Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาณาจักรสุโขทัย

อาณาจักรสุโขทัย

Published by soontornwongchalard, 2020-12-01 07:51:39

Description: อาณาจักรสุโขทัย

Search

Read the Text Version

1 อณาจกั รสโุ ขทยั วชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั ส๒๑๑๐๔ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ผ้สู อน นายสนุ ทร วงษฉ์ ลาด โรงเรยี นขนาดมอญพิทยาคม

2 อาณาจักรสุโขทยั การก่อตั้งกรุงสุโขทัย อาณาจักรสุโขทยั ก่อต้งั ขึน้ ประมาณ พ.ศ. 1780 พ่อขนุ ศรีอนิ ทรา- ทิตย์ ทรงพระนามเดิมว่า พอ่ ขุนบางกลางหาว ทรงสถาปนา สุโขทัยขึน้ มา สรา้ งความเป็นปึกแผน่ ใหก้ บั ชนชาติไทย โดยขยายเขตการปกครอง ออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง สโุ ขทัยเป็นราชอาณาจักรของชาติไทย อยู่ประมาณ 200 ปี จงึ ถกู รวมเข้าเป็นสว่ นหนงึ่ ของอาณาจักรอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 1981 อาณาจักรสุโขทัย ตงั้ อยบู่ นเส้นทางการค้าผ่านคาบสมุทรระหวา่ งอา่ ว เมาะตะมะ และท่ีราบลุม่ แม่น้ำโขงตอนกลาง มอี าณาเขตดังนี้ ท่รี าบลมุ่ แมน่ ำ้ โขงตอนกลาง อ่าวเมาะตะมะ เดิมที สโุ ขทัย เป็นสถานีการค้าของแคว้นละโว้ (ลวรัฐ) ของอาณาจักร ขอม บนเส้นทางการค้าผา่ นคาบสมุทรระหวา่ งอา่ วเมาะตะมะ กบั เขตที่ราบลุ่ม แม่นำ้ โขงตอนกลาง (ประเทศลาว) คาดวา่ เรมิ่ ตง้ั เปน็ สถานีการคา้ ในราว พุทธศกั ราช 1700 ในรัชสมยั ของพระยาธรรมิกราช กษตั ริยล์ ะโว้ โดยมพี อ่ ขุน ศรนี าวนำถม เปน็ ผู้ปกครองและดแู ลกจิ การภายในเมืองสโุ ขทยั และศรีสชั นาลัย ตอ่ มาเมอื่ พอ่ ขุนศรนี าวนำถมสวรรคต ขอมสบาดโขลญลำพง ซ่ึงเปน็ คล้ายๆกับ ผตู้ รวจราชการจากลวรัฐ เข้าทำการยดึ อำนาจการปกครองสุโขทัย จงึ สง่ ผลให้ พ่อ ขุนผาเมือง (พระราชโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถม) เจ้าเมอื งราด และ พ่อขนุ บาง กลางหาว เจ้าเมอื งบางยาง ตัดสนิ พระทัยจะยดึ ดนิ แดนคืน การชงิ เอาอำนาจจาก

3 ผูค้ รองเดิมคือ อาณาจักรขอม เม่ือปี พ.ศ. 1781 และสถาปนาเอกราช ให้กรงุ สุโขทัยขนึ้ เป็นรัฐอสิ ระ โดยไม่ข้นึ ตรงกบั รัฐใด และพอ่ ขุนผาเมือง ก็กลบั ยกเมืองสโุ ขทยั ให้พ่อขนุ บางกลางหาวครอง พร้อมทงั้ พระแสงขรรคช์ ยั ศรี และพระนาม กำมรเตงอญั ศรีอินทรบดนิ ทราทิตย์ ซง่ึ พระเจ้าชัยวรมนั ที่ 7 ทรงพระราชทานใหพ้ ่อขนุ ผาเมอื งก่อนหนา้ น้ี โดยคาดว่า เหตผุ ลคอื พ่อขุนผาเมืองมพี ระนางสขิ รเทวีพระมเหสี (ราชธดิ าของพระเจา้ ชัยวร มันที่ 7) ซง่ึ พระองคเ์ กรงว่าชาวสโุ ขทัยจะไม่ยอมรับ แตก่ ก็ ลัวว่าทางขอมจะไม่ ไวใ้ จจึงมอบพระนามพระราชทาน และพระแสงขรรคช์ ัยศรี ขน้ึ บรมราชาภเิ ษก พอ่ ขนุ ผาเมืองให้เป็นกษัตรยิ ์ เพื่อเป็นการตบตาราชสำนักขอม หลังจากมกี ารสถาปนาอาณาจักรสุโขทยั ขนึ้ เปน็ ราชธานี และมีพอ่ ขุนศรี อินทราทติ ย์ เป็นปฐมกษัตรยิ ์แล้ว พระองค์ทรงดูแลพระราชอาณาจักร และบำรุง ราษฏรเปน็ อย่างดี พระมหากษัตริย์พระองค์ท่ีสาม พ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ทรงพระปรชี า สามารถท้งั ในด้านนิรกุ ติศาสตร์ การปกครอง กฎหมาย วศิ วกรรม ศาสนา ความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ เป็นตน้ ผลงานของพระองค์ทป่ี รากฏใหเ้ หน็ อาทิ ศิลาจารึกที่ค้นพบในสมัยของพระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทอี่ ธบิ ายถึง ความเป็นมา ลีลาชวี ิตของชาวสโุ ขทยั โบราณ น้ำพระทยั ของพระมหากษตั ริย์ การ พพิ ากษาอรรถคดี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมผี ลงานทางวศิ วกรรมชลประทาน คือ เขื่อนสรดี ภงค์ทเ่ี ปน็ การกกั เก็บน้ำไวใ้ ช้ในยามแลง้ มีการทำท่อสง่ นำ้ จากตัวเขื่อน มาใชใ้ นเมือง พระมหากษัตริยท์ ่ที รงทำนุบำรุงศาสนามากทีส่ ดุ คอื พระเจ้าลิไท ในรชั สมยั ของพระองค์มีการสรา้ งวัดมากทสี่ ุด กษตั ริยพ์ ระองค์สดุ ท้ายในฐานะรฐั อิสระ คือ พระมหาธรรมราชาท่ี 4 (บรมปาล) ตอ่ จากน้ัน อาณาจักรไดถ้ ูกแบง่ ส่วนออกเป็นของอาณาจกั รอยุธยา และอาณาจกั รลา้ นนา จนในที่สดุ อาณาจักร ทง้ั หมด ก็ถูกรวมศูนย์ เขา้ เป็นดนิ แดนสวนหน่ึงของอาณาจักรอยุธยา โดยสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจา้ สามพระยา) แหง่ อาณาจกั รอยธุ ยา สุโขทัยถูก แบง่ ออกเป็น ๔ ส่วน - พระยาบาล (บรมปาลมหาธรรมราชา) ครองพษิ ณุโลก

4 - พระยาราม ครองสุโขทยั - พระยาเชลียง ครองเชลียง - พระยาแสนสอยดาว ครองกำแพงเพชร พนื้ ที่อานาจักร สุโขทยั ทศิ เหนอื มีเมืองแพร่ (ปจั จุบันคอื แพร)่ เปน็ เมืองปลายแดนด้านเหนอื สดุ ทิศใต้ มีเมอื งพระบาง (ปจั จุบันคอื นครสวรรค)์ เป็นเมืองปลายแดนดา้ น ใต้ ทศิ ตะวันตก มีเมืองฉอด (ปจั จุบนั คือแม่สอด) เป็นเมอื งชายแดนท่จี ะ ติดต่อเข้าไปยังอาณาจักรมอญ ทิศตะวันออก ถึงเมืองสะคา้ ใกลแ้ มน่ ้ำโขงในเขตภาคอสี านตอนเหนอื

5 การปกครองกรุงสโุ ขทยั 1. แบบพอ่ ปกครองลูก พระมหากษัตริย์กับประชาชนมคี วามใกล้ชดิ แบบ เครือญาติ เรียกพระมหากษตั ริยว์ า่ พอ่ ขนุ 2. แบบธรรมราชา พระมหากษัตริย์ เป็นแบบอย่างของธรรมราชา เรียก พระมหากษัตริยว์ ่าพระมหาธรรมราชา รายพระนามพระมหากษัตริย์สโุ ขทัย ราชวงศน์ ำถมุ (ราชวงศผ์ าเมอื ง) - พ่อขนุ ศรนี าวนำถมุ ครองราชยป์ ีใดไม่ปรากฏ - พ.ศ. 1724 ขอมสบาดโขลญลำพง - ขอมสบาดโขลญลำพง (พ.ศ. 1724 - พ.ศ. 1780) ราชวงศพ์ ระร่วง - พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ (พ.ศ. 1780- สวรรคตปใี ดไม่ ปรากฏ (ประมาณ พ.ศ. 1801) - พ่อขุนบานเมือง (หลังพ่อขุนศรอี ินทราทิตยส์ วรรคต - พ.ศ. 1822) - พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (พ.ศ. 1822 - พ.ศ. 1842) (ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า พ่อขุนรามราช) - ปู่ไสสงคราม (รักษาราชการช่ัวคราวแทน พญาเลอไท ซึ่งขณะนั้นไม่ได้อยใู่ นเมอื งสุโขทยั ) - พญาเลอไท (พ.ศ. 1842 - พ.ศ. 1833) - พญางวั่ นำถมุ (พ.ศ. 1833 - พ.ศ. 1890) [1] - พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไท) (พ.ศ. 1890 - พ.ศ. 1913) - พระมหาธรรมราชาท่ี 2 (ลือไท) (พ.ศ. 1913 - พ.ศ. 1931) (ตกเป็นประเทศราชของอยธุ ยาในปี พ.ศ. 1921)

6 - พระมหาธรรมราชาท่ี 3 (ไสยลอื ไท) (พ.ศ. 1931 - พ.ศ. 1962) - พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) (พ.ศ. 1962 - พ.ศ. 1981) - พระยายุทธิษฐิระ (พ.ศ. 1991 - พ.ศ. 2011) (เป็น ประเทศราชล้านนาในปี พ.ศ. 2011) ราชวงศส์ พุ รรณภูมิ - สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. 2011 - พ.ศ. 2031) (สถาปนา และประทับ ณ พิษณุโลก จนส้ินรัชกาล) - พระเชษฐาธริ าช (พ.ศ. 2031 - พ.ศ. 2034) (ตำแหน่งพระมหาอุปราชของอยุธยา) - พระอาทติ ยวงศ์ (พระหน่อพทุ ธางกูร) (พ.ศ. 2034 - พ.ศ. 2072) (ตำแหนง่ พระมหาอปุ ราชของอยุธยา) - พระไชยราชา (พ.ศ. 2072 - พ.ศ. 2077) (ตำแหนง่ พระมหาอุปราชของอยธุ ยา) ราชวงศ์สโุ ขทัย - พระมหาธรรมราชา (ขุนพิเรนทรเทพ) (พ.ศ. 2077 - พ.ศ. 2111) (เจ้าราชธานีฝา่ ยเหนอื ) - พระนเรศวร (หลังเสดจ็ กลับจากหงสาวดี - พ.ศ. 2127) (ตำแหน่งพระมหาอุปราชของอยุธยา)

7 การจัดรูปแบบการปกครอง 1. การปกครองราชธานี กรงุ สุโขทยั เป็นศนู ยก์ ลางการปกครองในอาณาจักร 2. การปกครองส่วนภมู ิภาค เป็นการปกครองเมืองต่าง ๆ ที่อยู่นอกเมืองหลวง ออกไป แบ่ง ออกเปน็ 3 ประเภท - หวั เมืองชน้ั ใน (เมืองลูกหลวงหรือเมืองหน้าด่าน) เปน็ เมืองทตี่ ั้งอยรู่ อบ ราชธานี ทงั้ 4 ทิศ - หัวเมอื งชน้ั นอก (เมืองพระยามหานคร) อยไู่ กลจากราชธานีมากกวา่ เมือง ลกู หลวง กษตั ริย์ทรงแต่งต้ังพระราชวงศ์หรือขนุ นางช้ันสูงไปปกครองดูแล ดินแดน - หัวเมอื งประเทศราช เป็นเมืองที่อยู่ไกลราชธานอี อกไปมาก เปน็ เมอื ง ของคน ต่างชาติ ต่างภาษา ท่ีอยู่ใตก้ ารปกครองของสโุ ขทัย ดา้ นการปกครองสามารถแยกกลา่ วเปน็ 2 แนว ดังนี้ ในแนวราบ จัดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก กลา่ วคือผปู้ กครองจะมคี วามใกลช้ ดิ กับประชาชน ให้ความเป็นกันเองและความยตุ ิธรรมกับประชาชนเป็นอย่างมาก เม่อื ประชาชนเกดิ ความเดอื ดร้อนไม่ไดร้ ับความเปน็ ธรรม สามารถร้องเรยี นกับพ่อ ขนุ โดยตรงได้ โดยไปสน่ั กระดิ่งทแี่ ขวนไว้ท่ีหน้าประตูทป่ี ระทบั ดังข้อความในศิลา

8 จารกึ ปรากฏว่า \"…ในปากประตูมีกระดิง่ อนั หนง่ึ ไว้ให้ ไพรฟ่ ้าหนา้ ใส…\" นั่นคือเปิด โอกาสให้ประชาชนสามารถมาส่ันกระดง่ิ เพื่อแจง้ ข้อร้องเรยี นได้ ในแนวด่งิ ได้มกี ารจดั ระบบการปกครองขึน้ เป็น 4 ชนชัน้ คือ - พอ่ ขนุ เป็นชนช้นั ผปู้ กครอง อาจเรยี กช่อื อยา่ งอืน่ เช่น เจ้าเมือง พระมหาธรรม ราชา หากมีโอรสก็ จะเรยี ก \"ลกู เจ้า\" - ลกู ขนุ เปน็ ขา้ ราชบรพิ าร ข้าราชการที่มีตำแหน่งหน้าทีช่ ่วงปกครองเมืองหลวง หัวเมืองใหญ่น้อย และภายในราชสำนัก เป็นกล่มุ คนที่ใกล้ชิดและได้รบั การ ไว้วางใจจากเจ้าเมืองให้ปฏิบตั ิหน้าท่บี ำบัด ทุกข์บำรุงสุขแกไ่ พรฟ่ า้ - ไพรห่ รือสามัญชน ได้แกร่ าษฎรท่วั ไปที่อยู่ในราชอาณาจักร (ไพร่ฟา้ ) - ทาส ได้แกช่ นชนั้ ทีไ่ มม่ ีอิสระในการดำรงชีวิตอยา่ งสามญั ชนหรือไพร่ (อย่างไรก็ ตามประเด็นทาส นี้ยังคงถกเถยี งกนั อย่วู า่ มีหรือไม่)

9 เศรษฐกิจสมัยสโุ ขทัย สภาพเศรษฐกจิ สมยั สโุ ขทัยเป็นระบบเศรษฐกจิ แบบเสรนี ิยม ดังข้อความ ปรากฏในหลักศิลาจารึกหลกั ท่ี 1 \"…ใครจกั ใคร่ค้าช้างค้า ใครจกั ใคร่คา้ มา้ คา้ ใคร จักใคร่ค้าเงินค้าทองค้า…\" และ \"...เมอื งสุโขทัยน้ดี ี ในน้ำมปี ลาในนามขี า้ ว...\" ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยระบบการเกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติ เชน่ สังคมไทยสว่ นใหญ่ในชนบทปัจจบุ นั 1. เกษตรกรรม การเพาะปลูกเปน็ อาชีพหลักของประชาชน ประชาชน ทดี่ นิ ทำกินเป็นของตนเอง มรี ะบบชลประทานเข้าชว่ ยในการทำการเกษตร 2. หัตถกรรม เครอื่ งสังคโลก เปน็ สินคา้ สง่ ออกไปขายยังต่างประเทศ 3. พาณชิ ยกรรม ระบบการค้าแบบเสรไี ม่เก็บภาษี เงนิ ตรา คือ เงนิ พด ด้วง แบง่ ออกเป็น สลงึ บาท และตำลึง ความเจริญทางศลิ ปวัฒนธรรม ขนบประเพณี เป็นประเพณที ี่เก่ียวกับพุทธศาสนา เช่น ประเพณีการ บวช ทอดกฐิน การ สร้างวัด เป็นตน้ ศาสนา พระพุทธศาสนานกิ ายเถรวาท (หนี ยาน) ลทั ธลิ ังกาวงศ์ เป็น ศาสนาประจำชาติ

10 ศลิ ปกรรม ส่วนใหญ่สร้างขนึ้ ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา สถาปัตยกรรมที่ สำคญั คือ เจดีย์ทรงกลมตามแบบอย่างลังกา เจดีย์ทรงพุม่ ขา้ ว บณิ ฑ์ หรอื ดอกบวั ตูม ภาษา และวรรณคดี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ไดป้ ระดษิ ฐ์อักษรไทยขึ้น เปน็ ครัง้ แรก ใน พ.ศ. 1826 การใช้ชีวิตของผ้คู นในสมัยสุโขทยั มคี วามอิสรเสรี มีเสรภี าพอยา่ งมากเนอ่ื งจาก ผู้ปกครองรฐั ให้อิสระแก่ไพร่ฟ้า และปกครองผ้ใู ตป้ กครองแบบพอ่ กับลกู ดัง ปรากฏหลกั ฐานในศิลาจารึกว่า \"…ดว้ ยเสยี งพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลอื่ น เสยี งขบั ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหวั หวั ใครจกั มักเล่อื น เลื่อน…\" ดา้ นความเช่ือและศาสนา สังคมยุคสโุ ขทัยประชาชนมีความเชื่อท้ังเรอ่ื ง วญิ ญาณนยิ ม (Animism) ไสยศาสตร์ ศาสนาพราหมณ์ฮนิ ดู และพุทธศาสนา ดัง ปรากฏหลักฐานในศลิ าจารกึ หลกั ท่ี 1 ด้านท่ี 3 วา่ \"…เบือ้ งหวั นอนเมอื งสโุ ขทัยนี้ มีกฎุ วิ หิ ารปคู่ รอู ยู่ มีสรีดพงส์ มีป่าพรา้ ว ป่าลาง ปา่ ม่วง ป่าขาม มนี ้ำโคก มพี ระข ระพุงผี เทพยาดาในเขาอนั น้ันเป็นใหญก่ วา่ ทุกผใี นเมืองน้ี ขนุ ผใู้ ดถือเมืองสโุ ขทัย นีแ้ ล้ว ไหว้ดพี ลถี ูก เมืองนี้เท่ยี ว เมอื งนดี้ ี ผไิ หวบ้ ่ดี พลีบถ่ ูก ผใี นเขาอนั นน้ั บ่คมุ้ บ่ เกรง เมอื งนี้หาย…\" สว่ นด้านศาสนา ได้รับอิทธพิ ลจากพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลงั กา วงศ์จากนครศรธี รรมราช ในวันพระ จะมภี กิ ษุเทศนาสง่ั สอน ณ ลานธรรมในสวน ตาล โดยใช้พระแทน่ มนังคศลิ าอาสน์ เป็นอาสนะสงฆ์ ในการบรรยายธรรมให้ ประชาชนฟัง ยงั ผลให้ประชาชนในยุคนีน้ ิยมปฏิบตั ติ นอยู่ในศีลธรรม มกี ารถือศลี โอยทานกันเปน็ ปกตวิ สิ ยั ทำใหส้ ังคมโดยรวมมีความสงบสุขรม่ เยน็

11 ความสมั พนั ธ์กับต่างประเทศ ความสัมพนั ธก์ ับลา้ นนา และอาณาจักรพะเยา เป็นไมตรกี ันตลอดมา ความสัมพันธก์ ับอาณาจักรมอญ มอญสวามภิ กั ด์ิต่อสโุ ขทยั ในสมัยพ่อ ขุนรามคำแหง มหาราช เพราะทรงสนับสนนุ มะกะโทราชบุตรเขยเปน็ กษตั รยิ ์ 3. ความสัมพันธ์กับอาณาจกั รนครศรีธรรมราช สโุ ขทยั รบั เอาพทุ ธศาสนา นกิ ายเถร วาทลัทธิลังกาวงศ์ มาจากลังกา โดยผ่านเมืองนครศรีธรรมราช ความสัมพนั ธก์ ับลงั กา สุโขทัยมคี วามสมั พันธอ์ ย่างใกล้ชิดกับลงั กา ลงั กา ไดถ้ วายพระ พุทธสหิ ิงคแ์ กส่ โุ ขทัย ความสัมพนั ธ์กับจนี สโุ ขทยั ทำการคา้ กบั จนี มาเปน็ เวลานาน จีนได้ส่ง คณะทูตเข้ามา เจรญิ สมั พนั ธไมตรกี บั ไทย ซง่ึ เปน็ ประโยชนก์ บั ไทยทั้งการเมือง และการคา้ ความเส่ือมของกรงุ สโุ ขทยั 1. การแย่งชิงราชสมบตั ริ ะหวา่ งเชอื้ พระวงศข์ องสโุ ขทัยทำให้อำนาจการ ปกครองอ่อนแอ ลง 2. พระมหากษัตริยข์ องสโุ ขทัยสมัยต่อมา ทรงสนพระทัยทางดา้ นศาสนา มากกวา่ การ ป้องกนั ประเทศ 3. อาณาจกั รอยุธยา สถาปนาขนึ้ ทางตอนใต้ มีความเขม้ แข็งมากข้ึน จงึ ผนวกอาณาจักร สุโขทยั เปน็ อาณาเขตเดยี วกัน

12 การสิ้นสดุ ยคุ อาณาจักร พ.ศ. 2127 หลังจากชนะศึกทแี่ ม่น้ำสะโตงแลว้ พระนเรศวรโปรดให้เท ครวั เมอื งเหนือท้ังปวง (ตาก สุโขทยั ศรสี ชั นาลยั พิษณโุ ลก กำแพงเพชร ชยั บรุ ี ศรเี ทพ) ลงมาไว้ที่อยธุ ยา เพ่ือเตรียมรับศกึ ใหญ่ พิษณโุ ลกและหวั เมอื งเหนือ ท้งั หมดจึงกลายเปน็ เมืองร้าง หลังจากเทครวั ไปเมืองใต้ จึงสิ้นสุดการแบง่ แยก ระหว่างชาวเมอื งเหนือ กบั ชาวเมืองใต้ และถือเปน็ การสิ้นสดุ ของรฐั สโุ ขทัยโดย สมบรู ณ์ เพราะหลังจากน้ี 8 ปี พษิ ณุโลกได้ถูกฟื้นฟูอีกคร้ัง แต่ถือเปน็ เมืองเอกใน ราชอาณาจักร มิใชร่ าชธานีฝ่ายเหนอื ในด้านวิชาการ มนี กั วิชาการหลายทา่ นไดเ้ สนอเพ่ิมว่า เหตกุ ารณ์อกี ประการ อนั ทำให้ต้องเทครวั เมืองเหนือทั้งปวงโดยเฉพาะพิษณุโลกนน้ั อยทู่ ี่ เหตุการณแ์ ผน่ ดนิ ไหวครงั้ ใหญ่ บนรอยเล่อื นวงั เจา้ ในราวพุทธศกั ราช 2127 แผ่นดินไหวครัง้ นี้สง่ ผลใหต้ วั เมอื งพิษณุโลกราพณาสญู แม้แต่แม่น้ำแควนอ้ ย ก็ เปล่ยี นเส้นทางไมผ่ ่านเมืองพิษณุโลก แตไ่ ปบรรจบกับแม่น้ำโพ (ปัจจบุ นั คือแมน่ ้ำ น่าน) ท่เี หนอื เมอื งพษิ ณโุ ลกข้ึนไป และยังสง่ ผลให้พระศรรี ัตนมหาธาตุพิษณโุ ลก หักพงั ทลายในลักษณะท่บี รู ณะคืนได้ยาก ในการฟ้นื ฟูจึงกลายเป็นการสร้างพระ ปรางคแ์ บบอยธุ ยาครอบทบั ลงไปแทน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook