Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรภาษาอังกฤษปรับใหม่ 2564

หลักสูตรภาษาอังกฤษปรับใหม่ 2564

Published by Teacher.Orawan Pudmon, 2021-09-01 05:41:44

Description: หลักสูตรภาษาอังกฤษปรับใหม่ 2564

Search

Read the Text Version

รวมท้ังรายวิชา 92 40 100 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เติม ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

93 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม รหัสวชิ า อ 14201 ชอื่ รายวิชา ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 40 ชว่ั โมง เข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำเรื่องราว บทสนทนา นิทาน สามารถถ่ายโอนเป็นภาพหรือสัญลักษณ์ อ่านออกเสียงคำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง และใช้ถ้อยคำ น้ำเสียงได้ เหมาะสม ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำแสดงความต้องการ แสดงความรู้สึก แสดงความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ ในสถานการณ์ง่าย ๆ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ วั ซึ่งอยู่ในทอ้ งถน่ิ ของตน โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้เพ่ือการสื่อสาร ฝึกการใช้ภาษาเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เห็นประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคำสงั่ คำขอร้อง และคำแนะนำง่าย ๆ ตามท่ีฟังและอ่านไดถ้ กู ต้อง ๒. เขา้ ใจเรื่องราว บทสนทนา นิทาน สามารถถ่ายโอนเปน็ ภาพหรอื สัญลกั ษณ์ได้ ๓. พดู /อา่ นออกเสียงคำ วลี ประโยค ข้อความส้ัน ๆ บทสนทนาได้ถูกต้องตามหลักการออกเสยี ง ๔. ใช้ภาษาองั กฤษในการสื่อสารระหว่างบคุ คล ให้คำแนะนำ แสดงความรสู้ ึก ตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ ง่าย ๆ ขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกล้ตัว ๕. ใช้ภาษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

94 โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วิชา อ 14201 ชื่อรายวิชา ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 40 ช่วั โมง ลำดับที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั (ข้อท่ี) (ช่วั โมง) ๑๐ ๑ I can do it ข้อ ๑ ๖ ๑๐ ๒ My body ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ๖ ๑5 ๓ Weather and seasons ข้อ ๔ ขอ้ ๕ ๖ 15 สอบกลางปี ขอ้ ๑ ๑๐ ข้อ ๒ ๒ ๔ Clothes ข้อ ๓ ๖ ๑๐ ข้อ ๔ ๕ Daily activities ข้อ ๕ ๖ ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวัสดริ์ าษฎร์บำรุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ลำดบั ที่ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา 95 (ข้อท)่ี (ชวั่ โมง) นำ้ หนัก ๖ Visiting the farm ข้อ ๑ ๖ ๑5 ข้อ ๒ ขอ้ ๓ ๒ 15 ขอ้ ๔ ๗๐ ข้อ ๕ ๔๐ 30 ๑๐๐ สอบปลายปี รวมระหวา่ งเรยี น รวมคะแนนสอบ รวม หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

96 คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

97 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ รหัสวชิ า อ 15201 ชอ่ื รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่ือสาร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง เข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ เข้าใจความหมายของคำ กลุ่มคำ และประโยค รูปประโยคและโครงสร้าง ประโยค โดยสามารถตอบคำถามจากการฟังหรอื อ่านข้อความ บทสนทนา เรือ่ งสัน้ เร่อื งเลา่ นทิ าน บทกลอนสัน้ ๆ อ่านออกเสียงคำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง และการใช้ถ้อยคำ น้ ำเสียง การพูดและเขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ แสดงความต้องการ แสดงความรู้สึก ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ ในสถานการณ์ง่าย ๆ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัวซึ่งอยู่ในท้องถิ่นของตน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ เพื่อการสื่อสาร ฝึกการใช้ภาษาเพื่อให้มีความรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มีทักษะทางภาษา เห็นประโยชน์ในการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ และนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัติตามคำสง่ั คำขอร้อง และคำแนะนำงา่ ย ๆ ตามท่ฟี ังและอ่านไดถ้ ูกต้อง ๒. พูด/อา่ นออกเสยี งคำ วลี ประโยค ขอ้ ความสนั้ ๆ บทสนทนา บทอ่าน ได้ถกู ต้องตามหลักการอา่ นออกเสยี ง ๓. ใช้ประโยคภาษาอังกฤษในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล และแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง ๔. ตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านข้อความ บทสนทนา เร่ืองสัน้ เรอ่ื งเล่า นิทาน บทกลอนส้นั ๆ ได้ถูกต้อง ๕. ใช้ภาษาองั กฤษได้ตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

98 โครงสรา้ งรายวิชา รหัสวชิ า อ 15201 ชอ่ื รายวิชา ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชั่วโมง หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั (ขอ้ ท่)ี (ช่ัวโมง) ๑ Our favorite dishes ขอ้ ๑ 6 10 ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ๒ It’s more interesting ข้อ ๑ 6 10 ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ๓ Safety first ขอ้ ๑ 7 15 ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ สอบกลางปี 1 15 ๖ Having fun with activities ขอ้ ๑ 6๗ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ๘ How healthy are you? ขอ้ ๑ 6๘ ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ๙ Important days ขอ้ ๑ 7๘ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา 99 (ข้อท่ี) (ช่ัวโมง) นำ้ หนัก สอบปลายปี รวมระหว่างเรยี น ข้อ ๔ รวมสอบปลายปี ขอ้ ๕ รวม 1 15 ๗๐ 30 ๔๐ ๑๐๐ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

100 คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เติม ภาษาอังกฤษเพ่ือการสอ่ื สาร ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

101 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รหสั วชิ า อ16201 ชอ่ื รายวิชา ภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 40 ชัว่ โมง เขา้ ใจคำสั่ง คำขอร้อง รูปประโยคและโครงสร้างประโยค คำ กลมุ่ คำ และประโยค วเิ คราะห์และสรปุ เร่ืองราว บทอ่าน บทสนทนา เรื่องสั้น เรื่องเล่า นิทาน บทกลอนสั้น ๆ สำนวนที่ใช้ในเทศกาล การพูดและการเขียนโต้ตอบ ในการสือ่ สารระหวา่ งบุคคล ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ แสดงความตอ้ งการ แสดงความร้สู ึก ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัวซึ่งอยู่ใน ทอ้ งถิ่นของตน โดยใชก้ ระบวนการเรียนรู้เพื่อการส่ือสาร ฝึกการใชภ้ าษาเพื่อให้มีความรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา มที กั ษะทางภาษา เห็นประโยชนใ์ นการเรียนรภู้ าษาองั กฤษ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. วิเคราะหเ์ รอ่ื งและสรุปความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นได้ ๒. ใชป้ ระโยคคำสั่ง คำขอรอ้ ง การขออนญุ าต ประโยคบอกเลา่ ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ตามโครงสรา้ ง ประโยคได้ ๓. ใช้ภาษาองั กฤษในการขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่อื งใกล้ตัวซึ่งอยู่ในท้องถ่ิน ของตนได้ ๔. ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดและเขยี นโตต้ อบและสื่อสารตามสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. ใชภ้ าษาได้ตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

102 โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า อ16201 ชอ่ื รายวิชา ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 40 ช่วั โมง หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั (ข้อท)ี่ (ชัว่ โมง) ๗ ๑ What do you want to be? ข้อ ๑ ๔ ขอ้ ๒ ๒ What can you see? ข้อ ๓ ๔๗ ข้อ ๔ ๓ It was great. ขอ้ ๕ ๕๘ ข้อ ๑ ๔ What did you do on ข้อ ๒ ๕๘ your holidays? ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ๒ ๑๐ สอบกลางปี ขอ้ ๕ ๖ ๑๐ ๕ Out and About! ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ๖ That’s entertainment ขอ้ ๓ ๖ ๑๐ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๑ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ข้อ ๔ ขอ้ ๕ ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา 103 ๗ (ขอ้ ท)ี่ (ชวั่ โมง) น้ำหนัก On Vacation. ข้อ ๓ ๖ ๑๐ รวมระหว่างเรยี น ข้อ ๔ สอบปลายปี ข้อ ๕ รวม ข้อ ๑ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ๗๐ ๓๐ ๔๐ ๑๐๐ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

104 เกณฑก์ ารจบการศึกษา การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยูบ่ นหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือ พัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จน้ัน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะ สำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุก ระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่ แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการ สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การพัฒนาและเรยี นร้อู ยา่ งเต็มตามศักยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา และระดบั ชาติ มรี ายละเอยี ด ดังนี้ ๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมนิ ในกรณีทไี่ ม่ผ่านตวั ชีว้ ดั ใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสรมิ การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา ปรับปรุงและสง่ เสรมิ ในด้านใด นอกจากน้ียงั เป็นข้อมูลใหผ้ ู้สอนใช้ปรับปรงุ การเรียนการสอนของตนด้วย ท้ังนี้โดย สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ัด ๒. การประเมนิ ระดับสถานศึกษา เปน็ การประเมนิ ท่ีสถานศกึ ษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การเรียนของ ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ เรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลก ารจัด การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน ผูป้ กครองและชุมชน ๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

105 ผลสมั ฤทธ์ขิ องผ้เู รยี นดว้ ยขอ้ สอบมาตรฐานทีจ่ ดั ทำและดำเนินการโดยเขตพน้ื ที่การศกึ ษา หรอื ด้วยความร่วมมือกับ หน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน ระดบั สถานศึกษาในเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา ๔. การประเมินระดบั ชาติ เปน็ การประเมนิ คุณภาพผูเ้ รยี นในระดับชาตติ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน สถานศึกษาตอ้ งจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่เี รยี น ในชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เขา้ รับการประเมิน ผลจากการประเมินใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาใน ระดับต่าง ๆ เพอ่ื นำไปใช้ในการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเปน็ ข้อมลู สนับสนุนการ ตดั สินใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตาม สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตำ่ กลมุ่ ผเู้ รียนท่ีมีปญั หาด้านวนิ ัยและพฤติกรรม กล่มุ ผู้เรยี นท่ปี ฏเิ สธโรงเรียน กล่มุ ผู้เรียน ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น หัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสำเรจ็ ในการเรยี น สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บคุ ลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ งทุกฝา่ ยถือปฏบิ ัติร่วมกนั เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรยี น ๑. การตดั สิน การใหร้ ะดบั และการรายงานผลการเรียน ๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนนั้น ผู้สอนตอ้ งคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเปน็ หลัก และต้องเก็บ ข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็ม ตามศกั ยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา (๑) ผ้เู รยี นต้องมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทัง้ หมด (๒) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับการประเมินทกุ ตวั ชีว้ ัด และผ่านตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากำหนด (๓) ผูเ้ รยี นต้องได้รบั การตัดสนิ ผลการเรียนทกุ รายวชิ า (๔) ผู้เรียนต้องไดร้ ับการประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากำหนด ใน การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

106 การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้เลื่อนช้ันได้ แต่หากผู้เรียนไม่ ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจต้ัง คณะกรรมการพจิ ารณาให้เรยี นซำ้ ช้นั ได้ ท้งั นีใ้ ห้คำนงึ ถงึ วฒุ ิภาวะและความรคู้ วามสามารถของผู้เรยี นเปน็ สำคญั ๑.๒ การให้ระดับผลการเรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ในการตัดสนิ เพ่อื ใหร้ ะดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดบั ผลการ เรยี นหรอื ระดบั คุณภาพการปฏิบัติของผเู้ รยี น เปน็ ระบบตัวเลข ระบบตัวอกั ษร ระบบร้อยละ และระบบท่ใี ช้คำ สำคญั สะท้อนมาตรฐาน (1) การให้ระดับผลการเรียน โรงเรยี นกำหนดใหก้ ารตัดสินเพ่อื ให้ระดับผลการเรียนรายวิชาของกลุ่ม สาระการเรียนรู้ ให้ใช้ตวั เลขแสดงระดบั ผลการเรยี นเป็น ๘ ระดบั ดงั นี้ ระดับผลการเรียน ชว่ งคะแนนเป็นร้อยละ ระบบทใี่ ชค้ ำสำคญั สะทอ้ นมาตรฐาน 5 ระดับ 4 ระดบั 2 ระดับ ๔ ๘๐ - ๑๐๐ ดีเยย่ี ม ดเี ยยี่ ม ๓.๕ ๗๕ - ๗๙ ดี ดี ๓ ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ๖๕ - ๖๙ พอใช้ ผ่าน ๒ ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ ๕๕ - ๕๙ ผ่าน ผ่าน ๑ ๕๐ - ๕๔ ๐ ๐ - ๔๙ ไมผ่ ่าน ไม่ผา่ น ไม่ผ่าน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การ ประเมนิ เปน็ ดีเยีย่ ม ดี และผา่ น (2) การสรุปผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น เพอื่ การเลื่อนระดับชนั้ และจบการศึกษา กำหนดเกณฑ์การตัดสนิ เป็น ๔ ระดบั และความหมายของแต่ละระดับดังน้ี หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

107 ดีเย่ยี ม หมายถงึ มผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนท่มี ีคุณภาพดี เลิศอย่เู สมอ ดี หมายถงึ มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคณุ ภาพ เปน็ ท่ยี อมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี นทมี่ ีคณุ ภาพ เปน็ ท่ยี อมรบั แต่ยังมีข้อบกพร่องบางประการ ไมม่ ีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรอื ถา้ มี ไม่ผา่ น หมายถึง ผลงาน ผลงานน้นั ยงั มีขอ้ บกพร่องที่ต้องได้รับการปรบั ปรุงแกไ้ ขหลาย ประการ (3) การสรุปผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ วมทุกคุณลักษณะ เพื่อการเลื่อนระดับช้นั และจบ การศกึ ษา กำหนดเกณฑก์ ารตดั สนิ เป็น ๔ ระดบั และความหมายของแตล่ ะระดับดงั น้ี ดเี ย่ยี ม หมายถงึ นักเรียนปฏบิ ัตติ นตามคณุ ลักษณะจนเป็นนิสยั และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันเพ่ือ ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จำนวน ๕ - ๘ คุณลกั ษณะและไมม่ ีคุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดบั ดี ดี หมายถึง นักเรยี นมีคุณลักษณะในการปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพ่ือให้เป็นการยอมรบั ของสังคม โดยพิจารณาจาก (๑) ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดเี ยี่ยม จำนวน ๑-๔ คุณลกั ษณะและไมม่ ีคณุ ลกั ษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกว่าระดับดี หรือ (๒) ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จำนวน ๔ คุณลักษณะและไมม่ ีคุณลกั ษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กว่าระดับผ่าน หรือ (๓) ได้ผลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๕-๘ คุณลักษณะและไมม่ ีคณุ ลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดับผา่ น ผา่ น หมายถงึ นกั เรียนรบั ร้แู ละปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขท่ีโรงเรียนกำหนดโดยพิจารณาจาก (๑) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น จำนวน ๕-๘ คุณลกั ษณะและไมม่ คี ุณลกั ษณะใด ได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดับผ่าน หรือ (๒) ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๔ คณุ ลักษณะและไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ ประเมนิ ตำ่ กว่าระดับผา่ น ไมผ่ า่ น หมายถึง นักเรียนรับรู้และปฏบิ ัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขที่โรงเรยี นกำหนด โดย พิจารณาจากมีผลการประเมินระดับไมผ่ า่ น ตง้ั แต่ ๑ คณุ ลักษณะ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

108 (4) การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนจะต้องพิจารณาท้งั เวลาการเขา้ ร่วมกิจกรรมอย่างนอ้ ยรอ้ ยละ ๘๐ การปฏบิ ัติกจิ กรรมและผลงานของนักเรียนตอ้ งผา่ นรอ้ ยละ ๗๐ และใหผ้ ลการประเมินเปน็ ผา่ นและไม่ผ่าน โดยใหใ้ ชต้ ัวอักษรแสดงผลการประเมินดังน้ี “ผ” หมายถงึ นักเรียนมีเวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม การปฏิบตั ิกิจกรรมและมีผลงานผ่านเกณฑ์ “มผ” หมายถงึ นักเรยี นมเี วลาการเข้ารว่ มกิจกรรม การปฏิบัตกิ จิ กรรมและมีผลงานไมผ่ า่ น เกณฑ์ ในกรณที ่ีนักเรยี นไดผ้ ลการเรียน “มผ” ให้ครผู ูส้ อนจดั ซ่อมเสรมิ ให้นักเรยี นทำกิจกรรมในส่วนทีน่ กั เรียน ไม่ไดเ้ ขา้ รว่ ม หรอื ไม่ได้ทำจนครบถว้ น แลว้ จงึ เปล่ียนผลการเรียนจากไมผ่ า่ นเป็นผ่าน ท้ังน้ตี ้องดำเนินการให้ เสรจ็ สิน้ ภายในปีการศกึ ษาน้ัน การสอนซอ่ มเสริม เปน็ ส่วนหน่ึงของกระบวนการจดั การเรียนรู้และเป็นการใหโ้ อกาสแก่นักเรียนไดม้ ี เวลาเรียนรู้ส่ิงต่างๆ เพิม่ ขน้ึ จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัดที่กำหนดไว้ การสอนซ่อมเสรมิ เป็นเปน็ การสอนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง กรณีท่ีนักเรียนมีความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คณุ ลกั ษณะ ไม่ เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีโรงเรียนกำหนด การดำเนินการสอนซ่อมเสรมิ นัน้ ใหค้ รผู ู้สอนจดั สอนซ่อมเสรมิ ให้แกน่ ักเรียนเปน็ กรณีพิเศษนอกเหนอื ไปจากการ สอนปกติ เพื่อพัฒนาใหน้ ักเรียนสามารถบรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั เป็นการใหโ้ อกาสแก่นักเรียนได้ เรยี นรแู้ ละพัฒนา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทหี่ ลากหลายและตอบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล ๑.๓ การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรยี นเป็นการส่ือสารใหผ้ ปู้ กครองและผเู้ รียนทราบความกา้ วหนา้ ในการเรยี นรู้ของ ผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจดั ทำเอกสารรายงานให้ผูป้ กครองทราบเป็นระยะๆ หรืออย่าง นอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครัง้ การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเป็นระดบั คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิของผู้เรยี นที่สะท้อนมาตรฐาน การเรยี นร้กู ลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๒. เกณฑ์การจบการศึกษา 2.1 การเลื่อนชนั้ เม่ือสน้ิ ปีการศึกษา นักเรยี นจะไดร้ ับการเลื่อนชนั้ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิตามเกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) นกั เรยี นมีเวลาเรยี นตลอดปีการศกึ ษาไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทัง้ หมด (๒) นักเรียนมีผลการประเมนิ ผ่านทุกรายวิชาพื้นฐานและเพม่ิ เติม (๓) นกั เรียนตอ้ งไดร้ ับการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน การประเมินคณุ ลักษณะอัน พงึ ประสงค์ การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น โดยตอ้ งมผี ลการประเมนิ ในระดบั ผา่ น ทั้งนี้ ถ้านักเรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยและพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อม เสรมิ ได้ ควรผอ่ นผนั ใหเ้ ลื่อนชั้นได้ หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

109 สำหรบั ในกรณีที่พบวา่ มีนักเรียนกลุ่มพิเศษประเภทต่างๆ ทม่ี ีปัญหาในการเรียนรู้ ให้ครูผู้สอน/ ครูประจำชั้น แจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อดำเนินงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ จังหวดั /ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา/หน่วยงานต้นสังกดั โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร หาแนวทางการแก้ไข และพฒั นา ๒.2 เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศึกษา ๑. ผเู้ รยี นเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน จำนวน ๘๔๐ ชัว่ โมง และรายวิชาเพ่มิ เติมจำนวน ๔๐ ช่วั โมง และมีผลการประเมินรายวชิ าพนื้ ฐานผ่านทุกรายวชิ า ๒. ผเู้ รียนต้องมผี ลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ระดบั “ผา่ น” ขึ้นไป ๓. ผ้เู รยี นมีผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ข้นึ ไป ๔. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและได้รับการตัดสินผลการเรียน “ผ่าน” ทุก กิจกรรม 5. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ระดับ ๑ ขึ้นไปทุกรายวิชาพื้นฐาน จึงจะถือ ว่าผา่ นรายวชิ าพืน้ ฐาน สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ดอ้ ยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้คณะกรรมการ ของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศกึ ษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ใน แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ การเทียบโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณตี ่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยน รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ และขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหลง่ การเรียนรู้ อืน่ ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบันการฝกึ อบรมอาชีพ การจัดการศึกษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ท่ี สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกำหนด รายวชิ า/จำนวนหน่วยกิตท่ีจะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั นี้ ๑. พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศึกษา และเอกสารอน่ื ๆ ทใ่ี ห้ขอ้ มูลแสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น ๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนโดยการทดสอบดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ ท้ังภาคความรแู้ ละ ภาคปฏิบัติ ๓. พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิในสภาพจรงิ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

110 การเทยี บโอนผลการเรียนให้เปน็ ไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ัติ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับ พฒั นาการของผเู้ รยี นในดา้ นต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาทีก่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด ๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรยี น เป็นเอกสารแสดงผลการเรยี นและรับรองผลการเรยี นของผ้เู รียน ตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน สถานศกึ ษาจะตอ้ งบันทึกข้อมลู และออกเอกสารนใี้ ห้ผู้เรียน เป็นรายบุคคล เม่ือผเู้ รยี นจบการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖) ๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและ ข้อมลู ของผ้จู บการศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา (ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖) ๒. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาที่สถานศกึ ษากำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เชน่ แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรยี นประจำรายวิชา ระเบยี นสะสม ใบรับรองผลการเรียน และ เอกสารอืน่ ๆ ตามวตั ถุประสงค์ของการนำเอกสารไปใช้ การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เปา้ หมายสำหรบั พฒั นาเด็กและเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง เสริมสรา้ งคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ พัฒนาทกั ษะตา่ งๆ อันเปน็ สมรรถนะสำคัญใหผ้ ู้เรยี นบรรลตุ ามเป้าหมาย ๑. หลกั การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรยี น สามารถพฒั นาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศกั ยภาพ คำนึงถึงความ แตกต่างระหวา่ งบุคคลและพฒั นาการทางสมองเนน้ ให้ความสำคัญทง้ั ความรู้ และคุณธรรม ๒. กระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น เคร่ืองมอื ที่จะนำพาตนเองไปสู่เปา้ หมายของหลักสูตร กระบวนการเรยี นรทู้ จ่ี ำเปน็ สำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

111 เรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ สถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรยี นรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพฒั นาลักษณะนิสัย กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถชว่ ยให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ไดด้ ี บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตร ดงั น้นั ผู้สอน จงึ จำเป็นต้องศึกษาทำความ เข้าใจในกระบวนการเรียนรตู้ า่ ง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจดั กระบวนการเรยี นรูไ้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ ๓. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้ พฒั นาเต็มตามศักยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายท่ีกำหนด ๔. บทบาทของผสู้ อนและผ้เู รียน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดังนี้ . ๔.๑ บทบาทของผู้สอน ๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ทา้ ทความสามารถของผเู้ รยี น ๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น ความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพนั ธ์ รวมทง้ั คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พฒั นาการทางสมอง เพอ่ื นำผ้เู รยี นไปสเู่ ปา้ หมาย ๔) จัดบรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผเู้ รียนให้เกิดการเรียนรู้ ๕) จัดเตรียมและเลือกใชส้ อื่ ใหเ้ หมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถ่นิ เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม มาประยุกตใ์ ช้ในการจดั การเรยี นการสอน ๖) ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นด้วยวิธีการทีห่ ลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของวิชา และระดับพฒั นาการของผูเ้ รยี น ๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการ เรียนการสอนของตนเอง ๔.๒ บทบาทของผู้เรียน ๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

112 ๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา คำตอบหรอื หาแนวทางแก้ปัญหาดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ๓) ลงมือปฏิบัตจิ รงิ สรปุ ส่งิ ทไี่ ด้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความร้ไู ปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ตา่ งๆ ๔) มีปฏิสัมพนั ธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลมุ่ และครู ๕) ประเมินและพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง สือ่ การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้เป็นเคร่อื งมือส่งเสริมสนับสนนุ การจดั การกระบวนการเรียนรู้ ใหผ้ ้เู รยี นเข้าถึงความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มีหลากหลาย ประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อ ควรเลอื กให้มคี วามเหมาะสมกับระดบั พัฒนาการ และลลี าการเรียนรู้ทหี่ ลากหลายของผเู้ รียน การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นท่กี ารศกึ ษา หน่วยงานทเี่ ก่ียวข้องและผมู้ ีหน้าทจ่ี ัดการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ควรดำเนินการดงั น้ี ๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรยี นรู้ท่มี ีประสิทธิภาพท้งั ในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาคน้ คว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรยี นรู้ ระหวา่ งสถานศึกษา ทอ้ งถนิ่ ชุมชน สังคมโลก ๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรบั การศึกษาค้นคว้าของผูเ้ รียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหา สิ่งท่ีมีอยใู่ นท้องถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นสอ่ื การเรียนรู้ ๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผเู้ รยี น ๔. ประเมินคุณภาพของสอ่ื การเรยี นรทู้ ่ีเลือกใชอ้ ย่างเปน็ ระบบ ๕. ศกึ ษาคน้ ควา้ วจิ ัย เพอ่ื พฒั นาส่อื การเรียนรูใ้ ห้สอดคล้องกับกระบวนการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี น ๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ การเรียนรู้เป็นระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมนิ คุณภาพสื่อการเรยี นรู้ท่ีใช้ในสถานศกึ ษา ควรคำนึงถึงหลักการ สำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ การจัดประสบการณใ์ ห้ผู้เรียน เนื้อหามีความถกู ต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อ ศลี ธรรม มกี ารใชภ้ าษาท่ถี กู ตอ้ ง รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจงา่ ย และน่าสนใจ การบริหารจัดการหลกั สูตร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรนั้น หน่วยงานตา่ งๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งในแต่ละระดับ ตง้ั แตร่ ะดบั ชาติ ระดับทอ้ งถิน่ จนถงึ ระดบั สถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

113 เพือ่ ให้การดำเนนิ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรยี นการสอนของสถานศกึ ษามีประสทิ ธภิ าพสูงสุด อันจะส่งผลใหก้ ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นบรรลุตามมาตรฐานการเรียนร้ทู กี่ ำหนดไวใ้ นระดบั ชาติ ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทใน การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ สถานศกึ ษา ส่งเสรมิ การใชแ้ ละพฒั นาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเรจ็ โดยมีภารกิจสำคญั คอื กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็น ความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผ้เู รยี น สถานศกึ ษามีหนา้ ท่ีสำคญั ในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสตู ร การ เพ่มิ พูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดทำระเบยี บการวัดและ ประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน และรายละเอียดที่เขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา หรือหน่วยงาน สังกดั อืน่ ๆ ในระดบั ทอ้ งถน่ิ ได้จดั ทำเพ่ิมเตมิ รวมท้ัง สถานศกึ ษาสามารถเพมิ่ เติมในสว่ นที่เกย่ี วกบั สภาพปัญหาในชมุ ชนและสังคม ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ และความต้องการ ของผู้เรียน โดยทุกภาคสว่ นเข้ามามีส่วนร่วมในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

114 อภธิ านศัพท์ การเดาความหมายจากบรบิ ท ( context clue) การเดาความหมายของคำศัพท์หรือข้อความที่ไม่ทราบความหมายโดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรม เป็นการ เดาความหมายนั้นโดยอาศัยการชี้แนะจากคำศัพท์หรือข้อความที่แวดล้อมคำศัพท์หรือข้อความที่อ่านเพื่อช่วยใน การทำความเข้าใจหรอื ตีความหมายของคำศัพทห์ รือข้อความที่ไม่เข้าใจความหมาย การถ่ายโอนข้อมลู การแปลงข้อมูลที่ผู้สง่ สารต้องการจะสื่อสารให้ผู้รับสารเข้าใจความหมายในรูปแบบทีต่ ้องการ เช่น การ ถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นคำ ประโยค หรือข้อความไปเป็นข้อมูลที่เป็นกราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ หรือการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นกราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ ไปเป็น ขอ้ มูลทเี่ ป็นคำ ประโยค หรือขอ้ ความ ทักษะการส่ือสาร ทักษะการฟงั การพูด การอา่ น และการเขยี น ซงึ่ เปน็ เคร่อื งมือในการรับสารและสง่ สารด้วยภาษาน้ันๆ ได้อยา่ งสื่อความหมาย คล่องแคลว่ ถูกต้อง เขา้ ถึงสารไดอ้ ยา่ งชดั เจน บทกลอน (nursery rhyme) บทร้อยกรองสำหรบั เด็กที่มคี ำคล้องจองและมีความไพเราะ เพอ่ื ช่วยใหจ้ ดจำไดง้ า่ ย บทละครสั้น (skit) งานเขยี นหรือบทละครสั้นทีม่ ีการแสดงออกดว้ ยทา่ ทางและคำพูด ทำให้เกดิ ความสนกุ สนาน อาจเปน็ เรื่องที่มาจากนิทาน นิยาย ชีวติ ของคน สัตว์ ส่งิ ของ หรอื ตดั ตอนมาจากงานเขียน ภาษาท่าทาง การสอ่ื สารโดยการแสดงท่าทางแทนคำพดู หรือการแสดงท่าทางประกอบคำพูด เพ่ือให้ความหมายมี ความชัดเจนยงิ่ ข้ึน การแสดงท่าทางต่างๆ อาจแสดงได้หลายลักษณะ เชน่ การแสดงออกทางสหี น้า การสบตา การเคล่ือนไหวศีรษะ มือ การยกมือ การพยักหนา้ การเลิกคิ้ว เป็นตน้ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

115 วถิ ีการดำเนนิ ชวี ติ ของคนในสงั คมท่ีใชภ้ าษานั้น นับต้งั แตว่ ธิ กี ารกินอยู่ การแตง่ กาย การทำงาน การ พักผ่อน การแสดงอารมณ์ การสื่อความ ค่านิยม ความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี เทศกาล งานฉลอง และมารยาท เปน็ ต้น สอ่ื ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียง (non – text information) สิ่งที่ใช้สื่อสารแทนคำ วลี ประโยค และข้อความ เช่น กราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ สิ่งของ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง เป็นตน้ หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

116 หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดร์ิ าษฎร์บำรุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook