สรุปสาระ หนังสือ معالم في الطريق มะอาลิมฟิตตอรีก ของ สัยยิด กุตุบ

มารว่ มสรา้ งสังคมอุดมปญญา สรปุ สาระหนงั สอื ‫ﻣﻌﺎﻟﻢ ﻓﻲ اﻟﻄﺮﻳﻖ‬ \"มะอาลมิ ฟตตอรกี \" ของสยั ยดิ กตุ บุ ผศ.ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด สงขลา 2021

สรุปสาระหนงั สอื มะอาลิมฟตตอรกี ของ สยั ยดิ กตุ บุ ฆอซาลี เบ็ญหมัด  สาํ นักพิมพ์เลนส์อิสลาม สงขลา 2021

ห น้ า เ รื อ ง 02 1 - ขอบเหวแห่งขุมนรกและการฟนคืนชีพของอิสลาม 03 2 - จาฮีลียะฮ์-อวิชชา-ร่วมสมัย 04 3 - ชนรุ่นคัมภีร์กุรอานทีไม่เหมือนใคร 05 4 - ลัทธิชาตินิยมหรือชนชันนิยม ? 07 5 - รายละเอียดของระบอบอิสลามอยู่ทีไหน? 08 6 - ลักษณะของญฮิ าด : การเรยี กรอ้ งและการเคลือนไหว 03 7 - สงั คมจาฮีลียะฮ์-สงั คมอวชิ ชา-คืออะไร? 11 8 - สงั คมมุสลิมทีมชี ว่ งเวลาแหง่ สงั คมจาฮิลียะฮ์ -อวชิ ชา 13 9 - เราจะสอื กับผคู้ นอยา่ งไร? 14 10 - ความหมายทีแท้จรงิ ของชยั ชนะ

คํานาํ ผู้เขียน มะอาลิม ฟตตอรีก\"หรอื \"มโนทัศน์อิสลามวา่ ด้วยประเด็นอัตลักษณ์ร่วม สมัย\" หนึงในจาํ นวนหนังสือของนักคิดมุสลิมรว่ มสมัยทีวางรากฐาน ทฤษฎี/ปรชั ญาการเมืองการปกครองอิสลามในยุคปจจุบัน ต้นฉบับ หนังสือเล่มนีถือว่านักอ่านภาษาไทยได้รบั รูพ้ อสมควร เพราะถูกแปลเปน ภาษาไทยโดยอาจารย์บรรจง บินกาซนั ชอื วา่ \"หนทางสู่หลักชยั \" รวม ถึงอีกหลายสาํ นวน มานานแล้ว หนังสือทีมีชือเสียงและเปนทีถกเถียงของสัยยิด กุตุบ เล่มนี เชือกันว่า เปนเหตุผลหลักในการประหารชีวิตของผู้เขียน ในนัน ผู้เขียนพูดถึงชนยุ คอัลกุรอานทีมีลักษณะเฉพาะ ธรรมชาติของวิถีอัลกุรอาน การเกิดขึนของ ประชาคมมุสลิม อํานาจอธิปไตย การญิฮาด แนวคิดเกียวกับการถือ สัญชาติ อันเปนอัตลักษณ์สาํ คัญบนเส้นทางของประชาคมมุสลิมในการ ก้าวสู่อํานาจและเปนผู้นาํ สังคมโลก แนวคิดของสัยยิด กุตุบ ในประเด็นร้อนๆ เกียวกับปรัชญาการเมือง การปกครองในอิสลามดังกล่าว ไม่ได้ถือวา่ เปนทีสินสุด เพราะมีนัก วิชาการและแกนนาํ กลุ่มอิควานก็ออกหนังสือชีแจง เช่น ‫\" دﻋﺎة ﻻ ﻗﻀﺎة‬ดุ อาฮ์ ลา กุฎอฮ์\" เราเปนนักเผยแผ่ มิใชผ่ ู้พิพากษา\" โดย หะซนั หดุ ัยบีย์ หวั หน้ากลุ่มอิควานคนที 2 และนักวิชาการมากมายเช่นกัน เช่น มุฮัมมัด ฆอซาลี, ยูซุฟ กอรฎอวยี ์, สะลีม เอาวา , อาลี เบโกวชิ ฯลฯ ทีนาํ เสนอใน ลักษณะทีขัดแย้งโดยสินเชงิ หรือเล็กน้อย ความเห็นต่างเหล่านี ถือเปนเรืองปกติในวงวชิ าการ ทีไม่ได้ทําให้งานข องสัยยิด กุตุบ ด้อยคุณค่าแต่อย่างใด เพราะทุกคนย่อมมีข้อผิดพลาด และงานเขียนของท่านละลานตาไปด้วยอัญมณีมากมายทีผู้อ่านสัมผัส ได้และสามารถนาํ มาใชไ้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ ฆอซาลี เบ็ญหมัด ห น้ า 1

1 - ขอบเหวแห่งขุมนรกและการฟนคืนชพี ของอิสลาม ทุกวันนี มนุษยชาติยืนอยู่บนขอบเหว ไม่ใช่เพราะการคุกคามของ การทําลายล้างต่างๆ เพราะนีคืออาการของโรค ไม่ใช่โรค แต่ เนืองจากการสูญเสียคุณค่าของมนุษยชาติทีทําให้มนุษย์ สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ สิงนีชดั เจนมากในโลกตะวนั ตก ซงึ ไม่สามารถให้คุณค่าใดๆแก่มนุษยชาติอีกต่อไป แต่เปนคนที ไม่มีอะไรทีจะใหเ้ หตุผลกับตนเองว่าสมควรทีจะดาํ รงอยู่หรอื มีชีวิต อยู่หลังจากระบอบประชาธิปไตยสินสุดลง และเรมิ ยืมและอ้างจาก ระบอบการปกครองของค่ายตะวันออก - โดยเฉพาะในระบอบ เศรษฐกิจ – ภายใต้ชือสังคมนิยม ความเปนผู้นาํ ของมนุษยชาติของชาวตะวนั ตกกําลังใกล้จะหาย สาบสูญ ระบบตะวนั ตกได้ยุติบทบาทของตนแล้ว ตะวนั ตกไม่มี ค่าพอทีจะอนุญาตให้เปนผู้นาํ อีกต่อไป จาํ เปนต้องมีผู้นาํ ในการ ดํารงรักษาและพัฒนาอารยธรรมวตั ถุทีมนุษยชาติได้มาถึงใน วนั นีผ่านอัจฉริยภาพของยุโรป ในด้านความคิดสร้างสรรค์ทาง วตั ถุและมอบคุณค่าใหม่ทีสมบูรณ์ให้กับมนุษยชาติและ แนวทางทีแท้จริงเชงิ บวกและเปนจริงในเวลาเดียวกัน เพราะมี เพียงอิสลามเท่านันทีครอบครองค่านิยมเหล่านีและแนวทางนี อิสลามไม่สามารถแสดงบทบาทได้ ยกเวน้ โดยการเปนตัวแทน ในสังคม กล่าวคือ มีตัวแทนทีเปน \"ประชาชาติ\"; เพราะ มนุษยชาติไม่รับฟงความเชอื ทีเปนนามธรรมซงึ ไม่เห็นจริงใน ชวี ติ การดํารงอยู่ของประเทศมุสลิมถือได้วา่ ได้ยุติลงเมือ หลายศตวรรษก่อน ประชาชาติอิสลามไม่ใชด่ ินแดนทีศาสนา อิสลามเคยอาศัยอยู่ และไม่ใชช่ นชาติทีบรรพบุรุษในยุค ประวตั ิศาสตร์เคยอาศัยอยู่ในระบอบอิสลาม แต่คือกลุ่มคนทีมี วถิ ีชวี ติ การรับรู้ เงือนไข ระบบ ค่านิยมและความสมดุลล้วนมา จากแนวทางของอิสลาม และกลุ่มคนทีมีลักษณะเหล่านีได้หยุด อยู่ตังแต่การหยุดชะงักของบทบัญญัติของอัลลอฮ์บนหน้า แผ่นดิน ดังนัน จึงจาํ เปนต้องฟนฟูการดาํ รงอยู่ของประชาชาตินี เพือให้ อิสลามมีบทบาทหลักในการเปนผู้นาํ มนุษยชาติอีกครงั ทังนี ระยะ ห่างระหวา่ งความพยายามในการฟนคืนและการฟนฟูและการ เปนผู้นาํ มนุษยชาตินันยังห่างไกลสุดกู่ ห น้ า 2

ประชาชาติอิสลามขาดการดํารงอยู่มาเปนเวลาชา้ นาน แนวคิด คิดอืน ๆ ได้เข้าครอบงําเปนผู้นาํ ของมนุษยชาติมาเปนเวลา นาน และอัจฉริยะของยุโรปในชว่ งเวลานีได้ผลิตผลงานด้าน วทิ ยาศาสตร์ วฒั นธรรม ระบบและการผลิตเชงิ วสั ดุเปน จาํ นวนมหาศาล เปนผลงานยิงใหญ่ทีมนุษยชาติได้ไปถึงและจะ ไม่สูญเสียหรือยอมให้ใครๆมาเปนตัวแทนได้โดยง่าย โดย เฉพาะอย่างยิง เมือสิงทีเรียกวา่ \"โลกอิสลาม\" เกือบจะไม่มีสิง งดงามเหล่านีทังหมด ไม่วา่ จะอย่างไรก็ตามการฟนฟูอิสลามก็ ยังจาํ เปน แม้วา่ ระยะห่างระหวา่ งความพยายามในการฟนฟู และการเปนผู้นาํ ของมนุษยชาตินันยังห่างไกลอย่างยิง ความ พยายามในการฟนฟูอิสลามถือเปนก้าวแรก หากปราศจากสิงนีเรา ก็ไม่สามารถไปบนถนนสายนีได้ 2 - จาฮีลียะฮ์-อวชิ ชา-ร่วมสมัย โลกทังโลกทุกวนั นีอยู่ในสภาพของความจาฮีลียะฮ์-อวชิ ชา-ใน แง่ของแหล่งทีมาขององค์ประกอบของชวี ติ และรัฐ ความ อวชิ ชาทีไม่ถูกบรรเทาด้วยสิงอํานวยความสะดวกด้านวตั ถุ ขนาดมหึมาและความสร้างสรรค์ทางวตั ถุทียิงใหญ่นี จาฮีลียะฮ์-อวิชชา-รว่ มสมัย มีพืนฐานมาจากการล่วงละเมิดต่อ สิทธิอํานาจของพระเจ้าบนโลก และลักษณะเฉพาะทีสุดของ ความเปนพระเจ้า ซงึ ก็คือ \"อํานาจอธิปไตย\" แต่จาฮีลียะฮ์รว่ ม สมัยกลับกําหนดอํานาจอธิปไตยนีใหก้ ับมนุษย์ เปนการทําใหเ้ ปน พระเจ้าซงึ กันและกัน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบดังเดิม พืนๆดังเช่นใน สมัยจาฮีลียะฮ์ยุคแรก หากทวา่ อยู่ในรูปแบบของการอ้างสิทธิใน การจัดทําแนวความคิด ค่านิยม และกฎหมายโดยไม่อ้างอิงวถิ ี ชวี ติ ทีอัลลอฮ์กําหนด อันเปนการจากการละเมิดต่ออํานาจขอ งอัลลอฮ์และละเมิดต่อมวลมนุษยชาติ การกดขีมนุษยชาติโดยทัวไปในระบบการปกครองต่างๆ และ ความอยุติธรรมต่อปจเจกบุคคลและประชาชาติ และการล่า อาณานิคมในระบบทุนนิยม เปนเพียงผลอย่างหนึงของการ ละเมิดอํานาจอธิปไตยของพระเจ้า และการปฏิเสธเกียรติทีอัลลอฮ์ กําหนดไว้สาํ หรบั มวลมนุษย์ ห น้ า 3

ในประเด็นนี แนวทางของอิสลามมีความพิเศษเฉพาะตัว ผู้คนใน ทุกระบอบ - นอกเหนือจากระบอบอิสลาม - จะบูชาซงึ กันและกัน มี เพียงในระบอบอิสลามเท่านัน ทีทุกคนเปนอิสระจากการบูชาซงึ กัน และกัน โดยการนมัสการพระเจ้าเพียงผู้เดียว รบั คําสังจากพระเจ้า เพียงผู้เดียว และยอมจาํ นนต่อพระเจ้าเพียงผู้เดียว นีคือจุดตัด และนีคือแนวความคิดใหม่ทีเราต้องมอบให้กับมนุษยชาติ ไม่ใช่ ผลผลิตของอารยธรรมตะวนั ตกหรืออัจฉริยะของยุโรป 3 - ชนรุ่นคัมภีร์กุรอานทีไม่เหมือนใคร: วธิ ีศึกษาอัลกุรอาน เอกลักษณ์ของซอฮาบะฮ์และความห่างไกลของชนรุ่นหลัง อัลกุรอานอยู่ในมือของเรา หะดีษของท่านนบี - ขออัลลอฮ์อํานวย พรและประทานสันติสุขแก่ท่าน - และต้นแบบในทางปฏิบัติของ ท่านและวิถีชีวิตอันมีเกียรติทังหมด อยู่ในมือของเราเช่นเดียวกับ ทีเปนอยู่ในยุคแรก และมีเพียงตัวตนของท่านนบี ศอลฯ เท่านันที ไม่อยู่ นีเปนเหตุผลหรอื ไม่? หากการมีอยู่ของตัวบุคคลของท่าน นบี ศอลฯ เปนสิงทีหลีกเลียงไม่ได้เพือใหด้ ะวะฮ์นีได้รบั การจัด สถาปนา อัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงเรยี กรอ้ งใหท้ ุกคนปฏิบัติและจะไม่ ทําใหท้ ่านนบีเปนศาสดาสุดท้ายก่อนทีจะถึงจุดสินสุดของกาลเวลา แต่อัลลอฮ์ผู้ทรงฤทธานุภาพรูว้ ่า ดะวะฮ์นีสามารถสถาปนาขึนโดย ไม่มีท่านศาสดา ศอลฯ และสามารถบังเกิดผลได้ ดังนัน การไม่มี ท่านนบี จึงไม่ได้อธิบายความล้มเหลวของเราในตอนนี และไม่ สามารถเปนสาเหตุความตกตําของระบอบอิสลามได้ คัมภีรก์ ุรอ่านเปนเพียงแหล่งเดียวทีพวกเขาในยุคนันได้รบั แรง บันดาลใจ ไม่ใชเ่ พราะวา่ มนุษย์ยุคนันไม่มีอารยธรรม วฒั นธรรม วทิ ยาศาสตร์ หรือการศึกษา ในเวลานันมีอารยธรรม โรมัน วัฒนธรรม หนังสือ และกฎหมาย ซงึ ยุโรปยังคงมีอยู่ และ ยังมีเศษของอารยธรรม ตรรกะ ปรชั ญาและศิลปะของกรกี และมี อารยธรรมเปอรเ์ ซยี ศิลปะ กวีนิพนธ์ ตํานาน ความเชือ และระบบ การปกครองด้วย ตลอดจนอารยธรรมของอินเดีย อารยธรรมจีน และอารยธรรมโรมันและเปอรเ์ ซยี ล้อมรอบคาบสมุทรอาหรบั จาก ทางเหนือและใต้ เช่นเดียวกับศาสนายิวและศาสนาครสิ ต์ทีอาศัย อยู่ใจกลางคาบสมุทรอาระเบีย ดังนันจึงไม่ใชเ่ พราะความไร้ อารยธรรมและวฒั นธรรมโลก ทีทําให้พวกเขาแสวงหาความ ชว่ ยเหลือจากคัมภีร์เพียงอย่างเดียวในชว่ งระยะเวลาของการ ก่อตัง แต่มาจากการดําเนินการโดยเจตนา ห น้ า 4

และไม่ต้องสงสัยเลยว่าการผสมผสานของแหล่งทีมาแรกของ ชีวิต เปนปจจัยสาํ คัญในความแตกต่างทีชัดเจนระหว่างทุกคนรุน่ กับชนรุน่ แรกทีโดดเด่นเฉพาะตัว ปจจัยสาํ คัญอีกประการหนึงคือ วธิ ีการศึกษาอัลกุรอานทีแตก ต่างกัน พวกเขาไม่ได้ศึกษาอัลกุรอานเพือจุดประสงค์ของ วฒั นธรรมและความรู้ หรือเพือจุดประสงค์ในการชนื ชมและ ความเพลิดเพลิน ไม่มีใครศึกษาคัมภีร์กุรอ่านเพือรวบรวม ประเด็นทางวทิ ยาศาสตร์และนิติศาสตร์เพือเติมเต็มความรู้ ของเขา แต่ศึกษาคัมภีร์กุรอ่านเพือรับคําสังจากอัลลอฮ์เกียว กับแนวปฏิบัติของพวกเขาเอง ตลอดชนชุมชนทีอาศัยอยู่และ ชวี ติ ทีมี เมือพวกเขาได้รับคําสังก็จะดําเนินการทันทีทีได้ยิน ดังนัน จะไม่มีใครต้องการศึกษาอัลกุรอานจาํ นวนมากในครงั เดียว เพราะรูส้ ึกว่าพวกเขาต้องแบกรบั ภาระหน้าทีมากเกินไป พวกเขา พอเพียงกับการศึกษา 10 อายะฮ์เพือท่องจาํ และปฏิบัติ วิธีการ ของพวกเขาคือ ศึกษาและปฏิบัติ 4 - ลัทธิชาตินิยมหรือชนชนั นิยม ? บางทีอาจมีการกล่าวว่า มูฮัมหมัด- ขออัลลอฮ์อํานวยพรและ ประทานสันติสุขแก่ท่าน - ผู้สัตย์จรงิ และน่าเชือถือ ซงึ บรรดาผู้นาํ ของเผ่ากุเรชทีก่อนหน้านัน ยินดีต่อคําวินิจฉัยของท่านในฐานะ อนุญาโตตุลาการในปญหาแย่งชิงสิทธิในการวางหนิ ดาํ บนอาคา รกะบะฮ์และพวกเขาก็พึงพอใจกับคําวินิจฉัยของท่าน - ท่าน สามารถทําให้มันเรืองของเผ่าพันธุ์อาหรับก็ได้ ใชล้ ัทธิชาตินิยม โดยมุ่งหมายทีจะรวบรวมชนเผ่าอาหรับทีถูกสงครามกลืนกิน และถูกทําลายล้างด้วยความขัดแย้ง และนาํ พวกเขาไปสู่ความ เปนชาติเพือแย่งชงิ ดินแดนทีถูกอาณาจักรอาณานิคมยึดไป หากท่านนบี - ขอพรและสันติสุขจากอัลลอฮ์จงมีแด่ท่าน - เรียกร้องแนวนี ชาวอาหรับทังหมดจะตอบรับ แทนทีจะต้องทน ทุกข์ทรมานเปนเวลา 13 ป ในการต่อต้านความรวนเรของผู้ ปกครองคาบสมุทรอาหรับ และหลังจากนันก็เผยแผ่หลักคํา สอนเรืองพระเจ้าองค์เดียวให้กับผู้คนภายใต้หลักชาตินิยม ห น้ า 5

แต่อัลลอฮ์ ผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรชี าญาณ - ไม่ได้ประทานศาสนทูต ของพระองค์ - ขออัลลอฮ์อํานวยพรและประทานสันติสุขแก่ท่าน - ด้วยแนวทางนี เพราะการใชแ้ นวทางปลดปล่อยผู้คนจากการ เปนทาสของทรราชโรมันหรือเปอร์เซยี ไปสู่การเปนทาสของ ทรราชอาหรับ ถือวา่ เปนสิงไม่ถูกต้อง ทรราชทังหมดล้วนเปน ทรราช ผู้คนทังมวลเปนทาสของพระเจ้าเพียงผู้เดียว และพวก เขาไม่เปนทาสของพระเจ้าเพียงผู้เดียว เว้นแต่เมือธง\"ไม่มี พระเจ้าอืนใดนอกจากอัลลอฮ์\" ถูกเชิดชูขึน ดังทีชาวอาหรบั ผู้รู้ ความหมายของภาษาของตนตระหนักดีว่า หมายถึง ไม่มีอํานาจ อธิปไตยใดๆนอกจากเปนสิทธิของอัลลอฮ์ ไม่มีกฎหมายใด นอกจากอัลลอฮ์ และไม่มีใครมีอํานาจเหนือผู้อืน เพราะอํานาจ ทังหมดเปนสิทธิของอัลลอฮ์ และเพราะว่าสัญชาติทีอิสลาม ต้องการสาํ หรับผู้คนคือสัญชาติตามความศรัทธา ซงึ อาหรับ โรมัน เปอร์เซยี และเชอื ชาติและสีอืน ๆ ทังหมดเท่าเทียมกัน ภายใต้ร่มธงของอัลลอฮ์ อาจมีคนกล่าวว่ามูฮัมหมัด - ขออัลลอฮ์อํานวยพรและประทาน สันติสุขแก่ท่าน - ทําไมท่านนบีไม่ชูธงทางสังคม และกระตุ้นให้ ทําสงครามกับชนชนั สูง และเพือให้เปนคําสอนทีมุ่งปรับปรุง สถานภาพทางสังคม การคืนความมังคังของคนรวยให้แก่ คนจนแล้วเรียกร้องให้รวมกันเปนหนึง แต่อัลลอฮ์ผู้ทรงปรีชา ญาณรู้ดีวา่ นีไม่ใชท่ างทีถูกต้อง และความยุติธรรมทางสังคม จะต้องเกิดขึนในสังคมจากแนวคิดความเชอื ทีครอบคลุมและ อ้างอิงสู่อัลลอฮ์ และยอมรับด้วยความสมัครใจต่อการจัดสรร ทรัพยากรทีอัลลอฮ์กําหนดไว้ ห น้ า 6

5 - รายละเอียดของระบอบอิสลามอยู่ทีไหน? จาฮีลียะฮ์-ความอวิชชา-ทีล้อมรอบเรา กดดันประสาทของสมัคร พรรคพวกทีจรงิ ใจในการเรยี กรอ้ งของอิสลาม ทําใหพ้ วกเขารบี เรง่ ลัดขันตอนของแนวทางอิสลาม บางครงั ก็จงใจทําใหพ้ วกเขา อับอายด้วยการถามว่า: รายละเอียดของระบอบทีคุณแสวงหา หาอยู่ทีไหน คุณได้เตรียมอะไรไปบ้างในแง่ของการวจิ ัย การ ศึกษา และนิติศาสตร์ตามหลักการสมัยใหม่? ประหนึงสิงทีผู้คนขาดหายไปในเวลานีก็เพียงแค่การจัดทํา กฎหมายของศาสนาอิสลาม การวนิ ิจฉัยและการวจิ ัยหลัก นิติศาสตร์ของอิสลาม ราวกับวา่ พวกเขายอมจาํ นนต่ออํานาจอธิปไตยขอลอัลลอฮ์ แล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่มีมุจตะฮิดทีประมวลหลักนิติศาสตร์ ด้วยวธิ ีการวธิ ีสมัยใหม่ อันเปนการล้อเล่นทีดวงใจทุกดวงทีรูส้ ึกถึงเกียรติของศาสนานีจะ ต้องหลีกเลียง เพราะธรรมชาติการเรียกร้องของอิสลามนัน ทฤษฎีจะต้อง ตกผลึกผ่านการเคลือนไหว เปนหน้าทีของผู้ทีเรียกร้องสู่ อิสลามจะต้องไม่ตอบต่อการรุกรานนี เปนหน้าทีของพวกเขาที จะปฏิเสธการแสดงความเห็นเกียวกับวธิ ีการทีขัดแย้งกับ ยุทธวธิ ีในศาสนาของพวกเขา เปนหน้าทีของพวกเขาทีจะเปดเผยความจรงิ เกียวกับเรอื งน่า อับอายขายหน้านี ตลอดจนหลีกเลียงและปฏิเสธในสิงทีเรียกวา่ การพัฒนาหลัก นิติศาสตร์อิสลามในสังคมทีไม่ประกาศการยอมตนต่อ กฎหมายของอัลลอฮ์ ห น้ า 7

เปนหน้าทีของพวกเขาทีจะปฏิเสธสิงทีจะมาทําใหเ้ สียเวลาทํางาน หนักเพือศาสนา นีเปนหนึงในความลับของความแข็งแกรง่ ของ อิสลาม และเปนทีมาของความแข็งแกรง่ ของพวกเขาเช่นกัน แนวทางในศาสนาอิสลามนันเท่าเทียมฃกับสัจจธรรม และไม่มีการ แบ่งแยกระหว่างกัน แนวทางแปลกๆ อืนใดก็ไม่อาจบรรลุถึงอิสลามได้ในทีสุด การยึด มันในแนวทางมีความจาํ เปนเท่าๆ กับการยึดมันในหลักความเชือ และความมุ่งมันในระเบียบในทุกการเคลือนไหวเพืออิสลาม 6 - ลักษณะของญิฮาด : การเรียกร้องและการเคลือนไหว ลักษณะแรก : คือความสมจรงิ ของศาสนานี อิสลามดาํ เนินไป ตามความเปนจรงิ ของชีวิต และเผชิญหน้ากับมันด้วยวิธีการที เทียบเท่ากัน อิสลามเผชญิ กับความไม่รู้เชงิ แนวคิดด้วยความคิดทีเปนระบบ และใชง้ านได้จริง จากนันก็เผชญิ กับอํานาจทีอยู่เบืองหลัง แนวคิดดังกล่าวในความเปนจริงทังหมดนีด้วยความเท่าเทียม กัน อิสลามจึงเผชญิ หน้ากับแนวคิดโดยการเรียกร้องและชแี จง เพือแก้ไขความเชอื และการรับรู้ และเผชญิ หน้ากับอํานาจเบือง หลังด้วยกําลังและญิฮาดเพือขจัดการขัดขวางผู้คนจาํ นวน มากจากการแก้ไขความเชอื และการรับรู้ ตลอดจนใชอ้ ํานาจ เหนือพวกเขาด้วยการกดขีขัดขวางไม่ให้ผู้คนใชค้ วามคิดโดย เสรี รวมถึงการการหลอกลวงและการเคารพสักการะมนุษย์ด้วย กันเอง อิสลามจึงไม่เผชญิ หน้ากับอํานาจทางวตั ถุด้วยความ คิด และไม่ใชอ้ ํานาจทางวตั ถุในการเผชญิ หน้ากับความคิดของ บุคคล ลักษณะทีสอง: ความสมจรงิ ในการเคลือนไหว มาตรการแต่ละขัน ตอนเหมาะสมกับความจาํ เปนอย่างแท้จรงิ และแต่ละขันตอนจะ ถูกส่งไปยังขันต่อไป การใช้หลักการทีตรงกับข้อเท็จจรงิ จึงเปน สิงไม่ถูกต้อง ดังนัน การญิฮาดบางครังจึงเปนการตังรับ แต่ บางครังเปนการรุกตามบริบททีแตกต่าง ห น้ า 8

ลักษณะทีสาม: การเคลือนไหวอย่างต่อเนืองไม่เบียงเบนไปจาก เปาหมายทีตังไว้ นับตังแต่วันแรกทีอิสลามปฏิบัติต่อเผ่ากุเรชหรอื ชาวอาหรบั ทังหมดหรอื กล่าวแก่โลกด้วยหลักการข้อเดียว ซงึ ก็ คือการยืนยันความเปนบ่าวทาสต่อพระเจ้า และการออกจาก ความเปนทาสมนุษย์สู่การเปนทาสพระเจ้าองค์เดียวโดยเสมอ ภาคกัน โดยไม่มีการประนีประนอมหรือการผ่อนปรนในหลัก การข้อนี ลักษณะทีสี: การกําหนดความสัมพันธ์ระหว่างประชาคมมุสลิมกับ สังคมอืน ๆ ทังหมด บนพืนฐานว่า ศาสนาอิสลามเปนศาสนา สากลทีให้มนุษย์ทุกคนกลับมายอมรับนับถือ การเรียกร้องนีไม่ อาจขวางกันด้วยกําแพงของระบบการเมืองหรือพลังทางวตั ถุ และปล่อยให้เปนเสรีภาพของทุกคนทีจะเลือกนับถือหรือไม่ เลือกด้วยความสมัครใจ แต่ห้ามต่อต้านการเรียกร้องเชญิ ชวน นี หากมีการต่อต้าน อิสลามจะต้องต่อสู้จนกวา่ การต่อต้านนีจะ หมดสินไป 7 - สังคมจาฮีลียะฮ์-สังคมอวชิ ชา-คืออะไร? แนวทางของ อิสลามในการเผชญิ หน้าเปนอย่างไร ? สังคมจาฮีลียะฮ์-สังคมอวชิ ชา-คือสังคมอืนทีไม่ใชส่ ังคม มุสลิม! อันหมายถึง สังคมทุกแห่งไม่ได้ดํารงอยู่เพือส่งเสริม การเคารพบูชาต่อพระเจ้าเพียงผู้เดียว ไม่มีหลักการอิสลามใน ด้านแนวคิดความเชอื ในด้านพิธีกรรมทางจิตวญิ ญาณ และใน ด้านกฎหมาย ด้วยคําจาํ กัดความตามนี สังคมทังหมดทีมีอยู่ในปจจุบันในโลก จึงรวมอยู่ในกรอบของความหมาย สังคมจาฮีลียะฮ์-สังคม อวชิ ชา- ! ห น้ า 9

อันได้แก่ สังคมคอมมิวนิสต์อเทวนิยมทีปฏิเสธการดํารงอยู่ ของพระองค์และการสร้างระบบทาสทีบูชาพรรคคอมมิวนิสต์ ทําใหเ้ กิดการสูญเสียลักษณะของมนุษย์ โดยพิจารณาว่าความ ต้องการพืนฐานของมนุษย์ไม่ต่างความต้องการของสัตว์ ได้แก่ อาหาร เครอื งดืม เครอื งนุ่งหม่ ทีอยู่อาศัย และเพศ และกีดกัน ความต้องการของจิตวิญญาณมนุษย์ทีโดดเด่น อันได้แก่ หลัก ความเชือในพระเจ้า เสรภี าพในการเลือก เสรภี าพในการ แสดงออก ตลอดจนเสรภี าพในการแสดงออกถึงความเปนปจเจก ของเขา รวมถึงสังคมปฏิเสธพระเจ้าองค์เดียวซงึ ยังคงมีอยู่ในประเทศ ต่างๆ ด้วยความเชอื ทีมีพืนฐานมาจากการเทิดทูนผู้อืนทีไม่ใช่ พระเจ้า และโดยการถวายพิธีสักการะแก่เทพเจ้าต่าง ๆ ทังยัง สรา้ งระบบและกฎหมายทีละเมิดต่อพระเจ้าและกฎหมายของ พระองค์ ไม่ว่าระบบและกฎหมายเหล่านีมาจากวัด นักบวช นัก มายากล และผู้ทรงคุณวุฒิ หรอื มาจากองค์กรทางโลกทีมีอํานาจ ในการออกกฎหมายโดยไม่อ้างอิงกฎหมายของพระเจ้า อันหมาย ถึง พวกเขามีอํานาจสูงสุดในนามของประชาชน หรอื ในนามของ ฝาย หรอื ในนามของใครก็ตาม ตลอดจนสังคมทีนับถือพระเจ้าด้วยระบบความเชือทีบิดเบียวในรูป แบบของพระเจ้าหลายองค์ ไม่ว่าจะโดยการมีบุตรหรอื ตรเี อกานุ ภาพ หรอื โดยการจินตนาการถึงพระเจ้า นอกเหนือจากความเปน จรงิ ของพระองค์ ห น้ า 1 0

8 - สังคมมุสลิมทีมีชว่ งเวลาแห่งสังคมจาฮิลียะฮ์ -อวชิ ชา สังคมทีอ้างวา่ เปนสังคมมุสลิมก็อยู่ในกรอบของ สังคมจาฮิลี ยะฮ์ -อวชิ ชา-เชน่ กัน สังคมเหล่านีไม่ได้ตกอยู่ภายใต้กรอบนี เพราะพวกเขาเชอื ในความเปนพระเจ้าอืนจากอัลลอฮ์ หรอื เพราะพวกเขาเคารพสักการะผู้อืนนอกจากอัลลอฮ์ แต่เพราะ ไม่ใชว้ ถิ ีชวี ติ ในฐานะทาสของอัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียว โดย เฉพาะในกรณี \"อํานาจอธิปไตย\" อันเปนลักษณะพิเศษทีสุดของ ความเปนพระเจ้าทีมอบใหแ้ ก่ผู้อืนนอกจากอัลลอฮ์ ตลอดจน กฎหมาย ค่านิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และองค์ประกอบ ทังหมดของชวี ติ อัลลอฮ์กล่าวถึงนักปกครองทีไม่ใช้กฎหมายอิสลามในการ ปกครองว่า ‫َو َﻣ ْﻦ ﻟَ ْﻢ ﻳَ ْﺤﻜُ ْﻢ ﺑِ َﻤﺎ أَ ْﻧ َﺰ َل ﷲُﱠ َﻓﺄُوﻟَ ِﺌ َﻚ ُﻫ ُﻢ ا ْﻟ َﻜﺎ ِﻓﺮُو َن‬ \"ผู้ใดทีไม่ตัดสินด้วยสิงทีอัลลอฮ์ประทานลงมา พวกเขาย่อม เปนผู้ปฏิเสธ\" และกล่าวถึงประชาชนทีไม่ยอมรบั กฎหมายอิสลามว่า ‫أَﻟَ ْﻢ ﺗَ َﺮ ِإ َﱃ اﻟﱠ ِﺬﻳ َﻦ ﻳَ ْﺰ ُﻋ ُﻤﻮ َن أَﻧﱠ ُﻬ ْﻢ آ َﻣ ُﻨﻮا ﺑِ َﻤﺎ أُ ْﻧﺰِ َل ِإﻟَ ْﻴ َﻚ َو َﻣﺎ أُ ْﻧﺰِ َل ِﻣ ْﻦ‬ ‫َﻗ ْﺒ ِﻠ َﻚ ﻳُﺮِﻳ ُﺪو َن أَ ْن ﻳَ َﺘﺤَﺎ َﻛ ُﻤﻮا ِإ َﱃ اﻟ ﱠﻄﺎ ُﻏﻮ ِت َو َﻗ ْﺪ أُ ِﻣﺮُوا أَ ْن ﻳَ ْﻜ ُﻔﺮُوا ﺑِ ِﻪ‬ \"ท่านมิได้พิจารณาบรรดาผู้ทีอ้างตนวา่ พวกเขาศรัทธาต่อสิงที ถูกประทานลงมาแก่ท่าน และสิงทีถูกประทานลงมาก่อนหน้า ท่านดอกหรือ ? โดยทีเขาเหล่านันต้องการทีจะให้การให้อํานาจ ตัดสินแก่ตอฆูต ทัง ๆ ทีพวกเขาถูกใชใ้ ห้ปฏิเสธมัน\" \"‫َﻓﻼ َو َرﺑﱢ َﻚ ﻻ ﻳُ ْﺆ ِﻣ ُﻨﻮ َن َﺣ ﱠﺘﻰ ﻳُﺤَﻜﱢ ُﻤﻮ َك ِﻓﻴ َﻤﺎ َﺷﺠَ َﺮ ﺑَ ْﻴ َﻨ ُﻬ ْﻢ ﺛُ ﱠﻢ ﻻ ﻳَ ِﺠ ُﺪوا‬ ‫\" ِﻓﻲ أَ ْﻧ ُﻔ ِﺴ ِﻬ ْﻢ َﺣﺮَ ًﺟﺎ ِﻣ ﱠﻤﺎ َﻗ َﻀ ْﻴ َﺖ َوﻳُ َﺴﻠﱢ ُﻤﻮا ﺗَ ْﺴ ِﻠﻴ ًﻤﺎ‬ \"มิใชเ่ ชน่ นันดอก ขอสาบานด้วยพระเจ้าของท่านวา่ เขาเหล่า นันจะยังไม่ศรัทธาจนกวา่ พวกเขาจะให้ท่านตัดสินในสิงทีขัด แย้งกันระหวา่ งพวกเขาแล้วพวกเขาไม่พบความคับใจใด ๆ ใน จิตใจของพวกเขาจากสิงทีท่านได้ตัดสินใจและพวกเขายอม จาํ นนด้วยดี\" ห น้ า 1 1

ดังทีอัลลอฮ์ได้อธิบายวา่ ชาวยิวและคริสต์เปนผู้นับถือพระเจ้า หลายองค์ และปฏิเสธอัลลอฮ์ และอธิบายวา่ พวกเขาถือเอา แรบไบและนักบวชเปนพระเจ้านอกเหนือจากอัลลอฮ์ เพียง เพราะพวกเขาให้สิทธิแรบไบและนักบวชในการออกกฎหมาย ทังกรณีกลุ่มเหล่านันและมุสลิมปจจุบัน ถือเปนการละทิง ศาสนาของอัลลอฮ์และการปฏิญาณวา่ ไม่มีพระเจ้าอืนใดนอก จากอัลลอฮ์ สังคมเหล่านีแม้จะบอกวา่ เคารพนับถือศาสนา แต่บางแห่งก็มี วถิ ีชวิ ติ ทางสังคมทีขาดความเชอื มโยงกับศาสนาโดยสินเชงิ และบางคนก็ให้อํานาจอธิปไตยทีมีอํานาจในการกํากับดูแล ทีแท้จริงแก่ผู้อืนนอกจากอัลลอฮ์ แล้วบอกวา่ นีคือหลักการขอ งอัลลอฮ์! พวกเขาเหล่านันทังหมด ล้วนเท่าเทียมกันในการทีพวกเขาไม่ได้อยู่ บนพืนฐานของการดาํ รงสถานะเปนทาสต่ออัลลอฮ์แต่เพียงผู้ เดียว ในเมือเปนเช่นนี จุดยืนของศาสนาอิสลามต่อสังคมจาฮิลียะฮ์ -อวิชชา-ทังหมด ถูกกําหนดไว้ในวลีเดียวว่า คือสังคมทีปฏิเสธที จะยอมรับการใชห้ ลักการอิสลาม\" อิสลามไม่พิจารณาทีชอื ปายและตราทีสังคมทีแตกต่างกัน เหล่านียึดถือ แต่พวกเขาทังหมดมาบรรจบพบกันในข้อเท็จจรงิ เดียว นันคือ ชวี ติ ในพวกเขาไม่ได้อยู่บนพืนฐานของการเปน ทาสโดยสมบูรณ์ต่อพระเจ้าเพียงผู้เดียว ดังนัน มันจึงมา บรรจบกับ สังคมอืนๆ ทังหมดในลักษณะเดียว นันคือ จาฮิลียะฮ์ -อวชิ ชา ห น้ า 1 2

9. เราจะสือกับผู้คนอย่างไร? ในขณะทีเรานาํ เสนอศาสนาอิสลามแก่ผู้คน เราพูดกับผู้คน อย่างมันใจและเข้มแข็ง และเมตตาอารี เปนความมันใจของผู้ทีเชือมันว่าสิงทีอยู่กับเขาคือความจรงิ สิงที อยู่กับผู้อืนคือความเท็จ เปนความเมตตาของผู้ทีเห็นความทุกข์ยากของมนุษย์ รู้ถึงสิง ทีทําให้พวกเขามีความสุข และความเมตตาของผู้ทีเห็นความ เข้าใจผิดของผู้คนทีหลงผิด และรู้วา่ สิงถูกต้องอยู่ทีไหน เปน ความถูกต้องทีไม่มีความถูกต้องใดๆถูกต้องกวา่ เราจะไม่ฉีดศาสนาอิสลามใหแ้ ก่พวกเขา ในขณะทีพวกเขาถูก วางยาสลบ และเราจะไม่กล่อมพวกเขาในขณะทีพวกเขาอยู่ในทาง ทีผิด เราจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมากับพวกเขาว่า “ความอวชิ ชา-จาฮีลียะฮ์-ของพวกท่านเปนความสกปรกมีราคี อัลลอฮ์ต้องการชาํ ระพวกท่านให้บริสุทธิ วถิ ีชวี ติ ของพวกท่าน มันโสมม อัลลอฮ์ต้องการให้พวกท่านอยู่ในความบริสุทธิ และ อิสลามจะเปลียนทัศนคติของพวกท่าน สภาพ และค่านิยมของ พวกท่าน และจะนาํ พวกท่านไปสู่อีกชวี ติ หนึง ทีจะทําให้พวก ท่านจะปฏิเสธชวี ติ นีทีเปนอยู่ในปจจุบัน ซงึ เราได้เหน็ ชีวิตใน ลักษณะดังกล่าวอย่างชัดเจนในใจเรา ผ่านคัมภีรก์ ุรอ่าน ชะรอี ะฮ์ ประวัติศาสตร์ และผ่านวิสัยทัศน์ทีสรา้ งสรรค์ของเราต่ออนาคต จะมาถึงอย่างไม่ต้องสงสัย” นีคือวิธีทีเราควรสือสารกับผู้คน ในขณะทีแนะนาํ พวกเขาใหร้ ูจ้ ัก อิสลาม เพราะนีคือความจรงิ และเพราะว่านีคือภาพทีอิสลามกล่าว กับผู้คนเปนครงั แรก ห น้ า 1 3

เราจะต้องไม่บอกพวกเขาวา่ อิสลามจะไม่ส่งผลกระทบต่อชวี ติ สถานการณ์ การรับรู้ และค่านิยมของพวกเขา เวน้ แต่จะมีการ ปรับเปลียนเล็กน้อย! หรือบอกวา่ อิสลามคล้ายกับระบอบการปกครองทีพวกเขาคุ้น เคย ไม่วา่ จะเปนประชาธิปไตยหรือสังคมนิยม เพราะถือ เปนการขับกล่อมในขณะทีพวกเขากําลังหลับไหล 10 - ความหมายทีแท้จริงของชยั ชนะ ชีวิตและความสุข ความเจ็บปวด ความสบาย และความทุกข์ยาก ทังหมดไม่ใช่คุณค่าทียิงใหญ่บนตาชังแหง่ ผลงาน ชีวิตไม่ใช่สินค้าทีคํานวณกําไรขาดทุน ชัยชนะไม่ได้จาํ กัดอยู่เพียงชัยชนะทีชัดเจน นีเปนหนึงในภาพแหง่ ชัยชนะมากมาย คุณค่าสูงสุดในความสมดุลของอัลลอฮ์ คือคุณค่าของความเชือ ความศรทั ธา และสินค้าทีได้รบั ความนิยมในตลาดของอัลลอฮ์คือ สินค้าแหง่ ศรทั ธา ชัยชนะในรูปแบบสูงสุดคือชัยชนะของจิตวิญญาณเหนือวัตถุ และ ชัยชนะของศรทั ธาเหนือการก่อความวุ่นวาย ในประวัติ \"อัศฮาบุลอุคดูด-เหยือการเผาหมู่\" ดวงวิญญาณของผู้ ศรทั ธามีชัยเหนือความกลัวและความเจ็บปวด และมีชัยเหนือ แรงดึงดูดของโลกและชีวิต และมีชัยเหนือการก่อความวุ่นวาย ชัยชนะทีก่อเกียรติใหแ้ ก่มวลมนุษยชาติในการต่อสู้กับพายุเฮอริ เคนทุกรูปแบบ และนีคือชัยชนะทีแท้จรงิ ทุกคนจะต้องตาย ด้วยเหตุผลทีแตกต่างกัน แต่ทุกคนไม่ได้รบั ชนะเยียงชัยชนะนี และพวกเขาไม่ได้ไปสู่ความยิงใหญ่ใน อาณาจักรอันไกลโพ้น เพราะนันเปนการเลือกสรรและการยกย่องใหเ้ กียรติของอัลลอฮ์ สาํ หรบั กลุ่มบ่าวผู้รบั ใช้ทีมีหวั ใจยิงใหญ่กว้างขวาง พวกเขาตาย เหมือนคนอืน แต่จะโดดเด่นกว่าใครในโลกขององค์ผู้สูงส่งและ โลกของผู้คน ห น้ า 1 4

ในความจรงิ ผู้ศรทั ธาเหล่านัน สามารถเอาชีวิตรอดได้โดยแลกกับ ความพ่ายแพ้ของศรทั ธา แต่พวกเขาจะต้องสูญเสียมากแค่ไหน? และมวลมนุษยชาติสูญ เสียไปเท่าไร เมือทรราชสามารถควบคุมวิญญาณคนได้หลังจากที ควบคุมรา่ งกายแล้ว ? วิสัยทัศน์แรกคือวิสัยทัศน์ระยะสัน ซงึ เกียวกับคนทีวิสัยทัศน์สัน เท่านัน ส่วนวิสัยทัศน์ทีสอง มีความครอบคลุมและยาวไกล เปนมุมมองที อัลกุรอานชีแนะแก่ผู้ศรทั ธา เพราะมันแสดงถึงความจรงิ ทีเปน รากฐานของแนวคิดความศรทั ธาทีถูกต้อง และด้วยการนี ชีวิตของผู้คนจึงเชือมโยงกับชีวิตขององค์ผู้สูงสุด เชือมต่อโลกนีกับปรโลก สนามรบระหว่างความดีกับความชัว ความศรทั ธาและการดือแพ่ง ไม่ใช่แค่เพียงโลกนีแต่เพียงทีเดียว ชีวิตโลกนีไม่ใช่จุดจบของชีวิต และไม่ใช่เวลาตัดสินความขัดแย้งต่างๆ ห น้ า 1 5

วันหนึงในอดีต SEE & EXPLORE