คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎีกำรเรยี นรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่กำรปฏบิ ัติ สิง่ สำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผู้เรียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรสอื่ สำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ
แผนผังมโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรียนร้/ู หลักฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทักษะกำรฟัง (Listening skill) 1. ซื่อสตั ย์สจุ ริต 1) คำศพั ทเ์ ก่ยี วกับสตั ว์ปา่ สัตวป์ กี และสตั ว์ 2) ทักษะกำรพดู (Speaking skill) 2. มวี ินัย ดึกดำบรรพ์ 3) ทักษะกำรอ่ำน (Reading skill) 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 2) บทสนทนาถาม-ตอบเกยี่ วกับข้อมลู ของ 4) ทักษะกำรเขียน (Writing skill) 4. มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน สัตว์ตา่ ง ๆ 5. มีจติ สำธำรณะ e.g. A: How much does a rhino กระบวนการกลุ่ม weigh? 1) จบั คสู่ นทนำ B: It weighs about 1,300 kilograms. 2 ) ระดมสมอง 3) Grammar: - Superlative Degree 3) ฝกึ กจิ กรรมกลุ่มตำม e.g. A humming bird is the แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ lightest bird in the world. - Past Simple Tense ประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม e.g. I was young 20 years ago. We were in London last week. She lived in that house long time ago. . เปา้ หมายการเรียน g . Amazing Animals I หลักฐานการเรียนรู้ h 1. Grammar Quiz : Superlative a 2. การเขียน Animal Graphic Orgavnizer (ผงั กราฟฟิค) : Cluster Diagram 3. การรวบรวมคำศัพท์ใน Your wored book b r e
แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจัดการเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนร้แู นวการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลงั เรียน (ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60)
ผงั มโนทศั น์ หนว่ ยการ แผนท่ี 1 Superlative Degree reหseนn่วยtก จำนวน 5 ช่วั โมง , Amazin จำนวน การเรียนร วิทยาศาสตร์ • สตั ว์ตา่ งๆ
รเรียนรู้ที่ 7 Amazing Animals กาSรimเรียpนlรeู้ที่ 7Tense แผนท่ี 2 Are cheetahs slow animals? จำนวน 5 ช่วั โมง ng Animals น 10 ชว่ั โมง รู้แบบบูรณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศิลป์ • วาดภาพและระบายสี
แผนบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี 1. ออกแบบการจัดกิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศกึ ษาแนวทางการจดั การเรยี นรลู้ ่วงหนา้ ตัวช้วี ัด 2. ใช้เทคนิคการจดั การเรยี นร้ทู ีห่ ลากหลาย 2. จัดเตรยี มการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลือกสือ่ แหล่งเรียนรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมนิ ผลตรงตามเน้อื หา เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. ร้จู ักเทคนิคการสอนที่ส่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนักเรียน 1. มคี วามขยนั เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจัดหาสื่อมาพฒั นานกั เรียน สามารถเรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพ่ือพัฒนานักเรยี นโดยใชเ้ ทคนคิ การสอนที่ หลากหลาย นักเรียน ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี มู ิคมุ้ กนั ในตัวทีด่ ี 1. การใชเ้ วลาในการทำกิจกรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ย่างเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝึกกระบวนการสังเกต อธบิ าย ทักษะการ 2. นำความรู้เรอ่ื ง ลักษณะของส่ิงของต่างๆ 2. เลือกสมาชกิ กลมุ่ ได้เหมาะสมกบั เน้อื หาท่ี สบื ค้นหาความรู้ ขอ้ มูลต่างๆ ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ เรยี นและศกั ยภาพของตน เงอื่ นไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. มคี วามร้เู รอ่ื ง ลกั ษณะของอาชพี ตา่ งๆ ตลอดจนสามารถสรา้ งจัดทำ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ และปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงของกลุ่ม ชน้ิ งาน ผลงานและใบงานไดต้ ามวัตถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มาธชิ ่วยเหลือกันในการทำงานรว่ มกนั สง่ ผลต่อการพฒั นา 4 มติ ใิ หย้ ่ังยืนยอมรบั ตอ่ การเปลยี่ นแปลงในยุคโลกาภวิ ฒั น์ วตั ถุ สังคม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มีความรคู้ วามเข้าใจลกั ษณะของสัตว์ตา่ งๆ มีความร้แู ละเขา้ ใจ มีความร้แู ละเขา้ ใจ มคี วามรูแ้ ละเข้าใจการ กระบวนการทำงาน เก่ยี วกับ ลกั ษณะ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน กลมุ่ สิ่งของตา่ งๆ ทักษะ (P) สามารถสรา้ งชนิ้ งาน ผลงาน ใบงาน ทำงานได้สำเรจ็ ตาม ใชแ้ หลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งปนั ซ่ึง แบบทดสอบเร่อื งลกั ษณะของสัตวต์ า่ งๆได้ เปา้ หมาย ด้วย ทำลายสงิ่ แวดล้อม กนั และกัน ตรงตามวตั ถุประสงค์ กระบวนการกลมุ่ ค่านิยม (A) เห็นประโยชนข์ องเรียนรู้ เกีย่ วกบั เหน็ คณุ คา่ และ เห็นคุณคา่ ของการใช้ ปลกู ฝังนสิ ยั การ ลักษณะของสตั ว์ตา่ งๆ ภาคภมู ใิ จในการ แหลง่ เรยี นรู้โดยไม่ ช่วยเหลือแบง่ ปนั ทำงานร่วมกันได้ ทำลายสิง่ แวดล้อม สำเรจ็
โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 เวลา 10 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เร่อื ง Amazing Animals แผนการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้นิ งาน เวลาเรียน 1.Grammar Quiz : Superlative (ชัว่ โมง) 1. Superlative Degree 5 2. Are cheetahs slow animals? 1.การเขียน Animal Graphic Organizer (ผังกราฟฟคิ ) 5 : Cluster Diagram 10 2.การรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book รวมเวลาเรียน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 10 ช่ัวโมง เรอื่ ง Amazing Animals 1.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี งั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความ คดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล ตวั ชี้วดั 2. อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ตัวชีว้ ัด 3. ระบุ/วาดภาพสัญลักษณ์ หรือเครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค และ ขอ้ ความสน้ั ๆ ทฟ่ี ังหรอื อา่ น ตวั ชี้วดั 4. บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน ง่ายๆ หรือเรือ่ งส้ันๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชวี้ ดั 4. พูด/เขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตัว มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ งๆ โดย การพูดและการเขยี น ตัวชี้วดั 1. พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตวั 2. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่า สัตว์ปีก และสัตวด์ ึกดำบรรพ์ บทสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลของสตั ว์ ต่าง ๆ การเปรียบเทียบข้ันสูงสุด การออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วย st และคำท่ีข้ึนต้นด้วยอักษร b การอ่าน จับใจความ และเขียนเรียงความ เปน็ การเรยี นรู้ภาษาองั กฤษเพอ่ื นำไปใช้สื่อสารในชวี ติ ประจำวนั 3. สาระการเรยี นรู้ 1) ความรู้ (Knowledge : K) 1) คำศัพท์เก่ียวกบั สัตวป์ า่ สัตว์ปีก และสัตว์ดึกดำบรรพ์ 2) บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกับข้อมลู ของสัตว์ต่าง ๆ e.g. A: How much does a rhino weigh? B: It weighs about 1,300 kilograms. 3) Grammar: - Superlative Degree e.g. A humming bird is the lightest bird in the world.
- Past Simple Tense ประโยคบอกเลา่ ปฏิเสธ และคำถาม e.g. I was young 20 years ago. We were in London last week. She lived in that house long time ago. 4) Pronunciation: initial sound [b] and [m] และออกเสียงตวั อักษร st ท้ายคำ 5) การอ่านจับใจความ 6) การเขียนเรยี งความ (อย่างงา่ ย) 7) มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 8) กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง 9) การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียน 10) การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องใกลต้ วั จากสอื่ และแหลง่ การ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 2) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) 1) ทกั ษะการฟัง (Listening skill) - คำศพั ท์ ประโยค 2) ทกั ษะการพูด (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทักษะการอ่าน (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทักษะการเขียน (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนการกลมุ่ -จับค่สู นทนา -ระดมสมอง -ฝกึ กิจกรรมกลมุ่ ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ 3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กลา้ แสดงออก 2) ม่นั ใจในการพูดภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 3) มีความสุข สนกุ สนานกับการเรียนภาษาอังกฤษ
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ 2. มีวินยั 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 5. มจี ติ สาธารณะ 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. Grammar Quiz : Superlative 2. การเขียน Animal Graphic Organizer (ผังกราฟฟคิ ) : Cluster Diagram 3. การเขียนข้อมูลความแตกต่างของสัตว์ 2 ชนดิ โดยใช้ Graphic Organizer (ผงั กราฟฟคิ ) : Venn Diagram 4. Animal Fact File และการนำเสนอหน้าชน้ั เรียน 5. การรวบรวมคำศัพทใ์ น Your word book 7. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรียน แบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี น รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 60 ชิ้นงาน แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคุณภาพ 2 สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา รายบคุ คลการ ระดับคุณภาพ 2 สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่น แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2
ระดบั คุณภาพ ระดับ แปลผล คะแนน รอ้ ยละ 9 - 10 80 - 100 ระดบั 4 ดเี ยย่ี ม 7-8 70 – 79 5-6 60 - 69 ระดับ 3 ดี 1-4 0 - 59 ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสิน นักเรยี นได้คะแนนระดับ พอใช้ ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 Superlative Degree (ชว่ั โมงท่ี 1-5) 1.ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2.ครูเขยี นและอธิบายเก่ียวกับ Superlative Degree บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นจดลงสมุดของ ตนเอง 3.ครเู ขยี น adjective และ adverb บนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นเปลี่ยนคำ adjective และ adverb เหล่านนั้ ใหเ้ ป็นการเปรียบเทยี บขั้นสูงสุด* (Superlative Degree) 4. นกั เรียนอ่านออกเสยี งข้อความ นักเรียนช่วยกันแปลข้อความและจบั คู่ข้อความกับภาพให้ถกู ต้อง และเหมาะสม 5.ครชู ้ีไปทภี่ าพแตล่ ะภาพ แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ นี้คืออะไร (What’s this?) ให้นกั เรียนดภู าพ ชต้ี าม และตอบ โดยใหน้ ักเรยี นดูข้อมลู ของสตั วแ์ ตล่ ะชนิดว่าสูงและน้ำหนกั เท่าไหร่ จากน้นั ครูถามและใหน้ ักเรยี น ตอบ 6.ครูสมุ่ นักเรียน 1 คน เป็นคนถาม และอีก 1 คน เปน็ คนตอบ จากนนั้ ให้นักเรียนทเ่ี ป็นคน ตอบเปลี่ยนเปน็ คนถาม และเลอื กเพ่ือนมา 1 คน เปน็ คนตอบ ทำอย่างนจ้ี นครบทุกคน กิจกรรมท่ี 2 Are cheetahs slow animals? (ชั่วโมงท่ี 6-10) 1.นักเรียนดภู าพสัตว์ต่าง ๆ ใน แบบฝึกหัด หนา้ 34 ข้อ 1 Listen and point. ให้นักเรยี น ออกเสยี งตามและช้ภี าพให้ถกู ต้อง 2.นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หนา้ 35 ข้อ 2 Read and correct. เพอ่ื อา่ นประโยคและแก้ไข ประโยคให้ถูกต้อง ครูขออาสาสมัคร 4 คน เฉลยคำตอบบนกระดาน ครูคอยแก้ไขคำตอบที่อาสาสมัคร ตอบผดิ แลว้ นักเรยี นชว่ ยกนั อ่านประโยคทสี่ มบูรณ์พร้อมกนั อีกครัง้ หนึ่ง 3.ครูนำบตั รคำมาติดบนกระดานโดยไมเ่ รียงเปน็ ประโยค เพอ่ื ให้นักเรียนเรียงประโยคให้สมบูรณแ์ ละ
ถูกต้อง โดยดูคำของประโยคในแบบฝึกหดั หนา้ 36 ขอ้ 3 Put the words in the correct order to form sentences. นกั เรียนทกุ คนช่วยกันเรียงคำบนกระดานใหเ้ ป็นประโยค แลว้ อ่านประโยคที่ สมบรู ณพ์ ร้อมกัน จากนัน้ จึงคัดลอกลงในสมดุ ของตน 9.แหลง่ เรยี นรู้ / ส่ือ 1. หนงั สอื เรยี น Smile ป. 5 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5
แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ เรื่อง Amazing Animals กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 Choose the correct answer. 1. How much do you weigh? b. 50 kilograms a. 150 centimetres d. 20 hours c. 10 miles 2. Which animal is the heaviest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 3. Which animal is the tallest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 4. Which animal is the lightest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 5. Which animal is the fastest? a. Koala b. Cheetah c. Rhino d. Panda 6. A ………… lives in Australia. a. koala b. cheetah c. rhino d. panda 7. A …………. lives in China. a. koala b. cheetah c. rhino d. panda 8. ……………… are reptiles. b.Snakes and crocodiles a. Bees and birds d.Rhinos and Koalas c. Dogs and cats 9. A ………….. is a mammal. a. bird b. snake c. crocodile d. dog 10. A …………… is the smallest bird. a. eagle b. sparrow c. humming bird d. dove
เฉลย แบบทดสอบ Pre-test / Post-test หน่วยการเรียนร้ทู ่ี เรือ่ ง Amazing Animals กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 Choose the correct answer. 1. How much do you weigh? a. 150 centimetres b. 50 kilograms c. 10 miles d. 20 hours 2. Which animal is the heaviest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 3. Which animal is the tallest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 4. Which animal is the lightest? a. Giraffe b. Dog c. Cat d. Elephant 5. Which animal is the fastest? a. Koala b. Cheetah c. Rhino d. Panda 6. A ………… lives in Australia. a. koala b. cheetah c. rhino d. panda 7. A …………. lives in China. a. koala b. cheetah c. rhino d. panda 8. ……………… are reptiles. b. Snakes and a. Bees and birds d. Rhinos and crocodiles c. Dogs and cats Koalas 9. A ………….. is a mammal. a. bird b. snake c. crocodile d. dog 10. A …………… is the smallest bird. a. eagle b. sparrow c. humming bird d.dove
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 5 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 Amazing Animals เร่ือง Superlative Degree 1.สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่า สัตว์ปีก และสัตว์ดึกดำบรรพ์ บทสนทนาเก่ียวกับข้อมูลของสัตว์ ต่าง ๆ การเปรียบเทียบข้ันสูงสุด การออกเสียงคำท่ีลงท้ายด้วย st และคำที่ข้ึนต้นด้วยอักษร b การอ่าน จบั ใจความ และเขยี นเรยี งความ เปน็ การเรียนรภู้ าษาองั กฤษเพ่อื นำไปใช้ส่อื สารในชวี ติ ประจำวนั 2.มาตรฐาน / ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ฟี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความ คิดเห็น อย่างมเี หตผุ ล ตัวชี้วดั 2. อ่านออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น ตัวชว้ี ัด 3. ระบ/ุ วาดภาพสัญลักษณ์ หรือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค และ ขอ้ ความส้ันๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น ตัวชว้ี ดั 4. บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน ง่ายๆ หรือเรื่องส้ันๆ 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน และบอกใจความ สำคัญ และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา และนทิ านงา่ ยๆ หรือเรอ่ื งส้นั ๆได้ 2.ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค และข้อความ สัน้ ๆ ที่ฟังหรืออ่านได้ 3.พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1) คำศัพท์เกยี่ วกบั สตั ว์ป่า สตั วป์ ีก และสตั ว์ดึกดำบรรพ์ 2) บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั ข้อมูลของสัตว์ต่าง ๆ e.g. A: How much does a rhino weigh? B: It weighs about 1,300 kilograms. 3) Grammar: - Superlative Degree e.g. A humming bird is the lightest bird in the world. - Past Simple Tense ประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม
e.g. I was young 20 years ago. We were in London last week. She lived in that house long time ago. 4) Pronunciation: initial sound [b] and [m] และออกเสยี งตวั อกั ษร st ท้ายคำ 5) การอา่ นจับใจความ 6) การเขียนเรียงความ 7) มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา 8) กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง 9) การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกดิ ขึ้นในห้องเรียน 10) การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ท่เี กย่ี วข้องใกลต้ ัวจากสื่อและแหลง่ การ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะการฟัง การพดู การอ่าน การเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีความรับผิดชอบ ขยนั ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น 2. มคี วามเชื่อม่นั ในตนเอง กลา้ แสดงออก 3. มีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรยี นภาษาองั กฤษ 5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 7.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 What can you see? (1) ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูให้นกั เรียนบอกชือ่ สัตวท์ ีน่ ักเรียนรจู้ ักมาใหม้ ากทสี่ ดุ Teacher: Please tell me the name of the animal that you know. Tim: Elephant. Jame: Tiger.
2. ครูถามนักเรียนเป็นภาษาไทยว่า ใครในห้องน้ีสูงท่ีสุด เต้ียท่ีสุด อ้วนท่ีสุด ผอมท่ีสุด ให้ นักเรยี นทุกคนช่วยกนั ตอบ 3. ครูสุ่มนักเรียน 1 คน ออกมายืนหน้าช้ันเรียน ให้นักเรียนท่ีเหลือช่วยกันบรรยายลักษณะของ เพ่อื นเป็นภาษาอังกฤษ เช่น Kwan: He is a boy. Tom: He has got short hair. Somcheng:He is tall. Moddeana: He has got black eyes. 4. ครูบอกนักเรียนว่า ใน Unit 9 จะเรียนเกี่ยวกับสัตว์ การบรรยายลักษณะ การเปรียบเทียบข้ัน สูงสุด (Superlative) และประโยคตา่ ง ๆ ข้ันนำเสนอ (Presentation) นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 46 ข้อ 1 What can you see? ดูภาพ แล้วบอกช่ือสัตว์ที่ นกั เรยี นเห็นในภาพเปน็ ภาษาองั กฤษ เช่น Teacher: What animals can you see on this page? Students: Elephant, monkey, crocodile, rhino, eagle, panda, snake, and bird. ขนั้ ฝึก (Practice) ให้นักเรียนอ่านประโยคคำถาม 5 คำถาม ใน หนังสือเรียน หน้า 46 ข้อ 2 Look at the picture and answer the questions. แล้วช่วยกันแปลคำถาม และตอบคำถามเหล่าน้ีจากการดู ภาพ เสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบโดยส่มุ นักเรยี นทลี ะคอู่ า่ นคำถามและคำตอบข้อละ 1 คู่ 1. How many birds are there in the picture? 2 birds. 2. Where is the monkey? On the tree. 3. Is the rhino in front of the panda? Yes, it is. 4. Where is the snake? On the tree. 5. Is the crocodile in the river? No, it isn’t.
ขน้ั นำไปใช้ (Production) จากน้ันครูสอนคำศัพท์ที่นักเรียนไม่ทราบโดยชูบัตรคำ mammal และ reptile ครูอ่านออกเสียง ดังๆ ให้นักเรียนออกเสียงตาม ครูยกตัวอย่าง “mammal” ได้แก่ มนุษย์ แพะ แกะ แมว สุนัข และ “reptile” ได้แก่ งู จระเข้ แล้วให้นักเรียนเดาว่าทั้ง 2 คำ แปลว่าอะไร นักเรียนเปิดหาคำศัพท์ใน พจนานุกรม แล้วตอบครวู า่ “สตั วเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยนำ้ นม” และ “สัตวเ์ ล้ือยคลาน” ข้นั สรปุ (Wrap up) ครูให้นักเรียนนำพจนานุกรมอังกฤษ-ไทย เพื่อฝึกหาคำศัพท์ที่ให้มาจากบัตรคำให้เร็วท่ีสุด นักเรียน คนใดหาได้แลว้ ให้ยกมอื พร้อมกบั บอกคำอ่านและคำแปลของคำศัพทน์ ั้น ถา้ ถูกต้องได้ 1 คะแนน นกั เรียน คนใดไดค้ ะแนนมากทส่ี ุดถือวา่ ชนะ ครตู ดิ บัตรคำบนกระดานทีละใบ ดังน้ี whale = วาฬ light = เบา ocean = มหาสมุทร reptile = สัตวเ์ ลอ้ื ยคลาน height = ความสงู mammal = สัตวเ์ ลี้ยงลูกด้วยน้ำนม weigh = ชั่งนำ้ หนกั (v.) Earth = โลก weight = นำ้ หนัก (n.) world = โลก cheetah = เสอื ชีตาห์ strong = แขง็ แรง ostrich = นกกระจอกเทศ heavy = หนัก นกั เรยี นทุกคนออกเสียงคำศัพท์พร้อม ๆ กัน แล้วจดคำศัพท์และคำแปลลงในสมุดของตนเอง ช่ัวโมงท่ี 2 Superlative Degree (2) ขนั้ นำ (Warm up) นักเรียนดูภาพและออกเสียงตาม Track 44 2 รอบใน หนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 1 Listen, point and repeat. จากนั้นครูใหน้ กั เรยี นบอกความหมายและสะกดตัวอกั ษรของคำศพั ท์ cheetah ostrich blue whale humming bird weigh strong heavy light Teacher: What’s this? Students: It’s a cheetah. Teacher: What does it mean? Students: เสอื ชตี าห์ Teacher: How do you spell “cheetah”?
Students: C - H - E - E - T - A - H. ขั้นนำเสนอ (Presentation) ครูเขียนและอธิบายเกี่ยวกบั Superlative Degree บนกระดาน แล้วให้นักเรียนจดลงสมุดของ ตนเอง ดงั นี้ Superlative Degree (การเปรียบเทียบข้ันสูงสุด) คือ การเปรียบเทียบลักษณะอาการของคน สัตว์ ส่ิงของท่ีมีความเป็นท่ีสุด ซึ่งในระดับน้ีจะได้เรียนรู้กฎการเปลี่ยนคำคุณศัพท์ (Adjective) และ คำวิเศษณ์ (Adverb) ดงั น้ี 1) เตมิ est หลัง adjective หรือ adverb ที่ออกเสียงไม่เกิน 2 พยางค์ เช่น fast fastest tall tallest 2) adjective หรอื adverb ที่ลงทา้ ยด้วย y ให้เปลี่ยน y เปน็ i แลว้ เติม est เชน่ heavy heaviest 3) คำท่ีออกเสียงสัน้ เพียงพยางค์เดยี ว และลงทา้ ยด้วยพยญั ชนะตัวเดยี ว ต้องเพม่ิ พยัญชนะท้าย ตวั นนั้ ก่อน แล้วจงึ เตมิ est เชน่ big biggest 4) ต้องวาง the ไว้ข้างหนา้ adjective หรือ adverb ท่ีเปน็ ข้นั สูงสุดเสมอ เชน่ fast the fastest tall the tallest heavy the heaviest big the biggest ครูเขียน adjective และ adverb บนกระดาน แล้วให้นักเรียนเปลี่ยนคำ adjective และ adverb เหล่าน้ันให้เปน็ การเปรียบเทยี บขั้นสงู สดุ * (Superlative Degree) Adjective/Adverb Superlative Degree big the biggest short the shortest heavy the heaviest light the lightest small the smallest long the longest tall the tallest fat the fattest *ขั้นสูงสุดต้องมี the นำหนา้ เสมอ
ขน้ั ฝึก (Practice) นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 2 Read, listen and match. นักเรียนอ่านออก เสียงข้อความจาก Track 45 จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแปลข้อความและจับคู่ข้อความกับภาพ ใหถ้ ูกต้องและเหมาะสม 1. This animal lives in Africa. It has got big teeth. It eats animals. It is the fastest animal in the world. 2. This animal is a bird, but it can’t fly. It has got long legs. It runs very fast. It is the biggest bird in the world. 3. This animal is very small. It is the lightest bird in the world. 4. This animal is a mammal. It lives in the ocean. It is the biggest animal in the world. a. - 2 b. - 4 c. - d d. - 3 ทุกข้อความเม่ืออ่านเสรจ็ แล้ว ครถู ามนักเรยี นว่ามนั คืออะไร Teacher: Number 1, what is it? Students: It’s a cheetah. (เขยี นเลข 1 ใตภ้ าพเสอื ชีตาห์) ขั้นนำไปใช้ (Production) ครูให้ดู หนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 3 Read, ask and answer. โดยครูช้ีไปที่ภาพแต่ละ ภาพ แล้วถามนักเรียนว่านี้คืออะไร (What’s this?) ให้นักเรียนดูภาพ ชี้ตามและตอบ โดยให้นักเรียนดู ขอ้ มูลของสตั วแ์ ต่ละชนดิ วา่ สูงและน้ำหนกั เทา่ ไหร่ จากน้ันครถู ามและให้นกั เรยี นตอบ เชน่ Teacher: How much does a rhino weigh? Students: It weighs about 1,300 kilograms. Teacher: How tall is a rhino? Students: It’s about 2 metres tall. ขั้นสรุป (Wrap up) ครสู ุม่ นกั เรียน 1 คน เป็นคนถาม และอกี 1 คน เป็นคนตอบ จากนน้ั ให้นักเรยี นที่เปน็ คนตอบ เปลย่ี นเป็นคนถาม และเลอื กเพ่ือนมา 1 คน เป็นคนตอบ ทำอย่างนี้จนครบทุกคน
ชัว่ โมงที่ 3 Are cheetahs slow animals? ข้นั นำ (Warm up) นักเรียนดูภาพสัตว์ต่าง ๆ ใน แบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 1 Listen and point. ครู เปิด Track 52 3 รอบ รอบแรกนักเรียนฟัง Track 52 แล้วชี้ภาพตามประโยคท่ีได้ยิน รอบที่ 2 นักเรียนฟังประโยคจาก Track 52 แล้วครูออกเสียงประโยคตาม Track 52 ทีละประโยค ให้นักเรียน ออกเสยี งตามและชี้ภาพใหถ้ กู ตอ้ ง รอบที่ 3 ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม Track 52 ด้วยตนเอง 1. The monkey is on the tree. 2. The rhino is drinking water. 3. The crocodile is not in water. 4. The snake is near a small bird. 5. There are two birds in the picture. ขน้ั นำเสนอ (Presentation) ให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 2 Look at the picture. Then complete the sentences. โดยดูภาพจากข้อ 1 แล้วนำคำท่ีให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้วนักเรียน อา่ นประโยคที่สมบรู ณพ์ ร้อมกนั แล้วครเู ขียนคำตอบบนกระดาน 1. tree 2. rhino 3. monkey 4. trunk 5. reptiles ข้นั ฝึก (Practice) 1. นักเรียนดูภาพสัตว์ต่าง ๆ ท้ัง 4 ชนิด ใน แบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 1 Write the words. แล้วนำตัวอักษรที่เรียงสลับกันมาประกอบเป็นคำศัพท์ให้ถูกต้องตรงตามภาพทั้ง 4 ข้อ นักเรียน สามารถเปิดดูคำศัพท์ได้ในหนังสือเรียนหรือจากพจนานุกรม และปรึกษากับเพ่ือนๆ ได้ ครูให้อาสาสมัคร นักเรียน 4 คน ออกมาเขยี นตอบบนกระดานคนละ 1 ขอ้ 1. ostrich 2. humming bird
3. cheetah 4. blue whale 2. ครถู ามนกั เรียนเปน็ ภาษาองั กฤษ และให้นักเรียนผลัดกนั ตอบ ดงั น้ี Teacher: Are cheetahs slow animals? Sam: No, they aren’t. Teacher: Are humming birds heavy? Susie: No, they aren’t. Teacher: Are blue whales very big? Ram: Yes, they are. Teacher: Are elephants heavy and strong? Kwan: Yes, they are. Teacher: Can ostriches fly? Jack: No, they can’t. Teacher: Are giraffes very tall? Jay: Yes, they are. ขั้นนำไปใช้ (Production) จากน้ันนักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 2 Read and correct. เพ่ืออ่านประโยคและ แก้ไขประโยคให้ถูกต้อง ครูขออาสาสมัคร 4 คน เฉลยคำตอบบนกระดาน ครูคอยแก้ไขคำตอบที่ อาสาสมคั รตอบผิด แล้วนักเรยี นช่วยกันอา่ นประโยคทส่ี มบรู ณ์พร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง 2. Humming birds are light. 3. Blue whales are very big. 4. Elephants are heavy and very strong. 5. Ostriches can’t fly and they are very large/big. ขั้นสรปุ (Wrap up) ครูนำบัตรคำมาติดบนกระดานโดยไม่เรียงเป็นประโยค เพื่อให้นักเรียนเรียงประโยคให้สมบูรณ์และ ถูกต้อง โดยดูคำของประโยคใน แบบฝึกหัด หน้า 36 ข้อ 3 Put the words in the correct order to form sentences. นักเรียนทุกคนช่วยกันเรียงคำบนกระดานให้เป็นประโยค แล้วอ่าน ประโยคที่สมบูรณ์พรอ้ มกนั จากนั้นจึงคดั ลอกลงในสมดุ ของตน
1. How tall is the cheetah? 2. It’s 120 centimetres tall. 3. How much does it weigh? 4. It weighs about 50 kilograms. 5. Is the giraffe ช่วั โมงท่ี 4 Which animal is the tallest? ขัน้ นำ (Warm up) 1. นักเรียนทบทวนคำศพั ท์ท่ีได้เรียนในชั่วโมงท่ีผ่านมาด้วยบัตรภาพและบัตรคำ โดยการพูดระบุชื่อ สัตว์ให้ถกู ต้องตามบตั รภาพ และชว่ ยกันจบั คู่บัตรภาพและบตั รคำบนกระดาน 2. นักเรียนถามน้ำหนักเพ่ือนข้างเคียง โดยให้เพื่อนตอบโดยประมาณ แล้วนักเรียนรายงานสรุป ดังนี้ A: How much do you weigh? B: I weigh about 35 kilograms. A สรปุ ดังน้ี: B weighs about 35 kilograms. She is light. ครูสุ่มนกั เรียน 2 คู่ ใหย้ ืนข้ึนพูดบทสนทนา และสรปุ ทีละคู่ 3. ครูบอกจุดประสงค์ในการเรียนในชั่วโมงต่อไปว่า นักเรียนจะได้เรียนรู้เร่ืองการเปรียบเทียบขั้น สูงสดุ การอ่านจบั ใจความ การเขยี นเรยี งความ และการออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ ง ขน้ั นำเสนอ (Presentation) นกั เรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 4 Look at the animals above. Then ask and answer with your partner. ใหน้ ักเรยี นดูข้อมลู สัตว์ต่าง ๆ จากขอ้ 3 แล้วตอบคำถามของครู ดงั น้ี Teacher: Which animal is the tallest? (It’s the giraffe.) Which animal is the heaviest? (It’s the elephant.) Which animal is the biggest? (It’s the blue whale.) Which animal is the fastest? (It’s the cheetah.) Which animal is the smallest? (It’s the humming bird. ข้ันฝกึ (Practice) ครูชูภาพเพนกวิน แล้วถามนักเรียนว่าคือภาพอะไร นักเรียนตอบว่า “Penguin” แล้วครูชูภาพ นกกระจอกเทศ ถามว่าคือภาพอะไร นักเรียนตอบว่า “Ostrich” และบอกนักเรียนว่าพวกเราจะเรียนรู้
เร่ืองเพนกวินและนกกระจอกเทศ โดยครูให้นักเรียนอ่านบทความใน หนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 5 Read and match the information in the chart with the birds. แล้วจับคู่ข้อมูลในช่อง A และ B กับภาพสัตว์ ซ่งึ ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นออกเสยี งบทความพรอ้ มกนั 1 รอบ ขั้นนำไปใช้ (Production) จากน้ันแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วแจกกระดาษเปล่ากลุ่มละ 1 แผ่น และ พจนานุกรม 1 เล่ม ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันแปลบทความเป็นภาษาไทย ครูให้เวลาในการทำงานกลุ่ม 20-30 นาที แล้วใหน้ ักเรียนทุกกลุ่มออกมานำเสนอหนา้ ห้องเรยี น เมือ่ ทำกิจกรรมเสร็จแลว้ ครแู ปลบทความ ทีละประโยค โดยให้นักเรียนทุกคนอ่านบทความภาษาอังกฤษทีละประโยค แล้วช่วยกันแปลเป็นภาษาไทย ครเู ฉลยคำตอบและรวบรวมผลงานนกั เรียนมาตดิ บอร์ดหน้าหอ้ งเรียน ภาพเพนกวนิ - Bird B ภาพนกกระจอกเทศ - Bird A ขน้ั สรุป (Wrap up) ครูให้นักเรียนเลือกนกในหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 5 มา 1 ชนิด แล้วครูแจกกระดาษเปล่า ขนาด A4 แก่นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพ่ือให้เขียนบรรยายข้อมูลนกชนิดนั้นใน หนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 6 Choose one bird in 5 and write a paragraph about it. พร้อมกับตกแต่งผลงาน ให้สวยงาม จากนั้นครูรวบรวมผลงานแล้วสุ่มผลงานของนักเรียน 3-4 ชิ้น เจ้าของผลงานออกมานำเสนอ และพูดบรรยายหนา้ ชั้นเรียน ครตู รวจผลงานและส่งผลงานคืนนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเกบ็ ไวเ้ ป็นผลงานของ ตนเอง ตัวอย่างงานเขียนของนักเรียน The ostriches are the biggest bird in the world. They live in Africa. They are about 2.5 metres tall and weigh about 100-160 kilograms. They have brown feathers, long neck and legs and small wings. They can run fast but cannot fly. They eat grass and leaves.
ชวั่ โมงท่ี 5 Write the superlative. ข้ันนำ (Warm up) ครูสอนการออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วย st ซ่ึงเทียบได้กับเสียง 2 เสียง คือ เสียง /s/ และเสียง /t/ ซ่ึงก็คือเสียง “ส” และ “ท” ในภาษาไทยนั่นเอง นักเรียนต้องออกเสยี ง /s/ ก่อนเสียง /t/ ครูหยิบ บัตรคำ 1 คำ ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่าง คือ tallest ครูช้ีไปท่ีปากแล้วออกเสียงบัตรคำซ้ำๆ โดยเน้นที่ st นักเรียนออกเสียงตาม ครูเตรียมบัตรคำ fastest, longest, heaviest, smallest แล้วชูบัตรคำทีละใบ และอ่านออกเสียง นักเรยี นฝึกออกเสียงตามทีละคำ จากนั้นให้นักเรียนฝึกออกเสียงด้วยตนเอง แล้วครูเปิด Track 46 2 รอบ เพอ่ื ให้นักเรยี นฝกึ ออกเสยี งตาม Track 46 English sounds Listen and say. Giraffes are the tallest and cheetahs are the fastest. ขัน้ นำเสนอ (Presentation) ครูสอนการออกเสียง /b/ ซึ่งเทียบได้กับเสียง “บ” ในภาษาไทย ครูเตรียมบัตรภาพ ได้แก่ ภาพ หมี ภาพเดก็ ผชู้ าย ภาพนก ภาพกลอ่ ง แลว้ ครูชบู ตั รภาพทลี ะใบ และถามนกั เรียนวา่ Teacher: What’s this? (ชูบัตรภาพหม)ี Students: It’s a bear. Teacher: Bear, bear, bear. (นักเรียนออกเสยี งตามครู 3 คร้งั ) Students: Bear, bear, bear. ขั้นฝกึ (Practice) 1. นักเรียนฝกึ ออกเสยี ง /b/ ตามบตั รภาพ ไดแ้ ก่ boy, bird, box จนคลอ่ ง 2. นักเรียนชว่ ยกันคิดหาคำศัพท์อืน่ ๆ ท่ีขึ้นต้นด้วยเสยี ง /b/ เมอื่ คดิ ได้แล้วจึงบอกครู ครูเขียนบน กระดานเพอ่ื ให้นกั เรียนฝึกออกเสยี ง เชน่ big bed brown black bee book bench etc.
ขน้ั นำไปใช้ (Production) นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 36 ข้อ 4 Write the superlative. Then complete the sentences. ครูทบทวนการเปลีย่ นคำคุณศัพท์ใหเ้ ป็นขั้นสูงสุด (Superlative) แล้วใหน้ ักเรียนเปลยี่ น คำท่ีใหม้ าเป็น Superlative ขน้ั สรุป (Wrap up) จากน้ันดูข้อมูลของสัตว์แต่ละชนิด ครูชี้ไปที่ภาพทีละภาพ แล้วถามนักเรียนเป็นภาษาไทยเก่ียวกับ นำ้ หนัก ความสูง และความยาวของสัตว์ชนิดนั้น แล้วให้นักเรยี นเปรียบเทียบข้อมูลดงั กล่าว และเติมคำลง ในช่องวา่ งให้ถกู ต้อง tallest lightest shortest heaviest longest 1. heaviest, lightest 2. shortest, longest 3. tallest, shortest 8. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารผา่ น วิธกี าร แบบสงั เกตการพดู ถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดขี น้ึ ไป สังเกตการพดู ถาม-ตอบ ตรวจใบงาน ตรวจใบงาน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป 9. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 5 3. Audio Smile ป. 5 4. พจนานุกรม 5. บัตรภาพ บตั รคำ
Worksheet ที่ 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรื่อง Amazing Animals แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง Superlative Degree ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 Superlative Elephant Crocodile Lion Lifespan: 60-70 years Lifespan: 80-100 years Lifespan: 25-30 years Age: 37 years old. Age: 10 years old. Age: 18 years old. Weight: 7,000 kg Weight: 500 kg Weight: 250 kg Characteristics: Characteristics: Characteristics: intelligent, sensitive, unfriendly, wild, adventurous, fast, wild, with a good strong, with a good wild, strong, with a memory. swimmer. good hunter. 1. The elephant is ___________ (big) of the three. 2. The lion is ___________ (light). 3. The crocodile in the picture is ____________ (young). 4. The crocodile has ___________ (long) lifespan. Remember! 5. The elephant is ___________ (old). the tallest 6. The crocodile has ___________ (strong) jaw. the heaviest 7. The lion is ____________ (fast). the youngest 8. The elephant is ___________ (heavy). Excellent Good Fair
เฉลย Worksheet ท่ี 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 8 เร่อื ง Amazing Animals แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง Superlative Degree ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 Superlative Elephant Crocodile Lion Lifespan: 60-70 years Lifespan: 80-100 years Lifespan: 25-30 years Age: 37 years old. Age: 10 years old. Age: 18 years old. Weight: 7,000 kg Weight: 500 kg Weight: 250 kg Characteristics: Characteristics: Characteristics: intelligent, sensitive, unfriendly, wild, adventurous, fast, wild, with a good strong, with a good wild, strong, with a memory. swimmer. good hunter. 1. The elephant is biggest (big) of the three. 2. The lion is lightest (light). 3. The crocodile in the picture is youngest (young). 4. The crocodile has longest (long) lifespan. 5. The elephant is oldest (old). Remember! the tallest 6. The crocodile has strongest (strong) jaw. the heaviest the youngest 7. The lion is fastest (fast). Fair 8. The elephant is heaviest (heavy). Excellent Good
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 5 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 8 Amazing Animals เร่ือง Mammoth 1.สาระสำคญั การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ป่า สัตว์ปีกต่าง ๆ บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกับข้อมูลของสัตว์ป่า และสัตว์ปีก การเปรยี บเทียบขัน้ สูงสุด (Superlative Degree) การออกเสียงคำท่ีลงท้ายดว้ ย st และคำที่ ข้ึนต้นด้วยอักษร b การอ่านจับใจความ และเขียนเรียงความ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพ่ือนำไปใช้ สอ่ื สารในชวี ิตประจำวนั 2. ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึก และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ชี้วัด 4. พดู /เขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดย การพูดและการเขยี น ตวั ชว้ี ัด 1. พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั 3.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตัวได้ 2.บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรค ตอน และการลำดบั คำ (order) ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทยwfh 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. พูดถาม-ตอบ และสนทนาถงึ ขอ้ มูลของสัตวป์ า่ ได้ 2. พูดและเขียนคำศัพทช์ ่ือสัตว์ป่าได้ 3. พูดและเข้าใจความหมายของคำศัพท์และประโยคต่าง ๆ ในบทน้ีได้ 4. ใชป้ ระโยคในการเปรยี บเทยี บขน้ั สงู สุดได้ 5. เขียนเรียงความได้ 6. เลน่ เกมตามท่ีกำหนดได้ 7. ออกเสยี งคำที่ขน้ึ ตน้ ดว้ ยอักษร b และลงท้ายด้วย st ได้ ทักษะ / กระบวนการ (Process : P)
ทกั ษะการฟงั การพดู การอ่าน การเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มคี วามรบั ผิดชอบ ขยัน ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น 2. มคี วามเชอ่ื มัน่ ในตนเอง กล้าแสดงออก 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชช้ วี ิต 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 5. มจี ติ สาธารณะ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 Emu ขั้นนำ (Warm up) ครใู หน้ กั เรยี นบรรยายเป็นภาษาไทยเก่ยี วกับ “อูฐ” ว่ามีลักษณะอย่างไร ข้นั นำเสนอ (Presentation) นักเรียนอ่านบทความใน แบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 5 Read the text and answer the questions. นักเรียนอ่านและแปลบทความเป็นภาษาไทยทีละประโยค จากน้ันให้นักเรียนทุกคนช่วยกัน ตอบคำถามจากเน้ือเรื่อง จากน้ันครูอ่านคำถามทีละคำถาม แล้วครูสุ่มนักเรียน 4 คน ให้ออกมาเขียน คำตอบบนกระดานคนละ 1 ขอ้ ครูให้นักเรียนระวังการใชค้ ำกรยิ า 1. They live in the desert. 2. It is brown. It has got short fur and long, thin legs. It has got a large body and a long neck. 3. It has got a hump on its back. 4. It eats leaves.
ข้นั ฝึก (Practice) ครูถามนักเรียนว่ารู้จักนกอีมู (Emu) หรือไม่ ถ้ารู้จักหรือไม่รู้จักให้นักเรียนพยายามตอบหรือเดา ลักษณะ ครูถามนักเรียนทุกคนเป็นภาษาไทยว่า นกอีมูเป็นสัตว์จำพวกใด มีถ่ินกำเนิดที่ไหน ลักษณะตาม ลำตวั เป็นอย่างไร กนิ เนือ้ สัตวห์ รือกินพืช ข้ันนำไปใช้ (Production) นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 6 Read and complete. โดยดูข้อมูลแบบย่อและนำ ข้อมูลมาเติมในช่องว่างให้สมบูรณ์ เม่ือทุกคนเติมข้อมูลลงในแบบฝึกหัดเสร็จแล้วจึงช่วยกันเฉลย ครูเรียก หวั หน้าหอ้ งให้ออกมาเขียนเฉลยบนกระดาน ครูตรวจทานอกี ครั้ง ใหน้ ักเรียนแกไ้ ขงานของตน 1. emu 2. Australia 3. 150-190 centimetres 4. long neck 5. long legs 6. run very fast 7. leaves 8. insects Background Information ครูอธิบายนกั เรียนวา่ คาวา่ “centimetres” ใชใ้ นประเทศองั กฤษ แตใ่ นอเมริกาเขยี น “centimeters” เช่นเดียวกบั คาวา่ centre - center ขน้ั สรปุ (Wrap up) ให้นกั เรียน ดูแบบฝึกหดั หน้า 37 English sounds ครอู า่ นออกเสยี งคำแต่ละคำ ให้นักเรียน ออกเสยี งตาม จากนน้ั ฟัง Track 53 แลว้ วงรอบคำที่ได้ยินพรอ้ มกับออกเสยี งตาม ครเู ปดิ Track 53 เพอื่ เฉลยและใหน้ ักเรียนฝกึ ออกเสียงตาม Track 53 Listen, circle and say. Less
ชว่ั โมงที่ 2 Mammoth. (2) ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูให้นกั เรียนทบทวนคำศัพทแ์ ละรูปประโยคทเี่ รียนไปด้วยบัตรคำ บัตรภาพ และแถบประโยค 2. ใหน้ ักเรียนบอกคำทีเ่ กี่ยวขอ้ งหรือแสดงถึงอดีตเปน็ ภาษาไทยให้ได้มากท่สี ุด เชน่ เมอื่ วานน้ี เมื่อ ปที แ่ี ลว้ สปั ดาห์ทแ่ี ล้ว เป็นตน้ 3. ครูถามนกั เรยี นเปน็ ภาษาไทยว่า นกั เรยี นรจู้ ักไดโนเสาร์หรอื ไม่ ใหน้ ักเรียนบรรยายลักษณะของ ไดโนเสาร์ 4. ครูบอกนักเรยี นว่าใน Lesson นี้ จะเรยี นเกีย่ วกับเร่ืองไดโนเสาร์ และการบรรยายโดยใช้ Past Simple Tense ขั้นนำเสนอ (Presentation) ครเู ขียนคำศพั ท์ใหม่และชนิดของไดโนเสารบ์ นกระดาน ดังน้ี คำศพั ท์ million = จำนวนหลักลา้ น fur = ขน plant = พชื ชนดิ ของไดโนเสาร์ mammoth = รปู ร่างคล้ายชา้ งแต่ใหญ่กวา่ มีขนหนา มีงาท่โี ค้งยาว sabre-toothed cat = รปู รา่ งคล้ายเสือ มเี ขย้ี วใหญ่ 2 อัน อย่ดู ้านบน brachiosaurus = มีคอและหางยาว กนิ พืช compsognathus = เป็นไดโนเสารท์ ่เี ล็กท่สี ุด คลา้ ย T-rex supersaurus = เปน็ ไดโนเสาร์ท่ใี หญ่ทสี่ ุด รูปรา่ งคลา้ ย Brachiosaurus tyrannosaurus rex = เรยี กส้นั ๆ วา่ T-rex หางยาวเดนิ ด้วยขาหลัง กนิ เนื้อ ขนั้ ฝกึ (Practice) ครูชูภาพไดโนเสาร์ชนิดต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น นักเรียนจดคำศัพท์เก่ียวกับชนิดไดโนเสาร์ พร้อมคำแปลและคำอธิบายลงในสมุดของตนเอง จากนั้นครูออกเสียงคำทีละคำ ให้นักเรียน ออกเสียงตาม 3 คร้ัง ข้นั นำไปใช้ (Production) ให้นักเรียนเปดิ หนังสือเรยี น หนา้ 50 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ดูภาพแล้วฝึก ออกเสยี งตาม Track 47 3-4 รอบ
mammoth sabre-toothed cat brachiosaurus million fur plant ข้ันสรุป (Wrap up) ครูออกเสยี งคำ แล้วให้นักเรียนสะกดคำและอา่ นออกเสยี งอีกครั้ง Teacher: How do you spell “mammoth”? Students: M - A - M - M - O - T - H mammoth. ช่ัวโมงท่ี 3 Past Simple Tense (3) ข้ันนำ (Warm up) ครเู ขียนโครงสรา้ งประโยค Past Simple Tense คือ ประธาน + กริยาชอ่ งที่ 2 บนกระดาน และอธบิ ายวา่ ใชเ้ พ่ือบอกเล่าเรือ่ งราวในอดตี ซึง่ เหตกุ ารณน์ ้ันได้เกดิ ขึ้นและจบลงไปแล้วในอดตี ไม่มผี ล ต่อเนอ่ื งถงึ ปัจจุบัน จะมคี ำบ่งบอกเวลาที่ใชใ้ น Past Simple Tense คือ yesterday = เม่ือวานนี้ last month = เดอื นที่แลว้ last … = ... ท่แี ลว้ … ago = ... ทีผ่ า่ นมาแลว้ last week = สัปดาหท์ แ่ี ล้ว Past Simple Tense จะใชค้ ำกรยิ าช่องท่ี 2 ซงึ่ มกี ฎในการเปล่ียนคำกรยิ าเป็นช่องท่ี 2 ดงั น้ี 1) เติม ed หลังคำกรยิ าทั่วไป เชน่ talk talked listen listened 2) คำกริยาทล่ี งทา้ ยด้วย e เตมิ d ได้เลย เชน่ live lived 3) คำกริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย y ถ้าหน้า y เป็นพยญั ชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเตมิ ed เช่น cry cried try tried แตถ่ ้าหนา้ y เปน็ สระให้เติม ed ได้เลย เช่น play played 4) มีคำกรยิ าบางคำทไี่ มผ่ ันไปตามกฎ เชน่ stand stood
say said ข้อสังเกต verb to be verb to be verb to be คำกริยำ ช่อง 1 ช่อง 2 ประธำน ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 1 ช่อง 2 I am was You We are were do have They He did had She It is was does has โครงสร้างประโยคบอกเล่า (ประธาน) + v.2 + (คาขยาย). เชน่ I played basketball yesterday. She cried. โครงสรา้ งประโยคปฏิเสธ (ประธาน) + did not (didn’t) + v.1 + (ส่วนขยาย). เช่น Manee didn’t dance. Suda didn’t go to school last week. (ประธาน) + was not (wasn’t) + (คาขยาย). were not (weren’t) เช่น A cat wasn’t foolish. My friends weren’t busy. (ประธาน) + had not (hadn’t) + (คาขยาย). did not have (didn’t have)
เชน่ They hadn’t an umbrella. Piti didn’t have any sandwiches. โครงสร้างประโยคคำถาม Did + (ประธาน) + v.1 + ? เช่น Did you go to school last month? Was Were + (ประธาน) + adjective + ? เช่น Was he friendly? Had + (ประธาน) + (คาขยาย) + ? เชน่ Had you any fruits? ข้อควรจำ การตอบท่ีขึ้นต้นดว้ ยคำกริยาช่วยต้องการคำตอบคือ Yes หรอื No ขน้ั นำเสนอ (Presentation) เมื่อนักเรียนจดลงสมุดของตนเองเรียบร้อย แล้วเปิด แบบฝึกหัด หน้า 38 ข้อ 2 Read and circle. นักเรียนอ่านประโยคแล้ววงรอบคำกริยาท่ีเหมาะสมในแต่ละประโยค จากน้ันครูเฉลยคำตอบ แล้ว ให้นกั เรยี นอ่านประโยคทสี่ มบรู ณพ์ ร้อม ๆ กัน 1 รอบ 1. was 2. weighed 3. ate 4. were 5. lived 6. were 7. ate 8. weighed ขนั้ ฝกึ (Practice) ครเู ขยี นประโยคคำถามบนกระดาน และอ่านคำถามใหน้ กั เรยี นฟงั ดังนี้ 1. How much did it weigh? 2. How tall was it? 3. What was its food? 4. What is it?
ขัน้ นำไปใช้ (Production) ครใู หน้ กั เรยี นฟงั Track 48 โดยแบ่งฟงั ทลี ะข้อ แลว้ จบั ใจความเพอ่ื ตอบคำถาม ครเู ปดิ CD ขอ้ ละ 2 รอบ เม่ือฟังจบแต่ละข้อครูถามคำถามบนกระดาน ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ 1. This animal was on earth about 145 million years ago. Its neck was long. It was about 15 metres tall. It weighed about 40,000 kilograms. It ate leaves. 2. This animal lived in the Ice Age. Its fur was long. It was about 3 metres long and 4 metres tall. It weighed about 7,000 kilograms. It ate plants. 3. This animal was on earth 1.6 million years ago. Its teeth were long. It was about 1 metre long and 2 metres tall. It weighed about 200 kilograms. It ate meat. ขั้นสรปุ (Wrap up) จากนน้ั ให้นักเรยี นเปิด หนงั สือเรียน หนา้ 50 ข้อ 2 Read, listen and match. อา่ นออก เสียงข้อความ แลว้ จับคภู่ าพกับข้อความให้ถกู ต้อง 1. c 2. a 3. b ช่วั โมงท่ี 4 My name is Dino. (4) ขั้นนำ (Warm up) ครูแจกแบบทดสอบด้านการฟัง โดยให้นักเรียนเลือกคำท่ีให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง จากเน้ือหาของแบบทดสอบ และ script จาก หนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 3 Read and listen about Dino. แลว้ ครูเปิด Track 49 3 รอบ เพือ่ เฉลยคำตอบ และใหน้ ักเรียนฝกึ ออกเสียง
Listening Test คำชี้แจง ฟังและเลือกคาที่ใหม้ าเติมลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง trees short small dinosaur tall biggest teeth My name is Dino. I am a (1) . I live in the Jurassic period. I was the tallest and (2) animal on land. My head was small. My neck was long but my tail was (3) . I weighed about 40,000 kilograms. I was about 15 metres (4) . I had 52 (5) . My favourite food was (6) . 1. dinosaur 2. biggest 3. short 4. tall 5. teeth 6. leaves ขน้ั นำเสนอ (Presentation) เสรจ็ แลว้ ครเู ปิด Track 49 ให้นักเรยี นฟังประโยคท่สี มบูรณ์อกี ครั้ง My name is Dino. I’m a dinosaur. I lived in the Jurassic period. I was the tallest and biggest animal on land. My head was small. My neck was long but my tail was short. I weighed about 40,000 kilograms. I was about 15 metres tall. I had 52 teeth. My favourite food was leaves. ขั้นฝึก (Practice) เมื่อครูเฉลยคำตอบและนักเรียนฝึกออกเสียงตาม Track 49 เรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนเปล่ียนรูป ประโยคในบทความให้เป็น Past Simple Tense จากนั้นอ่านบทความที่เปล่ียนเรียบร้อยแล้ว 1 รอบ จากน้ันให้นักเรียนทำกิจกรรม Now talk about Dino using was/weighed/lived. ให้นักเรียนเติม was, weighed, lived ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ครูเฉลยคำตอบ นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์
แล้วฝึกแปลความหมายด้วยตนเอง ครูคอยช่วยเหลือนักเรียนท่ีออกเสียงคำและแปลความหมายไม่สอดคล้อง กบั ประโยค 1. was 2. lived 3. weighed 4. was 5. was 6. was 7. was 8. was ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนอ่านประโยคทั้ง 5 ข้อ ในหนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 4 Listen and write T (true) or F (false). ครูเปิด Track 50 3-4 รอบ ให้นักเรียนฟังบทความ แล้วเขียนตอบ T ถ้า ประโยคที่ใหเ้ ปน็ จริง และตอบ F ถ้าประโยคทีใ่ ห้เป็นเทจ็ ข้อท่ีนักเรียนตอบ F ให้นกั เรยี นแก้ไขให้ถูกตอ้ ง ดว้ ย เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ We were at the zoo yesterday. It was fantastic! There were three elephants. The heaviest elephant weighed 4,000 kilograms. There was a giraffe. It was five metres tall. I like giraffes. They are my favourite animal. There were two cheetahs. Their brown and black hair was beautiful. Giraffes are my favourite animal. I liked the panda too. His fur was black and white. There were lots of bamboo leaves for him but he wasn’t hungry. There were six humming birds. The lightest humming bird weighed only 3 grams and it was only 6 centimetres long. It was so small.
1. T 2. T 3. F (There were two cheetahs at the zoo.) 4. T 5. F (The lightest humming bird weighed 3 grams.) ข้ันสรปุ (Wrap up) ครูเตรียมบัตรคำดังน้ี mammoth, whale, lion, dinosaur, zebra, emu, camel ครูชูบัตร คำทีละใบให้นักเรียนออกเสียงคำ ครูนำบัตรคำเหล่านั้นไปติดบนกระดาน และให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 38 ข้อ 1 Find seven words about animals. หาคำทต่ี ดิ บนกระดานให้ครบทุกคำ ช่ัวโมงที่ 5 Withdrawn Game (5) ขน้ั นำ (Warm up) ครนู ำภาพตนเองเม่ือตอนท่ียังเป็นนักเรียน และตอนท่ีเป็นครูมาแสดงหน้าชั้นเรียน ครูชูภาพตอนท่ี เปน็ นกั เรียนและพูดว่า Ten years ago, I was a student. และชูภาพตอนเปน็ ครูและพูดวา่ Now, I am a teacher. แล้วถามนักเรยี นว่าภาพใดเป็นอดีต ภาพใดคอื ปจั จบุ นั ขัน้ นำเสนอ (Presentation) จากน้ันครูอธิบายการใช้ Present Simple Tense และ Past Simple Tense ว่า เหตุการณ์ ทเี่ กิดขึ้นในปจั จบุ ันจะใช้ Present Simple Tense คำกริยาจะตอ้ งเป็นชอ่ งท่ี 1 สว่ นเหตกุ ารณ์ท่ีส้ินสดุ ไป แล้วในอดีตจะใช้ Past Simple Tense และคำกริยาจะเป็นช่องท่ี 2 จากนั้นใหน้ ักเรียนเปรียบเทยี บภาพ 2 ภาพ ใน แบบฝึกหัด หน้า 39 ข้อ 3 Look and compare. ว่าภาพใดเป็นปัจจุบัน เสร็จแล้วให้ ช่วยกันเฉลยคำตอบ Picture 1 is about the present. เพราะกริยาใช้ is และเติม s มีคาวา่ “now” Picture 2 is about the past. เพราะกริยาเป็น was และเติม ed มีคาวา่ “Last year”
ขัน้ ฝกึ (Practice) นักเรียนอ่านข้อความของสัตว์ 3 ชนิด ในแต่ละข้อ ได้แก่ แพนด้า ไดโนเสาร์ และสุนัข ใน แบบฝึกหัด หน้า 39 Now circle the correct answers. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนสนิท (pair work) เพอ่ื ชว่ ยกันอา่ นประโยค แลว้ วงรอบคำกรยิ าที่ถูกตอ้ ง เสรจ็ แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 1. were, are 2. was, was, lived 3. is, weighs, was, is ครูตรวจคำตอบบนกระดาน นกั เรยี นต่างแกไ้ ขงานของตน แลว้ อา่ นขอ้ ความทง้ั 3 ในแบบฝกึ หดั พรอ้ มกันดงั ๆ ขนั้ นำไปใช้ (Production) 1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Withdrawn Game (เกมจับฉลาก) โดยครูเตรียมฉลากรายช่ือนักเรียน ทุกคน ถา้ จับได้ช่อื ใครใหเ้ ดินไปจับคู่กับคนนนั้ ถ้าจับไดช้ ่อื ของตนเองให้จบั ใหม่ 2. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละคเู่ ลา่ ประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พ่ือนฟัง โดยบอกในรปู อดตี 3 ประโยค และปัจจบุ ัน 3 ประโยค ครูเขียนรปู แบบบนกระดาน ดังนี้ Pattern When I was young, I (3 sentences) . Now I (3 sentences) . ขน้ั สรุป (Wrap up) ครูเดินสังเกตและช่วยเหลือนักเรียนบางคนท่ีไม่สามารถแต่งประโยคได้ ครูเน้นให้นักเรียนแต่ง ประโยคให้สร้างสรรค์ และใช้ท่าทางประกอบการพูด จากน้ันครูให้นักเรียนที่มีความพร้อมมากท่ีสุด 1 คู่ ออกมาเลา่ ให้เพื่อนฟงั e.g. Manop: When I was young, I climbed up a tree. I watched teletubbies. And I ate lollipop. Now I play tennis. I watch National Geography. And I eat healthy food.
Worksheet ท่ี 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง Amazing Animals แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 เรื่อง Mammoth ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
เฉลย Worksheet ท่ี 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 8 เร่ือง Amazing Animals แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง Mammoth ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5
8.การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ 60 ชนิ้ งาน แบบประเมนิ ขน้ิ งาน สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา รายบุคคลการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ ม่นั แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ในการทำงาน ระดบั คุณภำพ ระดับ แปลผล คะแนน ร้อยละ 4 ดเี ย่ียม 9 - 10 80 - 100 3 ดี 7 - 8 70 – 79 2 พอใช้ 5 - 6 60 - 69 1 ปรับปรุง 1-4 0 - 59 เกณฑ์กำรตดั สิน นักเรยี นได้คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ถอื ว่ำผ่ำนเกณฑ์ 9.สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น Smile ป. 5 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บตั รภาพ บัตรคำ แถบประโยค
ภาคผนวก
แบบประเมนิ ทักษะทำงภำษำ วชิ ำภำษำองั กฤษ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี Lesson ………………………………….. กจิ กรรม ………………………………….. คำชีแ้ จง ใหผ้ สู้ อนสังเกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนนลงใน ตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์กำรให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ออกเ ีสยง สะกดคา และบอก สรุปผล ความหมายคาศัพท์ ี่ทเ ีรยนได้ กำรประเมิน พูดขอและให้ข้อ ูมลและแสดงความ เลขท่ี ชื่อ-สกุล คิดเ ็หนเ ่ีกยวกับสถาน ี่ท ี่ทไปเ ่ีทยวมา รวม ได้ คะแนน ใช้ประโยค Past Simple Tense ได้ ไม่ ้ทัง ูรปบอกเ ่ลา ป ิฏเสธ และคาถาม ผา่ น ผา่ น ัฟง/ ่อานและตอบคาถามได้ เขียนเ ี่กยวกับการไปเ ่ีทยวใน วันหยุดได้ ลงช่ือ …………….…………………. ผปู้ ระเมิน กำรประเมิน: นกั เรียนท่ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
แบบประเมินชิ้นงำน คำชีแ้ จง ใหผ้ สู้ อนตรวจชิ้นงานของนกั เรียน โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์กำรให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง เลขท่ี ช่ือ-สกลุ การนาเสนอผลงาน (ในภาพรวม) รวม สรุปผล การเต ีรยมความพ ้รอมก่อนนาเสนอ คะแนน กำรประเมนิ (ห ืรอความสามัคคีในการทางาน) ความถูกต้องของ ิ้ชนงาน ผา่ น ไมผ่ า่ น ความเ ีรยบ ้รอยสวยงาม ความคิด ิรเ ิ่รมส ้รางสรรค์ ลงชื่อ………………………………. ผปู้ ระเมิน กำรประเมิน: นกั เรียนท่ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
คำชีแ้ จง ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้ำน ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียนแลว้ ขดี ลงในช่องว่าง ใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน และตามความเป็นจริง โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี 4 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนมาก และบอ่ ยคร้ัง สม่าเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ 2 = พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง 1 = พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางคร้ัง คณุ ลกั ษณะอนั รายการประเมิน ระดบั คะแนน พึงประสงคด์ า้ น 4 32 1 1. รักชำติ ศำสน์ 1.1 มีความรัก และภูมิใจในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซ่ือสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผอู้ ่ืน 3. มีวินยั 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล 5. อยู่อย่ำง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน 6. ม่งุ มั่นในกำร 6.1 มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทำงำน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรค เพอ่ื ใหง้ านสาเร็จ 7. รักควำมเป็ น 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ สำธำรณะ 8.1 รู้จกั การใหเ้ พ่ือส่วนรวม และเพ่อื ผอู้ ื่น 8.2 แสดงออกถึงการมีน้าใจหรือการใหค้ วามช่วยเหลือผอู้ ่ืน 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพือ่ ส่วนรวมเม่ือมีโอกาส
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 1.นกั เรยี นจำนวน คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ..........-.......คน คดิ เป็นร้อยละ......-............ 2. แนวทางแก้ไขนกั เรียนท่ไี ม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ..............-.............................................................................................................................................. 3.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ไมผ่ า่ น - คน ผา่ น - คน ดี คน ดเี ยยี่ ม คน ระดับดีข้นึ ไป ร้อยละ 100 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ไมผ่ ่าน - คน ผ่าน - คน ดี คน ดีเยี่ยม คน ระดับดีขนึ้ ไป ร้อยละ 100 5.นกั เรียนเกิดทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเคร่ืองหมาย ในช่องวา่ งท่ตี รงกบั ทักษะท่ีเกิด ✓ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา ✓ การสร้างสรรค์ ✓ ความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ ✓ การสื่อสาร ✓ ดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ ทักษะการเปล่ยี นแปลง ✓ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ✓ ทกั ษะอาชพี และ ทักษะการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 ลงช่อื .................................................. (นางสาวอรวรรณ พุดมอญ)
ความคดิ เหน็ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง .............................................................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื …………………………………………… (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผูช้ ่วยผู้อำนวยการกล่มุ งานบริหารวิชาการ ...................../......................./................. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ................................................................................................ .............................................................................. ..................................................................................................................................................................... ......... ...................................................................................................................................... ........................................ .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ…………………………………………………… (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถ)ิ โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) ...................../......................./.........................
Search