วชิ าสังคมศึกษา ส31101 ผู้สอน นายสนุ ทร วงษฉ์ ลาด ตำแหนง่ ครู โรงเรยี นมัธยมศรสี ำเภาลนู ตำบลสำเภาลนู อำเภอบัวเชด จงั หวดั สรุ นิ ทร์
สถาบนั ทางสังคม 1. สถาบนั ทางสังคม (social institution) คือ กระบวนการท่ีมนุษยใ์ นสงั คมได้จัดต้ังขน้ึ อย่างมีระเบียบแบบแผน เพื่อสนองความต้องการของสังคม 2. องค์ประกอบของสถาบันทางสังคม 2.1 องคก์ ารทางสังคม คอื กลุม่ คนที่จัดระเบียบแลว้ - สถานภาพ คือ ตำแหนง่ ต่างๆที่ได้จากการเปน็ สมาชิกของกลุ่ม เชน่ สถาบนั ครอบครวั กจ็ ะมี บิดา มารดา บุตร - บทบาท คอื หนา้ ที่ที่ต้องปฏิบัติตามสถานภาพ เช่น สถานบันครอบครวั มีหนา้ ท่ี อบรมสัง่ สอนอบรมบุตร - การควบคุมทางสังคม คือ การควบคุมให้คนยอมรับปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ของกลมุ่ - การจัดระเบยี บสงู ตำ่ ทางสังคม คอื การจดั ระดบั ความสำคัญของบุคคลตามสถานภาพ - คา่ นิยม คือ ส่งิ ทีก่ ลุ่มเหน็ ว่าควรปฏิบตั ิ 2.2 หนา้ ที่ของสถาบันทางสังคม - สนองความตอ้ งการของมนษุ ยใ์ นสงั คม เชน่ สถาบนั การศึกษา มหี น้าท่ใี หก้ ารศกึ ษาแก่ มนุษย์ในสงั คม - เป็นแหลง่ พบปะกันระหวา่ งสมาชกิ ในสงั คม - เป็นเครอ่ื งมือควบคุมคนในสงั คม โดยใช้ระเบียบแบบแผนของสถาบัน 3. ประเภทของสถาบนั 1. สถาบันครอบครัว 1.1 องคก์ ารทางสงั คม แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ ครอบครวั เดยี่ วหรอื ครอบครัวหนว่ ย กลาง (nuclear family) คือ ครอบครวั ทป่ี ระกอบด้วย พ่อ แม่ ลกู และ ครอบครัวขยาย (extended family) คอื ครอบครวั ทป่ี ระกอบด้วย พอ่ แม่ ลูก และ วงศาคณาญาติ มีองคป์ ระกอบดงั นี้ 1. สถานภาพ คือ มีตำแหน่งตา่ งๆ คอื พ่อ แม่ ลกู ฯ 2. บทบาท คอื พ่อ แม่ มหี น้าท่ีเลี้ยงดู อบรม สั่งสอนลกู ลูกมหี น้าทต่ี ั้งใจเล่าเรียน หนังสือ 3. การควบคุมทางสังคม คือ ควบคมุ ให้อยู่ในกรอบประเพณีและศีลธรรมอันดีงาม ทำ ผิดก็มกี ารลงโทษ ทำดกี ็ให้รางวลั 4. การจดั ระดับสูงต่ำทางสังคม คอื พ่อ แม่ มฐี านะทางสังคมสงู กว่า ลกู พี่สูงกวา่ นอ้ ง 5. คา่ นยิ ม คือ ลกู ควรมคี วามกตญั ญกู ตเวทีต่อพอ่ แม่ 1.2 หนา้ ที่
1. สรา้ งสมาชใิ หมม่ าทดแทนสมาชิกท่ีตายไป ถา้ ไม่มีการสมาชกิ ใหม่ สงั คมนนั้ กจ็ ะหายไป 2. เลย้ี งดแู ละให้ความอบอ่นุ ท้ังร่างกายและจิตใจแก่สมาชกิ ใหม่ 3. อบรม สง่ั สอนให้รจู กั กฎระเบียบของสงั คมและปรับตวั เข้ากบั สภาพแวดล้อมนอกบ้านได้ 4. กำหนดสถานภาพว่าเราเปน็ ใคร เช่น เปน็ ลูกครู ลูกแพทย์ เป็นหญงิ เมื่อเปล่ยี น นามสกุล ฯ 5. บำบัดความตอ้ งการทางเพศ เช่น ความต้องการมีบุตร ความต้องการทจ่ี ะสมรส ฯ 1.3 แบบแผนปฏบิ ัติ คอื แนวทางในการปฏบิ ัตติ ่อกันในสถาบันครอบครัว เชน่ กฎหมาย ครอบครัว การผิดสัญญาหม้ัน เงอื่ นไขการสมรส ฯ 2. สถาบนั การเมอื งการปกครอง สถาบนั การเมืองการปกครองนน้ั จะมฐี านะทางสังคมเหนือกวา่ สถาบันอืน่ ๆ มที ัง้ อำนาจในการ นำ ประสาน ปกครองและค้ำจนุ สถาบนั อน่ื ๆ เรามสี ถาบันการเมืองการปกครองเพ่ือช่วยแกป้ ัญหาตา่ งๆ ช่วย วางแผนนโยบายตา่ ง ให้หลกั ประกนั เสรภี าพของแต่ละบุคคลใหเ้ ท่าเทียมกนั เพื่อความมัน่ คงต่อชวี ติ ของบุคคลใน การดำรงชวี ิตในสงั คม แบบแผนของการปฏิบัตขิ องสถาบันการเมืองการปกครองเกี่ยวกันเร่อื งความมั่นคงและ ความปลอดภยั ของสังคม 2.1 องค์การทางสังคม 1. สถานภาพ นายกรฐั มนตรี รัฐมนตรี ผวู้ า่ ราชการจังหวัด ฯ 2. บทบาท นายกรัฐมนตรมี หี น้าท่ีควบคุมดูแลคณะรฐั มนตรี รัฐมนตรดี ูแล กระทรวงในความรับผิดชอบ ฯ 3. การควบคมุ ทางสังคม ทุกคนต้องปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย เพอื่ ความสงบสุขของ สังคม 4. การจดั ระดับความสูงตำ่ ทางสังคม เช่น นายกรฐั มนตรีมีฐานะทางสังคมสงู กวา่ รัฐมนตรี ฯ 5. ค่านิยม คอื ความยุตธิ รรม ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริต การปฏิบตั ิตามกฎหมาย การ เป็นพลเมืองดี 2.2 หนา้ ที่ของสถาบันการเมืองการปกครอง 1. ระงบั ความขดั แย้งระหว่างบุคคลท่เี กิดข้นึ เสมอในสงั คม 2. คมุ้ ครองบคุ คลใหป้ ลอดภัย 3. รกั ษาความสงบเรียบร้อย ส่งเสรมิ ความม่นั คงและสวัสดิการทางสังคม ปจั จบุ ันนี้หนา้ ทขี่ องสถาบนั การเมืองการปกรองมแี นวโนม้ ดงั น้ี 1. แกไ้ ขปัญหาของประชาชนมากขน้ึ
2. ยตุ คิ วามขัดแย้งตา่ งๆ ต้องทำใหส้ งั คมดำเนินไปได้ด้วยดี และตัดสินปัญหาต่างๆ 3. จะตอ้ งใชค้ วามรู้ หลกั วิชา และเหตผุ ล เพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการแก้ปญั หาด้านการ ปกครอง 2.3 แบบแผนการปฏบิ ตั ิ จะมีกฎหมายเป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิ เชน่ ถ้าฆ่าคนตาย มีโทษตงั้ แต่ประหาร ชีวิต จำคุกตลอดชีวติ หรอื จำคุกตงั้ แต่ 15 ปี หรอื แมไ้ มเ่ จตนาทจ่ี ะฆ่าใคร มโี ทษจำคุกตง้ั แต่ 3 ปีถึง 25 ปี ถ้า ทำรา้ ยร่างกาย มีโทษจำคุกไมเ่ กนิ 2 ปี หรอื ปรับไม่เกนิ 4000 บาท ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหสั ตอ้ งไดร้ ับ โทษตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี 3. สถาบนั เศรษฐกิจ สถาบนั เศรษฐกิจ เปน็ สถาบนั ที่เก่ยี วกันการดำรงชีวิตของมนษุ ย์ ด้านการผลติ ของใช้ การ แลกเปลี่ยน การใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ ระหวา่ งสมาชกิ ของสังคม 3.1 องคก์ ารทางสังคม คือ กล่มุ คนท่ีทำงานในธนาคาร บรษิ ทั หา้ งร้าน 1 สถานภาพ ผจู้ ดั การ นายธนาคาร 2. บทบาท นายธนาคารมีหน้าทจ่ี ัดการเกยี่ วกับการเงนิ ของธนาคารอยา่ งถูกต้อง ตามกฎหมาย 3. การควบคมุ ทางสงั คม นายธนาคารต้องใหเ้ งินกู้และรบั ฝากเงนิ ตามอตั ราท่ี กฎหมายกำหนดไว้ 4. การจัดระดบั สูงตำ่ ทางสงั คม นายธนาคารมีฐานะทางสงั คมสูงกว่าพนักงานใน ธนาคาร 5. ค่านิยม มคี วามซื่อสัตย์ การทำงานให้มีประสิทธภิ าพ การรว่ มมือประสานงาน กนั ความยดื หยุน่ การปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจ 3.2 หน้าท่ีของสถาบนั เศรษฐกจิ 1. สนองความตอ้ งการทางเศรษฐกิจ เชน่ ผลิต แบง่ ปันวตั ถหุ รอื บรกิ ารตามท่ีมนุษย์ ตอ้ งการ 2. ใหค้ วามสะดวกแกม่ นุษยใ์ นการใชป้ ระโยชนท์ างเศรษฐกิจ เช่น ระบบเงิน เชอ่ื การใช้เงินตรา ฯ 3. พัฒนาและสรา้ งความเจรญิ กา้ วหน้าในทางเศรษฐกจิ เพื่อความอดุ มสมบรู ณแ์ ละ ความมน่ั คงในดา้ นนแ้ี ก่สมาชิกในสังคม 4. ชว่ ยเหลือในการบรโิ ภคใหเ้ พยี งพอและไปท่ัวถงึ ให้มากที่สดุ 3.3 แบบแผนการปฏิบตั ิ
1. ทรพั ย์สิน เป็นส่งิ มีค่าทส่ี ามารถเปลยี่ นมอื หรือถือกรรมสทิ ธไิ์ ด้ อาจจะเปน็ ส่ิงทจ่ี ับต้อง ไดห้ รอื จับต้องไม่ได้ 2. สัญญา เปน็ ส่ิงที่ช่วยให้ทรัพย์สินเปลยี่ นมือกันอย่างมรี ะเบียบและยังเปน็ หลักฐาน ยนื ยันวา่ เปน็ เจา้ ของทรัพย์สิน 3. อาชีพ เปน็ ส่ิงทกี่ ำหนดบทบาทเศรษฐกิจของประชาชน 4. การแลกเปล่ยี น มเี งนิ เป็นสื่อในการแลกเปลย่ี น เป็นมาตรฐานในการแลกปล่ียนอก มาในรปู เงนิ ตรา เพอื่ สะดวกในการดำรงชีพในสังคม 5. ตลาด มี อาชีพ ทรพั ยส์ ิน สัญญา ประกอบเขา้ ด้วยกัน ราคาของส่ิงของขนึ้ อยู่ กับความสมั พันธข์ องการเสนอและสนอง ถ้ามีการเสนอราคาสงู ทำใหร้ าคาของสิ่งอขงสูงด้วยเชน่ กนั และสินคา้ ราคาสงู กข็ น้ึ อยู่กบั ปริมาณกาสนองของประชาชนดว้ ยเชน่ กัน 4. สถาบนั การศกึ ษา เป็นสถาบนั ทีท่ ำหนา้ ที่ถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ใหมใ่ ห้แก่สมาชิกเพ่ือใหส้ มาชกิ มี ความรู้ ความสามารถ มวี ัฒนธรรมและคุณธรรม ส่วนการศึกษา คือ การสร้างสมและการถ่ายทอด ประสบการณ์ของมนุษยจ์ ากรุ่นหน่งึ ไปสู่อีกรุน่ หน่งึ เพ่ือแกป้ ัญหาและมีความเจรญิ ทางดา้ นพุทธิ ปัญญา จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และพลานามยั และการศึกษานนั้ เป็นการเรียนเพื่อใหเ้ กิดความคดิ และนำไป พัฒนาความสามารถของบุคคล 4.1 องคก์ ารทางสงั คม 1. สถานภาพ ครู นักเรยี น อาจารยใ์ หญ่ เปน็ ตน้ 2. บทบาท ครู อาจารยม์ ีหน้าทอี่ บรมสง่ั สอนให้ความรู้แก่นกั เรียนนักศึกษา 3. การควบคมุ ทางสังคม นกั เรยี นต้องปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบของโรงเรยี น 4. การจัดระดบั ความสูงต่ำทางสังคม ครูอาจารย์มีฐานะสงู กวา่ นกั เรียนนกั ศกึ ษา 5. คา่ นยิ ม ความยุตธิ รรม ความรับผดิ ชอบ ปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์อขงกล่มุ ให้ คณุ ค่าการศึกษาระดบั สงู ความซอื่ สัตย์ รักความกา้ วหนา้ 4.2 หนา้ ท่ขี องสถาบันการศึกษา 1. ให้ความรู้ความเขา้ ใจในส่ิงต่างๆแก่สมาชิก เพ่ือเป็นรากฐานในการพฒั นา สติปญั ญา ความรสู้ กึ นกึ คิดในทางทีด่ ี 2. พัฒนาให้บุคคลมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม 3. สอนแลฝกึ อาชพี ของบุคคลเพ่อื ประกอบอาชีพในอนาคต 4. ปลกู ฝงั ใหบ้ คุ คลมีความรักและสงเสรมิ ในศลิ ปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี อนั ดีงามให้คงอยู่ยืนยาว
5. เปน็ แหลง่ ความรู้และวิทยาการที่เออ้ื อำนวยต่อชุมชนและสังคม 4.3 แบบแผนปฏิบตั ิ มกี ารแบง่ ระดับการศึกษาแนวโรงเรียนเป็น 4 ระดับ คอื ระดบั ก่อน ประถมศกึ ษา ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา และระดบั อุดมศึกษา ส่วนในระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น 3 ระดบั คอื การศกึ ษาต่ำกว่าระดบั ปริญญาตรี การศึกษาระดับปรญิ ญาตรี และการศกึ ษาสงู กว่าระดับ ปรญิ ญาตรี 5. สถาบนั ศาสนา สถาบันศาสนาเป็นสว่ นหนึ่งของวัฒนธรรม และก่อให้เกดิ แบบความ ประพฤติ ประกอบด้วย 1. ความเชือ่ ศาสนาทกุ ศาสนาย่อมต้องการให้บุคคลมีความศรทั ธาและมคี วามเชื่อใน ศาสนา เหตุและการพิสจู น์ถือว่าเปน็ สง่ิ ที่สนับสนนุ ความเช่ือ และมักจะเนน้ ความเชือ่ จักรวาล ธรรมชาติ มนุษย์ กับหระเจา้ 2. ความรู้สกึ ทางอารมณ์ ศาสนาเช่อื มีสง่ิ ศักด์สิ ทิ ธิเ์ ข้ามาเกยี่ วพันกับ อารมณ์ เช่น ความรกั ความกลัว เป็นตน้ ความร้สู ึกทางอารมณจ์ ะเปน็ ลักษณะใดจะข้ึนอย่กู ับวา่ ศาสนานน้ั สอนอยา่ งไร 3. พฤติกรรมที่แสดงออก ศาสนามสี ่วนสำคัญในการสร้างแบบแผนพฤติกรรม ว่าสิ่ง ไหนดีหรือไมด่ ี สิ่งไหนควรกระทำหรือไม่ และแลว้ แตศ่ าสนาว่ามแี นวทางพฤติกรรมเปน็ อยา่ งไร 5.1 องคก์ ารทางสังคม 1. สถานภาพ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ เปน็ ต้น 2. บทบาท พระสงฆ์สอนให้คนทำความดี ละเว้นความชัว่ 3. การควบทางสังคม พระสงฆ์ต้องทำตามกฎของสงฆ์และระเบียบของวัด 4. การจดั ระเบียบสงู ตำ่ ทางสังคม เจา้ อาวาสมีฐานะทางสงั คมสูงกวา่ พระ 5. คา่ นิยม มศี ีลธรรม ทำความดีละเวน้ ความช่ัว มีเมตตา เออ้ื เฟ้อื เผ่ือแผ่ เป็น ตน้ 5.2 หนา้ ท่ีของสถาบนั ศาสนา 1. เช่อื กนั ว่าศาสนาสามารถปกป้องภยั พบิ ตั ิต่างๆได้ และเพิ่มพูนความอุดม สมบรู ณ์ 2. เปน็ พ้นื ฐานสำคัญของอำนาจรฐั เพราะมบี างท่ีที่อำนาจรฐั ขนึ้ อยูก่ บั ประมุขทาง ศาสนา
3. ก่อให้เกิดศีลธรรมทางสังคม และจริยธรรม ซง่ึ เป็นเคร่ืองกำหนดแนวทางและ นโยบายของสังคม 4. เปน็ แบบอย่างในการประพฤติดี เชน่ ความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ ความเมตตา เป็น ตน้ 5.3 แบบแผนปฏิบัติ พระสงฆ์มกี ฎข้อบังคับ 227 ขอ้ ทต่ี ้องปฏิบตั ิ ฆราวาสมีมศี ลี 5 และ ศีล 8 และ ยงั หลกั ธรรมตา่ งๆ เชน่ อรยิ สัจ 4 อทิ ธิบาท 4 เปน็ ต้น Ref : http://www.dektriam.net/TopicRead.aspx?topicID=49256&start=0 07/06/2008
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: