การเลือกและใชส้ ื่อการเรียนการสอนใหเ้ หมาะกับลีลาการเรียน Selection and Utilization of Instructional Media for Learning Style โดย นางสาวชญานิศ ฟปู ระทีปศิริ บทนํา “สื่อ” นบั เป็นสิ่งทีม่ ีบทบาทในการจดั การเรียนการสอนโดยทาํ หน้าทีเ่ ป็นตวั กลางสาํ คัญใน การถ่ายทอดประสบการณ์ สาระ เนื้อหา จากผู้สอนไปยังผู้เรียน และแนวโน้มในการใช้สื่อเพือ่ การศึกษาก็มเี พิม่ มากขึ้น ประกอบกับมีสือ่ ประสมจํานวนมากมายหลายประเภทเพิม่ มากขึ้นด้วย เพื่อ ให้การเรียนการสอนเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ ผู้สอนควรเลือกและใช้สื่อทีม่ ีคณุ ภาพเหมาะสม ตอบสนองผ้เู รียนโดยคาํ นึงว่า “ใช้สื่ออะไรที่ดที ี่สดุ หรือเหมาะสมที่สดุ เท่าทีจ่ ะทาํ ได้ให้แก่ผู้เรียนแต่ละ คนไม่ใช้ให้แก่ผู้เรียนทกุ คนเหมือนกัน” เพราะการจัดการเรียนการสอนในปัจจบุ ันให้ความสําคญั ต่อใน เรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล รปู แบบในการเรียนรทู้ ี่ไม่เหมือนกนั และทุกคนย่อมมีความเสมอภาค ในการทีจ่ ะได้รบั เนื้อหาสาระ ดังที่ พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กล่าวถึงเรือ่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารเพอื่ การศึกษาไว้ในหมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพอื่ การศึกษา มาตรา 65 ว่า ให้มีการพฒั นาบคุ ลากรท้งั ด้านผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพือ่ ให้มีความร้คู วาม สามารถและทกั ษะในการผลิตรวมท้งั การใช้เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม มีคณุ ภาพและประสิทธิภาพ และ มาตรา 66 วา่ ผู้เรียนมีสิทธิได้รบั การพฒั นาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ใน โอกาสแรกทีท่ าํ ได้ เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอทีจ่ ะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการแสวงหา ความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเน่อื งตลอดชีวิต ดงั น้นั เพื่อเป็นการสนบั สนนุ ให้ผ้เู รียนได้รบั เนื้อหาสาระ มีการ เรียนร้ไู ด้ตามวตั ถุประสงค์อย่าง มีประสิทธิภาพ ผู้สอนควรคํานึงถึงความร้คู วามเข้าใจในการดําเนินการจัดการเรียนการสอนกค็ ือเรือ่ ง ของ หลกั การเลือกสือ่ การเรียนการสอน,การใช้สื่อการเรียนการสอนอย่างมีระบบและ ลีลาการเรียนรู้ ของผู้เรียน หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน การเลือกสือ่ การเรียนการสอน สาํ หรบั นํามาใช้ประกอบการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ อย่างมีประสิทธิภาพ น้นั ผ้สู อนควรจะจดั หาและเลือกสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกบั วตั ถปุ ระ สงค์การเรียน ความต้องการ ของผู้เรียน ตลอดจนให้เหมาะกบั คุณลักษณะต่างๆของผู้เรียน โดยผู้ สอนต้องมีความรู้และเข้าใจในการจดั หาสือ่ และรู้หลกั การในการเลือกสื่อการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความเข้าใจในการจดั หาสื่อ ต้องสามารถเขียนวตั ถปุ ระสงค์การเรียนได้อย่างชดั เจน เลือกสรรสือ่ ทีเ่ หมาะสมกบั วัตถุประสงค์ 1
วางแผนจดั ประสบการณ์ทจี่ ะมีผลต่อการบรรลผุ ลการเรียน สามารถเลือกสือ่ ที่สามารถแก้ปญั หาผู้เรียนได้ เลือกใช้สือ่ ให้เหมาะสมกบั การสอนรายบุคคลและเป็นหม่ไู ด้อย่างเหมาะสม มีความสามารถในการวินิจฉัยคณุ ภาพความเหมาะสมของสื่อ โดยยึดพ้ืนฐาน หลักการด้านความสนใจ,ประสบการณ,์ วุฒิภาวะ,ทักษะการแปลความหมายของผู้ เรียนได้ 1.2 หลักในการเลือกสือ่ การเรียนการสอน โดยท่ัวไปหลกั ในการเลือกสื่อการเรียนการสอนมีหลายหลักการ แต่ทีจ่ ะนํามากล่าวคือ หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอนให้สัมพนั ธ์กบั วตั ถปุ ระสงค์และประสบการณ์ของผ้เู รียน 1.2.1 หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอนให้สมั พนั ธ์กบั วัตถปุ ระสงค์และประสบการณ์ วตั ถปุ ระสงค์ของการเรียนนับเป็นสิ่งสาํ คัญอย่างหนึง่ ทีผ่ ู้สอนจะต้องกาํ หนดเปน็ หลัก ไว้ว่า จะสอนให้ผู้ เรียนได้เรียนรู้และได้รบั ประสบการณ์ด้านใดบ้างจากบทเรียนนน้ั ท้งั นี้เพื่อให้สามารถเลือกสื่อการเรียน การสอนได้อย่างเหมาะสมกบั วิธีการสอนแต่ละอย่างได้ จึงได้นําผลงานของการวิจัยของ อลั เลน(ALlen) เกีย่ วกบั การเลือกสื่อการเรียนการสอน ดังนี้ ตารางการแสดงประสิทธิภาพของสือ่ ชนิดต่างๆ สือ่ ทีใ่ ช้ข้อมูลท่ี ศึกษาจาก หลกั การ การศึกษา ปฏิบัติจริง พัฒนา เปน็ ข้อเท็จจริง ของจริง ทฤษฎี เปน็ ขั้นตอน เจตคติ แนวคิด ภาพนิ่ง ** *** ** ** * * ภาพยนตร์ ** *** *** *** ** ** โทรทัศน์ ** ** *** ** * ** วัสดุ 3 มิติ ** *** * * * * เทปบนั ทึกเสียง ** * * ** * ** บทเรียนโปรแกรม ** ** ** *** * ** การสาธิต * ** * *** ** ** สงิ่ พิมพ์ ** * ** *** * ** การบรรยาย ** * ** ** * ** *** ประสิทธิภาพสงู สุด ** ประสิทธิภาพปานกลาง * ประสิทธิภาพตํา่ 2
การใช้สือ่ การเรียนการสอนอยา่ งมีระบบ การใช้สื่อการเรียนการสอนที่อย่างเปน็ ระบบ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลน้นั ในทีน่ ี้ขอ กล่าวถึงการวางแผนการใช้สื่อทีเ่ ป็นระบบตามแบบจาํ ลองการใช้สือ่ “ASSURE MODEL” ของ Heinich และคณะ (1999) Heinich และคณะ (1999) ได้เสนอแบบจําลองการใช้สื่ออย่างเป็นแบบแผนเหมาะสมกับใน ระดบั ภาคปฎิบัติการเรียนการสอน โดยมีหลักการดงั นี้ การสอนทีม่ ีประสิทธิภาพและประสิทธิผลน้นั จะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ การสอนด้วยสื่อ การสอนก็เช่นเดียวกนั จะไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกนั ต่อไปนี้คือแบบจาํ ลอง ASSURE MODEL A nalyze LearnerCharacteristics การวิเคราะห์ผู้เรียน S tate Obejectives การกําหนดวตั ถปุ ระสงค์ S elect “ Modify” or Design Materials การเลือก ดดั แปลง หรืออออกแบบสือ่ ใหม่ U tilize Materials การใช้สือ่ R equire Learner Response การกาํ หนดการตอบสนองของผู้เรียน E valuation การประเมิน การวิเคราะหล์ กั ษณะผ้เู รียน เพือ่ ผู้สอนจะได้ทราบว่า ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียนมากน้อยแค่ไหน ผ้สู อนจะต้อง คาํ นึงถึงลักษณะท่ัวไปและลักษณะเฉพาะของผู้เรียน ลกั ษณะทว่ั ไป ได้แก่ อายุ ระดบั ความรู้ สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรม ซึ่งเปน็ สิง่ ทีช่ ่วยให้ผู้สอนสามารถตัดสินระดบั ของบทเรียน สําหรบั ลกั ษณะเฉพาะของผู้เรียนแต่ละคนนน้ั นบั ว่าเปน็ ส่วนสําคญั โดยตรงกบั เนื้อหาบทเรียนตลอดจนสื่อ การสอนและวิธีการ สิง่ ที่ต้องนํามาใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ 1. ทกั ษะทีม่ ีมาก่อน เพือ่ ทราบความรู้พื้นฐานหรือทักษะก่อนเรียน 2. ทักษะเป้าหมาย ผ้เู รียนมีความชํานาญในทักษะน้นั มาก่อนหรือไม่ 3.ทกั ษะในการเรยี น ผู้เรียนมีความสามรถในข้นั ต้นทางด้านภาษา การอ่านเขียน การคํานวณ 4. ทศั นคติ การวิเคราะห์ลกั ษณะผ้เู รียนอาจทาํ ได้ยากเปน็ บางครง้ั เพราะผ้สู อนอาจมีเวลาน้อยที่จะสงั เกต หรือผู้เรียนอาจเป็นผู้มาจากทีอ่ ื่นที่เข้ามาเรียน แต่กส็ ามารถกระทาํ ได้โดยการทดสอบก่อนเรียน หรือ สนทนากบั ผู้เรียน การกําหนดวัตถุประสงค์ 1. ผู้สอนจะได้ทราบว่าการเรียนการสอนน้นั มีวตั ถปุ ระสงค์อย่างไรเพือ่ สะดวกในการเลือกสือ่ และวิธีการให้ถูกต้อง 2. ช่วยในการประเมินผ้เู รียนได้อย่างถกู ต้อง 3
3. ช่วยให้ผู้เรียนทราบว่าเมือ่ เรียนบทเรียนน้นั แล้วสามารถเรียนร้หู รือกระทําอะไรได้บ้าง การกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค์ ประกอบด้วย 1. การกระทํา เป็นสิ่งที่คาดหวังว่าผ้เู รียนสามารถกระทาํ อะไรได้บ้างภายหลังจากการเรียน 2. เงื่อนไข เป็นข้อจํากัดหรือเงื่อนไขทีต่ ้งั ข้ึน 3. เกณฑ์ เพือ่ เป็นการตดั สินการกระทาํ น้นั ว่าเปน็ ไปตามทีก่ าํ หนดหรือไม่ วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม ได้แก่ 1. พทุ ธิพิสยั คือ ความร้คู วามเข้าใจ สตปิ ัญญา และการพฒั นา 2. จิตพิสยั คอื ความคิด ทศั นคติ ความรู้สึก ค่านิยม และการเสริมสร้างสติปัญญา 3. ทักษะพิสยั คือ การกระทาํ การแสดงออก หรือการปฏิบตั ิ การเลือก ดดั แปลง หรือออกแบบสื่อ สือ่ วัสดทุ ีเ่ หมาะสมในการเรียนการสอนสามารถทาํ ได้ 3 วิธี คือ 1.เลือกจากสอื่ ทีม่ ีอยู่แล้ว ผู้สอนต้องตรวจสอบสิง่ ทีจ่ ะใช้เปน็ สือ่ เลือกให้ตรงกบั ลกั ษณะผ้เู รียน และวัตถปุ ระสงค์ของการเรียน 2. ดดั แปลงจากสื่อที่มีอยู่แล้ว ย่อมขึ้นกบั เวลาและงบประมาณในการดดั แปลงสอื่ น้ัน 3. การออกแบบสือ่ ใหม่ ผู้สอนต้องคาํ นึงถึงองค์ประกอบต่างๆ หลายอย่าง เช่น ให้ตรงกบั วตั ถุ ประสงค์ ลักษณะของผู้เรียน มีงบประมาณเพียงพอ มีเครื่องมือและผู้ชํานาญในการทาํ สือ่ การใชส้ ือ่ 1. ดหู รืออ่านเนื้อหาในสือ่ เหล่าน้นั ก่อนเปน็ การเตรียมตวั 2. จัดเตรียมสถานที่ 3. เตรียมตัวผู้เรียน โดยใช้สื่อนําเข้าบทเรียน 4. ควบคมุ ช้นั เรียน เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีความสนใจในสือ่ การกาํ หนดการตอบสนองของผเู้ รียน การให้ผ้เู รียนมีส่วนร่วมในการเรียน และเปิดโอกาสให้มีการตอบสนองน้นั เปน็ สิง่ สาํ คัญยิง่ ซงึ่ ผู้ เรียนจะมีการตอบสนองหรือไม่ ผู้เรียนมีการตอบสนองอย่างเปิดเผย โดยการพดู ออกมา หรือเขียน และการตอบสนองภายในตวั ผู้เรียน โดยการท่องจําหรือคิดในใจ เมือ่ ผู้เรียนมีการตอบสนองแล้วผู้สอน ควรเสริมแรงทนั ที่เพือ่ ให้ผู้เรียนทราบว่าตนมีความเข้าใจและเกิดการเรยี นรู้ การประเมิน การประเมินสามารถกระทาํ ได้ใน 3 ลกั ษณะ คือ 1. การประเมินกระบวนการสอน โดยการประเมินสามารถทาํ ไดท้ ้งั ในระยะก่อนการสอน ระหว่างการสอน และหลังการสอน 2. การประเมินความสําเรจ็ ของผู้เรียน ทาํ ได้ด้วยการทดสอบ การสอบปากเปล่า ดูจากผลงาน ของผู้เรียน 4
3.การประเมินสื่อและวิธีการสอน โดยผู้เรียนมีการอภิปรายและวิจารณ์การใช้สือ่ และเทคนิค วิธีการสอนว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ลีลาการเรียนรู้ ของผเู้ รียน ลีลาการเรียนรู้เปน็ สิ่งที่ผ้เู รียน อาจสังเกตด้วยตนเองได้ ซึง่ แต่ละคนกแ็ ตกต่างกนั ไปตามแต่ละ แบบเราสามารถจดั รปู แบบลีลาการเรียนร้ไู ด้ 6 รูปแบบคือ ผ้เู รียนที่ถนัดเรียนรู้จากสายตา, ผู้เรียนที่ ถนัดเรียนร้จู ากการฟงั , ผู้เรียนทีถ่ นัดเรียนร้จู ากการสมั ผสั ภายนอก, ผู้เรียนที่ถนดั เรียนร้จู ากการสัมผสั ภายใน, การเรียนเปน็ กล่มุ และ การเรียนตามลาํ พัง ลีลาที่ 1 ผู้เรียนทีถ่ นัดเรียนรู้จากสายตา ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีจากการมองเหน็ จากการใช้สายตา จากการอ่านหนงั สือ อ่านข้อความ บนกระดาน อ่านแบบฝึกหดั เข้าใจและจาํ ข้อมูลได้ดีโดยการอ่าน ไม่ต้องการการพูด การอธิบายมาก นัก เพราะไม่ค่อยชอบฟงั คําอธิบาย อ่านหนงั สือคนเดียวแล้วเข้าใจดี ในการเรียนควรจดคําบรรยายของ ผู้สอนเพราะจะช่วยให้ท่านจดจาํ ได้ดีขึ้น เพื่อให้ผ้เู รียนเรียนร้ไู ด้ดี ผู้สอนควรใช้สอื่ ทางสายตาประกอบ เช่น แผ่นใส ภาพยนตร์ วีดีทศั น์ ภาพวาด ภาพประกอบ ใช้สีเป็นรหัส แผนภมู ิ หรือสื่อทางสายตาอื่น ๆ ลีลาที่ 2 ผู้เรียนทีถ่ นัดเรียนร้จู ากการฟัง ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีจากการพูด การฟงั การเสนอรายงานปากเปลา จาํ ข้อมลู ได้ดีจากการ อ่าน โดยเฉพาะการอ่านออกเสียงดัง ๆ หรือขยบั ริมฝีปากไปด้วยขณะอ่าน เรียนได้ดีจากการฟังเทป ฟงั บรรยาย การอภิปราย บางคนชอบอ่านลงเทปแล้วเปิดฟัง บางคนชอบสอนคนอนื่ หลายคนชอบถามผู้ สอน ชอบอภิปรายปญั หากบั ผู้สอน เพื่อให้ผ้เู รียนสามารถเรียนรู้ได้ดี ผ้สู อนผู้สอนควรใช้โสตทัศนปู กรณ์ประเภทเครือ่ งเสียง เทป หรือการเรียนรู้โดยการฟงั อื่น ๆ เช่น การบรรยาย การอ่านออกเสียงดัง ๆ เป็นต้น ลีลาที่ 3 ผู้เรียนทีถ่ นัดเรียนร้จู ากการสมั ผสั (1) การสัมผัส (1) = สมั ผสั ภายนอก การจบั ต้องด้วยมือ ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีจาก การลงมือปฏิบตั ิจริง เช่น ทาํ การทดลองในห้องปฏิบตั ิ การใช้มือหรือจับฉีก ต่อ สัมผสั ด้วยมือ การจด บันทึกย่อหรือการเขียนสรปุ ส้นั ๆ จะช่วยให้จดจาํ ข้อมลู ได้ดียิง่ ขน้ึ การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ผู้สอน ควรสอนโดยให้ลงมือปฏิบัติ จับต้องสงิ่ ของอุปกรณ์หรือวัสดุ ให้ป้นั ตดั ต่อ ก่อ สรา้ ง หรือขีดเขียน ลีลาที่ 4 ผ้เู รียนทีถ่ นดั เรียนร้จู ากการสมั ผสั (2) การสมั ผสั (2) = การสัมผสั ภายในการสมั ผัสที่ไม่ใช้มือ ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีจากการมี ประสบการณ์ตรง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทีผ่ ้สู อนจดั ขึ้นในห้องเรียน ผ้เู รียนได้เคลื่อนไหว การเข้า ร่วมกิจกรรมนอกหลกั สตู ร การไปทัศนศึกษานอกสถานที่ การแสดงบทบาทสมมติ เปน็ ต้น การใช้โสต 5
ทัศนปู กรณ์จะช่วย เช่น เครือ่ งเล่นเทป จะช่วยให้ผ้เู รียนกล่มุ นี้เรียนร้ไู ด้ดียิ่งขึ้น ผู้สอนควรให้เดก็ เข้าร่วม กิจกรรมทาํ การทดลองกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว บทบาทสมมติ การไปทัศนศึกษา เป็นต้น ลีลาที่ 5 การเรียนเปน็ กล่มุ ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีเมื่อมีเพื่อน ต้องอ่านหนงั สือหรือทําการบ้านกับเพื่อนสนิทอย่างน้อย 1-2 คน ชอบการสนทนาโต้ตอบ อภิปรายแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กบั เพื่อน การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม จะช่วยให้ผ้เู รียนจาํ ข้อมลู ได้ดีขึ้น ผู้สอนควรจดั ให้มีกิจกรรมกลุ่ม มีการอภิปราย ทาํ งานร่วมกนั ลีลาที่ 6 การเรียนตามลําพงั ผู้เรียนกลุ่มนี้เรียนร้ไู ด้ดีโดยการเรียนร้ดู ้วยตนเอง เรียนตามลําพังคนเดียว ไม่มีใครมารบกวน โดยเฉพาะอย่างยิง่ การเรียนร้สู ิง่ ใหม่ ๆ จะเรียนรู้ได้เรว็ หากได้อยู่ตามลําพงั ผู้สอนควรเปิดโอกาสให้เด็ก ได้เรียนร้ตู ามลําพัง หรือเรียนจาก สือ่ การเรียนทีเ่ รียนได้ด้วยตนเอง ลีลาทีถ่ นัดรองลงมา เปน็ ลีลาทีผ่ ู้เรียนเรียนได้ดีเป็นลําดับสอง รองจากลีลาทีต่ นเองถนดั ที่สดุ คนทีเ่ รียนเก่งบางคน อาจมีลีลาในการเรียนร้ไู ด้หลายลีลา ลีลาที่ไม่ถนดั เป็นลีลาที่ตนเองไม่ชอบ หากผู้สอนสอนด้วยลีลาที่เขาไม่ชอบ เขาจะเรียนได้ไม่ดี แต่ผู้สอนอาจ ทดลองให้เขาพยายามเรียนรู้โดยใช้ลีลานี้บ้าง จากลีลาการเรียนต่างๆผ้เู ขยี นได้ทําตารางสรุปสือ่ การเรียนการสอนทีเ่ หมาะสมกบั ลีลาการ เรียนแบบต่างๆ โดยที่ ตารางนี้เป็นเพียงแนวทางที่ผ้เู ขยี นเสนอแนะและให้ผ้อู ่านเข้าใจได้ง่าย แต่ไม่ สามารถระบตุ ายตัวได้ เนือ่ งจากการการเลือกสือ่ การเรียนการสอนจะต้องใช้ปจั จยั หลายๆอย่างเข้ามา พิจารณาประกอบด้วย ตารางสรปุ สอื่ การเรียนการสอนทีเ่ หมาะสมกับลีลาการเรียนแบบต่างๆ สือ่ /ลีลาการ เรียนรู้จาก เรียนรู้จาก เรียนรู้จาก เรียนรู้จาก เรียนเป็นกลุม่ เรียนตาม เรียน สายตา การฟงั การสัมผัส การสัมผัส ลาํ พัง ของจริง ภายนอก ภายใน สิ่งพิมพ์ กระดาน แผ่นโปร่งใส สไลด์ วีดีทศั น์ กราฟฟิก สือ่ เสียง คอมพิวเตอร์ 6
ของจริง = ของจาํ ลอง วัตถเุ ท่าของจริง สิ่งพิมพ์ = เอกสารแจก หนงั สือ ข้อความทีพ่ ิมพ์จากคอมพิวเตอร์ กระดาน = กระดานชอล์ก กระดานขาว สไลด์ = สไลด์และเครือ่ งฉายสไลด์0 Tweet 0 แผ่นโปร่งใส = แผ่นโปร่งใสและเครื่องฉายข้ามศรีษะ กราฟฟิก = ภาพถ่าย ภาพวาด แผนภูมิ แผนภาพ เสียง = เทปเสยี ง แผ่นซีดี คอมพิเตอร์ = ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ บทเรียนโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ การเรียนการสอนผ่าน ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ บทสรปุ ในฐานะผู้สอน เพื่อเปน็ การสนบั สนนุ ให้ผู้เรียนได้รับเนื้อหาสาระ มีการ เรียนรู้ได้ตามวตั ถปุ ระ สงค์อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้สอนควรคาํ นึงดําเนินการใช้สื่ออย่างมีระบบโดย คาํ ถึงความแตกต่างในการ เรียนร้ขู องผู้เรียนว่าแต่ละคนมีลีลาการเรียนร้แู บบใด ซึง่ ผลที่ได้อาจจะมาจากการสงั เกตพฤติกรรม หรือการประเมินตวั เองกไ็ ด้และหลักจากน้ัน ผู้สอนจึงวางแผนเลือกสือ่ และจัดหาสือ่ การเรียนการสอนที่ เหมาะสมกับลีลาการเรียนรู้ สถานการณ์อันเอื้ออาํ นวยต่อการเรียนรู้ วตั ถปุ ระสงค์การเรียนในด้าน พุทธิพิสยั จิตพิสยั หรือทกั ษะพิสยั แล้วนําสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนโดยจะต้องกําหนดการ ตอบสนองของผู้เรียนรวมถึงการประเมินการสอน , ประเมินผลสมั ฤทธิผ์ ้เู รียน, ประเมินสือ่ ทีใช้ การเลือกและใช้สื่อการเรยี นการสอนให้เหมาะกบั ลีลาการเรียน จงึ จดั เปน็ บทบาททีส่ าํ คัญของ ผู้สอน หากผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจและดาํ เนินการในสิง่ ที่กล่าวนี้ การเรียนการสอนกจ็ ะบรรลุวตั ถุ ประสงค์ ผ้เู รียนจะเกิดการพฒั นา ระบบการศึกษาก็จะมีคุณภาพมากขึ้น ตอบสนองกบั การ เปลี่ยนแปลงไปส่สู งั คมแห่งการเรียนร้ไู ด้เช่นกนั 7
บรรณานกุ รม กิดานันท์ มลิทอง (2543) เทคโนโลยีการศึกษาและนวตั กรรม พมิ พค์ ร้งั ที่ 2 กรงุ เทพมหานคร สํานักพิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฉลองชัย สุรวั ฒั นบรู ณ์ (2546) “ การเลือกและใช้สื่อการสอน” ในเอกสารประกอบการฝึกอบรม เรื่อง “การเรียนร้ผู ่านระบบ e-learning และการสร้างแฟ้มผลงานอิเลก็ โทรนิค” วันที่ 1-30 กันยายน 2546 สถาบนั ราชภฎั พระนครและสถาบันราชภฎั เครือข่าย หน้า 119-159 สสวท. บทที่ 3 เรื่อง สื่อการเรียนการสอน ใน เอกสารการสอนวิชาสื่อและเทคโนโลยีการสอน หลักสูตรประกาศนียบตั รบณั ฑิตทางการสอน สสวท. สรุ างค์ โค้วตระกลู (2544) จิตวิทยาการศึกษา พิมพ์คร้งั ที่ 5 กรุงเทพมหานคร สาํ นักพิมพ์แห่งจุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลยั บุญชม ศรีสะอาด(2541) การพฒั นาการสอน กรงุ เทพมหานคร สาํ นกั พิมพ์ชมรมเด็ก Suzanne Miller, “The Four Learning Styles in the DVC Survey.” DVC Online. Retrieved October 25, 2010, from http://www.metamath.com/lsweb/dvclearn.htm ขอขอบคณุ แหล่งข้อมูล : เวบ็ ไซท์ โรงเรียนพิชยั รตั นาคาร อ.เมืองฯ จ.ระนอง http://www.pr‐schoolweb.com/index.php?mo=1 8
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: