำมกลุม่ กัน

ครสู งั เกตกำรให้ควำมร่วมมือของสมำชิกในแตล่ ะกลมุ่ หรือครูอำจจะให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดนเี้ ปน็ กำรบำ้ น 1. Her elbow is hurt. 2. He has a twisted ankle. 3. She has a cold. 4. His knee is hurt. ข้นั นาไปใช้ (Production) ครใู ห้นกั เรียนอ่ำนประโยคท่ใี หม้ ำใน แบบฝึกหดั หน้า 19 ข้อ 4 Complete the sentences with go or play. แล้วเลอื กเติม go หรือ play ลงในประโยคให้ถูกต้อง ใหน้ กั เรียนปรึกษำกบั เพ่ือนได้ เสรจ็ แล้ว เฉลยคำตอบรว่ มกัน หรือครูอำจจะใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดนี้เปน็ กำรบำ้ น 1. play 2. go 3. go 4. go 5. go 6. play ขัน้ สรุป (Wrap up) ครูให้นักเรียนร่วมกันรณรงค์กำรเล่นกีฬำให้ปลอดภัย โดยจัดบอร์ดในหัวข้อ “Play safe” แล้วให้ นักเรียนช่วยกนั วำดภำพคนละ 1 ภำพ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับกำรเล่นกีฬำอย่ำงปลอดภัย และเขียนประโยคบรรยำยภำพ 1 ประโยค โดยใชป้ ระโยคเงอ่ื นไขทเี่ รียนมำ เช่น If you go climbing, wear a helmet. 8. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ 2 รอ้ ยละ 60 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 2 ตรวจใบงำนท่ี 2.1 ใบงำนที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ตรวจแผนผังควำมคิด แผนผังควำมคดิ รอ้ ยละ 60 สังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบประเมนิ ทักษะทำงภำษำ รำยบุคคลกำร ระดบั คุณภำพ 2 สังเกตควำมมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภำพ 2 ในกำรทำงำน 9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 6 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 Play safe เรอ่ื ง I play in the evening. 1.สาระสาคัญ กำรเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับอุปกรณ์ป้องกันตัวในกำรเล่นกีฬำ อุปกรณ์กีฬำ อำกำรบำดเจ็บ ทำให้ผู้เรียน สำมำรถพูดและเขียนเก่ียวกบั กีฬำที่เล่น และให้คำแนะนำในกำรเล่นกีฬำ ซึ่งเป็นพื้นฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพ่ือ กำรส่อื สำรในชวี ติ ประจำวนั ได้ 2.มาตรฐาน /ตวั ช้วี ดั มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น ตวั ชี้วัด 1. พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพ่ือน และสงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ วั ตัวชว้ี ัด 3. พูด/เขยี นแสดงควำมคิดเห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งต่ำงๆ ใกลต้ ัว มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และ นาไปใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ชีว้ ัด 2. ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั เทศกำล/วนั สำคัญ/งำนฉลอง/ชีวติ ควำมเป็นอยู่ของเจำ้ ของภำษำ ตัวช้ีวดั 3. เข้ำรว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรมตำมควำมสนใจ 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.พูด/เขียน แสดงควำมคดิ เห็น ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน และสิ่งแวดล้อมใกลต้ ัวได้ 2. ให้ข้อมลู เกี่ยวกีฬำของประเทศเจ้ำของภำษำได้ 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) . ประโยคขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับกำรเลน่ กีฬำ และอำกำรบำดเจบ็ เชน่ A: What sports do you do? B: I go skateboarding. My leg is hurt. A: What’s wrong with you? B: ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรับผิดชอบ ขยัน ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น 2. มีควำมเชอ่ื มั่นในตนเอง กลำ้ แสดงออก

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชีวติ 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ซ่ือสตั ย์สุจรติ 2. มีวนิ ัย 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 5. มีจติ สำธำรณะ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 I play in the evening. (1) ขน้ั นา (Warm up) 1. ครใู หน้ กั เรียนทบทวนคำศัพท์เกีย่ วกบั อุปกรณ์กฬี ำด้วยบัตรภำพและบัตรคำ 2. ครถู ำมนักเรยี นวำ่ มีใครออกกำลงั กำยเปน็ ประจำทุกวนั บำ้ ง จำกนั้นครูบอกประโยชนข์ องกำร ออก กำลงั กำย ซึ่งจะส่งผลให้ร่ำงกำยแข็งแรง มีสุขภำพดี 3. ครบู อกนักเรียนว่ำ ในชั่วโมงน้นี ักเรยี นจะได้เรยี นเก่ยี วกับกำรถำมและตอบเกยี่ วกับอำกำรบำดเจ็บ รวมทงั้ กำรอ่ำนและเขยี นเกีย่ วกับคำแนะนำในกำรเลน่ กฬี ำ ขั้นนาเสนอ (Presentation) ครูขออำสำสมคั ร 1 คน ให้แสดงท่ำทำงเจบ็ หัวเข่ำ แล้วครถู ำมอำกำรบำดเจบ็ ของนกั เรยี น ดงั น้ี Teacher: What’s wrong with you, Tom? Tom: My knee is hurt. แล้วครูเขียนคำถำม What’s wrong with you? บนกระดำน และอธิบำยว่ำเรำใช้คำถำมน้ีเพื่อถำม อำกำรบำดเจ็บ หรอื เมอ่ื เห็นว่ำมีอำกำรผดิ ปกติ ต่อมำครูทบทวนประโยคเงื่อนไขที่ใช้ในกำรให้คำแนะนำ โครงสร้ำงต่อไปนี้ If + present simple, + ประธำน + can + v.1. พร้อมท้ังยกตัวอยำ่ งบนกระดำน เช่น If you have a twisted ankle, you can’t play football. จำกนั้นครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน ช่วยกันอ่ำนข้อควำมใน หนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 5 Read and answer the questions. แลว้ ตอบคำถำม เสร็จแลว้ ครเู ฉลยคำตอบ

1. He wants to go surfing next month. 2. He has a twisted ankle. แล้วครใู ห้แตล่ ะคดู่ ูภำพ 1-3 และวลี a-c แลว้ จบั คู่ภำพกบั วลีให้สมั พันธ์กนั จำกนน้ั เตมิ คำแนะนำในแต่ ละขอ้ ให้สมบูรณ์ ซง่ึ ขอ้ 1 ได้ทำเป็นตวั อย่ำงแลว้ เสร็จแลว้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรียน 2 คู่ อำ่ นประโยคคลู่ ะ 1 ข้อ และ ให้คู่อื่น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจคำตอบ 2. If you rest your foot, you can go surfing in two weeks. 3. If you put an ice pack on the ankle, you can go surfing in two weeks. ขน้ั ฝกึ (Practice) นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนพูดสนทนำเก่ียวกับอำกำรบำดเจ็บหรือเจ็บป่วย โดยดูรูปประโยคคำถำม คำตอบ และคำแนะนำใน หนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 6 Match the problems with the advice. Then ask and answer. ครูให้นักเรียนฝึกพูดสนทนำ 5-8 นำที โดยให้ใช้น้ำเสียง และแสดงท่ำทำงให้สมจริง ขณะ นักเรียนทำกจิ กรรมครเู ดินสงั เกตรอบ ๆ ชนั้ เรียน แลว้ สุ่มเรียกนักเรยี น 4-5 คู่ ออกมำพูดสนทนำหน้ำช้นั เรยี น ข้นั นาไปใช้ (Production) ครูนำใบปลิวหรอื แผ่นพบั มำแสดงให้นักเรียนดู และพดู แนะนำว่ำ These are leaflets. จำกนั้นครูอ่ำน คำส่ังใน หนังสือเรียน หน้า 25 ข้อ 7 Read the leaflet about how to ride a bike safely and complete the chart. แล้วครูให้นักเรียนอ่ำนใบปลิวที่ให้มำในหนังสือเรียน จำกน้ันครูแบ่งกระดำนเป็น 2 ด้ำน เขียนหัวข้อ Things you should do และ Things you shouldn’t do และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรำย ว่ำข้อมูลใดในใบปลิวเป็นสงิ่ ท่คี วรทำและไม่ควรทำในกำรขี่จักรยำน ครูเขียนข้อมลู ที่นกั เรียนบอกลงในตำรำงบน กระดำน Things you should do Things you shouldn’t do - Wear a helmet. - Carry friends on your bike. - Give hand signals. - Ride with no hands. - Stop at traffic lights. - Ride on the wrong side of the road. ขน้ั สรุป (Wrap up) เสร็จแล้วครูอธิบำยกับนักเรียนว่ำ นอกจำกโครงสร้ำงประโยคเงื่อนไขที่ใช้ในกำรพูดแนะนำท่ีเรียนไป แล้ว เรำยังสำมำรถใช้ประโยคง่ำยๆ should + v. 1 หรือ should not (shouldn’t) + v. 1 ในกำรพูด ให้

คำแนะนำ เช่น You should do your homework. You shouldn’t copy your friends’ homework. จำกนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นทำงำนคผู่ ลัดกนั พูดใหค้ ำแนะนำโดยใช้ข้อมลู จำกตำรำงบนกระดำน เชน่ A: You should wear a helmet. B: You shouldn’t carry friends on your bike. ชัว่ โมงท่ี 2 I play in the evening. (2) ข้นั นา (Warm up) นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน และครูแจกกระดำษ A4 ให้คู่ละ 1 แผ่น เพ่ือเขียนใบปลิวเก่ียวกับกำรเล่น สเกต บอร์ดอย่ำงปลอดภยั โดยใชข้ ้อมูลที่กำหนดให้ใน หนังสือเรียน หน้า 25 ข้อ 8 Write a leaflet about how to ride a skateboard safely. Use the words in the box to help you. ครูเน้นให้นักเรียน มี ควำมคดิ สร้ำงสรรค์ โดยอำจจะวำดภำพหรือหำภำพมำตดิ ประกอบ ตวั อย่าง Tips for safe skateboarding  Wear a helmet.  Wear knee pads.  Wear elbow pads.  Don’t play in the street. ข้ันนาเสนอ (Presentation) นักเรียนจัดทำสมุดคำศัพท์ Your word book โดยรวบรวมคำศัพท์ใหม่ใน Unit 2 โดยครูเน้นให้ นักเรียนแบ่งหัวข้อในกำรจดบันทึกคำศัพท์ให้ชัดเจน เช่น คำศัพท์เกี่ยวกับชื่อกีฬำ, คำศัพท์เก่ียวกับอุปกรณ์, คำศัพท์เกี่ยวกับอำกำรบำดเจ็บ และคำคณุ ศัพท์ ครูให้นักเรียนหำคำศัพท์เพิ่มเติมในแตล่ ะหัวข้อ หัวข้อละ 2 คำ จำกนน้ั วำดภำพประกอบและระบำยสใี หส้ วยงำม แลว้ ให้นักเรยี นนำไปท่องในเวลำวำ่ ง ขน้ั ฝกึ (Practice) นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 20 ข้อ 5 Complete the short dialogues. โดยอ่ำนบทสนทนำ และเติมคำที่กำหนดให้ลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3 คน บอกคำตอบ ครูตรวจควำม ถูกต้อง และใหน้ ักเรียน 3 คู่ อ่ำนบทสนทนำ หรือครอู ำจจะให้นกั เรียนทำเป็นกำรบ้ำน 1. If you take some medicine, you can go to school a few days. 2. If you rest your leg, you can walk in a week. 3. If you rest your foot, you can go skateboarding in a week.

ขั้นนาไปใช้ (Production) ครูทบทวนกำรใช้ Question words โดยให้นักเรียนช่วยกันบอกว่ำ Question words แต่ละคำใช้ อยำ่ งไร What ใช้ถำมข้อมลู เชน่ ชอ่ื , ทีอ่ ย,ู่ สิ่งของ When ใชถ้ ำมเกี่ยวกับเวลำ Where ใชถ้ ำมเกยี่ วกับสถำนที่ Why ใชถ้ ำมเก่ียวกับเหตุผล จำกน้ันให้นักเรียนอ่ำนคำถำมและคำตอบใน แบบฝึกหัด หน้า 20 ข้อ 6 Complete with What, When, Where or Why. แล้วเลือก What, When, Where, Why เติมลงในคำถำมให้ถูกต้อง เสร็จแล้วเฉลย คำตอบรว่ มกนั หรือครอู ำจจะให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั นเ้ี ปน็ กำรบ้ำน 1. What 2. What 3. When 4. Where 5. Why ข้นั สรุป (Wrap up) 1. นักเรียนตอบคำถำมเกี่ยวกับตนเองใน แบบฝึกหัด หน้า 20 ข้อ 7 Answer the questions about yourself. เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนผลัดกันพูดถำม-ตอบ หรือครูอำจจะให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หัดนี้เปน็ กำรบ้ำน ตวั อย่าง 1. My favourite sport is tennis. 2. I need a racket, a tennis ball and trainers. 3. I play in the evening. 2. นักเรียนอำ่ นข้อควำมใน แบบฝกึ หัด หน้า 21 ข้อ 8 Read and complete. แลว้ นำคำที่ กำหนดให้ไปเติมลงในช่องวำ่ ง เสร็จแล้วครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ หรอื ครูอำจใหน้ ักเรียนทำ แบบฝกึ หดั นี้เป็นกำรบำ้ น 2. helmet 3. signals 4. stop 5. hands 6. don’t ครเู ลอื กนักเรยี น 2 คน ออกมำหนำ้ ชน้ั เรยี น โดยนักเรียนคนแรกอำ่ นประโยค 3 บรรทัดแรก และอกี 1 คน อ่ำนประโยคท่ีเหลืออีก 3 บรรทัด 3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดและเขียนเก่ียวกับวิธีเล่นสเกตบอร์ดอย่ำง ปลอดภัยโดยใช้คำท่ีกำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 21 ข้อ 9 Write a text about how to ride a

skateboard safely. Use the words in the box. เม่ือเขียนเสรจ็ แล้วครูให้แต่ละกลุ่มออกมำนำเสนอหน้ำ ชน้ั เรียน แล้วครูติดผลงำนของแต่ละกลมุ่ บนบอรด์ ตวั อย่าง If you want to ride a skateboard safely, follow my advice. You should wear a helmet, knee pads and elbow pads. Don’t ride a skateboard in the street. It is dangerous. ชว่ั โมงท่ี 3 I play in the evening. (3) ขั้นนา (Warm up) 1. ครทู บทวนคำศพั ทเ์ กี่ยวกบั กีฬำและอปุ กรณ์กำรเลน่ และอปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรำย โดยให้นักเรยี นเลน่ เกม Hangman หรือ Spelling Bee 2. ครูบอกนักเรยี นวำ่ ในชัว่ โมงนี้จะเปน็ กำรทบทวนบทเรียนที่ไดเ้ รียนไปแล้ว ขั้นนาเสนอ (Presentation) ครูเตรียมบตั รภำพกฬี ำมำ 4 ชนิด แลว้ สมุ่ เรียกนักเรยี น 1 คน ออกมำเลือกบัตรภำพ 1 ใบ และถือ บตั รภำพกีฬำชนดิ นั้นไว้ จำกน้นั ครถู ำมคำถำม ดังนี้ Teacher: What is your favourite sport? Bob: I like basketball. (ถือภำพกีฬำบำสเกตบอล) Teacher: Why do you like this sport? Bob: It is fun. Teacher: Where do you do the sport? Bob: At the gym. Teacher: What do you need for your favourite sport? Bob: I need a ball and trainers. Teacher: That’s very good, Bob. จำกน้ันครูเขียนคำถำมบนกระดำน แล้วให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนฝึกพูดถำม-ตอบ โดยดูคำถำมบน กระดำน หรือใน หนังสือเรียน หน้า 26 ข้อ 1 Work with a friend. Ask and answer the questions. จำกนั้นครสู ุ่มเรียกนกั เรยี น 3-4 คู่ ออกมำพูดถำม-ตอบหนำ้ ชั้นเรยี น ขั้นฝึก (Practice) ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน ช่วยกันเรียงลำดับประโยคใน หนังสือเรียน หน้า 26 ข้อ 2 Put the dialogue in the correct order. ให้เป็นบทสนทนำท่ีถูกต้อง เสร็จแล้วครเู ปิด CD/Track 21 ให้นักเรียนฟัง เพื่อตรวจคำตอบ

A: What sports do you like? B: I like surfing. Do you? A: I think it’s dangerous. B: It is sometimes, but it’s exciting. A: How often do you go surfing? B: Every weekend. Now listen and check your answers. Then practise with your partner. 4 It is sometimes, but it’s exciting. 2 I like surfing. Do you? 6 Every weekend. 1 What sports do you like? 3 I think it’s dangerous. 5 How often do you go surfing? จำกน้ันใหน้ ักเรียนแต่ละคู่ฝึกพูดบทสนทนำ ครเู ดนิ สงั เกตขณะนักเรียนทำกจิ กรรม แล้วสุ่มเรียก นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมำพูดสนทนำหน้ำช้นั เรยี น ขั้นนาไปใช้ (Production) ครูชูภำพกีฬำ 1 ชนดิ แล้วสุ่มถำมนักเรยี น 1 คน ใหต้ อบคำถำม เชน่ Teacher: What sports do you like, Sarah? (ครชู ภู ำพกีฬำ วอลเลยบ์ อล) Sarah: Volleyball. Teacher: Can you play volleyball, Sarah? Sarah: Yes, I can. Teacher: Can it be dangerous, Sarah? Sarah: Yes, it can. Teacher: You should wear knee pads and elbow pads. จำกน้ันให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 27 ข้อ 3 Read and complete the text. แล้วอ่ำน ขอ้ ควำมในหวั ข้อ “PLAY SAFE” ครูให้เวลำอำ่ น 5 นำที เมื่อหมดเวลำครูบอกนกั เรยี นว่ำ “Times up!” แลว้ ครู ถำมคำถำมนกั เรียน ดังน้ี Teacher: What sports can be dangerous? Students: Every sport.

Teacher: What should you do before you start to play sport? Students: Warm up. Teacher: If you like skateboarding, what equipment do you need? Students: A helmet, knee pads and elbow pads. ข้นั สรุป (Wrap up) จำกน้นั ให้นักเรยี นอำ่ นข้อควำมทอี่ ยดู่ ้ำนล่ำง และนำคำท่ีกำหนดใหเ้ ตมิ ลงในชอ่ งวำ่ งใหถ้ ูกต้อง เสร็จ แลว้ ครเู ฉลยคำตอบโดยกำรอ่ำนขอ้ ควำม เมื่อถึงชอ่ งว่ำงครูสุม่ เรียกนักเรียน 1 คน บอกคำทน่ี ำมำเติม ถำ้ นกั เรียนตอบผดิ ใหเ้ พื่อนๆ ในชั้นเรยี นชว่ ยกันแกไ้ ขคำตอบ 2. dangerous 3. hurt 4. equipment 5. knee pads 8. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผ่าน สงั เกตกำรพูดถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพูดถำม-ตอบ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินในระดับดขี ึน้ ไป ตรวจใบกจิ กรรม ใบกิจกรรม ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินรอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ประเมนิ กำรทำแผนผังควำมคิด แผนผังควำมคดิ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี น้ึ ไป ประเมินกำรพูดนำเสนอ แบบประเมนิ กำรพูด ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินในระดับดีขน้ึ ไป โครงงำน 9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 Play safe เร่อื ง Water Sport club 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันตัวในกำรเล่นกีฬำ อุปกรณ์กีฬำ อำกำรบำดเจ็บ ทำให้ผู้เรียน สำมำรถพูดและเขียนเก่ียวกบั กีฬำที่เล่น และให้คำแนะนำในกำรเล่นกีฬำ ซ่ึงเป็นพื้นฐำนกำรใชภ้ ำษำอังกฤษเพ่ือ กำรสื่อสำรในชวี ิตประจำวันได้ 2.มาตรฐาน /ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ตัวช้วี ัด 1. บอกควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งกำรออกเสียงประโยคชนิดต่ำงๆ กำรใช้ เครื่องหมำยวรรคตอน และกำรลำดับคำตำมโครงสรำ้ งประโยคของภำษำต่ำงประเทศและ ภำษำไทย ตวั ชว้ี ดั 2. เปรยี บเทียบควำมเหมอื น/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งเทศกำล งำนฉลองและประเพณีของ เจำ้ ของภำษำกับของไทย มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่อื มโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ และเป็นพืน้ ฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน ตวั ช้วี ดั 1. คน้ ควำ้ รวบรวมคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อืน่ จำกแหล่งกำรเรยี นรู้ และ นำเสนอดว้ ยกำรพดู /กำรเขียน มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ตัวชี้วดั 1. ใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในหอ้ งเรยี นและสถำนศึกษำ 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกควำมเหมอื น/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งกำรออกเสียงประโยคชนิดต่ำงๆ กำรใชเ้ ครื่องหมำยวรรค ตอน และกำรลำดับคำตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทยได้ 2.เปรยี บเทยี บควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งเทศกำล งำนฉลองและประเพณีของเจ้ำของภำษำกับ ของไทยได้ 2.ค้นควำ้ รวบรวมคำศัพท์ทีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อ่ืนจำกแหล่งกำรเรียนรู้ และนำเสนอ ด้วยกำรพูด/กำรเขยี น .ใชภ้ ำษำในสถำนกำร์ตำ่ งๆ ได้

4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. กำรใชภ้ ำษำในกำรฟงั และพูด/อำ่ นในสถำนกำรณ์ที่เกดิ ขึน้ ในห้องเรียน 2. กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องใกล้ตัวจำกส่ือและแหล่งกำรเรียนรู้ ต่ำงๆ ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู กำรอ่ำน กำรเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรบั ผดิ ชอบ ขยัน ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน 2. มีควำมเชอื่ ม่ันในตนเอง กลำ้ แสดงออก 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชีวิต 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สจุ รติ 2. มีวินยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุง่ ม่ันในกำรทำงำน 5. มีจติ สำธำรณะ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 Water Sport Club (1) ข้ันนา (Warm up) นกั เรยี นอ่ำนอีเมลของ Catherine ที่เขียนถึง Pat ใน หนังสือเรียน หน้า 28 ข้อ 4 Read the e- mail. แล้วครูถำมว่ำ Catherine เขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร ต่อมำครูให้นักเรียนดูแผนผัง (Venn diagram) ของ กีฬำปีนเขำ (climbing) และกีฬำสกี (skiing) แล้วครูถำมนักเรยี นเกยี่ วกับกฬี ำแตล่ ะชนดิ และให้นกั เรยี นช่วยกัน ตอบคำถำม Teacher: Look at the diagram. When will you go climbing? Students: In summer. Teacher: What equipment do you need? Students: Ropes and a helmet. Teacher: What’s about skiing? When will you go skiing?

Students: In winter. Teacher: What equipment do you need? Students: Warm clothes, boots, gloves and goggles. ข้ันนาเสนอ (Presentation) จำกนั้นให้นักเรียนสมมติว่ำตนเองเป็น Pat ให้นักเรียนเขียนอีเมลตอบ Catherine โดยนำข้อมูลจำก แผนผังมำเติมลงในช่องว่ำง นักเรียนสำมำรถปรึกษำกับเพื่อนได้ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบบนกระดำน ให้ นักเรยี นตรวจและแกไ้ ขคำตอบให้ถกู ต้อง แลว้ อำ่ นอเี มลพร้อมกัน Hi, You asked for some information about climbing or skiing. Climbing is a summer sport. It’s interesting. The equipment that you need are ropes and a helmet. Skiing is fun. You can do it in winter. The equipment that you need are warm clothes, boots, gloves and goggles. Both climbing and skiing are dangerous and exciting. I like both sports. You should choose the sport you like most. Good luck, Pat Culture Venn diagram เป็นแผนผงั ใชเ้ พอ่ื เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างของขอ้ มูล ต้งั ช่ือตามผคู้ ิดคน้ คือ John Venn ดงั น้นั ตวั V จึงใช้ Capital letter ขั้นฝึก (Practice) นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 22 ข้อ 1 Complete the dialogue with the questions. อ่ำน บทสนทนำ แล้วเลือกคำถำม a-d เติมลงในบทสนทนำให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ จำกนั้นให้นักเรียน จับคูก่ บั เพื่อนฝกึ พูดสนทนำ หรอื ครูอำจจะใหน้ ักเรยี นทำเปน็ กำรบ้ำน 1. b 2. c 3. a 4. d ขนั้ นาไปใช้ (Production) ให้นักเรียนอ่ำนเร่ือง Water Sport Club ใน แบบฝึกหัด หน้า 22 ข้อ 2 Read and write the letter a, b, c or d on the space. แล้วเลือกขอ้ ควำม a-d ไปเตมิ ลงในช่องว่ำงให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแล้วครเู ฉลย

คำตอบ แล้วขออำสำสมัครนักเรียน 1 คน อ่ำนเรื่องที่สมบูรณ์ให้เพื่อนฟัง หรือครูอำจจะให้นักเรียนทำ แบบฝึกหดั นีเ้ ปน็ กำรบำ้ น 1. c 2. d 3. a 4. b ข้นั สรปุ (Wrap up) นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 23 ข้อ 3 Complete the chart about your favourite sport. โดยเติมขอ้ มูลเกี่ยวกบั กฬี ำทต่ี นเองชนื่ ชอบตำมแตล่ ะหัวข้อ แล้วนำขอ้ มลู เหล่ำนัน้ มำเขียนบรรยำย ตัวอย่าง Sport: Cycling When you do it: On Saturdays Where you do it: In a park near my house With whom you do it: My parents Dangers: Yes Things you need: A helmet, knee pads, elbow pads and trainers Why you do it: I love it My favourite sport is cycling. I usually go cycling on Saturdays. I go cycling with my parents in a park near my house. There are a lot of people in the park. Some people listen to their MP3s. Some people chat with their friends on the phone. So sometimes cycling can be dangerous. You must be careful when you ride your bike. If you go cycling safely, you need a helmet, knee pads, elbow pads and trainers. ชวั่ โมงที่ 2 Water Sport Club (2) ขั้นนา (Warm up) ครูบอกนักเรยี นว่ำ ในชั่วโมงน้นี ักเรยี นจะไดท้ ำชน้ิ งำน ร้องเพลง และเล่นเกม ขั้นนาเสนอ (Presentation) 1. ครูให้นักเรียนชว่ ยกันบอกคำศัพท์ที่เรียนในบทน้ี ครูเขียนคำศัพท์ที่นักเรยี นบอกบนกระดำน โดยให้ นักเรียนช่วยกันสะกดคำ จำกน้ันให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์พร้อมกัน แล้วให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 92 หวั ขอ้ Language focus เพ่อื บอกโครงสร้ำงประโยคที่เรยี นในบทน้ี แลว้ ครเู ขยี นบนกระดำน - Which sport is the most exciting? I think skiing is the most exciting.

2. ครูถำมนักเรียนว่ำนอกจำกโครงสร้ำงประโยคบนกระดำนแล้วมีโครงสร้ำงอ่ืนอีกหรือไม่ นักเรียนคิด และพดู ตอบครู แลว้ ครูเขียนเพิม่ เตมิ - What sports do you do? I go skateboarding. - What’s wrong with you? My leg is hurt. - If you rest your leg, you can go cycling in a week. - If you go cycling, wear a helmet. - You should wear a helmet. จำกนน้ั ครูเปิดโอกำสให้นกั เรียนซักถำมโครงสรำ้ งประโยคท่ีตนเองไม่เขำ้ ใจ ขนั้ ฝกึ (Practice) ครูให้นักเรียนฝึกร้องเพลง Safety first ใน หนังสือเรียน หน้า 30 ข้อ 1 Sing along. โดยครูเปิด CD/Track 22 ใหน้ ักเรียนฟัง 2-3 คร้ัง แล้วใหน้ กั เรียนรอ้ งเพลงตำม จำกนน้ั ครูให้นกั เรยี นร่วมกนั คดิ ท่ำประกอบ เพลง แลว้ ครูเปิด CD ให้นกั เรียนร้องเพลง พร้อมทำทำ่ ประกอบเพลง Safety first Safety first from the start Safety first makes you smart. If you ride your bike, wear your helmet. Wear your helmet. If you fall down, then you’ll be all right. Wear your helmet. Wear your helmet if you ride your bike. Safety first from the start Safety first makes you smart. If you go skating, wear your pads. Wear your pads.

If you fall down, then you won’t get hurt. Wear your pads. Wear your pads if you go skating. Safety first from the start Safety first makes you smart. If you go sailing, wear your lifejacket. Wear your lifejacket. If you fall in, then you’ll be safe. Wear your lifejacket. Wear your lifejacket, if you go sailing. Safety first from the start Safety first makes you smart. ข้นั นาไปใช้ (Production) จำกนั้นครูให้นักเรียนร่วมกันคิดท่ำประกอบเพลง แล้วครูเปิด CD ให้นักเรียนร้องเพลง พร้อมทำท่ำ ประกอบเพลง ขนั้ สรปุ (Wrap up) ครูใหน้ กั เรยี นทบทวนคำหรอื วลีทใ่ี ชใ้ นกำรเล่มเกม จำกนน้ั ให้นักเรยี นเลน่ เกมใน หนงั สือเรียน หน้า 31 ข้อ 2 Play the board game. โดยแบง่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ ยอ่ ย แลว้ อธิบำยวธิ ีเลน่ เกมให้นักเรียนฟงั ดังนี้ 1) ให้ผ้เู ล่นเตรยี มตัวเดนิ ของตนเอง แลว้ ครแู จกลูกเตำ๋ ให้กลุ่มละ 1 ลูก จำกนั้นใหผ้ เู้ ลน่ แต่ละคน วำงตัวเดนิ ทีจ่ ดุ start 2) ให้แต่ละกลุ่มจดั ลำดบั กำรโยนลกู เต๋ำ ถำ้ โยนลูกเตำ๋ ไดแ้ ต้มเท่ำไรใหเ้ ดินตำมชอ่ งเท่ำจำนวนแต้มท่ีได้ 3) ถ้ำตัวเดินไปหยุดอยูท่ ่ชี อ่ งใด ใหอ้ ำ่ นคำสั่งในช่องน้นั และทำตำม 4) คนทเ่ี ดนิ ตวั เดนิ ไปถึงชอ่ ง finish เปน็ คนแรก คือผู้ชนะ ช่วั โมงท่ี 3 Water Sport Club / Post test (3ข) ้นั นา (Warm up) 1. ครนู ำใบปลิวและแผ่นพับสวยๆ มำแสดงให้นักเรยี นดู ครทู บทวนให้นักเรยี นฟังอีกครั้งว่ำทั้งใบปลิว และแผ่นพบั เรำสำมำรถเรียกได้ว่ำ leaflet จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยวำ่ วันนี้นักเรียนจะได้ทำแผน่ พบั ของตนเองในหนังสือ เรยี น หน้า 29 หัวข้อ Project time โดยครแู จกกระดำษ A4 ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผน่ แล้วอธบิ ำยวธิ กี ำรทำ ดังนี้ 1) นักเรียนคิดกีฬำท่ชี น่ื ชอบ 1 ชนิด แล้วเขียนหัวขอ้ ในข้อ 1 ลงในสมุด และเติมข้อมูลของตนเอง Sport: (ช่อื กีฬำ)

When you do it: (ช่วงเวลำท่ีเล่นกฬี ำนน้ั ) Where you do it: (สถำนท่ีที่เล่นกฬี ำนน้ั ) Dangers: (Yes/No) Things you need: (อปุ กรณท์ ีต่ ้องใช)้ Why you do it: (เหตผุ ลทเ่ี ล่นกฬี ำนน้ั ) ข้ันนาเสนอ (Presentation) 1) นกั เรยี นแบง่ กระดำษทค่ี รูแจกให้ออกเป็น 3 สว่ น เทำ่ ๆ กันในแนวนอน แลว้ เขยี นกีฬำท่ีชอบ ใน ชอ่ งซ้ำย และติดภำพกีฬำหรือวำดภำพในชอ่ งกลำง 2) เขยี นขอ้ มูลเก่ียวกับกีฬำตำมหวั ข้อในข้อ 1 ลงในช่องขวำ 3) พบั กระดำษตำมรอยพับ 4) เขียนชื่อกีฬำไวข้ ้ำงหนำ้ ของแผน่ พบั 5) นกั เรียนนำชน้ิ งำนไปติดแสดงบนบอร์ด แล้วครใู หน้ กั เรยี นลงมตเิ พื่อคัดเลือกชนิ้ งำนทดี่ ที ี่สดุ 3 ช้นิ และบอกเหตุผลวำ่ ทำไมจึงเป็นชนิ้ งำนที่ดที ี่สดุ ขั้นฝึก (Practice) 2. ครูให้นกั เรียนไปคน้ หำควำมหมำยของคำศัพท์ท่ีจะเรยี นในบทเรยี นถัดไปในหนังสือเรียน หน้ำ 33 กรอบ Word box ล่วงหนำ้ พรอ้ มทั้งเปิดพจนำนุกรมเพื่อหำพยำงค์ท่ีออกเสยี งเน้นหนักในคำเหล่ำนดี้ ้วย ข้ันนาไปใช้ (Production) 1. ทำแบบทดสอบ Post – Test ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครู นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook