Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 415-36-Sujanya (2)

415-36-Sujanya (2)

Published by sujanya.phayungtham, 2018-08-10 03:34:30

Description: 415-36-Sujanya (2)

Search

Read the Text Version

หนงั สือเรียน E-Book วิชาภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่4ี เร่ือง รสวรรณคดีช่ือ นางสาวสุจรรยา พยุงธรรม ชน้ั ม.4/15 เลขท่3ี 6 โรงเรียนสตรีวทิ ยา 2

คํานํา ก E-Book เลม่ น้ีเป็นสว่ นหน่ึงของวชิ าวทิ ยาการคาํ นวณ มเี น้ือหาเก่ยี วกบั วชิ าภาษาไทยเร่ืองประเภทของรสวรรณคดไี ทย 4 ชนิด ซ่ึงเป็นส่ิงสาํ คญั ท่ที าํ ใหว้ รรณคดไี ทยสมบูรณ์ สวยงาม และมคี ุณคา่ คณะผูจ้ ดั ทาํ หวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ E-Book เลม่ น้ีจะให้ประโยชน์กบั นักเรียน นักศึกษาหรือผูท้ ่สี นใจไมม่ ากกน็ อ้ ย คณะผูจ้ ดั ทาํ

สารบญั ขเร่ ื อง หนา้รสวรรณคดไี ทย 1-เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม) 2-นารีปราโมทย์ (บทเก้ยี ว โอโ้ ลม) 3-พโิ รธวาทงั (บทตดั พอ้ ) 4-สลั ลาปังคพไิ สย (บทโศก) 6รสวรรณคดสี นั สกฤต 7-ศฤงคารรส 7-หาสยรส 8-กรุ ณารส 8-รุ ทรรส/เราทรรส 9-วรี รส 9-ภยานกรส 10-พภี ตั สรส 10-อทั ภูตรส 11-ศานตริ ส 11อา้ งองิ 12

รสวรรณคดี 1รสวรรณคดี คือ อารมณท์ ่เี กดิ ข้ึนกบั ผูอ้ า่ นวรรณคดเี ม่ือได้รับรูอ้ ารมณข์ องตวั ละครในเร่ือง แบง่ ออกเป็น 4 ประเภทดงั น้ี•เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม)•นารีปราโมทย์ (บทเก้ยี ว โอโ้ ลม)•พโิ รธวาทงั (บทตดั พอ้ )•สลั ลาปังคพไิ สย (บทโศก)

1.เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม) 2เสาวรจนีย์ (บทชมโฉม) คือการเลา่ ชมความงามของตวั ละครในเร่ืองอาจเป็นตวั ละครท่เี ป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือสตั ว์ ซ่ึงการชมน้ีอาจจะเป็นการชมความเกง่ กลา้ ของกษตั ริย์ ความงามของปราสาทราชวงั หรือความเจริญรุ่งเรืองของบา้ นเมือง เชน่บทชมนางเงือก ซ่ึงตดิ ตามพอ่ แมม่ าเพ่ือพาพระอภยั มณีหนีนางผเี ส้ือสมุทร จากเร่ือง พระอภยั มณีหน่อกษตั ริยท์ ศั นานางเงือกนอ้ ย ดูแชม่ ชอ้ ยโฉมเฉลาทงั้ เผา้ ผมประไพพกั ตรล์ กั ษณล์ า้ ลว้ นขาคม ทงั้ เน้ือนมนวลเปลง่ ออกเตง่ ทรวงขนงเนตรเกศกรออ่ นสะอาด ดงั สุรางคน์ างนาฏในวงั หลวงพระเพลนิ พศิ คดิ หมายเสยี ดายดวง แลว้ หนักหน่วงนึกท่จี ะหนีไป (พระอภยั มณี : สุนทรภู)่

32.นารีปราโมทย์ (บทเก้ียว โอโ้ ลม)นารีปราโมทย์ (บทเก้ียว โอโ้ ลม)คือการกลา่ วแสดงความรกั ทงั้ การเก้ยี วพาราสกี นั ในระยะแรก ๆหรือการพรรณนาบทโอโ้ ลมปฏโิ ลมกอ่ นจะถึงบทสงั วาสนั้นดว้ ย เชน่ถึงมว้ ยดนิ ส้ินฟ้ ามหาสมุทร ไมส่ ้ินสุดความรักสมคั รสมานแมน้ เกดิ ในใตฟ้ ้ าสุธาธาร ขอพบพานพศิ วาสไมค่ ลาดคลาแมน้ เน้ือเยน็ เป็นหว้ งมหรรณพ พ่ขี อพบศรีสวสั ด์เิ ป็นมจั ฉาแมน้ เป็นบวั ตวั พ่เี ป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทองเจา้ เป็นถา้ อาไพขอใหพ้ ่ี เป็นราชสหี ส์ มสูเ่ ป็นคูสองจะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคูค่ รองพศิ วาสทุกชาตไิ ป (พระอภยั มณี : สุนทรภู)่

3.พิโรธวาทงั (บทตดั พอ้ ) 4พิโรธวาทงั (บทตดั พอ้ ) คือการกลา่ วขอ้ ความแสดงอารมณไ์ มพ่ อใจ ตงั้ แตเ่ ร่ืองเลก็ นอ้ ยไปจนถึงเร่ืองใหญ่ ตง้ั แต่ ไมพ่ อใจ โกรธ ตดั พอ้ ประชดประชนั กระทบกระเทยี บเปรียบเปรย เสยี ดสี และดา่ วา่ อยา่ งรุนแรง เชน่ คร้ังน้ีเสยี รักกไ็ ดร้ ู ้ ถึงเสยี รูก้ ไ็ ดเ้ ชาวนท์ ่เี ฉาฉงนเป็นชายหม่นิ ชายตอ้ งอายคน จาํ จนจาํ จากอาลยั ลาน (เจา้ พระยาพระคลงั (หน))

5บทตดั พอ้ ท่แี สดงทง้ั อารมณร์ กั และแคน้ ของ องั คาร กลั ยาณพงศ์ จากบทกวี“เสยี เจา้ ”จะเจบ็ จาํ ไปถึงปรโลก ฤๅรอยโศกรูร้ า้ งจางหายจะเกดิ ก่ฟี ้ ามาตรมตาย อยา่ หมายวา่ จะใหห้ วั ใจ (องั คาร กลั ยาณพงศ)์

4.สลั ลาปังคพิไสย (บทโศก) 6สลั ลาปังคพิไสย (บทโศก) คือการกลา่ วขอ้ ความแสดงอารมณโ์ ศกเศรา้ อาลยั รกั เชน่บทโศกของนางวนั ทอง จากเร่ืองขุนชา้ งขุนแผน ตอนขุนแผนพานางวนั ทองหนี ซ่ึงคร่าครวญอาลยั รกั ตน้ ไมใ้ นบา้ นขุนชา้ ง อนั แสดงใหเ้ หน็ วา่ นางไม่ตอ้ งการตามขุนแผนไป แตท่ ่ตี อ้ งไปเพราะขุนแผนร่ายมนตส์ ะกดกอ่ นลาจากไป นางไดร้ ่าลาตน้ ไมก้ อ่ นลาํ ดวนเอย๋ จะดว่ นไปกอ่ นแลว้ ทง้ั เกดแกว้ พกิ ุลย่สี ุน่ สีจะโรยรา้ งหา่ งกล่นิ มาลี จาํ ปีเอย๋ ก่ปี ีจะมาพบ (พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั )

รสในวรรณคดนี อกจาก 4 รสหลกั แลว้ ยงั แบง่ โดยยึดหลกั แบบ 7วรรณคดสี นั สกฤตไดอ้ กี 9 รสรสวรรณคดสี นั สกฤต มปี รากฏใน ตาํ รานาฏยศาสตร์ (นาฏยเวท)ของพระภรตมุนี ซ่ึงกลา่ วถึงคุณสมบตั ขิ องตวั ละครสนั สกฤตท่ีดกี วา่ ตอ้ งประกอบดว้ ยรส 9 รส คือ ศฤงคารรส หาสยรส กรุณารส รุทรรส วรี รส ภยานกรส พภี ตั สรส อพั ภูตรสและศานตริ ส โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี•ศฤงคารรส (รสแหง่ ความรกั ) เป็นการพรรณนาความรกั ระหวา่ งหนุ่มสาวระหวา่ งสามี ภรรยา ระหวา่ งผูใ้ หญก่ บั ผูน้ อ้ ย บดิ ามารดากบั บุตร ญาตกิ บั ญาติ ฯลฯ สามารถทาํ ใหผ้ ูอ้ า่ น พอใจรกั เหน็คุณคา่ ของความรักนึกอยากรกั กบั เขาบา้ งเชน่ รักฉันชูส้ าว รกั หมู่คณะ รักประเทศชาติ เป็นตน้ อยา่ งเชน่ เร่ืองลลิ ติ พระลอ เตม็ ไปดว้ ยรสรกั (บาลี เรียกรสน้ีวา่ รตริ ส)

8•หาสยรส (รสแหง่ ความขบขนั )เป็นการพรรณนาท่ที าํ ใหเ้ กดิความร่าเริง สดช่ืน เสนาะ ขบขนั อาจทาํ ใหผ้ ูอ้ า่ น ผูด้ ูย้มิ กบัหนังสือ ย้มิ กบั ภาพท่เี หน็ ถึงกบั ลืมทุกขด์ บั กลุม้ ไปชว่ั ขณะ เชน่เร่ืองระเดน่ ลนั ได เป็นตน้ (บาลเี รียกรสน้ีวา่ หาสะรส)•กรุณารส (รสแหง่ ความเมตตากรุณาท่เี กดิ ภายหลงั ความเศรา้โศก) เป็นบทพรรณนาท่ที าํ ใหผ้ ูอ้ า่ นหดหูเ่ ห่ยี วแหง้ เกดิ ความเหน็ใจถึงกบั นํ้าตาไหล พลอยเป็นทุกข์ เอาใจชว่ ยตวั ละคร เชน่ เหน็ใจนางสดี า เหน็ ใจจรกา และเหน็ ใจนางวนั ทอง เป็นตน้ (บาลีเรียกรสน้ีวา่ โสกะรส)

•รุทรรส/เราทรรส (รสแหง่ ความโกรธเคือง) บทบรรยายหรือ 9พรรณนาท่ที าํ ใหผ้ ูด้ ูผูอ้ า่ นขดั ใจฉุนเฉียว ขดั เคืองบุคคลบางคนในเร่ือง บางทถี ึงกบั ขวา้ งหนังสือท้งิ หรือฉีกตอนนั้นกม็ ี เชน่โกรธขุนชา้ ง โกรธชูชก(บาลเี รียกรสน้ีวา่ โกธะ)•วรี รส (รสแหง่ ความกลา้ หาญ) บทบรรยายหรือพรรณนาท่ที าํใหผ้ ูอ้ า่ น ผูด้ ู ผูฟ้ งั พอใจผลงานและหนา้ ท่ี ไมด่ ูหม่นิ งาน อยากเป็นใหญ่ อยากร่ํารวย อยากมชี ่ือเสยี ง เลยี นแบบสมเดจ็ พระนเรศวร ชอบความมขี ตั ตมิ านะของพระมหาอุปราชา จากเร่ืองลลิ ติ ตะเลงพา่ ย (บาลเี รียกรสน้ีวา่ อุตสาหะรส)

10•ภยานกรส (รสแหง่ ความกลวั ต่ืนเตน้ ตกใจ) บทบรรยายหรือพรรณนาท่ที าํ ใหผ้ ูอ้ า่ นผูฟ้ งั ผูด้ ู มองเหน็ ทุกข์ เหน็ โทษ เหน็ ภยั ในบาปกรรมทุจริต เกดิ ความสะดุง้ กลวั โรคภยั สตั วร์ า้ ย ภูตผปี ีศาจบางครัง้ ตอ้ งหยุดอา่ น รูส้ ึกขนลุกซู่ อา่ นเร่ือง ผตี า่ งๆ (บาลเี รียกรสน้ีวา่ อุตสาหะรส)•พภี ตั สรส (รสแหง่ ความชงั ความรงั เกยี จ) บทบรรยายหรือพรรณนาท่ที าํ ใหผ้ ูอ้ า่ นผูด้ ู ผูฟ้ งั ชงั น้ําหนา้ ตวั ละครบา้ งตวั เพราะจติ (ของตวั ละคร) บา้ ง เพราะความโหดรา้ ยของตวั ละครบา้ งเชน่เกลยี ดนางผเี ส้ือสมุทร ในเร่ืองพระอภยั มณีท่ฆี า่ พอ่ เงือก เป็นตน้(บาลเี รียกรสน้ีวา่ ชคิ ุจฉะรส)

11•อทั ภูตรส (รสแหง่ ความพศิ วงประหลาดใจ) บทบรรยายหรือพรรณนาท่ที าํ ใหน้ ึกแปลกใจ เอะใจ อยา่ งหนัก ต่ืนเตน้ นึกไมถ่ ึงวา่เป็นไปไดเ้ ชน่ น้ัน หรือ อศั จรรยค์ าดไมถ่ ึงในความสามารถ ในความคมคายของคารม ในอุบายหรือในศิลปวทิ ยาคุณแปลกใจในสุปฏิบตั ิ(ความประพฤตทิ ่ดี งี าม)แหง่ ขนั ติ เมตตา กตญั �ู อนั ยากย่งิ ท่คี นธรรมดาจะทาํ ได้ (รสน้ีบาลเี รียก วมิ หะยะรส)•ศานตริ ส(รสแหง่ ความสงบ) อนั เป็นอุดมคตขิ องเร่ือง เชน่ ความสงบสุขในแดนสุขาวดี ในเร่ือง วาสิฏฐี อนั เป็นผลมุง่ หมายทางโลกและทางธรรม เป็นผลใหผ้ ูอ้ า่ น ผูด้ ู ผูฟ้ งั เกดิ ความสุขสงบ ในขณะไดเ้ หน็ ไดฟ้ งั ตอนนั้น ดว้ ย (บาลเี รียกรสน้ีวา่ สมะรส)

อา้ งอิง 121.http://sopon.hatyaiwit.ac.th/home/rs-wrrnkhdi2.https://sites.google.com/a/bodin3.ac.th/krurakket/rs-wrrn


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook