Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการ ผ้าพันเหยือกน้ำ

โครงการ ผ้าพันเหยือกน้ำ

Published by chisirilak, 2021-03-14 08:57:10

Description: โครงการ ผ้าพันเหยือกน้ำ

Search

Read the Text Version

ผา้ พนั เหยือกนำ้ Pitcher Case ศิรลิ กั ษณ์ ภูผาอารกั ษ์ โครงการน้ีเป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเท่ยี ว วทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษาเชียงใหม่ ปกี ารศกึ ษา 2563

ผา้ พนั เหยือกนำ้ Pitcher Case ศิรลิ กั ษณ์ ภูผาอารกั ษ์ โครงการน้ีเป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเท่ยี ว วทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษาเชียงใหม่ ปกี ารศกึ ษา 2563

ก ใบรับรองโครงการ วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ เร่อื ง ผา้ พันเหยือกนำ้ (Pitcher Case) โดย นางสาวศิรลิ ักษณ์ ภผู ารักษณ์ ไดร้ บั การรบั รองให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชา การโรงแรม ทวิภาคี ประเภทวิชาอตุ สาหกรรมท่องเทยี่ ว …………………………หัวหน้าแผนกวชิ าการโรงแรม ……………….…………รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ (นางอัปสร คอนราด) (นายณรงคศ์ ักดิ์ ฟองสินธ)์ุ วนั ท่ี……..เดือน……………พ.ศ………… วนั ท…ี่ …..เดือน……………พ.ศ………… คณะกรรมการสอบโครงการ ……………………………………………………. ประธานกรรมการ (นายทินกร ต๊ิบอนิ ถา) ……………………………………………………. กรรมการ (นางสาวนพรรณพ ดวงแก้วกลู ) ……………………………………………………. กรรมการ (นางสาวนัชพร สาครธำรง)

ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงการ เรื่อง ผ้าพันเหยือกน้ำ (Pitcher Case) ของนักศึกษาแผนกวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ฉบับนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเนื่องจากได้รับความกรุณา ความ อนเุ คราะห์ การสนบั สนนุ และการให้คำแนะนำแนวทางในการดำเนินงานจากหลายท่าน ขอขอบพระคุณ นายทินกร ตบิ๊ อินถา ครทู ่ปี รกึ ษาวชิ าโครงการ และคณะครทู ี่ให้คำปรึกษา โครงการ แนะนำและให้ข้อคิดต่าง ๆ ในการทำโครงการ ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง จนทำรายงาน โครงการฉบบั นเ้ี สรจ็ สมบูรณ์ ผูศ้ กึ ษาจึงขอกราบขอบพระคุณปน็ อย่างสงู ขอกราบขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่ ที่ให้กำเนิดเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนตลอดจนการให้ คำแนะนำคำปรกึ ษาในเรอื่ งต่าง ๆ ทท่ี ำให้โครงการฉบับน้ีลุลว่ งไปได้ด้วยดรี วมทง้ั เป็นกำลังใจท่ีดีเสมอ มา และขอขอบคุณผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ ทุกท่านที่สละเวลาอันมคี ่าช่วยเหลอื และ อนุเคราะห์ในการตอบแบบสอบถาม จนทำให้โครงการฉบับนีส้ ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รวมถึงผ้มู ีส่วน เก่ียวขอ้ งทกุ ท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการใหค้ ำปรึกษา เป็นกำลังใจและให้ความช่วยเหลือตลอดมา จนทำรายงานเล่มนีส้ ำเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยดี ศิริลกั ษณ์ ภผู าอารักษ์

ค ช่ือ : นางสาวศริ ลิ ักษณ์ ภผู าอารักษ์ ช่อื โครงการ : ผ้าพนั เหยือกน้ำ (Pitcher Case) สาขาวชิ า : การโรงแรม (ทวิ) ประเภทวิชา : อตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว อาจารยป์ ระจำวชิ าโครงการ : นายทนิ กร ตบ๊ิ อนิ ถา อาจารย์ทีป่ รึกษาวิชาโครงการ : นายทินกร ตบิ๊ อินถา ปกี ารศึกษา : 2563 บทคัดย่อ โครงการเร่ือง ผา้ พันเหยือกนำ้ มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อประดิษฐ์ผ้าพันเหยือกนำ้ จากผา้ ฝ้าย เพื่อ ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานผ้าพันเหยือกน้ำ โดยมีกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling ) เปน็ การเลือกกลุ่มตวั อย่างโดยพจิ ารณาจากการตัดสินใจของผูว้ ิจัยเอง ลกั ษณะของกลุ่ม ทีเ่ ลือกเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั คอื กล่มุ ผทู้ ดลองใช้งานผ้าพันเหยือกน้ำ จำนวน 50 คน ระหว่างวันที่ 7 ธันวาคม ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2564 เคร่ืองมือท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาครั้งน้ี คอื แบบบันทึก ผลการทดลอง แบบสอบถามความพึงพอใจของผ้าพันเหยือกน้ำ ผลการดำเนินงานผู้ศกึ ษาพบว่า พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 64 ขอ้ มลู ส่วนบุคคลด้านอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญอ่ ยใู่ นชว่ งอายุ 19-20 ปี คิดเปน็ รอ้ ยละ 48 และผลการวิเคราะห์ความพึง พอใจของผู้ใช้ผา้ พันเหยือกน้ำ พบวา่ ผา้ พันเหยือกน้ำสามารถใช้งานไดจ้ ริงมากน้อยแค่ไหน ผลการ ประเมนิ อยใู่ นระดับดมี าก (������̅=4.64) รองลงมาคอื ผลิตภณั ฑ์มีรูปแบบทสี่ วยงาม อยใู่ นระดับดีมาก (������̅=4.84) ความคิดสรา้ งสรรคข์ องผลติ ภัณฑผ์ ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับดมี าก (������̅=4.74) รูปแบบ ผลติ ภณั ฑข์ องผา้ พันเหยือกนำ้ มีความเหมาะสม อยู่ในระดบั ดมี าก (������̅=4.70) ผลติ ภณั ฑ์มีสที ่เี หมาะสม อยู่ในระดับดีมาก (������̅=4.70) ผลติ ภัณฑ์สามารถใช้งานได้จริงในการพันเหยอื กนำ้ อย่ใู นระดับดีมาก (������̅=4.68) ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว อยู่ในระดับดีมาก (������̅=4.66) รูปแบบ ผลิตภณั ฑ์มลี วดลายทีส่ วยงาม อยู่ในระดบั ดมี าก (������̅=4.66) ผลิตภณั ฑม์ คี วามแข็งแรงและทนทานใน การใช้งาน อยู่ในระดับดีมาก (������̅=4.56) ความสะดวกในการใช้ผ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับดีมาก (������̅=4.54) ขนาดผลิตภณั ฑ์ผา้ พันเหยือกน้ำมคี วามเหมาะสม อย่ใู นระดับมาก (������̅=4.48) ตามลำดับ

สารบัญ ง เรื่อง หนา้ ใบรับรองโครงการ ก ข กิตติกรรมประกาศ ค ง บทคัดยอ่ จ สารบัญ ฉ ช สารบัญ (ต่อ) ซ สารบญั ตาราง 1 สารบัญภาพ 1 สารบญั ภาพ (ต่อ) 3 3 บทท่ี 1 บทนำ 3 1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั ของโครงการ 4 1.2 วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 7 8 1.3 ขอบเขตโครงการ 13 1.4 ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รบั 26 32 1.5 นิยามศัพท์ 36 บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยทเี่ กีย่ วข้อง 36 2.1 แนวคดิ และทฤษฎคี วามพึงพอใจ 37 2.2 ทม่ี าและความสำคญั ของผา้ 38 2.3 ความรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกับประเภทของผ้า 38 2.4 ความรู้เกย่ี วกบั ประเภทของผ้า 2.5 วัสดุอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทำโครงการ 2.6 งานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ การวิจัย 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการดำเนนิ โครงการ 3.3 ขนั้ ตอนวิธีดำเนนิ การศึกษา 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.5 การวิเคราะหข์ ้อมลู และสรุปผล

จ สารบญั (ต่อ) หนา้ เร่อื ง 31 บทที่ 4 ผลการศกึ ษา 34 35 4.1 สรปุ ขัน้ ตอนการทำผลิตภัณฑผ์ ้าพันเหยอื กนำ้ 37 38 4.2 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ส่วนบุคคล 39 4.3 ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจของผ้ใู ช้ผา้ พันเหยือกน้ำ 39 40 4.4 การจดั ลำดบั ผลการวเิ คราะห์ความพงึ พอใจของผใู้ ช้ผา้ พนั เหยอื กน้ำ 4.5 ผลสรุปขอ้ เสนอแนะ บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผล 5.2 อภิปรายผล 5.4 ขอ้ เสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบนำเสนอขออนมุ ัตโิ ครงการวชิ าชพี ภาคผนวก ข แบบบนั ทกึ ผลการทดลอง ภาคผนวก ค แบบประเมินความพงึ พอใจ ภาคผนวก ง การคำนวณคา่ ต่าง ๆ ในส่วนของแบบประเมินความพงึ พอใจ ภาคผนวก จ รปู ภาพประกอบโครงการ ภาพผนวก ฉ แบบรายงานผลการนำไปใชป้ ระโยชน์ ประวัตผิ จู้ ัดทำ

สารบญั ตาราง ฉ ตารางที่ หน้า 1 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลสว่ นบคุ คลดา้ นเพศ 34 2 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลด้านอายุ 34 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบคุ คลด้านระดับช้ัน 35 4 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู สว่ นบคุ คลดา้ นสถานภาพ 35 5 ค่าเฉล่ยี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผทู้ ดลองผลิตภณั ฑ์ผา้ พนั เหยือกน้ำ 36 6 การจัดลำดับผลการวิเคราะหค์ วามพึงพอใจของผูท้ ดลองผลติ ภณั ฑ์ ผา้ พนั เหยือกน้ำ 37

สารบญั ภาพ ช ภาพที่ หน้า 2.1 โครงสร้างทีเ่ ส้นด้ายพนั กันและพันเป็นเสน้ 10 2.2 โครงสรา้ งส่ิงทอลายทแยง 11 2.3 โครงสรา้ งซาติน 11 2.4 โครงสรา้ งเครอ่ื งวงกลมหรือเคร่ืองถักแบบแบน 12 2.5 โครงสร้างเครอ่ื งถักแบบวิปรติ 12 2.6 ต้นฝา้ ย 13 2.7 ดอกตน้ แฟลกซ์ 14 2.8 ใยปา่ น 14 2.9 ไหม 15 2.10 แกะ 15 2.11 เสน้ ใยไนลอน 16 2.12 เรยอน 16 2.13 ผา้ ฝ้าย 18 2.14 ผ้าซับใน 18 2.15 ริบริ้นลูกไม้ 19 2.16 เทปตนี ตกุ๊ แก 20 2.17 ดา้ ย 20 2.18 เขม้ 21 2.19 กรรไกร 22 2.20 สายวดั ตัว 22 4.1 ตดั ผา้ ฝา้ ย 31 4.2 ตดั ผา้ ซบั ใน 32 4.3 ตดั สว่ นทเ่ี ปน็ ชอ่ งทเ่ี วน้ สำหรับท่ีจับเหยอื กน้ำออก 32 4.4 เย็บผา้ ฝา้ ยและผ้าซบั ในตดิ ไวด้ ว้ ยกนั 32 4.5 ตดั เทปตีนต๊กุ แกตามขนาดขวดน้ำท่ีตอ้ งการ 32 4.6 เยบ็ เทปตีนตุ๊กแกกบั ผา้ ตดิ กัน 33 4.7 ตดั รบิ บ้นิ ลายลูกไมต้ ามขนาดทต่ี ้องการ 33 4.8 เย็บริบบ้ินลายลกู ไม้ตดิ กนั กบั ผา้ 33 4.9 นำผา้ มารีด 34

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ซ 34 4.10 ผา้ พนั เหยอื กนำ้ เสรจ็ สมบูรณ์

บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ ผ้า คือ สิ่งที่ได้จากการนำวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่สังเคราะหข์ ึ้นมาทอหรือวิธีการอื่น ๆ ให้ เป็นเนื้อเดียว ปัจจุบันคุณภาพ และขนาดของผ้าจะถูกกำหนดโดยโรงงานผลิต แต่เทคนิคการถักทอ และลวดลายบนผ้านั้นได้รับการสืบสานวัฒนธรรมโบราณ และการออกแบบสมัยใหม่จนกลายเป็น วัฒนธรรมร่วมสมัย ผ้านั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน แต่ที่พบมากที่สุดคือ การนำไปตัดเย็บ เปน็ เส้ือผ้าและภาชนะใส่ของ เชน่ กระเปา๋ และกระเชา้ เป็นตน้ นอกจากนยี้ ังนำไปผลติ เปน็ ผลิตภณั ฑ์ ที่ใช้ในบ้านด้วย เช่น ผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู เป็นต้น รวมถึงในวงการวิทยาศาสตร์และ อตุ สาหกรรมได้นำคณุ สมบัติของผ้าไปใชใ้ นการกรองต่าง ๆ อีกดว้ ยโดยเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมมี การผลติ ชุดสำหรับงานเฉพาะด้านอีกดว้ ย เชน่ ชุดสำหรับชา่ งซ่อมรถยนต์ที่มีความหนาเปน็ พิเศษ ชุด สำหรับนักดบั เพลิงที่มีความไวไฟตำ่ และชุดสำหรับแพทยใ์ นห้องผ่าตดั ทมี่ ีการเคลอื บสารพเิ ศษสำหรับ ฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ เป็นต้นวัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้านั้นมีหลายประเภท สัตว์ วัสดุที่ได้จากจะนำมา จากผม ขน ผิวหนัง และเส้นใย (ดักแด้) ที่ได้จากสัตว์ เช่น ขนแกะ ขนแพะ เป็นต้น ตัวอย่างของ ผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เสื้อขนแกะ และผ้าไหมพืช วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของพืช เช่น ใยสัปปะรด ใยฝ้าย เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑท์ ี่ได้ คือ เสื้อใยสัปปะรด เสื้อที่ทำจากฝ้ายสำหรับเด็กอ่อน แร่ ธรรมชาติ วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของแร่ธรรมชาติ เช่น ใยหิน และใยบะซอลต์ ตัวอย่างของ ผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ผ้าคลุมด้านล่างของประตูที่มีความทนทานมาก ๆ (นิยมในต่างประเทศ) สำหรับ ป้องกันรอยขีดข่วนจากสัตว์โดยเฉพาะ เช่น สุนัข แมว เป็นต้น สังเคราะห์เคมี วัสดุที่ได้มาจากการ สงั เคราะหข์ ้นึ ดว้ ยกระบวนการทางเคมี เชน่ ไนลอน เสน้ ใยทนไฟ เปน็ ตน้ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ท่ีได้ คือ ถุงน่องของผู้หญิง เสื้อคลุมที่ติดไฟยากสำหรับนักดับเพลิง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผา้ ทางการแพทย์อกี ด้วย เช่น ชุดสำหรับแพทย์ในห้องผ่าตัดที่มีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเชื้อโรค เปน็ ต้น (อ้างองิ จาก https://sites.google.com) โดยทวั่ ไปช่วงเวลาการเก็บฝ้ายจะอยใู่ นชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายน หรอื ธนั วาคม เม่ือเกบ็ ดอกฝ้าย แล้วจะนำมาตากผึ่งแดดให้แห้งสนิท แล้วเก็บสิ่งสกปรกที่เจือปน ออกจนหมด นำไปแยกเมล็ดฝ้าย ออกจากปุยฝา้ ย ด้วยวธิ กี ารนีเ้ รียกว่า “อว้ิ ฝ้าย” แลว้ นำปยุ ฝ้ายไปดีด ใหป้ ุยฝา้ ยแตกตัวละเอียดฟูขึ้น ด้วยแรงสัน่ สะเทือนของสายดีด ซึ่งเรียกว่า “กงดีดฝ้าย” จากนั้นนำปุยฝ้ายที่ดีดจนเป็นปยุ ละเอยี ดดี แล้วไปล้อด้วย “ไม้ล้อ” โดยใช้ไม้ลอ้ คลึงบนแผ่นปยุ ฝ้ายที่วางอยูบ่ น “กระดานล้อ” ให้เป็นแท่งกลม ยาว แล้วดึงไมล้ อ้ ออกแท่งกลมยาวท่ลี ้อเสรจ็ แลว้ เรียกว่า “ดิว้ ” หลงั จากน้นั จงึ นำไปเขน็ ฝ้ายให้เปน็

2 เส้นใย โดยใช้อุปกรณ์ที่เรยี กว่า “หลา” ที่มีสายพานเชือกโยงจากหลา ไปปั่นหมุนแกนเหล็กไน เพ่ือ ล้อฝา้ ยใหเ้ ป็นเส้นใยพันมว้ นอยกู่ ับแกนเหลก็ ไน เม่อื เต็มเหลก็ ไนแล้ว จงึ จดั ฝ้ายเข้า “ไมข้ าเปีย” เพ่ือ ทำเปน็ ไจหรือปอย โดยกะขนาดเอง หลังจากนน้ั จึงนำเสน้ ฝ้ายไปยอ้ มสีที่ตอ้ งการ ในบางท้องถน่ิ นิยม นำเสน้ ดา้ ยไป “ฆ่า” ดว้ ยการชุบน้ำข้าวหรือให้ฝ้ายมีความเหนียว คงทนไม่ขาดง่าย จากนั้นจึงนำไป ใสก่ งเพอ่ื กวกั เสน้ ด้าย แลว้ นำมาปั่นหลอดแยกเส้นฝ้ายออกเปน็ 2 จำพวกคือ เสน้ ยืน และเสน้ พุง่ เพ่อื ใช้ในการทอผ้าต่อไป การทอฝ้าย การทอผ้านั้นต้องอาศัยฝมี ือและความรู้ความชำนาญของผู้ทอเปน็ อย่างมากเพราะแต่ละคนที่ทำแต่ละขั้นตอน จะมีความแตกต่างกัน เส้นไหมที่สาวได้แต่ละช่วงเวลา หรือแต่ละระยะของฝักไหมให้ความหนาของเส้นไม่ เท่ากัน สีไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นแล้ว ความสามารถในการทอ การสอดกระสวย ความแรงในการตีกระทบหรือการฟัดทำให้ได้สีเข้มอ่อน ต่างกัน การเรียงเส้นไหมให้ตรงลายจะแสดงถึงความคมชัดและความชำนาญของผู้ทอแต่ละคน อากาศ อุณหภูมิ หรือแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกของผู้ทอ และอาศัยความละเอียด ความประณีต ส่ิง เหล่านี้มีผลกับความสวยงามของผ้าผืนนั้น ๆ จึงทำให้ผ้าทอมือแต่ละผืนที่ทอ มีเอกลักษณ์เป็นของ ตวั เอง (อา้ งองิ จาก http://www.openbase.in.th/node/5416) ผู้จัดทำโครงการได้สำรวจอาคารปฏิบัติการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ประเภท อตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ียว สาขาวชิ าการการโรงแรม ภายในอาคารปฏิบตั ิการโรงแรมในส่วนของห้องครัว และห้องอาหารเกี่ยวกับอุปกรณ์การใช้งานต่าง ๆ ในการปฏิบัติการ พบว่า ผ้าพันเหยือกน้ำใน ห้องอาหารและการจดั งานต่าง ๆ มีผา้ พันเหยือกแบบเดียว ยากตอ่ การทำความสะอาดและการใช้งาน ซ่งึ ผ้จู ดั ทำจึงมองเหน็ ความสำคัญของผ้าฝา้ ย คุณลกั ษณะของผ้าฝ้ายนั้นมีทง้ั แบบบาง และแบบหนามี คณุ สมบตั ซิ บั น้ำไดด้ ี เนอื้ ผ้านมุ่ สผี า้ ออกด้านไม่เงา ดเู รียบ งา่ ย สบายตา มคี วามคงรูปและมีความอม ฝนุ่ สามารถนำไปประดิษฐ์ตัดเย็บเป็นเสือ้ ผ้า เครอ่ื งนงุ่ ห่มฯ และใชใ้ นการจัดตกแต่งสถานที่ตา่ ง ๆ ได้ ดงั นน้ั ทางผู้จัดทำโครงการจึงได้มีแนวคิดการตัดเย็บ ผ้าพันเหยอื กซึง่ มีวัสดุที่หาได้ง่ายตามท้องตลาด นั่นคอื ฝา้ ฝา้ ย เพอ่ื นำมาเพม่ิ มลู ค่าให้ทรพั ยากรทอ้ งถ่ินและเพ่ิมมูลค่าใหก้ ับผ้า และในส่วนของผ้าพัน เหยือกจะช่วยซับน้ำได้ดี สามารถป้องกันอุบัติเหตุของการหยดของน้ำได้ เพิ่มความสวยงามให้กับ สถานทีต่ ่าง ๆ และเพิม่ ความสวยงามใหก้ บั เหยือกนำ้ จงึ จัดทำโครงการเรือ่ ง “ผา้ พนั เหยือกน้ำ” ขึน้ 1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1) เพ่ือจดั ทำผ้าพันเหยือกนำ้ จากผ้าฝ้าย 2) เพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจของผู้ใชง้ านผา้ พนั เหยอื กนำ้ จากผ้าฝ้าย 3) เพอ่ื แก้ไขปัญหาผ้าพนั เหยือกท่ีใชง้ านยากให้สะดวกต่อการใช้งาน

3 1.3 ขอบเขตโครงการ เปา้ หมายของโครงการ 1) เชิงปรมิ าณ - จำนวน ผ้าพันเหยอื กน้ำ จำนวน 20 ชนิ้ - กลุม่ ตวั อยา่ ง ของผู้ใช้ผ้าพนั เหยอื กน้ำ จำนวน 50 คน 2) เชงิ คุณภาพ - ผลติ ภณั ฑ์ผา้ พันเหยือกน้ำมรี ปู ลักษณ์สวยงามทันสมยั และสามารถใชง้ านได้จรงิ 3) ระยะเวลาและสถานทใ่ี นการดำเนินงาน - ระยะเวลาดำเนินงาน ระหวา่ งวนั ท่ี 7 ธนั วาคม 2563 ถงึ วันที่ 12 มีนาคม 2564 - สถานทด่ี ำเนนิ งาน วิทยาลยั อาชีวศึกษาเชียงใหม่ 167 ถนนพระปกเกลา้ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ 50200 1.4 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ 1) ทราบขัน้ ตอนและกระบวนการประดิษฐ์ผ้าพันเหยอื กน้ำจากผา้ ฝ้าย 2) อาคารปฏบิ ัติการโรงแรมมีผา้ พันเหยอื กน้ำใชใ้ นการปฏิบัตงิ านต่าง ๆ 3) ผ้าพันเหยือกน้ำสามารถนำไปใช้งานได้สะดวกและตอบสนองความต้องการในการใช้ งาน 1.5 นยิ ามคำศพั ท์ 1) ผ้าพันเหยอื กน้ำ คือ ผ้าชนิดต่าง ๆ ท่ีนำมาประดษิ ฐเ์ พ่ือนำมาใชใ้ นการพนั เหยอื กน้ำ และซับไอน้ำของเหยือกนำ้ 2) เหยือกน้ำ คือ กาหรือโถมีขนาดใหญ่และสูงกว่าถ้วยเป็นภาชนะใช้ใส่น้ำหรือของเหลว ตา่ ง ๆ เช่น นำ้ เปลา่ นำ้ ผลไม้ เปน็ ตน้ ผลติ มาจากวสั ดุหลายแบบหลายประเภทและตา่ งกนั ออกไปทั้ง สเเตนเลส พลาสตกิ หรอื แกว้ และมีหหู รอื ทจ่ี ับอยูข่ า้ ง ๆ ข้างเดยี ว

4 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกย่ี วข้อง ในการจัดทำโครงการเรื่อง เรื่องผ้าพันเหยือกน้ำครั้งน้ี ผู้จัดทำได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพอ่ื นำมาเป็นแนวทางในการประดิษฐ์ผา้ พนั เหยอื กนำ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 แนวคดิ และทฤษฎคี วามพงึ พอใจ 2.2 ทม่ี าและความสำคัญของผา้ 2.3 ความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกบั ประเภทของผา้ 2.4 ความรู้เกย่ี วกับประเภทของผา้ 2.5 วัสดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการทำโครงการ 2.6 งานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง 2.1 แนวคิดและทฤษฎีความพงึ พอใจ 1) ความหมายของความพงึ พอใจ กู๊ด (Good, 1973) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง สภาพ คุณภาพ หรือระดับความพึง พอใจซึ่งเป็นผลมาจาก ความสนใจต่าง ๆ และทัศนคตทิ ีบ่ ุคคลน้ันมีต่อส่งิ นน้ั โอลิเวอร์ (Oliver, 1997) ได้ให้ความหมายของความพึงพอใจ คือการตอบสนองที่แสดงถึง ความรู้ปะสงคข์ องลกู ค้าเปน็ วจิ ารณญาณของลูกค้าท่ีมีต่อสนิ ค้าและบริการ ความพึงพอใจมีมุมมองที่ แตกตา่ งกันแลว้ แตม่ มุ มองของแตล่ ะคน โวลแมน (Wolman, 1973) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกที่มีความสุขเม่ือ ไดร้ ับผลสำเรจ็ ตามจุดมงุ่ หมาย ความตอ้ งการหรอื แรงจูงใจ เคลิร์ก (Quirk, 1987)ความพึงพอใจหมายถึงความรู้ที่มีความสุขหรือความพอใจเมื่อได้รับ ความสำเร็จ หรือไดร้ บั ส่งิ ที่ตอ้ งการ ฮอรน์ บี้ (Hornby, 2000) ความพึงพอใจหมายถึงความรู้สกึ ท่ีดเี ม่ือประสบความสำเร็จหรือไต้ รับสิง่ ทต่ี อ้ งการใหเ้ กิดข้นึ เป็นความร้สู กึ ทพี่ อใจ วริ ฬุ พรรณเทวี (2542, หน้า 111) ได้ให้ความหมายความพึงพอใจ หมายถึงความร้สู ึกภายใน จติ ใจของมนษุ ยท์ ีไ่ ม่เหมือนกนั ข้ึนอย่กู ับแตล่ ะบคุ คลวา่ จะคาดหวังกับสิง่ หน่ึงอย่างไร ถา้ คาดหวังหรอื มี ความตัง้ ใจมากและไดร้ บั การตอบสนองดว้ ยดีจะมีความพึงพอใจมาก แตใ่ นทางตรงกนั ข้ามอาจผดิ หวัง หรอื ไม่พึงพอใจเปน้ อย่างยิง่ เมื่อไมไ่ ด้รบั การตอบสนองตามที่คาดหวงั ไว้ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับส่ิงท่ีตนต้ังใจไว้ ว่ามมี ากหรอื นอ้ ย

5 สาโรช ไสยสมบัติ (2534, หน้า 18 อ้างถึงใน ปราการ กองแก้ว,2546, หน้า 17)ความพึง พอใจเป็นปัจจัยสำคัญประการหน่ึงทีช่ ่วยทำใหง้ านประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นงานท่ี เกย่ี วกับการให้บริการ นอกจากผูบ้ ริหารจะดำเนนิ การให้ผ้ทู ำงานเกิดความพงึ พอใจในการทำงานแล้ว ยังจำเป็นต้องดำเนินการที่จะทำให้ผู้ใช้บริการเกดิ ความพึงพอใจด้วยเพราะความเจริญก้าวหน้าของ การบริการเปน็ ปจั จัยท่ีสำคัญประการหน่ึงท่เี ปน็ ตัวบ่งช้ีถึงจำนวนผู้มาใชบ้ รกิ าร ดังน้ันผู้บริหารท่ีชาญ ฉลาดจึงควรอย่างยงิ่ ทีจ่ ะศกึ ษาให้ลึกซ้ึงถึงปัจจัยและองคป์ ระกอบต่าง ๆ ท่ีจะทำให้เกดิ ความพึงพอใจ ท้งั ผู้ปฏิบัตงิ านและผมู้ าใชบ้ ริการ ราณี เชาวนปรีชาศ์ (2538, หนา้ 18 อ้างถึงใน วฤทธ์ิ สารฤทธิคาม, 2548, หน้า 31) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกหรือทัศนคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ เกย่ี วขอ้ งความรู้สกึ พึงพอใจจะเกิดเมอ่ื ความต้องการของบุคคลท่ีมีต่อส่ิงใดสง่ิ หน่ึงหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องความร้สู ึกพึงพอใจจะเกิดข้ึนเม่ือความตอ้ งการของบุคคลได้รับการตอบสนองหรือบรรลุตาม จดุ มงุ่ หมายในระดับหน่ึง ความรู้สึกดังกลา่ วจะลดลงหรอื ไมเ่ กิดขน้ึ หากความต้องการหรอื จดุ มุ่งหมาย นั้นไม่ได้รับการตอบสนอง ความพึงพอใจต่อการใช้บริการจึงเป็นความรู้สึกของผู้ที่มารับบริการมีตอ่ สถานบรกิ ารตามประสบการณท์ ไี่ ดร้ บั จากการเขา้ ไปตดิ ต่อขอรับบรกิ ารในสถานบริการน้นั ๆ อรรถพร คำคม (2546, หน้า 29) ไดส้ รุปว่า ความพึงพอใจ หมายถงึ ทัศนคตหิ รอื ระดบั ความ พึงพอใจของบุคคลต่อกิจการรมต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกิจกรรมนั้น ๆโดยเกิด จากพืน้ ฐานของการรับรู้ค่านิยมและประสบการณท์ ่ีแต่ละบุคคลจะไดร้ ับ ระดับของความพึงพอใจจะ เกดิ ขึน้ เมือ่ กจิ กรรมน้นั ๆ สามารถตอบสนองความต้องการแก่บุคคลน้นั ไดว้ ฤทธ์ิ สารฤทธคิ าม (2548, หน้า 32 อ้างถึงใน รัตนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์, 2551, หน้า 6) ได้ให้ความหมายความพึงพอใจว่า เป็น ปฏิกิริยาด้านความรู้สึกต่อสิ่งเร้าหรอื สิ่งกระตุ้นที่แสดงผลออกมาในลักษณะของผลลัพธ์สุดทา้ ยของ กระบวนการประเมิน โดยแบง่ ออกถึงทศิ ทางของผลการประเมนิ ว่าเป็นไปในลักษณะทิศทางบวกหรือ ทศิ ทางลบหรอื ไมม่ ีปฏิกริ ิยา เชลลี่ (Shelli, 1995, p. 9 อ้างถึงใน ปราการ กองแก้ว,2546, หน้า 17) ได้ศึกษาแนวคิด เกี่ยวกับความพึงพอใจ สรุปได้ว่าเป็นความรู้สึกสองแบบของมนุษย์ คือ ความรู้สึกในทางบวกและ ความรู้สึกในทางลบ ความรู้สึกในทางบวกเป็นความรู้สึกที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ความรู้สึกที่มีระบบ ย้อนกลบั และความสขุ น้ีสามารถทำให้เกิดความสุขหรือความรู้สึกทางบวกเพ่ิมข้ึนได้อีก ดังน้ันจะเห็น ได้ว่าความสุขเป็นความรู้สึกที่สลับซับซ้อนและความสุขนี้จะมีผลต่อบุคคลมากกว่าความรู้สึกใน ทางบวกอนื่ ๆ ความรู้สึกทางลบ ความร้สู ึกทางบวกและความสุขมีความสัมพันธ์กันอย่างสลับซับซ้อน และระบบความสัมพันธ์ของความรู้สึกทั้งสามนี้เรียกว่าระบบความพึงพอใจ โดยความพึงพอใจจะ เกิดขึ้นเมื่อระบบความพึงพอใจมีความรู้สึกทางบวกมากกว่าความรู้สึกทางลบทฤษฎีความต้องการ ตามลำดบั ขัน้ ของมาสโลว์ (Maslow, 1970 อา้ งถึงใน รงั สรรค์ฤทธผ์ิ าด,2550, หนา้ 23)

6 มาสโลว์ (Maslow) ได้เรียงลำดับสิ่งจูงใจ หรือความต้องการของมนุษย์ไว้ 5 ระดับโดย เรียงลำดบั ขัน้ ของความต้องการไวต้ ามความสำคัญ ดงั นี้ - ความต้องการพนื้ ฐานทางสรรี ะ - ความต้องการความปลอดภัยรอดพน้ อันตรายและมนั่ คง - ความต้องการความรกั ความเมตตา ความอบอุ่น การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมตา่ ง ๆ - ความต้องการเกียรติยศชือ่ เสียง การยกยอ่ ง และความเคารพตัวเอง - ความตอ้ งการความสำเรจ็ ด้วยตนเอง ความพอใจในขั้นต่าง ๆ ของความต้องการของมนุษย์นี้ ความต้องการขั้นสูงกว่าบางครั้งได้ ปรากฏออกมาให้เห็นแล้วก่อนที่ความต้องการ ขั้นแรกจะได้เห็นผลเป็นที่พอใจเสียด้วยซ้ำอย่างไรก็ ตามบุคคลแต่ละคนสว่ นมากแสดงใหเ้ ห็นว่า ตนมคี วามพอใจอยา่ งสงู สุด ในลำดบั ข้ันความต้องการข้ัน ต่าง ๆ มากกว่าขั้นสงู จากการสำรวจ พบว่า คนธรรมดาทั่วไปจะมีความพอใจในลำดับขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ - ความตอ้ งการทางด้านกายภาพ 85% - ความต้องการความปลอดภยั 70% - ความต้องการทางด้านสงั คม 50% - ความต้องการเดน่ ในสงั คม 40% - ความตอ้ งการท่จี ะได้รับความสำเร็จในสิง่ ที่ตนปรารถนา 10% แชลลี่(Shelly,1985อ้างใน กรรณิการ์ จันทร์แก้ว,2538, หน้า21) สรุปได้ว่าความพึงพอใจ เป็นความรู้สึกสองแบบของมนุษยค์ ือความรู้สึกในทางบวกและความรู้สึกทางลบ ความรู้สึกทางบวก เปน็ ความรสู้ ึกท่เี ม่ือเกิดขึน้ แลว้ จะทำใหเ้ กิดความสุขความสุขน้เี ปน็ ความรู้สึกท่ีแตกต่างจากความรู้สึก ทางบวกอื่น ๆ กล่าวคือเป็นความรู้สึกที่มีระบบย้อนกลับ ความสุขเป็นความรู้สึกที่สลับซับซ้อนและ ความสุขนี้จะมีผลต่อบุคคลมากกว่าความรู้สึกทางบวกอื่น ๆ ของบุคคลจะเกิดขึ้นเมื่อความต้องการ ได้รับการตอบสนองในระดับหนึ่งเมื่อเกิดความต้องการบุคคลจะตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุความ ต้องการความพึงพอใจของบุคคลจะแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมทางกายภาพและลักษณะส่วน บคุ คล ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ(2538)ได้กล่าวว่าความพึงพอใจของลูกค้าเป็นระดับความรู้สึก ของลูกค้าที่มผี ลจากการเปรียบเทียบระหวา่ งผลประโยชน์จากคณุ สมบัติผลิตภัณฑห์ รือการทำงานของ ผลิตภัณฑ์กับการคาดหวังของลูกค้าหรือระหว่างการรับรู้ต่อการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการกับการ คาดหวังของลูกค้าหรือบริการที่ลูกค้าคาดหวังระดับความพึงพอใจของลูกค้าเกิดจากความแตกต่าง ระหวา่ งผลประโยชน์จากการบรกิ ารกับความคาดหวงั ของบุคคล ซงึ่ ความคาดหวงั ดังกล่าวน้ันเกิดจาก ประสบการณ์และความรู้ในอดีตของแต่ละบุคคลอาทิจากเพื่อน จากนักการตลาด หรือจากข้อมูลคู่ แข่งขันเป็นต้น ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ให้บริการประสบความสำเร็จก็คือการเสนอบริการที่มี ผลประโยชน์สอดคล้องกับความคาดหวงั ของลูกค้าผู้ใช้บรกิ ารโดยยึดหลกั การสร้างความพึงพอใจรวม

7 สำหรับลูกค้า ส่วนผลประโยชน์จากการบริการเกิดจากการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ส่วน ผลประโยชน์จากการบริการเกิดจากการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าโดยการสร้างคุณค่าเพิ่มเกดิ จากการทำงานร่วมกันกับฝ่ายต่าง ๆ ของผู้ให้บริการโดยยึดหลักการสร้างคุณภาพรวม เกิดจากการ สร้างความแตกต่างทางการแข่งขันของการบริการโดยให้บริการที่แตกต่างจากคู่แข่งขันและความ แตกต่างต้องมีคุณค่าในสายตาของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ซึ่งอาจเป็นความ แตกต่างด้านผลิตภณั ฑด์ ้านบริการ ด้านบุคลากรและด้านภาพลักษณ์ซ่ึงความแตกตา่ งเหล่าน้ีจะเป็น ตัวกำหนดคุณค่าเพ่มิ สำหรบั ลกู ค้า ธรี กิติ นวรตั น ณ อยธุ ยา(2547)ได้กลา่ วถงึ แนวคดิ แนวคดิ ความพึงพอใจของลูกค้าวา่ ความพึง พอใจของลูกค้าจะเกิดจากประสบการณ์จากการให้บริการอย่างเต็มที่จนสุดความสามารถลูกค้าจะ รสู้ กึ วา่ คมุ้ คา่ ทไ่ี ดม้ าใชบ้ รกิ ารความพงึ พอใจสำหรับการบริการน้ันสร้างไดย้ ากกว่าสนิ ค้า เนื่องจากคุณภาพของสินค้าที่เป็นสิ่งที่พัฒนามาแล้วอยู่นิ่งไม่เปลี่ยนแปลงแต่คุณภาพการ บริการขึ้นกับพนักงาน ซ่ึงแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ หรือลูกคา้ ท่ีมาใช้บริการ บางรายอาจจะมีความต้องการเฉพาะที่มากเกินความต้องการที่ต้องการที่พนักงานจะให้บริการได้ อย่างเตม็ ทจ่ี ึงทำให้เกดิ ความไม่พอใจ ดังนนั้ ปจั จัยหลกั ในการสร้างความพงึ พอใจมี 3 ประการ ดังน้ี - ผูร้ บั บรกิ ารมคี วามตอ้ งการและความคาดหวงั สำหรบั การบริการท่แี ตกตา่ งกนั ไปในแต่ละคน รวมท้ังความต้องการนั้นยังเปลี่ยนไปสำหรบั การบริการแต่ละคร้ัง - ผู้ให้บริการความพึงพอใจของลูกค้ามีผลจากความรู้ความสามารถความพร้อมในด้านกาย และอารมณใ์ นขณะให้บรกิ ารรวมถึงความเตม็ ใจในการใหบ้ ริการใหบ้ รกิ ารของพนกั งาน - สภาพแวดล้อมอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น อากาศแสงแดด เก้าอี้โต๊ะ สิ่งเหล่านี้มีผลต่อความพึง พอใจของลูกค้าที่มารับประทานอาหาร หรือเข้ามาใช้บริการในสถานที่ที่มาใช้บริการยิ่งไปกว่านั้น ความพึงพอใจของลูกค้ายงั มีผลจากจำนวนลกู คา้ ที่มาใช้บริการด้วยแถวที่ยาวเหยยี ดของธนาคารในวัน ศุกร์ย่อมสร้างความไมอ่ ยากใช้บริการ 2) การวัดระดับความพงึ พอใจของลูกคา้ หรอื ผใู้ หบ้ รกิ ารวา่ สามารถทำได้ 2 วิธคี อื - วัดจากการสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าหรือผู้ใชบ้ ริการเป็นการวดั ระดับความพงึ พอใจ ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจากการสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการโดยตรงทำได้โดย กำหนดมาตรวัดระดับความพึงพอใจท่ีลูกค้าหรอื ผู้ใช้บรกิ ารทม่ี ีตอ่ คุณภาพของสินค้าหรอื บริการน้ัน ๆ และกำหนดเกณฑ์ชี้วัดระดับความพึงพอใจจากผลการวัดระดับความพึงพอใจเฉลี่ยที่ลูกค้าหรือ ผใู้ ช้บรกิ ารทมี่ ีตอ่ คุณภาพของสนิ ค้าหรอื บริการน้นั ๆ - วัดจากตวั ช้ีวดั คณุ ภาพการให้บรกิ ารที่กำหนดขน้ึ โดยการวดั ระดับความพงึ พอใจของลูกค้า หรือผู้ใช้บริการจากเกณฑ์ชี้วัดระดับคุณภาพสินค้าหรือบริการที่กำหนดขึ้นนี้อาจใช้เกณฑ์ คุณภาพ ระดับต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นโดยผู้ให้บริการผู้ประเมินผลการให้บริการและมาตรฐานกลางหรือ มาตรฐานสากลของการใหบ้ รกิ ารนั้น

8 สรุปความพึงพอใจ คือ การทำให้ความรู้สึกของบุคคลที่ได้รับบริการในสิ่งที่ดีเป็นที่พอใจประทับใจ ตามที่ผู้รับบริการต้ังใจ ไว้หรือมากกว่าที่คิดไว้ การจะทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจไดห้ น่วยให้บริการ ตอ้ งวางระบบโครงสรา้ งที่ดี สอดคลอ้ ง สัมพนั ธก์ นั ทกุ ฝา่ ย เชน่ ดา้ นเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย ด้าน บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้าใจในหมีหน้าที่และต้องมีใจรักในการให้บริการ ด้านสถานที่ สะอาดพื้นที่เหมาะสมกับการให้บริการ มีความเชื่อมั่นและมั่นใจเมื่อมารับบริการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็น องค์ประกอบสว่ นหนึ่งจากองค์ประกอบอีกหลาย ๆ ด้านที่จะนำไปสู่จดุ สูงสุดในเรือ่ งความพึงพอใจ 3) สรปุ ประเด็นเก่ียวกบั ความพงึ พอใจดังน้ี - ความพึงพอใจเป็นการเปรยี บเทยี บความรสู้ ึกกับความคาดหวัง - ความพงึ พอใจเป็นการเปรียบเทียบความรู้สึกกับสิง่ เร้า - ความพงึ พอใจเปน็ การเปรียบเทยี บความร้สู ึกหรือทศั นคติกบั สง่ิ ท่ไี ดร้ บั - ความพงึ พอใจเปน็ การเปรียบเทียบประสบการณ์กบั การคาดหวัง 2.2 ท่มี าและความสำคัญของผา้ ผ้า คือ สิ่งที่ได้จากการนำวัสดุธรรมชาติหรือวสั ดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาสานหรือทอจนเป็นเนื้อ เดียวกัน เช่น ฝ้าย ใยไหม ไนลอน เป็นต้น ประโยชน์ของผ้าคือการนำมาตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม เครือ่ งใช้ประเภทผา้ ต่าง ๆ และในดา้ นอ่นื ๆ เชน่ การตกแตง่ สถานที่ เปน็ ตน้ วสั ดหุ ลักทใี่ ช้ในการผลิต ผ้า ได้แก่ วัสดุจากสัตว์ วัสดุจากพืช และจากการสังเคราะห์เคมี ผ้านั้นมีตั้งแต่ก่อนคริสตศ์ ักราชโดย จากการสำรวจพบผ้าลินินในถ้ำที่จอร์เจียเมื่อกว่า 134,000,463 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งนับเป็น หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ช้ินนงึ เก่ียวกับผา้ ที่สำคญั สำหรับปจั จบุ นั น้ันคุณภาพ และขนาดของผ้าจะ ถูกกำหนดโดยโรงงาน แต่เทคนิคการถักทอ และลวดลายบนผ้านั้นได้รับการสืบสานจากวัฒนธรรม โบราณ และการออกแบบสมัยใหม่จนกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย ผ้านั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ใน หลายด้าน แต่ที่พบมากที่สุดคือ การนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า และภาชนะใส่ของ เช่น กระเป๋า และ กระเชา้ เป็นตน้ นอกจากนีย้ งั นำไปผลิตเปน็ ผลิตภณั ฑ์ใช้ในบา้ นด้วย เช่น ผ้าม่าน ผ้าปเู ตยี ง ผา้ ขนหนู เปน็ ตน้ รวมถงึ ในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม ไดน้ ำคณุ สมบตั ิของผ้าไปใช้ในการกรองตา่ ง ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมมีการผลิตชุดสำหรับงานเฉพาะด้านอกี ด้วย เช่น ชุดสำหรับ ช่างซ่อมรถยนต์ทีม่ คี วามหนาเป็นพเิ ศษ ชดุ สำหรับนักดับเพลิงที่มคี วามไวไฟต่ำ และชุดสำหรับแพทย์ ในหอ้ งผ่าตดั ท่ีมีการเคลอื บสารพเิ ศษสำหรบั ฆา่ เชอ้ื โรคโดยเฉพาะ ผา้ นน้ั เป็นสิง่ สำคญั และจำเป็นตอ่ การดำเนินชวี ติ ของมนุษย์ยคุ ปัจจุบนั ไมว่ ่าจะเปน็ การนำผ้า ไปใช้เปน็ เรื่องนงุ่ หม่ ใชท้ ำเปน็ กระเปา๋ สำหรับใส่ภาชนะซึง่ ผา้ แต่ละชนดิ กม็ ีคุณสมบัติต่อการใช้งานท่ี แตกตา่ งกนั ออกไปขนึ้ อยู่กบั ความต้องการ และความเหมาะสมของผ้าทีจ่ ะนำมาใชง้ าน จากการศึกษาผู้วจิ ัยสรุปไดว้ า่ ผ้า คือ สิ่งที่ได้จากการนำวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่สังเคราะห์ ขึ้นมาสานหรือทอจนเป็นเนื้อเดียวกัน ผ้านำมาตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ประเภทผ้าต่าง ๆ และในด้านอื่น ๆ ผ้านั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช โดยจากการสำรวจพบผ้าลินินในถ้ำท่ี

9 จอรเ์ จยี เมอ่ื กวา่ 134,000,463 ปกี อ่ นครสิ ต์ศกั ราชปจั จุบนั นัน้ คณุ ภาพ และขนาดของผ้าจะถูกกำหนด โดยโรงงาน แต่เทคนคิ การถกั ทอ และลวดลายบนผ้า 2.3 ความร้เู บ้ืองตน้ เกยี่ วกับประเภทของผา้ 1) วัสดุท่ใี ช้ในการผลติ ผา้ น้นั มีหลายประเภท ดงั น้ี - สัตว์ วสั ดทุ ่ไี ด้จากจะนำมาจากผม ขน ผิวหนัง และเสน้ ใย (ดกั แด)้ ทไ่ี ดจ้ ากสตั ว์ เชน่ ขนแกะ ขนแพะ เป็นต้น ตวั อยา่ งของผลติ ภัณฑ์ที่ได้ คอื เส้ือขนแกะ และผา้ ไหม - พืช วสั ดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของพชื เชน่ ใยสัปปะรด ใยฝา้ ย เปน็ ต้น ตัวอย่าง ของผลิตภัณฑท์ ีไ่ ด้ คอื เส้ือใยสปั ปะรด เสอ้ื ที่ทำจากฝ้ายสำหรับเด็กออ่ น - แรธ่ รรมชาติ วสั ดุท่ไี ดจ้ ะนำมาจากเสน้ ใยของแรธ่ รรมชาติ เช่น ใยหิน และใยบะ ซอลต์ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ผ้าคลุมด้านล่างของประตูที่มีความทนทานมาก ๆ (นิยมใน ตา่ งประเทศ) สำหรบั ป้องกันรอยขดี ขว่ นจากสตั ว์โดยเฉพาะ เช่น สนุ ขั แมว เปน็ ตน้ - สงั เคราะห์เคมี วัสดุที่ไดม้ าจากการสังเคราะห์ขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี เชน่ ไนลอน เส้นใยทนไฟ เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ถุงน่องของผู้หญิง เสื้อคลุมที่ติดไฟยาก สำหรับนักดับเพลิง นอกจากนยี้ ังมผี ลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าทางการแพทย์อกี ดว้ ย เช่น ชุดสำหรับแพทย์ ในหอ้ งผ่าตัดทมี่ ีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเช้ือโรค 2) การจำแนกประเภท - ผา้ ทอ ผา้ ที่มกี ารสอดบนก่ที อตามกฎบางอย่างโดยเสน้ ดา้ ยซงึ่ จดั เรียงเป็น แนวต้ังฉากกนั ซึง่ กค็ อื ทง้ั สองระบบในทิศทางตามขวางและตามแนวยาว มผี ้ายนี ส์, ผา้ , กระดานชนวน ,ปา่ นและอนื่ ๆ - ผา้ ถัก ผ้าทีเ่ กิดจากการถกั ไหมพรมเปน็ วงซง่ึ แบง่ ออกเปน็ การถักผ้าและการถัก วิปริตผ้าที่ถักด้วยผ้าจะดึงด้ายออกจากทิศทางไปยังเข็มที่ทำงานของเครื่องถักเพื่อที่เส้นด้ายจะงอ ตามลำดับเป็นวงและถูกพันด้วยกัน ข ผ้าถัก Warp เกิดจากการใช้เส้นด้ายหนึ่งชุดหรือหลายชุด จัดเรียงขนานซึ่งถูกป้อนเข้าในเข็มทำงานท้ังหมดของเครือ่ งถักในทิศทางที่แปรปรวนและเกิดเป็นลปู พร้อมกนั - ผา้ ไม่ทอ เส้นใยหลวมจะถกู ผูกมดั หรอื เยบ็ ในปจั จบุ นั มกี ารใชง้ านสองวิธีในการ เชอ่ื มแลเจาะเป็นสว่ นใหญ่ วธิ ีการประมวลผลนสี้ ามารถลดความซบั ซ้อนของกระบวนการลดคา่ ใช้จ่าย และปรบั ปรงุ ผลติ ภาพแรงงานและมโี อกาสในการพัฒนาในวงกวา้ ง 3) การจำแนกประเภทของเสน้ ด้ายเปน็ สว่ นประกอบของเนอ้ื ผา้ - ผา้ ทอบรสิ ุทธ์ิ ใช้เสน้ ใยชนดิ เดียวกนั เป็นวตั ถุดิบในการประกอบผ้าและมผี า้ ฝา้ ย, ผา้ ขนสตั ว์, ผ้าไหม, ผ้าไหม, ผ้าโพลีเอสเตอร์และอื่น ๆ - ผา้ ผสม วตั ถดุ บิ ที่ประกอบเปน็ ผา้ ทำจากเสน้ ใยสองชนิดหรือมากกวา่ ซ่ึงทำจาก เสน้ ด้ายผสมและมเี นอ้ื ผา้ ผสมเช่นโพลเี อสเตอรล์ าย้เหนยี วโพลเี อสเตอร์ไนไตรล์และโพลีเอสเตอร์ฝา้ ย - ผ้าผสม วตั ถดุ บิ ทปี่ ระกอบเปน็ ผ้าทำจากเส้นดา้ ยเด่ียวของเสน้ ใยสองชนดิ ซึ่ง

10 รวมกันเปน็ เส้นและมีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ยืดหยุ่นตำ่ ผสมกับความยาวปานกลางและยาวและยังมีเส้น ใยโพลเี อสเตอรห์ ลกั และยืดหยุ่นต่ำ เสน้ ใยโพลีเอสเตอรน์ นั้ ถูกนำมาผสมเปน็ เส้น - ผ้า Interwoven: วตั ถดุ ิบของระบบสองทศิ ทางทีป่ ระกอบขน้ึ เปน็ ผา้ ท่ที ำมาจาก เส้นด้ายเส้นใยที่แตกต่างกันสานด้วยผ้าซาตินโบราณกับไหมสังเคราะห์ไนล่อนและเรยอน interwoven Nifune - ข้นึ อยู่กบั ว่าวสั ดผุ ้ามกี ารย้อมสี ผ้าขาว วตั ถุดบิ ท่ียงั ไม่ไดฟ้ อกและย้อมจะถกู แปรรูปเป็นผา้ ซง่ึ เรยี กว่าผ้าดิบ ผา้ สี วัตถดุ บิ ยอ้ มหรอื เส้นแฟนซถี กู ประมวลผลเป็นผา้ และผา้ ไหมทอเรยี กว่าผา้ ปรุงสกุ 4) การจำแนกประเภทผ้าใหม่ - ผ้ากาว มันทำโดยการผกู ผา้ สองชน้ิ กลับไปดา้ นหลงั ผ้าท่ีถูกผูกมัด, ผา้ อินทรีย์, ผ้า ถกั , ผา้ นอนวฟู เวน, ฟิล์มพลาสตกิ ไวนลิ ฯลฯ สามารถรวมกนั ในการรวมกันทแี่ ตกต่างกนั - ผา้ แปรรูป Flocking ผา้ ที่ถูกปกคลมุ ดว้ ยปยุ เสน้ ใยสนั้ และหนาแน่นซ่งึ มสี ไตล์กำ มะหย่แี ละสามารถใชเ้ ป็นเสอ้ื ผา้ และวัสดุตกแตง่ - ผา้ ลามิเนตโฟม โฟมติดอยู่กับผ้าทอหรือผ้าถักเปน็ ผา้ ฐานและส่วนใหญจ่ ะใชเ้ ป็นผ้า เยน็ หลักฐาน - ผา้ เคลือบ มนั ทำจากโพลไี วนลิ คลอไรด์ (PVC), นโี อพรีนหรือส่ิงท่ีคลา้ ยกนั บนผ้า ฐานของผ้าทอหรือผา้ ถักและมีฟังก์ชน่ั กนั นำ้ ทเ่ี หนือกว่า 5) โครงสร้างพื้นฐานของผ้าทอ - สานแบบธรรมดา: โครงสรา้ งท่เี สน้ ด้ายพันกันและพันเปน็ เส้น ภาพที่ 2.1 โครงสร้างทีเ่ สน้ ด้ายพนั กนั และพันเปน็ เสน้ ทีม่ า: http://th.deketextilemachine.com ผา้ ทอธรรมดาทั่วไป พันธุ์ผ้าฝ้าย: ผ้าแบน, poplin พนั ธุ์ผ้าขนสตั ว์: Fan Liding, Pai Lisi, ทวบี าง ๆ พันธ์ผุ า้ ไหม: ปน่ั ไฟฟา้ , georgette, ผา้ แพรแขง็ , เครปคู่ สายพันธ์ผุ ้าปา่ น: Xiabu, ผา้ ลนิ ิน; ผา้ ใยเคมีชนิด: ฝา้ ยมนษุ ย์ (ผ้าแบน viscile), โพลเี อสเตอรป์ ัน่ และอน่ื ๆ

11 - สิ่งทอลายทแยง: เนือ้ เยื่อท่ถี ูกเอยี งอย่างต่อเนื่องผ่านจดุ เน้ือเย่ือ (หรือจดุ เนอ้ื เย่ือ ทอ) เรียกว่า สิ่งทอลายทแยง ตามทิศทางของธัญพืชจากซ้ายล่างถึงขวาบนสิ่งทอลายทแยงดา้ นขวา แสดงโดย จากขวาล่างถึงซา้ ยบนสิ่งทอลายทแยงซา้ ยแทนด้วย ภาพท่ี 2.2 โครงสรา้ งสิ่งทอลายทแยง ทม่ี า: http://th.deketextilemachine.com ผ้าทอลายทแยงสามญั ผ้าฝ้าย: สงิ่ ทอลายทแยง, สกี าก,ี ผ้ายนี ส์ ผ้าขนสตั ว:์ เคลือบฟัน huada ฝาดเครอ่ื งแบบ ผา้ ไหม: สง่ิ ทอลายทแยงผา้ ไหม, ผ้าไหมทสี่ วยงาม ฯลฯ - ซาตนิ : เสน้ ยืนและเส้นโค้งมีการประสานกันทกุ ครงั้ ทเี่ ส้นด้ายส่เี สน้ ขึน้ ไปถูกแยก ออกและจุดเชื่อมต่อ เหล่านี้แยกออกจากกันไม่ต่อเนื่องและกระจายอย่างสม่ำเสมอในหนึ่งรอบ เน้ือเย่ือ พนื้ ผวิ ผ้ามีวปิ รติ หรือความยาวผ้าที่ยาว ภาพที่ 2.3 โครงสรา้ งซาตนิ ที่มา: http://th.deketextilemachine.com ผ้าขนสัตว์: แตง่ ตัว ผ้าฝา้ ย: เฮงซาติน, ผ้าซาตนิ ตรง ผ้าไหม: ผา้ ซาตินธรรมดา, ผา้ , ผ้าซาตนิ น่มุ

12 6) โครงสรา้ งพื้นฐานของผ้าถัก ผา้ ถกั แบง่ ออกเปน็ \"ถกั ผา้ \" และ \"ถักวปิ ริต\" ตามวธิ ีการข้นึ รูป - Weft knitting: หมายถึงชนิดของเคร่ืองทอผา้ ในเคร่ืองถกั Weft (เครอ่ื งวงกลม หรอื เคร่อื งถกั แบบแบน) ท่ฟี ดี หนึง่ หรือหลายไหมพรมจากทศิ ทางซา้ ยเป็นงานถักเพ่ือใหเ้ ส้นด้ายวนลูป ตามลำดับและแขนเขา้ ดว้ ยกันในรูปแบบ ผา้ วิธี ภาพท่ี 2.4 โครงสรา้ งเคร่ืองวงกลมหรอื เครอ่ื งถกั แบบแบน ท่ีมา: http://th.deketextilemachine.com ผ้าถักท่ัวไป ผา้ เหงื่อ: นัน่ คอื ผ้าถักผ้าธรรมดาเข็ม ซ่โี ครง: นัน่ คือผ้าเน้อื เยื่อยางทผ่ี ลติ ในเครอ่ื งถักผ้าคู่ ผา้ ฝา้ ย: นน่ั คอื ผา้ ซโ่ี ครงสองด้าน ผา้ มกุ : นนั่ คือผา้ ท่เี กดิ ขน้ึ จากการรวมกนั ของเขม็ แบนและแถวเขม็ เดียวมผี ลนูนและเว้าที่ ดา้ นหนา้ และตาขา่ ยเว้าทดี่ า้ นหลงั ผ้าเทอรร์ ี่: มันเป็นโครงสร้างหว่ งถักด้วยผา้ และมีการสร้างห่วงบนพนื้ ผิวของผา้ อยา่ งใกลช้ ิด กำมะหย:ี่ ผ้าท่ถี ูกตดั หรือรักษากำมะหยี่บนห่วงของพนื้ ผวิ ของผ้าเทอร์รี่ ขนแกะ โครงสรา้ ง Yuanbao ขนาดเลก็ ผา้ สเี ทาจะถูกยอ้ มก่อนจากนน้ั ดงึ หวีตดั และเขยา่ - การถักแบบ Warp: หมายถงึ วธิ กี ารสร้างเส้นด้ายหนงึ่ ชุดหรือมากกวา่ ทเี่ รยี งกนั แบบคู่ขนานบนเครื่องถักแบบวิปริต, ถักไปตามงานการให้อาหารแบบวปิ ริต, การโค้งเส้นด้ายเปน็ วง และเชือ่ มตอ่ พวกมันในทิศทางดา้ นขา้ งเพ่ือสรา้ งผ้า ภาพท่ี 2.5 โครงสรา้ งเครื่องถักแบบวิปริต ทีม่ า: http://th.deketextilemachine.com

13 วปิ ริตถกั ทวั่ ไป ผ้าตาขา่ ย: หวีค่นู ้นั ถกู ถักด้วยวิปริตและแบน รปู ร่างของตาขา่ ยมักจะเป็นรูปสามเหล่ียมส แควรก์ ลมปริซึมหกเหล่ยี มและเสา ผ้าตาข่ายโพลีเอสเตอร์ทสี่ ุดในตลาด ผ้ากำมะหยี่: เนื้อเยื่อที่ซ้อนกันนั้นแบ่งออกเป็นกำมะหยี่กำมะหยี่และกำมะหยีจำนวนหน่งึ จากนั้นจึงทำการย้อมและตัดและกำมะหยี่เสร็จแล้ว กองการตัดมีความหนาแน่นแบนและยืน มีผ้า ฝ้ายทอมอื และโพลีเอสเตอร์เตม็ ตัวในตลาด ผ้ากำมะหยี่ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับตกแต่งบา้ นและตกแต่ง รถยนต์ ใชผ้ า้ ขนสัตว์ชนิดหน่งึ เล็กน้อย มันเปน็ กองเน้ือเยื่อ แต่มันถูกตดั ครง้ั แรกแล้วจึงย้อมเพื่อให้สี ของปยุ บนพ้นื ผิวจะแตกต่างกนั เชน่ เดียวกบั ดอกไม้ ผ้าไหมกำมะหย่ี: เป็นของเทียมชนิด แต่มีความสว่างกว่า velveteen ธรรมดา กำมะหยี่ผ้า ฝ้ายไดร้ ับการรักษาดว้ ยการชุบและกำมะหยีโ่ พลเี อสเตอร์ทีท่ ำจากโพลีเอสเตอรเ์ รยอน กำมะหยี่สีทอง: มันเป็นสานด้วยโพลีเอสเตอร์ FDY และ DTY ก่อนหดตัวก่อนย้อม แล้วรีด ด้วยเครอื่ งรอ้ นหลังจากการย้อมสี ผ้าลูกฟกู : มันใช้โครงสรา้ งผา้ คู่ซึ่งตดั และเสรจ็ กำมะหยี่และผ้ามีผ้ากำมะหยีเ่ หมอื น ไสต้ ะเกยี ง จงึ เรยี กว่า \"ลกู ฟูก\" ทใ่ี ช้กันทว่ั ไปในตลาดมผี า้ ฝ้ายและผ้าลูกฟกู โพลเี อสเตอรไ์ นลอน หนงั นม่ิ ถกั วิปรติ : โดยท่วั ไปแลว้ เสน้ ดา้ ยเส้นยนื และเส้นพงุ่ ทำจากผา้ ไหมเกาะ 75D หนังกลับ ทถ่ี ักดว้ ยวปิ ริตน้นั มมี ือทอี่ ่อนนมุ่ ผ้าม่านท่ีดีและความยดื หยุ่นที่ดี สว่ นใหญ่ใช้เป็นเส้อื ผ้า จากการศึกษาผูว้ ิจัยสรุปได้ว่า วัสดุที่ใช้ในการผลติ ผ้านั้นมีหลายประเภท เช่น สัตว์ พืช แร่ ธรรมชาติ สังเคราะห์เคมี การจำแนกประเภท มีทั้งผ้าทอและผ้าไม่ทอ การจำแนกประเภทของ เสน้ ด้ายเป็นส่วนประกอบของเนื้อผ้า การจำแนกประเภทผ้าใหม่ ผา้ กาว ผ้าแปรรปู ผ้าลามิเนตโฟม และผา้ เคลือบ สว่ นโครงสร้างของผ้านน้ั มีทัง้ โครงสรา้ งพ้นื ฐานของผ้าทอ และโครงสร้างพน้ื ฐานของผ้า ถัก 2.4 ความรูเ้ กี่ยวกับประเภทของผา้ ผา้ เสน้ ใบธรรมชาตเิ ป็นใยท่ไี ดจ้ ากพชื และสตั ว์ ดังนี้ 1) ผ้าฝา้ ย (Cotton) ภาพที่ 2.6 ฝ้าย ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Cotton

14 ผ้าฝา้ ยทีใ่ ช้อยู่ทวั่ ไปไดม้ าจากปยุ ฝ้ายทีต่ ิดกับเมล็ด มกี ารนำปยุ ของฝา้ ยผ่านกระบวนการนำ เมลด็ และเปลอื กออก จากนน้ั ไดม้ ีการปัน่ เป็นดว้ ยและทอตามลำดบั ขน้ั ตอน เปน็ ผนื ผ้า ผา้ ฝา้ ยมีเนอื้ ค่อนขา้ งเหนยี ว ไมค่ ่อยยืดหยุ่น ยบั ง่าย หดงา่ ย ดูดซึมนำ้ ได้ดี ระบายอากาศและ ความร้อนไดด้ ี ซกั รดี และทำความสะอาดง่าย ทนความรอ้ นได้ดี สามารถรีดด้วยความร้อนสงู ได้ 2) ลนิ ิน (Linen) ภาพท่ี 2.7 ตน้ แฟลกซ์ ทม่ี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Flax ลินิน (Linen) ได้มาจากส่วนที่เป็นเปลือกของต้นแฟลกซ์ (Flax) มีการทำเส้นใยผ่าน กระบวนการหมักเพื่อให้ส่วนของลำต้นเปื่อยจะได้ส่วนของใยนำไปปั่นเพื่อใช้เส้นด้ายทอเป็นผืนผ้า คุณสมบัตขิ องผ้าลนิ นิ สว่ นใหญ่จะคล้ายคลงึ กบั ผ้าฝ้าย หรือเมือ่ เปรยี บเทยี บผา้ ลนิ ินกับผา้ ฝ้ายแล้ว จะ มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย คือ ผ้าลินินเหนียวทนทานกว่าผ้าฝ้าย แต่ยืดหดได้น้อยกว่า เส้นใยหักและ ยับ-ง่าย ดูดซึมน้ำได้ดีกว่า สวมใส่สบายและให้ความรู้สึกเยน็ กว่า เนื้อมันกว่าผ้าฝ้าย เนื้อผ้าลินินจะ แขง็ เหมือนลงแปง้ ยง่ิ ซกั ยงิ่ มันและดูใหมเ่ สมอ 3) ป่าน (Hemp) ภาพท่ี 2.8 ใยปา่ น ทีม่ า:https://www.nexusforjesus.com/trees-in-the-bible-hemp/ ใยป่าน ได้จากลำต้นสว่ นกลาง มขี ้ันตอนการผลิตเส้นใย โดยผ่านกระบวนการหมักให้ได้เส้น ใยเหมือนกับใยลินินเส้นใยของป่านจะมีสีน้ำตาลเข้ม ผิวสัมผัสหยาบและกระด้าง ใยป่านนิยมมาทำ

15 เชือกและทอกระสอบบรรจขุ ้าวสารและอื่น ๆ ตามความต้องการ จะไม่นิยมนำผ้าป่านมาตัดเย็บเป็น เสื้อผา้ 4) ไหม (Silk) ภาพท่ี 2.9 ไหม ท่ีมา: https://en.wikipedia.org/wiki/Silk ใยไหมได้จากรงั ของตวั ไหม ในไทยมีการเลี้ยงไหมกันมากทางภาคอสี าน ใยไหมไดร้ ับสมญา ว่าเป็นราชนิ ีแห่งเสน้ ใย มีความงามหรูหรา เนอ้ื ผ้าเป็นมันแวววาว ทำความพงึ พอใจใหแ้ ก่ผ้สู วมใส่ แต่ ผ้าไหมมีราคาค่อนข้างแพง คนเรารู้จักใช้ผ้าไหมกันมานานหลายพันปีแล้ว ประเทศจีนเป็นประเทศ แรกทีร่ ู้จกั เล้ียงไหม และนำเสน้ ใยมาผลิตเป็นผ้าไหมคุณสมบตั ิทัว่ ๆ ไป ของผ้าไหม นอกจากจะมีเน้ือ มนั แวววาวสวยงามมากแล้ว ยังเหนียวมาก สวม-ใสส่ บาย ปรับให้เหมาะกับอากาศร้อนเย็นได้ดี คอื จะ รู้สกึ เย็นเม่อื อากาศรอ้ น และจะรสู้ กึ อนุ่ เม่ืออากาศหนาว ผ้าไหมยอ้ มสตี ิดง่าย พิมพ์ลวดลายได้สวยงาม เวลาสวมใส่ไหมจะเสียดสีกันทำให้เกิดเสียง เราเรียกกันว่าเสียง ส่ายไหม ผ้าไหมนิยมนำมาตัดเป็น เสื้อผ้า เครื่องใช้ที่ให้ความงามหรูหราและใช้เป็นครั้งคราว ไม่นิยมตัดเสื้อผ้าที่ต้องใส่ประจำวันนัก เพราะผ้าไหมราคาคอ่ นขา้ งแพง ซักรีดยาก 5) ขนสัตว์ (Wool) ภาพท่ี 2.10 แกะ ทีม่ า: https://hilight.kapook.com/view/125606

16 ผา้ เสน้ ใยสังเคราะห์ เป็นเส้นใยที่เกิดจากการค้นคว้าและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ เพื่อเพ่ือประสิทธิภาพ คุณสมบัติ และประโยชน์ใชส้ อยของเส้นใยได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นจากเส้นใยปกติท่ัวไปท่ีได้จากพืช และขนสตั ว์ โดยในระยะแรกๆทีไ่ ดค้ ิดคน้ เส้นใยสังเคราะห์นนั้ ไดเ้ ริ่มต้นจากเส้นใยท่ีได้จากเซลลูโลสท่ี ไดจ้ ากพืชมาทำการสงั เคราะห์ 1) เสน้ ใยไนลอน (Nylon) ภาพที่ 2.11 เส้นใยไนลอน ที่มา : https://goterrestrial.com/2018/06/11/ 2. เรยอน (Ryyon) ภาพที่ 2.12 เรยอน ที่มา: https://goterrestrial.com/2018/06/11/ชนดิ ภาพจากเส้นใยสังเคราะห์ คุณสมบตั ิของผ้าและเสน้ ใย เส้นใยธรรมชาตมิ ีคุณสมบัติ ดังนี้ 1) ผ้าฝา้ ย มคี ุณสมบัตทิ ี่ดี ย้อมสีตดิ งา่ ย สีไมต่ ก ระบายความรอ้ น สวมใส่สบาย ทำความสะอาด ชกั รดี ง่าย ทนตอ่ ความรอ้ นได้ดี 2) ผ้าลนิ นิ มคี ุณสมบัติมคี วามมันและเงางามเป็นธรรมชาติ เส้นโยเมือ่ ทอเป็นผ้า จะได้เน้ือผ้าเรยี บและ สวยงาม สวมใส่สบาย ทำความสะอาดซักรีดง่าย ผ้ามีความทนทาน ไมย่ ับง่าย 3) ผ้าปา่ น

17 ไมน่ ยิ มตัดเป็นผ้าสวมใส่ เส้นใยสนี า้ ตาล การการยอ้ มสกี ่อนย้อมสีต้องฟอกขาวจะได้ สีสันท่ี สวยงาม เป็นเชือกตกแตง่ ใช้กับงานประดิษฐ์ ส่วนสีน้ำตาลไมย่ ้อม ใช้ทำกระสอบบรรจุข้าวสาร หรือ นำ้ ตาลทราย และอ่นื ๆ ทีเ่ หมาะสม 4) ผ้าไหม ได้จากตัวหนอนไหมที่กินใบหม่อนเป็นอาหารและมีการย่อยกลายเป็นของเหลว มีความ เหนียวเสน้ ใยยาวจะได้ใยไหมต้องผ่านกระบวนการด้วยความร้อนและสาวเส้นใยไหมทอเปน็ ผืนผ้าใย ไหมท่ผี ลติ เปน็ ผ้ามีคุณสมบัติทด่ี ีคือผ้ามีความมันและเงางามเป็นพเิ ศษมีผนู้ ำไปตัดเส้อื สวมใส่ในโอกาส ท่ีเหมาะสม เช่นสตรตี ดั เป็นชุดไทยประจำชาติ และบรุ ษุ ตดั เปน็ ชดุ ไทย เรียกขดุ พระราชนยิ ม การแต่ง ชดุ ไทย ผ้าไหมไทย เปน็ การรักษาวฒั นธรรมประจำชาตไิ ด้เปน็ อย่างดี 5) ผ้าขนสัตว์ มีคุณสมบัติเมื่อสวมใส่จะให้ความอบอุ่น มีความยืดหยุ่นได้ดี ผิวสัมผัสนุ่ม ส่วนมาก นิยม นำมาตัดเป็นเสือ้ คลุมกันหนาว และนำไปใชท้ ำเครอ่ื งเรือนทีบ่ ุดว้ ยผ้าขนสัตว์ ผา้ ใยสงั เคราะห์ มคี ณุ สมบตั ิดังนี้ 1) ไนลอน เนอื้ ผ้ามีความเหนยี ว ไมห่ ด ไม่ยดื มีการจบั จีบได้ทนทานถาวร ทนกรดและไม่ทนแสง ไม่ขึ้น รามอดและแมลงไมก่ ัดกิน 2) อาซิเตด เป็นเส้นใยที่เมื่อทอเป็นผืนผ้าจะมีความมันและเงางาม ซักง่าย ไม่คงรูป ผ้าใยอาซิเตด มี คณุ สมบัตทิ ีก่ นั ฉนวนไดด้ ตี ามโรงงานอุตสาหกรรมนยิ มนําไปใช้หมุ้ เป็นฉนวนสายไฟฟ้า 3) เรยอน เป็นเส้นใยที่ทอเป็นผ้า มีความอ่อนนุ่ม มันและลื่น ดูดความชื้นได้ง่าย เมื่อเปรอะเปื้อน สามารถทาํ ความสะอาดได้งา่ ย 4) เดครอน ทนแสงแดดได้ดี ไม่ยับงา่ ย ไม่เปรอะเปื้อนง่าย ทนต่อกรดและด่างไดด้ ีไม่ขึ้นรา มีการจับจบี ผา้ คงทนถาวร 5) อาร์ลอน เป็นเส้นใยที่มีเนื้อบางมาก เนื้อละเอียด เก็บความร้อน ทนต่อแสง ควัน และอากาศ ได้ดี เนอ้ื ผา้ ไม่ยับและเปรอะเปอื้ นง่าย ไม่ค่อยยดื หดง่ายมีการจับจบี ไดค้ งทนถาวร

18 2.5 วสั ดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทำโครงการ 1) ผา้ ฝ้าย ภาพท่ี 2.13 ผ้าฝ้าย ทีม่ า: https://www.google.com/search เรียกจากคำภาษาอังกฤษของผ้าฝา้ ยวา่ คอ๊ ตตอ้ น (Cotton) เปน็ ผา้ ท่ีใชก้ ันมากที่สุดในบรรดา เสอ้ื ผา้ เครือ่ งแต่งกาย เหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในช่วงท่ีมอี ากาศร้อนในฤดรู ้อน หรือสามารถสวมใส่ ได้ทุกวันกับประเทศที่ภูมิอากาศร้อนชื้นทั้งปี เพราะในเนื้อเส้นใยฝ้ายนั้นสามารถซึมซับเหง่ื อและ ระบายออกได้อย่างรวดเร็วและงา่ ยดาย ผา้ ฝ้ายทำมาจากใยฝ้าย ซ่ึงได้จากตน้ ฝ้ายทีส่ ามารถปลูกขึ้นได้ ดีในแถบที่มีอากาศอุ่นชื้นและมีแดดจัด เมื่อผลฝ้ายแก่จัดแล้ว ผลจะแตกมีใยเป็นปุยขาว จึงเก็บมา แยกเอาเปลือกและเมลด็ ออก แลว้ นำไปปัน่ เป็นเสน้ ใยและเส้นด้าย จงึ จะสามารถทอเป็นผืนผ้าได้แล้ว จึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากผ้าฝ้ายได้ โดยการนำมาตดั และเย็บเป็นเสอื้ ผ้าเคร่ืองแตง่ กายอย่างเช่น เสือ้ ยืด ผ้าฝ้ายมีเน้ือคอ่ นขา้ งเหนียว ไม่ค่อยยืดหยนุ่ ยับง่าย หดง่าย ดดู ซมึ น้ำไดด้ ี ระบายอากาศและ ความรอ้ นได้ดี ซักรีดและทำความสะอาดงา่ ย ทนความรอ้ นไดด้ ี สามารถรดี ดว้ ยความรอ้ นสงู ได้ คุณสมบัติของผ้าฝ้าย - สวมใส่สบาย เพราะดดู ความชื้นและระบายความร้อนออกไดด้ ี - มคี วามทนทาน - ทนตอ่ ความรอ้ น - เน้อื ผา้ ฝา้ ยยับง่าย คงรูปทรงได้ยาก 2) ผ้าซับใน ภาพที่ 2.14 ผ้าซบั ใน ที่มา: https://www.google.com/search

19 ผ้าซับใน (Lining Fabric) คือผ้าที่นำทำเป็นผ้าซับด้านในของกระเป๋า เนื้อผ้ามีความนิม่ สวย และบางเบา เส้นด้ายถักทอด้วยความถี่และละเอียด แต่เนื่องด้วยขนาดของเส้นด้ายที่เล็ก ทำให้รับ น้ำหนักได้ไม่มาก จึงนิยมนำไปทำเป็นผ้าซับในกระเป๋า หรือ อาจนำไปทำสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องรับ น้ำหนัก โดยผ้าซับในสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือซับในเนื้อบาง และ ซับในเนื้อหนา ซึ่งจะเหมาะ กับการใช้งานทีต่ ่างประเภทกนั คุณสมบัติของผ้าซบั ใน - ด้วยการซักบอ่ ยวสั ดุควรรกั ษาลกั ษณะทีป่ รากฏเรียบร้อย - จำเปน็ ตอ้ งทาสีบนผ้าท่มี ีคุณภาพสงู และทนโดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ภายใตแ้ รงเสียด ทานและผลกระทบประเภทอน่ื ๆ - ซับควรจะง่ายตอ่ การประมวลผล - วสั ดจุ ะต้องมคี ุณสมบัตไิ มแ่ พ้ง่าย - ผา้ จะต้องมลี ักษณะท่ถี กู สุขลักษณะท่ีดี - วัสดุไมค่ วรถกู ไฟฟา้ มาก 3) รบิ บ้ินลูกไม้ ริบบิ้น เป็นอุปกรณ์ใชร้ ัดเพื่อเสริมความงามและจดั ระเบยี บสิ่งต่าง ทั้งเกี่ยวกับเสือ้ ผ้า เรือน รา่ ง อปุ กรณ์และส่งิ อ่นื โดยมากเข้าใจวา่ เป็นคำเรียกทม่ี าจากการเรยี กแถบผ้าที่ใชร้ ัดผม ท้ังน้ีคำเรียก ดังกล่าวเป็นคำเรียกมาจากภาษาองั กฤษ ว่า Ribbon ใช้ในความหมายทั่วไป หมายถึงผ้าแถบหลาก สสี ัน เมอ่ื นำมาขดแถบรว้ิ เปน็ ทรวดทรงตา่ ง ๆ เรียกว่าโบ หรือการผกู โบว์ ซงึ่ การใช้งานริ้วหรือแถบผ้า หมายถงึ การใชร้ ิ้วหรือแถบในงานตัดเย็บดว้ ย ในการเปดิ รา้ น ออกนิทรรศการ มวี ิธกี ารสำคัญเรียกว่า “ ตัดรบิ บน้ิ ” ซึง่ หมายถึงวิธีการท่ีประธานรบั รองงานจะเป็นผู้ใช้กรรไกรตัดแถบผ้าที่ผูกเป็นโบว์ไว้ใน สว่ นของทางเข้าให้ขาดจากกัน ภาพที่ 2.15 ริบริน้ ลูกไม้ ทมี่ า: https://www.google.com/search คณุ สมบตั ขิ องรบิ บ้ินลกู ไม้ - นำไปห่อของขวัญ - นำมาประดับเสอ้ื ผา้

20 - สามารถนำไปประดษิ ฐ์เปน็ ของใช้ต่าง ๆ ได้ 4) เทปตีนต๊กุ แก ภาพท่ี 2.16 เทปตีนตกุ๊ แก ท่มี า: https://www.google.com/search เมจิกเทป (Magic Tape) หรือแถบตีนตุ๊กแก คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับยึดติดวัสดุได้อย่าง แน่นหนา โดยการประกบแถบของเทปเข้าด้วยกัน และสามารถดึงออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ซ่ึง ในขณะที่ดึงออกจากกันจะเกิดเสียงแควกดังออกมา โดยทั่วไปเมจิกเทปจะมีลักษณะเป็นม้วนยาว ประกอบด้วยแถบ 2 ด้าน คือ ด้าน A (เป็นหนาม) และด้าน B (เป็นขนเส้นใย) ผลิตจากเนื้อผ้าหรือ พลาสติกคุณภาพดีที่มีความเหนียวแน่นในการเกาะติด ทนต่อความร้อน และกันน้ำได้ มีให้เลือกใช้ งานทงั้ แบบขนเสน้ ใยดา้ นเดียว แบบขนเสน้ ใยสองด้าน แบบสี แบบมีหัวเข็มขดั และแบบมีกาว ซ่ึงแต่ ละแบบก็จะมคี ุณสมบัตใิ นการใชง้ านทแี่ ตกต่างกนั ออกไป คุณสมบัตขิ องเทปตนี ตุ๊กแก - เพ่ิมพน้ื ท่ขี องแถบเวลโคร - ออกแบบใหแ้ รงท่แี ถบเวลโครพยายึดเกาะนั้นมีแนวแรงขนานกับแถบ เชน่ การ ออกแบบให้แถบแปะโค้งผ่านมุมหักงอ ตัวอย่างเช่น ที่ใช้กับรองเท้านั้นออกแบบให้ แถบเวลโครนั้น พันผา่ นหว่ งโลหะกลบั มาแปะ ซึง่ ทำใหแ้ รงดึงนน้ั มแี นวขนานกับแถบ 5) ดา้ ย ภาพที่ 2.17 ด้าย ทม่ี า: https://www.google.com/search

21 เส้นใยที่เอามารวมกันเข้าหลายๆเส้นต่อเนื่องกันให้ยาวออกไป มีขนาดใหญ่ และแข็งแรง กว่าเดิม เส้นด้ายมี 2 ชนิด คือ ด้ายทอผ้ากับด้ายเย็บผ้า เส้นใยแต่ละชนิดมีการผลิตเป็นเส้นดา้ ยไม่ เหมือนกัน ขบวนการผลิตด้ายฝา้ ยเปน็ ขบวนการมาตรฐานที่สามารถนำไปดดั แปลง ผลิตเส้นด้ายจาก ใยชนิดอนื่ ได้ ด้ายทอผ้า คือ เส้นด้ายที่ใช้ทอผ้า บางทีทำจากใยสั้น บางทีทำจากใยยาวเส้นเดียวหรือหลายเส้นเข้า เกลียวหรอื ไมก่ ไ็ ด้ ดา้ ยทอผ้าที่ผลิตออกมาแต่ละชนิดล้วนมคี วามแตกตา่ งกนั ทอแลว้ ทำให้ผ้ามีลักษณะ แตกตา่ งกัน ด้ายเย็บผา้ คือ เส้นด้ายทอผ้าที่ทำให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยนำมาตกแต่งเพิ่มเติมให้มีคุณสมบัติที่ดีข้ึน มี ความแขง็ แรงสูง มีความมนั ยอ้ มสีหรอื ตกแตง่ อย่างอ่นื คุณสมบัติของด้ายเย็บผา้ - เหนียวมาก ยดื หยุ่นได้แต่ไม่ขาดงา่ ย ทงั้ ในขณะเย็บและสวมใส่ - มีผิวเรียบเสมอ สนเขม็ งา่ ย และ สะดวก - มีความคงตวั ไมย่ ืดหด - เสน้ ด้ายไม่แตกออกจากกนั งา่ ย - ทนการเสียดสไี ดม้ าก - มีลักษณะ และ ผิวสมั ผสั ดี 6) เข็ม ภาพที่ 2.18 เข้ม ท่มี า: https://www.google.com/search เขม็ Sharps เปน็ เขม็ ทใ่ี ชก้ ับงานเยบ็ มือทั่ว ๆ ไป มขี นาดความยาวปานกลาง บาง รนุ่ จะมีรูเข็ม 2 รู ไว้สำหรบั สอดด้ายหรอื ไหม 2 สี เพอ่ื เยบ็ ในเวลาเดียวกัน เขม็ Applique' จะเปน็ เขม็ ทีม่ ีความบางพิเศษ ยาวปานกลาง ใช้สำหรับงานสอยผ้า เข็ม Embroidery เข็มปัก หรอื เรียกอีกช่อื ว่า crewel needles รูเข็มจะมีลักษณะ ยาวกวา่ และหนา เข็ม Sharps ใช้สำหรับเย็บไหมทลี ะหลายๆเสน้ เข็ม Betweens หรอื เขม็ Quilting เข็มจะมีลกั ษณะส้นั และรเู ขม็ เลก็ กว่า เขม็

22 Sharps ผู้ผลิตเข็มบางบรษิ ทั จะผลิตเขม็ ออกมา ใช้คำวา่ Quilting between needle ซ่ึงจะบาง และ ส้นั กวา่ Quilting needle เบอรท์ ีน่ ยิ มคือ เบอร์ 5-9 เข็ม Milliners เข็มเนาผ้า จะเป็นเขม็ สำหรบั เย็บบุผา้ 3 ช้ัน (ผ้าช้นิ งาน + ใย + ผ้า ซบั ใน) เข็มจะมลี กั ษณะยาวกวา่ เข็ม Sharps คณุ สมบตั ิของเข็ม - ใช้ในงานเย็บปักถักร้อย - ใช้สำหรับ เนา สอย เย็บติดเครื่องเกาะเกี่ยว - ยดื อายุการใชเ้ สือ้ ผา้ เครือ่ งแตง่ กาย 7) กรรไร ภาพท่ี 2.19 กรรไกร ท่มี า: https://www.google.com/search เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดวัสดุบาง ๆ โดยใช้แรงกดเล็กน้อย โดยใช้ตัดวัสดุเช่น กระดาษ กระดาแข็ง แผน่ โลหะบาง พลาสตกิ บาง อาหารบางอย่าง ผา้ เชือก และสายไฟ เปน็ ตน้ นอกจากนย้ี ัง ใช้เพอื่ ตัดผมก็ได้ สว่ นกรรไกรขนาดใหญ่อาจใชต้ ดั ใบไม้และกงิ่ ไม้ ซง่ึ มีความแขง็ แรงเป็นพิเศษกรรไกร นัน้ ตา่ งจากมดี เพราะมีใบมีด 2 อัน ประกบกนั โดยมีจุดหมนุ รว่ มกนั กรรไกรส่วนใหญจ่ ะไมม่ ีความคม มากแต่อาศัยแรงฉีกระหว่างใบมีดสองด้าน กรรไกรของเด็กนั้นจะมีความคมน้อยมาก และมักมี พลาสตกิ หุม้ เอาไว้ คุณสมบตั ขิ องกรรไกร - ตัดกระดาษ ตัดผ้า เชอื ก สายไฟ โดยใชแ้ รงกดด้วยมือในการชว่ ยออกแรงเพ่ือให้ เกิดการตัดชิน้ งาน 8) สายวัด ภาพที่ 2.20 สายวัดตัว ทีม่ า: https://www.google.com/search

23 เครือ่ งวัดระยะชนดิ หน่ึงเปน็ แถบเลก็ ยาว มหี น่วยวดั ระยะ ใชว้ ดั สง่ิ ตา่ ง ๆ เชน่ สายวัดตัวของ ช่างเยบ็ เสอื้ สายวดั ของชา่ งไม้ มีอยูห่ ลายชนิด เชน่ ผา้ เทป ไฟเบอร์กราส พลาสตกิ เปน็ ต้น สาย วัดที่ดีควรทำด้วยวัสดุไม่ยืด ไม่หด สามารถใช้ได้ทั้งหลักนิ้วและหลักเซนติเมตร สายวัดจะมีความ ยาว 60 นิ้ว หรือ 150 เซนติเมตร มีการแบง่ ช่องอย่างชดั เจน ในการวัดตัวหลักเซนติเมตรจะมี ความละเอยี ดกว่าหลกั นิ้ว ซงึ่ การเยบ็ ผา้ สตรีสว่ นใหญน่ ิยมใช้ หลักเซนตเิ มตร คุณสมบัติของสายวดั - วัดตวั เพอ่ื ทราบขนาดสัดสว่ นของบคุ คลและสร้างแบบเสอ้ื ผ้า - สายวดั หลักนวิ้ แบ่งเป็น 8 ช่อง - ใชไ้ ด้ทงั้ หลกั น้วิ และหลักเซนติเมตร - มคี วามยาว 60 นวิ้ หรอื 150 เซนติเมตร จากการศึกษาผู้วิจัยสรุปได้ว่า วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำโครงการ มีวัสดุดังน้ี ผ้าฝ้าย คุณสมบัติ สวมใส่สบาย เพราะดูดความชื้นและระบายความร้อนออกได้ดี ผ้าซับใบ คุณสมบัติ ด้วย การซักบ่อยวัสดุควรรักษาลกั ษณะที่ปรากฏเรียบรอ้ ย ริบบิ้นลายลูกไม้ คุณสมบัติ นำไปห่อของขวญั นำมาประดบั เสื้อผ้า สามารถนำไปประดิษฐเ์ ป็นของใช้ต่าง ๆ ได้ เทปตีนตุ๊กแก คุณสมบัติ เพ่ิมพื้นท่ี ของแถบเวลโคร ออกแบบให้แรงท่ีแถบเวลโครพยายึดเกาะนัน้ มีแนวแรงขนานกับแถบ ด้าย คุณสมบัติ เหนียวมาก ยืดหยุ่นได้แต่ไม่ขาดง่าย ทั้งในขณะเย็บและสวมใส่ เข็ม คุณสมบัติ ใช้ในงานเย็บปักถัก ร้อย ใช้สำหรับ เนา สอย เย็บติดเครื่องเกาะเกี่ยว ยืดอายุการใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กรรไกร คณุ สมบตั ิ ตัดกระดาษ ตดั โดยใช้แรงกดดว้ ยมือในการช่วยออกแรงเพอื่ ให้เกิดการตัดช้นิ งาน สายวัด คุณสมบัติ วัดตัวเพือ่ ทราบขนาดสัดส่วนของบคุ คลและสรา้ งแบบเสื้อผ้า 2.6 งานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง โครงการผา้ พนั เหยือกน้ำ ผจู้ ดั ทำโครงการไดศ้ กึ ษาค้นคว้าบทความงานวิจยั ที่เกย่ี วข้อง ด้ังน้ี นางมาลี กนั ทาทรัพย์ ตวั แทนวสิ าหกจิ ชุมชนกลมุ่ แปรรปู ผา้ ฝา้ ยทอมอื จากการศึกษาพบว่า ตวั แทนวิสาหกิจชมุ ชนกลมุ่ แปรรูปผ้าฝา้ ยทอมอื -ผ้าฝ้ายนาโนบ้านหนองเงือก ต. แมแ่ รง อ.ป่าซาง จ.ลำพนู หรอื เจ้าของ “มาลี ผา้ ฝ้าย” เล่าว่า การทอผา้ ฝา้ ยที่หมู่บ้านแห่งน้ีเป็นการ สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ผ้าทอที่ได้ส่วนใหญ่เป็นผ้าผืน และมีแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ บ้าง เช่น เสื้อผ้า ฯลฯ ปัญหาของผ้าทอ ที่เกิดขึ้นจากอดีตถึงปัจจุบัน คือ ผ้าสีซีด สีตก และหดตัวนอกจากนี้ ส่วนวัตถดุ บิ คอื ฝ้าย เดมิ ชาวบ้านในชุมชน ปลูกกันเอง การทำงานของเรา คอื ตง้ั แต่ขั้นตอนแรก เกบ็ ฝ้าย ไปจนถึงได้ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือ นอกจากปัญหา เรื่อง ของผ้าสีตก และหดตัว ปัจจุบัน เจอ ปัญหาขาดแคลนแรงงานในขนั้ ตอนปั่นฝา้ ย ท่ีผ่านมา แก้ปัญหาโดยการส่งั ฝ้ายในรปู แบบของเส้นใยมา จากโรงงานที่จงั หวัดเชยี งใหม่ ซึ่งการสั่งเสน้ ใยฝา้ ยสำเรจ็ รปู ช่วยลดตน้ ทุน ลดเวลา แกป้ ญั หาแรงงาน ที่ขาดแคลน และลดขั้นตอนการทำงานหลายขั้นตอน ด้วยเหตุน้ี ทางสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นำองค์ความรู้ และ

24 เทคโนโลยี เข้ามาช่วยกลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านหนองเงือก เข้ามาช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เช่น การใช้ คณุ สมบัตพิ เิ ศษจากนาโนเทคโนโลยี มาเคลอื บผา้ ฝา้ ย ซงึ่ ชว่ ยแก้ปัญหาผา้ ฝ้ายแข็งกระด้าง ให้มีความ นุ่มลื่น ช่วยป้องกันสีซีดจาง สะท้อนน้ำ ยับยั้งแบคทีเรีย และมีกลิ่นหอมติดทนนาน ซึ่งเป็นการเพิ่ม มูลคา่ ให้กับผลิตภัณฑ์ผา้ ทอพนื้ เมือง ลบภาพความทรงจำเดิมเก่ยี วกับผา้ ฝ้ายทอมือไปได้อย่างสิ้นเชิง และเป็นการแก้ปญั หาท่ีตรงจดุ หลังจากกล่มุ ผ้าทอบ้านหนองเงือกได้นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาประยุกต์และสร้างผลิตภัณฑ์นาโนที่หลากหลาย ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลท่องเที่ยวประจำจังหวัดในงาน“ตำนานฝ้ายงามบ้านหนอง เงือก” ช่วงเดอื นเมษายนของทุกปี มีนักท่องเทยี่ วทง้ั ในและต่างจงั หวดั เข้ามาเลอื กซ้ือผ้าทอพื้นเมือง ของจงั หวดั ลำพนู กนกวรรณกรณ์ หลวงวังโพธิ์ รงุ่ วทิ ย์ ตรีกุล วรรณิสา บตุ รสารส, วัชราภรณ์ อนญุ าหงส์ แนว ทางการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์แปรรูปผ้าไหมลายสาเกต กรณศี ึกษา บ้านหวายหลมึ ตำบลมะบา้ อำเภอทุ่ง เขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด งานวิจยั ในครง้ั น้ี มวี ัตถุประสงค์ (1)เพอื่ ศึกษากระบวนการผลิตผ้าไหมลาย สาเกต (2)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของชุมชนต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แปรรูปผ้าไหมลายสาเกตและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้ (3) เพื่อเสนอแนวทางการ พฒั นาผลิตภณั ฑ์แปรรปู ผ้าไหมลายสาเกตท่ีหลากหลายรปู แบบโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็น ประชาชนผู้อาศยั อยู่ในชมุ ชนบ้านหวายหลมึ ตำบลมะบ้า อำเภอทงุ่ เขาหลวง จังหวัดรอ้ ยเอ็ด จำนวน 335 คน และกลมุ่ สตรีทอผา้ ไหมสาเกตบา้ นหวายหลึม จำนวน 5 คน โดยวธิ ีการสุ่มตวั อยา่ ง เคร่ืองมือ ที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสังเกต แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ พื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า (1) กลุ่ม ตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุมากกว่า 60 ปี สถานภาพ สมรส ระดับการศึกษาอยู่ในระดับ ประถมศึกษา อาชพี เกษตรกร รายไดต้ อ่ เดือนต่ำกว่า 5,000 บาท และอาศยั อยใู่ นชมุ ชนต้งั แตแ่ รกเกิด (2)ระดับความพงึ พอใจของชมุ ชนในการมีสว่ นร่วมพฒั นาคุณภาพของผลิตภัณฑ์แปรรูปผ้าไหมลายสา เกตบา้ นหวายหลมึ ทงั้ 7 ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ไดแ้ ก่ ดา้ นผลิตภัณฑแ์ ละด้านบุคลากรอยู่ ในระดบั มากทีส่ ุด ส่วนดา้ นราคา ด้านชอ่ งทางการเข้าถงึ ด้านการ สง่ เสริมการตลาด ดา้ นบรรจุภัณฑ์ และดา้ นการมีส่วนรว่ มในชุมชนอย่ใู นระดับมาก (3)ข้อเสนอแนะ ควรจดั ใหม้ กี ารแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้า ไหมให้มีความหลากหลายมากขึ้น ควรมีงบประมาณสนับสนุนการผลิตผ้าไหมลายสาเกตเพื่อเป็น เงนิ ทนุ หมนุ เวยี นในการสั่งซื้ออุปกรณ์ในการทอผ้าไหมและการพฒั นาผ้าไหมลายสาเกตขั้นต่อไปควร ส่งเสรมิ ให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถ่ิน เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมการทอผ้า ใหเ้ ป็นมรดกของชมุ ชนตอ่ ไป และรปู แบบของบรรจุภัณฑท์ ใ่ี ชต้ ้องมีความสวยงามทนั สมัยให้สอดคล้อง กับรสนยิ มของผูบ้ รโิ ภค แก้วสวัสดิ์ อุดมลักษณ์ (พ.ศ.2557) การศึกษาผ้าถุงอเนกประสงค์จากนครศรีธรรมราชที่ทำ ด้วยเทคนิคการตัดผ้ามีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ประการแรกต้องเข้าใจการออกแบบและ กระบวนการผลติ และประการที่สองทำความเข้าใจกับลกู ค้า/ความพึงพอใจของตลาดเป้าหมายท่ีมีต่อ

25 กระเป๋า ตัวอย่างการออกแบบสามตัวอย่างเปิดเผยตอ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ 5 คน นอกจากนี้ ยังขอให้กลุ่มตัวอย่างตลาดเป้าหมายห้าสบิ รายกรอกแบบสอบถามผลลัพธจ์ ะเป็นความถ่ีร้อยละและ คา่ เฉล่ยี ผลการวจิ ัยพบวา่ ถงุ ผา้ อเนกประสงค์ทีเ่ หลอื จากนครศรธี รรมราชท่ใี ชเ้ ทคนิคการตัดผ้าโดยใช้ เศษผา้ เยบ็ รวมกันเป็นกระเปา๋ เอกสารและแมแ้ ต่กระเป๋าใสโ่ น้ตบุ๊ก ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านม้ี ศี ักยภาพสูง ในการสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านและศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินท้วมจะเพิ่มอัตราพนักงานโดยการเพ่ิม มูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ผลการตอบแบบสอบถามพบว่ากลุม่ ตัวอย่างตลาดเปา้ หมายมีความพงึ พอใจสูงด้วยคะแนน 4.65 ช่วงจากความพึงพอใจมากที่สุดไปยังน้อยที่สุดมีดังนี้ คะแนนสูงสุด 4.98 สนใจเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ประการที่สองกลุ่มตัวอย่างที่สนใจในการรีไซเคิลเศษเหลือ 4.94 ท่ี สามขนาดของกระเป๋าท่ี 4.90 ออกมาความสามารถในการใช้งานที่ 4.84 ประการที่ห้าความทนทาน ของผลติ ภณั ฑ์ที่ 4.76 ประการท่ีหกความมน่ั คงของรูปร่างดว้ ย 4.74 เจ็ดเสน้ การตดั ท่ีเรียบร้อย ด้วย 4.66 ประการที่แปดความสะอาดทั้งภายนอกและภายในกระเป๋าด้วย 4.62 เก้าเส้นเย็บที่เรียบร้อย ระหวา่ งช้ินส่วน วลี สงสุวงค์,เพ็ญสินี กิจค้า,สุรีรัตน์วงศ์สมิง การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทยทรงดำ เพ่ือสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมตามแนวทางเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ การวจิ ัยเร่อื ง การพัฒนารูปแบบผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอ ไทยทรงด าเพื่อสรา้ งมูลค่าเพ่ิมตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการสร้างเอกลักษณ์และการสื่อความหมายของ ลวดลายผ้าไทยทรงดำในอำเภอบางเลนและอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม 2) ศึกษาและ สังเคราะหแ์ นวคดิ การสรา้ งมลู ค่าเพ่ิมของผลิตภณั ฑ์ผ้าทอไทยทรงดำ 3) พฒั นารปู แบบผลิตภัณฑ์จาก ผ้าทอไทยทรงดำตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ 4) ทดสอบแนวคิดผลิตภัณฑ์จากผ้าทอไทย ทรงดำท่ีไดพ้ ฒั นาขนึ้ ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ งท่ีใช้ในการวิจยั คือ (1) กลุ่มชาวไทยทรงด าในตำบล ไผ่หูช้างอำเภอบางเลน และตำบลดอนข่อย อำเภอก าแพงแสน จังหวัดนครปฐม (2) กลุ่มลูกค้า เป้าหมายในการศึกษาความต้องการชนิดของผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทยทรงดำ จำนวน 150 คน (3) กลุ่ม ลูกค้าเป้าหมายในการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ (Product Testing) จำนวน 100 คน และ (4) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าทอ จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบ สัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) และแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติบรรยาย ได้แก่ ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานสว่ นการวเิ คราะห์ข้อมูล เชงิ คุณภาพใช้การวเิ คราะหเ์ นื้อหา (Content Analysis) ผลการวจิ ัยพบว่า - ผ้าทอและเคร่อื งแต่งกายของชาวไทยทรงดำถอื เป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะของกลุ่มชาตพิ นั ธุไ์ ทย ทรงดำที่มีเอกลักษณ์ในการใช้ผ้าสีดำในการนุ่งห่มทั้งในชีวิตประจำวันและในการประกอบพิธีกรรม จนเป็นเอกลักษณท์ โี่ ดดเด่นของชาวไทยทรงดำ โดยชาวไทยทรงดำนยิ มใช้ผา้ พ้ืนสีดำทอข้นึ อย่างง่ายๆ มีสสี นั และลวดลายบ้างซ่งึ จากการศึกษาลวดลายผา้ ไทยทรงดำพบว่าลวดลายต่าง ๆ สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทคือ ลายพชื ลายสตั ว์ และลายผสมอ่ืน ๆ ในส่วนของการส่อื ความหมายในการใช้สีในการทอ ผา้ และประดับตกแต่งของชาวไทยทรงดำ แตล่ ะสีมคี วามหมายแตกต่างกัน โดยเฉพาะสีครามเข้มหรือ

26 สีดำซึ่งเป็นสหี ลักของผนื ผา้ และการใช้งานของชาวไทยทรงดำ โดยสื่อความหมายว่าเกิดจากการเกบ็ กดที่ตอ้ งพลัดพรากจากบ้านเกิดเมอื งนอนมาเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย - การศึกษาและสงั เคราะหแ์ นวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทยทรงดำ พบว่า ในการออกแบบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากผ้าทอไทยทรงดำนั้น อันดับแรกผู้ออกแบบต้องคำนึงถึง หลักการออกแบบโดยทั่วไปที่สำคัญคือ ประโยชน์ใช้สอย อีกส่วนหนึง่ ที่มีความสำคัญที่นักออกแบบ จะต้องคำนึงถึงคือ การคงเอกลักษณ์และการสื่อความหมายของลวดลายและสีสันต่าง ๆ ตามความ เช่อื ของชาวไทยทรงดำ เน่ืองจากลายผ้าไทยทรงดำมลี ายต่าง ๆ ไม่มาก และมกี ารใชส้ สี ันทจ่ี ำกัด การ ออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าทอไทยทรงดำจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของ การคงเอกลักษณข์ องชาวไทยทรงดำและความแตกต่างของวัฒนธรรมความเชื่อของแต่ละพื้นท่ี ๆ มี ความแตกตา่ งกัน มาหามะ อารีย (พ.ศ. 2562) การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมใน อตุ สาหกรรมการผลติ ผ้าบาติกใน 3จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยในอนาคต มีวัตถุประสงค์ เพ่อื สรา้ งรูปแบบการจดั การส่ิงแวดล้อมในอุตสาหกรรมการผลติ ผา้ บาติกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของประเทศไทยในอนาคต กลุม่ ตัวอย่าง ไดแ้ ก่ ผเู้ ชีย่ วชาญทม่ี ีความรู้ความสามารถในดา้ นการกำหนด เพอื่ สร้างรูปแบบการจดั การสง่ิ แวดล้อมในอุตสาหกรรมการผลิตผ้าบาติกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของประเทศไทยในอนาคต ไดแ้ กผ่ ้ทู รงคณุ วฒุ ิ ท่มี คี วามรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในด้านรปู แบบ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากองค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับผ้าบาติก และผู้ทําธุรกิจเก่ียวกับรูปแบบ อุตสาหกรรมการผลิตผ้าบาติก โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) จากผู้ที่มีองค์ความรู้ ทางด้านผา้ บาตกิ จํานวน 24 คน จากการศึกษางานวจิ ยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง เป็นงานวจิ ัยทม่ี ีเนอ้ื เร่อื งคล้ายคลึงกันไปในทิศทางเดียวกัน สามารถใช้เป็นตวั อยา่ งในการศกึ ษา โครงการเรือ่ งผ้าพันเหยือกนำ้ ได้เปน็ อยา่ งดี

27

บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนินการ การดำเนินโครงการผ้าพันเหยอื กน้ำ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประดิษฐผ์ ้าพันเหยือกนำ้ จากผา้ ฝ้าย 2) เพอื่ ศกึ ษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานผ้าพนั เหยือกนำ้ จากผ้าฝา้ ย ซ่ึงผูจ้ ดั ทำโครงการได้ดำเนิน การศึกษาดงั น้ี 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการดำเนินโครงการ 3.3 ขั้นตอนวิธีดำเนนิ การศกึ ษา 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.5 การวเิ คราะหข์ อ้ มูลและสรุปผล 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง โครงการเรื่อง ผ้าพันเหยือกน้ำ ผู้จัดทำใช้วิธีการ เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling ) เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยพิจารณาจากการตัดสินใจของผู้วิจัยเอง ลกั ษณะของกลุม่ ทเ่ี ลือกเป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องการวิจัย คอื กล่มุ ผทู้ ดลองใชง้ านผลิตภัณฑ์ผ้าพัน เหยอื กนำ้ จำนวน 50 คน 3.2 เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการดำเนนิ โครงการ 1) แบบบันทกึ ผลการทดลอง 2) แบบสอบถามความพงึ พอใจ ผู้จัดทำโครงการใช้แบบบันทึกการทดลอง แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นเครื่องมือเพ่ือ รวบรวมขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ ง เพื่อสอบถามความคิดเห็นเห็นของกลุ่มตัวอย่าง หลังจากนั้นผู้จดั ทำ โครงการจะจดั ทำแบบสอบถามความพงึ พอใจในการใช้ผ้าพันเหยือกน้ำ ดงั นน้ั ผจู้ ดั ทำโครงการได้แยก แบบสอบถาม ออกเปน็ 3 ตอน ดงั น้ี ตอนท่ี 1 สอบถามขอ้ มลู สว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยสอบถามเก่ียวกบั เพศ อายุ ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของผูใ้ ช้ผลิตภัณฑ์ผา้ พันเหยอื กน้ำ ผู้จัดทำโครงการ ได้ใช้มาตรการวัดแบบ Rating Scale 5 ระดับ ตามมาตรวัดแบบลิเคิร์ท (Likert’s Scale) ในการวัด ระดับความพงึ พอใจ ดงั นี้

28 5 หมายถงึ มากทสี่ ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อยหรอื ตำ่ กว่ามาตรฐาน 1 หมายถึง นอ้ ยท่สี ดุ หรอื ตอ้ งปรบั ปรุงแกไ้ ข ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะซึ่งเป็นคำถามปลายเปดิ เพ่ือใหผ้ ้ตู อบแบบสอบถามแสดง ความคิดเห็นเกณฑ์การประเมินแบบสอบถามความคิดเห็น มี 5 ระดับโดยผู้จัดทำโครงการได้เลือก วิธกี ารของ เรน็ สิส เอลเิ คริ ์ท ดังนี้ (Likert’Scale,Rating scale A.2504) 4.50 - 5.00 หมายถึง เหน็ ด้วยอยรู่ ะดับมากท่ีสดุ 3.50 - 4.49 หมายถงึ เห็นด้วยอยรู่ ะดบั มาก 2.50 - 3.49 หมายถงึ เหน็ ด้วยอยูร่ ะดับปานกลาง 1.50 - 2.49 หมายถงึ เห็นด้วยอยู่ระดับน้อย 1.00 - 1.49 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยรู่ ะดบั นอ้ ยมาก การสรา้ งเครอื่ งมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ครัง้ นี้ โดยมีการสร้างเคร่ืองมอื ดงั น้ี - ศึกษาค้นคว้าเอกสารที่เก่ยี วข้อง เพือ่ กำหนดแนวทางในการสร้างเครอ่ื งมือในการศึกษาให้ ครอบคลมุ เนอื้ หาทีก่ ำหนด - จัดทำแบบสอบถามเพ่อื ใช้ในการเกบ็ ข้อมลู เกย่ี วกับ ผ้าพันเหยอื กน้ำ - ตรวจสอบแบบสอบถาม โดยปรึกษาอาจารย์ผู้สอนเกี่ยวกับความถกู ตอ้ งของแบบสอบถาม และขอ้ ควรแก้ไขของแบบสอบถามเพ่ือนำไปใช้ในการเก็บขอ้ มูลท่ถี ูกต้อง - ปรับปรุงแก้ไขแบบสอบถามตามที่ควรแก้แล้วเสนอต่ออาจารย์อีกครั้งเพื่อตรวจเช็คความ ถกู ตอ้ งอกี คร้ังก่อนจะนำไปใช้ในการเก็บข้อมลู 3.3 ขัน้ ตอนการดำเนินงาน 1) การวางแผน (P) - กำหนดชื่อเรอ่ื งและศกึ ษารวบรวมข้อมูลปัญหา ความสำคญั ของโครงการ - เขียนแบบนำเสนอโครงการ - ขออนมุ ตั ิโครงการ 2) ข้นั ตอนการดำเนนิ การ (D) - ศกึ ษา ผลติ ภัณฑ์ผา้ พนั เหยอื กน้ำ ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ ครั้งท่ี 1 - ศกึ ษา ผลติ ภัณฑผ์ ้าพนั เหยอื กน้ำ ประเมนิ ผลและปรับปรงุ ครั้งที่ 2 - ศึกษา ผลติ ภัณฑ์ผ้าพนั เหยือกนำ้ ประเมินผล ครงั้ ที่ 3

29 3) ขนั้ ตอนการตรวจสอบ (C) - กลุ่มประชากรใช้งานผ้าพนั เหยอื กนำ้ - ประเมินผลความพึงพอใจของการผ้าพนั เหยอื กนำ้ 4) ขนั้ ประเมินตดิ ตามผล (A) - สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจผลติ ภัณฑ์ผ้าพันเหยือกนำ้ - จดั ทำเล่มโครงการ - นำเสนอโครงการ 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 1. การเกบ็ รวบรวมแบบสอบถาม ผศู้ กึ ษาได้เก็บรวบรวมแบบสอบถามผ่าน Google Form 2. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถามเพอื่ นำขอ้ มลู ไปวเิ คราะหค์ า่ ทางสถิติ 3.5 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผล ข้อมลู ท่ีได้จากการรวบรวม ผจู้ ัดทำโครงการได้ทำการตรวจสอบความเรียบร้อยของ แบบสอบถาม และนำขอ้ มูลมาประมวลผลดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ ำเรจ็ รปู สำหรับการ คดิ คา่ รอ้ ยละ การหาค่าเฉล่ยี (������̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ดงั นี้ 1) การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลส่วนบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยการ แจกแจงความถีแ่ ละร้อยละ สตู รการหาคา่ ร้อยละ คา่ รอ้ ยละ = ความถ่ที ีต่ ้องการเปรยี บเทยี บ x 100 จำนวนรวมทง้ั หมด 2) การวเิ คราะห์ข้อมูลส่วนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของกลุม่ ตัวอยา่ งคณะ ครบู ุคลากร นกั เรียน-นักศกึ ษา ในวทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชียงใหม่ ในการวิเคราะหไ์ ด้แก่ การหาค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D) × =∑ n × แทน คา่ คะแนนเฉลีย่ ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทัง้ หมด N แทน ขนาดของกล่มุ ตวั อยา่ ง

30 สูตรการหาค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน S.D.√n ∑ x2 [∑ x]2 n(n-1) เม่อื S.D. แทน ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐานของคะแนนของกล่มุ ตัวอย่าง [∑ x]2 แทน ผลรวมของคะแนนทง้ั หมดยกกำลังสอง ∑ x2 แทน ผลรวมของคะแนนแตล่ ะตัวอย่างยกกำลงั สอง n แทน ขนาดของกลมุ่ ตวั อยา่ ง

บทท่ี 4 ผลการศึกษา ในการศึกษาผลิตภัณฑ์ผ้าพันเหยือกน้ำ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประดิษฐ์ผ้าพันเหยือกน้ำ เพื่อ ศกึ ษาความพึงพอใจของผูใ้ ช้งานผ้าพนั เหยอื กนำ้ ในการศกึ ษามผี ลการดำเนนิ ดังหวั ข้อตอ่ ไปนี้ 4.1 สรปุ ขั้นตอนการทำผา้ พนั เหยือกน้ำ 4.2 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลสว่ นบคุ คล 4.3 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผ้าพันเหยือกน้ำ 4.4 การจดั ลำดบั ผลการวเิ คราะหค์ วามพึงพอใจของผู้ใช้ผ้าพันเหยือกนำ้ 4.5 ผลสรปุ ข้อเสนอแนะ 4.1 สรุปข้นั ตอนการทำกระเปา๋ ใส่ขวดนำ้ ผ้าลายเทยี น วสั ดุ - ผ้าฝา้ ยสีมว่ ง ความกวา้ ง 14 เซนตเิ มตร/ความยาว 19 เซนติเมตร - ผา้ ซับในสขี าว ความกว้าง 14 เซนตเิ มตร/ความยาว 19 เซนตเิ มตร - รบิ บ้นิ ลูกไม้ ความยาว 14 เซนตเิ มตร อปุ กรณ์ - กรรไกร - สายวดั - เขม็ กบั ด้าย - ช็อคขีดผ้า - เตารดี วิธกี ารทำ 1) ตดั ผ้าฝ้ายตามขนาดขวดนำ้ ท่ีตอ้ งการ ภาพท่ี 4.1 ตัดผา้ ฝ้าย

32 2) ตดั ผ้าซบั ในใหข้ นาดเทา่ กันกับผ้าฝ้ายท่ตี ัดไว้ ภาพท่ี 4.2 ตัดผ้าซบั ใน 3) นำผ้าฝ้าย ผา้ ซบั ในมาประกบกนั และตัดส่วนท่ีเป็นชอ่ งที่เว้นสำหรบั ท่จี บั เหยอื กน้ำออก ภาพท่ี 4.3 ตดั สว่ นที่เป็นชอ่ งทเี่ ว้นสำหรบั ที่จบั เหยือกนำ้ ออก 4) นำผ้าท่ีตัดเสรจ็ แล้วนำมาเยบ็ ติดกัน ภาพที่ 4.4 เยบ็ ผ้าฝา้ ยและผ้าซับในติดไว้ด้วยกัน 5) ตัดเทปตีนตกุ๊ แกเป็น 2 สว่ น ภาพที่ 4.5 ตดั เทปตนี ตุ๊กแกตามขนาดขวดนำ้ ทตี่ อ้ งการ

33 6) นำเทปตนี ตกุ๊ แกทต่ี ัดมาเยบ็ ติดกับผ้าท่เี ตรียมไว้ ภาพท่ี 4.6 เย็บเทปตนี ตุ๊กแกกับผ้าตดิ กัน 7) ตดั รบิ บนิ้ ลายลกู ไม้ตามขนาดที่ต้องการ ภาพที่ 4.7 ตัดรบิ บิน้ ลายลูกไม้ตามขนาดท่ีต้องการ 8) นำรบิ บ้ินลายลกู ไมท้ ่ีเตรียมไวม้ าเย็บติดกนั ภาพที่ 4.8 เย็บริบบ้ินลายลกู ไมต้ ิดกันกับผา้ 9) นำผ้าท่เี ยบ็ เสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว มารดี ใหเ้ รียบเพ่ือทรงสวยงาม ภาพที 4.9 นำผา้ มารีด

34 10) พอรีดเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ใหก้ ส็ ามารถนำไปใส่ขวดนำ้ ได้เลย ภาพที 4.10 ผ้าพนั เหยือกนำ้ เสรจ็ สมบรู ณ์ 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสว่ นบุคคล จากการศึกษาผ้าพันเหยือกน้ำ ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งประกอบด้วยข้อมูล เกี่ยวกบั เพศ และชว่ งอายุ ซง่ึ ผลการวิเคราะหป์ รากฏดังนี้ ตารางท่ี 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลส่วนบุคคลด้านเพศ เพศ จำนวนคน รอ้ ยละ ชาย 18 36 หญิง 32 64 รวม 50 100 จากตารางท่ี 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลด้านเพศ ผศู้ ึกษาได้สรุปผลการ วิเคราะห์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 64.00 และเพศชาย คิด เป็นรอ้ ยละ 36.00 ตามลำดบั ตารางที่ 2 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมูลสว่ นบคุ คลด้านอายุ อายุ จำนวนคน ร้อยละ 16-18 10 20 19-20 24 48 20 ปขี น้ึ ไป 16 32 รวม 50 100 จากตารางท่ี 2 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคลด้านอายุ ผศู้ ึกษาได้สรุปผลการ วิเคราะห์พบวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายุ 16-18 ปี คิดเปน็ ร้อยละ 20.00 รองลงมา ชว่ งอายุ 19-20 คิดเปน็ ร้อยละ 48.00 และช่วงอายุ 20 ปีขึน้ ไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ 32.00 ตามลำดบั

35 ตารางท่ี 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ส่วนบคุ คลด้านระดับชั้น ระดบั ชั้น จำนวน รอ้ ยละ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ 11 22 ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู 25 50 ปรญิ ญาตรี 14 28 รวม 50 100 จากตารางท่ี 3 พบว่าผทู้ ดลองผลติ ภณั ฑ์ผ้าพนั เหยือกนำ้ สว่ นใหญ่กำลังศึกษาอยู่ในระดับช้ัน ประกาศนียบัตรวิชาชีพ จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 22.00 และระดับชั้นประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสูง จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 ปริญญาตรี จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 28.00 ตามลำดับ ตารางท่ี 4 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู สว่ นบคุ คลด้านสถานภาพ สถานภาพ จำนวน ร้อยละ นักเรยี น นักศกึ ษา 44 88 ครูและบคุ คลากร 6 12 50 100 รวม จากตารางท่ี 4 พบว่าผูท้ ดลองผลิตภัณฑ์ผ้าพนั เหยือกน้ำ มสี ถานภาพเป็นนกั เรยี น นักศึกษา จำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 88.00 และ มีสถานภาพเป็นครูและบุคลากร จำนวน 6 คน คิดเป็น ร้อยละ 12.00 ตามลำดับ 4.3 ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจของผูใ้ ช้ผ้าพนั เหยอื กน้ำ การศึกษาครั้งนี้ผู้จัดทำได้ศึกษาเรื่อง ผ้าพันเหยือกน้ำ โดยการหาค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) จากแบบสอบถามความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ผ้าพันเหยือกน้ำ ข้อมูลปรากฏ ดงั น้ี

36 ตารางที่ 3 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผู้ทดลองผลิตภัณฑ์ผ้าพัน เหยือกนำ้ รายการแบบสอบถาม ผลการประเมิน ������̅ S.D. ผลการประเมิน รปู แบบผลิตภณั ฑ์ของผ้าพนั เหยอื กนำ้ มคี วามเหมาะสม 4.70 0.46 ดมี าก ผลติ ภณั ฑม์ ีรปู แบบทีส่ วยงาม 4.84 0.37 ดีมาก ผลิตภณั ฑม์ ีสีท่ีเหมาะสม 4.70 0.54 ดีมาก รูปแบบผลติ ภัณฑ์มลี วดลายท่ีสวยงาม 4.66 0.56 ดีมาก ขนาดผลติ ภัณฑผ์ ้าพนั เหยอื กนำ้ มคี วามเหมาะสม 4.48 0.50 มาก ความคิดสรา้ งสรรคข์ องผลิตภณั ฑ์ผา้ พันเหยอื กนำ้ 4.74 0.49 ดมี าก ความสะดวกในการใชผ้ า้ พันเหยือกนำ้ 4.54 0.54 ดีมาก ผลิตภัณฑส์ ามารถใชง้ านได้จรงิ ในการพนั เหยอื กนำ้ 4.68 0.54 ดีมาก ผลิตภณั ฑม์ คี วามแข็งแรงและทนทานในการใชง้ าน 4.56 0.54 ดมี าก ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว 4.66 0.48 ดมี าก รวม 4.64 0.50 ดีมาก จากตารางที่ 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของผูใ้ ชผ้ า้ พันเหยือกนำ้ ไดส้ รุปผล การวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าผลสรุปภาพรวมของความพึงพอใจของผูใ้ ช้ผา้ พันเหยอื กน้ำ อยู่ในระดบั ดี มาก (������̅=4.64) เมื่อสรุปผลออกมาเป็นรายข้อพบว่า ผลิตภณั ฑม์ ีรปู แบบทสี่ วยงาม อยู่ในระดับ ดีมาก (������̅=4.84) รองลงมาคือ ความคิดสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์ผ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.74) ผลิตภัณฑ์มีสีที่เหมาะสม อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.70) รูปแบบผลิตภัณฑ์ของผ้าพัน เหยือกน้ำมีความเหมาะสม อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.70) ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้จริงในการ พันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.68) รูปแบบผลิตภัณฑ์มีลวดลายที่สวยงาม อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.66) ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅=4.66) ผลติ ภณั ฑ์มีความแขง็ แรงและทนทานในการใช้งาน อยู่ในระดับ มากท่ีสดุ (������̅=4.56) ความสะดวกใน การใช้ผ้าพนั เหยือกน้ำ อยใู่ นระดับ มากทสี่ ุด (������̅=4.54) และขนาดผลิตภัณฑ์ผ้าพันเหยือกน้ำมีความ เหมาะสม อยู่ในระดับ มาก (������̅=4.48) ตามลำดับ

37 4.4 การจดั ลำดบั ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผ้าพนั เหยือกนำ้ การศึกษาครั้งนี้ผู้จัดทำได้ศึกษาเรื่อง ผ้าพันเหยือกน้ำ โดยการหาค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D) และจัดลำดบั ความพึงพอใจผลิตภณั ฑ์ผา้ พันเหยือกนำ้ ขอ้ มลู ปรากฏดังนี้ ตารางที่ 4 ตารางการจัดลำดับผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผา้ พันเหยือกน้ำ การวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจของผทู้ ดลอง ผลการประเมนิ ผลิตภัณฑช์ ากหุ ลาบมอญ ���̅��� S.D เกณฑ์การ ลำดับท่ี ประเมนิ ผลติ ภัณฑม์ รี ูปแบบทีส่ วยงาม 4.84 0.37 ดมี าก 1 ความคดิ สรา้ งสรรคข์ องผลิตภัณฑผ์ ้าพนั 4.74 0.54 ดีมาก 2 เหยอื กนำ้ รูปแบบผลิตภณั ฑ์ของผ้าพนั เหยือกนำ้ มี 4.70 0.46 ดมี าก 3 ความเหมาะสม ผลติ ภัณฑม์ ีสที ี่เหมาะสม 4.70 0.54 ดมี าก 4 ผลติ ภัณฑส์ ามารถใช้งานไดจ้ รงิ ในการพนั 4.68 0.54 ดีมาก 5 เหยอื กนำ้ ผลติ ภัณฑส์ ามารถใชง้ านไดง้ ่ายและรวดเร็ว 4.66 0.48 ดมี าก 6 รูปแบบผลิตภัณฑ์มีลวดลายทีส่ วยงาม 4.66 0.50 ดีมาก 7 ผลิตภัณฑม์ ีความแขง็ แรงและทนทานในการ 4.56 0.48 ดมี าก 8 ใช้งาน ความสะดวกในการใช้ผ้าพนั เหยอื กนำ้ 4.54 0.54 ดีมาก 9 ขนาดผลิตภัณฑ์ผ้าพนั เหยือกนำ้ มคี วาม 4.48 0.49 มาก 10 เหมาะสม รวม 4.64 0.50 ดีมาก จากตารางที่ 4 ตารางการจัดลำดับผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของผู้ใช้ผ้าพนั เหยือกน้ำ สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าผลสรุปภาพรวมของความพึงพอใจของผู้ใช้ผ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ใน ระดบั มากทสี่ ุด (������̅=4.64) เมอ่ื สรุปผลออกมาเปน็ รายขอ้ พบว่า ผ้าพันเหยือกนำ้ ผลิตภัณฑ์มีรูปแบบ ที่สวยงาม ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.84) รองลงมาคือ ความคิดสร้างสรรค์ของ ผลิตภัณฑ์ผ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดบั มากที่สุด (������̅=4.74) รูปแบบผลิตภัณฑ์ของผ้าพนั เหยือกน้ำมี ความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.70) ผลิตภัณฑ์มีสีที่เหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.70) ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้จริงในการพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.68) ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.66) รูปแบบผลิตภัณฑ์มี ลวดลายที่สวยงาม อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.66) ผลิตภัณฑ์มีความแข็งแรงและทนทานในการใช้

38 งาน อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.56) ความสะดวกในการใช้ผ้าพันเหยือกน้ำ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.54) ขนาดผลติ ภัณฑผ์ า้ พนั เหยอื กน้ำมคี วามเหมาะสม อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.48) ตามลำดับ 4.5 ผลสรปุ ข้อเสนอแนะ 1) ควรใช้ผา้ ฝ้ายหลายๆ สีมากกว่านี้ 2) เพ่ิมขนาดของผา้ 3) ควรใช้ผา้ ทีม่ ีความหนามากกว่าน้ี 4) ในตวั ผลิตภณั ฑค์ วรเพ่ิมลวดลายของผ้าฝ้าย

39


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook