Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore pdfศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาอัธยาศัยอำเภอทองผาภูมิ

pdfศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาอัธยาศัยอำเภอทองผาภูมิ

Published by thawitharley21, 2020-09-16 04:17:46

Description: pdfศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาอัธยาศัยอำเภอทองผาภูมิ

Search

Read the Text Version

โครงการพฒั นาบคุ ลากร ดา้ นการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั กศน.อาเภอบางซ้าย และ กศน.อาเภอบางไทร จังหวดั พระนครศรีอยุธยา ประจาปีงบประมาณ 2563 วนั ท่ี 2 – 4 กันยายน 2563 ณ. จังหวัดกาญจนบรุ ี

โครงการพฒั นาบคุ ลากรด้านการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั กศน.อาเภอบางซา้ ย และ กศน.อาเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา ประจาปงี บประมาณ 2563 วันที่ 2 – 4 กันยายน 2563 ณ. จังหวัดกาญจนบรุ ี 2 กันยายน 2563 วันแรกของการเดนิ ทางีี การเดนิ ทางไปพัฒนาบุคลากรครัง้ น้ีีเราเร่มิ ออกเดินทางเวลาี 05.00 น.ีจากกศน.อาเภอบางไทรีีคณะของ เรามดว้ ยกันี33 คนีเปน็ บุคลากรจากอาเภอบางไทรี25 คนีีีีและบุคลากรอาเภอบางซ้ายี9 คนีีีเรานัดหมายแวะ พักรถและรวมกันท่ีป้ัมีปตท.ีแห่งหน่ึงใกล้ตัวเมืองสุพรรณบุรีีีีก่อนจะเข้าสู่ถนนอู่ทองเพ่ือมุ่งหน้าสู้จังหวัด กาญจนบุร จุดหมายของเราอยู่ท่ีอาเภอสังขละบุรีเพ่ือศึกษาวถิ ชวติ ีขนบธรรมเนยมีประเพณของชาวมอญีและ สักการะสรระีหลวงพ่ออุตตมะีซึง่ เป็นท่เส่ือมใสศรทั ธาของประชาชนชาวมอญและไทยีีผู้ท่สร้างสะพานไม้ท่ยาวและ สงู อันมช่ือเสยงีี เวลาประมาณี11.30 น.ีีคณะของเราก็มาถึงวดั วงั ก์วิเวการามีวัดท่สร้างขึ้นใหม่ีภายในงดงามไปด้วยด้วย ศิลปะแบบมอญีมหุ่นข้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงปั้นเป็นรูปหลวงพอ่ อุตตมะีนั่งอยู่บนบงั ลังก์หน้าประสาทหลังใหญ่ี9 ยอด ท่ใช้เก็บสังขารของท่านีมพระพุทธรูปหินอ่อนีงาชา้ งแมมมอธีและเจดย์พทุ ธคยาจาลองีซึ่งจาจาลองแบบจากีเจดย์ พุทธคยาีประเทศอินเดยีโดยเริ่มก่อสร้างีพ.ศ.ี2518 แล้วเสร็จเมื่อีพ.ศ.ี2529ีีีีีสาหรับ วัดวังก์วิเวการาม (เกา่ ) หรอื วดั หลวงพ่ออุตตมะ เป็นวดั ทห่ ลวงพอ่ อตุ ตมะีร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหร่ยงและชาวมอญีไดร้ ่วมกัน สร้างขึ้นีในปีีพ.ศ.2496 ท่บ้านวังกะล่างีอาเภอสังขละบุรีจังหวัดกาญจนบุรีใกล้กับชายแดนไทย-พม่าีห่างจาก อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ีประมาณี220 กิโลเมตรีีีีตอ่ มาปีีพ.ศ.ี2527 การไฟฟา้ ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้าง เขอ่ื นเขาแหลมีหรือีเขื่อนวชิราลงกรณ์ีซ่ึงเม่ือกักเก็บน้าแล้วีน้าในเข่ือนเขาแหลมจะเข้าท่วมตวั อาเภอสังขละบุรเก่า รวมทั้งวดั นด้ ้วยีจงึ ไดย้ ้ายวัดมาอยู่บนเนนิ เขาีสว่ นวัดเดิมได้จมอยใู่ ตน้ ้ามานานนับสิบปีีเหลือเพยงซากปรักหักพังของ วดั และอาคารบ้านเรอื น

สะพานมอญ ีเมืองชายแดน สังขละบุร กันเล็กน้อย สังขละบุร เป็นอาเภอท่ติดต่อกับชายแดนพม่าีห่างจาก ตัวเมืองประมาณี215 กิโลเมตรีีีและห่างจากอาเภอทองผาภูมิี74 กม.ีตัวอาเภอตั้งอยู่บริเวณท่เรยกว่าีสาม ประสบ ซ่ึงลาน้าี3 สายีไดแ้ ก่ซองกะเลยีบคิ ล่ และรันต ไหลมาบรรจบกันีเป็นท่มาของแม่น้าแคว เมืองแห่งสายน้า ทัศนยภาพโดยรวมของ สังขละบุร ถูกล้อมด้วยขุนเขาีมแม่น้าซองกาเลย ซึ่งมต้นกาเนิดจากประเทศพม่าไหลผ่านี เป็นส่วนหนึ่งของวิถริมแม่น้าสองฝั่งีเช่ือมชนชาตมิ อญท้ังไทยและพม่าไว้ด้วยกัน แม่น้าซองกาเลย เป็นชอ่ื เรยกภาษา มอญีแปลเปน็ ไทยวา่ ีฝ่ังโน้น เป็นแมน่ ้าสายท่แบ่งเขตแดนอาเภอสงั ขละบุรออกเป็นสองฟาก ีฝั่งหนึ่งคือตัวอาเภอีเปน็ ท่ต้งั ของสถานทร่ าชการและบรรดาทพ่ กั สาหรบั นกั ท่องเท่ยว ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็น คนไทยพดู ภาษากลางีส่วนอกฝ่ังหนึ่งเปน็ หมู่บา้ นของชาวมอญ ทั้งท่ตั้งรกรากมานานนับร้อยปีีและท่เพิ่งอพยพมาอยู่ ใหม่ สังขละบุร จึงกลายเป็นเมืองท่มความหลากหลายทางเช้ือชาติและวัฒนธรรมีและมชาวมอญต้ังบ้านเรือนอาศัย อยู่เป็นจานวนมากมาถึง สะพานมอญ ตัวผสานสองฝ่ังีท่เห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องไดถ้ ึงมนต์เสน่ห์ีซ่ึงมอกชอ่ื เรยก หนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็น สะพานไม้ท่ยาวท่สุดในประเทศไทย มความยาวถึงี850 เมตรีสร้างเพ่ือใช้ ข้าม แม่น้าซองกาเลย เชื่อมการสัญจร มอญ-สังขละ ให้ถึงกัน สะพานมอญ ยังเป็นอกหน่ึงจุดชมววิ ทะเลสาบเขื่อนวชิ ราลงกรณ์ีและแสงยามเชา้ ทส่ วยงามีพรอ้ มสมั ผสั วิถชาวบา้ น

เข่อื นวชิราลงกรณ ความเปน็ มา เขื่อนวชิราลงกรณีเป็นโครงการหน่ึงของแผนพัฒนาลุ่มน้าแม่กลองและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยี (กฟผ.)ีไดพ้ ัฒนาให้สามารถผลิตไฟฟ้าีเพื่ออานวยประโยชน์ให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้นีเขื่อนวชิราลงกรณจึงจัดเป็น เข่ือนอเนกประสงคอ์ กแห่งหนึง่ ของประเทศไทย สถานทต่ี ้งั 444 หมีู่ 1 ตาบลท่าขนุนีอาเภอทองผาภูมิีจงั หวดั กาญจนบรุ ี71180 ลักษณะเข่อื นและโรงไฟฟ้า เข่ือนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยท่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรตเสริมเหล็กต้ังอยู่บน แม่น้าแควน้อยในท้องท่ีตาบลท่าขนุนีอาเภอทองผาภูมิีจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ห่างจากตัวอาเภอไป ทางทิศตะวันตก เฉยงเหนือีประมาณี6 กิโลเมตรีเขื่อนวชิราลงกรณมความสูงจากฐานี92 เมตรสันเขื่อนกวา้ งี10 เมตรียาวี1,019 เมตรีสงู จากระดับน้าทะเลปานกลางี(รทก.)ี161.75 เมตรีปริมาตรตัวเขอื่ นประมาณี8.1 ล้านลูกบาศกเ์ มตร อา่ งเก็บนา้ อยู่ในท้องท่อาเภอท้องผาภูมิีและอาเภอสังขละบุรของจังหวัดกาญจนบุรีมพื้นท่รับน้าฝนี3.720 ตาราง กิโลเมตรีปริมาณนา้ ไหลเข้าอา่ งเฉลย่ ประมาณปลี ะี5,500 ล้านลกู บาศกเ์ มตรีและมปริมาตรเกบ็ กกั สงู สดุ ปกติี8,860 ล้านลูกบาศก์เมตรีท่ระดบั ี155.0 เมตรี(รทก.) โรงไฟฟา้ เปน็ อาคารคอนกรตเสริมเหล็กีติดตั้งเครื่องกาเนิดไฟฟ้าขนาดกาลังผลิตเคร่ืองละี100,000 กิโลวัตตี์ จานวนี 3 เคร่ืองีรวมกาลังผลิตี300,000 กิโลวตั ต์ีให้พลังงานเฉล่ยปีละี777 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงีการก่อสร้างเริ่มในเดือน มนาคมี2522 แล้วเสร็จในปีี2527 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชีบรมนาถบพิตรีพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรมราชกุมารและีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ีอัครราช กุมารีเสด็จพระราชดาเนินีทรงประกอบพิธเปิดเขื่อนเขาแหลมีอย่างเป็นทางการีในวนั พฤหัสบดท่ี9 มกราคมีพ.ศ.

2529 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯีพระราชทานนามีีเขื่อนวชิราลงกรณี ตามพระนามาภิไธยในสมเด็จพระ เจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณบดนิ ทรเทพยวรางกูรีแทนีชือ่ ีเขอ่ื นเขาแหลมีเมอ่ื วันศกุ รท์ ่ี13 กรกฎาคมีพ.ศ.ี2544 ประโยชน์ เขอ่ื นวชริ าลงกรณีนอกจากสามารถผลิตพลังงานไฟฟา้ แลว้ ยังอานวยประโยชน์ในดา้ นอน่ื ๆีเช่นีชว่ ยบรรเทา อทุ กภัยีซึ่งโดยปกติน้าในฤดฝู นีท้งั ในลาน้าแควน้อยีและแควใหญจ่ ะมปรมิ าณมากีเมื่อไหลมารวมกันจะทาให้เกิดน้า ท่วมีลุ่มแม่น้าแม่กลองเป็นประจาีหลังจากได้ก่อสร้างเข่ือนศรนครินทร์และเข่ือนวชิราลงกรณแล้วเสร็จีอ่างเก็บน้า ของเขอ่ื นทัง้ สองจะชว่ ยเกบ็ กกั ไว้เปน็ การบรรเทาอทุ กภยั ในพน้ื ท่ดงั กลา่ วอย่างถาวร ด้านการชลประทานและการเกษตร ทาให้มแหล่งน้าถาวรเพ่ิมขึ้นอกแห่งหน่ึงีเพื่อช่วยเสริมระบบชลประทานในพื้นท่ของโครงการแม่กลองใหญ่ี โดยเฉพาะทาการเพาะปลูกในฤดูแล้งจะได้ผลผลติ การเกษตรเพ่มิ ข้ึน ด้านการประมง อ่างเก็บน้าเหนือเข่ือนเหมาะสาหรับเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้าจืดได้เป็นอย่างดีและยังช่วยเพ่ิมพูนรายได้ ให้แกป่ ระชาชนอกทางหน่งึ ดว้ ย สาหรับประโยชน์ท่นับว่าสาคัญอกประการหนึ่งคือีช่วยต้านน้าเค็มและน้าเสยในฤดูแล้งรวมทั้งยังมน้าเสย จากโรงงานอุตสาหกรรมของสองฝั่งแม่กลองอกส่วนหนึ่งีและจากการปล่อยน้าจากเขื่อนเพม่ิ ข้ึนีในฤดูแล้งจะช่วยขับ ไล่นา้ เสยและผลกั ดนั นา้ เค็มทาให้สภาพนา้ ในแมน่ ้าแม่กลองมคุณภาพดขึน้ นอกจากน้ีเข่ือนวชิราลงกรณยังเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้าีและเป็นแหล่งท่องเท่ยวท่สาคัญท่สวยงามอก แห่งหนง่ึ ของประเทศไทยีในแตล่ ะปจี ะมนกั ทศั นาจรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเยย่ มชมกันเป็นจานวนมาก

บา้ นอตี อ่ ง หมู่บ้านของชายไทยเช่ือสานพม่าีเป็นหมู่บ้านเล็กๆท่ยังคงมวิถชวิตอันงดงามีจากหมู่บ้านมจุดชมวิวท่ สามารถมองเห็นเขาช้างเผือกซ่ึงเป็นยอดเขาีท่สูงท่สุดีของีอ.ีทองผาภูมิีมนักนักท่องเท่ยวท่รักการเดนิ ปา่ และผจญ ภัยขึ้นไปพิชิตความสวยงามีและีย่ิงใหญข่ องท่น่กนั แทบทุกปี ปิล๊อก ย้อนอดตีปลิ ๊อกไปเม่ือหลายี10 ปีก่อนีมผู้พบเห็นชาวพม่าเข้ามาลักลอบขุดแร่ในพื้นท่ตาบลปลิ ๊อกไปขายใหี้ ทหารองั กฤษีคาเล่าลอื นท้ าใหี้ กรมทรัพยากรธรณสมัยนัน้ นาคณะนายชา่ งมาสารวจกถ็ งึ กับตะลึงีเม่ือพบว่าพ้ืนท่แถบ น้มแร่ดบกุ และวุลแฟรมอยู่มากมายรองลงมาและมักอยู่ปะปนกันีคือีแร่ทังสะเตนีและยังมสายแร่ทองคาีปะปนอยู่ กับีสายแร่ดบุกต่อมาีปีีพ.ศ.ี2483 ีีองค์การเหมืองแร่ีีกรมโลหะกิจีได้เปิดีเหมืองปิล๊อกีีข้ึนเป็นีีีแห่งแรกท่ บ้านอต่องีต.ปิล๊อกีจากการเปิดเหมืองในครั้งน้ันได้เกิดการปะทะกันระหว่างตารวจกับกรรมกรพม่าีเพราะฝ่ายไทย ห้ามกรรมกรพม่านาแร่ีไปขายให้อังกฤษีแต่กรรมกรพม่าฝ่าฝืนีจึงเกิดการปะทะกันทาให้มผู้บาดีเจ็บและล้มตาย จานวนมากีในอดตชาวบ้านเรยกว่าีีเหมืองผหลอกีต่อมาเพ้ยนเป็นีีปิล๊อกีซึ่งกลายเป็นช่ือีเหมืองแร่และตาบลใน เวลาต่อมาีหลังจากน้ันก็ได้มเหมืองแร่อ่ืนๆทยอยเปิดตามกันมาอกมากมายทั้งีเหมืองเล็กีเหมืองใหญ่ีราวี 50-60 เหมืองีโดยผู้คนพากันเรยกบรรดาเหมืองท้ังหลายในพ้ืนท่แถบน้แบบเหมารวมว่าีแเหมืองปิล๊อกี ดินแดนแห่งนี้ เปรยบเสมือนขุมทรัพย์ของีบรรดานายเมืองท้ังหลายท่ต่างหลั่งไหลเข้ามาผู้แสวงีโชคมทั้งคนไทยีพม่าีและท่มาจาก แถบอนิ เดยีเหมืองแร่จงึ ีสรา้ งความเจรญิ รงุ่ เรืองให้แก่ชมุ ชนโดยรอบเปน็ อย่างมากเนื่อง นิยายเหมืองแร่แห่งปิล๊อกดาเนินเรื่องราวอยู่หลายสิบปีีก่อนประสบภาวะราคาแร่โลกตกตา่ ในปีี พ.ศ.ี2528 บรรดาเหมืองแร่ทยอยปิดตัวลงีไม่เว้นีแม้แต่เหมืองปิล๊อกีท้ิงไว้เพยงตานานเมืองเหมืองอันรุ่งโรจน์และีมนต์เสน่หี์ แห่งปัจจุบันอันเรยบง่ายสงบงามให้ผู้สนใจีออกดั้นด้นเดินทางไปค้นหาีปิล๊อกกลายเป็นแหล่งท่องีเท่ยวท่แวดล้อมี ดว้ ยทะเลแห่งภเู ขาอันสลบั ซบั ซอ้ นและสวยงามของเทอื กเขาตะนาวศรีเสน้ แบ่งเขตแดนไทย-พมา่ ีทกุ ๆปีีอาเภอีทอง

ผาภูมิจึงร่วมกับีอบต.ปลิ ็อกีและส่วนราชการีจัดงานี\"สัมผัสอากาศเย็นีเด่นในตานานีเหมืองแร่ปิล๊อกีข้ึนทุกปชี ่วง ต้นเดือนธันวาคมีในงานจัดให้มนิทรรศการการทาเหมืองแร่ีและกิจกรรมเท่ยวชมีน้าตกจ๊อกกระด่ิ งีน้าตกเจ็ดมิตรี อโุ มงค์เหมอื งแร่ีเนิน ตชด. และเนินเสาธง

3 กนั ยายน 2563 วนั ที่ 2 ของการเดินทางมาพัฒนาบุคลากร เรามุ่งหนา้ สู่ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาอธั ยาศัยอาเภอทองผาภมู ิ จังหวัดกาญจนบรุ ี ประวัติ ศูนย์ีกศน.อาเภอทองผาภูมิี เลขท่/สถานท่ติดต่อีหมู่ี1 ตาบลท่าขนุนีอาเภอทองผาภูมิีจังหวัดกาญจนบรุ ี 71180 ีีวิธการเดินทางรถโดยสารว่ิงระหว่างอาเภอเมืองกาญจนบุรี-ีอาเภอทองผาภูมิีีีระยะทางี147 กิโลเมตรี รถโดยสารประจาทางีีีีีีกาญจนบุรี– สังขละบุรีและรถตูี้ บริษัทเอเชยีีีีไทรโยคเดนิ รถีจากัดีีีีท่ตง้ั อยู่ตดิ กับ วัดทองผาภูมิไปมาสะดวกีีและอยู่ติดกับส่วนราชการีีเช่นีเทศบาลอาเภอทองผาภูมิีโรงพยาบาลทองผาภูมิีม บรรยากาศร่มรนื่ ตน้ ไม้เขยวขจีใหบ้ รกิ ารส่อื ท่ทันสมัยและมความหลากหลายี ห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีจังหวัดกาญจนบรุ ีได้รับพิจารณาคัดเลือกจากกรมการ ศกึ ษานอกโรงเรยนีตามโครงการหอ้ งสมุดประชาชนตามแนวพระราชดารสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯสยามบรมราช กุมารีและเปน็ การเทิดพระเกยรตใิ นวโรกาสทรงพระเจริญพระชนมายุครบี36 ปีี ในพทุ ธศักราชี2534 โดยห้องสมุด ประชาชนตามแนวพระราชดาริน้ีเม่ือดาเนินการเสร็จสิ้นแล้วจะเป็นรูปแบบของห้องสมุดประชาชนีท่มหนังสือ ครบถ้วนทุกประเภทท่มค่าควรแก่การแสวงหาความรู้ีมส่ือเคร่ืองมือช่วยการเรยนรู้ต่างีๆีและมมุมหนังสือพระราช นิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีและเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกยรติและสนองพระราช ปณธิ านในการทจ่ ะสง่ เสรมิ การเรยนร้ใู หป้ ระชาชนอ่านออกเขยนไดี้ ห้องสมุดประชาชนี“เฉลมิ ราชกุมาร” อาเภอทอง ผาภูมิีเป็นรูปแบบการของการจัดสร้างท่ประสานประโยชน์ีร่วมมือีร่วมใจีกันระหวา่ งภาคราชการกับองค์กรเอกชนี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างี3,000,000 บาทีกรมการศึกษานอกโรงเรยนจัดสรรงบประมาณให้ี1,500,000 บาที องค์กรเอกชนและผู้มจิตศรัทธาบริจาคสบทบอกี1,500,000 บาทีโดยมีพล.ต.จารัสีมังคลารัตน์ีอดตรัฐมนตรี ประจาสานักนายกรัฐมนตรและอดตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวดั กาญจนบุรีเขต1 เปน็ ประธานในการจัดหาทุนี ทั้งน้คุณปรยาีสิทธิสรีได้บริจาคท่ดินให้เพื่อใช้เป็นสถานท่ก่อสร้างี1 ไร่ี1 งานีคิดเป็นมูลค่าี1,800,000 บาที โครงการจัดตั้งห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีเร่ิมดาเนินโครงการเม่ือวันท่ี31 มกราคมี2534

โดยคาส่ังจังหวัดกาญจนบุรแต่งต้ังคณะกรรมการระดับจังหวัดีและเจ้าหน้าท่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรยนจังหวัด กาญจนบุรีเพอื่ ดาเนินการจัดตง้ั และได้รับบริจาคท่ดนิ สาหรับใช้เป็นสถานท่ก่อสร้างอาคารห้องสมุดประชาชนีเฉลิม ราชกมุ ารีอาเภอทองผาภมู ีิ หมู่ี1 ตาบลทา่ ขนุนีอาเภอทองผาภมู ิี(อยู่ติดกับวัดทองผาภูมิ)ีเนื้อท่จานวนี1 ไร่ี1 งานี จากคุณปรยาีสิทธิสรีต่อมาทาการประกาศจัดต้ังห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีเม่ือวันท่ี9 เมษายนพ.ศ.ี2534 และทาการวางศิลาฤกษ์ีเม่ือวันท่ี1 พฤษภาคมี2534 โดยผู้ว่าราชการจังหวดั กาญจนบุรีเป็น ประธานในพิธีหลังจากนั้นเร่ิมการก่อสร้างตัวอาคารห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีวนั ท่ี10 ตุลาคมี2534 และการก่อสร้างแล้วเสร็จตามสญั ญาจา้ งีวนั ที่ 5 มิถนุ ายนี2535 ใชง้ บประมาณในการกอ่ สร้างเป็นเงิน ทง้ั สิน้ ี2,250,000 บาทีซึ่งเปน็ งบประมาณท่กรมการศึกษานอกโรงเรยนจัดสรรให้ี1,250,000 บาทีและงบประมาณ จากองค์กรเอกชนบริจาคสบทบอกจานวนี1,000,000 บาทีต่อมากรมการศึกษานอกโรงเรยนได้จัดสรรงบประมาณปีี 2535 เป็นคา่ จัดซอ้ื หนงั สอื จานวนี300,000 บาทีและค่าสอื่ ีอปุ กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ีจานวนี35,000 บาทีงบประมาณ ปีี 2536 กรมการศึกษานอกโรงเรยนไดจ้ ัดสรรีเพ่ือเปน็ ค่าครุภณั ฑ์สานักงานและครุภัณฑ์โฆษณาเผยแพร่ีรวมท้ังสิ้นี 261,775 บาทีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารเสด็จพระราชดาเนินประกอพิธเปิดห้องสมุด ประชาชนีีเฉลิมราชกุมารี อาเภอทองผาภูมิีเม่ือวันท่ี10 มิถุนายนี2536 และเปิดให้ดาเนินการในเวลาต่อมาจวบ จนปัจจุบนั ี *ีทิศเหนือีตดิ กบั วัดทองผาภมู ิและโรงพยาบาลทองผาภมู ิี *ีทิศตะวนั ตกีอยใู่ กล้เคยงกับทว่ า่ การอาเภอทองผาภมู ิี *ีทศิ ใตี้ อยใู่ กล้เคยงกบั โรงเรยนอาเภอทองผาภมู ิและตลาดี ลักษณะอาคารห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีรูปแบบตัวอาคารเป็นอาคารี2 ชั้นี ขนาดกว้างี13 เมตรีความยาวี15 เมตรีตามแบบแปลนของกรมการศึกษานอกโรงเรยนีจัดเปน็ ห้องสมุดขนาดกลางี ชน้ั บนีเปิดบริการี4 ห้องีห้องเฉลิมพระเกยรตฯิ ีและห้องหนังสืออ้างองิ ีห้องปฏิบตั ิการีห้องโสตทัศนศึกษาีชน้ั ล่างี ชั้นล่างแบ่งเป็นี2 ส่วนีคือีด้านขวาเป็นช้ันหนังสือี000-900 และวารสาร/หนังสือพิมพ์ีส่วนด้านซ้ายจะเป็น คอมพิวเตอร์ให้บริการฟรีจานวนี12 เครื่องีห้องเฉลิมพระเกยรติีหัวใจของห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีซึ่งมวัตถุประสงค์นาเสนอพระราชประวัติีพระราชกรณยกิจีพระปรชาญาณและพระมหา กรุณาธิคุณทส่ ถาบนั พระมหากษตั รยิ ์มต่อประชาชนชาวไทยีแบง่ เป็นี4 ส่วนีคอื ี 1. หอ้ งนทิ รรศการเกย่ วกบั พระราชประวตั ิของสมเด็จพระเทพีรตั นราชสุดาีฯีสยามบรมราชกมุ ารี 2. พระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรมราชกุมารีพระราชนิพนธข์ องพระบรมวงศานุ วงศ์ในราชวงศจ์ ักรี 3. นิทรรศการเก่ยวกับพระอัจฉริยภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรมราชกุมารีในด้านศิลปกรรมี วรรณกรรมีการดนตรี

4. พระราชกรณยกจิ และโครงการพระราชดาริในรชั กาลปัจจุบนั ของสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรม ราชกุมารีห้องโสตทัศนศึกษาีมวัตถุประสงค์ท่จะจัดบริการส่ือีเพื่อการศึกษาค้นคว้าส่งเสริมการศึกษาด้วยตนเองีม สอ่ื พืน้ บา้ นีไดแ้ ก่ีวดทิ ศั นี์ เทปเสยงีมสอ่ื สไลด์ีซดรอมและคู่มือประกอบการรับฟงั และการรับชม

หอ้ งสมุดประชาชนเฉลิมราชกมุ ารี อาเภอทองผาภูมิ จงั หวดั กาญจนบุรี ห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมารีอาเภอทองผาภูมิีสถานท่ตดิ ต่อีหมู่ี1 ีตาบลท่าขนุนีีอาเภอทองผาภูมิี จังหวัดกาญจนบุรี71180 โทรศัพท์ี034-599483 วิธการเดินทางรถโดยสารว่ิงระหว่างอาเภอเมืองกาญจนบุรี-ี อาเภอทองผาภูมิีระยะทางี147กิโลเมตรีรถโดยสารประจาทางีกาญจนบุรี– สังขละบุรีและรถตู้ีบริษัทเอเชยีไทร โยคเดินรถีจากัดีท่ตั้งอยู่ติดกับวัดทองผาภูมิไปมาสะดวกีและอยู่ติดกับส่วนราชการีเช่นีเทศบาลอาเภอทองผาภู มิี โรงพยาบาลทองผาภูมิีมบรรยากาศร่มรื่นต้นไม้เขยวขจีให้บริการสื่อท่ทันสมัยและมความหลากหลายีประวัติและ ความเป็นมาห้องสมุดประชาชน”เฉลิมราชกุมาร”ทองผาภูมิีห้องสมุดประชาชนี“เฉลิมราชกุมาร” อาเภอทองผาภูมิี จังหวัดกาญจนบุรีได้รับพิจารณาคัดเลือกจากกรมการศึกษานอกโรงเรยนีตามโครงการห้องสมุดประชาชนตามแนว พระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีและเป็นการเทิดพระเกยรติในวโรกาสทรงพระเจริญ พระชนมายุครบี36 ปีีในพทุ ธศักราชี2534 โดยห้องสมุดประชาชนตามแนวพระราชดาริน้ีเม่ือดาเนินการเสร็จส้ิน แล้วจะเป็นรูปแบบของห้องสมุดประชาชนีท่มหนังสือครบถ้วนทุกประเภทท่มค่าควรแก่การแสวงหาความรู้ีมสื่อ เคร่ืองมือช่วยการเรยนรตู้ า่ งีๆี และมมมุ หนงั สือพระราชนิพนธข์ องสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และเพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกยรติ และสนองพระราชปณิธานในการท่จะส่งเสริมการเรยนรู้ให้ประชาชนอ่านออก เขยนไดี้ ห้องสมุดประชาชนีเฉลิมราชกุมาร อาเภอทองผาภูมิีเป็นรูปแบบการของการจัดสร้างท่ประสานประโยชนี์ ร่วมมือีร่วมใจีกันระหว่างภาคราชการกับองค์กรเอกชนีใช้งบประมาณในการก่อสร้างี3,000,000 บาทีกรมการ ศึกษานอกโรงเรยนจัดสรรงบประมาณให้ี1,500,000 บาทีองค์กรเอกชนและผู้มจิตศรัทธาบริจาคสบทบอกี 1,500,000 บาทีโดยมีพล.ต.จารัสีมังคลารัตน์ีอดตรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรและอดตสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวดั กาญจนบรุ ีเขต1 เป็นประธานในการจดั หาทุนี ท้ังน้คุณปรยาีสิทธิสรีไดบ้ ริจาคท่ดินให้เพือ่ ใช้เปน็ สถานท่ก่อสร้างี1 ไร่ี1 งานีคิดเป็นมูลค่าี1,800,000 บาทีโครงการจดั ตง้ั หอ้ งสมุดประชาชนี“เฉลิมราชกมุ าร” อาเภอทองผาภูมิีเร่ิมดาเนินโครงการเม่อื วันที่ 31 มกราคมี 2534 โดยคาส่ังจังหวัดกาญจนบุรแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดีและเจ้าหน้าท่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรยน

จงั หวัดกาญจนบรุ ีเพื่อดาเนินการจัดตั้งและไดร้ ับบริจาคท่ดนิ สาหรับใช้เปน็ สถานท่ก่อสร้างอาคารห้องสมุดประชาชนี “เฉลิมราชกมุ าร”อาเภอทองผาภูมีิ หมีู่ 1 ตาบลทา่ ขนุนีอาเภอทองผาภมู ิี(อยูต่ ิดกบั วดั ทองผาภูมิ)ีเน้ือท่จานวนี1 ไร่ี 1 งานีจากคณุ ปรยาีสทิ ธิสรีตอ่ มาทาการประกาศจัดต้ังห้องสมุดประชาชนี“เฉลิมราชกุมาร” อาเภอทองผาภูมิีเม่ือ วนั ท่ี9 เมษายนพ.ศ.ี2534 และทาการวางศิลาฤกษ์ีเมื่อวันท่ี1 พฤษภาคมี2534 โดยผู้วา่ ราชการจังหวดั กาญจนบุรี เปน็ ประธานในพธิ ีหลงั จากนัน้ เริม่ การกอ่ สรา้ งตวั อาคารหอ้ งสมดุ ประชาชนี“เฉลมิ ราชกมุ าร” อาเภอทองผาภูมิีวนั ท่ี 10 ตุลาคมี2534 และการก่อสร้างแลว้ เสรจ็ ตามสัญญาจ้างีวันท่ี5 มิถนุ ายนี2535 ใช้งบประมาณในการกอ่ สรา้ งเป็น เงินท้ังส้ินี2,250,000 บาทีซึ่งเป็นงบประมาณท่กรมการศึกษานอกโรงเรยนจัดสรรให้ี1,250,000 บาทีและ งบประมาณจากองค์กรเอกชนบริจาคสบทบอกจานวนี1,000,000 บาทีต่อมากรมการศึกษานอกโรงเรยนไดจ้ ัดสรร งบประมาณปีี 2535 เป็นค่าจัดซ้ือหนังสือจานวนี300,000 บาทีและค่าสื่อีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ีจานวนี35,000 บาทีงบประมาณปีี2536 กรมการศึกษานอกโรงเรยนได้จัดสรรีเพ่ือเป็นค่าครุภัณฑ์สานักงานและครุภณั ฑ์โฆษณา เผยแพร่ีรวมทั้งส้ินี261,775 บาทีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารเสดจ็ พระราชดาเนินประกอพิธ เปิดห้องสมุดประชาชนี“เฉลิมราชกุมาร” อาเภอทองผาภูมิีเม่ือวันท่ี10 มิถุนายนี2536 และเปดิ ให้ดาเนินการใน เวลาต่อมาจวบจนปัจจุบันี*ีทิศเหนือีติดกับวัดทองผาภูมิและโรงพยาบาลทองผาภูมิี*ีทิศตะวันตกีอยู่ใกล้เคยงกับ ท่ว่าการอาเภอทองผาภูมิี*ีทิศใต้ีอยู่ใกล้เคยงกับโรงเรยนอาเภอทองผาภูมิและตลาดีลักษณะอาคารห้องสมุด ประชาชนี“เฉลิมราชกุมาร” อาเภอทองผาภูมิีรูปแบบตัวอาคารเป็นอาคารี2 ช้นั ีขนาดกว้างี13 เมตรีความยาวี 15 เมตรีตามแบบแปลนของกรมการศึกษานอกโรงเรยนีจัดเปน็ ห้องสมุดขนาดกลางีชนั้ บนีเปิดบริการี4 ห้องีห้อง เฉลิมพระเกยรติฯีและห้องหนังสืออ้างอิงีห้องปฏิบัติการีห้องโสตทัศนศึกษาีช้ันล่างีชั้นล่างแบ่งเป็นี2 ส่วนีคือี ด้านขวาเปน็ ชั้นหนังสือี000-900 และวารสาร/หนังสือพิมพ์ีส่วนด้านซ้ายจะเป็นคอมพิวเตอร์ให้บริการฟรีจานวนี 12 เครื่องีห้องเฉลิมพระเกยรตีิ หัวใจของห้องสมุดประชาชนี“เฉลิมราชกุมาร”อาเภอทองผาภูมิีซ่ึงมวตั ถุประสงค์ นาเสนอพระราชประวัติีพระราชกรณยกิจีพระปรชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณท่สถาบันพระมหากษัตริย์มต่อ ประชาชนชาวไทยีแบ่งเป็นี4 ส่วนีคือี1. ห้องนิทรรศการเก่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จพระเทพีรัตนราชสุดาี ฯีสยามบรมราชกุมารี2. พระราชนิพนธข์ องสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรมราชกุมารีพระราชนิพนธ์ของ พระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์จักรี3. นิทรรศการเก่ยวกับพระอัจฉริยภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรม ราชกุมารีในดา้ นศิลปกรรมีวรรณกรรมีการดนตรี4. พระราชกรณยกิจและโครงการพระราชดาริในรัชกาลปัจจุบัน ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯีสยามบรมราชกุมารีห้องโสตทัศนศึกษาีมวัตถุประสงค์ท่จะจัดบริการสื่อีเพื่อ การศึกษาค้นคว้าส่งเสริมการศึกษาด้วยตนเองีมสื่อพื้นบ้านีได้แก่ีวดิทัศน์ีเทปเสยงีมสื่อสไลด์ีซดรอมและคู่มือ ประกอบการฟังและการชม

ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอ่ื การศึกษากาญจนบุรี จงั หวดั กาญจนบุรี สงั กัดสานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษากาญจนบุรเป็นสถานศึกษาสังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยีสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการีกระทรวงศึกษาธิการีจัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรในสมัย นั้นเม่ือวันท่ี16 สิงหาคมี2537 โดยกรมการศึกษานอกโรงเรยนี(สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยในปัจจุบัน)ีเป็นผู้รับผิดชอบีกระทรวงศึกษาธิการี ขยายเครือข่ายศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อ การศกึ ษาไปสูส่ ่วนภูมิภาคโดยการจดั ต้ังอุทยานวทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศกึ ษาในสว่ นภมู ภิ าค จานวนี๑๖ีแหง่ ี อาคารท่ทาการของศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพ่อื การศึกษาจังหวดั กาญจนบุรีเปน็ อาคารี2 ชั้นีขนาดกว้างี24 เมตรี ยาวี32 เมตรีบนพื้นท่ประมาณี8 ไร่ีเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการีเม่ือวันท่ี21 กันยายนี2545ีปัจจุบนั เปล่ยน ช่อื เป็นศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพอื่ การศกึ ษากาญจนบรุ ี ปรชั ญา สร้างระบบคดิ ีปลกู จติ วิทยาศาสตร์ คาขวญั จดุ ประกายความคดิ ีพัฒนาคุณภาพชวติ ดว้ ยวิทยาศาสตร์ วสิ ัยทัศน์ จะพัฒนากจิ กรรมใหท้ นั สมัยีผู้รับบริการพึงพอใจีบคุ ลากรภายในมความสุข

พันธกจิ 1. จัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยดา้ นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อมีแก่ ประชาชนทกุ กล่มุ เปา้ หมายีและเตรยมความพร้อมในการเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยน 2.ส่งเสริมและสนับสนุนการมส่วนร่วมของภาคเครือข่ายีในการดาเนินงานการจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งกวา้ งขวางและต่อเน่ือง 3. ศึกษาีค้นคว้าีวิจัยีและพัฒนารูปแบบกิจกรรมีหลักสูตรีสื่อและกระบวนการจัดการเรยนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม 4. ส่งเสริมกระบวนการเรยนรู้วทิ ยาศาสตร์เพื่อชวิตของชุมชนพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้สามารถดาเนินงานได้ อย่างมประสทิ ธิภาพ โดยศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษาจังหวดั กาญจนบุร เป็นอาคารี2ีชั้น พืน้ ท่ประมาณี8ีไรี่ เปดิ ใหบ้ รกิ าร อย่างเปน็ ทางการีเมอ่ื วันท่ี21ีกันยายนีพ.ศ. 2545 ภายในมฐานการเรยนรู้ีจานวนี11ีฐานีไดแ้ ก่ ๑. ฐานการเรยนร้ีู โลกของสิ่งมชวิต ๒.ีฐานการเรยนรู้ีระบบนิเวศ ๓.ีฐานการเรยนรู้ เปดิ โลกแหง่ สสาร ๔.ีฐานการเรยนรู้ วทิ ยาศาสตร์แสนสนกุ ๕.ีฐานการเรยนรู้ บา้ นพลังงาน ๖.ีฐานการเรยนรู้ีพระบิดาแห่งการพฒั นาพลงั งานไทย ๗.ีฐานการเรยนรู้ีภาวะโลกรอ้ น ๘.ีฐานการเรยนรู้ีดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ ๙.ีฐานการเรยนรู้ เทคโนโลยอวกาศในชวิตประจาวนั ๑๐.ีฐานการเรยนร้กู ารแสดงทางววิทยาศาสตร์ ๑๑.ีฐานการเรยนรเู้ ปดิ โลกไดโนเสาร์

สถานที่ต้งั เลขที่ 12 หม่ีู 1 บา้ นลิน้ ชา้ งีตาบลปากแพรกีอาเภอเมืองกาญจนบรุ ีจังหวัดกาญจนบรุ ี71000 เขตพ้ืนทีบ่ รกิ าร ศูนยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศกึ ษากาญจนบุรีมพ้นื ทร่ บั ผดิ ชอบในการให้บรกิ ารี4 จังหวดั ีไดแ้ กี่ กาญจนบรุ ีสุพรรณบุรี ราชบรุ ีและนครปฐมีซึ่งประกอบด้วยกลมุ่ เป้าหมายท่เป็นเด็กีเยาวชนีนกั เรยนีนกั ศกึ ษาีประชาชนของสถานศกึ ษา ในและนอกระบบโรงเรยน ทิศเหนอื ีติดต่อกบั สาธารณรฐั แหง่ สหภาพพม่า ทิศใต้ีติดตอ่ กับจงั หวดั ราชบุรและนครปฐม ทศิ ตะวนั ออกีตดิ ต่อกบั จังหวัดสพุ รรณบรุ ทิศตะวันตก ติดต่อกบั สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

4 กันยายน 2563 วนั ท่ี 3 ของการเดินทางมาพฒั นาบุคลากร เรามงุ่ หน้าสู่ ศึกษาดงู านีณีสะพานข้ามแม่นา้ แควีตาบลบ้านเหนือีอาเภอเมืองกาญจนบรุ สะพานข้ามแม่น้าแควเป็นสถานท่ทางประวัติศาสตร์ท่สาคัญยิ่งแห่งหน่ึงีเปน็ สะพานท่สาคัญท่สุดของเส้นทาง รถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกคร้ังท่ี2 โดยกองทัพญ่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ีทหาร อังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลย ฮอลันดา และนิวซแลนด์ประมาณี61,700 คนีสมทบด้วยกรรมกรชาว จน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอนิ เดย อกจานวนมากีมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ีเพ่ือเปน็ เส้นทางผ่าน ไปสู่ประเทศพม่า ซ่ึงเส้นทางช่วงหน่ึงจะต้องข้ามแม่น้าแควใหญ่ จึงต้องมการสร้างสะพานข้ึนีการสร้างสะพานและ ทางรถไฟสายน้ีเต็มไปดว้ ยความยากลาบากีความทารุณของสงครามและโรคภัยีตลอดจนการขาดแคลนอาหารีทา ใหเ้ ชลยศึกหลายหม่ืนคนตอ้ งเสยชวิตลง สะพานข้ามแม่น้าแควใชเ้ วลาสร้างเพยงี1 เดือนีโดยนาเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นช้ินีๆีตอนกลางทา เป็นสะพานเหล็กี11 ช่วงีหัวและโครงสะพานเป็นไม้ีมพิธเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวนั ท่ี25 ธันวาคมีพ.ศ.ี2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนีพ.ศ.ี2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลางีภายหลังสงครามสิ้นสุดลงี รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหล่ยมีเม่ือปีีพ.ศ.ี2489 จนสามารถใช้งานได้ีปัจจุบันีมการยกย่องให้ เปน็ สญั ลักษณแ์ ห่งสนั ตภิ าพ หลังจากนัน้ เวลาี12.00 น.ีเราพักรบั ประทานอาหารกลางวันและพักผ่อนตามอธั ยาศยั ีีสรุปงาน เวลาี16.30 น.ีีจึงเดินทางเดินทางกลับีกศน.อาเภอบางซ้ายีและีกศน.อาเภอบางไทรีจังหวัด พระนครศรอยธุ ยา

บนั ทึกเพ่มิ เติม