รายงานวจิ ยั ในช้ันเรียน เรือ่ ง การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวชิ าทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ทกั ษะการจาแนกประเภท โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ จัดทาโดย นางสาวศริ วิ รรณ มุนนิ คา กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 จัดทำโดย โรงเรียนนรำางชสปำรวะศชริ ิาวรนรเุ คณราะมหนุ ์ ิน31คำอราหเสัภนอักแศมกึ่แษจมำ่ 5จ6งั 1ห8ว1ดั เ5ช7ยี 0งใ1ห2ม1่ สังกดั สานกั บรหิสาำรขงำาวนิชกำชารีวศวทิึกษยำาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
1. ช่ือเรื่องวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภท โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ 2. ชือ่ ผูว้ จิ ยั นางสาวศิรวิ รรณ มุนินคา 3. ระยะเวลาที่ทาวิจัย ดาเนินการทดลองในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ใช้เวลาในการทดลอง 2 คาบ คาบละ 50 นาที 4. ความเปน็ มาและสาเหตุของปัญหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งในการเพ่ิมทักษะความรู้ในขั้น ต่างๆ ได้ ซ่ึงจะส่งผลต่อการเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของวิชานั้นๆ เนื่องจากนักเรียนได้มีบทบาทในการ เรียนรู้มากข้ึน มีการฝึกปฏิบัติจริงและสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ถ้าครูจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสาระ และกระบวนการเหมาะสมกับความตอ้ งการและความสามารถของนกั เรียน มีการบูรณาการเนอ้ื หาสาระเขา้ กับ ชวี ติ ประจาวันและเข้ากบั วิชาทีเ่ กีย่ วขอ้ ง โดยครจู ะเปน็ ผกู้ ระตุ้นใหน้ ักเรียนนาความรทู้ ไ่ี ด้รับไปสร้างเป็นความรู้ ใหม่ นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นท่ีจะเรียน ต้องแสวงหาความรู้และลงมือทากิจกรรมด้วยตนเอง เกิดแรง เสริมให้นักเรียนอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ได้นาความรู้ไปใช้สร้างความรู้ใหม่โดยพยายามค้นหาหลักฐานมา สนับสนุนความคิดเห็นของตนก่อนท่ีจะนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ซง่ึ เปน็ พฤติกรรมทแ่ี สดงออกถึงการ มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี น จากประสบการณ์สอนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 พบว่า นักเรียนทเี่ รียนวชิ าเลอื กในรายวชิ าทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2-3 โดยส่วน ใหญ่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า ท้ังนี้เกิดจากสาเหตุสาคัญคือผู้เรียนไม่สนใจเรียน ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทางด้านเน้ือหา จึงเป็นเหตุให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า ซ่ึงพบปัญหามากที่สุดในบทเรียน เรื่อง ทักษะการ จาแนกประเภท โดยจะเหน็ ไดจ้ ากผลการสอบเก็บคะแนนของนกั เรียนทพี่ บว่ามีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ากว่า เกณฑ์ จงึ จาเปน็ ทจี่ ะตอ้ งรีบแก้ไขหรือพัฒนาให้นักเรียนกลุ่มนมี้ ีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีสงู ขึน้ โดยตอ้ งมวี ิธีท่ี ให้นักเรียนสามารถฝึกฝนด้วยตนเองได้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้จึงเป็นวิธีหนึ่งที่เหมาะสมท่ีจะเป็นสื่อช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีการจัดการเรียนรู้ไว้อย่างเป็นระบบ มีข้อชวนคิดและคาถามท้าย กจิ กรรมใหน้ กั เรยี นฝึกทา เปน็ การชว่ ยสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนมคี วามรับผิดชอบต่อตนเอง มีการเรยี นรอู้ ยา่ งอิสระ เร้าความสนใจ ไม่ก่อให้เกิดความเบ่ือหน่าย ส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพ่ือให้เกิด กระบวนการพฒั นาในทุกๆ ด้าน จากการศึกษาสภาพปญั หาดงั กล่าว ผูว้ ิจยั จึงสนใจที่จะสร้างชุดกิจกรรมการเรยี นรู้เป็นนวัตกรรมหรือ ส่ือการจัดการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวชิ าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ทักษะ การจาแนกประเภท ของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 เพื่อให้นักเรียนเรียนได้ฝึกกระบวนการเรียนรู้ การค้นคว้าด้วยตนเอง เกิดการพัฒนา ความรู้และสรา้ งองคค์ วามรู้ได้ด้วยตนเองและสามารถนาความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปใช้ศกึ ษาต่อในระดับสงู ได้
5. แนวทางการแก้ปญั หา ผ้วู ิจัยจัดทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน เร่ือง ทกั ษะการจาแนกประเภท และชุดกิจกรรมการ เรียนรู้ เร่ือง ทักษะการจาแนกประเภท เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนวิชาเลือกในรายวชิ าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 เพื่อให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรยี นเรอื่ ง ทักษะการจาแนกประเภทหลังเรยี นสงู กวา่ ก่อนเรียน 6. วัตถปุ ระสงคข์ องการวิจัย เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภทของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือก ในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 7. วิธีดาเนินการวจิ ัย 7.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง ประชากร นักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2-3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 กลมุ่ ตัวอย่าง นักเรียนที่เรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษา ปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จานวน 14 คน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 7.2 เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในงานวิจยั เครือ่ งมือท่ีใช้ในการวจิ ยั มี 2 ชดุ ได้แก่ 1. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ทักษะการจาแนกประเภท 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ทักษะการจาแนกประเภท ช้ันมัธยมศึกษา ปที ่ี 2-3 โดยสรา้ งขึ้นเปน็ ข้อสอบแบบเลอื กตอบชนิด 4 ตัวเลอื ก จานวน 20 ขอ้ 7.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลของผู้วิจัยไดด้ าเนนิ ตามข้นั ตอน ดังนี้ 1. ใหน้ ักเรียนกลุ่มเป้าหมายทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นกอ่ นได้รับการจดั การ เรียนรดู้ ว้ ยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จากนนั้ นาแบบทดสอบมาตรวจให้คะแนน ข้อละ 1 คะแนน แลว้ นาคะแนนสอบท่นี กั เรียนแตล่ ะคนทาไดเ้ กบ็ ไว้ รวม 10 คะแนน
2. วิเคราะห์หาค่าเฉล่ยี คา่ รอ้ ยละจากจากคะแนนการทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน กอ่ นการจดั การเรียนรดู้ ว้ ยชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ดาเนินการจัดการเรียนรดู้ ้วยชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังดาเนนิ การจดั การเรียนร้ดู ้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ซงึ่ มีขอ้ คาถามที่เกยี่ วขอ้ งกบั เรอ่ื ง ทกั ษะการจาแนกประเภท แบบปรนยั ชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก รวมจานวนทง้ั หมด 20 ข้อ (เป็นแบบทดสอบชุดเดียวกับกอ่ นการ ทดลองแต่เรยี งขอ้ สลับกนั ) 5. วเิ คราะห์หาคา่ เฉล่ีย ค่ารอ้ ยละจากจากคะแนนการทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการ เรียนหลังการจดั การเรียนรู้ดว้ ยชุดกิจกรรม 6. วิเคราะห์ค่าความก้าวหน้าของคะแนนท่ีนักเรียนทาได้จากคะแนนการทาแบบทดสอบวดั ผล สมั ฤทธิ์ทางการเรยี นหลังการจดั การเรยี นรู้ด้วยชุดกจิ กรรม 7.4 การวเิ คราะหข์ ้อมูลและสถิติทีใ่ ช้ การวเิ คราะหข์ ้อมูล ผู้วจิ ยั ใช้สถติ ิและดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดังน้ี เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกใน รายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2-3 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้สถิติพืน้ ฐาน ได้แก่ 1. การหาคะแนนความก้าวหนา้ โดยใชส้ ตู ร เม่อื ������1 ������2 − ������1 ������2 แทน คะแนนก่อนการจัดการเรยี นรดู้ ้วยชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ แทน คะแนนหลังการจดั การเรยี นรดู้ ว้ ยชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 2. หาค่าเฉล่ียของคะแนนทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียนจากสูตร ���̅��� = ∑ ������ ������ เม่อื ������ แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนน ∑ ������ แทน ผลรวมของคะแนน ������ แทน จานวนนกั เรียนในกลมุ่ ตัวอยา่ ง
3. หาค่าความเบ่ยี งเบนมาตรฐานจากสูตร ������. ������ = √������ ∑ ������2 − (∑ ������2) ������(������ − 1) เม่อื ������. ������ แทน คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ ������ แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมด ∑ ������2 แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกาลงั สอง ������ แทน จานวนนักเรยี นในกลุ่มเป้าหมาย 8. ผลการวจิ ยั ตารางที่ 1 ค่าเฉลย่ี และค่ารอ้ ยละของคะแนนผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนกั เรียนก่อนเรียนรู้ด้วยชุด กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง ทกั ษะการจาแนกประเภท คะแนนเต็ม ���̅��� (E1) 20 10.13 50.65 จากตารางท่ี 1 พบว่าค่าเฉล่ยี ของคะแนนการทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นหลงั เรียนรู้ ด้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ทกั ษะการจาแนกประเภท มคี ่าเทา่ กบั 10.13 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 50.65 ตารางที่ 2 ค่าเฉลย่ี และคา่ รอ้ ยละของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรียนหลังการเรยี นรู้ด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภท คะแนนเต็ม ���̅��� (E2) 20 15.88 79.40 จากตารางที่ 2 พบว่าค่าเฉล่ียของคะแนนการทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังการ เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภท มีค่าเท่ากับ 15.88 คิดเป็นร้อยละ 79.40
ตารางท่ี 3 ผลการวเิ คราะห์ประสิทธิภาพของชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ทักษะการจาแนกประเภท ของนักเรยี นทเ่ี รยี นวชิ าเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2-3 จานวนนักเรียน (คน) ประสทิ ธิภาพระหวา่ งเรยี น (E1) ประสิทธภิ าพหลังเรยี น (E2) 14 50.65 79.40 จากตารางท่ี 3 พบวา่ ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทกั ษะการจาแนกประเภทของ นกั เรียนทีเ่ ลอื กเรยี นวิชาเลือกในรายวชิ าทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2-3 มีคา่ เทา่ กบั 50.65/79.40 ซ่ึงสงู กวา่ เกณฑ์ที่กาหนดไว้ คือ 50/70 ตารางที่ 4 ผลการวเิ คราะห์คา่ คะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และคา่ คะแนน ความก้าวหน้าของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภทของ นกั เรียนทเี่ รียนวิชาเลือกในรายวชิ าทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2-3 ชอื่ -สกุล ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ค่าความกา้ วหน้า X1 X2 X2-X1 1.เด็กหญงิ ชนิภา ศกั ดช์ิ ินธาดากุล 9 18 9 8 15 10 2.เด็กหญิงสุทธิกา บริบทคุณธรรม 9 16 13 8 14 10 3.เดก็ หญงิ รตั นา ภมู อิ นนั ต์พนาไพร 12 15 12 10 15 12 4.เด็กหญิงดาริน เซง็ ยะ 13 15 13 9 15 10 5.เดก็ หญงิ อโนมา อัตตะแจ่มใส 13 14 7 2 16 14 6.เดก็ หญิงสณุ ิสา มานะวรศกั ด์ิ 10 18 14 10 18 15 7.เดก็ หญงิ แสงระวี มงคลเลิศนภา 12 16 10 14 17 13 8.เด็กหญิงจิตรลดา กญั ญาเกิดกุล 10.13 15.88 - 2.99 1.36 - 9.เดก็ หญงิ ณฐั วรา ขจรสภุ าพกร 10.เดก็ หญงิ ราชพฤกษ์ วชิ ยคาม 11.เดก็ หญิงณิชา กูนะ 12.เด็กหญิงวนัชรพร ฤทยั กูลมนั่ คง 13.เด็กหญงิ ปาลกิ า พนาใสสุวรรณ 14.เด็กหญงิ ปารษิ า พนาใสสุวรรณ ���̅��� S.D.
จากตารางที่ 4 พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี นท่ีเรยี นร้ดู ้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง ทักษะการจาแนกประเภทของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2-3 หลงั เรียนสงู กวา่ ก่อนเรียน โดยมคี ะแนนก่อนเรียนเทา่ กบั 10.13 คะแนน ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 2.99 และคะแนนเฉล่ียหลังเรียนเท่ากับ 15.88 ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน 1.36 เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคลพบว่านักเรียนได้คะแนนเพิ่มขึ้นทุกคนโดยมีค่า ความกา้ วหน้า เพ่มิ ข้นึ ที่ 7-15 คะแนน แสดงว่านักเรยี นทีเ่ รียนดว้ ยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ทักษะ การจาแนกประเภทมีผลสัมฤทธก์ิ ารเรยี นหลงั เรยี นสูงขึ้นกวา่ กอ่ นเรยี น 9. สรปุ และสะท้อนผลความคิดเชงิ วชิ าชีพ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง ทักษะการจาแนก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ข อ ง นั ก เ รี ย น ท่ี เ รี ย น วิ ช า เ ลื อ ก ใ น ร า ย วิ ช า ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จานวน ทงั้ สิ้น 14 คน ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 จากการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ทกั ษะการจาแนกประเภท เพ่อื พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถสรุปผลได้ ดังน้ี ผลคะแนนจากการทาแบบวัด ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัด เชยี งใหม่ มีคะแนนเฉลย่ี สูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดไวค้ ือ รอ้ ยละ 70 ของคะแนนทง้ั หมด ข้อมลู ขา้ งตน้ แสดงให้เหน็ วา่ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ทักษะการจาแนกประเภทมีผลต่อ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2-3 โดยทาให้คะแนนหลงั เรยี นสูงกวา่ กอ่ นเรียน
ภาคผนวก
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ทกั ษะการจาแนกประเภท จดั ทาโดย นางสาวศิริวรรณ มนุ ินคา ตาแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลชา่ งเคิ่ง อาเภอแม่แจม่ จังหวดั เชียงใหม่ สงั กัดสานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ทักษะการจาแนกประเภท เป็นหนง่ึ ในทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์อีก 13 ทักษะ ก่อนจะศึกษาขอให้นักเรียนทาตามข้อควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. ควรทาแบบทดสอบก่อนเรียนก่อนท่ีศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อมตรวจคาตอบ แล้วบนั ทกึ ผลการทดสอบไว้ 2. ดาเนินการฝึกทักษะตามกิจกรรมท่ีกาหนดไว้เรียงตามลาดับจากกิจกรรมแรกถึง กิจกรรมสุดท้าย 3. ควรทาแบบทดสอบหลังเรียน หลังจากนักเรียนดาเนินการฝึกทักษะทุกกิจกรรมแล้ว ตรวจคาตอบ บนั ทึกผลการทดสอบ และนาผลคะแนนในคร้ังน้ีไปเปรียบเทียบกบั ผลคะแนนในการ ทาแบบทดสอบ ก่อนเรียนนักเรียนจะทราบความก้าวหน้าและความสามารถในการเรียนรู้ก่อน เรียน และจะทราบความก้าวหน้าและความสามารถในการเรียนรู้ของตนเอง และสามารถ พฒั นาการเรียนรใู้ หม้ ีประสทิ ธิภาพยิง่ ขน้ึ
แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง ทักษะการจาแนกประเภท คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบมที ้งั หมด 20 ขอ้ คะแนนเต็ม 20 คะแนน เวลา 20 นาที 2. นกั เรียนอา่ นแบบทดสอบทลี ะข้อแล้วกาเคร่ืองหมาย X ทบั อกั ษร ก ข ค หรอื ง ท่ีถกู ทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว 1. เครือ่ งใชใ้ นข้อใดจดั เป็นพวกเดยี วกันกับเครือ่ งซักผ้า ก. แหล่งอาหาร ข. ความยาวของลาตวั ก. เตารีด , กระติก ค. ขนาดของลาตวั ง. แหลง่ ที่อยู่อาศัย ข. ถงั น้าแขง็ , กระตกิ น้าร้อน 6. รื่นฤดี จาแนกสตั วอ์ อกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ ค. ต้เู ยน็ , เตารดี ประเภทที่ 1 กระต่ายกนิ พชื ชา้ งกนิ พืชเปน็ ง. ถงั ํน้า , หม้อหุงข้าว เปน็ อาหาร อาหาร 2. สตั ว์ในข้อใดที่จดั อยูใ่ นกลุ่มเดียวกนั ประเภทท่ี 2 ววั กนิ พืชเป็น วัวกินพืชเป็น ก. ไก่ , เสอื , ช้าง อาหาร อาหาร ข. หนู , หอย , แมว นักเรยี นคิดว่า รื่นฤดจี าแนกสัตว์ออกเป็น 2 ประเภท โดยใช้ ค. ลงิ , กระตา่ ย , ชา้ ง อะไรเป็นเกณฑ์ ง. ไสเ้ ดอื น , ปู , มา้ ก. ประเภทของอาหาร ข. มกี ระดูกสนั หลงั 3. กลา้ ดี แบ่งผกั ออกเป็นสองพวก ดงั น้ี ค. สัตวเ์ ลี้ยงลกู ด้วยํนา้ นม ง. แหลง่ ที่อยูอ่ าศัย พวกท่ี 1 พวกท่ี 2 7. มีอาหาร 6 ชนิด คอื เน้ือแดดเดียว ไขเ่ จยี ว ปลาททู อด ขา้ ว ฟกั ทอง บวบ คะน้า ผกั ชี สม้ ตา และผดั คะน้า ถ้าเราจะแบง่ เป็น 2 แตงกวา ถ่ัวฝกั ยาว ตน้ หอม ผกั กาด กลุ่ม คือ อาหาร ได้จากพืชและสัตว์ นักเรียนคิดว่าอาหาร นักเรยี นคิดว่ากลา้ ดใี ชเ้ กณฑ์อะไรในการแบง่ ผกั อะไรบา้ งจะอยใู่ นกล่มุ เดียวกัน เหล่านี้ ก. ก. ลักษณะของลาต้น ข. สว่ นทใี่ ชร้ ับประทาน กลุม่ ท่ี 1 เนอ้ื แดดเดยี ว สม้ ตา ข้าว ค. ฤดูกาล ง. อายุการเกบ็ เกยี่ ว กลมุ่ ท่ี 2 ผดั คะน้า ไขเ่ จียว ปลาททู อด 4. ถ้าแบ่งผลไม้ออกเปน็ พวกๆ ผลไม้ในข้อใดควรอยพู่ วก ข. เดยี วกนั กับขนุน กลมุ่ ที่ 1 ส้มตา ขา้ ว ไข่เจยี ว ก. มะนาว ข. มะพรา้ ว กลุ่มท่ี 2 เนื้อแดดเดยี ว ปลาทูทอด ผดั คะน้า ค. มะยม ง. มะมว่ ง ค. 5. กลมุ่ ที่ 1 สม้ ตา ผดั คะน้า ข้าว กล่มุ ที่ 2 ปลาททู อด ไขเ่ จียว เนือ้ แดดเดยี ว ง. จากภาพ นักเรยี นใช้เกณฑ์อะไรในการจดั กลุ่มของสตั ว์ชนิด กลุ่มที่ 1 ปลาทูทอด ขา้ ว ส้มตา ตา่ งๆ ได้เป็น 2 กลุ่ม กลมุ่ ท่ี 2 ไข่เจยี ว เนอื้ แดดเดียว ปลาทูทอด
8. เราสามารถใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่งกลุ่มสสารในห้อง 12. ขอ้ ใดจดั เปน็ สัตวป์ ระเภทเดยี วกนั โดยใช้ทอ่ี ยู่อาศยั เปน็ วทิ ยาศาสตร์ได้ 3 กลมุ่ เกณฑ์ ยางลบ ผงเกลือ นา้ แข็ง ก. กงุ้ กบ ข. ปลา หอย น้ามะนาว น้านม นา้ มนั พืช ค. เสอื จระเข้ ง. เตา่ ค้างคาว อากาศ ออกซิเจน แกส๊ หงุ ต้ม 13. ตวั เลขในขอ้ ใดแตกต่างจากพวก ก. รูปร่างภายนอก ข. สถานะของสาร ก. 64 ข. 36 ค. ประโยชน์การใชง้ าน ง. สีของสาร ค. 27 ง. 25 9. จากการแบ่งกลุ่มของผลไม้ออกเป็นสองกลุ่ม ดังต่อไปน้ี 14. สตั วใ์ นข้อใดตอ่ ไปนแี้ ตกต่างจากพวกโดยใช้การออกลูก นกั เรยี นจะใช้เกณฑใ์ ดในการจาแนก เปน็ เกณฑ์ ก. สผี ิวภายนอก (เรียบ – ขรุขระ) ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2 ข. ราคา (แพง – ถูก) ค. ขนาดผล (ใหญ่ – เลก็ ) ค. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4 ง. รส (หวาน - เปรยี้ ว) 10. 15. จากตารางใชเ้ กณฑ์จาแนกประเภท A และ B ข้อใด จากภาพ นักเรยี นคิดวา่ ครูใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่งพืช เหมาะสมที่สุด ออกเป็นพวกๆ ก. ใบเลี้ยงเด่ยี ว – ใบเล้ียงคู่ มะขาม ลาไย ข. มผี ล – ไม่มีผล ค. พชื ดอก – พชื ไรด้ อก มะนาว ละมุด ง. ไม้ยืนตน้ – ไม้ลม้ ลกุ 11.จากภาพข้อใดไม่เข้าพวก สม้ เงาะ ก. สสี ัน ข. รสชาติ ค. ลักษณะผล ง. ลักษณะลาต้น 16. จากการแบ่งพืชข้างลา่ งเปน็ 2 ประเภท ตอ่ ไปนี้ แบ่งโดย ใชเ้ กณฑอ์ ะไร ประเภทท่ี 1 ตาลึง บวบ แตงโม พริกไทย ประเภทที่ 2 พรกิ มะเขือ มะม่วง ฝรั่ง ก. อายุ ข. ท่อี ยู่ ค. ลักษณะลาต้น ง. ประโยชน์ทไี่ ด้รับ 17. ข้อใดเรียงลาดับเหตกุ ารณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ก. 2 4 1 3 ข. 3 1 2 4 ค. 3 2 1 4 ง. 4 3 2 1
18. สตั วใ์ นขอ้ ใดจดั อยูพ่ วกเดยี วกับ ปลาทู ก. ปลาดกุ ข. ปลาชอ่ น ค. ปลาหมอ ง. ปลาอินทรี 19. ในการจัดกล่มุ ไก่ เป็ด หา่ น นกเอย้ี ง ไว้ในพวกเดียวกนั ใช้เกณฑ์ในข้อใด ก. ท่อี ยู่ ข. สัตวป์ กี ค. สัตว์เลย้ี ง ง. กนิ อาหาร 20. โอปอจดั กล่มุ ของ นา้ ตาล เกลือ ผงชูรส ให้อยู่ในกล่มุ เดียวกนั โดยใชเ้ กณฑ์ใด ก. กา๊ ซ ข. โลหะ ค. ของแข็ง ง. ของเหลว
8 ใบความรู้ ชดุ ที่ 4 ทกั ษะการจําแนกประเภท การจําแนกประเภท หมายถึง การจัดส่ิงต่างๆ ออกเป็นกลุ่มๆ ต้ังแต่ 2 กลุ่มข้ึนไป หรือการจัด เหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละเหตุการณ์ โดยมีเกณฑ์เป็นตัวกําหนดในการจัดกลุ่มหรือสถานการณ์น้ันๆ ถ้า เป็นสิ่งมีชีวิตมักจะใช้เกณฑ์ ที่มีลักษณะของส่ิงมีชีวิต เกณฑ์ท่ีใช้มักจะเป็นลักษณะผิว รูปร่าง ขนาด วสั ดุทใี่ ช้ประโยชน์ ราคา เปน็ ต้น เกณฑ์ที่ใช้ในการจําแนกประเภท คือ ลักษณะของสิ่งหนึ่งส่ิงใดที่กําหนดข้ึนมาแล้ว ใช้ประสาทสมั ผัสสังเกตดูวา่ สง่ิ ทนี่ าํ มาจาํ แนกนนั้ มลี ักษณะตามเกณฑ์ท่กี ําหนดขึ้นมาหรอื ไม่ ความสามารถท่แี สดงวา่ เกดิ ทักษะการจาํ แนก 1. สามารถแบ่งพวกของสงิ่ ต่างๆ จากเกณฑท์ ผ่ี อู้ น่ื กําหนดให้ได้ 2. สามารถเรียงลาํ ดบั สงิ่ ของด้วยเกณฑ์ของตนเองได้ 3. บอกได้ว่าผอู้ ่ืนแบ่งพวกของส่ิงนน้ั โดยใชอ้ ะไรเปน็ เกณฑ์
9 กจิ กรรมท่ี 1 ชุดท่ี 4 ทักษะการจําแนกประเภท www.thaicomment.com www.thaigoodview.com www.flash-mini.com www.biogang.net www.research.rae.mju.ac.th www.cpcrop.com www.n3k.in.th www.flach-mini.com www.stou.ac.th www.xn-12c1dkdorn4dp8jybyce. blogspot.com จากภาพ แบ่งกลมุ่ ของพชื ไดด้ งั น้ี จัดกลมุ่ พชื กลุ่มที่ 1 กล่มุ ที่ 2 กหุ ลาบ ขนนุ มะลิ ข้าว เตย มะพรา้ ว ฝรงั่ น้อยหน่า ไผ่ กลว้ ย ตอบคาํ ถาม 1. กลมุ่ ท่ี 1 จัดอยใู่ นประเภทพืช ............................................................................................................ 2. กลมุ่ ที่ 2 จดั อยู่ในประเภทพชื ............................................................................................................ 3. นักเรยี นคิดวา่ ใช้อะไรเปน็ เกณฑ์ในการจัดจําแนกประเภท............................................................ .........................................................................................................................................................................
10 กิจกรรมที่ 2 ชดุ ที่ 4 ทักษะการจําแนกประเภท คาํ ชแี้ จง นกั เรียนสังเกตภาพสัตวต์ ่อไปน้ีแลว้ ตอบคาํ ถาม www.bestfish4u.com www.kanchanapisek.or.th www.myfirstbrain.com www.thaikasetsart.com www.4tort.com www.touch.exteen.comwww.alangcity.blogspot.com www.rtancmis.com www.eco-agrotech.com www.scoop.mthai.com www.biogang.net www.oknation.net 1. นกั เรยี นจะจดั ประเภทของสัตว์ชนิดต่างๆ จากภาพข้างบนตามเกณฑ์ของตนเองไดอ้ ย่างไร ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ 2. ให้นักเรยี นจัดกลุ่มสัตวโ์ ดยจาํ นวนขาเปน็ เกณฑ์ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ 3. ใหน้ กั เรียนจัดกลมุ่ ของสัตวโ์ ดยใชก้ ระดกู สันหลงั เป็นเกณฑ์ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................
11 กจิ กรรมที่ 3 ชดุ ที่ 4 ทักษะการจาํ แนกประเภท คาํ ชแี้ จง นกั เรยี นสงั เกตภาพสัตว์ต่อไปน้ี แล้วจําแนกประเภทโดยใชเ้ กณฑ์ของนักเรียนเอง www.th.wikipedia.org www.8eoop.mthai.com www.beetle2.weloveshopping.com www.thaicattle.org www.kanchanapisak.or.th www.oknation.net www.myfirstbrain.com www.rtancmis.com
12 กิจกรรมที่ 4 ชุดที่ 4 ทกั ษะการจําแนกประเภท คาํ ชี้แจง นักเรยี นสงั เกตภาพ แล้วแยกประเภทตามเกณฑท์ ่ีกําหนดให้ www.n3k.in.th www.baanmaha.com www.manager.co.th www.xn-22c66uahm7b6c3b8g.com www.flash-mini.com www.kasetporpeang.com www.bloggang.com www.flash-mini.com www.vitamin.co.th www.greenerald.com www.natvrerich.com 1. ถ้าใช้ชนิดของใบในการแบง่ กลุ่ม ใบเลย้ี งเด่ยี ว ไดแ้ ก่ .................................................................................................................... ใบเลย้ี งคู่ ได้แก่ ........................................................................................................................... 2. ถา้ ใชผ้ กั และผลไม้เปน็ เกณฑ์ในการจัดกลมุ่ ผกั ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................................ ผลไม้ ได้แก่ ......................................................................................................................................... 3. ถ้าใช้พืชยนื ต้น กับพืชลม้ ลุกเป็นเกณฑ์ในการแบ่งกลมุ่ พชื ยนื ต้น ได้แก่ ................................................................................................................................... พชื ล้มลกุ ได้แก่......................................................................................................................................
13 เฉลยคาํ ตอบ กจิ กรรมท่ี 1 ชุดที่ 4 ทักษะการจําแนกประเภท ตอบคาํ ถาม 1. กลุ่มท่ี 1 จดั อยู่ในประเภทพืช ..............ใ..บ....เ.ล....้ีย...ง..ค...ู่........................................................................... 2. กลมุ่ ที่ 2 จดั อยู่ในประเภทพชื ............ใ..บ....เ.ล....ีย้ ...ง..เ..ด...่ยี....ว....................................................................... 3. นักเรียนคิดวา่ ใช้อะไรเปน็ เกณฑใ์ นการจัดจําแนกประเภท............................................................ ........................................ช....น...ิด...ข....อ...ง..ใ...บ.....(..ใ..บ....เ..ล...ีย้...ง...ค...ู่..–....ใ..บ....เ..ล...ีย้...ง...เ.ด....ยี่ ...ว...)..............................................
14 เฉลยคาํ ตอบ กิจกรรมที่ 2 ชดุ ท่ี 4 ทักษะการจําแนกประเภท 1. นกั เรยี นจะจดั ประเภทของสัตว์ชนิดต่างๆ จากภาพข้างบนตามเกณฑข์ องตนเองได้อย่างไร ................ส...ัต...ว...ม์....ปี ...ีก.....–.....ส...ัต...ว...ไ์..ม....ม่...ีป....ีก............................................................................................................................ ................ม...ีก...ร...ะ...ด...ูก...ส...ัน....ห...ล....ัง....–.....ไ..ม...ม่...กี...ร...ะ...ด...ูก...ส....ัน...ห....ล...ัง.............................................................................................. 2. ใหน้ ักเรยี นจดั กลุม่ สตั ว์โดยใชเ้ กณฑ์จํานวนขา ................ส...ัต...ว...์ท....ีม่...ี....2......ข....า......ไ..ด....แ้ ...ก...่....ไ..ก...่....น...ก.......เ..ป...ด็................................................................................................ ................ส...ตั...ว...์ท....ีม่...ี....4......ข....า......ไ..ด....แ้ ...ก...่....ก...บ.......ช....า้ ..ง......ห....ม...ู....ห....น...ู................................................................................ 3. ใหน้ ักเรียนจดั กลุ่มของสัตว์โดยใช้กระดูกสนั หลงั เป็นเกณฑ์ ................ส...ัต...ว...ท์....่ีม...ีก...ร...ะ...ด...ูก...ส...นั....ห...ล....งั......ไ..ด...้แ....ก...่...ป....ล...า.......เ.ป....็ด.......ห...ม....ู...ไ..ก....่ ...ห....น...ู....น....ก......ก....บ.......ช...า้...ง....................... ................ส...ตั...ว...ไ์..ม....ม่ ...ีก...ร...ะ...ด...กู...ส...ัน....ห...ล....ัง......ไ..ด...แ้...ก....่ ...ไ..ส....้เ.ด....อื ...น.....ผ...เี..ส...ือ้.....ห....อ...ย.....ป....ู........................................................
15 เฉลยคาํ ตอบ กจิ กรรมที่ 3 ชดุ ท่ี 4 ทกั ษะการจําแนกประเภท 1. แบง่ ตามประเภทขา - สตั ว์สองขา ได้แก่ กา เปด็ นก ไก่ - สตั วส์ ่ขี า ไดแ้ ก่ ชา้ ง เตา่ วัว หมู 2. แบง่ ตามประเภทของสัตวป์ ีก - สตั ว์มปี ีก ไดแ้ ก่ นก กา เป็น ไก่ - สตั ว์ไม่มีปีก ไดแ้ ก่ ชา้ ง หมู เตา่ ววั 3. แบ่งตามประเภทสัตว์ที่บินได้ – บินไม่ได้ - สตั วบ์ ินได้ ได้แก่ นก กา ไก่ เปด็ - สตั ว์บนิ ไมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ ววั ชา้ ง หมู เต่า
16 เฉลยคาํ ตอบ กจิ กรรมท่ี 4 ชุดที่ 4 ทกั ษะการจําแนกประเภท 1. ถ้าใช้ชนิดของใบในการแบง่ กลุ่ม ใบเลีย้ งเดีย่ ว ไดแ้ ก่ .......ข...่า.......ก...ุย๊...ฉ...า่...ย.......ม...ะ...พ....ร...า้ ..ว.......ต...ะ...ไ..ค...ร...้....ก...ล...ว้...ย....................................................................... ใบเล้ยี งคู่ ได้แก่ .............ส....้ม...โ..อ.......ม...ะ...พ....ร...้า..ว.......ก...ล....ว้ ...ย......แ....ต...ง...โ..ม.......ท...เุ..ร...ีย...น................................................................. 2. ถา้ ใชผ้ กั และผลไม้เปน็ เกณฑ์ในการจัดกลุ่ม ผกั ไดแ้ ก่ .......................ต....ะ..ไ..ค....ร..้....ฟ....ัก...ท....อ...ง......ม...ะ...เ..ข...ือ...เ..ท....ศ.......ก...ุ๊ย...ฉ...า่...ย.......ข...่า............................................................. ผลไม้ ไดแ้ ก่ ....................แ...ต....ง..โ..ม.......ม....ะ..พ....ร...า้...ว.......ก...ล...้ว...ย.......ส...ม้...โ...อ......ท....ุเ..ร..ีย...น................................................................. 3. ถ้าใชพ้ ชื ยนื ตน้ กบั พชื ลม้ ลกุ เป็นเกณฑใ์ นการแบ่งกลุ่ม พืชยนื ต้น ได้แก่ ............ท...เุ..ร...ีย...น.......ก...ล...ว้....ย....ม....ะ...พ....ร..า้...ว.......ส...ม้...โ..อ.................................................................................... พืชล้มลุก ได้แก.่ .............แ...ต...ง...โ..ม.......ม...ะ...เ..ข...ือ...เ..ท...ศ.......ฟ....กั....ท...อ...ง...........................................................................................
แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง ทกั ษะการจาแนกประเภท คาชี้แจง 1. แบบทดสอบมีทั้งหมด 20 ขอ้ คะแนนเตม็ 20 คะแนน เวลา 20 นาที 2. นักเรยี นอ่านแบบทดสอบทลี ะข้อแลว้ กาเครอ่ื งหมาย X ทับอกั ษร ก ข ค หรือ ง ท่ีถกู ท่สี ดุ เพียงข้อเดยี ว 1. เคร่ืองใช้ในขอ้ ใดจัดเปน็ พวกเดยี วกนั กบั เครอื่ งซักผ้า ก. แหล่งอาหาร ข. ความยาวของล้าตัว ก. เตารีด , กระตกิ ค. ขนาดของล้าตัว ง. แหลง่ ท่อี ยู่อาศยั ข. ถังน้าแข็ง , กระติกนา้ รอ้ น 6. ร่นื ฤดี จ้าแนกสัตวอ์ อกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี ค. ตู้เยน็ , เตารีด ประเภทท่ี 1 กระต่ายกินพชื ชา้ งกนิ พชื เป็น ง. ถังํนา้ , หมอ้ หงุ ขา้ ว เป็นอาหาร อาหาร 2. สตั ว์ในขอ้ ใดท่จี ดั อย่ใู นกลุม่ เดยี วกัน ประเภทที่ 2 ววั กินพชื เป็น ววั กินพืชเป็น ก. ไก่ , เสอื , ชา้ ง อาหาร อาหาร ข. หนู , หอย , แมว นกั เรยี นคดิ วา่ รืน่ ฤดีจา้ แนกสตั วอ์ อกเป็น 2 ประเภท โดยใช้ ค. ลิง , กระต่าย , ช้าง อะไรเป็นเกณฑ์ ง. ไส้เดือน , ปู , มา้ ก. ประเภทของอาหาร ข. มกี ระดูกสนั หลงั 3. กล้าดี แบ่งผกั ออกเป็นสองพวก ดังนี้ ค. สตั วเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยํน้านม ง. แหล่งทอ่ี ย่อู าศัย พวกท่ี 1 พวกที่ 2 7. มีอาหาร 6 ชนิด คอื เนือ้ แดดเดียว ไข่เจียว ปลาทูทอด ขา้ ว ฟกั ทอง บวบ คะนา้ ผกั ชี ส้มตา้ และผัดคะนา้ ถา้ เราจะแบ่งเปน็ 2 แตงกวา ถว่ั ฝักยาว ตน้ หอม ผกั กาด กลุ่ม คือ อาหาร ได้จากพืชและสัตว์ นักเรียนคิดว่าอาหาร นักเรยี นคดิ ว่ากลา้ ดีใช้เกณฑอ์ ะไรในการแบ่งผัก อะไรบ้างจะอยู่ในกลุม่ เดยี วกัน เหล่านี้ ก. ก. ลักษณะของลา้ ตน้ ข. สว่ นที่ใชร้ ับประทาน กลมุ่ ท่ี 1 เนื้อแดดเดียว ส้มต้า ขา้ ว ค. ฤดูกาล ง. อายกุ ารเกบ็ เก่ียว กลุ่มที่ 2 ผดั คะนา้ ไขเ่ จยี ว ปลาทูทอด 4. ถ้าแบง่ ผลไม้ออกเป็นพวกๆ ผลไม้ในขอ้ ใดควรอยพู่ วก ข. เดยี วกนั กับขนุน กลุ่มท่ี 1 สม้ ตา้ ข้าว ไข่เจียว ก. มะนาว ข. มะพร้าว กลมุ่ ท่ี 2 เนอื้ แดดเดยี ว ปลาทูทอด ผัดคะน้า ค. มะยม ง. มะมว่ ง ค. 5. กลมุ่ ที่ 1 สม้ ตา้ ผัดคะน้า ข้าว กล่มุ ที่ 2 ปลาททู อด ไขเ่ จยี ว เน้ือแดดเดยี ว ง. จากภาพ นกั เรยี นใชเ้ กณฑ์อะไรในการจดั กลมุ่ ของสัตวช์ นดิ กลมุ่ ท่ี 1 ปลาทูทอด ขา้ ว ส้มต้า ตา่ งๆ ได้เป็น 2 กลุ่ม กลมุ่ ที่ 2 ไขเ่ จียว เนื้อแดดเดยี ว ปลาทูทอด
8. เราสามารถใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่งกลุ่มสสารในห้อง 12. ข้อใดจดั เป็นสัตวป์ ระเภทเดยี วกนั โดยใช้ทีอ่ ยู่อาศัยเปน็ วิทยาศาสตรไ์ ด้ 3 กลุ่ม เกณฑ์ ยางลบ ผงเกลอื นา้ แข็ง ก. กงุ้ กบ ข. ปลา หอย น้ามะนาว น้านม น้ามนั พืช ค. เสอื จระเข้ ง. เตา่ ค้างคาว อากาศ ออกซเิ จน แก๊สหงุ ตม้ 13. ตวั เลขในขอ้ ใดแตกตา่ งจากพวก ก. รูปร่างภายนอก ข. สถานะของสาร ก. 64 ข. 36 ค. ประโยชนก์ ารใชง้ าน ง. สขี องสาร ค. 27 ง. 25 9. จากการแบ่งกลุ่มของผลไม้ออกเป็นสองกลุ่ม ดังต่อไปน้ี 14. สัตว์ในขอ้ ใดตอ่ ไปนี้แตกตา่ งจากพวกโดยใชก้ ารออกลูก นักเรยี นจะใชเ้ กณฑ์ใดในการจ้าแนก เป็นเกณฑ์ ก. สีผิวภายนอก (เรียบ – ขรุขระ) ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2 ข. ราคา (แพง – ถกู ) ค. ขนาดผล (ใหญ่ – เล็ก) ค. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4 ง. รส (หวาน - เปรย้ี ว) 10. 15. จากตารางใชเ้ กณฑ์จ้าแนกประเภท A และ B ขอ้ ใด จากภาพ นักเรียนคิดวา่ ครูใช้เกณฑ์อะไรในการแบง่ พืช เหมาะสมที่สุด ออกเป็นพวกๆ ก. ใบเลยี้ งเดย่ี ว – ใบเลย้ี งคู่ มะขาม ล้าไย ข. มผี ล – ไมม่ ีผล ค. พืชดอก – พชื ไร้ดอก มะนาว ละมุด ง. ไม้ยนื ตน้ – ไม้ล้มลกุ 11.จากภาพข้อใดไม่เข้าพวก ส้ม เงาะ ก. สสี ัน ข. รสชาติ ค. ลกั ษณะผล ง. ลกั ษณะลา้ ตน้ 16. จากการแบ่งพืชขา้ งล่างเป็น 2 ประเภท ตอ่ ไปน้ี แบง่ โดย ใชเ้ กณฑ์อะไร ประเภทที่ 1 ต้าลึง บวบ แตงโม พริกไทย ประเภทท่ี 2 พริก มะเขือ มะม่วง ฝรั่ง ก. อายุ ข. ท่ีอยู่ ค. ลักษณะลา้ ตน้ ง. ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั 17. ขอ้ ใดเรียงลา้ ดับเหตุการณไ์ ด้ถูกต้อง ก. 2 4 1 3 ข. 3 1 2 4 ค. 3 2 1 4 ง. 4 3 2 1
18. สัตว์ในข้อใดจดั อยู่พวกเดียวกบั ปลาทู ก. ปลาดุก ข. ปลาชอ่ น ค. ปลาหมอ ง. ปลาอนิ ทรี 19. ในการจัดกลุ่ม ไก่ เป็ด ห่าน นกเอย้ี ง ไวใ้ นพวกเดียวกนั ใชเ้ กณฑ์ในข้อใด ก. ที่อยู่ ข. สัตวป์ กี ค. สัตวเ์ ลยี้ ง ง. กินอาหาร 20. โอปอจัดกลุ่มของ น้าตาล เกลือ ผงชรู ส ให้อยู่ในกลุ่ม เดียวกันโดยใช้เกณฑ์ใด ก. ก๊าซ ข. โลหะ ค. ของแข็ง ง. ของเหลว
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง ทักษะการจาแนกประเภท 1. ค 2. ค 3. ข 4. ก 5. ง 6. ก 7. ค 8. ข 9. ง 10. ก 11. ก 12. ข 13. ค 14. ง 15. ข 16. ค 17. ก 18. ง 19. ข 20. ค
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง ทักษะการจาแนกประเภท 1. ค 2. ค 3. ข 4. ก 5. ง 6. ก 7. ค 8. ข 9. ง 10. ก 11. ก 12. ข 13. ค 14. ง 15. ข 16. ค 17. ก 18. ง 19. ข 20. ค
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: