Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore CBL ผ.บ.ก. รุ่นที่ 35(2) กลุ่ม 1

CBL ผ.บ.ก. รุ่นที่ 35(2) กลุ่ม 1

Published by satakorn, 2022-08-17 03:41:42

Description: CBL ผ.บ.ก. รุ่นที่ 35(2) กลุ่ม 1

Search

Read the Text Version

รายงานผลการศกึ ษา การบรหิ ารยทุ ธศาสตรช์ าติด้านสาธารณสขุ โดยกระบวนการ Community Based Learning (CBL) กรณศี กึ ษา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จัดทำโดย ผเู้ ข้ารับการอบรมหลักสตู รผบู้ ริหารการสาธารณสุขระดับกลาง รนุ่ ที่ 35 (2) กลุม่ ท่ี 1 ปงี บประมาณ 2565 วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวัดยะลา

รายงานผลการศกึ ษา การบรหิ ารยทุ ธศาสตรช์ าติด้านสาธารณสขุ โดยกระบวนการ Community Based Learning (CBL) กรณศี กึ ษา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จัดทำโดย ผเู้ ข้ารับการอบรมหลักสตู รผบู้ ริหารการสาธารณสุขระดับกลาง รนุ่ ที่ 35 (2) กลุม่ ท่ี 1 ปงี บประมาณ 2565 วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวัดยะลา

1 คำนำ รายงานนี้เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง (ผ.บ.ก.) กลุ่มที่ 1 รุ่นที่ 35 (2) ประจำปีงบประมาณ 2565 รายวิชา “ การบริหารยุทธศาสตร์ชาติด้าน สาธารณสุข โดยกระบวนการ Community Based Learning (CBL) ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จงั หวัดยะลา ซึ่งเปน็ หลักสูตรท่ีกระทรวงสาธารณสุข โดยวทิ ยาลัยนักบรหิ ารสาธารณสุข เพื่อพัฒนาสมรรถนะ ที่พึงประสงค์สำหรบั ผูบ้ ริหารการสาธารณสุขระดับกลาง ให้สามารถบริหารจดั การ และบริหารงานได้อย่างมอื อาชีพเป็นแบบอย่างท่ีดีดา้ นคุณธรรมมีจิตสำนกึ ในความรบั ผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ และจรรยาบรรณวชิ าชพี เสริมสร้างความสามัคคี และใช้ความสามารถในความหลากหลายของทีมงานในการทำงานร่วมกันเป็น เครือข่ายการบริหารงาน ในการร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นผู้มีสุขภาพกาย สขุ ภาพจติ ทด่ี เี หมาะสมกบั บทบาทหนา้ ที่ผูบ้ รหิ าร ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุขระดับกลาง (ผบก.) กลุ่มที่ 1 รุ่นที่ 35 (2) ขอขอบพระคุณท่านวิทยากร และคณาจารย์/เจ้าหน้าที่ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา ทุกท่าน ที่กรุณาให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดหลักสูตร ซึ่งจะทำให้ บรรลุวัตถุประสงค์ของรายวิชาดังกล่าว ในครั้งนี้ทุกประการ และหวังว่าเอกสารสรุปการเรียนรู้ฉบับนี้จะเป็น ประโยชน์ในการทบทวนความรู้สำหรบั ผู้บริหารการสาธารณสขุ ระดบั กลางตอ่ ไป คณะผูจ้ ัดทำ CBL กลมุ่ 1 หลักสูตรผู้บรหิ ารการสาธารณสขุ ระดบั กลาง (ผ.บ.ก.) รุ่นท่ี 35 (2) ประจำปีงบประมาณ 2565 18 สิงหาคม 2565

2 1 2 บทนำ 3 สารบัญ รายนามอาจารยท์ ่ปี รึกษา /รายนามสมาชกิ ประจำ กลุม่ 1 5 บทท่ี 1 บรบิ ทชุมชนและองคก์ ร 8 1.1 ข้อมูลทั่วไป 10 1.2 ขอ้ มูลสุขภาพ 11 บทท่ี 2 วิเคราะหป์ ญั หาและจดั ลำดับความสำคญั 2.1 การวิเคราะหจ์ ดุ อ่อน จุดแขง็ โอกาส และภัยคกุ คาม 12 2.2 กำหนดประเด็นสำคญั ในการจัดทำแผนกลยุทธ์ บทที่ 3 การวางแผนกลยุทธ์ และตัวชวี้ ดั การดำเนินการ 14 3.1 วเิ คราะห์จดั ทำแผนกลยุทธแ์ ละตัวชว้ี ัด 14 บทที่ 4 สรปุ บทเรียนกระบวนการ CBL 15 4.1 ด้านการพฒั นาตนเองและทีมงาน 4.2 ด้านการพฒั นางาน ภาพกิจกรรมกระบวนการ CBL ผ.บ.ก. 35(2) กลมุ่ 1

3 รายนามอาจารย์ทป่ี รึกษา /รายนามสมาชกิ ประจำกลมุ่ 1 รายนามอาจารย์ที่ปรกึ ษา 1.อาจารย์ ภก. อวริ ทุ ธ์ สงิ ห์กลุ รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ วิจยั และบริการวิชาการ 2.อาจารย์ ดร. ภคั ณัฐ วีรขจร หัวหน้าศนู ย์ศกึ ษาการแพทย์ฉกุ เฉิน รายนามสมาชกิ ประจำกลมุ่ 1 1.นายจอมชยั คงมณกี าญจน์ นกั วิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สสจ.พิษณุโลก ประธานกลมุ่ 2.นายอมร หวดั สนิท นกั วิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สสอ.พนุ พิน รองประธานฯ 3.นางบงกชรตั น์ จนั ทร์สนิทศรี พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ รพ.อทุ ุมพรพสิ ัย รองประธานฯ 4.นายศตกร ธนสู นธ์ิ ผู้จดั การกลมุ่ ภารกิจ สปสช.เขต ๑ เชียงใหม่ รองประธานฯ 5.นางปัทมา ผาติภัทรกลุ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพเิ ศษ วพบ.สระบุรี เลขานกุ าร 6.นางสาวศริ ประภาว์ ผลสิ นิ เอย่ี ม ผูจ้ ดั การฝ่ายสอ่ื ดจิ ิทลั และสร้างสรรค์ สปสช. 7.นางพรรณิภา ไชยรตั น์ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ สสจ.ขอนแกน่ 8.นางสาวรุ่งนภา เขียวชอำ่ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการพิเศษ วพ.พระปกเกลา้ จันทบุรี 9.นางสาวฐติ ิรัตน์ โสธรเจรญิ สนิ ธ์ุ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ รพ.สต.บางซ่อน 10.นางสาวสุชาดา ทวรี ัตนพันธ์ ทนั ตแพทยช์ ำนาญการพิเศษ รพ.เทพรตั นเวชชานกุ ูล ฯ 11.นางวิภาดา ธรรมศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลแมว่ าง 12.นายสมจติ ร สินธโุ ทวงศ์ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ สสอ.ทุง่ สง 13.นางสาววรรณเพ็ญ ดวงวชิ ัย นักวิชาการเงนิ และบัญชีชำนาญการ กรมสุขภาพจติ 14.นายซำสุดิน หามะ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สสอ.รือเสาะ 15.นายฟาฏลิ อะหะหมัด สาและอารง นายแพทยช์ ำนาญการพิเศษ รพ.นราธวิ าสราชนครินทร์ 16.นายสวุ ฒั น์ ทองเลก็ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชำนาญการ สสอ.แว้ง 17.นางสภุ ัทรา มูนะ นกั เทคนิคการแพทยช์ ำนาญการพเิ ศษ รพ.นราธวิ าสราชนครนิ ทร์ 18.นายสริ วิชญ์ พนั ธนา เภสัชกรชำนาญการ รพ.บึงกาฬ 19.นายนาซรี หะสาเมาะ นกั จัดการงานทั่วไปชำนาญการ รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา 20.นางมีนา เอ่ียมสุวรรณ นกั วิชาการเงนิ และบญั ชชี ำนาญการ รพ.ยะลา 21.นางสาวสุวนนั ท์ กาลัญกลุ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการพิเศษ รพ.ยะลา 22.นายสถิตย์ ปสั กลู เจา้ พนักงานสาธารณสขุ อาวโุ ส โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลบางงา 23.นางสาวชุลีพร วงพรม เจา้ พนักงานสาธารณสขุ อาวุโส รพ.สต.บุฮม 24.นางพนารตั น์ ณรงค์ศักดิ์ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชำนาญการ รพ.สต.หาดทรายขาว 25.นายวชริ ากรณ์ ตลับนาค เจา้ พนกั งานสาธารณสุขอาวุโส รพ.สต.โคกขมิ้น 26.นายคเชนทร์ ใขคำ เจ้าพนกั งานสาธารณสขุ ชำนาญงาน สสอ.อากาศอำนวย 27.นางปริศนา บุญสร้อย นักวชิ าการสาธารณสุขชำนาญการ รพ.สต.บ้านมว่ งไข่นอ้ ย 28.นางสาวพมิ ใจ ขนั ทองคำ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน รพ.สต.บา้ นโปร่งเจรญิ 29.นายทองคำ ใบโพธิ์ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ รพ.ฮอด

4 รายนามอาจารย์ที่ปรกึ ษา /รายนามสมาชิกประจำกล่มุ 1 (ต่อ) รายนามสมาชกิ ประจำกลมุ่ 1 30.นายปยิ ะสวุ รรณ ตุง้ แก้ว ผู้จัดการกลมุ่ ภารกจิ สปสช.เขต ๑๒ สงขลา 31.นายอนนั ท์ เสียมไหม นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ สสอ.ทงุ่ หวา้ 32.นางวชิ มุ า พชิ ญ์วรกุล นักวชิ าการสาธารณสุขชำนาญการ สสอ.ละงู 33.นางขนิษฐา สวนแสน นักวิชาการหลกั ประกันสขุ ภาพ สปสช.เขต ๑๒ สงขลา 34.นายพรเทพ ธาราเวชรักษ์ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ รพ.สต.นำ้ ริด 35.นายประทิน บญุ เฉลียว นกั วชิ าการสาธารณสุขชำนาญการ รพ.สต.นาทุ่ง 36.นางปารสิ า ศรโี ท พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ สสอ.ตระการพืชผล 37.นางผ่องศิริ สะนัย พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ รพ.สต.โนนยาง

5 บทที่ 1 บรบิ ทชุมชนและองคก์ ร 1.1 ขอ้ มลู ทั่วไป คำขวญั “เมอื งใหญต่ ระการตา งามสงา่ สะพานตณิ ทกั ษิณคดสี ถาน ตำนานรฐั บุรษุ สูงสดุ เขาตังกวน เสนห่ ล์ ว้ นผ้าเกาะยอ” ประวัตคิ วามเป็นมาของอำเภอเมืองสงขลา ความเป็นมา สงขลาเป็นเมืองท่าที่สำคัญเมืองหนึ่งตั้งอยูท่ างฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทยตั้งแต่ สมัยโบราณมีชุมชนโบราณและเมืองเก่าแก่หลายเมือง มีศิลปะโบราณวัตถุโบราณสถานขนบธรรมเนียม ประเพณีภาษา การละเล่นพ้นื เมือง ศิลปะพื้นเมอื งเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมจังหวดสงขลา ปจั จบุ นั ปรากฏว่า มี ร่องรอยหลักฐานทางด้านโบราณคดีที่มีอายุเก่าแก่กว่าสมัยอยุธยา เช่น บริเวณอำเภอสทิงพระได้พบซาก อาคารสถาปัตยกรรม ประติมากรรม เช่น พระโพธิสัตว์ เทวรูปที่เกี่ยวเนื่องในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน และ ศาสนาพราหมณ์มีอายุในศตวรรษที่ 13 เช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในเขตอำเภอดังกล่าว เป็นเมืองโบราณ ปรากฏชือ่ ในจดหมายจดหมายเหตจุ ีนของหลวงจีนอ้ีซิง “เซโลถิง” ซงึ่ อาจตรงกบั คำว่า “สทิงพระ” ก็เปน็ ได้ซ่ึง อยู่ในสมัยที่นักโบราณคดีเรียกว่า “ศรีวิชัย” ต่อมา สงขลาได้ปรากฏชื่อในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แห่ง กรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 1893 เป็นเมืองประเทศราชในจำนวน 16 เมือง ที่ต้ัง ตวั เมอื งในสมัยอยใู่ นท้องท่ีหมู่ท่ี 7 ตำบลหวั เขา อำเภอสงิ หนคร (บรเิ วณเขาแดง) ยังมีโบราณสถานป้องคูเมือง และทฝี่ ังศพเจา้ เมอื ง (สลุ ต่านสไุ ลมาน) ให้ศกึ ษาอยู่ เมื่อ พ.ศ. 2185 ในสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยาเจ้าเมืองสงขลา ตั้งตัวขึ้นเป็น อิสระไม่ยอมขึ้นแก่กรุงศรีอยุธยา ทางกรุงศรีอยุธยาส่งกองทัพมาปราบ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนถึง พ.ศ. 2223 สมเด็จพระนารายณม์ หาราช ส่งกองทัพมาปราบสงขลาได้ สงขลาจงึ ข้นึ ตอ่ กรงุ ศรีอยุธยาตลอดมา พ.ศ. 2310 ประเทศสยามเสยี กรุงศรีอยธุ ยาแก่พมา่ ไดเ้ กิดก๊กตา่ งๆ ข้นึ เจ้าพระยามหานคร ซงึ่ ต้ัง ตัวเป็นใหญ่ ได้ตั้ง นายวิเถียรญาติ มาเป็นเจ้าเมือง เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีปราบก๊กเจ้านครได้แล้ว พ.ศ. 2312 - 2325 ได้ตั้งให้ จีนเหยี่ยง แซ่เฮา ซึ่งเป็นนายอากรรังนกขึ้นเป็นเจ้าเมือง ได้รับพระราชทานนาม เป็น “หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ” (ต้นตระกูล ณ สงขลา) มีตัวเมืองตั้ง อยู่ในท้องที่ หมู่ที่ 1 (แหลมสน) ตำบลหัว เขา อำเภอสงิ หนคร คนละฟากฝง่ั กบั สงขลาปัจจุบัน (บอ่ ยาง) ขณะนี้ ยงั มหี ลักฐานซง่ึ ชาวบ้านเรียกว่า “ที่วัง” ซึ่งเป็นที่ตั้งวังเจ้าเมืองและตัวเมือง สมัยรัตนโกสินทร์และยกสงขลาขึ้นเป็นเมืองเอกขึ้น ต่อกรุงเทพมหานคร ปกครองเมอื งปัตตานี กลนั ตนั ตรงั กานู จนกระทง่ั พ.ศ. 2370 สมัยของสมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 3 แห่งรตั นโกสนิ ทร์ (พระบาทสมเด็จพระ นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2367 - 2394) โปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้น) ผู้สำเร็จราชการเมือง สงขลา ก่อสรา้ งป้อมกำแพงเมืองระหวา่ งที่สรา้ งน้ี ตวนกอู าหมดั สะอัด ชกั ชวนหวั เมอื งไทรบุรี ปัตตานี และหัว เมอื งท้งั 7 ยกมาตีสงขลา เมอื่ ปราบขบถราบคาบแลว้ จึงไดส้ รา้ งปอ้ มและกำแพงเมืองสงขลาจนเสรจ็ สน้ิ โปรด เกล้าฯ ให้ฝังหลักเมือง โดยพระราชทานเทียนชัยพฤกษ์กับเครื่องไทยทานอาราธนาสมเด็จอุดมปิฎำ พระสงฆ์ อนิ เดีย 8 รูปเป็นประธาน พระอษั ฎาจารยพ์ ราหมณ์ มีชอ่ื 8 นาย ออกมาใหพ้ ระยาสงขลาฝังหลักเมือง พระยา

6 สงขลาได้จัดแจงทำโรงพิธีกลางและโรงพิศ 4 มุมเมือง กับโรงพิธีพราหมณ์เสร็จแล้ว ณ วันศุกร์ ขึ้น 10 ค่ำ ปี ขาล จลุ ศกั ราช 1204 เวลาเชา้ โมงหน่งึ กบั สิบนาที (ตรงกับวนั ศุกร์ ท่ี 10 มนี าคม 2385 เวลา 07.10 น. ) ไดฝ้ งั หลักชัยพฤกษ์ลงไว้กลางเมืองสงขลา (ปัจจุบันเป็นศาลเจ้าเมืองหลักเมือง) ตัวเมืองที่ย้ายมานี้ คือตัวเมืองทาง ฝั่งตะวันออกของแหลมสน หรือทเ่ี รียกว่า “บ่อยาง” คอื ในเขตเทศบาลเมอื งสงขลาปัจจุบนั น้ีเอง ในสมยั รัชกาล ท่ี 5 ไดป้ ฏริ ปู การปกครองเปน็ มณฑลเทศาภบิ าล เมอื งสงขลาจึงเป็นทตี่ ั้งของมณฑลเทศาภบิ าล เมืองสงขลาจึง เป็นที่ตั้งของมณฑลนครศรีธรรมราช ต่อมาเมอ่ื ประกาศใช้พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 จึงเป็นท่ีตั้งภาค 9 แม้ภายหลังจึงยุบเลิกภาค และประกาศใช้คณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2509 แทน พระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน พ.ศ. 2495 แล้วก็ตาม การบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัด สงขลา กย็ ังเปน็ ท่ีตงั้ ของของเขตและภาคอยู่ในบันทกึ ของพ่อค้าชาวฮอลันดา ท่เี ขา้ มาติดต่อค้าขายในสมัยกรุง ศรีอยุธยาเรียก เมืองสงขลาว่า “แซงกลา” แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการเมืองแห่ง ราชอาณาจักรสยามของ นายนิโคลาส แซร์แวส เรียกชื่อเมอื งสงขลา ว่า “เมืองสิงขร” จึงทำให้มีการสนั นิฐาน ว่าที่มาของชื่อเมืองสงขลานั้นมีสอง แนวด้วยกัน คือ แนวแรกคือ ชื่อสงขลาเพี้ยนมาจาก ชื่อ“สงหลา” หรือ “สิงขร” ซึ่งแปลวา่ ภูเขา คือ เกาะหนูและเกาะแมว เมื่อมองจากทะเลด้านนอก จะเห็นเปน็ สิงห์สองตัวหมอบ อยจู่ ริง จึงเรยี กเมืองสงขลาว่า “เมืองสิงห์” แนวทส่ี องกอ็ า้ งวา่ เมอื งสงขลามภี ูเขามากมาย เพราะตงั้ อยู่บริเวณ เขาชิงแดง และสมัยหลังมีการพระราชทานนามเจ้าเมืองสงขลาว่า “วิเชียร” จึงน่าจะมาจากชื่อ “สิงขร” หรือ “สิขร” ลักษณะภูมิอากาศ อำเภอเมอื งสงขลา มี 2 ฤดกู าล คอื ฤดูร้อน และฤดูฝน 1. ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนตุลาคม ระยะนี้เป็นช่วงฤดูมรสุม หลังจากสิ้นฤดู มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเริ่มร้อนและมีอากาศร้อนที่สุดในเดอื นเมษายน แต่ไม่ร้อนนัก เนื่องจากอยู่ ใกล้ทะเล กระแสลมและไอน้ำพัดผ่านทำให้อากาศร้อนเบาบางลง และในราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เป็น ชว่ งทมี่ รสุมตะวันออกเฉียงใต้ ซึง่ เป็นมาสุมหน้ารอ้ นพดั ผ่านมหาสมุทรอินเดีย นำความช้นื และไอน้ำมาปกคลุม และฝนตกโดยทวั่ ไป 2. ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-มกราคม อำเภอเมืองสงขลา ตั้งอยู่ชายทะเลอ่าวไทย ได้รับ อทิ ธพิ ลจากมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ีพัดผา่ นอา่ วไทย ทำให้มฝี นตกชุกในทะเลคลื่นลมแรงมาก ซงึ่ เป็นช่วง ท่ีชาวนาได้ประกอบอาชพี ทำนาจ้าง โดยอาศัยนำ้ ฝนจากมรสุมตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ลักษณะภมู ปิ ระเทศ จังหวัดสงขลาทางตอนเหนือเป็นคาบสมุทรแคบและยาว ยื่นมาทางใต้ เรียกว่าคาบสมุทรสทิง พระ กับส่วนที่แผ่นแผ่นดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทางตอนใต้ ผืนดินทั้งสองส่วนเชื่อมต่อกัน โดยสะพานติณสูลา นนท์ พื้นที่ส่วนใหญ่ทางทิศเหนือส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ทิศตะวันออกเป็นที่ราบริมทะเล ทิศใต้และทิศ ตะวันออกเปน็ ที่ราบสงู และภเู ขา ซึ่งเปน็ แหลง่ กำเนิดตน้ นำ้ ลำธารทีส่ ำคัญ

7 การปกครอง อำเภอเมืองสงขลาประกอบด้วย 6 ตำบล คือ ตำบลเขารูปช้าง ตำบลพะวง ตำบลเกาะแต้ว ตำบลท่งุ หวัง ตำบลเกาะยอ และตำบลบอ่ ยางซึ่งเป็นเขตเทศบาลเมืองสงขลา แผนท่อี ำเภอเมืองสงขลา ประชากร เชื้อชาติ ภาษา ประชากรในอำเภอเมืองสงขลามีทั้งคนท้องถิ่นที่เป็นคนไทย พูดภาษาไทยแบบภาษาถิ่นสงขลา ซึ่งตั้งถิ่นฐานสืบต่อมาไม่น้อยกว่าพุทธศตวรรษที่ 18 แล้ว ยังมีการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของกลุ่มพ่อค้าอาหรับ- มาเลย์ มาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 22 การเข้าตั้งถิ่นฐานของผู้คนจากมาเลเซียที่นับถือศาสนาอิสลาม และการ เขา้ มาตั้งถน่ิ ฐานอย่างตอ่ เนอื่ งและเปน็ จำนวนมากของคนจีน ในตน้ พุทธศตวรรษท่ี 24 สว่ นคนที่มเี ชอ้ื สายอื่นๆ เช่น อินเดยี และชาวตะวนั ตก มีอยไู่ ม่มากนัก และเพิม่ ในพทุ ธศตวรรษท่ี 26

8 1.2 ข้อมลู สขุ ภาพ ข้อมลู หนว่ ยบริการ o โรงพยาบาลท่วั ไป 1 แห่ง o ศนู ย์สุขภาพชุมชน 6 แห่ง o โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบล 10 แหง่ o สำนักงานสาธารณสขุ อำเภอ 1 แห่ง ขอ้ มูลบคุ ลากร

9 จากการศกึ ษาขอ้ มูลดา้ นสาธารณสุขสามารถระบุปัญหาสาธารณสุขได้ ดังนี้ 1. โรคไม่ตดิ ต่อเร้ือรงั ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดนั และภาวะแทรกซอ้ น 2. โรคอุบตั ใิ หม่และโรคประจำถ่นิ (COVID-19) 3. ปญั หาสุขภาพมารดา ทารก 4. การอปุ โภคและบรโิ ภคผลิตภณั ฑส์ ุขภาพท่เี ปน็ อนั ตรายและการโฆษณาเกนิ จริง ปัญหาสาธารณสุขข้างต้น เมื่อนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาด้วย ขนาดของปัญหา ความรนุ แรง ความยากงา่ ย และความรว่ มมือ/ ความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา พบว่า โรคไม่ ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดัน และภาวะแทรกซ้อน เป็นปัญหาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและมี ความเป็นไปไดใ้ นการแกไ้ ขปัญหา เป็นอันดบั ที่ 1 วิเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุข และเป็นสาเหตุการป่วย และการตายอันดับตน้ ๆ ของประชาชน ในอำเภอสงขลา และมีแนวโน้มเพิม่ ขึ้น พบว่า ระหว่างปี 2562-2564 อัตราตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ เท่ากับ 32.80, 46.73 และ 49.10 โรคความดันโลหิตสูง เท่ากับ 157.45,147.56 และ 161.00 โรคหลอดเลือดสมอง เท่ากับ 65.81,57.86 และ 55.11 และอัตราตายด้วย โรคเบาหวาน เทา่ กบั 74.17, 65.09 และ 67.56 ตามลำดับ พบว่าปญั หาในการดำเนินงานควบคุมและป้องกัน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปี 2564 ในประเด็นดังต่อไปนี้ เช่น การคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและ เบาหวาน ผลงานร้อยละ 83.93 และ 84.42 ยังต่ำกว่าเป้าหมาย และ ค่า Base line ของเขต/ประเทศ ( 90.75/84.62 ) เป็นต้น ในเขตเมืองและเขตเทศบาล คัดกรองได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และการติดตามกลุ่มสงสัย ป่วยโรคเบาหวานเพื่อยืนยันวินิจฉัย ผลงาน ร้อยละ 36.85 ยังไม่บรรลุตามเป้าหมาย (เป้าหมาย ร้อยละ 60) และต่ำกว่า Baseline ของเขต/ประเทศ (51.71/60.27) และ ผู้ป่วยรายใหม่ของโรคเบาหวาน ไม่ได้เกิดจาก กลุม่ เสีย่ งดว้ ยโรคเบาหวาน แต่เกดิ จากกลมุ่ ปกติ รอ้ ยละ 97.15 ผปู้ ว่ ยเบาหวานท่ีสามารถควบคมุ ระดบั นำ้ ตาล ในเลือด (HbA1c) ได้ตามเกณฑ์ ผลงาน ร้อยละ 19.89 ต่ำกว่าเกณฑ์เป้าหมาย(เป้าหมายร้อยละ 40), ผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมระดับความดันโลหิตได้ตามเกณฑ์ ร้อยละ 43.05 ยังต่ำกว่าเกณฑ์เป้าหมาย (เป้าหมาย ร้อยละ 50) และต่ำกว่า Baseline ระดับเขตและระดับประเทศ (46.96/46.92) รวมถึงความ ครอบคลมุ ในการข้ึนทะเบยี นผู้ปว่ ยโรคเบาหวาน รอ้ ยละ 78.86 ความดนั โลหติ สูง รอ้ ยละ 78.20 ซึ่งต่ำกว่าค่า เปา้ หมาย (เป้าหมาย รอ้ ยละ 90) ความครอบคลมุ ของการตรวจภาวะแทรกซ้อนประจำปี ร้อยละ 43.62 ซ่ึงตำ่ กว่าค่าเป้าหมาย (เป้าหมายร้อยละ 60) คุณภาพของการส่งออกข้อมูลในบางแฟ้ม ส่งผลถึงการเช่ือมโยงระบบ ข้อมูลที่มีคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย (ผลการดำเนินงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่ วนั ที่ 1 ตุลาคม 2564- 31มีนาคม 2565 จากฐานข้อมูล HDC ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565)

10 บทที่ 2 วิเคราะห์ปัญหาและจดั ลำดบั ความสำคัญ 2.1 การวเิ คราะหจ์ ดุ ออ่ น จดุ แขง็ โอกาส และภัยคกุ คาม วเิ คราะห์สภาพแวดล้อมองค์กรในการจัดการปญั หา (SWOT) Strengths (จุดแขง็ ) - นโยบายผู้บริหารชดั เจน - บคุ ลากรมีความรักผูกพันธ์องคก์ ร และมงุ่ มัน่ ทุ่มเท - วิเคราะหป์ ระเด็นได้สอดคล้องกบั ปัญหาด้านสุขภาพในพน้ื ที่ - การบริหารจดั การท่โี ปร่งใส - สถานบรกิ ารได้มาตรฐาน Weaknesses (จุดอ่อน) - งบประมาณไมเ่ พียงพอ - การกระจายพยาบาลวชิ าชีพในพน้ื ที่ยังไม่เหมาะสม - สมรรถนะของบุคลากรในเครือข่ายยงั ขาดองค์ความรู้ในการปฏิบตั ิงาน - บุคลากรขาดความรู้ ทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยที ่ที นั สมัย - การประสานงานภายในขาดประสทิ ธภิ าพ Opportunities (โอกาส) - นโยบายภาครัฐทเ่ี อื้อต่อการดูแลสุขภาพของประชาชน - มนี โยบายระดบั จังหวัดท่มี ุ่งเน้นการดแู ลโรค NCDs - มกี องทุนสนบั สนุนโรค NCDs ท่ีชัดเจนจาก สปสช. - ผนู้ ำชุมชนเหน็ ความสำคัญและใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข - มีเครอื ขา่ ย อสม.และชมุ ชนทเ่ี ข้มแข็งมีความรู้ความสามารถในการคัดกรองโรค NCDs - ประชาชนมคี วามเช่อื ม่ันและพงึ พอใจในบริการสาธารณสุข - มพี นื้ ท่ีสาธารณะสำหรับทำกจิ กรรมและการออกกำลงั กาย Threats (อุปสรรค) - สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 - เป็นพน้ื ทเ่ี ขตเมืองส่งผลใหป้ ฏบิ ัตงิ านยาก - ผปู้ ว่ ยโรค NCDs กลุม่ ผ้สู งู อายุท่ภี าวะพง่ึ พงิ และกลุม่ เปราะบาง มจี ำนวนมาก - การเข้าถงึ การบริการทางการแพทย์ ของผปู้ ว่ ยโรค NCDs กลุ่มผู้สงู อายุทภ่ี าวะพง่ึ พิง และกลมุ่ เปราะบาง - ประชาชนในพ้นื ที่ขาดความรอบรูท้ างสุขภาพ (HL)

11 2.2 กำหนดประเด็นสำคัญในการจดั ทำแผนกลยทุ ธ์ ความได้เปรยี บเชิงกลยุทธ์ - การจัดการโรค NCD ท้ัง 4 มิตโิ ดยการมีสว่ นรว่ มของสหวิชาชพี และภาคเี ครือขา่ ย - สนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ ศกั ยภาพในการจดั การโรค NCD ภายใตท้ รัพยากรที่มคี วามพรอ้ ม - สถานบริการมีมาตรฐาน การบรหิ ารจดั การโปร่งใส ประชาชนเชอื่ มั่นและพงึ พอใจในบริการ สาธารณสขุ ความท้าทาย - การบริการจดั การบคุ ลากรให้มกี ารกระจายทเี่ หมาะสมกบั พ้นื ท่แี ละภาระงาน - พฒั นาศักยภาพบุคลากรและภาคีเครือข่ายใหม้ ีความพร้อมในการจัดการโรค NCD โดยใชเ้ ทคโนโลยีท่ี ทนั สมัย ประเด็นการพฒั นา/ แผนงานโครงการ จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรเพ่ือวางแผนแก้ไขปญั หาโรคไม่ตดิ ตอ่ เรื้อรงั ก่อใหเ้ กิด แผนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน คอื แผนกลยุทธ์การจัดการโรค NCD ในประชาชนพื้นทอ่ี ำเภอเมอื งสงลา ประกอบด้วย 5 ประเด็น คือ กลยทุ ธ์ 1 การบรหิ ารการจดั การดา้ นสาธารณสขุ โดยม่งุ ผลสมั ฤทธใิ์ นรปู แบบ องค์กรอัจฉรยิ ะ SMARTกลยุทธ์ 2 สถานบรกิ ารไดม้ าตรฐาน กลยุทธ์ 3 การบริหารจดั การใหม้ ีความโปรง่ ใส กลยุทธ์ 4 บคุ ลากรมีความสขุ และสมรรถนะ และกลยุทธ์ 5 ประชาชนมีสุขภาพดี

12 บทท่ี 3 การวางแผนกลยทุ ธ์ และตัวชว้ี ัดการดำเนนิ การ 3.1 วเิ คราะห์จดั ทำแผนกลยทุ ธ์และตัวชีว้ ดั กลยุทธ์ 1 การบรหิ ารการจดั การดา้ นสาธารณสุขโดยมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ใิ นรปู แบบองค์กรอัจฉรยิ ะ SMART โครงการ 1.1 การป้องกนั และควบคุมโรค SMART NCD วตั ถุประสงค์ : 1) พฒั นาเทคโนโลยีเพื่อดำเนินงานป้องกนั และควบคุมโรค NCD 2) เพ่ือเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการดำเนินงานดา้ นการป้องกันและควบคุมโรค NCD ในพน้ื ท่ี KPI : รอ้ ยละ 60 ของสถานบรกิ ารพฒั นาเทคโนโลยีเพอ่ื ใช้ในการดำเนินงานป้องกนั และควบคุมโรค NCD โครงการ 1.2 การพฒั นาเพื่อรองรับการเข้าส่สู ังคมผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง (LTC) วตั ถุประสงค์ : 1) พฒั นาเทคโนโลยเี พื่อดำเนินงานป้องกันและควบคมุ โรค NCD 2) เพือ่ เพมิ่ ประสิทธภิ าพในการดำเนนิ งานด้านการเข้าส่สู งั คมผ้สู ูงอายุและกลมุ่ เปราะบาง (LTC) KPI : รอ้ ยละ 60 ของสถานบริการพฒั นาเทคโนโลยเี พอ่ื ใช้ในการดำเนินงานดูแลผสู้ งู อายุและกลุ่มเปราะบาง ( LTC) โครงการ 1.3 พฒั นาระบบสารสนเทศและการส่อื สารสาธารณะ วตั ถปุ ระสงค์ 1) พฒั นาระบบสารสนเทศดา้ นข้อมูลสขุ ภาพ 2) พฒั นาศักยภาพบุคลากรด้านการใชเ้ ทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศ KPI : ร้อยละ 90 ของบุคลากรไดร้ ับการพัฒนาศักยภาพดา้ นเทคโนโลยีและการใชร้ ะบบสารสนเทศ โครงการ 1.4 สง่ เสริมการบริหารงานแบบบูรณาการและมีส่วนรว่ ม วัตถุประสงค์ : เพื่อพฒั นาระบบการทำงานด้วยกลไก พชอ./พชต. KPI : ร้อยละ 90 ของตำบล มีกลไก พชอ./พชต. กลยุทธ์ 2 สถานบรกิ ารไดม้ าตรฐาน โครงการ 2.1 โครงการพฒั นาสถานบรกิ ารไดม้ าตรฐาน รพ.สต. ตดิ ดาว วตั ถปุ ระสงค์ : เพื่อให้สถานบรกิ ารไดร้ ับการพฒั นามาตรฐานตามเกณฑ์ รพ.สต.ติดดาว KPI : ร้อยละ 80 ของรพ.สต.ผ่านเกณฑ์ รพ.สต.ตดิ ดาว โครงการ 2.2 : โครงการพัฒนาระบบหนว่ ยบริการปฐมภูมิ(PCC) วัตถุประสงค์ : 1) เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพบริการปฐมภมู ิ 2) เพ่ือลดความแออดั ของโรงพยาบาล KPI : รอ้ ยละ 80 ของสถานบริการผา่ นเกณฑห์ นว่ ยบรกิ ารปฐมภูมิ PCC กลยุทธ์ 3 การบรหิ ารจัดการใหม้ ีความโปรง่ ใส โครงการ 3.1 โครงการส่งเสริมความโปร่งใสในการบรหิ ารจดั การ วตั ถปุ ระสงค์ : เพื่อใหบ้ ุคลากรในหน่วยงานมีความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกบั ระเบยี บ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวข้อง และไดร้ บั การพัฒนาความรอู้ ย่างสมำ่ เสมอ KPI : หน่วยงานไดร้ ับการตรวจการบริหารความเสีย่ งและควบคมุ ภายในอยา่ งน้อยปีละ 2 ครั้ง

13 กลยุทธ์ 4 บคุ ลากรมคี วามสุขและสมรรถนะ โครงการ 4.1 โครงการคนสำราญ งานสำเรจ็ วัตถปุ ระสงค์ : เพื่อใหบ้ ุคลากรมีคณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี KPI : 1) รอ้ ยละ 80 ของบุคลากรมรี ะดบั ความสุขผ่านเกณฑ์ 2) ร้อยละ 80 ของบุคลากรมสี มรรถภาพทางกายผ่านเกณฑ์ 3) รอ้ ยละ 100 ของบคุ ลากรได้รบั การตรวจสุขภาพประจำปี 4) สถานบริการมีผลงานวิชาการ, วิจยั , นวัตกรรม อย่างน้อย 1 เรอื่ ง กลยทุ ธ์ 5 ประชาชนมีสุขภาพดี โครงการ 5.1 โครงการสง่ เสรมิ สขุ ภาพภาคเี ครือขา่ ยให้เขม้ แข็ง วตั ถุประสงค์ : เพื่อสรา้ งการมีสว่ นร่วมของภาคีเครือข่ายทกุ ภาคส่วนในการสง่ เสริมสขุ ภาพและป้องกันโรค ของคนในชุมชน KPI : ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรกลุม่ เปา้ หมายท่ีมคี วามรอบรู้ดา้ นสขุ ภาพ และพฤตกิ รรมสุขภาพ ในระดับดขี ้ึนไป

14 บทท่ี 4 สรุปบทเรยี นกระบวนการ CBL 4.1 ด้านการพฒั นาตนเองและทีมงาน - เรียนรกู้ ารทำงานเป็นทีมเน่ืองด้วยจำนวนสมาชิกในกลุ่มมีจำนวนมากความคดิ เห็นอาจมีความแตกตา่ ง - ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดี แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซง่ึ กันและกัน - ร่วมแรงร่วมใจในการทำงานให้สำเร็จลลุ ่วง - การมีจำนวนสมาชิกมากแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างดึงศักยภาพของแต่ละคนร่วมกันทำงานเปน็ ทมี 4.2 ดา้ นการพฒั นางาน - เรียนรู้การเป็นผ้บู ริหารทมี่ ีวิสยั ทศั น์กว้างไกล สามารถกำหนดแผนยุทธศาสตรข์ องหน่วยงานได้ ใชห้ ลักการ วิเคราะห์จุดแข็งจดุ อ่อน (SWOT Analysis) นำไปสู่การวางแผนกลยทุ ธ์ โครงการ/ กิจกรรม กำหนด วตั ถุประสงค์ ตวั ช้ีวัด เพ่ือใหผ้ ู้บรหิ ารระดบั ต้นและผปู้ ฏิบัตงิ าน ได้นำไปปฏิบัติและพัฒนางานในหนว่ ยงานของ ตนเองต่อไป - ผบู้ ริหารและผ้ปู ฏบิ ัติ มีการเรยี นรเู้ ทคโนโลยี สารสนเทศ รว่ มกันและนำเทคโนโลยีท่ีทนั สมัยลงสกู่ ารปฏบิ ตั ิ จรงิ

15 ภาพกิจกรรมกระบวนการ CBL ผ.บ.ก. 35(2) กล่มุ 1

16


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook