Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

Published by soontornwongchalard, 2020-08-06 22:33:16

Description: การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

Search

Read the Text Version

การเปลี่ยนแปลง ทางธรรมชาติ นายสุนทร วงษ์ฉลาด ผู้สอน โ ร ง เ รี ย น มั ธ ย ม ศ รี สา เ ภ า ลู น 1

การเปลยี่ นแปลงทางธรรมชาติในโลก ปัจจุบันไดเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก ทัง้ ในส่วนท่ีเกิดจาก ภายในเปลือกโลกการเปล่ียนแปลงบรเิ วณบรเิ วณพืน้ ผิวโลกและการเปลี่ยนแปลง ในบรรยากาศของโลกอันมีผลกระทบโดยตรงอ้อมต่อมมนุษย์ ลักษณะการ เปล่ยี นแปลงมีตงั้ แตก่ ารเกิดขนึ้ อยา่ งชา้ ๆ ไปจนถงึ การเกิดอย่างฉบั พลนั และรุนแรง ซง่ึ สง่ ผลใหเ้ กิดความเสยี หายตอ่ ชีวิตและทรพั ยส์ นิ จานวนมาก 2

1. ภาวะโลกร้อน ภาวะโลกรอ้ น (Global Warming) คือ ภาวะท่ีบรรยากาศของโลกมี อณุ หภมู ิโดยเฉล่ียสงู ขนึ้ ซง่ึ เป็นสาเหตทุ าใหภ้ มู ิอากาศของโลกเปล่ียนแปลง ภาวะ โลกรอ้ นอาจนาไปสู่การเปล่ียนแปลงปริมาณนา้ ฝน ระดับนา้ ทะเล และส่งผล กระทบตอ่ พืช สตั ว์ และมนษุ ยอ์ ย่างมาก 3

1) ปัจจัยทท่ี าให้เกิดภาวะโลกร้อน ปัจจยั สาคญั ท่ีทาใหอ้ ณุ หภูมิของโลกสงู ขนึ้ คือ “ปรากฏการณเ์ รือนกระจก” (Greenhouse Effect) ซ่งึ เกิดจากการท่ีมนษุ ยไ์ ด้ ปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกสบู่ รรยากาศในปริมาณมาก ไดแ้ ก่ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แก๊สมีแทน แก๊สไนตรสั ออกไซด์ และสารประกอบคลอโรคารบ์ อน จากการทากิจกรรม ต่างๆ เช่น การทาการเกษตร อตุ สาหกรรม การคมนาคมขนสง่ การตดั ไมท้ าลายป่ า เป็ น ตน้ แก๊สเรือนกระจกจะกักเก็บความรอ้ นท่ีแผ่ออกมาจากดวงอาทิตยแ์ ละสะทอ้ นคล่ืน ความรอ้ นมาสพู่ ืน้ โลก จนทาใหเ้ กิดภาวะโลกรอ้ นขนึ้ 4

2) สถานการณ์การเกิดภาวะโลกร้อน หลักฐานท่ีแสดงให้เห็นว่าโลกรอ้ นขึน้ คือ ปรมิ าณนา้ แขง็ และหิมะในปัจจบุ นั บรเิ วณขวั้ โลกและบนเทือกเขาสงู เช่น เทือกเขาหิมาลยั ใน ทวีปเอเชีย เทือกเขาคิลิมนั จาโรในทวีปแอฟรกิ า มีปรมิ าณนา้ แข็งและหิมะลดลงอย่างเห็นได้ ชดั เม่ือเทียบกบั อดีต พืน้ ท่ีชายฝ่ังทะเลบางบรเิ วณของโลกเร่มิ ประสบปัญหานา้ ท่วมอนั เกิด จากการหนุนของนา้ ทะเล เช่น พืน้ ท่ีชายฝ่ังตอนเหนือของทวีปยุโรป พืน้ ท่ีบางหม่เู กาะใน มหาสมุทรแปซิฟิ กนักวิทยาศาสตรค์ าดการณว์ ่าภายใน 100 ปี ขา้ งหนา้ ระดบั นา้ ทะเลจะ สูงขึน้ จากในปัจจุบัน0.3-1.1 เมตร ดังนั้นพืน้ ท่ีหลายบริเวณของโลกจะตอ้ งจมอยู่ไตน้ า้ ประชากรไม่นอ้ ยกวา่ 630 ลา้ นคนจะไดร้ บั ผลกระทบ 5

3)ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน สง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ มีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม ดงั นี้ 1. เกิดพายหุ มนุ บอ่ ยขนึ้ และมคี วามรุนแรงมากขนึ้ 2. ปัญหาฝนแลง้ และไฟป่ า อณุ หภมู ิของอากาศท่ีสงู ขนึ้ ทาใหป้ รมิ าณนา้ และความช่มุ ชืน้ ระแหยไปอย่าง รวดเรว็ นอกจากนีฝ้ นแลง้ ยงั ทาใหเ้ กิดไฟป่าไดง้ า่ ย 3. ระดบั นา้ ทะเลสงู ขนึ้ เป็นผลมาจากการขยายตวั ของนา้ ทะเลเน่ืองจากอณุ หภมู ินา้ สูงขนึ้ และธารนา้ แข็ง ท่ีขวั้ โลกละลายเรว็ กวา่ ปกติ การละลายของธารนา้ แข็งจะทาใหร้ ะดบั นา้ ทะเลสงู ขนึ้ ท่วมพืน้ ท่ีชายฝ่ังทะเล 4. ปัญหาชายฝ่ังทะเลถกู กดั เซาะ เป็นปัญหาสืบเน่ืองมาจากสบื เน่ืองมาจากท่ีระดบั นา้ ทะเลสงู ขนึ้ เพราะ ปรมิ าณนาจะไปกดั เซาะชายฝ่ังทะเลใหพ้ งั ทลายมากขนึ้ กวา่ เดมิ 6

4)การระวงั ภยั จากภาวะโลกร้อน วธิ ีช่วยลดโลกรอ้ นมีหลายวธิ ี ดงั นี้ 1. ลดปรมิ าณการใชถ้ งุ พลาสติก เพราะถงุ พลาสติกไมส่ ามารถยอ่ ยสลายไดเ้ องตามธรรมชาติ และการเผากาจดั ในเตาเผาขยะอยา่ งถกู วธิ ีตอ้ งใชพ้ ลงั งานจานวนมาก ซง่ึ ทาใหม้ กี ๊าซเรอื นกระจกเพ่มิ ในบรรยากาศ 2. แยกขยะอินทรยี ์ เช่น เศษผกั เศษอาหาร ออกจากขยะอ่ืนๆ ท่สี ามารถนาไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ หม่ได้ เป็นการ ปอ้ งกนั การปลอ่ ยแก๊สมเี ทนสบู่ รรยากาศ 3. ใชร้ ถสว่ นตวั ใหน้ อ้ ยลง หนั ไปใชจ้ กั รยาน ใชบ้ รกิ ารรถโดยสารประจาทาง หรอื ใชก้ ารเดนิ เม่อื ตอ้ งไปทากิจกรรม หรอื ธรุ ะใกลบ้ า้ น 4. ประหยดั การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ดว้ ยการปิดโทรทศั น์ คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งเสยี ง และเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าอ่ืนๆ เม่อื ไมไ่ ด้ ใชง้ าน 5. สนบั สนนุ สินคา้ และผลิตผลจากเกษตรกรในทอ้ งถ่ินใกลบ้ า้ น ช่วยใหเ้ กษตรกรในพนื้ ท่ไี มต่ อ้ งขนสง่ ผลติ ผลให้ พอ่ คา้ คนกลางนาไปขายในพนื้ ท่ีไกลๆ 7

2 การเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศ การเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศ (Climate Change) คอื การท่อี ณุ หภมู ิของ โลกคอ่ ยๆเปล่ยี นแปลงไปทีละนอ้ ย อนั เน่ืองมาจาก 2 ปัจจยั สาคญั ไดแ้ ก่ ปัจจยั ทางธรรมชาติ และปัจจยั จากการเปลย่ี นแปลงปรมิ าณและความเขม้ ขน้ ของแก๊ส เรอื นกระจกในบรรยากาศ 8

1)ปัจจัยทท่ี าใหเ้ กิดสภาพอากาศแปรปรวน แบง่ ได้ ดงั นี้ 1.1) ปัจจยั ทางธรรมชาติ ท่ีมีผลทาใหอ้ ณุ หภมู ิของโลกสงู ขนึ้ คอื ปัจจยั ทางดาราศาสตร์ เช่น ดวงอาทิตยม์ ีจดุ ดบั มากขนึ้ ดวงอาทิตยจ์ ะแผ่รงั สีเพิ่มขนึ้ สง่ ผลใหอ้ ณุ หภมู ิสงู ขนึ้ ดว้ ยการ โคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ จะทาใหพ้ ลงั งานท่ีโลกไดร้ บั จากดวงอาทิตยใ์ นแตล่ ะฤดแู ละแต่ ละละติจดู เปล่ยี นแปลงไปอยา่ งมาก นอกจากนีป้ ัจจยั ทางธรณีวทิ ยาก็มีผลใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศไดเ้ ช่นกนั เชน่ การเล่อื นตวั ของทวีป การปะทขุ องภเู ขาไฟท่ีทาใหฝ้ ่นุ ละอองในบรรยากาศเพ่มิ ขนึ้ ซง่ึ ฝ่นุ ละอองเหลา่ นีอ้ าจคงอยใู่ นบรรยากาศไดน้ านถงึ 3 ปี จงึ สง่ ผลทาใหอ้ ณุ หภมู ิโลกลดลง 9

1.2) ปัจจยั ทเี่ กดิ จากการเพมิ่ แก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศ การเพ่มิ ความเขม้ ขน้ ของแก๊ส เรอื นกระจกในบรรยากาศ จะมีผลทาใหอ้ ณุ หภมู ิของโลกสงู ขนึ้ เม่ือมีปรมิ าณแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซดใ์ นบรรยากาศเพมิ่ ขนึ้ อณุ หภมู ิของโลกก็จะเพิ่มสงู ขนึ้ ตามไปดว้ ย ไดถ้ กู พสิ จู น์ แลว้ วา่ เกิดจากกิจกรรมของมนษุ ย์ ตงั้ แตเ่ ม่ือเขา้ สยู้ คุ ปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรมเป็นตน้ มา มนษุ ยไ์ ดพ้ ฒั นา เทคโนโลยีเครอ่ื งจกั รกลขนึ้ มาใชท้ นุ่ แรง เพ่มิ กาลงั ในการผลิตและอานวยความสะดวกตา่ งๆ ใน ขณะเดียวกนั พืน้ ท่ีป่าไมท้ ่วั โลก ซง่ึ เป็นแหลง่ ดดู ซบั แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากบรรยากาศ ก็ได้ ถกู บกุ รุกทาลายอยา่ งมากจากการขยายตวั ของภาคเกษตรกรรม ภาคอตุ สาหกรรม และพืน้ ท่ีอาศยั ของมนษุ ย์ ทาใหแ้ หลง่ ดดู ซบั แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดอ์ อกจากบรรยากาศลดนอ้ ยลง และขณะนีก้ ็ ยงั ไมส่ ามารถลดการปลอ่ ยแก๊สเรอื นกระจก 10

2) สถานการณท์ เี่ กดิ จากการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศ ปัจจบุ นั สภาพภมู ิอากาศ ของโลกเปล่ียนแปลงไปอยา่ งมาก สง่ ใหเ้ กิดปัญหาตา่ งๆ มากมายในภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลกทงั้ ปัญหาระดบั นา้ ทะเลท่เี ขา้ ทว่ มพืน้ ท่ีราบต่า อทุ กภยั ท่รี ุนแรงขนึ้ ความ แหง้ แลง้ ท่ีมีพืน้ ท่ีมากขนึ้ พายทุ ่ีมีบอ่ ยขนึ้ 11

3) ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศ อณุ หภมู ิท่ีสงู ขนึ้ ทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงของ สภาพภมู อิ ากาศในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ รูปแบบของลม จานวนและชนดิ ของไอนา้ ในอากาศ (ฝน ลม หมิ ะ นา้ แขง็ ) รวมทงั้ ความถ่ีของอากาศท่ีรุนแรงขนึ้ ซง่ึ มีแนวโนม้ ท่ีจะเกิดรุนแรงมากขนึ้ ในอนาคต การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศดงั กลา่ วจะทาใหเ้ กิดปัญหาดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม สงั คม และเศรษฐกิจ ตามมา ตวั อยา่ งผลกระทบท่อี าจเกิดขนึ้ มีดงั นี้ 1. ปรมิ าณนา้ จืดท่ีลดลง ภายในเวลา 50 ปี จานวนของประชากรท่ีขาดแคลนนา้ ด่มื จะเพ่มิ สงู ขนึ้ เป็น 5,000 ลา้ นคนจากทงั้ หมด 8,000 ลา้ นคน 2. ผลผลติ การเกษตรตกต่าลง การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศสง่ ผลใหผ้ ลผลิตทางการเกษตรใน ระดบั ทอ้ งถ่ินลดลง จงึ มีผลตอ่ ปรมิ าณอาหารสารองในโลก 12

3. ความอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ ลดลงและหนา้ ดนิ ไดร้ บั ความเสยี หายจากการชะลา้ งพงั ทลายดินจากสภาพ๓ มิอากาศรุนแรง ทาใหเ้ กิดการยา้ ยพืน้ ท่ีเพาะปลกู ภยั แลง้ และการเปล่ยี นแปลงของปรมิ าณไอนา้ ในอากาศ จะเพ่มิ ปรมิ าณการยา้ ยถ่ินฐานของประชากร สว่ นผลกระทบทางออ้ มเป็นการใชส้ ารเคมีเพ่ือเพ่ิมความ อดุ มสมบรู ณข์ องดิน 4.ระดบั นา้ ทะเลท่ีเพ่มิ สงู ขนึ้ เม่ือโลกรอ้ นขนึ้ และระดบั นา้ ทะเลก็จะเพ่ิมมกขนึ้ จากการขยายตวั ของนา้ ทะเล และการละลายของนา้ แข็ง เช่น การละลายของแผน่ นา้ แข็งกรนี แลนดแ์ ละภเู ขานา้ แขง็ ในทะเล ซง่ึ ทาให้ ระดบั นา้ ทะเลเพ่มิ ขนึ้ และการเพ่มิ ขนึ้ ของระดบั นา้ ทะเลจะทาใหช้ มุ ชนรมิ ฝ่ังทะเล พืน้ ท่ีการเกษตร แหลง่ นา้ จืดรมิ ฝ่ัง รวมถึงประเทศท่ีเป็นเกาะกลางมหาสมทุ รหรอื ทะเลตกอยใู่ นภาวะเส่ยี งภยั จากนา้ ทว่ ม 5. ภยั ธรรมชาติรุนแรงท่ีเกิดมากขนึ้ เชน่ ความแหง้ แลง้ ไฟป่า อทุ กภยั แผน่ ดนิ ถลม่ พายุ และอ่ืน ๆ อีก มากมาย จะสง่ ผลกระทบมหาศาลตอ่ สงั คม และเศรษฐกิจ 13

4) แนวทางแกไ้ ขปัญหาการเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศ สภาพอากาศแปรปรวนมีสาเหตมุ าจาก การปลอ่ ยแก๊สเรอื นกระจก ซง่ึ สง่ ผลใหเ้ กิดภาวะโลกรอ้ น แนวทางแกไ้ ขปัญหาสามารถทาไดโ้ ดย การพฒั นาพลงั งานสะอาด เพ่ือลดการปลอ่ ยแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ และการเพ่มิ ประสทิ ธิภาพ การใชพ้ ลงั งานธรรมชาติ เช่น แสงอาทิต และความรอ้ นใตพ้ ภิ พ ซง่ึ เป็นมิตรตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม พลงั งาน ลมมีอตั ราการศกึ ษาพฒั นาและเตบิ โตเรว็ ท่ีสดุ สว่ นพลงั งานจากแสงอาทติ ยท์ ่ีสอ่ งกระทบผวิ ผวิ โลก มีปรมิ าณมากพอในการผลติ พลงั งานมากกวา่ ปรมิ าณท่ีโลกกาลงั บรโิ ภคอยทู่ กุ ปี การใชพ้ ลงั งาน สะอาดและเป็นมิตรตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มจะนาไปสกู่ ารเตบิ โตทางเศรษฐกิจ การสรา้ งงาน นวตั กรรมทาง เทคโนโลยี และ การปกปอ้ งคมุ้ ครองสง่ิ แวดลอ้ ม ดงั นนั้ เพ่ือปกปอ้ งโลกจากการเปล่ยี นแปลงสภาพ ภมู อิ ากาศ เราจงึ ตอ้ งการใชเ้ ชือ้ เพลงิ ฟอสซลิ และหนั มาใชพ้ ลงั งานสะอาดซง่ึ เป็นทางเลือกท่ีย่งั ยืน อยา่ งแทจ้ รงิ 14

3 ความแห้งแล้ง ความแหง้ แล้ง(Dryness) คือลกั ษณะภมู ิอากาศท่ีมีฝนนอ้ ยกวา่ ปกติ หรอื ฝนไมต่ กตอ้ งตามฤดกู าลเป็นระยะเวลานานกวา่ ปกติ และครอบคลมุ พืน้ ท่ีบรเิ วณ กวา้ ง ทาใหเ้ กิดการขาดแคลนนา้ ด่มื นา้ ใช้ พืชพนั ธไ์ มต้ า่ งๆ ขาดนา้ ทาใหไ้ ม่ เจรญิ เตบิ โตตาปกติ สง่ ผลใหผ้ คู้ นไดร้ บั ความเดือดรอ้ นโดยท่วั ไป ความแหง้ แลง้ เป็นภยั ธรรมชาตปิ ระเภทหน่งึ ท่ีเกิดขนึ้ เป็นประจาทกุ ปีในภมู ิภาคตา่ งๆของโลก 15

1) ปัจจยั ทที่ าใหเ้ กดิ ความแหง้ แล้ง ภยั แลง้ เกิดขนึ้ จากสาเหตหุ ลายประการ ทงั้ จากการกระทาของมนษุ ยแ์ ละจากธรรมชาติ มนษุ ยเ์ ป็นตวั การสาคญั ท่ีทาใหส้ ภาวะของ บรรยากาศเปล่ยี นแปลงไปจากการตดั ไมท้ าลายป่ าและพฒั นาดา้ นอตุ สาหกรรมท่ีทาให้ ปรมิ าณแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดส์ งู ขนึ้ จนเกิดปรากฏการณเ์ รอื นกระจก อีกทงั้ การทาลาย ชนั้ โอโซนซง่ึ ทาใหพ้ ลงั งานความรอ้ นลงมาสชู่ นั้ บรรยากาศใกลผ้ ิวโลกทาใหอ้ ณุ หภมู ิของ อากาศสงู ขนึ้ และยงั มีปัจจยั อ่ืนๆ เชน่ การเปล่ยี นแปลงของสภาพอากาศ การ เปล่ยี นแปลงของระดบั นา้ ทะเล เป็นตน้ 16

2) สถานการณก์ ารเกดิ ความแหง้ แล้ง ปัจจบุ นั ความแหง้ แลง้ ไดเ้ กิดขนึ้ ในหลายพืน้ ท่ีของโลกรวมทงั้ ประเทศไทย และนบั วนั จะทวคี วามรุนแรงมากขนึ้ บรเิ วณพืน้ ท่ีท่ีเกิดและชว่ งเวลาท่ีเกิดก็ยาวนานมากขนึ้ ตวั อย่างเชน่ ภยั แลง้ ใน ประเทศจีน แมน่ า้ ฉางเจียงและแมน่ า้ หวางเหอซง่ึ เป็นแมน่ า้ สายหลกั ของประเทศมี ระดบั นา้ ลดลงอย่างผิดปกติ สง่ ผลใหป้ ระเทศจีนหลายลา้ นคนขาดแคลนนา้ ใน การอปุ โภคบรโิ ภค 17

3) ผลกระทบจากความแหง้ แล้ง ความแหง้ แลง้ หรอื การขาดแคลนนา้ ได้ ก่อใหเ้ กิดผลกระทบอยา่ งมากในดา้ นการเกษตรซง่ึ มีความสาคญั ตอ่ เศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการปลกู ขา้ วตอ้ งการนา้ ตงั้ แตก่ ารเพาะเมลด็ กลา้ จนถงึ ระยะเก็บเก่ียว การขาด นา้ ในระยะตา่ งๆของการเจรญิ เตบิ โตของขา้ ว ทาใหผ้ ลผลติ ขา้ วลดลง สง่ ผลใหร้ ายไดข้ อง ประเทศลดลง กอ่ ใหเ้ กิดปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา การขาดแคลนนา้ ยงั สง่ ผลกระทบใน ดา้ นอ่ืนๆ อีก เชน่ การขาดแคลนนา้ เพ่ืออปุ โภคบรโิ ภค การอตุ สาหกรรมการประมง และ การผลติ กระแสไฟฟ้า ซง่ึ ทกุ ปัญหาลว้ นสง่ ผลกระทบตอ่ ความเป็นอยขู่ องประชาชนและ การพฒั นาประเทศ 18

4) แนวทางแก้ไขปัญหา มีดงั นี้ 1. ปลกู ป่าไมท้ อ้ งถ่ินเพม่ิ เพ่ือช่วยใหม้ ีความชืน้ มากพอท่ีจะใหเ้ กิดฝน เม่ือมีป่าไมม้ ากก็ทาใหฝ้ นตก มากขนึ้ ซง่ึ ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนนา้ เพ่ือการเกษตรไดเป็นอยา่ งดี 2.ลดการกระทาท่ีทาใหเ้ กิดภาวะเรอื นกระจก เชน่ ไมเ่ ผาขยะ ลดการใชโ้ ฟม ลดการใชผ้ ลิตภณั ฑท์ ่ี มีสาร CFCs ซง่ึ เป็นตวั การทาลายชนั้ โอโซนในบรรยากาศใหเ้ กิดชอ่ งโหว่ ทาใหภ้ าวะโลกรอ้ นซง่ึ เป็นปัจจยั หนึ่งท่ีทาใหเ้ กิดภาวะแหง้ แลง้ 3.จดั ระบบการชลประทานใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ 4.ปรบั ปรุงคณุ ภาพดนิ โดยการใสป่ ๋ ยุ อินทรยี เ์ พ่ือช่วยใหเ้ ดนิ อมุ้ นา้ ไดด้ ี และรกั ษาความชมุ่ ชืน้ ในดิน ใหพ้ ืชเตบิ โตไดด้ ี 19

กล่าวโดยสรุป โลกตอ้ งเผชิญกบั ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติและการเปล่ยี นแปลงทาง ธรรมชาตมิ ากมาย ทงั้ แผ่นดินไหว ภเู ขาไฟปะทุ สนึ ามิ อทุ กภยั แผน่ ดินถลม่ การ กดั เซาะชายฝ่ัง วาตภยั ภาวะโลกรอ้ น สภาพอากาศแปรปรวน ไฟป่า ตลอดจน ความแหง้ แลง้ ซง่ึ ภยั พิบตั แิ ละการเปลย่ี นแปลงดงั กลา่ วเกิดจากปัจจยั ทาง ธรรมชาติและจากการกระทาของมนษุ ย์ ไดส้ ง่ ผลกระทบตอ่ สภาพแวดลอ้ มและ ความเป็นอยขู่ องมนษุ ย์ และนบั วนั จะทวคี วามรุนแรงมากขนึ้ จงึ จาเป็นท่ีทกุ ฝ่าย จะตอ้ งหาทางปอ้ งกนั และแกป้ ัญหา เพ่ือใหท้ กุ คนไดด้ ารงชีวิตไดอ้ ย่างปกติสขุ 20


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook