Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พัฒนาหการ1.22

พัฒนาหการ1.22

Published by Chanapat, 2019-02-23 02:23:35

Description: พัฒนาหการ1.22

Search

Read the Text Version

พฒั นาการของเดก็ วยั ประถมตน้ - ความคดิ และพฤติกรรมทแ่ี สดงออกมาขึ้นอยู่กบั 1. ร่างกาย 2. อารมณ์ 3. สตปิ ญั ญา 4. สังคม

• ใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ และกลา้ มเนื้อมดั เล็กได้ดี - ชอบเคลอื่ นไหวมากกว่าอยูเ่ ฉย 1 - มกี ารทรงตัวดี คลอ่ งแคล่ว แม่นยา - มีกาลงั มากขน้ึ • ระบบประสาทและการเคล่อื นไหวทางาน สอดคลอ้ งกนั ได้ดี 2 - ควบคุมการเคลือ่ นไหวของนว้ิ ได้ - วาดรปู ได้ - ประดิษฐส์ ิ่งของตามอายุ และประสบการณไ์ ด้

ฐานะทางเศรษฐกิจ อาหารทรี่ ับประทาน ความสงู และนา้ หนัก

1. การปรับตัว ความสูง และ น้าหนกั ความสงู น้าหนักมาก จะแยกตวั ออกจาก เพอื่ น 2. อันตรายทเ่ี กิดขน้ึ ทกั ษะการเคลื่อนไหว

เสรมิ สรา้ งการเจรญิ เติบโตของร่างกาย • ดว้ ยการให้เด็กรับประทานอาหารทห่ี ลากหลาย และครบ 5 จะทาใหเ้ ดก็ เรยี นรไู้ ด้งา่ ยและเรียนรู้ ได้รวดเร็วขึน้ พฒั นาศักยภาพทางสมอง • ด้วยการส่งเสรมิ โอกาสใหเ้ ดก็ ได้ใช้ความคิดอยู่ เสมอ หัดให้คิด ให้เดก็ มีโอกาสคิดหลากหลาย แบบ

นอนหลับเพียงพอ • ให้นอนเวลา 9-11 ชว่ั โมงอยา่ งสมา่ เสมอ จะส่งผลให้ เรียนหนงั สอื ดี มอี ารมณ์แจม่ ใส ไม่หงุดหงดิ ง่าย สามารถทากิจกรรมวันต่างๆในชวี ิตประจาวันไดด้ ี จัดแบ่งเวลาสาหรบั ทากจิ กรรมที่หลากหลาย • ด้วยการสง่ เสริมโอกาสให้เด็กไดอ้ อกกาลังกาย มีการ พักผ่อนหยอ่ น จะสง่ ผลใหจ้ ิตใจสดชนื่ ร่าเรงิ เบกิ บาน ไมเ่ ครยี ด

พฒั นาการดา้ นอารมณว์ ยั ประถมตน้

เด็กวัยประถมศึกษาตอนต้น (6-9 ขวบ) นับเป็นวัยที่มี ความสุข มีความพึงพอใจเก่ียวกับวัยของตน เป็นวัยที่ใช้เวลาส่วนมาก อยู่กับเพ่ือน เด็กจึงเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆจากเพ่ือน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างเพ่อื นและการมเี พื่อนสนิทจึงเป็นเร่ืองสาคัญมากสาหรับเด็กวัย นี้ ในขณะที่เด็กบางคนอาจจะมีปัญหาไม่มีเพ่ือน หรือเพื่อนไม่ยอมรับ นอกจากน้ี เด็กวัยประถมต้นเป็นวัยท่ีรู้จักเหตุและผล มีความคิดเป็น ของตัวเอง สามารถแก้ไขปัญหา พร้อมที่จะเรียนรู้ระเบียบวินัย เร่ิม เรยี นรทู้ จ่ี ะให้ความรว่ มมือ รูจ้ ักใหแ้ ละรบั

เด็กวัยประถมต้น (6-9 ขวบ) เรียนรู้ และรู้จักอารมณ์ทุก อารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความวิตกกังวล ความโกรธ ความสนุก ความสขุ ความเบกิ บาน ความสาคัญอยู่ที่ผู้ใหญ่รอบตวั ได้ช้ีให้เดก็ เห็นถงึ ความแตกต่างของแตล่ ะบุคคล มองข้ามความไม่ถูกใจ ช้ีให้ เห็นข้อดีของ คนอื่น และมีการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม เรียนรู้เรื่องความ มนี ้าใจเปน็ นักกีฬา รจู้ ักแพ้ รูจ้ ักผดิ หวัง

สมรรถนะและพฒั นาการด้านอารมณข์ องเดก็ วยั ประถมต้น วัยประถมต้นเป็นช่วงเวลาท่ีเด็กถูกคาดหวังให้มีความรู้เบ้ืองต้นที่ จาเป็นต่อการปรับตัวในชีวิตตอนเป็นผู้ใหญ่ และเรียนรู้ทักษะที่สาคัญ บางอย่าง ทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตรของโรงเรียน ดังน้ันพัฒนาการ ด้านอารมณ์ของเด็กวยั น้จี งึ มีทง้ั ความสุขและความทกุ ข์เกิดขึน้ ดงั นี้

สมรรถนะและพฒั นาการดา้ นอารมณ์ของเด็กวัยประถมตน้ • มีความสุข ร่าเริง ปิติเบิกบาน เด็กวัยประถมต้นเป็นวัยที่มีความสุข มี ความพึงพอใจเกย่ี วกบั วยั ของตนอยา่ งมาก • มีความกลัวต่างๆ เช่น กลัวสัตว์ กลัวงู กลัวความมืด กลัวที่สูง กลัว ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง แต่ส่ิงท่ีกลัวท่ีสุดกค็ ือ กลัวถูกล้อ เพราะมีความแตกต่าง กับเพือ่ น • มีอารมณ์โกรธ อาจจะมีการแสดงออกทางอารมณ์แตกต่างกันระหว่าง เด็กหญิงและเด็กชาย มีท้ังการทาร้ายร่างกาย ต่อ สู้กันด้วยวาจา ล้อ หากเดก็ แสดงความโกรธ ด้วยการทารา้ ยผู้อืน่ ผใู้ หญ่ควรอธิบายให้เด็ก เข้าใจพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และหาตัวอย่างเพื่อนใน วัยเดียวกันที่มพี ฤติกรรมท่ีดี ทีจ่ ะเป็นตัวอย่างได้

พฒั นาการด้านสติปัญญา ของเดก็ วยั ประถมต้น

เด็กวยั ประถมต้น (6-9 ขวบ) มพี ัฒนาการทางดา้ นสตปิ ัญญาที่ Jean Piaget เรยี กวา่ Concrete Operation คอื - มคี วามสามารถคิดเหตผุ ลเชิงตรรกะได้ - สามารถรบั ร้สู ่งิ แวดลอ้ มตามความเป็นจรงิ - เรมิ่ เข้าใจกฎเกณฑ์ตา่ งๆ - ชอบคดิ แกป้ ัญหาตามวิธกี ารของตวั เอง - ชอบแสวงหาวธิ ีการต่างๆจากการลองปฏิบัติ ซกั ถาม เปรียบเทยี บ และจดจา สิง่ ของหรอื บุคคลตา่ งๆได้อย่างถูกต้อง - มพี ฒั นาการด้านภาษาและการใชส้ ัญลกั ษณ์

พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญาวัยประถมตน้ สาคญั อย่างไร? ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลเก่ยี วกับพฒั นาการทางสตปิ ัญญา เป็นสิ่งท่ผี ูใ้ หญร่ อบตวั จาเป็นตอ้ งตระหนักและคานงึ ถงึ ความ สามารถเฉพาะของเดก็ พร้อมทัง้ สง่ เสริมให้เด็กได้พฒั นา ตามศกั ยภาพของตน ดังนน้ั การจะบอกว่าเด็กคนหนงึ่ ฉลาดหรอื มีความสามารถมากน้อยเพียงใด ถา้ นาระดบั สตปิ ัญญาหรอื ไอคิวมาเป็นมาตรวัด กอ็ าจวัดได้เพียงเรอ่ื งของภาษา ตรรกศาสตร์ คณิตศาสตร์ และมิติสมั พนั ธเ์ พยี งบางสว่ น ยงั มคี วามสามารถอีกหลายดา้ นท่ีแบบทดสอบไม่สามารถวดั ได้ เช่น ความสามารถทางดนตรี ความสามารถทางกีฬา หรือความสามารถทางศลิ ปะ

ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นกั จติ วทิ ยา มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เปน็ ผคู้ ดิ “ทฤษฎพี หุปญั ญา” (Theory of Multiple Intelligences) ได้เสนอแนวคิดว่า สตปิ ญั ญาของมนษุ ย์มหี ลายด้าน ท่มี ีความสาคญั เทา่ เทียมกัน ข้ึนอยูก่ บั วา่ ใครจะโดดเดน่ ในดา้ นไหน แล้วนาแต่ละดา้ น ผสมผสานกนั แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใดเรื่องหน่งึ ซง่ึ เปน็ ลักษณะเฉพาะตัว ของแต่ละบุคคลไป

สมรรถนะและพัฒนาการด้านสติปัญญาของวัยประถมตน้ อายุ 6 ขวบ - เรม่ิ ต้นวยั ประถม เดก็ วัยนีม้ คี วามสนใจกจิ กรรมและงานของตนเองนานขนึ้ มีความกระตอื รอื รน้ สนใจของแปลกใหม่ สามารถวาดรูปสเี่ หลยี่ มขนมเปียกปนู วาดรปู คน เขยี นตัวอกั ษรง่ายๆได้ รู้ซา้ ยขวา นบั 1-30 ได้ - อธบิ ายความหมายของคา และบอกความแตกต่างของ 2 ส่งิ ได้ - แต่หากมสี ิง่ ท่ีน่าสนใจกว่า อาจหันไปสนใจของอีกอยา่ งได้ทนั ที

สมรรถนะและพัฒนาการด้านสติปัญญาของวัยประถมต้น อายุ 7 ขวบ วยั ประถมเตม็ ตวั - เม่ือเด็กมคี วามสนใจสิ่งใดแล้ว จะพยายามทาให้สาเรจ็ มคี วามอยากร้อู ยาก เห็น เขา้ ใจเรอ่ื งเหตุและผลมากข้นึ สามารถจดจาระยะเวลา อดตี และปัจจุบันได้ มีความ สนใจที่ยาวนานขึ้น แต่ยังไม่สามารถทาอะไรหลายอย่างได้พร้อมกัน เด็กวัยน้ีสามารถ วาดรูปคนมีรายละเอียดมากขึ้น เขียนตัวหนังสือได้ครบตามแบบ บอกวันในสัปดาห์ เปรียบ เทียบขนาดใหญ่ เล็ก เท่ากัน แก้ปัญหาได้ บวก ลบ เลขง่ายๆ และบอกเวลา ก่อน-หลงั ได้

สมรรถนะและพฒั นาการด้านสตปิ ญั ญาของวัยประถมต้น อายุ 8 ขวบ วยั แหง่ การเรยี นรู้ - เด็กวัยประถมจะสนใจและจดจ่อกับงานท่ีได้รับมอบหมาย และหมกมุ่น จนกว่างานน้ันจะสาเร็จ เข้าใจคาสั่ง และต้ังใจทางานให้ดีกว่าเดิม เด็กวัยน้ีวาดรูปสิ่งที่ พบเห็นเป็นสัดส่วนและมีรายละเอียด เขียนตัวหนังสือถูกต้อง เป็นระเบียบ บอกเดือน ของปีได้ สะกดคาง่ายๆได้ ฟังเร่ืองราวแล้วเข้าใจเนื้อหาและขั้นตอนได้ เปรียบเทียบ สิ่งท่ีเหมอื นกัน และสามารถเข้าใจปริมาตร

สมรรถนะและพฒั นาการด้านสตปิ ัญญาของวยั ประถมต้น อายุ 9 ขวบ - ซึมซับความรู้ วิธีการพูดของเด็กจะเปล่ียนแปลงไป มีการใช้ภาษาท่ีซับซ้อน ข้ึน รู้จักถาม-ตอบอย่างมเี หตุผล เต็มไปด้วยความรู้รอบตัว สามารถหาคาตอบเองได้จาก การสังเกต เด็กจะต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีของสะสม และเลียนแบบการ กระทาของคนท่ีโตกว่า

กจิ กรรมส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นสติปญั ญาวัยประถมต้น ดแู ลเรื่องเรยี น การเรียนในช้ันประถมแตกต่างจากอนุบาล คือ มีการเรียนเป็นช่ัวโมง ลูกต้องนั่ง เรยี นเป็นเวลานาน และเร่ิมมีการบ้าน จึงควรดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือลูก เช่น ช่วยตรวจ การบ้านว่าทาถูกต้องหรือไม่ ช่วยทบทวน บทเรียน ช่วยให้สนุกกับการเรียน สนุกกับการ ทางาน ชว่ ยคน้ หาข้อมูล ช่วยคิดว่าจะทางานอย่างไรใหส้ วยงาม เรยี บรอ้ ย

ชว่ ยเหลือเร่อื งปรบั ตวั ให้คาแนะนาต่างๆ การไปโรงเรียนเป็นการเรียนรู้ในทุกด้านของชีวิต ควรให้คา แนะ นาในการคิดแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน เช่น ไม่เข้าใจบทเรยี น ไม่กล้าถามครู จดงาน ไม่ทัน ไม่รู้จักขอดูจากเพ่ือน ถูกเพ่ือนล้อเลียน ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร หรือถูกรังแก โดน ขม่ ขู่ ฯลฯ

หาเวลาว่างพูดคยุ กนั ควรหาเวลาพูดคุยกัน แสดงท่าทียอมรบั เปิดใจรบั ฟังเรอื่ งท่ัวไป แบบสบายๆ ให้ เขารู้สึกผ่อนคลาย พร้อมจะเปิดใจพูดคุยด้วยการใช้ภาษาแบบเด็ก ฟังโดยไม่ขัดแย้ง ให้ เกียรติ หลีกเลี่ยงการใช้คาส่งั

พฒั นาการด้านสงั คม วัยประถมต้น (6-9 ปี)

ปญั หาตามวัย ในชวี ิตประจาวนั อายุ 6 ปี เด็กวัยนี้จะมองเห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งของ แต่จะไม่ เข้าใจระยะใกล้หรือไกลของสถานที่ เด็กวัยนี้ยังคิดถงึ แต่เรื่องปัจจุบัน มีสมาธิ จดจ่อกับกิจกรรมค่อนข้างสั้น(สมาธิส้ัน) จะสนใจการกระทากิจกรรมต่าง ๆ แต่จะไม่สนใจความสาเร็จของกิจกรรมน้ัน ๆ เด็กจะกระตือรือร้นเฉพาะสิ่งท่ี สนใจ แต่เม่ือหมดความสนใจจะเลิกทาทันที โดยไม่สนใจว่างานน้ันจะสาเร็จ หรอื ไม่

อายุ 7 ปี เด็กวัยนี้จะมีความอยากรู้อยากเห็น จะจาเหตุการณ์ท่ี ผ่านมา รู้จักชอบหรือไม่ชอบส่ิงนั้นสิ่งน้ี มีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมยัง ค่อนข้างส้ัน (สมาธิสั้น) จะสนใจสิ่งต่างๆทีละอย่าง ดังน้ัน ถ้ามีงานหลาย อย่างให้เด็กทา ควรจะแบ่งหรือกาหนดให้เป็นส่วน ๆ ไม่ควรให้พร้อมกัน ทเี ดยี ว เพราะจะทาให้เด็กเบื่อ

อายุ 8 ปี จะสนใจทาสิ่งใหม่ๆ มีสมาธิมากข้ึน รับรู้ความสามารถ ของตนและของเพ่ือน มีความสามารถในการเล่นต่างๆ เช่น สนใจการวาด ภาพ ดูภาพยนตร์ โทรทัศน์ การ์ตูน ฟังวิทยุ สนใจการแข่งขัน การ เปรียบเทียบกันในสังคม เด็กเริ่มจะเข้ากลุ่ม มีความรู้สึกยอมรับและไม่ ยอมรับในกลุ่มเพื่อน เด็กที่เพ่ือนยอมรับเข้ากลุ่มจะต้องมีช่ือเสียงในกลุ่ม เพอื่ นเทา่ น้ัน

อายุ 9 ปี เด็กจะสามารถแก้ปัญหาและรู้จักหาเหตุผลโดยใช้การ สังเกต ต้องการอิสรภาพ รู้จักการใช้ด้านภาษา มีความรู้รอบตัวกว้างข้ึนทา ให้การเรียนรู้ทางสังคมขยายกว้าง มักอ่านหนังสือท่ีเก่ียวกับข้อเท็จจริง สนใจที่จะสะสมส่ิงของ เด็กจะเรียนรู้การช่วยเหลือตนเอง การปฏิบัติตนใน สังคม มารยาททางสังคม โดยการเลียนแบบการกระทาต่างๆ ของคนอ่ืน เชน่ พอ่ แม่ ครู เพือ่ น เป็นตน้

เด็กอาจได้รับอิทธิพลแฝงทั้งในด้านดีและไม่ดีจากคนรอบๆ ตัวได้ เช่น ปัญหาครอบครัวพ่อแม่ทะเลาะกันและใช้ความรุนแรง พ่อแม่ชอบเล่น การพนัน ชอบดื่มสุรา อาจทาให้เด็กมีปมด้อย เกิดความซึมซับและ เลยี นแบบพฤติกรรมต่างๆ จากพอ่ แม่ได้

การส่งเสรมิ

จัดกิจกรรมการเล่นท่ีเหมาะสมกับวัย ลูกจะสนใจเล่นกบั กลุ่มเพื่อน อย่างอสิ ระจากผใู้ หญ่ และจะเรม่ิ กาหนดแนวปฏบิ ตั กิ ารเลน่ เอง สง่ เสรมิ ให้อา่ นหนังสอื การอา่ นหนังสือมีความสาคัญสาหรับเด็กวัย น้ี หนังสือสาหรบั เด็กควรเก่ียวกับสังคม หรือโลกภายนอก เด็กจะสนใจเร่ือง ทเี่ ปน็ จรงิ มากกว่าวัยอนบุ าล สนใจเร่ืองราวท่ีมเี หตุผลมากขนึ้ เด็กควรเรียนในโรงเรียนที่ขนาดพอเหมาะกับจานวนนักเรียน เพื่อให้เด็กมีโอกาสเข้ากลุ่มเพื่อน ได้รับการยอมรับจากเพื่อน เขาจะรู้สึกดี และเกดิ ความอบอนุ่ ทไี่ ดร้ ่วมกจิ กรรมกับเพื่อน เกดิ ความรสู้ กึ วา่ ตนมคี ณุ คา่

สนับสนุนให้เด็กมีกลุ่มตามความสนใจ เช่น การเข้าเป็นสมาชิก ชมรมคนรักหนังสือ สมาชิกลูกเสือ เพ่ือจะทาให้เด็กมีกลุ่มเพื่อนที่สนใจส่ิง เดยี วกนั จัดสภาพส่ิงแวดล้อมในครอบครัวที่เอื้อต่อการเรียนรู้เกี่ยวกับโลก ภายนอกอย่างเหมาะสม เช่น มีหนังสือสาหรับเด็ก หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์รายการท่ีเหมาะสมตามวัย พ่อแม่มีบทบาทท่ีจัดเวลาการดู โทรทัศน์ และเลือกรายการให้แก่เด็ก และผู้ใหญ่อ่านข่าว ฟังข่าวเอาใจใส่ เหตุการณร์ อบตวั ใหเ้ ดก็ เหน็ แบบอยา่ ง

เป็นแบบอย่างการเข้าสังคมที่ดีให้เด็กเห็น ถึงแม้ว่าเด็กวัยนี้จะ สนใจเพอื่ นมากกว่าพ่อแมก่ ็ตาม แต่พ่อแมย่ ังเป็นผู้มอี ิทธิพลท่ีเด็กจะเรียนรู้ การอยู่ในสังคมทถี่ ูกต้อง เช่น การท่พี ่อแมแ่ สดงมารยาททางสงั คม ใชภ้ าษา ท่ีเหมาะสมกับผู้อ่ืน เด็กจะรับไปเป็นประสบการณ์ของตนเองในการใช้ มารยาทน้ัน

พัฒนาการด้านร่างกาย : เด็กวัยประถมต้นใช้เวลาเต็มวันอยู่ท่ี โรงเรียน เพ่ือได้เรียนรู้ในทุกด้าน ถ้าพัฒนาการในวัยนี้หยุดชะงักหรือมี ปัญหา ก็จะส่งผลต่อวัยรุ่น และกลายเป็นปัญหาสะสมเร้ือรังต่อไปในอนาคต ครูจึงมีบทบาทต่อพัฒนาการของเด็กวัยนี้อย่างมาก จึงควรจัดกิจกรรมให้ เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น อย่างมีความสุข มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พร้อมท้ังดูแลด้านสุขนิสัยและโภชนาการเหมาะสมต่อพัฒนาการด้าน ร่างกาย มีกิจกรรมการเคล่ือนไหว ได้ยืน เดิน ว่ิง จับ ขว้าง กระโดด เคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ ได้ออกกาลังกายกลาง แจ้ง เล่นกีฬา หรือเกม การละเลน่ ต่าง

พัฒนาการด้านอารมณ์: ในวัยน้ีเด็กควรได้รับการฝึกฝนการเล่น การ อยู่รวมกับเพ่ือนและครู งานศิลปะ คนตรี ฯลฯ ความสามารถเหล่าน้ีจะเป็น พื้นฐานท่ีสาคัญในการได้รับการยอมรับ และเป็นส่ิงที่สาคัญที่ทาให้เด็กเห็น คุณคา่ ในตนเอง ดังน้นั ควรประสานความเข้าใจในทิศทางพัฒนาเด็กวัยเรียน ระหว่างบ้านและโรงเรียน แลกเปล่ียนข้อมูลพฤติกรรมของเด็กระหวา่ งอยู่ที่ บ้านกับโรงเรียน เล่นกีฬา หรือเกมการละเล่นต่าง ควรจัดกิจกรรมการเรียน การสอนท่ีเสริมสร้างลักษณะท่ีสาคัญ ให้เกิดในตัวเด็ก ตั้งใจฝึกฝนเด็กและ เป็นตน้ แบบทดี่ ีใหก้ บั เด็ก ควรอธบิ ายส่ิงทีใ่ ห้เดก็ ทาชดั เจน บอกถงึ ผลท่ีได้รับ เมอื่ เด็กไม่ทาชัดเจน

พัฒนาการด้านสติปัญญา องค์ประกอบด้านสติปัญญา ประกอบดว้ ยความพร้อมทางการเรียน ท้ังด้านภาษาและคณิตศาสตร์ โดย มคี วามเข้าใจภาษาและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ยัง มคี วามพร้อมทางการรับรูแ้ ละความสามารถในการแกป้ ญั หา ดงั น้นั ในวยั น้ี ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สามารถส่งเสริมพัฒนาการทาง สตปิ ญั ญา และพัฒนาทักษะการคิดแกป้ ัญหา ดว้ ยการจัดการเรียนรู้แบบที่ เด็กมีส่วนร่วม และควรออกแบบและจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อ พัฒนาศักยภาพทางสมอง ท้ังสมองซกี ซา้ ยและสมองซกี ขวาของเดก็

พฒั นาการด้านสังคม ในช่วงวัยน้ีเด็กจะอยู่กบั เพื่อนเป็นกลุ่ม เพ่ือนจะ เป็นตัวแบบที่มีอิทธิพลต่อจิตใจเด็ก การท่ีเด็กได้เห็นพฤติกรรมหรือการ กระทาของตัวแบบท่ีมีชีวิต (Live Model) เด็กจะเรียนรู้ได้จาก ชีวิตประจาวัน ดังนั้นควรจัดวิธีสอนให้เด็ก วิธีสอนหนึ่งท่ีน่าสนใจคือ การ สร้างความศรัทธาที่จะเรียนรู้ การฝึกฝนวิธีคิดและนาไปสู่การปฏิบัติ เพราะ จะช่วยให้เด็กได้พัฒนาปัญญา และแก้ปัญหาได้ นอกจากเห็นแบบจากชีวิต จริงแลว้ การเรยี นร้ผู ่านตัวแบบสญั ลกั ษณ์ (Symbolic Model) อาจจะเปน็ เอกสาร โสตวัสดอุ ่ืนๆ ท่ีทาใหเ้ ด็กสนใจและมีแรงจูงใจที่จะยอมรบั พฤติกรรม นั้นๆ มาปรบั ปรงุ บุคลกิ ภาพของตน

รายงาน เรอ่ื ง พัฒนาการของเดก็ ประถมต้น ( 6-9 ป)ี เสนอ พลชานิ อ.ดร. สุธดิ า รายชอื่ สมาชกิ นางสาวชนาภทั ร สขุ เณร รหัสนักศกึ ษา 61941900503 นางสาวญาตมิ า นางสาวพรี ญา ชูรตั น์ รหสั นกั ศกึ ษา 61941900505 นางสาวสริ ิวิภา นางสาวมัลลิกา บางโม้ รหสั นกั ศกึ ษา 61941900520 ผ่องผดงุ รหสั นกั ศกึ ษา 61941900524 กล่นิ หอม รหสั นักศกึ ษา 61941900532


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook