ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) เลม่ ที่ 1 โครงสร้ำงปอดของสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยน้ำนม วิชำชวี วทิ ยำ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 ภำคเรยี นที่ 2 ปีกำรศกึ ษำ 2563 เล่ม 1 นางหนึ่งฤทัย อเุ ทศ ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะครูชำนำญกำร กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย สำนกั งำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำหนองคำย
ก คำนำ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) บทที่ 14 ระบบหายใจ รายวิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม 4 รหสั วิชา ว32242 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เล่มที่ 1 เรอื่ ง โครงสร้างปอดของสัตว์เล้ียงลูกด้วยน้ำนม จัดทำ ขึ้นตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในสาระชีววิทยาเพ่ือ ประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 4 รหัสวิชา ว32242 เป็นการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ที่ เน้นนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ทักษะการสืบค้นข้อมูล กระบวนการคิดอย่างมีเหตุผลและการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์โดยครูเป็นผู้ให้ คำปรึกษา แนะนำ และคอยอำนวยความสะดวกตลอดจนติดตามผลการศึกษาอย่างใกล้ชิด โดยการพัฒนาชุด กจิ กรรมการเรียนรนู้ ี้ ได้มกี ารจัดทำ ปรบั ปรงุ และพฒั นาขนึ้ ทงั้ หมด จำนวน 2 เล่ม เวลา 4 ชวั่ โมง ดงั น้ี ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เล่มที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลย้ี งลกู ดว้ ยนำ้ นม ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เลม่ ที่ 2 โครงสร้างหวั ใจของสตั วเ์ ลี้ยงลูกดว้ ยนำ้ นม ครูสามารถมอบให้นักเรียนนำไปศึกษาได้ด้วยตนเอง ทบทวนเนื้อหาหรือสามารถนำไปใช้ ในการเรียนซ่อมเสริมในกรณที ่ีนกั เรยี นสอบไม่ผา่ นเกณฑไ์ ดอ้ กี ด้วย ผจู้ ดั ทำขอขอบพระคุณผูท้ ี่มีส่วนเกี่ยวข้องทกุ ทา่ นท่ีใหก้ ารสนบั สนนุ ใหค้ ำแนะนำและเปน็ ทปี่ รึกษาท่ีดี ในการจัดทาชุดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้จะเป็น ประโยชน์แก่นักเรียน ครูผู้สอน อาจารย์ และผู้ที่สนใจ เพื่อจะช่วยให้การดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและนกั เรยี นสามารถเรยี นร้ไู ด้เต็มตามศกั ยภาพ นางหนึง่ ฤทยั อเุ ทศ ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสัตวเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยน้ำนม
สารบญั ข เร่อื ง หนา้ คำนำ ก สารบญั ข คำชี้แจง ค คำแนะนำการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำหรับครู) ง คำแนะนำการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (สำหรับนกั เรียน) จ ผงั มโนทศั นข์ นั้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ ฉ แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง โครงสร้างปอดของสัตวเ์ ลี้ยงลูกด้วยน้ำนม 1 ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง โครงสรา้ งปอดของสัตวเ์ ลี้ยงลูกด้วยนำ้ นม 5 ใบความรู้เรื่อง โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนำ้ นม 12 แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เล้ยี งลูกดว้ ยน้ำนม 23 ภาคผนวก 27 ชุดท่ี 1 โครงสร้างปอดของสตั ว์เลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม
ค คำชแี้ จงชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) บทท่ี 14 ระบบหายใจ รายวิชาชีววทิ ยา 4 รหสั วชิ า ว32242 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 เลม่ ท่ี 1 เรอ่ื ง โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ชุดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) บทที่ 14 ระบบหายใจ รายวิชาชวี วทิ ยา 4 รหสั วิชา ว32242 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่มท่ี 1 เรือ่ ง โครงสร้างปอดของสัตวเ์ ลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม เปน็ ชุดการ เรยี นร้ทู เ่ี น้นให้นักเรียนพฒั นาความรโู้ ดยวิธกี ารสบื เสาะหาความรู้ท้งั 5 ขั้นตอน ซ่งึ ใช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม การวางแผนการทำงาน การแก้ปัญหา ค้นคว้าหาความรู้หรือคำตอบ โดยภายในชดุ การ เรยี นรู้แตล่ ะชุดมกี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมและมี ปฏสิ มั พนั ธ์ซึง่ กนั และกนั ภายในกลมุ่ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) บทท่ี 14 ระบบหายใจ รายวิชาชวี วทิ ยา 4 รหัสวชิ า ว32242 ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ใช้ดำเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ ในภาคเรียนที่ 2 ประกอบดว้ ยชดุ การเรียนรู้ จำนวน 2 เล่ม รวม จำนวน 4 ชวั่ โมง ดังน้ี ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เลม่ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ล้ยี งลกู ด้วยนำ้ นม จำนวน 2 ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เล่มท่ี 2 โครงสร้างหวั ใจของสัตว์เลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม จำนวน 2 ชวั่ โมง ชุดการเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ (5E) บทท่ี 14 ระบบหายใจ เล่มท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั ว์ เล้ียงลกู ดว้ ยน้ำนมชดุ นี้ จะเป็นประโยชนแ์ ละเปน็ แนวทางในการพัฒนาการเรียนรทู้ ่เี นน้ ให้นักเรียนได้ใชว้ ิธกี าร สืบเสาะหาความรดู้ ้วยตนเอง ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เล้ยี งลกู ด้วยน้ำนม
ง คำแนะนำการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำหรบั คร)ู ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) บทที่ 14 ระบบหายใจ รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว32242 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่มที่ 1 เรื่อง โครงสร้างปอดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมมี จุดมุ่งหมายเพอ่ื ช่วยให้การดำเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ บรรลุวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้และมีประสิทธิภาพ ผู้สอน ควรเตรยี มความพรอ้ ม และปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ ดงั ต่อไปนี้ 1. ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ และแผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง โครงสร้าง ปอดของสตั ว์เล้ียงลกู ด้วยน้ำนม รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว32242 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ใหเ้ ข้าใจ 2. เตรียมชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามจำนวนนกั เรยี น วัสดุ ส่งิ ของ และอุปกรณ์ทรี่ ะบไุ ว้ใน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3. ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ครูควรชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจ บทบาทของตนเอง แนะนำขั้นตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แนวปฏิบัติในระหว่างการดำเนินกิจกรรม การเรยี นรู้ 4. การดำเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ตามกระบวนการ 5 ขัน้ ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบาย และลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ขั้นที่ 5 ขั้นประเมนิ ผล (Evaluation) การจดั ชนั้ เรยี นนักเรียนจะทำกิจกรรมเป็นกลุม่ ๆ ละ 5 – 6 คน โดยคละนกั เรยี นในกลุ่มเป็น 3 ระดับ คือ เก่ง ปานกลางและออ่ น จำนวนกลุ่มจะขนึ้ อยกู่ ับนักเรยี นในชั้นเรียน เมอ่ื ทำการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียน จะตอ้ งแยกกลมุ่ และจดั หอ้ งทำการสอบเป็นรายบุคคล 5. ดำเนินการประเมินผลการเรียนรู้จากการตรวจแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน สังเกต พฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านกลมุ่ ประเมินผลการปฏิบตั ิการ ตรวจใบกจิ กรรมการเรียนรู้ 6. ครูใหค้ ำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 7. เมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ครูให้นักเรียนรวมตรวจสอบ และเก็บวสั ดุ ส่งิ ของและอปุ กรณใ์ หเ้ รียบรอ้ ย เพ่อื สะดวกในการใชค้ ร้ังตอ่ ไป ชุดท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลยี้ งลูกด้วยนำ้ นม
จ คำแนะนำการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำหรบั นกั เรยี น) ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) บทที่ 14 ระบบหายใจ รายวชิ าชวี วิทยา 4 รหสั วชิ า ว32242 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 เลม่ ที่ 1 เรอ่ื ง โครงสรา้ งปอดของสัตว์เล้ยี งลกู ดว้ ยนำ้ นม นกั เรียนปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนดว้ ยความซอื่ สตั ยแ์ ละตั้งใจ ดังนี้ 1. ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลย้ี งลูกด้วยนำ้ นม ใช้เวลา 2 ช่วั โมง 2. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น กลมุ่ ๆ ละ 5 – 6 คน จำนวนกลุ่มขน้ึ อย่กู บั นักเรียนในชนั้ เรียน โดยคละนกั เรยี นในกลุม่ เปน็ 3 ระดับ คือ เกง่ ปานกลาง และอ่อน 3. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษาสาระสำคญั ผลการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรขู้ อบข่าย เนือ้ หาประจำชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ 4. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเรอ่ื งระบบหายใจของคน จำนวน 10 ข้อ 5. นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนในแต่ละชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ มีขั้นตอนประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ข้นั ที่ 5 ขั้นประเมนิ ผล (Evaluation) 6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง โครงสรา้ งปอดของสัตวเ์ ล้ยี งลกู ด้วยน้ำนม จำนวน 10 ข้อ 7. หากพบข้อสงสยั ใหป้ รึกษาครูผสู้ อนได้ทนั ที ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เล้ยี งลูกด้วยนำ้ นม
ฉ ผังมโนทศั น์ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ ชแ้ี จงการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้ อ่านคำชี้แจงและคำแนะนำ ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ขนั้ ท่ี 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ ข้นั ท่ี 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Engagement) (Exploration) ข้นั ท่ี 5 ขัน้ ประเมนิ ข้นั ที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ ข้นั ที่ 3 ข้นั อธิบายและ (Evaluation) (Elaboration) ลงข้อสรปุ (Explanation) ทำแบบทดสอบหลังเรยี น ไม่ผา่ นเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ พบครู, ซ่อมเสรมิ ศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ่อไป ชุดท่ี 1 โครงสร้างปอดของสตั ว์เลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยน้ำนม วชิ าชวี วิทยา 4 รหสั วชิ า ว 32242 ข้อสอบแบบปรนยั 10 ข้อ 10 คะแนน โรงเรยี นชมุ พลโพนพิสยั _____________________________________________________________________ คำชแี้ จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สดุ เพียงขอ้ เดยี ว แล้วตอบลงในกระดาษคำตอบ 1. ข้อใดเปน็ ลักษณะโครงสร้างในการแลกเปลีย่ นแกส๊ ของร่างกายไมว่ ่าจะเปน็ ของสตั วช์ นดิ ใดจะมีลักษณะ เหมอื นกนั ก. ตอ้ งบางและชนื้ อยเู่ สมอ ข. ตอ้ งมเี ส้นเลอื ดฝอยมาหล่อเลี้ยง ค. ตอ้ งมนี ้ำมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ง. ต้องเปน็ แผน่ บาง ๆ ท่ีซ้อนทับกนั หรือพบั ไปมา 2. เมือ่ นักเรียนสูดอากาศเขา้ ทางรจู มูก อากาศจะผ่านอวัยวะใดบ้าง ก. รจู มกู -->โพรงจมกู -->กลอ่ งเสยี ง--> คอหอย-->หลอดลม-->ท่อลม-->หลอดลมฝอย-->ถงุ ลม ข. รูจมกู -->โพรงจมูก--> คอหอย-->กลอ่ งเสียง-->หลอดลม-->ทอ่ ลม-->หลอดลมฝอย-->ถุงลม ค. รูจมกู -->โพรงจมกู -->คอหอย-->กลอ่ งเสียง-->ท่อลม-->หลอดลม-->หลอดลมฝอย-->ถงุ ลม ง. รูจมกู -->โพรงจมูก-->คอหอย-->กล่องเสยี ง-->ท่อลม-->หลอดลม-->ถุงลม-->หลอดลมฝอย ภาพใชต้ อบคำถามขอ้ 3-6 3. หมายเลขใด เป็นบรเิ วณทมี่ ีเยื่อบุผิวมซี ิเลียและเมือกเพอ่ื ดกั จบั สงิ่ แปลกปลอมไมใ่ ห้เขา้ สู่ถุงลม ก. 1 และ 2 ข. 1 และ 3 ค. 1 และ 4 ง. 1 และ 5 ชุดที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลี้ยงลูกดว้ ยน้ำนม
2 4. หมายเลขใด ที่มีลกั ษณะเป็นหลอดขนาดเลก็ ท่ีแตกแขนงจากหลอดลม มหี ลายขนาด ลำเลียงอากาศไปยงั ถงุ ลมปอด ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 5. หมายเลขใด เปน็ บริเวณที่มีการแลกเปลีย่ นแก๊ส ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 6. ขอ้ ใดกล่าวถึงรปู รา่ งและขนาดของปอดซ้ายและปอดขวาของมนุษยไ์ ด้ถกู ต้อง ก. ปอดซา้ ยมี 2 พู ปอดขวามี 3 พู และปอดซ้ายมีขนาดเล็กกวา่ ปอดขวา ข. ปอดซา้ ยมี 3 พู ปอดขวามี 4 พู และปอดซา้ ยมขี นาดเลก็ กว่าปอดขวา ค. ปอดซา้ ยมี 3 พู ปอดขวามี 2 พู และปอดซ้ายมีขนาดใหญก่ วา่ ปอดขวา ง. ปอดซา้ ยมี 4 พู ปอดขวามี 3 พู และปอดซ้ายมขี นาดใหญก่ วา่ ปอดขวา ภาพใช้ตอบตำถามข้อ 7-8 ภาพแสดงลกั ษณะหลอดเลอื ดฝอยที่ลอ้ มรอบถุงลมในปอดซึง่ มีทิศทางการไหลของเลือดตามลูกศร 7. ลำดบั ทศิ ทางการแพร่ของ O2 เปน็ อย่างไร ก. A --> B --> C --> E --> D ข. A --> B --> C --> D --> E ค. E --> D --> C --> B --> A ง. D --> E --> C --> B --> A 8. จากรปู บรเิ วณใดทีม่ ีความดันย่อยของ CO2 สงู ท่ีสดุ ก. D ข. E ค. B และ C ง. A และ B ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลยี้ งลูกดว้ ยนำ้ นม
3 9. การแลกเปลี่ยนแกส๊ เกิดขน้ึ ท่ีบริเวณใด 1. ถงุ ลมกับหลอดเลือดฝอย 2. เซลล์ของเนือ้ เยือ่ ต่างๆ กบั หลอดเลือดฝอย 3. หลอดเลอื ดฝอยกับทอ่ ลม 4. รูจมูกกบั ทอ่ ลม ก. 1 และ 2 ข. 1และ 3 ค. 1 ง. 4 10. ในขณะทส่ี ูดลมหายใจเข้า การทำงานของกล้ามเนื้อกะบังลม กะบงั ลม กลา้ มเน้อื ระหวา่ งซโ่ี ครงแถบนอก และกระดูกซโ่ี ครง เป็นอย่างไร ก. กล้ามเนื้อกะบังลมหดตัว กะบังลมยกตวั สูงขน้ึ กล้ามเน้อื ระหวา่ งกระดูกซโี่ ครงแถบนอก หดตัว กระดกู ซี่โครงยกสงู ขนึ้ ข. กลา้ มเนอื้ กะบงั ลมหดตวั กะบังลมเคล่อื นต่ำลง กลา้ มเนือ้ ระหว่างกระดกู ซ่ีโครงแถบนอก หดตวั กระดูกซโ่ี ครงยกสงู ข้นึ ค. กลา้ มเนอื้ กะบงั ลมหดตัว กะบังลมเคลอ่ื นต่ำลง กลา้ มเนือ้ ระหวา่ งกระดกู ซีโ่ ครงแถบนอก หดตวั กระดูกซโี่ ครงลดต่ำลง ง. กล้ามเนอ้ื กะบังลมหดตัว กะบงั ลมเคล่ือนต่ำลง กล้ามเนอ้ื ระหว่างกระดูกซโี่ ครงแถบนอกคลายตัว กระดูกซโ่ี ครงลดต่ำลง ง. กระดูกซโ่ี ครงลดต่ำลงความดนั อากาศในปอดคงที่ ชดุ ที่ 1 โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยนำ้ นม
4 กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน ช่อื ...........................................................................................................ชน้ั ...................... เลขที.่ ............ ขอ้ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ชุดท่ี 1 โครงสร้างปอดของสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้ำนม
5 ชุดกจิ กรรมเล่มท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนำ้ นม ประกอบแผนการจดั การเรียนรู้เรอื่ งโครงสร้างปอดของสตั ว์เล้ียงลูกด้วยน้ำนม บทท่ี 14 ระบบหายใจ เวลา 2 คาบ จดุ ประสงค์ 1. สงั เกตลักษณะภายนอกและภายในของปอด 2. สังเกตการณเ์ ปลีย่ นแปลงของปอดเมอ่ื มีการสบู ลม 3. สังเกตและอธบิ ายลกั ษณะโครงสรา้ งของท่อลม หลอดลม และเน้ือเยอ่ื ปอด สาระสำคญั ทางเดินหายใจของมนุษย์ประกอบด้วยรูจมูก โพรงจมูก คอหอย กล่องเสียง ท่อลม หลอดลม หลอดลมฝอยและถงุ ลมในปอด โดยปอดเป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนแก๊สระหวา่ งถุงลมกับหลอดเลือดฝอย และบริเวณเซลล์ของเน้ือเย่ือต่าง ๆ มีการแลกเปลี่ยนแก๊สโดยการแพร่ผ่านหลอดเลือดฝอย เช่นกัน ซ่ึง O2 และ CO2 จะถูกลำเลียงโดยระบบหมุนเวียนเลือด นอกจากน้ีการทำงานของระบบหายใจ ยังเกี่ยวข้องกับการ รักษาดลุ ยภาพของกรด-เบส ของเลอื ด กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) นักเรียนศึกษาโครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลกู ด้วยน้ำนม จากนั้นนำเขา้ สู่กิจกรรมที่ 14.1 แล้ว คำถามดงั นี้ - โครงสรา้ งที่ใช้ในการแลกเปล่ียนแกส๊ ของสัตว์เล้ยี งลูกดว้ ยนำ้ นมมลี ักษณะอย่างไร ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนศึกษาโครงสร้างปอดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม โดยใช้ บทปฏิบัติการ โครงสร้างปอดของ สตั วเ์ ลย้ี งลกู ด้วยนำ้ นม การเตรยี มตวั ล่วงหน้า 1. เตรยี มปอดหมูหรือปอดวัวซึง่ ต้องสัง่ ผู้ขายล่วงหนา้ เพราะปอดทนี่ ำมาขายในตลาดนัน้ มักถกู ห่ันเป็น ชิ้นจึงไม่เหมาะท่ีจะนำมาศึกษา ควรให้ปอด ท่อลมและกล่องเสียงมีความสมบรูณ์ ไม่ฉีกขาดโดยอาจนำส่วน ของฝาปอดกล่องเสียงท่ีติดอยู่กับล้ินรวมทั้งหลอดอาหารมาด้วย ท้ังน้ี การเลือกตัวอย่างสตั ว์ควรคำนึงว่าไม่ขัด ต่อศาสนาของนักเรียน 2. ให้นักเรียนศึกษาขั้นตอนการทำกิจกรรมใหล้ ะเอียดโดยครูอาจอธิบายข้ันตอนพร้อมกบั สาธิตให้ นักเรียนดูก่อนจากนั้นครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 4-5 คน ให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างจริงพร้อมเปรียบเทียบ โครงสรา้ งของปอดกับรูป 14.10 ในหนงั สือเรียนโดยให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายคำถามภายในกลุ่มและบันทึก ผลดว้ ยการวาดรปู หรอื ถ่ายรปู ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยน้ำนม
6 3. ในการศึกษาการขยายตัวของปอด ควรใช้สายยางและที่สูบลม ไม่ควรเป่าลมจากปาก โดยตรง เพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคจากสัตว์ได้ และในการศึกษาหลอดลมอาจใช้สายยาง ขนาดต่างๆ ที่มีขนาด ใกล้เคียงกับหลอดลมท่ีสังเกตเพ่ือสูบลมเข้าไป เพื่อให้เห็นว่าหลอดลมมีขนาดต่างๆ โดยหลอดลมที่ต่อกับทอ่ ลมมขี นาดใหญ่และจะมี ขนาดเล็กลงตามลำดบั จนมีขนาดเล็กทส่ี ดุ เรยี กว่าหลอดลมฝอย ซ่ึงหลอดลมฝอยมอง ดว้ ยตาเปล่าไมเ่ ห็นแตน่ ักเรียนอาจเหน็ จุดสน้ิ สุดเท่าทส่ี งั เกตดว้ ยตาเปล่าได้ ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. นักเรียนร่วมกนั อธิบายผลท่ไี ด้จากการทำกิจกรรม โดยมีแนวทาง ดงั น้ี - โครงสรา้ งภายนอกของปอดหมู - เมอื่ ใชก้ รรไกรตดั ท่อลมตามแนวยาวจนถงึ หลอดลม ให้นักเรียนสังเกตลกั ษณะของท่อลม - เปรยี บเทียบการจมการลอยของชนิ้ เนื้อปอดกบั ชิ้นกล้ามเน้ือ ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกลนื อาหาร โดยนำส่วนของกล่องเสียง ฝาปิดกล่องเสียง และหลอดอาหารมาอธิบาย ให้นักเรียนเปรียบเทียบการทำงานของฝาปิดกล่องเสียงในการหายใจเข้าและ หายใจออก กับขณะกลืนอาหารซึ่งลิ้นจะดันอาหารไปด้านหลังของช่องปาก อาหารจะดันลิ้นไก่และ เพดาน ออ่ นขน้ึ ดา้ นบนปิดกน้ั ทางเดินหายใจเพอื่ ป้องกันอาหารไม่ให้เข้าสูโ่ พรงจมูกและทอ่ ลม เนือ่ งจากมีฝาปิดกล่อง เสียงปดิ ชอ่ งเปดิ ของกล่องเสยี งไว้ ซง่ึ อาจสรปุ ได้ดงั นี้ โครงสรา้ ง ขณะหายใจเขา้ และหายใจออก ขณะกลนื อาหาร ฝาปิดกลอ่ งเสียง ยกตวั สงู ขึน้ เลอื่ นตัวตำ่ ลง ทางเดนิ หายใจ เปิด ปิด ทางเดินอาหาร ปดิ เปิด 2. จากการทำกิจกรรม ให้นักเรียนอาจวาดรูปทางเดินหายใจและปอดได้หลากหลายข้ึนกับ ส่วน ประกอบทีส่ ังเกตไดจ้ ากการทำกจิ กรรม โดยควรมีส่วนประกอบที่สำคัญคอื กล่องเสียง ท่อลม หลอดลมและปอด ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยการถามตอบ โดยมีแนวคำถามดงั น้ี - ปอดมีสีอะไร เพราะอะไรจงึ เป็นเชน่ นั้น - เนื้อปอดมีลักษณะอยา่ งไร - ลักษณะรปู รา่ งของปอดซา้ ยและปอดขวามีความแตกตา่ งกันอยา่ งไร - เมอื่ ใชน้ ้ิวมือบีบทอ่ ลมแล้วปล่อย ท่อลมจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร - ลกั ษณะของทอ่ ลมและการจัดเรยี งตัวของกระดูกอ่อน รปู รา่ งของกระดกู ออ่ นมีความเหมาะสมต่อ การทำงานอย่างไร - เมื่อสอดสายยางแล้วสูบลมเข้าที่หลอดลมด้านหนึง่ ของปอด ปอดอีกข้างหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง อยา่ งไร - เมื่อตดั เนื้อปอดเปน็ ช้นิ ขนาดเลก็ ใส่ในบกี เกอรท์ ม่ี ีนำ้ จะเกิดอะไรข้นึ เพราะเหตใุ ด ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เล้ยี งลกู ดว้ ยน้ำนม
7 ปฏบิ ตั กิ าร โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม จุดประสงค์ 1. สังเกตลกั ษณะภายนอกและภายในของปอด 2. สังเกตการณ์เปล่ยี นแปลงของปอดเมื่อมีการสบู ลม 3. สังเกตและอธบิ ายลกั ษณะโครงสรา้ งของท่อลม หลอดลม และเน้ือเยอื่ ปอด สาระสำคญั ทางเดินหายใจของมนุษย์ประกอบด้วยรูจมูก โพรงจมูก คอหอย กล่องเสียง ท่อลม หลอดลม หลอดลมฝอยและถงุ ลมในปอด โดยปอดเป็นบริเวณที่มีการแลกเปล่ียนแก๊สระหว่างถุงลมกับหลอดเลือดฝอย และบริเวณเซลล์ของเนื้อเยื่อต่าง ๆ มีการแลกเปลี่ยนแก๊สโดยการแพร่ผ่านหลอดเลือดฝอย เช่นกัน ซึ่ง O2 และ CO2 จะถูกลำเลียงโดยระบบหมุนเวียนเลือด นอกจากนี้การทำงานของระบบหายใจ ยังเกีย่ วข้องกับการ รกั ษาดุลยภาพของกรด-เบส ของเลอื ด วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1. ปอดหมู หรอื ปอดววั (ท่ีมที ่อลมและกลอ่ งเสยี งตดิ อยู่) 2. นำ้ 3. เครื่องมอื ผ่าตัด 4. ถาดผ่าตัด 5. ถงุ มอื ยาง 6. สายยางขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลาง 1.5 cm. และ 1 cm. 7. ทสี่ ูบลมหรือที่สบู ลกู โป่ง 8. บกี เกอร์ ขนาด 250 mL ข้อควรระวัง 1. ระมัดระวงั ในการใชเ้ ครอ่ื งมอื ผา่ ตัด 2. หา้ มใช้ปากเป่าลมเขา้ สู่ปอดสัตว์ 3. สวมถุงมือยางระหวา่ งการทำกจิ กรรม 4. หลงั การทำกิจกรรมควรทำความสะอาดอุปกรณ์ และล้างมอื ใหส้ ะอาด ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการทดลอง 2 คาบ (1 ชัว่ โมง 40 นาที ) ชดุ ที่ 1 โครงสร้างปอดของสตั ว์เลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม
8 วธิ ีทำการทดลอง 1. ล้างปอดให้สะอาด และสงั เกตโครงสรา้ งภายนอก 2. สงั เกตลกั ษณะกล่องเสียง ทอ่ ลม และกระดูกออ่ นทปี ระกอบกนั เปน็ ท่อลม โดยเปรยี บเทียบ โครงสร้างกับรปู 14.10 จากนั้นใช้น้ิวมือบีบท่อลมแล้วปลอ่ ย สงั เกตการเปล่ยี นแปลงที่เกดิ ขึน้ 3. กรีดทอ่ ลมเปน็ ช่องแล้วสอดสายยางทมี่ ีเสน้ ผ่านศูนย์กลาง 1.5 cm. เขา้ ไปในทอ่ ลม จากนน้ั สบู ลม เขา้ ไปโดยใช้ทสี่ ูบลม สงั เกตการเปลีย่ นแปลงของปอดและนำสายยางออกจากทอ่ ลม 4. ใชก้ รรไกรตัดทอ่ ลมตามแนวยาวจนถงึ หลอดลม แล้วสอดสายยางทม่ี ีเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 1 cm. เข้า ทห่ี ลอดลมดา้ นใดด้านหนง่ึ จากนนั้ สูบลมเขา้ ไปโดยใช้ท่ีสูบลม สงั เกตการเปล่ียนแปลงที่เกดิ ขึ้น 5. ผา่ เน้ือเยือ่ ปอดบริเวณหลอดลม สังเกตการณ์แตกแขนงของหลอดลมและการเรยี งตัวของทางเดิน หายใจ 6. ตัดเน้อื ปอดเป็นช้นิ ขนาดเล็ก ใส่ในบกี เกอร์ทมี่ ีน้ำ สังเกตการเปลย่ี นแปลงท่ีเกดิ ข้ึน 7. วาดภาพทางเดนิ หายใจและปอด พร้อมท้งั ระบโุ ครงสรา้ งท่สี งั เกตจากการทำกิจกรรม ผลการทำกิจกรรม จากการสงั เกตโครงสรา้ งภายนอกของปอดหมู พบว่า............................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. เมอื่ สูบลมเขา้ ทอ่ ลมพบวา่ ..................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ดังภาพ ภาพ ลักษณะของปอดกอ่ นสูบ ลกั ษณะของปอดหลังสูบลมเข้าทอ่ ลม ชุดท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เล้ยี งลกู ด้วยน้ำนม
9 เม่อื ใชก้ รรไกรตอ่ ทอ่ ลมตามแนวยาวจนถงึ หลอดลม แล้วสังเกตของทอ่ ลมพบวา่ ................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ดงั ภาพ ภาพลกั ษณะหลอดลมและหลอดลมฝอย เมอ่ื ตัดชิน้ เนอ้ื ใส่บกี เกอรท์ ี่มนี ำ้ พบวา่ .................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ดังภาพ ภาพ ชน้ิ กลา้ มเนือ้ และช้ินเนอ้ื ปอดในบกี เกอร์น้ำ ชุดท่ี 1 โครงสร้างปอดของสัตว์เลีย้ งลูกดว้ ยนำ้ นม
10 จากการทำกจิ กรรม สามารถวาดรปู ทางเดินหายใจและปอดไดด้ งั น้ี ภาพทางเดนิ หายใจและปอด สรุปผลการทำกจิ กรรม .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชดุ ที่ 1 โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลย้ี งลูกด้วยนำ้ นม
11 คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. ปอดมีสอี ะไร เพราะอะไรจึงเปน็ เชน่ น้นั .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. เนื้อปอดมลี กั ษณะอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ลกั ษณะรูปร่างของปอดซ้ายและปอดขวามีความแตกตา่ งกันอยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. เมื่อใชน้ วิ้ มือบบี ทอ่ ลมแล้วปล่อย ทอ่ ลมจะมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 5. ลักษณะของทอ่ ลมและการจัดเรยี งตัวของกระดูกอ่อน รปู รา่ งของกระดูกออ่ นมีความเหมาะสมต่อการ ทำงานอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 6. เมือ่ สอดสายยางแลว้ สบู ลมเข้าที่หลอดลมด้านหนึ่งของปอด ปอดอีกขา้ งหนง่ึ มีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 7. เมื่อตดั เนอื้ ปอดเปน็ ช้นิ ขนาดเล็กใส่ในบกี เกอร์ท่ีมีน้ำจะเกดิ อะไรข้ึน เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชุดที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม
12 ใบความร้เู รือ่ ง โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เล้ียงลูกดว้ ยนำ้ นม ในแต่ละวนั คนเราหายใจเข้าและออกตลอดเวลา การหายใจเกดิ จากการทำงานร่วมกนั ของอวัยวะใน ระบบหายใจ ซงึ่ ทำหน้าที่นำแก๊สออกซเิ จนจากอากาศเข้าสเู่ ซลล์รา่ งกายสำหรับทำปฏิกริ ยิ ากบั อาหารต่างๆ ภายในเซลลเ์ พือ่ เปลีย่ นเป็นพลงั งาน แลว้ ถ่ายเทแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดส์ ่วนท่มี ากเกินพอทีไ่ มต่ อ้ งการจาก ปฏกิ ริ ยิ าออกจากเซลล์เซลล์ตา่ งๆในรา่ งกายมไิ ดส้ ัมผัสกับอากาศภายนอกโดยตรง รา่ งกายจึงต้องมีวธิ กี ารท่จี ะ ช่วยใหแ้ กส๊ ท่อี ย่ภู ายนอกตดิ ต่อกบั เซลลภ์ ายในร่างกาย จงึ เกิดกระบวนการรับสง่ แกส๊ ออกซิเจนและแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดโ์ ดยอาศยั การทำงานของปอดเป็นเครื่องนำอากาศเข้าออกจากรา่ งกาย และการไหลเวยี น ของเลอื ดพาแกส๊ เหล่าน้ันไปยงั ส่วนต่างๆทั่วร่างกาย ระบบการหายใจ คือ ระบบท่ีประกอบดว้ ยอวยั วะเก่ยี วข้องกับการหายใจ เปน็ การนำอากาศเข้าและ ออกจากรา่ งกายส่งผลให้แกส๊ ออกซิเจนทำปฏิกิริยากบั สารอาหาร ไดพ้ ลงั งาน น้ำ และแก๊สารบ์ อนไดออกไซด์ กระบวนการหายใจเกิดขน้ึ กับทุกเซลล์ตลอดเวลา การหายใจจำเปน็ ต้องอาศัย โครงสรา้ ง 2 ชนดิ คอื กล้ามเนื้อ กะบงั ลม และกระดกู ซีโ่ ครง การหายใจของคนประกอบดว้ ย 2 ข้นั ตอนใหญๆ่ คือ 1. การหายใจภายนอก (external respiration) เป็นการนำอากาศเขา้ สู่ปอดการแลกเปล่ียนแกส๊ ระหว่างปอดกบั เลอื ด 2. การหายใจภายใน (internal respiration) การขนส่งแก๊สจากเลอื ดไปยงั เซลลแ์ ละเนอื้ เย่ือ ซงึ่ จะทำใหไ้ ดพ้ ลังงานในรูปของความรอ้ นทำใหร้ ่างกายอบอุ่นและ ATP ที่นำไปใชใ้ นกจิ กรรมตา่ งๆ ของเซลล์ ซึง่ เปน็ จุดประสงค์สำคัญท่ีสุดของการหายใจ ระบบหายใจของคนประกอบดว้ ยสว่ นตา่ งๆ ดังน้ีคอื สว่ นนำอากาศเขา้ สรู่ า่ งกาย (conducting division) มอี วยั วะทท่ี ำหน้าทเ่ี ปน็ ทางผา่ นของอากาศ เขา้ สู่สว่ นทีม่ ีการแลกเปลยี่ นแกส๊ โดยเริม่ ตง้ั แต่ รูจมกู (nostril) โพรงจมูก (nasal cavity) คอหอย (pharynx) กลอ่ งเสยี ง (larynx) หลอดลมคอ (trachea) หลอดลมขัว้ ปอดหรือบรอนคัส (bronchus) หลอดลมฝอยหรือ บรอนคโิ อล (bronchiole) หรือเทอรม์ ินอลบรอนคิโอล (terminalbronchiol) ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เลีย้ งลูกด้วยน้ำนม
13 แผนผังทางผา่ นของอากาศสเู่ ซลล์ ส่วนที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแกส๊ (respiratory division) เป็นส่วนของหลอดลมฝอยทตี่ ่อจาก เทอร์มินอลบรอนคิโอล คอื เรสไพราทอรบี รอนคโิ อล ซึง่ จะมกี ารโปง่ พองออกเป็นถงุ ลมย่อย (pulmonaryalveoli) ซง่ึ ทำให้แลกเปล่ียนแก๊สได้ สำหรับส่วนท่ีต่อจากเรสไพราทอรบี รอนคิโอล จะเป็นทอ่ ถุง ลม (alveolarduct) ถงุ ลม (alveolarsac) และถงุ ลมยอ่ ย (alveoli pulmonaryalveoli) อยู่ปลายสุด โครงสรา้ งต้งั แตห่ ลอดลม (bronchus) ทม่ี ีการแตกแขนงและมีขนาดเลก็ ลงไปเรอ่ื ยๆคอื หลอดลมฝอยท่อ ลมถงุ ลมถุงลมย่อยจะเรยี กว่า บรอนเคยี ลทรี (bronchial tree) ซ่งึ จะถูกบรรจอุ ยใู่ นปอดยกเวน้ หลอดลม ตอนตน้ ๆท่ีอยนู่ อกปอดนอกจากนโี้ ครงสรา้ งที่กล่าวมาแลว้ ยังมีส่วนประกอบทีส่ ำคญั ซ่ึงเปน็ องคป์ ระกอบรว่ ม คือกระดูกซีโ่ ครง (rib) และกลา้ มเน้ือยดึ กระดูกซโ่ี ครง (intercostal muscle) ซึ่งจะรว่ มกนั ทำงานใหเ้ กิดการ หายใจเขา้ หายใจออกและป้องกนั อันตรายให้แก่ระบบหายใจ ภาพแสดงระบบหายใจของคน ชุดที่ 1 โครงสร้างปอดของสัตวเ์ ลย้ี งลกู ด้วยน้ำนม
14 อวยั วะที่เก่ียวขอ้ งกับระบบหายใจสว่ นตา่ งๆ ต้งั แต่จมกู และปาก ต่อถงึ คอหอยและหลอดลมได้ อากาศผ่านเข้ารจู มกู แล้วจะเขา้ สโู่ พรงจมกู ซ่งึ มีขน เส้นเลก็ ๆ และต่อมนำ้ มันชว่ ยในการกรองและหาก เปน็ หวดั นานๆ เชอ้ื หวดั อาจทำให้เย่ือบโุ พรงจมูก อักเสบและทำใหป้ วดศีรษะ เรยี กว่าเปน็ ไซนัสหรือไซนัสอกั เสบ 1. จมูก (nose) ภายนอกประกอบด้วยกระดกู แขง็ 2 ชิ้น ประกอบเปน็ สนั จมูกหรือดัง้ ส่วนใหญ่เปน็ กระดูกออ่ น ภายในโพรงจมูกแบ่ง ออกเปน็ 2 ชอ่ ง ภายในช่องจมูกมีขนจมูกส าหรบั ดกั กรองอากาศ จบั ฝุ่นละอองไม่ใหผ้ า่ นลงสูป่ อดท่โี พรงจมกู มเี ยือ่ โพรงจมูกหนา ช่วยใหอ้ ากาศทีเ่ ข้ามามีความชมุ่ ชื้นและมอี ุณหภูมิสงู ขึน้ เนือ่ งจากมเี สน้ เลือดจำนวนมากทอ่ี ยูใ่ ต้เยื่อผิวของโพรงจมูก ภาพแสดงโพรงจมกู ถา้ มีต่อมนำ้ มัน (Sebaceous gland) และตอ่ ม เหง่ือ (Sweat gland) ขบั ของเหลวออกมาเพื่อให้เกดิ ความ ชุ่มชน้ื เมื่อมฝี นุ่ เข้ามาเกาะและแห้งแลว้ จะกลายเปน็ แผน่ ล่อนหลุดได้ ในจมกู มีบรเิ วณซึ่งเรียกว่า ออลแฟกทอรแี อเรีย (olfactoryarea) ทำหนา้ ที่รับกล่นิ โดยมีเซลลเ์ ยื่อบุผิวซึง่ เปลย่ี นแปลงไปทำหนา้ ท่ี เฉพาะ เรยี กว่าออลแฟกทอรีเซลล์ (olfactory cell) จมกู มพี นื้ ท่ี 10 ตารางเซนตเิ มตร มขี นาด ลดลงเมอ่ื มอี ายุมากขนึ้ จึงทำใหค้ นแก่รบั กลิน่ ตา่ งๆ ได้ น้อยลงผนงั ดา้ นบนจมกู มเี ส้นประสาทสัมผัสกล่นิ ภาพแสดงโครงสร้างในโพรงจมูก ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม
15 ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม
16 ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม
17 ภาพแสดงโครงสรา้ งการหายใจดว้ ยปอดในคน ภาพ แสดงหลอดลมขั้วปอด ชดุ ท่ี 1 โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม
18 ภาพแสดงหลอดลมฝอย ชุดที่ 1 โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม
19 ภาพแสดงระบบหายใจของคน ชุดที่ 1 โครงสร้างปอดของสัตวเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยนำ้ นม
20 ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม
21 ภาพแสดงกะบงั ลมและกระดูกซ่โี ครง ชดุ ที่ 1 โครงสรา้ งปอดของสตั ว์เล้ียงลกู ดว้ ยน้ำนม
22 ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลย้ี งลูกดว้ ยน้ำนม
23 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลี้ยงลกู ด้วยน้ำนม วชิ าชีววิทยา 4 รหสั วชิ า ว 32242 ขอ้ สอบแบบปรนัย 10 ขอ้ 10 คะแนน โรงเรียนชุมพลโพนพิสยั _____________________________________________________________________ คำชี้แจง ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถกู ตอ้ งที่สดุ เพียงขอ้ เดยี ว แลว้ ตอบลงในกระดาษคำตอบ 1. ข้อใดเปน็ ลักษณะโครงสรา้ งในการแลกเปลี่ยนแกส๊ ของร่างกายไม่ว่าจะเปน็ ของสตั ว์ชนิดใดจะมีลักษณะ เหมือนกัน ก. ต้องบางและช้นื อย่เู สมอ ข. ต้องมเี ส้นเลือดฝอยมาหล่อเลย้ี ง ค. ตอ้ งมีนำ้ มาหล่อเล้ยี งตลอดเวลา ง. ตอ้ งเปน็ แผ่นบาง ๆ ทซี่ ้อนทับกนั หรอื พบั ไปมา 2. เมื่อนกั เรียนสูดอากาศเข้าทางรูจมกู อากาศจะผ่านอวัยวะใดบ้าง ก. รจู มกู -->โพรงจมกู -->กลอ่ งเสยี ง--> คอหอย-->หลอดลม-->ท่อลม-->หลอดลมฝอย-->ถงุ ลม ข. รูจมกู -->โพรงจมกู --> คอหอย-->กล่องเสียง-->หลอดลม-->ท่อลม-->หลอดลมฝอย-->ถุงลม ค. รจู มกู -->โพรงจมูก-->คอหอย-->กล่องเสยี ง-->ท่อลม-->หลอดลม-->หลอดลมฝอย-->ถุงลม ง. รจู มกู -->โพรงจมูก-->คอหอย-->กลอ่ งเสยี ง-->ท่อลม-->หลอดลม-->ถุงลม-->หลอดลมฝอย ภาพใช้ตอบคำถามขอ้ 3-6 3. หมายเลขใด เปน็ บริเวณทีม่ ีเย่ือบุผวิ มีซเิ ลยี และเมือกเพ่อื ดกั จบั ส่งิ แปลกปลอมไมใ่ ห้เขา้ สู่ถงุ ลม ก. 1 และ 2 ข. 1 และ 3 ค. 1 และ 4 ง. 1 และ 5 ชุดท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลยี้ งลกู ด้วยนำ้ นม
24 4. หมายเลขใด ท่มี ลี กั ษณะเปน็ หลอดขนาดเล็กที่แตกแขนงจากหลอดลม มหี ลายขนาด ลำเลียงอากาศไปยงั ถุง ลมปอด ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 5. หมายเลขใด เป็นบริเวณท่มี กี ารแลกเปล่ยี นแก๊ส ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 6. ขอ้ ใดกล่าวถงึ รูปรา่ งและขนาดของปอดซา้ ยและปอดขวาของมนุษย์ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ปอดซ้ายมี 2 พู ปอดขวามี 3 พู และปอดซ้ายมีขนาดเลก็ กว่าปอดขวา ข. ปอดซา้ ยมี 3 พู ปอดขวามี 4 พู และปอดซา้ ยมขี นาดเลก็ กว่าปอดขวา ค. ปอดซ้ายมี 3 พู ปอดขวามี 2 พู และปอดซ้ายมีขนาดใหญ่กวา่ ปอดขวา ง. ปอดซา้ ยมี 4 พู ปอดขวามี 3 พู และปอดซา้ ยมขี นาดใหญก่ ว่าปอดขวา ภาพใช้ตอบตำถามข้อ 7-8 ภาพแสดงลักษณะหลอดเลือดฝอยที่ล้อมรอบถุงลมในปอดซ่ึงมที ศิ ทางการไหลของเลือดตามลูกศร 7. ลำดับทศิ ทางการแพรข่ อง O2 เปน็ อย่างไร ก. A --> B --> C --> E --> D ข. A --> B --> C --> D --> E ค. E --> D --> C --> B --> A ง. D --> E --> C --> B --> A 8. จากรูป บรเิ วณใดท่มี ีความดันยอ่ ยของ CO2 สงู ท่ีสุด ก. D ข. E ค. B และ C ง. A และ B ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลูกด้วยน้ำนม
25 9. การแลกเปล่ยี นแก๊สเกดิ ข้นึ ที่บริเวณใด 1. ถุงลมกับหลอดเลอื ดฝอย 2. เซลล์ของเน้อื เยื่อตา่ งๆ กบั หลอดเลอื ดฝอย 3. หลอดเลอื ดฝอยกับท่อลม 4. รจู มูกกับท่อลม ก. 1 และ 2 ข. 1และ 3 ค. 1 ง. 4 10. ในขณะท่สี ูดลมหายใจเข้า การทำงานของกล้ามเนื้อกะบงั ลม กะบังลม กล้ามเนื้อระหวา่ งซี่โครงแถบนอก และกระดูกซโ่ี ครง เป็นอยา่ งไร ก. กลา้ มเนอ้ื กะบังลมหดตวั กะบงั ลมยกตัวสงู ข้นึ กลา้ มเนอ้ื ระหว่างกระดูกซ่ีโครงแถบนอก หดตัว กระดูกซโ่ี ครงยกสูงข้นึ ข. กล้ามเนอื้ กะบังลมหดตัว กะบงั ลมเคลือ่ นต่ำลง กล้ามเน้ือระหว่างกระดูกซีโ่ ครงแถบนอก หดตวั กระดกู ซโี่ ครงยกสูงขึ้น ค. กลา้ มเน้ือกะบงั ลมหดตัว กะบงั ลมเคลื่อนต่ำลง กลา้ มเนอื้ ระหวา่ งกระดูกซ่ีโครงแถบนอก หดตัว กระดูกซโ่ี ครงลดตำ่ ลง ง. กลา้ มเน้ือกะบังลมหดตัว กะบงั ลมเคล่ือนต่ำลง กลา้ มเนือ้ ระหว่างกระดูกซีโ่ ครงแถบนอกคลายตัว กระดูกซโ่ี ครงลดต่ำลง ง. กระดูกซโี่ ครงลดต่ำลงความดนั อากาศในปอดคงท่ี ชุดท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เลยี้ งลกู ด้วยนำ้ นม
26 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน ช่อื ...........................................................................................................ชน้ั ...................... เลขที.่ ............ ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ชุดท่ี 1 โครงสร้างปอดของสตั วเ์ ลีย้ งลกู ด้วยน้ำนม
27 ภาคผนวก ชดุ ท่ี 1 โครงสร้างปอดของสัตว์เล้ียงลูกดว้ ยนำ้ นม
28 เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น ชอื่ ...........................................................................................................ชน้ั ...................... เลขที่............. ข้อ ก ข ค ง 1X 2X 3X 4X 5X 6X 7X 8X 9X 10 X ชดุ ท่ี 1 โครงสรา้ งปอดของสัตว์เล้ียงลูกด้วยนำ้ นม
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: