- ร่าง - สรปุ แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคณุ คา่ ของประเทศไทย ประจาปี พ.ศ. 2562 – 2564 (Decent Work Country Programme 2019 - 2021) ท่ีมาและความสาคัญ 1. DWCP คอื กรอบความรว่ มมอื ท่ี ILO จัดทาร่วมกับประเทศสมาชิกเพ่ือใช้เป็นเอกสารอ้างอิง ในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศสมาชิก ผ่านการวางกลยุทธ์แนวทาง และเป้าหมายที่ชัดเจนท่ี สอดรับกับบริบทและวาระเร่งด่วนท้ังทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมการ ทางาน ที่มีคุณค่าสาหรับทุกคน (Promotion of Decent Work for All) ท้ังน้ี การจัดทา DWCP จะต้องเกิดข้ึนจากการ ปรกึ ษาหารอื วางเปา้ หมายและกลยุทธร์ ว่ มกันของภาคที งั้ สามฝา่ ย ไมว่ ่าจะเป็น รฐั บาล นายจา้ ง และลูกจ้าง 2. DWCP เกิดขึ้นมาจากแนวคิดเรื่อง “งานที่มีคุณค่า” ซึ่งนาย Juan Somavia ผู้อานวยการ ใหญ่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization – ILO) ในขณะน้ัน ได้เสนอ แนวคิดดังกล่าว ต่อประเทศสมาชิกในการประชุมใหญ่ประจาปี (International Labour Conference: ILC) คร้ัง ท่ี 87 เม่ือปี พ.ศ. 2542 ภายใต้แนวคิดที่ว่า งานที่มีคุณค่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในการทางานให้ดี ขึ้น เนื่องจากงานที่มีคุณค่าจะช่วยตอบสนองความต้องการเก่ียวกับการทางานของมนุษย์ Decent Work จึงได้ กลายมาเป็นเป้าหมายสาคัญในการสร้างหลักประกันถึงการทางานที่มีคุณค่าของแรงงานทั่วลลก ต่อมาในปี 2544 ในการประชุมองค์การแรงงานระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Asia Pacific Regional Meeting: APRM) คร้ังที่ 13 ซงึ่ จดั ขึ้นที่กรงุ เทพมหานคร ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ประเทศสมาชิกจัดทาแผนงาน ระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า (Decent Work Country Programme - DWCP) และในการประชุม APRM คร้ังท่ี 14 ณ นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ท่ีประชุมได้เห็นชอบร่วมกันให้แต่ละประเทศจัดทา DWCP พร้อม ให้ทศวรรษ พ.ศ. 2547 – 2558 เป็นทศวรรษแหง่ งานทมี่ ีคณุ คา่ ในภมู ิภาคเอเชีย 3. ประเทศไทย ลดยกระทรวงแรงงานในฐานะสมาชิกองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้รับมติของที่ประชุมองค์การแรงงานระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (APRM) ครั้งที่ 13 และครั้งที่ 14 และได้มีการดาเนินงานเพื่อจัดทาแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย หรือ Thailand Decent Work Country Programme: TDWCP มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 อย่างไรก็ตาม การ จัดทาแผนงานระดับชาติฯ ดังกล่าว ไม่ประสบผลสาเร็จ เน่ืองจากคณะทางานไตรภาคีไม่อาจหาข้อตกลงร่วม ในหลายประเดน็ ท่ีถกู กาหนดให้เปน็ ตัวช้ีวัดหลัก ลดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการให้สัตยาบันอนุสัญญา องค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับท่ี 87 และ 98 4. ภูมิภาคอาเซียน มีประเทศสมาชิกท่ีได้ดาเนินการจัดทา DWCP แล้วทั้งสิ้น 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเวยี ดนาม ลดยเป็นแผนงานสาหรับช่วงปี พ.ศ. 2555 – 2559 ประเทศอินลดนีเซีย สาหรับช่วงปี พ.ศ. 2555 – 2558 ประเทศกมั พชู า สาหรบั ชว่ งปี พ.ศ. 2559 – 2561 และล่าสดุ ประเทศลาว สาหรับช่วง ปี พ.ศ. 2560 – 2564 การจัดทา DWCP ของประเทศไทยประจาปี พ.ศ. 2562 – 2564 ในปี 2561 กระทรวงแรงงาน ภายใต้การนาของ พลตารวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้พิจารณาจัดทา DWCP อีกคร้ัง ลดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริมการทางาน ร่วมกันระหว่างไตรภาคีในระดับประเทศในการส่งเสริมงานที่มีคุณค่าและรับมือกับความท้าทายในอนาคต และ เพ่ือร่วมเฉลิมฉลองในลอกาสครบรอบ 100 ปีของ ILO ในฐานะสมาชิกร่วมก่อตั้ง ลดยได้รับการสนับสนุนทาง วิชาการ จาก ILO ผ่านสานักงานแรงงานระหว่างประเทศประจาประเทศไทย กัมพูชา และลาว (ILO Country Office - CO) ซ่ึงเนื้อหาใน DWCP ได้ผ่านกระบวนการหารือระหว่างองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization - ILO) และภาคส่วนต่างๆ ของประเทศไทยตลอดปี 2561 ลดย ขนั้ ตอนการดาเนนิ งานสรปุ ได้ ดงั นี้
-2- 1. กระทรวงแรงงานมีคาสั่ง ที่ 145/2561 ลงวันท่ี 10 เมษายน พ.ศ. 2561 แต่งตั้งที่ ปรึกษาและคณะกรรมการไตรภาคีจัดทา DWCP ซึ่งมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นที่ปรึกษา และรอง ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน คณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ผแู้ ทนองคก์ รนายจ้างและลูกจ้าง และผแู้ ทนจาก CO ลดยจดั การประชุมคณะกรรมการไตรภาคีฯ จานวน 3 ครัง้ และการประชุมกลุ่มย่อยของหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงแรงงาน จานวน 1 ครั้ง เพ่ือปรึกษาหารือและ รวบรวมขอ้ มูล/ความเหน็ จากไตรภาคี ลดย CO ได้ให้การสนบั สนนุ กระทรวงแรงงานในการจัดจ้าง ดร.รัตตยิ า ภูละออ อาจารย์จากจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย เปน็ ท่ีปรึกษาและจดั ทาร่าง DWCP 2. หลังจาก DWCP ได้รับการปรับแก้ตามความเห็นของไตรภาคีแล้ว CO ได้จัดส่ง DWCP ให้หน่วยงานจัดทาลครงการระดับภูมิภาค (Regional Programming Units – RPUs) เพ่ือตรวจสอบคุณภาพ ตามกลไกประกันคุณภาพ (QAM) ของ ILO จากน้ัน DWCP ได้ถูกส่งไปยังสานักงานแรงงานระหว่างประเทศ ประจาภมู ภิ าคเอเชียแปซฟิ กิ (ILO Regional Office - RO) เพื่อใหก้ ารรับรอง 3. ในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดทา DWCP จะมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ (Memorandum of Understanding) ร่วมกัน 4 ฝ่าย ได้แก่ รัฐบาล (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน) ผแู้ ทนองคก์ รนายจ้าง (สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย) ผู้แทนองค์กรลูกจ้าง (อยู่ระหว่างปรึกษาหารือ) และผู้อานวยการสานักงานแรงงานระหว่างประเทศที่รับผิดชอบดูแลประเทศน้ันๆ (นายเกรม บั๊กเลย์) ในวันที่ 11 เมษายน 2562 ระหว่างการถ่ายทอดสดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีองค์การแรงงานระหว่าง ประเทศ ของประเทศไทย Draft DWCP RPUs for QAM RO for Tripartite and from Tripatite approval ILO sign MoU consultation สรปุ DWCP ของประเทศไทยประจาปี พ.ศ. 2562 – 2564 DWCP ของประเทศไทย ประกอบด้วยส่วนประกอบที่สาคัญ 3 ส่วน ได้แก่ 1. การวินิจฉัยบริบทของ ประเทศไทย 2. ประเด็นลาดับความสาคัญของประเทศและผลลัพธ์ และ 3. การดาเนินงานตามแผนฯ การติดตาม และการประเมินผล 1. การวินิจฉัยบริบทของประเทศไทย 1.1 ข้อมูลท่ีใช้ประกอบ: DWCP ได้ดาเนินการศึกษาข้อมูลทุติยภูมิ ลดยรวบรวมแผนยุทธศาสตร์ นลยบายรัฐบาล และแผนต่างๆที่เก่ียวข้อง เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และนาไปสู่การจัดทาการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมและบริบทของประเทศไทย ลดยรายละเอียดของข้อมูลที่ใช้ ประกอบด้วย 1. ยุทธศาสตร์ แห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) 2. แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับที่สิบสอง (พ.ศ. 2560-2564) 4. แผนแม่บทด้านแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) 5. Millennium Development Goals: MDGs 6. MDGs + 7. Sustainable Development Goals: SDGs เป้าหมายที่ 8 และ 8. กรอบความร่วมมือหนุ้ ส่วนระหวา่ งไทยกบั สหประชาชาติ (UNPAF) 2560-2564 1.2 การวิเคราะห์บริบทของประเทศ: ในช่วงหลายสิบปีท่ีผ่านมา ประเทศไทยมีการเติบลตทาง เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลให้มีการเติบลตในมาตรฐานความเป็นอยู่อย่างมีนัยสาคัญ ประชาชนมีการกระจาย รายได้ทดี่ ีข้นึ รวมถึงอัตราการเข้าถึงการศึกษาของเยาวชนมีจานวนเพ่ิมสูงข้ึน แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายท่ีสาคัญ อีกหลายประการ ได้แก่ 1. ปัญหาความแตกต่างด้านรายได้ของ ประชากร 2. การเปล่ียนแปลงทางลครงสร้างประชากรไปสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ทาให้เกิดปัญหาการขาด แคลนแรงงานในอนาคตอันใกล้ 3. สาขาการศึกษาของเยาวชนไม่ตรงกับความต้องการแรงงาน ลดยมีความ
ต้องการที่เพิ่มข้ึนสาหรับผู้สาเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคลนลลยี 4. การให้ความคุ้มครองแรงงาน กลมุ่ เปราะบาง รวมถงึ แรงงานข้ามชาติและแรงงานในภาคนอกระบบ การลดรปู แบบการทางานทย่ี อมรบั ไมไ่ ด้ -3- ลดยเฉพาะแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ 5. การเสริมสร้างขีดความสามารถของไตรภาคีและ ส่งเสริมการเจรจาทางสังคมและกรอบด้านกฎหมาย รวมถึงการดาเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน แรงงานระหว่างประเทศ 2. ประเดน็ ลาดบั ความสาคัญของประเทศและผลลพั ธ์ เพอื่ ตอบสนองความทา้ ทายเหลา่ นี้ แผนงานที่มีคุณค่าประจาประเทศไทยปี พ.ศ.2562 - 2564 กาหนดประเดน็ ลาดบั ความสาคญั ของประเทศไทย จานวน 3 ประเดน็ และ 9 ผลลัพธ์ ได้แก่ - ประเด็นลาดับความสาคัญ ที่ 1: ส่งเสริมสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ืออานวยต่อการเติบโตของการ จ้างงานที่ดแี ละมปี ระสิทธิผล ผลลพั ธ์ 1.1 เพ่มิ การจ้างงานที่ดีและมีประสิทธิผลลดยใช้บริการจัดหางานท่ีสอดรบั ความต้องการแรงงาน ซึ่ง คานงึ ถึงเพศสภาพ และขยายการพัฒนาทักษะฝมี ือ และการส่งเสรมิ ทักษะด้านเทคนคิ /วิชาชพี สาหรบั หญงิ และชายลดยมุ่งเน้น การจ้างงานเยาวชนและผ้สู ูงอายขุ องทกุ เพศสภาพทเ่ี หมาะสมตามชว่ งอายุ ผลลัพธ์ 1.2 มกี ารส่งเสริมการประยุกตใ์ ช้หลกั วิสาหกิจอย่างยงั่ ยืนใหส้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานแรงงานระหว่าง ประเทศ ผลลพั ธ์ 1.3 ส่งเสรมิ ประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล และความย่งั ยนื ของระบบประกันสังคมเพ่มิ ข้นึ - ประเด็นลาดับความสาคัญ ท่ี 2: สร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะ แรงงานท่ีเปราะบาง ผลลพั ธ์ 2.1 มีความเขม้ แข็งใหก้ ับกรอบการบรหิ ารภาครฐั นลยบาย และเครือ่ งมอื ด้านการปฏิบตั ติ าม ยทุ ธศาสตร์ เพือ่ เพ่มิ ความคมุ้ ครองแก่กลุ่มผู้เปราะบาง รวมทัง้ แรงงานข้ามชาติและแรงงานในเศรษฐกิจนอกระบบ ผลลพั ธ์ 2.2 นลยบายและแผนงานเพือ่ ลดการทางานในรปู แบบทไี่ มเ่ ป็นทย่ี อมรับ ลดยเฉพาะแรงงานเดก็ แรงงานบงั คบั และการค้ามนษุ ย์ ดาเนนิ ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผลลพั ธ์ 2.3 เสริมสรา้ งความเข้มแข็งในการปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยและเพมิ่ ขีด ความสามารถในการตรวจแรงงานเพื่อเสรมิ สรา้ งสภาพการทางานทม่ี คี ุณค่า - ประเด็นลาดับความสาคัญ ท่ี 3: เสริมสร้างการกากับดูแลตลาดแรงงานให้สอดคล้องกับ มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ ผลลัพธ์ 3.1 เสริมสรา้ งความสามารถขององค์กรไตรภาคี ในการสร้างและส่งผลตอ่ นลยบายใหส้ อดคลอ้ งกับ มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ ผลลพั ธ์ 3.2 มกี ารเจรจาทางสังคมเพิ่มขน้ึ และเสรมิ สร้างความเข้มแข็งของกลไกไตรภาคี ผลลพั ธ์ 3.3 มีการใหส้ ตั ยาบนั และการใช้มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศเพมิ่ ขึ้น 3. การดาเนนิ การตามแผนฯ การตดิ ตาม และการประเมินผล การดาเนินการของแผนงานทม่ี ีคุณคา่ จะได้รบั การสนับสนุนลดยการผสมผสานระหว่างด้านวิชาการ ดา้ นการเงิน และด้านทรัพยากรบคุ คลจากภาคใี นระดับประเทศ และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ลดยการจัดต้ัง คณะกรรมการไตรภาคี เพ่อื เป็นกลไกขบั เคล่ือนการดาเนนิ งาน ได้แก่ 3.1 คณะกรรมการไตรภาคีกากับดูแลการดาเนินงานตาม DWCP ในระดับประเทศ (Steering Committee) ตลอดระยะเวลาของแผนฯ และจะต้องมีการประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพ่ือทบทวน ความก้าวหนา้ ในการดาเนินงานตามแผนฯ 3.2 คณะทางานไตรภาคีด้านติดตามและประเมินผล (M and E Working Group) ลดยมีการ ประชุมอย่างน้อยรายไตรมาสเพื่อรับทราบความคืบหน้าในการดาเนินงาน และจะต้องมีการทบทวนในช่วง กลางแผน (1 ปคี ร่งึ ) และส้นิ แผนเปน็ อย่างน้อย จัดทาลดยสานักประสานความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ สานกั งานปลัดกระทรวงแรงงาน กมุ ภาพันธ์ 2562
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: