Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 汉族

汉族

Published by สุทธินันท์ ธรรมใจ, 2018-10-12 05:59:19

Description: หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชนชาติฮั่นในประเทศจีน ร่วมถึงวัฒนธรรมการแต่งกาย เทศกาล และที่อยู่อาศัย เป็นต้น

Keywords: Hanzu,ชาวฮั่น,ชนชาติฮั่น

Search

Read the Text Version

ครุศาสตร์บณั ฑติ ภาษาจีน คณะมนษุ ยศาสาตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลาปาง汉族 水美姜

ชนชาติฮ่นั เกิดจากการหลอมรวมประสมประสานระหว่าง ชนเผา่ ต่างๆ หลายเผา่ หลายวฒั นธรรม ผา่ นระยะเวลา ยาวนานกว่าจะกาเนดิ เป็นชนชาตทิ ่อี ยรู่ ่วมกนั ในดินแดนหน่ึง กลุม่ ชนเผา่ รากเหงา้ ที่เปน็ แกนของชนชาติฮัน่ น้ัน เรยี กกันว่า ชาว “หัวเซีย่ ” ชาวหวั เซยี่ ดง้ั เดมิ ประกอบด้วยชนเผา่ สองกลุ่มใหญๆ่ ได้แก่กลุ่มของ “หวงต”ี้ (จกั รพรรดเิ หลอื ง) และกลมุ่ ของ “เหยียนตี้” สองกลุม่ นเ้ี ป็นพันธมติ รกนัมกี ารแลกเปล่ียนสมรสกนั ระหว่างเผา่ ตานานบันทกึ ว่าตน้ ตอของเผ่าหวงตีอ้ ย่ทู ่ลี ุ่มแม่น้าจี 姬จงึ ใช้แซว่ ่าจี 姬 แตแ่ ม่นา้ ชอ่ื น้ปี ัจจบุ ันหาไม่พบ นักวิชาการจนี เสนอว่า ตน้ ตอของเผ่าหวงตี้คงจะอยแู่ ถบลุ่มแม่นา้ จี 伎 เชิงเขาจซี าน 伎山 ค่อนไปทางเหนือของมณฑลสา่ นซปี จั จบุ นัสว่ นตน้ ตอของเผ่าเหยียนตี้ อยู่ท่ีลุม่ น้าเจียง 姜 จึงใชแ้ ซ่ว่าเจียง 姜 แม่น้าเจยี งน้ีนกั วชิ าการจีนเสนอวา่ นา่ จะอยู่แถบอาเภอเปา่ จี 宝鸡 คอ่ นมาทางใต้ของมณฑลสา่ นซีในปัจจุบัน บรเิ วณเหล่านก้ี อ็ ยู่ใกล้ๆ กับเมืองซีอาน มณฑลสา่ นซใี นปจั จบุ นั นนั่ แหละ สรปุ งา่ ยๆวา่ ต้นตอของชาวหัวเซ่ียอันเป็นแกนของชนชาติฮั่นนน้ั กอ็ ยแู่ ถบมณฑลสา่ นซี และเหอเป่ย อันเป็นถนิ่ทช่ี าวจีนตง้ั ราชวงศม์ ีราชธานอี ยใู่ นแถบน้ีถึงอย่างน้อย 13 ราชวงศ์

การขยายตวั ขน้ึ เปน็ กล่มุ ชนหวั เซี่ยนั้น ก็มิใช่มีเฉพาะการรวมตัวกันระหว่างเผา่ หวงต้ีกับเผ่า เหยยี นต้ีเทา่ นนั้ หากแตไ่ ดค้ อ่ ยๆมีชนเผา่ อื่นๆหลอมรวม เข้ามาเพม่ิ ด้วย เป็นต้นวา่ พวกซอี (๋ี ชาวอี๋ทางตะวนั ตก เชน่ ตระกูลของราชวงศโ์ จว) ตงอ๋ี พวกอที๋ างตะวันออก (เชน่ ตระกูลของจักรพรรดสิ ุน้ ) เป็นต้น ในยคุ เริ่มต้นของตัวอักษร คือสมัยราชวงศ์เซย่ี ราชวงศซ์ าง พน้ื ท่คี รอบครองของแตล่ ะเผ่าพันธุ์ เรียกว่ “ฟาง” 方 มมี ากมายนับรอ้ ยฟาง กลุ่มชนในแถบตงง้วน(ส่านซี เหอเปย่ )เรยี กตัวเองว่าหัวเซย่ี เรยี กชนเผา่ อ่ืนๆ รอบสท่ี ิศ แบง่ เป็นกล่มุ ใหญๆ่ วา่ หมาน อี๋ ยง ต๋ี ลว่ งมาถงึ ยคุ เลียดก๊ก (ราชวงศ์ตงโจว) อนั แบ่งเป็นสองชว่ ง ได้แก่ ชุนชวิ กับจัน้ กั๋วการหลอมรวมชนเผา่ อ่ืนๆ เขา้ มารวมกบั หัวเซ่ียเกิดขึ้นมาก อยา่ งเช่น ชาวฉู่ (ฌอ้ ) ชาวฉิน(หรอื จิน๋ ) – เจ้าผ้ปู กครองของแควน้ จ๋ินเองกม็ ิใชพ่ วกหัวเซีย่ ด้งั เดมิ หากจะนบั วา่ จ๋ินซีฮอ่ งเต้เป็นตน้ตอที่มาของชอื่ คาว่า (ประเทศ)จีนแล้ว จีนก็มใิ ช่จนี ดัง้ เดิมต้นตอ) ชาวอู๋ ชาวเยวยี่ อนั เป็นกลมุ่ชนเผา่ เยวย่ี (เวยี ด) ทางตอนบน (คอื แถบล่มุ แมน่ า้ แยงซตี อนปลาย) สรปุ วา่ ถึงสมัยจิน๋ ซฮี อ่ งเต้ “หัวเซีย่ ” ขยายตวั หลอมรวมเอาชนเผา่ อ่ืนๆ อกี มากเข้าไปอยรู่ ่วมกัน โดยเป็นราษฎรภายใต้ปกครองชองราชวงศฉ์ นิ ราชวงศ์ฮั่น ตามลาดบั

การหลอมรวมชนเผา่ ครงั้ ใหญๆ่ ในประวตั ศิ าสตรจ์ นี มี 3 คร้ัง ครั้งแรกก็คือ ชว่ งชนุ ชิว จั้นก๋วั จนถงึ จิน๋ ซีฮ่องเตร้ วมประเทศเปน็ เอกภาพดงั กล่าวแลว้เป็นผลใหก้ อ่ เกิดเปน็ รัฐทม่ี ีเอกภาพ มีการรวมอานาจปกครองทศี่ นู ย์กลางโดยมชี นชาตหิ ัวเซ่ียเป็นแกน่ แกน ครัง้ ทส่ี อง คือในช่วงราชวงศเ์ ว่ย (วยุ ก๊กในยุคสามกก๊ ค.ศ.220-265 ราชวงศจ์ ิ้นของลกู หลานสุมาอี้) ค.ศ. 265-420 ยุคหนานเปย่ ค.ศ. 420-589 นับตั้งแต่ยคุ ราชวงศต์ งฮนั่เปน็ ตน้ มา ชนเผ่าทางดา้ นตะวันตกเฉยี งเหนือและภาคเหนอื เช่น เผา่ ซงหนู เผ่าเซียนเปย เผา่ ต๋ีเผา่ เชียง ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาอาศยั ปะปนอยู่กับชาวหัวเซีย่ ในตงง้วน รบั วัฒนธรรมของหวั เซยี่ลว่ งมาถึงยคุ ราชวงศ์เวย่ ราชวงศ์จ้นิ มบี ันทึกว่าในตงงว้ นมรี าษฎรเป็นชนเผา่ ทางเหนอื จานวนพอๆกบั ชาวหวั เซี่ย จนเกดิ ข้อเรียกรอ้ งให้ขบั ไล่พวกชนเผา่ ทางเหนอื ออกไป แตเ่ รอ่ื งนน้ั ไมม่ ที างจะทาสาเร็จ เพราะแนวโน้มพฒั นาการทางสังคมขณะน้นั กค็ ือการหลอมรวมกันทางวฒั นธรรมและชาติพนั ธุ์ กระบวนการน้ีสบื เนอื่ งต่อมาจนถึงยคุ ราชวงศถ์ ัง

คร้งั ทสี่ าม การหลอมรวมครง้ั ใหญ่ในช่วง ราชวงศซ์ าง ราชวงศเ์ หลียว ราชวงศ์จิน ราชวงศ์หยวน ราชวงศเ์ หลยี วเป็นราชวงศ์ของชาวคีตาน ราชวงศจ์ นิ (กมิ ) เป็นราชวงศข์ องชาวนเู จิน ราชวงศ์หยวนเป็น ราชวงศข์ องชาวมงโกล ราชวงศเ์ หลียว จนิ หยวน มคี วามรงุ่ เรอื งเติบใหญ่แขง่ ขันได้กับราชวงศ์ซง่ ของชาวจนีชนเผา่ ทางภาคเหนอื ภาคตะวันตกเฉยี งเหนอื รบั วัฒนธรรมท่ีก้าวหนา้ ของจนี ปรับปรงุ ปฏริ ูปการปกครองและวิทยาการของตน จนสามารถกอ่ ตงั้ รฐั และขยายอานาจเข้าครอบครองดนิ แดนตงงว้ นได้ทาให้เกดิ การหลอมรวมทางกลมุ่ ชนคร้งั ใหญ่อีกครงั้ หนงึ่ ชาวจีนทางภาคเหนือเรยี กตัวเองว่าคนฮ่นั สว่ นชาวจนี ทางภาคใต้เรยี กตัวเองว่าคนถงั - ตง่ึ นงั้น่ันสะทอ้ นวา่ การหลอมรวมชนเผา่ ในภาคเหนอื บรรลสุ าเร็จก่อนทางภาคใต้ คนหัวเซยี่ ก่อตงั้ ก๊กใหญ่โตทมี่ ีอายยุ นื นานถึงกวา่ สี่รอ้ ยปีมีนามว่า “ฮั่น” (ราชวงศฮ์ ่ัน) การหลอมรวมชนเผ่าคร้งั ใหญๆ่แล้วใชน้ ามเรยี กวา่ “ฮั่น” เกดิ ขนึ้ สามชว่ งใหญๆ่ ดังไดก้ ล่าวแล้ว แตก่ ารหลอมรวมชนเผ่าในภาคใต้ นา่ จะเกิดความสาเรจ็ ในยคุ ราชวงศถ์ ัง ค.ศ. 618-907 คนในภาคใต้จึงเรยี กตวั เองว่า“ตงึ่ น้งั -คนถงั ” ไมเ่ รยี กวา่ “คนฮนั่ ” คาว่า “ฮั่น” ยงั มคี วามสับสนอีกประเดน็ หน่งึ นั่นคอื ในช่วงมหาสงครามโลกครั้งทหี่ นง่ึ ชาติสมั พนั ธมิตรโฆษณาชวนเช่ือให้ผูค้ นรังเกียจชาติเยอรมนีทกี่ อ่ สงคราม โดยเรยี กชาตเิ ยอรมนวี ่าชาติ Hun ใช้ถอ้ ยคารุนแรงถงึ ข้นั เรียกวา่ “ไอฮ้ ัน่ ”ในภาษาไทย อา้ งว่าชาติเยอรมนสี บื เชือ้ สายมาจากอนารยชนเอเชยี ที่บุกรุกเขา้ ไปปลน้ สะดมในดินแดนยุโรป ฆา่ ฟันชาวยุโรปไปมากมาย

ชนชาตฮิ ่นั เป็นประชากรสว่ นใหญใ่ นประเทศจนี ผลสารวจจานวนประชากรในปลายครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 พบว่า มีชาวฮ่ันราว 1,200 ลา้ นคนอาศยั ในประเทศจีนและนบั เป็นกลมุ่ ชนชาตทิ ใี่ หญท่ สี่ ุดในโลกดว้ ย มีหลกั ฐานวา่ ชาวฮน่ั ถือกาเนดิ มาต้งั แตส่ มัยจกั รพรรดิหวงต้ี (黄帝) อาศยั อยู่ในแถบดินแดนจงหยวน และกระจายอยูท่ ่วั ประเทศจีนมายาวนานกวา่ 5,000 ปี นับตั้งแต่สมยั เซี่ย ซาง โจว ชนุ ชวิ -จั้นก๋ัว จนมาเรม่ิ เป็นปกึ แผ่นในสมัยฉินและฮ่ัน สมัยฮัน่ น่ีเองท่ีเร่มิ มคี าเรยี ก'ชนชาตฮิ ่ัน'ซ่งึ เป็นกลมุ่ ชนทมี่ ีความเช่อื ตามแบบลัทธเิ ตา๋ชาวฮ่นั มกี จิ กรรมดา้ นการเกษตรและหัตถกรรมท่เี จรญิ กา้ วหนา้ อกี ทัง้ มีการประดิษฐ์เครื่องสารดิการทกั ทอ เครือ่ งเคลือบดินเผา สถาปตั ยกรรม และศิลปะการวาดภาพ ทเี่ ป็นหนา้ ตาของชนชาตมิ าตัง้ แตย่ คุ โบราณ นอกจากน้ยี ังรวมถึงผลงานวรรณกรรมรูปแบบตา่ งๆทเี่ ปน็ ท่ียอมรบั ไปทวั่ ด้วยและทล่ี มื ไม่ได้กค็ อื การเป็นชนกลุม่ แรกของโลกท่ีคน้ พบและสรา้ งสรรคส์ ่งิ ประดิษฐ์ 4 อยา่ ง คอื กระดาษ เทคนคิ การพมิ พ์ เขม็ ทศิ และดินปืน บุคคลสาคัญเชอ้ื สายฮ่นั ในแผ่นดนิ จีนไม่ว่าจะเป็นนกัทฤษฎี นักปฏิวตั ิ นักการเมือง กวี ศลิ ปนิ ต่าง ๆ ทถ่ี ูกจารกึ นามในหน้าประวตั ิศาสตรจ์ นี และของโลกทีเ่ ราร้จู กั กนั ดี ได้แก่ ดร.ซุนยัตเซ็น เหมาเจอ๋ ตง โจวเอนิ ไหล หลวิ เส้าฉี จเู ต๋อ เติง้ เส่ียวผงิ หลู่ซวนิ่ ฯลฯล้วนเปน็ ชาวฮั่นทีส่ ร้างคุณูปการต่อลูกหลานชนชาวฮนั่ ในวนั นีแ้ ละยงั รวมถึง ขงจ๊อื ปรัชญาเมธผี เู้ รืองนามของจนี เป็นเวลาเนนิ่ นานหลายรอ้ ยปี ที่แนวคดิ ของขงจ๊อื ซงึ่ เป็นรากฐานคุณธรรมคาสอนของชาวฮน่ั ไดแ้ ผ่อิทธิพลไปทั่วทวปี เอเชยี ตะวันออก (East-Asia)

วันสาคญั ทางประเพณีของชาวฮ่ัน ไดแ้ ก่ เทศกาลตรุษจนี เทศกาลหยวนเซียว เชง็ เม้ง เทศกาลไหว้พระจันทร์ (จงชิวเจ๋ยี ) เปน็ ตน้ชาวฮ่ันมีภาษาพดู และภาษาเขียนเปน็ ของตนเองเรยี กว่า ภาษาฮ่ัน (ฮนั่ อ่วี ์) มีตวั อกั ษรเรยี กวา่อักษรฮั่น (ฮ่ันจอื้ ) ซ่งึ ยังแบ่งเป็นภาษาถ่ินอกี หลายภาษา อาทิ ภาษาถน่ิ ทางภาคเหนอื ภาษากวางตงุ้ภาษาแคะ ภาษาถ่นิ แถบเซยี่ เหมนิ ภาษาถนิ่ ฮกเก๊ียนภาษาถ่นิ แถบเซย่ี งไฮ้-เจียงซู-เจ้อเจยี งภาษาถิน่ แถบหหู นนั และภาษาถน่ิ แถบเจยี งซี

ชาวฮั่นกบั ชุดประจาชนชาติ ชดุ จงซันน้อี อกแบบโดยรับอทิ ธิพลมาจากชดุ ของตะวันตก เสื้อเป็นเส้ือคอปกต้งักระดุม 5-7 เม็ด มกี ระเปา๋ 4 ใบ ท้ังบนลา่ งซ้ายขวา กระเป๋าลา่ งขยายไดส้ ามารถใสห่ นังสอืหรือสง่ิ ของได้ตามชอบใจ สว่ นกางเกงผา่ ดา้ นหน้ามกี ระดมุ ลับ ดา้ นขา้ งซา้ ยขวามีกระเปา๋ ลับและจับจีบทเี่ อว ชุด \"จงซนั \" (中山裝) เป็นชดุ ที่ไดน้ ามมาจากนักปฏิวตั ิผ้ยู ิ่งใหญ่ของชาวจีน'ดร. ซุนจงซาน' ดร. ซนุ ไดร้ ิเร่ิมระบบการปกครอง ปฏริ ูปเศรษฐกจิ และกฎหมายตา่ ง ๆและใหต้ ัดหางเปียท่ชี าวจนี เคยไวอ้ อกเสีย ทั้งยังออกแบบชุดประจาชนชาติเสียใหม่ โดยมอบหมายให้รา้ นเสอื้ ท่ีเซ่ยี งไฮ้ (上海亨利西服店) เปน็ ผ้ตู ดั เย็บ และให้ช่อื ชุดตามชอื่ ของทา่ นวา่'จงซนั ' ซ่งึ ได้กลายเปน็ ชดุ ทีย่ อมรับในสมยั นั้นวา่ เป็นชุดของชนชาวฮน่ัท่อี ยู่อาศัย บา้ นแบบฮ่นั แตกต่างจากทีห่ นง่ึ ไปอีกท่หี นึ่ง ชาวฮ่นั ในปกั กงิ่ อาศัยรวมกนั ทัง้ ครอบครวั ในบ้านหลังใหญท่ ี่มีลักษณะสีเ่ หล่ยี ม บา้ นแบบนีเ้ รยี กว่า 四合院 บ้านเหล่านีม้ ีสห่ี อ้ งทางดา้ นหน้า ไดแ้ ก่หอ้ งรบั แขก, ครัว, ห้องนา้ และสว่ นของคนรับใช้ ข้ามจากประตคู ู่บานใหญ่คอื สว่ นสาหรับผู้สงู อายใุ นครอบครัว สว่ นนปี้ ระกอบด้วยสามห้อง ห้องกลางสาหรบั สกั การะแผ่นจารึก 4 แผ่นไดแ้ ก่ สวรรค,์ โลกมนุษย์, บรรพบรุ ษุ และอาจารย์ มีสองห้องที่อยูต่ ิดทางดา้ นซ้ายและขวาเปน็ ห้องนอนสาหรบั ป่ยู ่าตายาย ส่วนด้านตะวันออกของบา้ นสาหรบั ลูกชายคนโตกับครอบครวั ในขณะที่ด้านตะวนั ตกสาหรบั ลูกชายคนรองกับครอบครัว แตล่ ะดา้ นมเี ฉลียงบางบา้ นมีหอ้ งรบั แสงแดดสร้างจากผา้ มีโครงเปน็ ไม้หรอื ไม้ไผ่ ทกุ ๆดา้ นของบ้านสรา้ งอยูล่ อ้ มรอบลานบา้ นตรงกลางสาหรับเลา่ เรยี นออกกาลงั กายหรือชมวิวธรรมชาติ

ByMr.’s Sutthinan Thammajai (水美姜 ) No.59181500131


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook