โครงงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับมาตรฐานสากล

สารบัญ หนา้ เรือ่ ง 1 โครงงาน Good Food, Good Health (อาหารดี สขุ ภาพดี) 3 โครงงานหนูน้อยวัยใสห่างไกลเชอ้ื โรค 5 โครงงานย้มิ สวย ฟนั ใส หนูน้อยฟนั สะอาด 7 โครงงานมอื สวย เลบ็ ใส ปลอดภยั ไร้เชือ้ โรค 9 โครงงานหอ้ งเรยี นสะอาด ปลอดภัย มวี นิ ยั ดว้ ยมือเรา 12 โครงงานมือสะอาด ปราศจาคโรค 14 โครงงานเหาหาย สบายหวั 16 โครงงานฟันสวย ยม้ิ สะอาด 18 โครงงานขยบั กายสบายชวี ี ดูดสี มวยั ใสใ่ จสขุ ภาพ

1 1.ชอ่ื โครงงาน Good Food, Good Health (อาหารดี สุขภาพด)ี ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดับชัน้ อนุบาลปที ี่ 1 ครทู ี่ปรกึ ษา นางสาวปยิ ะดา ซาสุทสี 2.ระยะเวลาท่ีดำเนินการ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3.หลกั การและเหตผุ ล การพัฒนาเด็กให้เจริญเติบโตเป็นผูใ้ หญท่ มี่ คี ุณภาพอันดับแรกของการพฒั นาเด็ก คือ การพัฒนาสขุ ภาพ อนามัย เพราะเป็นพื้นฐานของการพฒั นาเด็กทุกดา้ น ได้แก่ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สงั คม และสตปิ ญั ญาตลอดจนคุณธรรมจรยิ ธรรมของเด็กอาหารจงึ นบั วา่ เปน็ ปัจจัยทส่ี ำคญั ในการดำรงชวี ิตของมนุษย์โด ยเฉพาะช่วงวัยตัง้ แตแ่ รกเกิดจนถงึ 6 ปี เปน็ ชว่ งทส่ี มองของเด็กมีการเตบิ โตมากกว่าช่วงวยั อ่ืน ๆ อาหาร จึงมคี วามสำคัญเปน็ อย่างมากในการพัฒนาเด็กการรับประทานอาหารทีด่ ีมปี ระโยชนจ์ ะทำใหเ้ ด็กมภี าวะโภชนากา รท่สี มบรู ณ์ซึง่ ก่อใหเ้ กดิ ภาวะสขุ ภาพทีด่ ีตามมาด้วย เพราะฉะนัน้ ควรใหเ้ ด็กไดร้ ับอาหารทเี่ หมาะสม มคี ุณค่าทาง โภชนาการที่ครบถว้ นเพยี งพอกับความต้องการของรา่ งกายเดก็ คือ อาหารตอ้ งได้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณและ คุณภาพทีเ่ พยี งพอเหมาะสมกับวยั ทกุ วัน ดังนนั้ จึงจัดทำโครงการ Good Food, Good Health (อาหารดี สขุ ภาพดี ) ขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้นกั เรียนชัน้ อนุบาลปที ี่ 1 ทุกคน ไดร้ ับประทานอาหารทม่ี ีประโยชน์ มคี ุณคา่ ทางโภชนาการท่ี ครบถว้ นเพียงพอกับความต้องการของรา่ งกาย และเด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สงั คม และสติปญั ญาแขง็ แรงเจริญเติบโตสมวัย 4.วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ด็กรบั ประทานอาหารทม่ี ีสารอาหารครบ 5 หมู่ 2. เพื่อใหเ้ ด็กมีพฒั นาการสมวยั 3. เพือ่ มสี ุขนสิ ยั ในการรบั ประทานอาหารอยา่ งถูกต้อง 5.วธิ ีการดำเนนิ งาน 1. วางแผนดำเนนิ งาน สำรวจปญั หา 2. สงั เกตพฤติกรรมการรบั ประทานอาหารของนักเรยี นชนั้ อนบุ าลปที ี่ 1 3. ให้ความรูเ้ กยี่ วกบั อาหารที่มปี ระโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ และการสร้างสุขนิสัยทีด่ ใี นการรบั ประทานอาหารให้กับเด็ก 4. บันทึกนำ้ หนกั และสว่ นสูงของนักเรยี นเป็นประจำ 5. ดำเนินปฏิบัตกิ จิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ 6.วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล สังเกตพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และแบบประเมินน้ำหนกั - สว่ นสงู

2 7.ผลการดำเนนิ งาน เด็กรับประทานอาหารท่มี สี ารอาหารครบ 5 หมู่ และมสี ขุ นิสัยในการรับประทานอาหารอยา่ งถกู ต้อง 8.รูปภาพกิจกรรม

3 1.ช่ือโครงงาน หนูน้อยวัยใสหา่ งไกลเชอ้ื โรค ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสริมสขุ ภาพ ระดบั ช้นั อนบุ าลปีที่ 2 ครทู ี่ปรึกษา 1.นางสาวลลติ า แคล้วสงู เนนิ 2.นางสาวฐติ นิ นั ท์ กาศเกษม 2.ระยะเวลาทดี่ ำเนินการ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3.หลักการและเหตผุ ล ในปัจจบุ ันมีเด็กเจบ็ ปว่ ยจากโรคตดิ ต่อสู่กนั ได้ง่ายภายในสถานศกึ ษาหรอื ท่ีท่มี บี ุคคลจำนวนมาก ผา่ นการสมั ผสั ซ่งึ “มือ” คืออวัยวะทีใ่ ช้ทำกจิ กรรมตา่ งๆมากมาย จึงเปน็ อวยั วะที่สมั ผัสกับส่งิ ตา่ งๆ อาจนำเชอ้ื โรคเขา้ สู่รา่ งกายได้โดยง่าย เนอื่ งจากในเด็กเล็กมีภูมิตา้ นทานตำ่ จงึ สามารถป่วยไดง้ ่ายโรคที่พบบ่อย ได้แก่ โรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วงเฉยี บพลนั เป็นต้น ซึ่งสง่ ผลกระทบต่อพัฒนาการและ สุขภาพโดยรวมของเดก็ จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก พบวา่ ในแตล่ ะปีมีเด็กมากกว่า ๑.๕ ลา้ นคน ต้องเสยี ชวี ติ จากโรคท้องร่วง อันเปน็ ผลมาจากการขาดสุขอนามยั ทด่ี ี ละเลยการลา้ งมืออยา่ งถูกวิธี จงึ ควรให้ความสำคัญกบั การล้างมอื ดว้ ย สบู่อย่างถูกวธิ ีเปน็ ประจำ เพื่อลดการเจบ็ ป่วยของเด็กในสถานศกึ ษา และเป็นการสง่ เสริมสขุ ภาพผ่านการท่เี ด็ก ได้เกดิ ทักษะความรู้ ความเข้าใจทด่ี ี เก่ียวกบั การลา้ งมือให้สะอาด ผา่ นกจิ กรรมการเรียนการสอน และจะนำไปส่กู ารเปล่ียนแปลงพฤติกรรมข้นั พนื้ ฐาน จนนำไปสกู่ ารเปน็ ผู้มีความตระหนัก และรกั สขุ ภาพ ของตนเองในอนาคต 4.วตั ถุประสงค์ 4.1 เพือ่ เปน็ การกระตนุ้ สรา้ งความตระหนักและให้ความรเู้ กี่ยวกบั การล้างมือเพื่อลดการแพรร่ ะบาย กระจายเชื้อโรคทต่ี ิดต่อในระบบทางเดนิ อาหาร และระบบทางเดนิ หายใจ 4.2 เด็กสามารถล้างมือ 7 ข้ันตอนได้อย่างถกู วิธี 4.3 เพื่อเสรมิ สร้างสุขอนามัยท่ีดใี หก้ บั เด็ก 5.วิธกี ารดำเนินงาน 5.1 วางแผนดำเนนิ งาน สำรวจปญั หา 5.2 สังเกตพฤตกิ รรมในการดูแลสุขภาพของเด็ก 5.3 ใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกับการล้างมือ 7 ขัน้ ตอนอยา่ งถูกวธิ ี และวธิ ีการดแู ลรกั ษาความสะอาดของมือ 5.4 ดำเนินการปฏิบัติกิจกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ

4 6.วิธีการวดั และประเมนิ ผล สงั เกตการลา้ งมอื ของเด็ก และแบบประเมินการตรวจการล้างมอื 7.ผลการดำเนนิ งาน เด็กมคี วามรูเ้ ก่ียวกบั การลา้ งมือ 7 ขน้ั ตอน และสามารถลา้ งมือได้อย่างถกู วิธี 8.รปู ภาพกจิ กรรม

5 1.ชอ่ื โครงงาน ยิม้ สวย ฟันใส หนนู อ้ ยฟนั สะอาด ประเภทโครงงาน โครงงานด้านส่งเสรมิ สุขภาพ ระดบั ชั้น อนบุ าลปีที่ 3 ครูท่ปี รึกษา ๑.นางดุษณยี ์ ปลั่งกลาง ๒.นางสาวปริยาภัทร สายสน่ัน 2.ระยะเวลาท่ดี ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มนี าคม 2567 3.หลกั การและเหตผุ ล ดว้ ยความเจริญทางดา้ นเทคโนโลยี ความทันสมัยทำให้เด็กในยุคนี้เป็นเดก็ ทต่ี ดิ กับการบรโิ ภค นยิ มทั้งทาง ด้านวตั ถุ สิง่ ของ อาหาร เด็กสว่ นมากมักบริโภคอาหารท่ีไมม่ ปี ระโยชน์ เชน่ ขนมขบเค้ียว ทอฟฟ่ี ชอ็ คโกแลต ขนมหวานตา่ ง ๆ การท่เี ดก็ ทานอาหารเหลา่ นีเ้ ข้าไปจะทำให้เด็กมปี ัญหาเรื่องฟนั ผแุ ละสภาวะ เหงือกอักเสบ ซ่งึ ปญั หานม้ี ักเกดิ ขน้ึ กบั เด็กปฐมวยั เป็นส่วนมากและเกดิ จากพฤตกิ รรมการเล้ียงดูของผู้ปกครอง และผ้เู ลี้ยงดู เน่อื งจากการรักษาโรคฟนั ผุในเด็กปฐมวัยทำได้ยาก เพราะเด็กให้ความรว่ มมือน้อย แนวทางทเี่ หมาะสม สำหรบั เด็กกล่มุ นี้ ควรเน้นไปทีก่ ารป้องกนั การเกดิ ฟันผุต้งั แต่ฟนั เริม่ ขน้ึ ซ่ึงสามารถป้องกัน ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ หากไดร้ ับการดูแลอย่างถูกวธิ ี ชว่ ยให้สามารถเกบ็ รักษาฟันใหม้ ีสุขภาพดีและใช้งานได้ เด็กปฐมวัยยงั ไมส่ ามารถ ดูแลตัวเองได้มากนกั ในการพัฒนาด้านใด ๆ กต็ ามเด็กวยั นี้ตอ้ งการความ ชว่ ยเหลือสนับสนุนเปน็ อย่างมาก จากพ่อแม่ผ้เู ล้ยี งดู ซ่ึงบุคคลเหล่านเ้ี ปน็ ผ้ทู มี่ บี ทบาทในการดแู ลเอาใจใสแ่ ละ สรา้ งพฤติกรรมทถี่ ูกต้องใหแ้ ก่เดก็ จงึ เหมาะแก่การปลูกฝังและส่งเสรมิ ดา้ นการดูแลทันตสขุ ภาพ การทจ่ี ะ ปลกู ฝังใหเ้ ด็กรกั การแปรงฟนั น้ัน เปน็ สิ่งจำเปน็ สิ่งทจ่ี ะชว่ ยให้ปัญหาฟนั ผุลดนอ้ ยลงการทเ่ี ด็กจะปฏิบตั ไิ ด้อยา่ งสมำ่ เสมอตรวจดคู วามสะอาดของชอ่ ง ปากเด็กทกุ คร้งั การดูแลสุขภาพชอ่ งปากตงั้ แต่เยาว์วยั เปน็ ส่ิงสำคญั อย่างยิ่ง เพ่ือใหเ้ ดก็ เตบิ โตมี สุขภาพฟันที่แขง็ แรง และสวยงาม จึงได้เลง็ เหน็ ถงึ ความสำคัญในการดแู ลสุขภาพช่องปากเดก็ ปฐมวยั จึงไดจ้ ัดทำโครงงาน ยิม้ สวย ฟันใส หนนู อ้ ยฟันสะอาดเพื่อใหผ้ ูป้ กครองตระหนักถึงการมีทันตสุขภาพท่ีดีของเดก็ ตั้งแตเ่ ยาว์วัยสง่ เสรมิ การสรา้ งสขุ นสิ ยั ทถี่ กู ต้องในการบริโภคเลอื กอาหารท่มี ปี ระโยชน์ตอ่ สุขภาพ และเด็กปฐมวัยมปี ัญหาฟันผุลดลง 4.วัตถปุ ระสงค์ 4.1.เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจ ในการเลือกบริโภคอาหารทเ่ี หมาะสมแก่เด็กปฐมวยั 4.2.เพอื่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ในการดแู ลสุขภาพชอ่ งปาก และแปรงฟนั เด็กปฐมวยั ได้อยา่ งถูกวธิ ี 4.3.เพือ่ ให้เด็กมีสขุ ภาพฟันท่ีแขง็ แรง และมีฟันผลุ ดลง 5.วธิ กี ารดำเนนิ งาน 5.1 วางแผนดำเนินงาน สำรวจปญั หา 5.2 สังเกตพฤติกรรมในการดูแลสขุ ภาพของเด็ก 5.3 ให้ความรู้เกยี่ วกบั วิธกี ารแปรงฟนั ท่ีถูกต้อง และให้เด็ก ๆ เรยี นร้ผู ลของการไม่ดแู ลรักษาฟัน

6 5.4 ดำเนินการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ 6.วธิ กี ารวดั และประเมินผล สงั เกตการล้างมือของเด็ก และแบบประเมนิ การตรวจฟัน 7.ผลการดำเนนิ งาน เด็กมีความรเู้ กี่ยวกับขน้ั ตอนการแปรงฟัน และสามารถแปรงฟนั ได้อยา่ งถกู วธิ ี 8.รปู ภาพกจิ กรรม

7 1.ช่อื โครงงาน มอื สวย เล็บใส ปลอดภัยไร้เช้ือโรค ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ครูท่ีปรกึ ษา ๑.นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ๒.นางสาวจารวุ รรณ อสุ สาสาร ๓.นางสาวสกุ ญั ญา ใจมน่ั คง 2.ระยะเวลาทด่ี ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3.หลกั การและเหตผุ ล เล็บเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกาย ที่ปกคลุมบริเวณปลายนิ้วมือและนิ้วเท้า มีหน้าที่ช่วยป้องกันอันตรายท่ี อาจเกิดขึ้นกับปลายนิ้ว ช่วยให้นิ้วมือหยิบและฉีกวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้ ช่วยในการเคลื่อนไหวของมือ และเท้า เป็น แหล่งบ่งบอกถึงภาวะความเจ็บป่วย ของโรคบางชนิด การดูแลความสะอาดเล็บมือของเด็กในวัยเรียนจึงเป็นสิ่ง สำคัญเพราะเล็บเป็นอวัยวะที่ต้องดูแลทำสะอาด หากเล็บขาดการดูแลรักษาความสะอาด อาจจะทำให้เกิดโรค อ่นื ๆตามมา เช่น โรคเชอื้ ราทีเ่ ลบ็ จมูกเล็บอักเสบ เลบ็ กร่อน เปน็ ตน้ นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 สำรวจพบว่าสว่ นใหญ่เล็บมอื ดำและยาว และยังขาดความรคู้ วามเข้าใจใน การดูแลทำความสะอาดเล็บมือให้ถูกสุขลักษณะ การรับประทานอาหารอาหารให้เพื่อสุขภาพเล็บดี การตัดเล็บที่ ถูกวิธี เป็นต้น จึงได้จัดทำโครงการมือสวย เล็บใส ปลอดภัยไร้เชื้อโรคโดยมุ่งหวังให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเห็น ความสำคญั ของการดูแลรักษาความสะอาดเล็บ ทีจ่ ะช่วยปอ้ งกันการเกดิ โรคที่เกี่ยวกับเล็บและลดการแพร่เช้ือโรค ที่อยูใ่ นเล็บ 4.วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมีความร้เู ก่ยี วกบั การดูแลรกั ษาความสะอาดของเลบ็ 2.เพอ่ื ให้นักเรยี นสามารถรักษาดแู ลความสะอาดเล็บของด้วยตนเองได้ 5.วิธกี ารดำเนินงาน 1.วางแผนดำเนนิ งาน สำรวจปญั หา 2.สงั เกตพฤติกรรมในการดูแลทำความสะอาดเลบ็ ของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 3.ให้ความรกู้ ับนักเรยี นเกีย่ วกับวธิ ีดูแลรกั ษาสุขภาพของเล็บ 4.ตรวจเลบ็ นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 5.ดำเนนิ การทำความสะอาดเลบ็ โดยการตัดใหส้ ้นั

8 6.วิธีการวัดและประเมินผล แบบประเมินการตรวจเลบ็ 7.ผลการดำเนินงาน นกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เลบ็ ส้นั และสะอาด 8.รูปภาพกจิ กรรม

9 1.ช่ือโครงงาน ห้องเรยี นสะอาด ปลอดภยั มวี ินัยด้วยมือเรา ประเภทโครงงาน โครงงานดา้ นสง่ เสริมสขุ ภาพ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 2 ครูทป่ี รกึ ษา 1 นางณฐั นันท์ เสริมศาสตร์ 2 นางสาวหทัยรตั น์ ราชเสนา 2.ระยะเวลาทด่ี ำเนินการ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3 ท่ีมาและความสำคัญของปัญหา “ห้องเรยี น” เป็นพื้นทสี่ ่วนรวมท่ีนกั เรยี นในแตล่ ะชนั้ ต้องใช้รว่ มกนั ไม่เพียงเปน็ ของผใู้ ดคนใดคนหน่งึ ดังนน้ั ห้องเรยี นควรเป็นพ้นื ท่ี ทมี่ ีความสะอาด ปลอดภยั น่าเรียนและทุกคนภายในชั้นเรยี นตอ้ งมี วินยั ช่วยกันดูแล จากการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ พบว่านักเรียนไม่ค่อยเก็บวัสดุอุปกรณข์ อง ตนเอง ท้งิ ดินสอ ทง้ิ เศษกระดาษตามซอกเกา้ อ้ี ที่พน้ื และไม่จดั เก้าอ้ใี หเ้ ปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย ไม่เกบ็ ของ ใชใ้ ห้เรียบร้อย และนักเรยี นทำความสะอาดหอ้ งเรยี นไมส่ ะอาด เพราะนักเรียนไมช่ ว่ ยเหลือกัน รบี กลบั บ้าน มนี ักเรยี นทำความสะอาดเพียงไม่ก่ีคนในแตล่ ะวนั แม้จดั เวรประจำวนั และนกั เรียนขาดความ มีจติ อาสา จงึ ทำให้หอ้ งเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี2 ไมส่ ะอาด ไมเ่ ปน็ ระเบียบ และมบี างมุมท่ีมีขยะหลงเหลอื อาจทำ ใหเ้ กิดเชอ้ื โรคและนำมาซ่งึ ความไม่ปลอดภัยของตวั นกั เรยี นเอง ดังนัน้ นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 มีความสนใจท่จี ะทำให้ปัญหาดงั กล่าวหมดไป จงึ ได้จดั ทำโครงงาน เร่อื ง “ห้องเรยี นสะอาด ปลอดภยั มวี นิ ยั ด้วยมือเรา”ข้ึน เพ่ือให้นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) มีความรบั ผิดชอบ มีวนิ ัยต่อหน้าที่ และหอ้ งเรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 มคี วามสะอาดเรียบรอ้ ย ปลอดภยั นา่ อยู่ นา่ เรียน 4 วตั ถุประสงค์ 4.1 ด้านความรู้ (Knowledge) เพ่ือใหน้ กั เรยี นมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกบั ความรบั ผดิ ชอบของ นกั เรยี น 4.2 ด้านกระบวนการปฏิบัติ (Process)เพ่ือให้นักเรยี นช่วยกันรักษาความสะอาดของห้องเรยี นและทง้ิ ขยะให้ลงถังและมีการฝึกความรับผดิ ชอบหนา้ ที่เวรประจำวนั ดว้ ยจิตอาสา 4.3 ด้านเจตคติ (Attitude) เพือ่ ปลูกฝงั ความรบั ผดชอบ สร้างความตระหนักและจิตสำนกึ ในความรับผดิ ชอบให้กบั นักเรยี น 5 ปัญหา ห้องเรยี น ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ไมส่ ะอาดทำให้เป็นบอ่ เกดิ ของเชื้อโรค 6 สาเหตุของปัญหา

10 5.1 นกั เรียนไม่ท้ิงขยะลงถงั 5.2 นกั เรียนทำเวรประจำวันไม่สะอาด นกั เรยี นขาดจติ อาสา 5.3 นักเรยี นเรยี นเสรจ็ แลว้ ไม่เกบ็ ของใชใ้ หเ้ รยี บร้อย 7 กลุ่มเป้าหมาย - เชิงปริมาณ : นักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จำนวน 70 คน - เชงิ คุณภาพ : นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) มคี วามรบั ผิดชอบ มีจิตอาสาชว่ ยกันทำความสะอาด ไม่ท้ิงเศษขยะในห้องเรียน และห้องเรยี นมคี วามสะอาดเรยี บร้อย - เป้าหมายระยะสนั้ (ระยะเวลา 3 เดือน) นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 โรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) มีจิตอาสาช่วยกันทำความสะอาด ไมท่ ิ้งเศษขยะในห้องเรยี น - เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา 6 เดือน) นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ชว่ ยกนั ทำความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะในหอ้ งเรียน ห้องเรยี นมีความสะอาดเรยี บรอ้ ยเป็นประจำทกุ วนั 8 วธิ กี ารแกไ้ ขปัญหา 1 สร้างความตระหนักและจิตสำนึกในความรับผดิ ชอบให้กับนักเรยี น 2 ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดของห้องเรียนและทิ้งขยะให้ลงถัง 3 ฝกึ ความรับผิดชอบหนา้ ทเ่ี วรประจำวันดว้ ย จติ อาสา 4 ผ้บู รหิ าร และครูเป็นแบบอยา่ งที่ดใี ห้กับนักเรียน 9. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 9.1 วธิ กี ารวัดผล วิธีการประเมิน : การสงั เกต 9.2 เครื่องมือการวัดผล เครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมิน : แบบสงั เกต 9.3 ช่วงระยะเวลา ชว่ งเวลาการประเมิน : สปั ดาหล์ ะ 1 ครั้ง

11 รูปภาพกจิ กรรม

12 1.ชื่อโครงงาน มือสะอาด ปราศจาคโรค ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสริมสุขภาพ ระดับชัน้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ครูท่ีปรกึ ษา ๑.นางสาวสาวติ รี หม่ืนหาญ ๒.นางสาวจารวี อาจเดช 2.ระยะเวลาทีด่ ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มนี าคม 2567 3.หลักการและเหตผุ ล ในปัจจุบนั มเี ช้ือในปัจจบุ ันมีเชื้อโรคมากมายทสี่ ามารถตดิ ต่อผา่ นการสมั ผสั ซึ่ง “มอื ’’ คือ อวยั วะที่ใช้ทำกจิ กรรมตา่ งๆมากมายไม่ว่าจะเปน็ การล้างหนา้ อาบน้ำ แปรงฟัน สมั ผัสผูอ้ น่ื รวมทง้ั หยิบอาหารเขา้ ปาก จากข้อมลู ของกระทรวงสาธารณสขุ พบว่า คนไทยป่วยจากเชอื้ โรคที่ตดิ มากบั มือสูงขนึ้ เชน่ โรคอุจจาระร่วง โรคไขห้ วดั ใหญ่ โรคตาแดง โรคอสี กุ อีใส และผลการวจิ ัยกรมสนบั สนุน บรกิ ารสุขภาพ ในปี 2557 คนไทยร้อยละ 88 ไม่ล้างมือหลงั ขับถา่ ย การล้างมือมคี วามสำคัญกบั ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะการท่จี ะต้องใชช้ วี ติ อยกู่ บั คนหมูม่ าก เช่น ในโรงเรียนและศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก ตอ้ งใช้ของรว่ ม กันอยา่ งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท้ังลกู บิดประตู เสาหรือราวบันได เปน็ ต้น ดงั น้ัน การเริ่มต้นป้องกันโรคตา่ งๆ ด้วยตัวเองโดยการล้างมือจงึ เปน็ ส่ิงท่ีสำคัญ นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่๓ จึงเห็นความสำคญั ที่ตอ้ งลา้ งมือท่ีถกู วธิ ี เพ่ือสุขอนามัยทแ่ี ข็งแรง จึงได้จดั ทำโครงการมือสะอาด ปราศจาคโรค โดยมุง่ หวงั ให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเหน็ ความสำคัญ ของการดแู ลรักษาให้มือสะอาด ห่างไกลโรคตดิ ต่อ เพื่อกลุ่มเป้าหมายไดร้ บั ความรู้ เกย่ี วกับการลา้ งมือ 7 ข้นั ตอน เพ่อื ลดการแพร่ระบาดการกระจายของเชื้อโรคท่ีตดิ ต่อท่มี ากับมอื ต่อไป 4.วตั ถุประสงค์ 1.เพ่ือใหน้ ักเรียนไดร้ ับความรู้ เก่ยี วกับการลา้ งมือ 7 ข้นั ตอนเพือ่ ลดการแพระ่ กระจายเชื้อโรคที่ ตดิ ต่อท่ีมากบั มอื 2.เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมีทกั ษะเก่ียวกบั การลา้ งมอื ท่ีถูกตอ้ ง 5.วธิ ีการดำเนนิ งาน 1.วางแผนดำเนนิ งาน สำรวจปญั หา 2.สงั เกตพฤตกิ รรมในการดูแลสุขภาพของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 3.ใหค้ วามรูก้ บั เพือ่ นนักเรยี นเกยี่ วกบั การลา้ งมอื วิธกี ารดแู ลรกั ษาความสะอาดของมือที่ถูกต้อง

13 6.วิธกี ารวัดและประเมินผล แบบประเมนิ การตรวจการล้างมอื 7.ผลการดำเนินงาน นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ลา้ งมอื สะอาดและมีความรเู้ กย่ี วกับการล้างมือ 7 ข้ันตอนในการดูแลรกั ษา ความสะอาดของมืออยา่ งถูกวธิ ี 8.รูปภาพกิจกรรม

14 1.ชื่อโครงงาน เหาหาย สบายหัว ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ครูท่ีปรกึ ษา ๑.นางสาววรรณนษิ า พุ่มอุไร ๒.นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวิเศษ 2.ระยะเวลาทีด่ ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มนี าคม 2567 3.หลักการและเหตุผล โรคเหาเปน็ โรคท่พี บกันบ่อยมากในเด็กนกั เรยี น การดแู ลความสะอาดรา่ งกายในเด็กวัยเรียนเปน็ สง่ิ สำคัญเฉพาะอย่างย่งิ ความสะอาดบรเิ วณศรี ษะทัง้ น้ี เหาเป็นแมลงขนาดเล็กไมม่ ปี ีก เปน็ ตัวเบียดเบยี น กดั หนงั ศีรษะและดูดเลือดเป็นอาหารโดยอาศัยบนศีรษะที่ไม่สะอาด เหามักจะระบาดและแพร่กระจาย ในกล่มุ นกั เรียนก่อนประถมและประถมศึกษา ซึง่ อยู่ในชว่ งอายรุ ะหว่าง 4-14 ปเี หาเป็นโรคทีก่ ่อใหเ้ กิด ความรำคาญ ทำให้ขาดสมาธใิ นการเรยี นและเป็นทนี่ า่ รงั เกียจ ของสังคมรวมทั้งก่อให้เกดิ ภาวะโลหิตจางไดด้ ้วย โดยมาก นกั เรยี นทีเ่ ป็นเหามักเปน็ ผทู้ ่ีมีสขุ วิทยาสว่ นบคุ คลไม่ถกู ต้อง ประกอบกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจท่ฝี ดื เคอื ง เหาเป็นโรคทร่ี ักษาได้ง่ายด้วยการดแู ลรักษาความสะอาดของศีรษะอยา่ งสมำ่ เสมอแต่เนื่องจากเหาสามาร ถตดิ ต่อไดง้ ่ายทั้งระหว่างนกั เรียนดว้ ยกนั และนักเรียนกับบุคคลในครอบครัวการแกป้ ัญหาเพื่อตัดวงจรการระบาดข องโรคเหาในโรงเรยี นคือต้องกำจัดเหาและปฏบิ ัติตนเองอยา่ งถูกต้องจริงจังเกี่ยวกบั การรักษาความสะอาดของเส้น ผมและหนงั ศีรษะ นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่๔ จงึ เห็นความสำคญั ท่ีต้องกำจัดเหา และใหส้ ขุ ศกึ ษาแกน่ ักเรยี น เพ่ือสขุ อนามัยท่ีแข็งแรง จงึ ได้จัดทำโครงการเหาหาย สบายหวั โดยม่งุ หวังให้นักเรียนกล่มุ เปา้ หมายเหน็ ความ สำคัญของการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายและศรี ษะ ทจี่ ะช่วยปอ้ งกนั โรคเหาและลดการแพรร่ ะบาด ของโรคเหาต่อไป 4.วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมีความรเู้ กี่ยวกับการดแู ลรักษาความสะอาดของศีรษะ 2.เพ่อื รักษาและควบคุมการระบาดของโรคเหา 3.เพื่อให้นักเรียนสามารถกำจัดเหาด้วยตนเองได้ 5.วิธกี ารดำเนนิ งาน 1.วางแผนดำเนินงาน สำรวจปัญหา 2.สังเกตพฤตกิ รรมในการดูแลสุขภาพของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 3.ใหค้ วามร้กู ับเพอื่ นนักเรยี นเก่ยี วกบั โรคเหา วิธีการดูแลรกั ษาความสะอาดของรา่ งกายและศีรษะ

15 4.ตรวจเหาโดยใชม้ อื ซ้ายเปิดผมไปทดั ไว้ ด้านหลังหูซ้าย หนั หน้าไปทางขวา และใช้มือขวาเปดิ ผมไปทดั ไว้ ด้านหลงั หขู วา หนั หนา้ ไปทางซ้าย 5.ดำเนินการรักษาโรคเหา 6.วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล แบบประเมนิ การตรวจเหา 7.ผลการดำเนินงาน นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 ไม่มเี หา และมีความรู้ในการดแู ลรักษาความสะอาดของศีรษะ 8.รูปภาพกิจกรรม

16 1.ชื่อโครงงาน ฟนั สวย ย้ิมสะอาด ประเภทโครงงาน โครงงานดา้ นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดับช้ัน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ครทู ่ปี รึกษา 1.นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา 2.นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ 3. นางสาวเสาวรักษ์ ชมช่ืน 2.ระยะเวลาทดี่ ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3.หลักการและเหตผุ ล การดแู ลสุขภาพช่องปากต้งั แต่เยาว์วยั เป็นสิ่งสำคญั อยา่ งยิ่ง เพอ่ื ใหเ้ ด็กเตบิ โตมีสุขภาพฟนั ท่ีแข็งแรงและ สวยงาม ดว้ ยความเจริญทางด้านเทคโนโลยคี วามทนั สมัยทำใหเ้ ด็กในยุคนีเ้ ป็นเดก็ ทต่ี ิดกับการบรโิ ภคนิยม ทัง้ ทางด้านวตั ถุ สงิ่ ของ อาหารเด็กสว่ นมากมักบรโิ ภคอาหารท่ไี มม่ ีประโยชนเ์ ช่น ขนมขบเค้ียว ทอฟฟ่ี ช็อคโกแลต ขนมหวานต่างๆ การที่เด็กทานอาหารเหลา่ น้เี ขา้ ไปจะทำให้เดก็ มีปัญหาเรื่องฟนั ผุ ซ่งึ ปัญหานมี้ ักเกดิ ข้ึนกับ เดก็ เปน็ ส่วนมาก การทจ่ี ะปลูกฝงั ใหเ้ ด็กรักการแปรงฟันนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น ส่ิงท่จี ะชว่ ยใหป้ ัญหาฟันผุลดน้อยลง การท่เี ด็กจะปฏบิ ตั ิได้อยา่ งสม่ำเสมอนน้ั ต้องมีแรงจงู ใจหรอื การกระทำร่วมกนั เป็นกลุ่ม นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จึงเห็นความสำคญั ของการแปรงฟนั และใหส้ ขุ ศึกษาแกน่ ักเรยี นเพ่ือ สุขอนามัยทีแ่ ข็งแรง จงึ ไดจ้ ัดทำโครงการฟันสวย ย้มิ สะอาด โดยมุง่ หวงั ให้นกั เรียนกลุ่มเปา้ หมายเหน็ ความสำคัญ ของการดแู ลรกั ษาความสะอาดของช่องปาก ที่จะช่วยปอ้ งกันการเกดิ ฟนั ผุ ฟันเหลือง ของนักเรียนตอ่ ไป 4.วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดภายในชอ่ งปากและฟนั 2.เพอื่ ให้เดก็ มีสุขภาพฟนั ที่แข็งแรง 3.เพ่ือให้เดก็ ดูแลสขุ ภาพของตัวเอง 5.วธิ ีการดำเนนิ งาน 1.วางแผนจัดทำโครงการ 2.สำรวจจำนวนเด็กในชว่ งชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 3.สำรวจสถานท่ีในการทำกจิ กรรม 4.จัดหาอุปกรณ์ เช่น แปรงสีฟัน ยาสฟี นั แกว้ นำ้ 5.สรุปการดำเนนิ งานและประเมนิ ผล ๖.วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล แบบประเมนิ สุขภาพชอ่ งปากของนักเรยี น 7.ผลการดำเนนิ งาน นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ฟันไมผ่ ุ และมีความรูใ้ นการดแู ลรกั ษาความสะอาดของชอ่ งปาก

17 8.รปู ภาพกจิ กรรม

18 1. ชื่อโครงงาน ขยบั กายสบายชวี ี ดดู สี มวัย ใส่ใจสขุ ภาพ ประเภทโครงงาน โครงงานด้านสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 ครทู ป่ี รึกษา 1. นางสาวอมรรัตน์ ปากครอง 2. นางสาวอัญชลี อ่นุ ทะยา 3. นางสาวกนกพร บุญแซม 2. ระยะเวลาทีด่ ำเนนิ การ 3 กรกฎาคม 2566 – 29 มีนาคม 2567 3. หลกั การและเหตุผล เนือ่ งจากการดำเนนิ ชวี ิตของคนในปจั จุบัน อยบู่ นโลกของเทคโนโลยี โลกของโซเชียล ทำใหห้ ลายคน มองขา้ มการออกกำลังกาย หลายคนอา้ งไม่มีเวลา บางคนเข้าใจว่าการเปล่ยี นแปลงอิริยาบถในชวี ิตประจำวันเป็น การออกกำลงั กาย จงึ เป็นเหตุให้สุขภาพทงั้ ทางด้านร่างกาย และจติ ใจอ่อนแอลง และอาจประสบกับปญั หาการ เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคต่าง ๆ ตามมา เชน่ ความดนั โลหติ สงู เบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเรง็ ความเครียด โรคซึมเศร้า ฯลฯ ดงั น้ัน ได้จัดทำโครงการออกกำลังกายเพื่อสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ซึง่ เหน็ วา่ การออกกำลังกายด้วยการเตน้ แอ โรบคิ เป็นวิธีที่เหมาะสมโดยการกระตุ้น ใหเ้ กดิ ความตระหนกั และตื่นตวั เห็นความสำคญั ของการออกกำลงั กายจงึ เปน็ สิง่ จำเป็นอย่างย่ิงเป็นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ล้ว ยังช่วยเสริมสร้างใหร้ ่างกายแขง็ แรง ผอ่ นคลาย อารมณ์ เสรมิ สรา้ งความสามัคคี และทีส่ ำคัญการออกกำลังกายยังลดความเส่ียงต่อการ เกิดโรคดังกล่าวด้วย ด้วย ความตระหนักถึงความสำคญั ดังกลา่ วจึงไดจ้ ดั ทำ โครงการขยบั กายสบายชีวี ดดู สี มวยั ใสใ่ จสุขภาพ เพ่ือเป็นการ สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ออกกำลังกายอยา่ งต่อเน่ือง รวมถึงเปน็ การดแู ลรักษาสุขภาพเป็น เบือ้ งตน้ ในการป้องกันโรคตา่ ง ๆ เปน็ การสง่ เสริมสุขภาพให้แข็งแรงปลอดโรค หา่ งไกลจากยาเสพตดิ และเพ่อื พฒั นาผูเ้ รียนให้มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทม่ี ุ่งเน้นให้มี สมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน ซ่ึงเปน็ พื้นฐานในการดำเนินชวี ติ ได้อย่างปกติสขุ 4. วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นมีสุขภาพรา่ งกาย จิตใจแข็งแรง 2. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเป็นเด็กทมี่ ีอารมณ์แจ่มใส รา่ เริงสมวยั 3. เพอ่ื ให้นักเรียนได้ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 5. วธิ กี ารดำเนนิ งาน 1. วางแผนดำเนินงาน สำรวจปญั หา 2. มีการช่ังน้ำหนัก วดั ส่วนสงู นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ทกุ เดือน 3. ให้ความรูก้ ับนกั เรียนเก่ยี วกับวิธีการดูแลรกั ษาสขุ ภาพร่างกาย 4. ดำเนินกจิ กรรมการออกกำลังกายโดยการเตน้ แอโรบคิ ในทุกเชา้ ของวนั พุธ และมกี ารเล่นกีฬาในช่วงพัก กลางวนั 6. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล

19 - แบบประเมินสุขภาพ - สมุดบนั ทึกน้ำหนกั สว่ นสูงนกั เรยี น 7. ผลการดำเนนิ งาน - นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 มสี ขุ ภาพร่างกาย จิตใจแข็งแรง เป็นเดก็ ที่มีอารมณ์แจ่มใส ร่าเรงิ สมวยั 8. ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั 1. นักเรียนมีสขุ ภาพสมบูรณ์ทงั้ ทางกายและทางจิตใจ 2. นักเรียนเปน็ เด็กท่ีมีอารมณ์แจม่ ใส ร่าเรงิ สมวัย 3. นักเรยี นได้ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชนแ์ ละห่างไกลยาเสพตดิ 4. นกั เรยี นเกดิ ความสามัคคีในหมคู่ ณะ 9. รปู ภาพกจิ กรรม

20