Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความปลอดภัยด้านการทำงานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

ความปลอดภัยด้านการทำงานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

Published by Nulek Labour, 2021-01-27 02:41:43

Description: จัดทำโดยสถาบันความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ไต้หวัน

Search

Read the Text Version

泰文版 ภาษาไทย ความปลอดภยั ในการประกอบอาชพี และการดูแล สขุ ภาพของแรงงานตางชาติในประเทศไตห วนั ความปลอดภยั และสุขศาสตรใ นอุตสาหกรรมปโ ตรเคมี

หวั ขอ ที่ 1 : บทนาํ เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยและสขุ ศาสตรข องคนงานใน ไตหวันหลกั การพื้นฐานในเรือ่ งของความปลอดภยั และอาชวี อนามยั และ ประเภทของอบุ ตั ิเหตุทเี่ กิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม 1-1 ระบบความปลอดภยั และสุขศาสตรของคนงาน สภาบรหิ าร หนวยงานของ หนวยงานของรฐั บาล เทศบาล เมืองและเขต รฐั มนตรกี ระทรวง สภากิจการแรงงาน สาํ นกั งานแรงงาน หนวยแรงงานเขต องคก รทใ่ี ห หนวยงาน กรมบริหารแรงงาน ความรวมมอื ตรวจสอบแรงงาน กรมสวัสดิการ แรงงาน ศนู ยใหค ําปรึกษา แรงงานตา งชาติ นายจา ง องคก รธุรกจิ คณะกรรมการความปลอดภยั และอาชีวอนามยั หวั หนา งาน ณ สถานประกอบการ 1-2 การปองกันเปน นโยบายทีด่ ที ่สี ดุ หลกั การพน้ื ฐานในเร่ืองของความปลอดภัยและอาชวี อนามยั สาเหตหุ ลกั 2 ประการของการบาดเจบ็ ในระหวางการทํางาน คอื “พฤตกิ รรมที่ เสี่ยงอนั ตราย”และ “สภาพแวดลอมทไี่ มป ลอดภัย” ขอมูลของสาํ นักงานฝก อบรมวชิ าชพี ชี้ใหเ ห็นวา พฤตกิ รรมที่เส่ยี งอันตรายซึ่งอาจจะกอ ใหเ กดิ การบาดเจ็บ มดี ังตอ ไปนี้ 1.ความละเลยและความประมาท 2.การละเมิดขอ หามตาง ๆ 3.การไมปฎิบัติตามวธิ ีการปฏิบัติมาตรฐาน 1

4.การไมส วมอุปกรณป องกนั สวนบุคคล 5.การทีม่ สี ภาพรา งกายอยูในสภาวะท่ีไมส มบูรณ อยา งไรกต็ าม จาํ นวนเปอรเ ซ็นตของการบาดเจ็บเน่อื งจากการทาํ งาน แบงได ตามสาเหตหุ ลักดงั นี้คอื 3%เกดิ จากสาเหตทุ ไ่ี มส ามารถหลีกเลี่ยงได24%เกิดจาก สภาพแวดลอ มหรอื เครอ่ื งมือท่ไี มป ลอดภยั และ 73% เกิดจากพฤติกรรมทเี่ สีย่ งอันตราย วิธีการที่มีประสทิ ธผิ ลสาํ หรบั ปองกันการบาดเจบ็ จากการทํางานคอื การหลีกเล่ยี ง พฤตกิ รรมท่เี ส่ียงอันตรายทงั้ 5 ขอท่ไี ดก ลาวถึงในขา งตน 1-3 จาํ นวนแรงงานตางชาติในไตห วัน แบงตามประเภทอุตสาหกรรม สญั ชาติ ไทย ฟล ปิ ปนส อนิ โดนีเซีย เวียตนาม มองโกเลีย มาเลเซีย จํานวนรวม ตาํ แหนง ทง้ั หมด 80,955 58,753 7,828 อตุ สาหกรรม 2,286 27,940 74,675 22,336 20 11 169,903 ผลติ 9,608 1,361 45 46,474 16 0 151,391 ผอู นุบาล 13 833 1,773 อตุ สาหกรรม 32 1,167 902 730 0 1 11,745 92,894 90,054 85,223 กอสราง 703 0 0 3,322 ประมง 293 0 0 2,394 แมบาน จาํ นวนรวม 70,536 36 12 338,755 ทงั้ หมด (รายงานสถติ แิ รงงานปลายป 2549) 1-4 ประเภทของอุตสาหกรรมและการไดร บั บาดเจบ็ อตุ สาหกรรมผลิต 1. โดนอปุ กรณ/ เครอื่ งมือหนีบหรอื บดทับ (รวมทัง้ ผลิตภัณฑอ เิ ลคทรอนิกส 2. โดนของมคี มบาด และผลติ ภณั ฑโ ลหะแปรรปู ) 3. เดนิ สะดดุ สง่ิ ของ 4. ปฎิบัตงิ านอยา งไมถูกตอง 5. โดนตหี รือกระแทก 6. สมั ผัสวตั ถุอนั ตราย 7. ตกจากท่ีสูง 8. โดนสงิ่ ของตกใส 9. โดนชนหรอื เบียด 10. โดนสงิ่ ของลมทับ 2

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนกิ ส 1. โดนของมีคมบาด (ทรี่ วมในอุตสาหกรรมผลติ ) 2. โดนชน 3. สัมผัสสารเคมี อตุ สาหกรรมแปรรูปโลหะ 4. สูดดมกาซ (ทีร่ วมในอุตสาหกรรมผลติ ) 5. สูญเสยี การมองเห็นและการไดยนิ อุตสาหกรรมกอ สราง 1. โดนอปุ กรณ/เครอื่ งมือหนบี หรือบดทับ 2. โดนเคร่อื งมอื แทง บาด หรือเสียดสี อุตสาหกรรมผลิตภณั ฑ 3. โดนสิ่งของตกใส ปโ ตรเลยี ม ถา นหนิ ยาง 1. เดนิ สะดดุ สิ่งของ และพลาสติก 2. โดนสง่ิ ของตกใส 3. เหยยี บทบั สง่ิ ของมีคม อตุ สาหกรรมขนสง 4. โดนสิ่งของพังลงมาทบั 5. สัมผสั วตั ถุทรี่ อ นจัดหรือเยน็ จดั 6. ตกจากท่สี งู 7. โดนอุปกรณ/ เคร่อื งมอื หนบี หรอื บดทับ 8. โดนชน 9. ปฎบิ ตั ิงานอยางไมถ กู ตอง 10. โดนชนหรอื เบยี ด 1. โดนอุปกรณ/ เครอ่ื งมือหนบี หรอื บดทบั 2. โดนของมีคมบาด 3. เดนิ สะดุดสิ่งของ 4. ปฏิบัติงานอยางไมถ ูกตอ ง 5. โดนตี 6. โดนชนหรือเบยี ด 1. โดนอปุ กรณ/เครอ่ื งมอื หนีบหรือบดทับ 2. โดนสิ่งของมีคมแทง บาด หรือเสยี ดสี 3. ไดร ับอันตรายจากการระเบดิ (รายงานสถติ แิ รงงานประจําป 2548) 1-5 การศกึ ษาเกี่ยวกับความปลอดภยั และสุขศาสตร จุดประสงคการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภยั และลขุ ศาสตรค อื การปองกนั ลว งหนา ของการเกิดอุบตั ิเหตุเพอื่ ใหบรรลุจดุ มงุ หมายอยางมีประสทิ ธผิ ล จําเปนจะตอ งดําเนินมาตรการปองกนั ท่เี หมาะสมและถกู ตอ งตอ คนงานและ ลกู จางและใหการศกึ ษาเกยี่ วกบั ความปลอดภัยและสขุ ศาสตรซ งึ่ จะชว ยปองกนั การเกิดอบุ ัติเหตไุ ด 3

จุดมุงหมาย เพ่อื ใหคนงานมีสุขภาพทดี่ เี พ่ิมประสทิ ธภิ าพในการ ประเด็นทีเ่ ก่ียวขอ งกับความ ทํางานและหลกี เลยี่ งอบุ ัติเหตแุ ละปญ หาสุขภาพ ปลอดภัยและสขุ ศาสตร เน่อื งจากการทํางาน 1.เพอื่ ใหเ ล็งเหน็ ปจ จยั อันตรายและเพื่อปองกนั ระเบยี บและขอบังคับ ปจ จัยที่ทําใหเกดิ อันตราย การเกิดอนั ตราย ที่มักจะประสบ 2.เพ่อื ใหรจู กั ประเภทของอนั ตรายท่ีอาจเกิดขึ้นได แนวทางในการควบคมุ การบาดเจ็บ ในสถานประกอบการ เนือ่ งจากการทํางาน 3.เพ่ือใหส ามารถประเมนิ ความรนุ แรงของอนั ตราย จดุ ประสงคข องการฝก อบรม ในสถานประกอบการ 4.เพื่อใหส ามารถควบคมุ อันตรายหรือความ เสยี หายท่ีเกิดขึน้ ได กฏหมายความปลอดภัยอาชีวอนามยั ของคนงาน ในไตห วันและขอบงั คับ 1.ปจจัยจสารเคมี : สดู ดมหรอื สมั ผสั ฝุนละออง ไอระเหย ควนั ตลอดจนโลหะ อโลหะ สาร ไฮโดรคารบอน และกาซพิษตางๆ 2.ปจจยั กายภาพ : สภาพแวดลอมทีม่ อี ณุ หภมู ิ สงู และตา่ํ กัมมนั ตภาพรงั สี เสียงดัง การ สน่ั สะเทอื น และความดนั อากาศทผ่ี ิดปกติ 3.ปจ จยั การยศาสตร : แสงสวา งไมเพยี งพอ การบาดเจบ็ เนื่องจากการเคลอื่ นยา ยส่ิงของและ จากเครื่องมือในการทาํ งาน 1.การควบคุมเชิงวิศวกรรมศาสตร : ใชเครอื่ งจกั ร แทนแรงงานคน แยกสารอันตรายออกจาก บริเวณที่คนงานตองทาํ งาน ใชระบบทํางานโดย อตั โนมัติ ติดตงั้ เครอ่ื งระบายอากาศในโรงงาน 2.การควบคุมเชิงการจัดการ : ลดเวลาในการ สมั ผัสสภาพการทํางานท่ีไมเหมาะสม กําหนด ขอบงั คบั เก่ยี วกบั ความปลอดภัยและสขุ ศาสตร ดําเนินมาตรการปอ งกัน จดั ใหมีปายเตอื นภยั จดั ทํารายการขอ มูลความปลอดภยั จัดใหม ีการ ฝกอบรมเก่ยี วกับการปฎิบตั ิเมอ่ื มีเหตฉุ ุกเฉิน 3.การเฝาระวังปญ หาสุขภาพ : ตอ งจดั ใหมกี าร ตรวจสุขภาพคนงาน เพือ่ สรางความรูแ ละความสามารถใหแ กค นงานใน การปอ งกันการบาดเจบ็ จากการทํางาน เพือ่ สราง นิสยั ใหต ระหนกั ถงึ ความสําคญั ของความปลอดภัย และสุขศาสตร เพ่ือใหเ ขา ใจถงึ อนั ตรายท่อี าจจะ 4

ระเบยี บขอ บงั คับท่ีตอ งปฎบิ ตั ิ เกิดขน้ึ ในสถานประกอบการ และเพื่อใหช ว ย กลุม เปา หมายทคี่ วรไดร บั การผกึ เสนอแนะขน้ั ตอนสาํ หรับปองกนั ความเสียหาย อบรมเก่ียวกบั ความปลอดภยั และ ไมใ หเกิดข้ึน สขุ ศาสตร ตามท่กี ฏหมายความปลอดภยั และอนามัยของ คนงานไดก ําหนดไว คนงาน พนักงานทม่ี สี ว น ตารางและหลักสูตรการผกึ อบรม เกย่ี วของ และหัวหนาฝา ย จะตอ งเขา รว มการ หลักการของการวเิ คราะห ฝกอบรมเกยี่ วกับความปลอดภัยและสุขศาสตร 1.พนกั งานท่ีมีสวนเกีย่ วของกับความปลอดภยั และ สุขศาสตร 2.หวั หนาฝายที่เก่ยี วขอ งกบั ความปลอดภัยและสุข ศาสตร 3.พนักงานควบคมุ เครอ่ื งจักรและอปุ กรณอันตราย 4.พนกั งานพเิ ศษ 5.พนกั งานท่ัวไป 6.ผูตรวจสอบสภาพแวดลอมในการทํางาน 7.ผูประเมนิ ความปลอดภัยในงานกอ สรา ง 8.ผปู ระเมินความปลอดภัยในงานผลิต 9.บุคลากรท่ใี หป ฐมพยาบาลในสถานประกอบการ 10.คนงานใหมท่ีเพิ่งเรมิ่ ทํางานหรือคนงานท่สี ลับ เปลี่ยนงาน จะตองมีตารางการฝก อบรม และหลักสตู รสาํ หรับ การฝก อบรมในหัวขอตา ง ๆ เพอ่ื ใหทราบถงึ สาเหตุท่วั ไปของปญ หา เพอื่ ให ทราบถึงตน เหตุของปญหา และเพื่อการดําเนินการ แกไ ข การปองกนั อุบัตเิ หตเุ นอื่ งจาก เพ่อื ปองกนั อุบตั ิเหตจุ ากการทํางาน ส่งิ แรกทีค่ วร การทาํ งาน จะกระทํา คอื ตองจําแนกประเภท ประเมิน สถานการณ และควบคุมอันตรายในสถาน ประกอบการ ในสวนที่เก่ียวขอ งกบั การจําแนก ประเภทอนั ตรายน้นั จะตอ งใหแ นใจวามีอนั ตราย ประเภทใดบางท่อี าจจะเกดิ ข้ึนไดและตองพิจารณา ผลกระทบ สาํ หรบั การประเมนิ สถานการณ จะตอง ตรวจสอบการสมั ผัสอันตรายแตละประเภทของ คนงาน โดยเปรียบเทยี บกบั ระเบยี บและขอบังคบั ตามกฎหมายที่เกีย่ วขอ งกับอนั ตรายนนั้ ๆ นอกจากน้ี จะตองทราบวา การใชอ ุปกรณค วบคุม และการจดั การเปน ไปตามขอกาํ หนดหรอื ไม 5

การปฏบิ ัตเิ ม่ือมีอบุ ัติเหตุเกิดข้นึ สาํ หรับการควบคุมอันตราย จะตอ งดําเนินการ ควบคมุ ท่ีตน เหตขุ องอนั ตราย วิธกี ารเกดิ อันตราย และคนงานทจี่ ะประสบอนั ตราย และจดั สราง วธิ ีการทํางานที่ปลอดภยั ตามทีก่ ฎหมายคุมครองความปลอดภยั คนงานได กําหนดไว นายจางจะตอ งจดั การประกนั อุบตั ิเหตุ ใหแกค นงานต้ังแตเมอ่ื เรม่ิ ทาํ งานเพื่อชว ยสราง ความมัน่ ใจใหแ กค นงาน นอกจากนี้ นายจาง จะตอ งจายเงินชว ยเหลอื ใหแกคนงานทีไ่ ดรบั อันตรายจากอุบตั ิเหตจุ ากการทาํ งานดวย ถา ไม ดาํ เนินการใน 2 ประการขางตน นายจา งจะตอ งเสีย คาปรบั 6

หัวขอที่ 2 : ความปลอดภยั และสุขศาตรใ นอตุ สาหกรรมปโตรเคมี 2-1 ลกั ษณะของอตุ สาหกรรมปโ ตรเคมี คนงานในอุตสาหกรรมปโตรเคมมี ักจะมคี วามเสย่ี งในการเกดิ โรคมะเร็งสูงกวา คนงานในอตุ สาหกรรมประเภทอืน่ ๆ เนอื่ งจากสารเคมสี ว นใหญท่ใี ชในอตุ สาหกรรมปโตร เคมเี ปน สารอนิ ทรียท ีร่ ะเหยงา ยเชน โพลเี อทลิ นี คลอโรเอทลิ ีน เบนซีน เปน ตน และเปน สาเหตุใหเ กิดมลภาวะเปน พิษอนั ตรายทีม่ ักจะพบในอตุ สาหกรรมประเภทนสี้ ามารถไดแบง แบง เปน3ประเภท คือ อนั ตรายจากสารเคมี อนั ตรายดานกายภาพ และอันตรายดานการย ศาสตร 1.อนั ตรายจากสารเคมี : การสูดดมหรือสมั ผสั ฝนุ ละออง ควัน โลหะ อโลหะ สาร ไฮโดรคารบ อน และกา ซพิษ 2.อนั ตรายดา นกายภาพ : สภาพแวดลอมท่มี ีอณุ หภูมสิ ูงหรือตาํ่ กมั มันตภาพรังสี เสยี งดัง การสั่นสะเทือน หรือความดนั อากาศทีผ่ ิดปกติ 3.ปญหาดา นการยศาสตร : แสงสวางไมพ อเพียง ไดรับบาดเจ็บจากการเคลือ่ นยาย วสั ดแุ ละจากเคร่อื งมอื ตารางท่ี 2-1 แสดงประเภทการบาดเจ็บและสอ่ื ที่กอใหเกดิ การบาดเจ็บ อตั ราการบาดเจ็บและ ประเภทของการ อุปกรณ / สอื่ เสยี ชีวิตในอุตสาหกรรมทุก บาดเจ็บ ประเภท จํานวน เปอรเ ซ็นต โดนอปุ กรณ เครือ่ งจักรกําลงั ทวั่ ไปเครอ่ื งจกั รกําลังท่มี เี พลา 114 20.80 บดหรือทับ ขับ และเครือ่ งจักรกําลงั ในการขนยา ย โดนของมีคมบาด เครื่องจักรกําลังทั่วไป 51 9.30 วตั ถเุ ครือ่ งจักรแรงงานคน และเคร่ืองมือ โดนสิ่งของทรี่ อน วัตถุอันตรายซงึ่ อาจกอใหเกดิ การบาดเจบ็ 30 5.47 หรือเยน็ ไอนา้ํ ทม่ี ีอุณหภูมสิ ูง และสารเคมอื นื่ ๆ ไฟลวก ฝนุ และวตั ถุอนั ตราย ถงั นํ้ามนั เปน ตน 19 3.47 สัมผัสกับวตั ถุ กา ซอนั ตราย ไอนาํ้ ฝุน และวัตถอุ นั ตรายอนื่ ๆ 8 1.46 อนั ตราย 7

2-2 การวเิ คราะหกรณศี กึ ษา อุตสาหกรรมปโตรเคมเี ปนอุตสาหกรรมทม่ี คี วามเส่ียงสงู สิ้นเปลืองพลังงาน และ กอใหเ กิดมลภาวะเปนพษิ สภาพแวดลอ มของการปฏบิ ัตงิ านที่มักจะกอ ใหเ กิดอบุ ัตเิ หตคุ ือ การซอมบํารงุ เคร่ืองจกั รและอปุ กรณ อปุ กรณอิเลคโทรนิคส กาซ การปฏบิ ตั งิ านบนน่ังราน การซอมแซมทอสง การทาํ ความสะอาดถงั และการปฏิบัติงานในบรเิ วณจาํ กัด เปน ตน นอกจากนย้ี ังมอี บุ ัติเหตุอกี หลายประเภททส่ี รางความเสยี หายและกอ ใหเกิดมลภาวะเปน พิษ และทาํ ใหความขัดแยงกันระหวางชุมชนใกลเคียงกบั โรงงาน เชน การตกจากทส่ี งู การถูกหนบี ส่ิงของหลน ใส ไฟฟา ดูด ขาดอ็อกซิเจน การระเบดิ และดนิ ถลม บริเวณแนว รอ งดิน ในอตุ สาหกรรมปโ ตรเคมี โดยเฉพาะอยา งยิง่ โรงงานทีผ่ ลติ วัตถปุ โตรเคมโี รงงาน มักจะมีขนาดใหญแ ละมีขบวนการปฏิกิรยิ าเคมีท่รี ุนแรง เคร่อื งจักรอปุ กรณ การปฏิบตั งิ าน ทอ ลําเลียงสิ่งของ โกดงั เกบ็ ของ และสถานทีส่ าธารณะ อาจจะเกดิ การระเบดิ หรอื ไฟไหม เนอ่ื งจากการรั่วไหลของสารเคมี กรณศี กึ ษาในหัวขอนีจ้ ะชแี้ นะใหเหน็ ความสาํ คัญของ ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยบริเวณทํางาน 8

กรณที ี่ 1 : การถกู เครอ่ื งจักรหนีบหรือบดทับอวัยวะ ชอ่ื เรอ่ื ง : การสูญเสยี ชีวิตเนือ่ งจากถกู เคร่ืองปน ดายหนีบขณะทาํ ความสะอาดชนิ้ สว น คนงาน คนงานหญิง เปนผทู ําความสะอาดชิน้ สวนของเครอื่ งปนดา ย ความรบั ผิดชอบ ทาํ ความสะอาดช้ินสวนของเคร่ืองปนดาย เวลาท่ีเกิดเหตุ เวลา 14.30 น เดือนธนั วาคม สถานท่ีเกิดเหตุ บริเวณท่ีทาํ ความสะอาดช้ินสว นของเครือ่ งปน ดาย เครอ่ื งมือหรอื ส่ือ ที่ทําใหเกดิ การ เพลาขบั บาดเจ็บ เหตุการณท ี่ หวั หนางานท่เี ปนผูเห็นเหตกุ ารณแ ละใหค วามชว ยเหลือผบู าดเจบ็ เกดิ ข้นึ ไดรายงานวา เขาไดช ว ยคนงานหญิงคนนนั้ ทาํ ความสะอาดชนิ้ สว นของ เครือ่ งปน ดา ยเมอ่ื เวลาประมาณ 14.30 น. เมอ่ื เขานําชน้ิ สวนน้ันมา ประกอบที่เครอ่ื งจักร คนงานไดย นื อยูทางดานขวาของเครือ่ งและเขา ไดย ืนอยทู างดานซา ย คนงานไดเร่ิมเดินเคร่อื ง เขาทัง้ 2 คนกําลังถือ มดั ใยไหมในมอื และสาวใยไหมตามทศิ ทางการทํางานของช้ินสวนนั้น (ดูรูป 2.1) ทนั ใดนน้ั ใยไหมไดพันขาของคนงาน คนงานผนู ้ันไดก ดปมุ หยดุ การทํางานเครอ่ื งปน ดา ยทนั ที แตก ลบั ถกู เคร่ืองจกั รดงึ ตัวเขา ไป โดยดึงสว นขาเขา ไปกอน แลวตามดวยสวนอ่นื ๆ ของรางกาย เขาได รบี เขาไปทีเ่ ครื่องปน ดา ยและพยายามท่ีจะหยุดเครอื่ งในท่ีสดุ เขาก็ สามารถหยุดการทํางานของเครือ่ งจักรได เขาไดพ ยายามแกใยไหมทพ่ี ันอยทู ี่ขาของเขา แลว รบี ว่งิ ลงไปท่ีชน้ั ลางเพือ่ ขอความชว ยเหลือ เม่อื ผูจ ดั การโรงงานมาถงึ ทเ่ี กิดเหตุ พวก เขาไดช ว ยกันแกใ ยไหมทพ่ี นั อยรู อบตวั ของคนงาน และนาํ ตวั สง โรงพยาบาล แตเนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหสั เกินไป คนงานคนน้นั ได เสยี ชีวติ เมื่อเวลา 15.00 น. 9

การวิเคราะห ระดบั ของ คาํ อธิบาย สาเหตุ 1. องคกรไมไ ดติดตั้งแผนกําบงั ที่เครอื่ งปนดา ยเพ่อื สาเหตุ ปอ งกันไมใหคนงานเขา ใกลเครือ่ งเกินไป เบื้องตน (สภาพแวดลอมทไี่ มป ลอดภัย) ขอ บกพรอ ง 2. องคกรไมไดติดตง้ั ปา ยทีเ่ ครอ่ื งปนดา ยเพื่อแสดง ใหเห็นวา ปุม หยดุ การทาํ งานเครื่องจักรในกรณี ตน เหตุ ฉุกเฉนิ อยทู ่ีไหน (ดูรปู 2.2) ไมม แี ผนการตรวจสอบอัตโนมตั ิ 1. ไมม ีการจัดการศึกษาเก่ยี วกบั ความปลอดภยั และ อาชีวอนามัยที่จาํ เปนสาํ หรับการปฏบิ ตั งิ านน้ี รวมทงั้ การฝกอบรมเพื่อปองกนั อุบตั เิ หตุใหแ ก คนงาน 2. คนงานขาดจิตสํานึกเกี่ยวกับความปลอดภยั วิธปี องกัน 1. ตอ งใหการศึกษาและจดั ฝกอบรมท่ีจําเปน สําหรับการปฏบิ ัติงาน ขอแนะนาํ เพ่ือเสริมสรา งความรูเก่ยี วกบั ความปลอดภยั และอาชวี อนามัยเพ่อื ปองกันไมใ หเ กิดอบุ ตั เิ หตทุ ่ีคลายคลึงกนั อีกในอนาคต 2. สําหรบั กระบวนการทอี่ าจมอี ันตราย เชน การทําความสะอาด เครอ่ื งจกั ร การเตมิ นํา้ มันหลอ ลน่ื การตรวจสอบ การซอ มแซม หรือ การปรับตง้ั คา จะตองหยดุ การทาํ งานของเครือ่ งจักรเพอื่ ความ ปลอดภยั สาํ หรบั การปอ งกนั คนงานทไี่ มเ ก่ยี วขอ งไมใหเ ริม่ เดินเคร่อื ง เครื่องจกั รจะตอ งถูกล็อคหรือตอ งตดิ ตัง้ ปา ยหาม นอกจากนี้ ควรจะตอ งตดิ ต้ังอปุ กรณปอ งกันอนั ตรายเพือ่ ปอ งกัน ไมใหส งิ่ ของหลน เขาไปในเคร่อื ง ถา งานทก่ี ลา วมาในขางตน จะตอ งกระทาํ ในขณะที่เคร่ืองจักรกําลังทํางาน จะตองตดิ ตงั้ แผน กําบังภายในบรเิ วณอันตราย และทา ยสุดนี้ จะตองวางแผนการ กระจายบคุ ลากรใหม 3. ผูทีม่ สี ว นรับผิดชอบเกย่ี วกบั ความปลอดภัยและอาชวี อนามยั จะตองจัดสรางแผนการปองกนั การบาดเจ็บและอบุ ัตเิ หตุ แผน ฉกุ เฉนิ และจดั ใหมกี ารฝกอบรมใหฝ า ยตาง ๆ 10

รปู 2.1 - เครื่องปน ดา ย รปู 2.2 – อปุ กรณป อ งกันอันตรายและปุมหยดุ การทาํ งานฉุกเฉนิ 11

กรณที ี่ 2 : การสัมผัสสิง่ ของทร่ี อ นจดั หรอื เยน็ จดั ชือ่ เรอ่ื ง : การโดนเอทานอลรอ นลวก ในขณะกาํ ลังทาํ ความสะอาดทอ บรรจุเอทานอล คนงาน คนงานชาย เปน ผูทาํ ความสะอาดทอบรรจุเอทานอล ความรับผิดชอบ ทําความสะอาดทอ บรรจเุ อทานอล เวลาทเ่ี กดิ เหตุ เวลา 13.30 น เดือนเมษายน สถานทีเ่ กิดเหตุ บริเวณทีท่ าํ ความสะอาดทอ บรรจเุ อทานอล เครอ่ื งมอื หรือสอ่ื ทีท่ ําใหเกดิ การ เอทานอล บาดเจ็บ เหตกุ ารณท่ี ผเู หน็ เหตุการณไ ดบ รรยายวา ระบบสญุ ญากาศเกิดการอดุ ตันเมอ่ื เวลา เกดิ ข้ึน ประมาณ 11.50 น. นายทงั ไดเรยี กเขาและเพื่อนอกี 5 คนใหเขา ไป จัดการแกไ ขสถานการณ พวกเขาไดท ําความสะอาดเสรจ็ สิ้นเมื่อเวลา 13.30 น. เม่อื นายทัง นายลนิ และนายจิงกาํ ลังทําความสะอาดอยูน ัน้ เอทานอลจํานวนมากไดถูกระบายมาในทอ และกระเซ็นไปโดนขาของ ทง้ั 3 คน คนงานทั้ง 3 คนถูกนาํ ตัวสง โรงพยาบาลทนั ที (ดูรปู 2.3) สว นนายซแู ละเขาไมโดนเอทานอลกระเซ็นใส นายทงั ไดรับบาดเจบ็ เพียงเล็กนอ ยและไดก ลับไปทํางานหลังจากทรี่ ับการรกั ษาพยาบาล ความดันของระบบมีคา ไมก ่ีมิลลิบาร อณุ หภมู ิของเอทานอลอยูท่ี ประมาณ 82°ซ ในระหวา งทําความสะอาด ผูบาดเจ็บท้ัง 3 คนสวมใส อปุ กรณปอ งกันสวนบคุ คล แตไมไดปกปดสวนขา ทาํ ใหบ ริเวณขอเทา ถกู ลวก เอทานอลจะปลอดภัยถา ถูกทาํ ใหเย็นและเกบ็ ภายใตค วามดัน ซงึ่ ทอ บรรจุอยสู งู ประมาณ 15 เมตร ปริมาณสงู สดุ ของเอทานอลอยทู ี่ ประมาณ 100-150 กก. ถึงแมว าจะไมส ามารถทราบแนชัดวาเอทานอ ลกระเซน็ ออกมาเปนปริมาณเทา ไร แตค าดวาไมนาจะมากกวา 150 กก. 12

การวเิ คราะห ระดบั ของ คําอธบิ าย สาเหตุ วธิ ีปอ งกัน ขอแนะนาํ สาํ หรับการปฏบิ ัติงานทาํ ความสะอาดราง องคกร ไมไ ดจ ดั เตรียมอปุ กรณปอ งกนั สว นบุคคลท่มี ี สาเหตุเบือ้ งตน ประสทิ ธผิ ลใหแ กคนงาน คนงานไมไดระบายเอทา นอลที่ตกคางอยูกอนจะเริ่มทําความสะอาด (ดรู ูป 2.4) (สภาพแวดลอ มทไ่ี มปลอดภยั ) ขอ บกพรอ ง เมื่อมวี ตั ถทุ ม่ี ีอณุ หภมู สิ งู หลนลงมาในบริเวณทํางาน องคก รไมไ ดอพยพคนงานออกจากบริเวณนนั้ นอกจากนี้ คนงานไมไ ดส วมใสอุปกรณปองกันสวน บุคคลที่เหมาะสม 1. ไมม ีการประเมินอนั ตรายเนื่องจากการปฏิบัตงิ าน ตนเหตุ 2. ไมมีมาตรฐานสําหรบั การปฏิบตั ิงานอยา ง ปลอดภยั 1. เมื่อมีวตั ถุทม่ี อี ณุ หภมู ิหลนลงมาในบริเวณทาํ งาน องคกรควรจะ อพยพคนงานออกจากบริเวณนน้ั นอกจากนัน้ คนงานควรจะสวมใส อปุ กรณปอ งกันสว นบคุ คลทเ่ี หมาะสม 2. จัดรางมาตรฐานสาํ หรบั การปฏิบัติงานอยางปลอดภัย รูป 2.3 - ทอสงเอทานอล รปู 2.4 – อปุ กรณปอ งกนั สว นบุคคล 13

กรณที ่ี 3 : ไฟ ช่ือเรอื่ ง : การสญู เสียชีวติ จากการโดนไฟลวกจากเคร่อื งอบ คนงาน คนงานชาย เปนผคู วบคุมเครอ่ื งอบ ความรับผดิ ชอบ ควบคุมเครอื่ งอบ เวลาท่เี กิดเหตุ เวลา 11.50 น เดอื นสงิ หาคม สถานทเี่ กิดเหตุ บริเวณเครอ่ื งอบ เครื่องมือหรือส่ือ ที่ทาํ ใหเกิดการ ผลิตภณั ฑเคมี บาดเจบ็ เหตุการณท ี่ เวลาประมาณ 11.50 น. ของวนั ทํางานวันหนงึ่ คนงาน 2 คนกาํ ลัง เกิดขนึ้ ลําเลยี งผลิตภณั ฑบนชั้นลา ง ภายใตรางสะทอ นแสงซึง่ อยบู นชนั้ สาม พวกเขากาํ ลังขนถงุ พลาสติกใสซ ่ึงบรรจเุ ครื่องอบหนัก 25 กก. (ดรู ูป 2.5) ในขณะที่กําลงั ขนถุงสดุ ทาย กม็ คี วนั สีดาํ ออกมาจากถงุ พลาสติก และมปี ระกายไฟกระจายออกมาจากถุงพลาสตกิ ในทันที ทาํ ให ถุงพลาสติกละลายอยางรวดเร็ว ไฟไดเรม่ิ ลุกไหมท ่ีชนั้ ลาง จากนัน้ ได แพรก ระจายออกไปและไดลกุ ไหมท งั้ ช้ันลางและช้ันสอง พรอ มกนั นั้น รางสะทอ นแสงบนชั้นสามและอปุ กรณอื่น ๆ กถ็ ูกรมควนั คนงานที่ ปฏบิ ตั ิงานบนชั้นสองตกตะลงึ กับเหตุการณไฟไหมท ่เี กดิ ข้นึ เขาไมสามารถหลบหนไี ฟออกมาไดแ ละเสียชวี ิตในทสี่ ุด การวิเคราะห ระดับของ คําอธบิ าย สาเหตุ ไมมีอุปกรณท จ่ี ะกาํ จัดไฟฟาสถิตท่เี กิดขึน้ ในบริเวณ สาเหตุเบอื้ งตน รางสะทอ นแสงและเครอ่ื งอบ (ดูรปู 2.6) (สภาพแวดลอมท่ไี มปลอดภยั ) ขอบกพรอง 1. ไมม ีผูบ รหิ ารท่รี บั ผดิ ชอบเกย่ี วกบั กิจการความ ตน เหตุ ปลอดภัยและสขุ ศาสตรของคนงาน 2. ไมม แี ผนการตรวจสอบอัตโนมตั ิ 1. ไมมีการจดั การศกึ ษาเก่ยี วกบั ความปลอดภยั และ สุขศาสตร และการฝก อบรมเกยี่ วกับการปอ งกนั อุบัติเหตุ 2. ไมมีระเบียบขอบังคับเกี่ยวกับความปลอดภยั และ สขุ ศาสตร 14

วิธปี อ งกนั 1. ถาอุปกรณส ามารถระเบดิ หรอื เกิดไฟไหมเนือ่ งจากไฟฟาสถติ ได ขอแนะนาํ จะตองตอสายดินหรือใชเ ครอ่ื งทาํ ความชืน้ เพอ่ื ปอ งกันอุบัติเหตุ 2. ควรจะตอ งมผี ูบริหารผูซ่ึงไดร บั มอบหมายใหด ูแลเก่ียวกบั ความ ปลอดภยั และสขุ ศาสตรข องคนงาน 3. ควรจะตอ งมีแผนการตรวจสอบอัตโนมัติ 4. ควรจะตอ งมกี ารศกึ ษาและฝก อบรมเพื่อใหคนงานมคี วามรเู กย่ี วกับ การปฏบิ ัติงานและการปองกนั อุบตั เิ หตุ และมีความรเู กี่ยวกับความ ปลอดภัยและสขุ ศาสตร 5. องคกรจะตอ งรว มมอื กับผแู ทนคนงานในการจดั สรา งระเบียบ ขอ บังคับเกย่ี วกบั ความปลอดภัยและสุขศาสตร และรายงานผลที่ ไดต อ สถาบันที่มหี นาทต่ี รวจสอบและลงโทษ รูป 2.5 - ทอ สะทอ นแสงและเครอ่ื งอบ รูป 2.6 – อุปกรณปองกนั การเกดิ ประจกุ ระแสไฟฟาสถิตย 15

2-3 บทสรุป เพื่อเปน การปองกนั การบาดเจบ็ และอุบตั ิเหตเุ นอ่ื งจากการทาํ งาน ส่งิ แรกท่ี จะตอ งทราบคือสาเหตุของอุบตั เิ หตุ เพ่อื ที่จะสามารถหาวธิ ิแกไ ขได สาเหตทุ ส่ี าํ คัญของ อุบัติเหตุสว นใหญ คอื สถานการณทไี่ มปลอดภยั และพฤติกรรมทเ่ี สย่ี งอันตราย โดยที่ ตน เหตมุ กั จะเปน การท่อี งคกรไมม กี ารจัดการความปลอดภยั และสขุ ศาสตร หรือมแี ต จัดการอยา งไมเ หมาะสม ดงั นั้น เพอ่ื ที่จะหลกี เล่ียงการบาดเจบ็ และอุบตั ิเหตุเนือ่ งจากการ ทาํ งาน การจดั การความปลอดภยั และสุขศาสตรจ ะตองไดร บั การปรบั ปรงุ รายงานสถติ ิ ของการบาดเจบ็ และอุบัติเหตเุ นอ่ื งจากการทํางาน รวมทัง้ การวเิ คราะหอบุ ัติเหตุ เปน ขอ มูล ทส่ี าํ คัญสาํ หรบั การปอ งกนั การบาดเจ็บและอบุ ตั เิ หตเุ นือ่ งจากการทาํ งานไมใหเกิดขน้ึ อีก จุดมงุ หมายหลัก คือ การหาคําตอบวาอุบตั เิ หตเุ กิดขนึ้ ไดอยางไร ถา สามารถใชขอมลู จาก การสืบสวนใหเปน ประโยชนไ ด อุบัตเิ หตทุ คี่ ลา ยคลึงกนั หรือท่ีมีความรนุ แรงกวาก็จะ สามารถปองกนั ได 16

หัวขอ ที่ 3 : บทนาํ เกยี่ วกับการปกปอ งสทิ ธิของแรงงานตางชาตแิ ละการชว ยเหลือ แรงงานตางชาติเมื่อเกิดปญ หา สภากจิ การแรงงาน กองความปลอดภยั และอาชวี อนามัยแรงงาน กองตรวจสอบแรงงาน กองประกนั แรงงาน กองสวัสดกิ ารแรงงาน กองเงอ่ื นไขแรงงาน กองความสมั พันธระหวางนายจาง-ลกู จาง สถาบนั ฝกอบรมวชิ าชพี สถาบันความปลอดภัยและชีวอนามัย 3-1 ความปลอดภัยและอาชีวอนามยั แรงงาน ตามท่ีกาํ หนดไวใ นกฎหมายเกย่ี วกบั ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั นายจา ง จะตอ งจัดใหมีการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานประกอบการนอกจากนี้ นายจางจะตองจดั เตรียมอปุ กรณป องกนั สว นบุคคลวธิ กี ารปฏบิ ัตงิ านอยา งปลอดภยั การ ฝก ฝนดานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และการปอ งกนั อันตราย ใหแกคนงาน เพื่อ ปองกันการบาดเจบ็ ทงั้ ทางดานรา งกายและจติ ใจ 3-2 การจดั การความขัดแยง ในระหวา งท่ีทาํ งานในไตหวนั คนงานสามารถขอความชวยเหลือจากสาํ นกั งาน แรงงานในทุก ๆ จงั หวัดหรือเขตได ในกรณที ม่ี คี วามขดั แยงกนั 3-3 การตดิ ตอ ขอความชว ยเหลือ ในระหวางที่ทาํ งานในไตหวนั ถา มีขอ ขดั แยงเกิดขึ้นระหวา งนายจางและลูกจาง ทง้ั 2 ฝา ยสามารถติดตอ ศนู ยบ ริการใหคําปรกึ ษาตามที่อยแู ละเบอรโ ทรศพั ทตอ ไปนี้ ( สายดวนเพื่อรอ งทุกข โดย กรมแรงงาน : ภาษาองั กฤษ โทร 0800-885885; ภาษาไทย โทร 0800-885995; ภาษาอนิ โดนีเซยี โทร 0800-885958; ภาษาเวียดนาม โทร 0800-017858 ) 17

ชอ่ื ศูนย ที่อยู โทรศัพทแ ละโทรสาร ศูนยบริการใหคาํ ปรึกษาแรงงาน 21 โยงเลอตา โล ช้ัน 8 ตีฮ๋ ั่วเจยี กรงุ ไทเป โทรศพั ท :02-25502151 ตางชาติกรุงไทเป โทรสาร :02-25507024 ศูนย ฯ ไทเปเซยี่ น 161 ชัน้ 7 ถนนจงซานปานเฉยี วซือ่ ไถเปย โทรศพั ท :02-89659091 ศูนย ฯเมอื งจีหลง เซยี่ น 02-89651044 โทรสาร : 02-89651058 ศูนย ฯเมืองเถาหยวน ศนู ย ฯ เมอื งซนิ จูซ ่ือ 1 ย่ีอีลู เมืองจีหลง โทรศพั ท :02-24258624 ศนู ย ฯ เมืองซนิ จเู ซยี่ น 02-24258624 ศูนย ฯ เหมียวลเี่ ซยี่ น โทรสาร : 02-24226215 ศูนย ฯ ไทจุงซอื่ 1 ชัน้ 8 ถนนซอื่ ฝลู ู เถาหยวน โทรศัพท : 03-3344087 ศูนย ฯ ไทจุงเซยี่ น 03-3341728 ศนู ย ฯ เมืองจางฮ่วั 03-3322101 ศนู ย ฯ หนันโถวเซย่ี น โทรสาร : 03-3341689 69 ช้นั 5 ถนนกวั๋ หัวลู ซนิ จซู อื่ โทรศัพท : 03-5319978 โทรสาร : 03-5319975 10 ช้นั 4 กวงหมิงลิ่วลู จเู ปย ซินจูเ ซีย่ น โทรศัพท : 03-5520648 โทรสาร : 03-5520771 โทรศพั ท : 037-357040#502 1121 กลว้ั หวั ลู เหมยี วล่ีซอ่ื 037-364548 โทรสาร : 037-363261 53 ช้นั 2 จอื่ โยวลูเออตว น ไทจุงซื่อ โทรศพั ท : 04-22296049 โทรสาร : 04-22296048 สายตรง : 0800-600088 36 ชั้น6 หยางหมงิ เจ ฟงหยวน โทรศัพท :04-25240131 โทรสาร : 04-25156180 100 ช้นั 8 ถนนจงซงิ ลู จางฮั่วซอ่ื โทรศพั ท : 04-7297228 04-7297229 โทรสาร : 04-7297230 660 ชั้น 1 ถนนจงซงิ ลู หนันโถว โทรศพั ท :049-2238670 โทรสาร : 049-2238853 ศูนย ฯ หยุนหลนิ เซ่ยี น 515 ถนนหยนุ หลนิ ลูเออตวน โตวลิ่วซ่อื หยนุ โทรศพั ท : 05-5338087 หลิน โทรสาร : 05-5338086 05-5331080 ศนู ย ฯ เจยี ย่ซี อื่ 199 ชน้ั 1 ถนนจุงซานเจียยซี่ ่อื โทรศัพท : 05-2231920 ศนู ย ฯ เจยี ย่เี ซย่ี น โทรสาร : 05-2228507 ศนู ย ฯไถหนานซ่ือ ศูนย ฯ ไถหนานเซ่ียน 1 ไทเปาซือ่ เสยี งเฮอซินชุน เจียยเ่ี ซย่ี นเสยี ง โทรศพั ท : 05-3621289 ศนู ย ฯ นครเกาสง เฮอเออ ลตู งตวน โทรสาร : 05-3621097 ศนู ย ฯ เกาสงเซย่ี น ศูนย ฯ อห๋ี ลานเซยี่ น 6 ชนั้ 8 ถนนหยงหัวลู ไถหนานซอื่ โทรศพั ท : 06-2951052 ศูนย ฯ ฮัวเหลยี นเซย่ี น 06-2991111 โทรสาร : 06-2951053 36 7F ถ.หมินจื้อลู ซินหยงิ ซอื่ โทรศัพท : 06-6326546 ไถหนานเซี่ยน โทรสาร : 06-6373465 6,6F, ถ.เจิน้ จงเฉยี นเจิ้น,เกาสง โทรศัพท : 07-8117543 โทรสาร : 07-8117548 117 ถ.ตา เปยลู เกาสงเซ่ียน โทรศพั ท : 07-7338842 โทรสาร : 07-7337924 95 ถ.ถงชิ่งเจ อหี๋ ลานซ่ือ โทรศัพท : 03-9324400 โทรสาร : 03-9356545 03-9314341 17 ฟเู ฉียนลู ฮัวเหลยี นซอ่ื โทรศัพท : 03-8239007 โทรสาร : 03-8237712 18

ชื่อศนู ย ที่อยู โทรศัพทและโทรสาร ศนู ย ฯ ไถตงเซ่ยี น 276 ถนนจงซานลู ไถตงซือ่ โทรศพั ท : 089-359740 ศูนย ฯ ผิงตงเซย่ี น โทรสาร : 089-341296 ศนู ย ฯ พองหเู ซ่ยี น ศูนย ฯ จงิ เมินเซี่ยน 17 ถนนจอื้ อิ๋วลู ผงิ ตงซ่ือ โทรศพั ท : 08-7519938 ศนู ย ฯ เหลยี นเจยี งเซีย่ น โทรสาร : 08-7515390 160 มากงซื่อตาเจยี พองหเู ซ่ียน โทรศัพท : 06-9212680 โทรสาร : 06-9217390 60 เชงิ เจนิ หมงิ เซ่ินลูจ งิ เมินเซยี่ น โทรศัพท : 082-373291 โทรสาร : 082-371514 76หนานกนั เซยี งเจ่ยี โซชนุ เหลียนเจียงเซย่ี น โทรศัพท : 08-3625022#13 โทรสาร : 08-3622209 19

1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook