Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติวเข้มสังคมศึกษา กำแพงเพชร

ติวเข้มสังคมศึกษา กำแพงเพชร

Published by phisit.yaemnun, 2019-12-02 22:42:39

Description: cover-social

Search

Read the Text Version

วชิ าสังคมศกึ ษา อาจารยธนชั ลาภนมิ ติ รชยั

สงวนลขิ สทิ ธ์โิ ร

รงเรียนโซไซไทย 2

อารยธรรมยคุ กลาง จดุ เรมิ่ ตน้ : อนารยชนเผา่ เยอรมนั ต่าง ๆ รุกราน จุดสิ้นสุด : Renaissance (การฟน้ื ฟูศิลปวิทยาการ ครสิ ต์ ศตวรรษท่ี 15–16) กรุงโรม (Rome) + ดินแดนส่วนอ่ืน ๆ ของจักรวรรดิโรมัน , โยฮันน์ กูเตนเบริ ก์ ประดษิ ฐ์ เคร่อื งพมิ พ์แบบเรียงพิมพ์ ในค.ศ. 1447, กรุงคอนสแตนติโนเปลิ ถูกพวกเติร์กตแี ตกในค.ศ. 1453, ตะวนั ตกจนแตกในค.ศ. 476 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสคน้ พบทวีปอเมริกาใน ค.ศ. 1492, มาร์ติน ลูเทอร์ ประกาศขอ้ คดั ค้าน 95 ข้อ (ปฏิรปู ศาสนา) ในค.ศ. 1517 ลกั ษณะสาคัญของยุคกลาง ยคุ มดื (Dark Ages) : คนในสมัย Renaissance มองว่ายคุ กลางความเจรญิ รุง่ เรือง หยุดชะงกั ศลิ ปวิทยาการ ภมู ปิ ญั ญาและศลิ ปะต่าง ๆ เสื่อมถอย งดงาม < ยคุ คลาสสิก (อารยธรรมกรีก – โรมัน) + เปน็ ยคุ คริสตจกั รมีอานาจ > ฝาุ ยอาณาจกั ร => สง่ ผลให สงั คมตะวนั ตกในยคุ น้ันการสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปวฒั นธรรม หรอื การคิดวทิ ยาการใหม่ ๆ จะ เชื่อมโยงกบั คริสตจกั ร หากมคี วามคดิ ความเห็นทีแ่ ตกต่างก็มักจะไม่ได้รับการยอมรับ ยคุ แหง่ ศรทั ธา (Age of Faith) : เพราะครสิ ตจักรมีบทบาทเด่นในการถ่ายทอดความคิด ความเชื่อให้กับชาวตะวันตก ทาให้สังคมตะวันตกถูกครอบงาโดยคริสตจักรในทุก ๆ ด้าน ท้ังด้านความเชื่อ การดาเนินชีวิต การปกครอง และศิลปวัฒนธรรม => ในสมัยน้ีองค์ ……………………มอี านาจสงู สดุ ได้ชื่อว่าเป็นตวั แทนของพระเจา้ บนโลกมนษุ ย์ => ไม่ไดม้ ี บทบาทสาคัญเฉพาะทางด้านศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึงการเมืองด้วย เพราะจักรพรรดิใน ดินแดนต่าง ๆ ของยุโรปจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากองค์สันตะปาปาก่อนจึงจะมีอานาจใน การปกครอง อีกท้ังยังเกิดธรรมเนียมถวายท่ีดินให้แก่วัดและสร้างรัฐสันตะปาปา (Papal State) ในอิตาลี สาเหตทุ พ่ี ระมีบทบาทเด่นในยุคกลาง - ยุโรปและกรุงโรมถูกชนเผ่าอนารยชนเยอรมันรุกรานจากทางตอนเหนือของทวีป => ประชาชนต้องหาท่พี ึง่ ทางใจ ดังนน้ั ศาสนาคริสต์กลายเป็นท่ียึดเหนี่ยวทางจิตใจ เช่น เม่อื เจ็บปวดก็สวดอ้อนวอนต่อพระเจา้ - คนท่ีรู้หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นพระ ดังนั้นพระจึงเป็นผู้เดียวท่ีผูกขาดการจดบันทึก การอ่านและตีความคมั ภีร์ไบเบลิ => ภาษาละตินกลายเปน็ ภาษาศักด์ิสทิ ธ์ิ ท่นี กั บวชเท่านัน้ จะอา่ นได้ พระจงึ เปน็ เหมอื นสื่อกลางระหว่างพระเจ้ากบั ประชาชน - ชาวยุโรปมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับคริสตจักรต้ังแต่เกิดจนตาย : ต้องรับศีลศักดิ์สิทธ์ิเจ็ด ประการ (Seven Sacrements) คือ ศีลจุ่ม หรือศีลล้างบาป, ศีลสง่า หรือศีลกาลัง, ศีลสมรส, ศลี บวช, ศีลมหาสนทิ , ศีลแก้บาป และศีลทาสุดท้าย หรือศีลเจิมคนไข้ => นักบวชเปน็ ผูป้ ระกอบพธิ ีกรรมให้ เท่าน้ัน 3 สงวนลขิ สทิ ธิโ์ รงเรยี นโซไซไทย

ระบบฟวิ ดลั (Feudalism) หรอื ศักดนิ าสวามิภกั ดิ์ - เปน็ ความผกู พนั แบบต่างตอบแทนในสงั คม ท่ีตงั้ อยู่บน พืน้ ฐานของการถือครองทด่ี ิน => สะท้อนความขาดแคลน แรงงาน  ผูม้ สี ิทธิเป็นเจ้าของทด่ี นิ หรอื ลอร์ด (Lord)  ผ้รู บั มอบใหถ้ อื กรรมสทิ ธิ์ที่ดินหรอื วสั ซาล (Vassal) - เกิดเพราะศนู ยก์ ลางอานาจ หรอื จกั รพรรด…ิ ……… + ระบอบการปกครองท่ยี ังไมท่ ันสมยั => ไมส่ ามารถ ปกครองได้อย่างเบด็ เสรจ็ + พ้ืนท่ที ก่ี ว้างใหญ่ ระบบเศรษฐกิจแบบแมเนอร์ (manor) ลกั ษณะของระบบฟิวดลั - บคุ คลหนง่ึ สามารถเป็นไดท้ ง้ั Lord และ Vassal ใน  ระบบสงั คม ปราสาทของลอร์ด เปน็ ศนู ย์กลางของชมุ ชน  ระบบเศรษฐกิจจะเปน็ ลกั ษณะเศรษฐกจิ เกษตรกรรมแบบพึ่งพาตนเอง เวลาเดียวกนั - Lord : ให้ความค้มุ ครอง + ความยุตธิ รรม Vassal และครอบครวั + อปุ การะเลย้ี งดูบตุ รและธิดาของ Vassal (กรณี Vassal เสียชวี ติ ) + หาคู่สมรสท่ี เหมาะสม + ดแู ลภรรยาม่ายของ Vassal - Vassal : ชว่ ยเหลือดา้ นการเงินและกองกาลังแก่ Lord สาเหตุการเส่ือมของระบบฟิวดลั และแมเนอร์ - การปฏิวตั ิทางเศรษฐกิจ - การค้า + อุตสาหกรรมขยายตัว => เกิดเมืองศนู ย์กลางการคา้ ท่ีปกครองตนเอง เชน่ ฟลอเรนซ์ เจนวั เวนิส ปซิ า โบโลญญา เปน ต้น => แรงงานในแมเนอรอ์ อกไปทางานในเมือง และมีฐานะดขี ้ึน จนกลายเปน็ ชนช้ันกลาง - สงคราม…………=> ขนุ นางสยี ชวี ติ เปน็ จานวนมาก + กษตั ริย์ยดึ อานาจคนื จากขนุ นางโดยเงินจากชนช้ันกลาง (พ่อค้า, ช่างฝีมือ, สมาคมอาชีพ) + ชนชัน้ กลางในเมอื งเพม่ิ ข้ึน - เกิด…………ระบาดครั้งใหญ่ => พลเมืองยโุ รปเสียชวี ิตไป 1 ใน 3 เรียกเหตกุ ารณ์น้ีว่า มฤตยดู า หรือ กาฬมรณะ (Black Death) สงวนลขิ สทิ ธโ์ิ รงเรียนโซไซไทย 4

มรดกอารยธรรมของยคุ กลาง - เศรษฐกิจ  สมาคมอาชพี หรือ กลิ ด์ (guild) o ทาหน้าที่ควบคุมการผลิต คุณภาพสินค้า ต้ังราคาขาย ฝึกงานให้ผู้สนใจเข้าสู่อาชีพ พัฒนาอาชีพ กาหนดอัตรา ค่าจา้ ง ใหค้ วามชว่ ยเหลอื คนงานกรณเี จ็บปวุ ยหรือเสียชีวติ o มีผลให้การค้าและระบบเศรษฐกจิ เจริญก้าวหนา้  ระบบบญั ชคี ู่ ระบบสินเชือ่ และระบบธนาคาร : ธนาคารแหง่ แรกต้ังขนึ้ ที่เมอื งบาร์ เซโลนา่ ในประเทศสเปน  การจดั งานแสดงสินคา้ (Fair) - สถาปตั ยกรรม  สร้างขึ้นตามความศรทั ธาในศาสนาครสิ ตเ์ ปน็ หลัก แบ่งสถาปัตยกรรมเป็น 3 รูปแบบ ศลิ ปะแบบ………… ศลิ ปะแบบ………… ศิลปะแบบ………… รับอทิ ธพิ ลสถาปัตยกรรมโรมนั โปรง่ บาง ชดช้อย หลงั คาทรง รับอิทธิพลตะวันออก มีหลังคา แหลมสงู ประตหู น้าตา่ งทรงโคง้ รูปโดม ภายในตกแต่งด้วย มีทรงส่ีเหล่ยี มผนื ผา้ กระเบ้ืองโมเสส และงาช้าง กาแพงหนา แหลม นากระจกสีมาตัด แกะสลัก เช่น วิหารเซนต์ ประดบั กรอบหน้าต่าง เชน่ โซเฟีย ประเทศตรุ กี หน้าต่างเล็ก ภายในทึบมดื เพดานมีลกั ษณะโคง้ เชน่ วหิ ารโนเตรอดาม มหาวทิ ยาลยั โบโลญญา วิหารเวมิ ส์ ประเทศเยอรมนี ประเทศฝรัง่ เศส เทคนคิ ……………………………… - การศึกษา  มีพัฒนาการตามลาดับ คือ โรงเรียนวัด (monastery school) --> โรงเรียนในราชสานักเพื่อฝึกหัดคนมาเป็นข้าราชการ --> มหาวิทยาลยั เช่น มหาวิทยาลยั โบโลญญา (อิตาลี), ปาตัว (อิตาลี), ออกซฟอรด์ (อังกฤษ), ปารสี (ฝรง่ั เศส), เคมบรดิ จ์ (องั กฤษ) - วรรณกรรม => เทวนคร ของนักบุญออกัสติน, มหาเทววิทยาของนักบุญ ทอมัส อะไควนสั 5 สงวนลิขสทิ ธิ์โรงเรยี นโซไซไทย

การฟ้ืนฟศู ลิ ปวทิ ยาการ (Renaissance) - การเกิดใหมข่ องการศึกษา + ฟ้ืนฟูศลิ ปะ + ความรู้ของอารยธรรมกรีก – โรมนั - เป็นจดุ เชอื่ มตอ่ (transitional) ระหว่างประวัติศาสตร์สมยั กลางกับสมัยใหม่ - ศูนยก์ ลางการฟนื้ ฟูศลิ ปวิทยาการในระยะแรก = เมืองตา่ ง ๆ ในแหลมอติ าลี - แพร่หลายในกลมุ่ ชนชน้ั นา ปัญญาชน และพ่อค้า สาเหตุทีเ่ ร่มิ ทีอ่ ติ าลี - ฐานะทางเศรษฐกจิ + การเงนิ ของชาวยโุ รปเร่ิมฟื้นตัว (โดยเฉพาะในอิตาลี => สงั คมเมอื ง รา่ํ รวยจากการค้า) - ท่ตี ้ังของอติ าลอี ยใู่ นดนิ แดนทีเ่ ป็นจักรวรรดโิ รมนั เกา่ => มีซากปรักหกั พังบ่งบอกความเจญิ -- อติ าลไี มเ่ คยอยใู่ นอทิ ธิพลของศิลปะโกธกิ + ครสิ ตจักรอยา่ งแทจ้ ริง สังคมอิตาลีเป็นสงั คมเมือง => ชาวเมืองใจกวา้ ง + รบั การเปล่ียนแปลงง่าย - ชาวอติ าลใี ห้ความสาคัญในเร่ืองปจั เจกชนนยิ ม + ให้ความสาคญั กับเรอ่ื งในโลกน้ี > โลกหลงั ความตาย ลกั ษณะสาคัญของยคุ ฟืน้ ฟูศิลปวิทยาการ - …………นยิ ม : ใหค้ วามสาคัญและคณุ คา่ ของมนุษย์ เชอื่ ม่ันในศกั ยภาพของมนุษย์ - …………นิยม : เหน็ ผลประโยชนสวนตนเปน ที่ตัง้ - ความตอ้ งการเป็น…………: ต้องการคิดและเลอื กทาสิง่ ต่าง ๆ โดยปราศจากกรอบของศาสนา - การรจู้ ัก…………………… : กลา้ ซักถาม กลา้ แสดงออก กลา้ โต้แย้ง แลกเปลี่ยนความรู้ระหวา่ งผู้คนทาให้เกิดการวิพากษว์ จิ ารณ์ ขน้ึ ในสังคมยุโรป - นกั ปรัชญาคนสําคัญในยุคฟน ฟศู ิลปวทิ ยาการ คือ ................................ ผแู ตง หนังสือ The Prince ทเ่ี สนอแนวคิดวา ผนู ําคือผูทําให รฐั รุง เรอื งและประชาชนอยดู กี นิ ดี แตผ ูนําจะมคี ุณธรรมหรือไมนัน้ ไมส ําคัญ วรรณกรรม - สะท้อนความเปน็ จรงิ แยกเรอื่ งทางโลกออกจากศาสนา - ใช้ภาษาพนื้ เมอื งแทนภาษาละตนิ ฟรันเซสโก เปตรากา ชาวอิตาลี 6 ได้รบั การยกยอ่ งเปน็ บดิ าแหง่ มนุษยนิยม ผลงาน : Sonnet หรือบทเพลงรกั ของ6เปตราก สงวนลขิ สิทธิ์โรงเรียนโซไซไทย

ศลิ ปกรรม - เป็นศิลปะเพื่อคงคุณคา่ ทางศิลปะ ไมใ่ ชเ่ พอ่ื ยกย่องศาสนา - เน้นความเหมอื นจริง + เปน็ ธรรมชาติ โดยใชเ้ ทคนิคแสง สี เงา แสดงความลกึ ของภาพ หรอื เรยี กว่า “ทัศนภาพ (Perspective)” และใช้ เทคนิค สีเฟรสโก (สีปนู เปยก) - ให้ความสนใจต่อความสวยงามของสรรี ะร่างกายมนษุ ย์ + ความรูท้ างกายวภิ าคศาสตร์ + นิยมวาดภาพคนเหมอื นจรงิ และภาพเพอื่ ใสก่ รอบรปู ประดบั ฝา ศลิ ปินทโ่ี ดดเด่นแห่งยคุ ฟ้นื ฟศู ิลปวทิ ยาการ ไมเคิลแองเจโล ลโี อนารโ์ ด ดา วินชี ราฟาเอล (Michaelangelo) (Leonardo da Vinci) (Raphael) David Mona Lisa The Sistine Madonna La Pieta The Vitruvian Man The School of Athens The Creation of Adam The Last Supper The Madonna and Child with St.John The Last Judgement Madonna of the Rocks Pope Julius II สงวนลขิ สทิ ธโ์ิ รงเรียนโซไซไทย 7

การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ (The Scientific Revolution) ปัจจัยทน่ี าไปสู่การปฏิวัตวิ ิทยาศาสตร์  การฟนื้ ฟูศิลปวิทยาการ => ทาใหเ้ กิดการตนื่ ตัวดานการศึกษา  การประดษิ ฐเ์ ครอื่ งพิมพ์แบบเรียงพิมพ์ของโจฮันน์ กูเตนเบิรก์ ”(Johann Gutenberg) ทาให้หนังสอื ราคาถกู ลง ผลิตได้จานวนมาก ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์แพร่หลาย => หนังสือเลม่ แรก ทพ่ี ิมพ์ดว้ ยแทน่ พมิ พ์น้ี คือ คัมภีรไ์ บเบิล  การสารวจและค้นพบดินแดนใหม่ => ติดต่อแลกเปลี่ยนความรกู้ บั ต่างแดน  ความเจริญทางด้านการค้า + อตุ สาหกรรม => สง่ เสริมให้คิดค้นกรรมวิธีการผลิตใหม่ ๆ นโิ คลัส โคเปอร์ นิคสั (โปแลนด์ ) เขียนหนังสือ On the Revolution of the Heavenly Spheres มีแนวคดิ วา่ …………เปน็ ศูนยก์ ลางระบบสรุ ยิ ะไมใ่ ชโ่ ลก ล้มลา้ งทฤษฎโี ลกแบน ตามแบบทศี่ าสนจกั รและปโตเลมเี คยบอกไว้ ลบั สมอง 1. ข้อใดไมใ ชผลทเ่ี กิดจากการปกครองแบบฟิวดัลในสมัยกลาง 1. กษตั รยิ อ์ ่อนแอ และไม่มอี านาจในการปกครองอยา่ งแท้จริง 2. การคา้ โดยภาพรวมชะงกั งนั จนถึงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 11 3. คริสตจักรเข้มแขง็ และมอี านาจมาก 4. ผลผลติ ทางการเกษตรอยู่ในระดับสูง 5. เกิดยศฐาบรรดาศักด์ิ เชน่ อาร์ชดกุ๊ ดุก๊ เคานต์ เปน็ ตน้ 2. ข้อความใดเป็นคากล่าวท่ีไม่ถกู ตอ้ งเกยี่ วกับระบอบฟวิ ดลั หรือระบอบศกั ดินาสวามิภักด์ใิ นยคุ กลางของยุโรป 1. การปกครองโดยกษัตรยิ ข์ าดประสิทธิภาพ 2. บคุ คลหนงึ่ ไมส่ ามารถเป็นไดท้ ้ังลอร์ดและวัสซาลในเวลาเดยี วกัน 3. วสั ซาลตอ้ งให้ผลผลติ แก่ลอรด์ ตามชนดิ และจานวนที่ตกลงกนั ไว้ 4. เม่ือวสั ซาลมาทางานในทดี่ นิ ของลอร์ด วัสซาลจะไมไ่ ด้รบั คา่ จา้ ง 5. ขนุ นางมกั ทาสงครามเพอื่ แยง่ ชิงความเปน็ ใหญ่ระหว่างกันบอ่ ยครั้ง 3. ขอ้ ใดเรียงลาดบั เวลาของยุคสมัยในยโุ รปไดถ้ กู ตอ้ ง 1. การสารวจทางทะเล – การปฏิวตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ – การปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม 2. การสารวจทางทะเล – การปฏิวัติอตุ สาหกรรม – การปฏวิ ัติทางวทิ ยาศาสตร์ 3. การปฏวิ ัติทางวทิ ยาศาสตร์ – การปฏิวัตอิ ตุ สาหกรรม - การสารวจทางทะเล 4. การปฏวิ ัตทิ างวทิ ยาศาสตร์ - การสารวจทางทะเล – การปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม 5. การปฏิวัติอุตสาหกรรม - การสารวจทางทะเล – การปฏวิ ตั ิทางวทิ ยาศาสตร์ สงวนลิขสทิ ธ์โิ รงเรยี นโซไซไทย 8

4. พฒั นาการของโลกตะวนั ตกยคุ ใหม่เรมิ่ ต้นจากเร่อื งใด 1. การพสิ ูจน์วา่ โลกกลม 2. การปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม 3. การเผยแผ่คริสต์ศาสนา 4. การแสวงหาตลาดการคา้ ใหม่ 5. การออกสารวจดินแดนโพน้ ทะเล 5. แนวคิดใดสง่ เสริมใหเ้ กิดการปฏวิ ตั ิทางวิทยาศาสตร์ 1. ความคิดในแบบสจั นิยม 2. ความตอ้ งการยทุ ธปจั จัย 3. การแข่งขันทางเศรษฐกิจ 4. ความคิดในแบบมนุษยนยิ ม 5. ความต้องการเพ่มิ ผลการผลติ สงวนลิขสทิ ธ์โิ รงเรียนโซไซไทย 9

สงวนลขิ สิทธ์โิ รงเ

เรยี นโซไซไทย 11

การเมืองการปกครองไทยตามรัฐธรรมนญู พ.ศ.2560 สงวนลิขสทิ ธ์โิ รงเรียนโซไซไทย 12

สงวนลขิ สิทธโ์ิ รงเรียนโซไซไทย 13

ประมขุ  พระมหากษตั ริยท์ รงมีฐานะเป็น o ประมุขของประเทศ o จอมทพั ไทย o พุทธมามกะ แต่เป็นอคั รศาสนปู ถัมภกทกุ ศาสนา o ท่ีเคารพสักการะ จะละเมดิ มไิ ด้ จะกล่าวหาหรอื ฟอู งรอ้ งในทางใด ๆ มิได้  ทรงใชอ้ านาจ 3 ฝาุ ย ผา่ น 3 องค์กรหลกั o บรหิ าร : คณะรัฐมนตรี o นติ บิ ัญญตั ิ : รฐั สภา o ตลุ าการ : ศาล  ทรงใชอ าํ นาจบางประการไดตามพระราชอธั ยาศยั o แตง่ ตั้ง/ถอดถอน/สถาปนา : ฐานันดรศักดิ,์ รชั ทายาท, ผูส้ าเร็จราชการ, องคมนตรี, ข้าราชการ ในพระองค์ o พระราชทาน/เรยี กคนื เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ o แก้ไขกฎมณเฑียรบาล o ยับย้งั รา่ งพระราชบญั ญตั ิ หรือไม่ลงพระปรมาภไิ ธยภายใน 90 วัน รู้ชะ่ ผู้ลงนามรบั สนองพระบรมราชโองการ = ผรู้ ับผดิ ชอบ ปธ. รฐั สภา ---> แตง่ ต้ัง ปธ. องคมนตรี ปธ. องคมนตรี ---> แต่งต้ังองคมนตรี ปธ. รัฐสภา นายกฯ ---> แต่งต้งั ผู้สาเร็จราชการ ปธ. ส.ส. ---> แตง่ ตัง้ นายกฯ ---> แตง่ ต้งั รัฐมนตรี ปธ. ส.ส. ---> แตง่ ตงั้ ผนู้ าฝุายคา้ น สงวนลิขสิทธ์โิ รงเรยี นโซไซไทย 14

อานาจนิติบัญญตั ิ อานาจหน้าท่ี - เสนอ+พิจารณาร่างกฎหมาย 1. สมาชิกผแู้ ทนราษฎร - พจิ ารณาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกฯ + ปธ. ส.ส. คณุ สมบัติ - ควบคมุ การบริหารราชการแผน่ ดินของ ครม. - สัญชาติไทยโดยการเกดิ - ตรวจสอบการปฏบิ ตั หิ น้าที่/ถ่วงดลุ อานาจ - อายุ ≥ 25 ปี - เป็นสมาชกิ พรรค ≥ 90 วัน - เกดิ /มชี อ่ื ในทะเบยี นบ้าน หรอื เคยเรียน/ทางานราชการ ในเขตท่ลี งสมคั ร ≥ 5 ปี - ไม่เป็นบุคคลตอ้ งห้ามตามกฎหมาย 2. สมาชกิ วุฒสิ ภา อานาจหน้าที่ - พิจารณารา่ งกฎหมาย คณุ สมบัติ - ถวายคาแนะนา+พจิ ารณาเหน็ ชอบบคุ คลเขา้ ตารง - สญั ชาตไิ ทยโดยการเกดิ ตาแหน่ง - อายุ ≥ 40 ปี - มีความรู้/เชยี่ วชาญ/มปี ระสบการณ/์ ทางานในดา้ นที่ - คณะกรรมการองคก์ รอสิ ระ สมัคร ≥ 10 ปี - ตุลาการศาลรฐั ธรรมนญู - เกิด/มชี ื่อในทะเบียนบา้ น/ทางาน/มคี วามเกีย่ วพนั กับ - นายกฯ (เฉพาะ 5 ปแี รก) พื้นที่ท่ีสมัคร - ควบคมุ การบรหิ ารราชการแผน่ ดินของ ครม. - ไมเ่ ปน็ ขรก.ประจา/ขรก.การเมือง/ - ตรวจสอบการปฏบิ ตั หิ นา้ ท/ี่ ถว่ งดลุ อานาจ สมช.พรรคการเมือง หรอื เคยเปน็ แต่ออกมาแล้ว ≥ 5 ปี +ไมเ่ คยเปน็ ส.ว. ตาม รธน. น้ี - ไม่มีบุพการี ค่สู มรส บุตรเป็น ขรก.การเมอื ง/มี ตาแหน่งในศาล รธน. + องค์กรอสิ ระ สงวนลิขสิทธิ์โรงเรยี นโซไซไทย 15

อานาจบริหาร : หวั หน้า = นายกรฐั มนตรี 1. ทม่ี า นายกฯ กรณปี กติ ส.ส. + ส.ว. คะแนน > 50% ลงคะแนนเหน็ ชอบ พรรคการเมืองเสนอ 3 รายชือ่ กรณีแต่งตัง้ จากบัญชีรายชื่อไมไ่ ด้ เสนอชือ่ นายกฯ ส.ส. + ส.ว. ไม่ต้องมาจาก ลงคะแนนเหน็ ชอบ บญั ชรี ายชอื่ คะแนน > 50% = นายกฯ ส.ส. + ส.ว. ≥ 50% ปธ. สภา ส.ส. + ส.ว. ≥ 2 ใน 3 เข้าชื่อเสนอ ปธ. รัฐสภา จัดประชมุ ร่วม มีมตยิ กเว้น มีมติยกเวน้ เลือกนายกฯ รูช้ ะ่ ? จากบญั ชีรายชือ่ รัฐมนตรีจานวนไม่เกิน 35 คน มาจากการแตง่ ต้ังของ K. พรอ้ มนายกฯ 2. คุณสมบัต/ิ อานาจหนา้ ที่ คุณสมบัติ หนา้ ท่ี - สัญชาติไทยโดยการเกิด - แถลงนโยบายต่อรัฐสภา - อายุ ≥ 35 ปี - ปกครอง+บริหารราชการแผน่ ดนิ ตามนโยบายทแี่ ถลงไว้ - จบขน้ั ต่ำ ป.ตรี - เสนอรา่ งกฎหมาย - มีความซอ่ื สตั ย์สุจรติ เป็นท่ีประจักษ/์ ไม่เคยผิดจริยธรรม - แจง้ ปธ. รัฐสภาเปดิ อภปิ รายรับฟงั ความคดิ เห็นเรือ่ ง รา้ ยแรง การบริหารประเทศ - ไม่เคยต้องคาพิพากษาใหจ้ าคกุ เว้นความผิดลหโุ ทษ/ทำ - ขอใหม้ กี ารออกเสียงประชามตเิ ม่ือมีเหตุอันควรและไม่ โดยประมาท/หมิน่ ประมาท ขดั กับกฎหมาย - ไมเ่ คยพน้ จากตาแหน่งเพราะทาผิด รธน. วา่ ดว้ ย คณุ สมบัติ รมต. สงวนลขิ สิทธโิ์ รงเรียนโซไซไทย 16

สงวนลิขสทิ ธ์โิ รงเรยี

รยี นโซไซไทย 18

ทอ่ ง....................................................................... 1 2 12 7 3 4 13 8 9 10 5 6 14 11 ทานอง : คิดมาก (ปาลม์ ม)่ี สงวนลขิ สทิ ธโ์ิ รงเรียนโซไซไทย 19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook