เอกสารประกอบการรับชมรายการติวเข้มเติมเต็มความรู้

วิชาคณติ ศาสตร อาจารยเมตต อุน เรอื น วชิ าภาษาอังกฤษ ผศ.ดร.พนิตนาฏ ชฤู กษ วันที่ 23 มกราคม 2562 โรงเรยี นวชั รวทิ ยา อําเภอเมืองกําแพงเพชร จังหวัดกําแพงเพชร ศนู ยเ ทคโนโลยที างการศึกษา สำนักงานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ

วิชาคณติ ศาสตร อาจารยเ มตต อุนเรือน

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 1 เลขยกกำลงั 4 – 5 ข้อ an  a a a...a n ตวั เช่น 35 33333 สมบตั ขิ องเลขยกกำลงั ตวั อย่ำง 1. am  an  amn 2. am  am n an 3. (am )n  amn 4. (a b)n  an bn 5.  a n  an  b  bn 6. a0 1 7. an  1 an 1 8. n a  an

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 2 1. (O-NET’57) ให้ 51 และ 1 ขอ้ ใดต่อไปน้ีถูก A 26 , B 32 C 53 1. A B C 2. B  AC 3. B C  A 4. C  A B 5. C  B  A 2. (O-NET’58) ให้ 3 2 1 ขอ้ ใดถูก A 22 , B 33 , C  2166 1. A B C 2. AC  B 3. B  AC 4. B C  A 5. C  B  A 3. (O-NET’61) กำหนดให้ a 612 b  29 314 ขอ้ ใดถูกตอ้ ง c  215 310 4. c  a b 5. c b a 1. a bc 2. a c b 3. bc  a 4. (O-NET’61) ผลบวกของคำตอบของสมกำร 3x4 2 เท่ำกบั เท่ำใด  273

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 3 5. (O-NET’61)  1 1 2 มีคำ่ เทำ่ กบั ขอ้ ใด   27 6 94  1. 6 2. 6 3 3. 9 4. 9 3 5. 12 6. (O-NET’56) ถำ้ 2x 1  2 แลว้ x มีค่ำเท่ำกบั ขอ้ ใด 8 1.  5 2.  3 3.  1 2 2 2 4. 1 5. 3 22  7. (O-NET’57) ถำ้ A x 9x2 (1 3 8)x แลว้ ผลบวกของสมำชิกทุกตวั ใน A มีค่ำเทำ่ กบั ขอ้ ใด 1.  1 2. 0 3. 1 4. 1 5. 3 2 2 2

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 4 8. (O-NET’61) ถำ้ x  11  3 64 แลว้ คำ่ ของ x อยใู่ นช่วงใด 1. [0, 2) 8 20 125 2. [2, 4) 3. [4,11) 4. [11,7) 5. [7,8) 2 2 9. (O-NET’59) ถำ้ x เป็นจำนวนจริงบวกที่สอดคลอ้ งกบั สมกำร (4 x )2 x 1  (16)4 แลว้ x มีค่ำเทำ่ กบั 22x เท่ำใด 10. (O-NET’57) ถำ้ 64k 16 แลว้ 8k 8k มีค่ำเทำ่ กบั ขอ้ ใด 5. 65 1. 0 2. 5 3. 5 4. 17 8 42 4

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 5 11. (O-NET’60) จำนวนจริงบวก ที่ทำให้ 1  a 3  1  27 1 1 มีคำ่ เท่ำใด 2 3 2 a2 16 2 a  3 0 5  1   2  1   2  2 1. 9 2. 81 3. 165 4. 20 5. 40 244 12. (O-NET’58) ถำ้ a เป็ นจำนวนจริงบวกแลว้ 3 a 3 a เทำ่ กบั เท่ำใด 1. 1 2. 2 3. 4 4. 5 5. 7 a9 a9 a9 a9 a9 1 1 13. (O-NET’59) ถำ้ x 1 3 แลว้ x2  3x 2 เท่ำกบั เทำ่ ใด x 1. 1 3  2. 1 1  3.1 1 32 32  4.1 1  5. 1 3 3 32

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 6 ลำดบั และอนุกรม 6 – 8 ข้อ ลำดับเลขคณติ ลำดบั เรขำคณติ an  _______________ an  _______________ อนุกรมเลขคณติ อนุกรมเรขำคณติ Sn  _________________ Sn  _________________ Sn  _________________ Sn  _________________ 1. (O-NET’61) ลำดบั ในขอ้ ใดเป็นลำดบั เลขคณิต 1. 1, 1.1, 1.11, 1.111, 1.1111 2. 1, 1, 1, 1, 1 3. 5, 7,  9, 11, 13 4. 5,  19 ,  18 ,  17 ,  4 444 5. 5 10,  5 102,  5 103,  5 104,  5 105 2. (O-NET’56) ลำดบั 24, 15,  6, 3,12, 21, ... ,1776 มีกี่พจน์ 3. 201 1. 199 2. 200 4. 202 5. 203

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 7 3. (O-NET’61) ถำ้ 2, 9, 16,... เป็ นลำดบั เลขคณิต แลว้ พจน์ท่ีเท่ำใดของลำดบั น้ีท่ีมีค่ำอยใู่ นช่วง 180,185 4. (O-NET’56) ถ้ำพจน์ที่ 5 และ พจน์ที่ 10 ของลำดบั เลขคณิตเป็ น 14 และ 29 ตำมลำดบั แล้ว พจน์ที่ 99 เท่ำกบั ขอ้ ใด 1. 276 2. 287 3. 296 4. 297 5. 299 5. คำ่ ของ 1 + 6 + 11 + 16 + … + 101 เทำ่ กบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 5. 1076 1. 970 2. 1,020 3. 1,050 4. 1071

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 8 6. (9วชิ ำสำมัญ’59) กำหนดให้ a1, a2, a3,..., an,.... เป็ นลำดบั เลขคณิต ถำ้ a1  5 และ a4 11 แลว้ ผลบวก 20 พจน์แรกของลำดบั น้ีเท่ำกบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1. 480 2. 490 3. 500 4. 520 5. 540 7. (9วชิ ำสำมัญ’60) ถำ้ an  4n 3 แลว้ ผลบวก 20 พจน์แรกของลำดบั น้ี เท่ำกบั ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี 1. 900 2. 930 3. 950 4. 980 5. 1,000 8. (9วชิ ำสำมัญ’61) กำหนดให้ a1, a2, a3 ,..., a100 เป็ นลำดบั เลขคณิต ซ่ึงมี a1  a2  a3  a4 ... a99  a100  40 แลว้ ผลตำ่ งร่วมของลำดบั เลขคณิตน้ี เทำ่ กบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1.  9 2.  4 3.  2 4. 2 5. 4 10 5 5 5 5

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 9 9. (O-NET’57) ซุงกองหน่ึงวำงเรียงซอ้ นกนั เป็นช้นั ๆโดยช้นั บนจะมีจำนวนนอ้ ยกวำ่ ช้นั ล่ำงที่ติดอยกู่ นั อยู่ 3 ตน้ เสมอ ถำ้ ช้นั บนสุดมี 49 ตน้ และช้นั ล่ำงสุดมี 211 ตน้ แลว้ พิจำรณำขอ้ ควำมต่อไปน้ี ก. ซุงกองน้ีมี 56 ช้นั ข. ช้นั ที่ 8 (นบั จำกบนลงล่ำง) มีซุง 70 ตน้ ค. ซุงกองน้ีมีท้งั หมด 7,150 ตน้ ขอ้ ใดถูก 1. ก., ข. และ ค. ถูกท้งั สำมขอ้ 2. ข. ถูก แต่ ก. และ ค. ผดิ 3. ค. ถูก แต่ ก. และ ข. ผดิ 4. ก. และ ค. ถูก แต่ ข.ผดิ 5. ข. และ ค. ถูก แต่ ก. ผดิ 10. (O-NET’59) ให้ a1, a2, a3,... เป็ นลำดบั เลขคณิต ถำ้ a4 5a1 และ a10 39 แลว้ a1 เท่ำกบั เทำ่ ใด 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 5. 5 11. (O-NET’58) ถำ้ อนุกรมเลขคณิตมีผลบวก 9 พจน์แรกเป็ น 261 และพจน์ที่ 9 ของอนุกรมน้ีคือ 61 แลว้ ผลบวก 4 พจน์แรกของอนุกรมน้ีมีคำ่ เทำ่ ใด 1. 21 2. 27 3. 32 4. 36 5. 39

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 10 12. (O-NET’60) กำหนดลำดบั ของจำนวนจริงดงั น้ี 2  5, 4  9, 8  13, 16  17, ... พจน์ที่ 12 เทำ่ กบั เทำ่ ใด

วิชาคณิตศาสตร อาจารยเ มตต อุนเรอื น

PRE-TEST 1 PRE-TEST 1. จำนวนเช้ือรำ (แทนดว้ ย N ) ในขนมปังชนิดหน่ึงเร่ิมตน้ มี 630 หน่วย หลงั เวลำผำ่ นไป t วนั จำนวนเช้ือ รำถูกกำหนดโดยสมกำร N(t)  630(20.02t )จงหำว่ำเมื่อเวลำผำ่ นไปกี่วนั จำนวนเช้ือรำจึงจะเป็ น 10,080 หน่วย 1. 100 2. 150 3. 200 4. 350 2. ถำ้ 64(3x)  243(2y ) แลว้ x  y มีค่ำเท่ำกบั ขอ้ ใด 3. 9 4. -9 1. 11 2. -11 3. ถำ้  4 3x  32 และ 64y 128 แลว้ x y จะมคี ่ำเท่ำใด  9  243 1. 2 2. 4 3. 6 4. 8 4. ถำ้  3  3 3x  16 แลว้ x มคี ่ำเท่ำใดต่อไปน้ี  8  81 1.  4 2.  2 3.  1 4. 1 9 9 9 9 MATH P’MATE

PRE-TEST 2 4. 32 3 5. พจนท์ ี่ 10 ของลำดบั เรขำคณิต 3 , 6 ,... ตรงกบั ขอ้ ใด 1. 8 6 2. 16 3 3. 16 6 6. ถำ้ พจนท์ ี่ n ของอนุกรมคือ 3n 10 แลว้ ผลบวก 23 พจน์แรกของอนุกรมน้ีเท่ำกบั ขอ้ ใด 1. 589 2. 598 3. 624 4. 698 7. ถำ้ อนุกรมเลขคณิตมีผลบวก 9 พจน์แรกเป็ น 261 และพจน์ที่ 9 ของอนุกรมน้ีคือ 61 แลว้ ผลบวก 4 พจน์ แรกของอนุกรมน้ีมคี ่ำเท่ำใด 1. 21 2. 27 3. 32 4. 36 8. ถำ้ อนุกรมเรขำคณิตมี a1  1 และ a10  256 แลว้ ผลบวก 10 พจน์แรกของอนุกรมน้ีเท่ำกบั ขอ้ ใด 2 1. 511.0 2. 511.5 3. 512.0 4. 512.5 MATH P’MATE

PRE-TEST 3 9. พิจำรณำของลำดบั ของรูปสี่เหลยี่ มจตั ุรัสท่ีมีดำ้ นยำวดำ้ นละ 1 หน่วยต่อไปน้ี รูปที่ 1 รูปท่ี 2 รูปที่ 3 รูปท่ี 4 พ้ืนท่ีของบริเวณแรเงำในรูปท่ี 10 มีค่ำเท่ำกบั กี่ตำรำงหน่วย 1. 1 2. 1 3. 1 4. 1 100 256 512 1000 10. หมู่บำ้ นแห่งหน่ึงมีประชำกรในปี แรกจำนวน 8 คน (พ.ศ. 2540) และในปี พ.ศ. 2544 จำนวน 32 คน ถำ้ สมมติ จำนวนประชำกรในแต่ละปี เรียงเป็นลำดบั เลขคณิต แลว้ ในเวลำ 20 ปี จะมีจำนวนประชำกรท้งั หมด เท่ำกบั ขอ้ ใด 1. 1,300 2. 1,360 3. 1,680 4. 1,760 MATH P’MATE

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 1 เลขยกกำลงั 4 – 5 ข้อ an  a a a...a n ตวั เช่น 35 33333 สมบตั ขิ องเลขยกกำลงั ตวั อย่ำง 1. am  an  amn 2. am  am n an 3. (am )n  amn 4. (a b)n  an bn 5.  a n  an  b  bn 6. a0 1 7. an  1 an 1 8. n a  an

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 2 1. (O-NET’57) ให้ 51 และ 1 ขอ้ ใดต่อไปน้ีถูก A 26 , B 32 C 53 1. A B C 2. B  AC 3. B C  A 4. C  A B 5. C  B  A 2. (O-NET’58) ให้ 3 2 1 ขอ้ ใดถูก A 22 , B 33 , C  2166 1. A B C 2. AC  B 3. B  AC 4. B C  A 5. C  B  A 3. (O-NET’61) กำหนดให้ a 612 b  29 314 ขอ้ ใดถูกตอ้ ง c  215 310 4. c  a b 5. c b a 1. a bc 2. a c b 3. bc  a 4. (O-NET’61) ผลบวกของคำตอบของสมกำร 3x4 2 เท่ำกบั เท่ำใด  273

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 3 5. (O-NET’61)  1 1 2 มีคำ่ เทำ่ กบั ขอ้ ใด   27 6 94  1. 6 2. 6 3 3. 9 4. 9 3 5. 12 6. (O-NET’56) ถำ้ 2x 1  2 แลว้ x มีค่ำเท่ำกบั ขอ้ ใด 8 1.  5 2.  3 3.  1 2 2 2 4. 1 5. 3 22  7. (O-NET’57) ถำ้ A x 9x2 (1 3 8)x แลว้ ผลบวกของสมำชิกทุกตวั ใน A มีค่ำเทำ่ กบั ขอ้ ใด 1.  1 2. 0 3. 1 4. 1 5. 3 2 2 2

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 4 8. (O-NET’61) ถำ้ x  11  3 64 แลว้ คำ่ ของ x อยใู่ นช่วงใด 1. [0, 2) 8 20 125 2. [2, 4) 3. [4,11) 4. [11,7) 5. [7,8) 2 2 9. (O-NET’59) ถำ้ x เป็นจำนวนจริงบวกที่สอดคลอ้ งกบั สมกำร (4 x )2 x 1  (16)4 แลว้ x มีค่ำเทำ่ กบั 22x เท่ำใด 10. (O-NET’57) ถำ้ 64k 16 แลว้ 8k 8k มีค่ำเทำ่ กบั ขอ้ ใด 5. 65 1. 0 2. 5 3. 5 4. 17 8 42 4

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 5 11. (O-NET’60) จำนวนจริงบวก ที่ทำให้ 1  a 3  1  27 1 1 มีคำ่ เท่ำใด 2 3 2 a2 16 2 a  3 0 5  1   2  1   2  2 1. 9 2. 81 3. 165 4. 20 5. 40 244 12. (O-NET’58) ถำ้ a เป็ นจำนวนจริงบวกแลว้ 3 a 3 a เทำ่ กบั เท่ำใด 1. 1 2. 2 3. 4 4. 5 5. 7 a9 a9 a9 a9 a9 1 1 13. (O-NET’59) ถำ้ x 1 3 แลว้ x2  3x 2 เท่ำกบั เทำ่ ใด x 1. 1 3  2. 1 1  3.1 1 32 32  4.1 1  5. 1 3 3 32

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 6 ลำดบั และอนุกรม 6 – 8 ข้อ ลำดับเลขคณติ ลำดบั เรขำคณติ an  _______________ an  _______________ อนุกรมเลขคณติ อนุกรมเรขำคณติ Sn  _________________ Sn  _________________ Sn  _________________ Sn  _________________ 1. (O-NET’61) ลำดบั ในขอ้ ใดเป็นลำดบั เลขคณิต 1. 1, 1.1, 1.11, 1.111, 1.1111 2. 1, 1, 1, 1, 1 3. 5, 7,  9, 11, 13 4. 5,  19 ,  18 ,  17 ,  4 444 5. 5 10,  5 102,  5 103,  5 104,  5 105 2. (O-NET’56) ลำดบั 24, 15,  6, 3,12, 21, ... ,1776 มีกี่พจน์ 3. 201 1. 199 2. 200 4. 202 5. 203

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 7 3. (O-NET’61) ถำ้ 2, 9, 16,... เป็ นลำดบั เลขคณิต แลว้ พจน์ท่ีเท่ำใดของลำดบั น้ีท่ีมีค่ำอยใู่ นช่วง 180,185 4. (O-NET’56) ถ้ำพจน์ที่ 5 และ พจน์ที่ 10 ของลำดบั เลขคณิตเป็ น 14 และ 29 ตำมลำดบั แล้ว พจน์ที่ 99 เท่ำกบั ขอ้ ใด 1. 276 2. 287 3. 296 4. 297 5. 299 5. คำ่ ของ 1 + 6 + 11 + 16 + … + 101 เทำ่ กบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 5. 1076 1. 970 2. 1,020 3. 1,050 4. 1071

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 8 6. (9วชิ ำสำมัญ’59) กำหนดให้ a1, a2, a3,..., an,.... เป็ นลำดบั เลขคณิต ถำ้ a1  5 และ a4 11 แลว้ ผลบวก 20 พจน์แรกของลำดบั น้ีเท่ำกบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1. 480 2. 490 3. 500 4. 520 5. 540 7. (9วชิ ำสำมัญ’60) ถำ้ an  4n 3 แลว้ ผลบวก 20 พจน์แรกของลำดบั น้ี เท่ำกบั ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี 1. 900 2. 930 3. 950 4. 980 5. 1,000 8. (9วชิ ำสำมัญ’61) กำหนดให้ a1, a2, a3 ,..., a100 เป็ นลำดบั เลขคณิต ซ่ึงมี a1  a2  a3  a4 ... a99  a100  40 แลว้ ผลตำ่ งร่วมของลำดบั เลขคณิตน้ี เทำ่ กบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1.  9 2.  4 3.  2 4. 2 5. 4 10 5 5 5 5

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 9 9. (O-NET’57) ซุงกองหน่ึงวำงเรียงซอ้ นกนั เป็นช้นั ๆโดยช้นั บนจะมีจำนวนนอ้ ยกวำ่ ช้นั ล่ำงที่ติดอยกู่ นั อยู่ 3 ตน้ เสมอ ถำ้ ช้นั บนสุดมี 49 ตน้ และช้นั ล่ำงสุดมี 211 ตน้ แลว้ พิจำรณำขอ้ ควำมต่อไปน้ี ก. ซุงกองน้ีมี 56 ช้นั ข. ช้นั ที่ 8 (นบั จำกบนลงล่ำง) มีซุง 70 ตน้ ค. ซุงกองน้ีมีท้งั หมด 7,150 ตน้ ขอ้ ใดถูก 1. ก., ข. และ ค. ถูกท้งั สำมขอ้ 2. ข. ถูก แต่ ก. และ ค. ผดิ 3. ค. ถูก แต่ ก. และ ข. ผดิ 4. ก. และ ค. ถูก แต่ ข.ผดิ 5. ข. และ ค. ถูก แต่ ก. ผดิ 10. (O-NET’59) ให้ a1, a2, a3,... เป็ นลำดบั เลขคณิต ถำ้ a4 5a1 และ a10 39 แลว้ a1 เท่ำกบั เทำ่ ใด 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 5. 5 11. (O-NET’58) ถำ้ อนุกรมเลขคณิตมีผลบวก 9 พจน์แรกเป็ น 261 และพจน์ที่ 9 ของอนุกรมน้ีคือ 61 แลว้ ผลบวก 4 พจน์แรกของอนุกรมน้ีมีคำ่ เทำ่ ใด 1. 21 2. 27 3. 32 4. 36 5. 39

คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน O-NET ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ 10 12. (O-NET’60) กำหนดลำดบั ของจำนวนจริงดงั น้ี 2  5, 4  9, 8  13, 16  17, ... พจน์ที่ 12 เทำ่ กบั เทำ่ ใด

POST-TEST 1 POST-TEST 1. ในป่ าแห่งหน่ึงมนี กอาศยั อยู่ 1,000 ตวั ถา้ จานวนนกในปี ต่อๆไปหาไดจ้ ากสูตร t เมอ่ื t f (t)  1, 000(2)2 แทนเวลา (ปี ) f (t) แทนจานวนนก (ตวั ) นกในป่ าแห่งน้ีจะเพิม่ จานวนเป็น 16,000 ในเวลากี่ปี 1. 2 2. 4 3. 6 4. 8 2. ค่า x ท่ีทาให้  8 x  243 คือขอ้ ใด  27  32 1. 5 2.  5 3. 3 4.  3 33 5 5 3. ถา้ x สอดคลอ้ งกบั สมการ 128 x  16 แลว้ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1. x  3  1 2. x  3  1 3. x  3  1 4. x  3  1 7 7 7 73 MATH P’MATE

POST-TEST 2 4. -9 4. ถา้ 64(3x)  243(2y ) แลว้ x  y มคี ่าเท่ากบั ขอ้ ใด 3. 9 1. 11 2. -11 5. ถา้  4 3x  32 และ 64y 128 แลว้ x y จะมีค่าเท่าใด  9  243 1. 2 2. 4 3. 6 4. 8 6. ถา้ an 4n3 แลว้ ผลบวก 20 พจน์แรกของลาดบั น้ี เท่ากบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1. 900 2. 930 3. 950 4. 980 5. 1,000 7. ผลบวกของพจนท์ ุกพจน์ของอนุกรม 181383 2 7 ... 67 เท่ากบั ขอ้ ใด 1. 276 2. 441 3. 483 4. 575 MATH P’MATE

POST-TEST 3 8. กาหนดให้ a1,a2,a3,...,an,.... เป็ นลาดบั เลขคณิต ถา้ a1  5 และ a4 11 แลว้ ผลบวก 20 พจนแ์ รกของ ลาดบั น้ีเท่ากบั ขอ้ ใดต่อไปน้ี 1. 480 2. 490 3. 500 4. 520 9. นายยอดต้งั ใจป่ันจกั รยานทุกวนั เป็ นเวลา 49 วนั โดยให้ไดร้ ะยะทางรวมต่อสัปดาห์เพ่ิมข้ึนเป็นสองเท่า ของสปั ดาห์ก่อนหนา้ เสมอ ถา้ สัปดาห์แรกเขาปั่นไดร้ ะยะทาง 20 กิโลเมตร แลว้ เขาจะปั่นไดร้ ะยะทางกี่ กิโลเมตรในสปั ดาหส์ ุดทา้ ย 1. 280 กิโลเมตร 2. 640 กิโลเมตร 3. 980 กิโลเมตร 4. 1,280 กิโลเมตร 10. ถา้ พจนท์ ี่ 2 และพจน์ที่ 7 ของลาดบั เลขคณิตมคี ่าเท่ากบั 10 และ 30 ตามลาดบั แลว้ พจนท์ ่ี 21ของลาดบั น้ี คือขอ้ ใด 1. 68 2. 76 3. 86 4. 98 MATH P’MATE

วิชาภาษาองั กฤษ ผศ.ดร.พนติ นาฏ ชฤู กษ

Meaning Recognition Choose the alternative which has the same meaning as the underlined word in the given sentence. 1. If you’re too tall, you’d better duck when you go through the door. 1. My new summer dress is made of duck. 2. The duck ate the bread crumbs. 3. Duck would be good to use for that tent. 4. The boy ducked when the paper airplane soared by. 5. The boys were splashing around and ducking each other in the pool. 2. If someone has pins in a part of their body, they feel slightly sharp pains in it. 1. If she pins all her hopes on getting this job, she might be disappointed. 2. I’ll keep the patch in place with pins while I sew it. 3. Don’t give your pin to the stranger, it’s too risky. 4. You can’t pin the blame on her, she wasn’t there when the accident happened. 5. She wore a beautiful gold pin on her coat. 3. Mr. Jones has to pay a fine because he parked in a handicapped parking space. 1. “You did a fine job today at the track meet,” said the coach. 2. I wish my hair wasn’t so fine. 3. The fine for not returning the library book is one baht a day. 4. It’s fine with my teacher if we do this project with a partner. 5. She dresses so well-groomed because she is having a fine dining. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

4. Engineers usually have a good head for number. 1. You need a clear head to be able to drive safely. 2. The newest spacecraft is going to head for Mars. 3. This is a fancy event, so you need to look good from head to toe. 45.. TThheeyhaerardiveodf tehaerclyoimn moridtteeretsouggegteastpeldacuesatht ethme ohsetaadpopfrothperiaqtueesuoel.ution. 5. My mind began to wander and I couldn’t concentrate on what the teacher was teaching. 1. Don’t be careless and mind your step between the train and the platform. 2. I haven’t make up my mind where to study yet. 3. I don’t mind having a pet in the house as long as it’s clean and doesn’t smell. 4. The mention of our last vacation put me in mind of a travelogue that I saw last week. 5. Her mind was full of what had happened the night before and she just wasn’t concentrating. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

Structure and Writing Choose the underlined part that is grammatically wrong. 1. In the letter signed by the entire staff, it was asked when would they receive the promised pay 123 4 increase. 5 2. We consider no one as having the same kind of skin; hence, our treatment for your skin is not 12 34 the same as your friend. 5 3. Very little is known about the origins of the HIV virus except that it is a fairly recent 1 23 development which it is a major obstacle for those seeking its cure. 45 4. Growing vegetables and fruit three times a year, the hill tribe people now earn money in one 12 3 season more than they could possibly earn in one year planting opium poppies. 45 5. During large outbreaks in recent years in Taiwan and Malaysia, fatalities attributable to 12 3 foot and mouth disease has been reported. 45 ผศ. ดร. พนติ นาฏ ขฤู กษ์

6. Temporary sleep disturbances during times of personal crisis are normal. On the other hand, 1 2 34 chronic insomnia may be a sign of seriously physical or mental illness. 5 7. One of the strongest arguments against globalization is that developed countries already have 1 23 a greater share of resources, and globalization will only reinforce theirs wealth and power. 45 8. Although parents and schools having the most direct influence on children, businesses 12 nonetheless exert a strong and often negative influence on juveniles by way of their 34 advertisement and of the goods they choose to produce. 5 9. Ecologists predict almost unanimously that by the end of this century, humans will have 12 34 exterminated 20 percent of all species are alive on the planet today. 5 ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

10. The conference was scheduled because of a proper location with enough meeting rooms 1 23 4 couldn’t be found. 5 Cloze Test Choose the best answer. Drug abuse is commonly defined as the harmful, non-medical use of a mind-altering drug. The continual 1 of one or more such drugs, also called psychoactive drugs, can lead to poor health and to personality and behavioral problems. Some experts use the term drug abuse to refer only to problems 2 illegal drugs, also called street drugs. Other experts include the harmful use of legal drugs, even 3 prescribed by a doctor. Cultural attitudes about a drug help determine whether its use is, considered harmful. For example, both alcohol and marijuana can 4 similar intoxication. However, in some countries consider the moderate use of alcohol as 5 , but many regard any use of marijuana as dangerous. 6 cultural attitudes are reflected in a number of drug laws. 7 , the sale of alcohol is legal in most parts, but the sale of marijuana is not. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

1. 1. misuses 2. mismatch 3. misfire 4. mistake 5. misbehave 3. with 2. by 3. these 2. 1. at 5. of 3. protect 4. upon 2. such 3. receivable 5. another 3. Any 3. 1. ones 2. pervade 3. On the contrary 4. other 5. preserve 2. adjustable 4. 1. permit 5. acceptable 4. produce 2. Such 5. otherwise 5. 1. applicable 2. Similarly 4. endurable 5. Simultaneously 6. 1. also 4. Or 7. 1. Finally 4. As a result ผศ. ดร. พนติ นาฏ ขฤู กษ์

วิชาภาษาองั กฤษ ผศ.ดร.พนติ นาฏ ชฤู กษ

Meaning Recognition Choose the alternative which has the same meaning as the underlined word in the given sentence. 1. If you’re too tall, you’d better duck when you go through the door. 1. My new summer dress is made of duck. 2. The duck ate the bread crumbs. 3. Duck would be good to use for that tent. 4. The boy ducked when the paper airplane soared by. 5. The boys were splashing around and ducking each other in the pool. 2. If someone has pins in a part of their body, they feel slightly sharp pains in it. 1. If she pins all her hopes on getting this job, she might be disappointed. 2. I’ll keep the patch in place with pins while I sew it. 3. Don’t give your pin to the stranger, it’s too risky. 4. You can’t pin the blame on her, she wasn’t there when the accident happened. 5. She wore a beautiful gold pin on her coat. 3. Mr. Jones has to pay a fine because he parked in a handicapped parking space. 1. “You did a fine job today at the track meet,” said the coach. 2. I wish my hair wasn’t so fine. 3. The fine for not returning the library book is one baht a day. 4. It’s fine with my teacher if we do this project with a partner. 5. She dresses so well-groomed because she is having a fine dining. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

4. Engineers usually have a good head for number. 1. You need a clear head to be able to drive safely. 2. The newest spacecraft is going to head for Mars. 3. This is a fancy event, so you need to look good from head to toe. 45.. TThheeyhaerardiveodf tehaerclyoimn moridtteeretsouggegteastpeldacuesatht ethme ohsetaadpopfrothperiaqtueesuoel.ution. 5. My mind began to wander and I couldn’t concentrate on what the teacher was teaching. 1. Don’t be careless and mind your step between the train and the platform. 2. I haven’t make up my mind where to study yet. 3. I don’t mind having a pet in the house as long as it’s clean and doesn’t smell. 4. The mention of our last vacation put me in mind of a travelogue that I saw last week. 5. Her mind was full of what had happened the night before and she just wasn’t concentrating. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

Structure and Writing Choose the underlined part that is grammatically wrong. 1. In the letter signed by the entire staff, it was asked when would they receive the promised pay 123 4 increase. 5 2. We consider no one as having the same kind of skin; hence, our treatment for your skin is not 12 34 the same as your friend. 5 3. Very little is known about the origins of the HIV virus except that it is a fairly recent 1 23 development which it is a major obstacle for those seeking its cure. 45 4. Growing vegetables and fruit three times a year, the hill tribe people now earn money in one 12 3 season more than they could possibly earn in one year planting opium poppies. 45 5. During large outbreaks in recent years in Taiwan and Malaysia, fatalities attributable to 12 3 foot and mouth disease has been reported. 45 ผศ. ดร. พนติ นาฏ ขฤู กษ์

6. Temporary sleep disturbances during times of personal crisis are normal. On the other hand, 1 2 34 chronic insomnia may be a sign of seriously physical or mental illness. 5 7. One of the strongest arguments against globalization is that developed countries already have 1 23 a greater share of resources, and globalization will only reinforce theirs wealth and power. 45 8. Although parents and schools having the most direct influence on children, businesses 12 nonetheless exert a strong and often negative influence on juveniles by way of their 34 advertisement and of the goods they choose to produce. 5 9. Ecologists predict almost unanimously that by the end of this century, humans will have 12 34 exterminated 20 percent of all species are alive on the planet today. 5 ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

10. The conference was scheduled because of a proper location with enough meeting rooms 1 23 4 couldn’t be found. 5 Cloze Test Choose the best answer. Drug abuse is commonly defined as the harmful, non-medical use of a mind-altering drug. The continual 1 of one or more such drugs, also called psychoactive drugs, can lead to poor health and to personality and behavioral problems. Some experts use the term drug abuse to refer only to problems 2 illegal drugs, also called street drugs. Other experts include the harmful use of legal drugs, even 3 prescribed by a doctor. Cultural attitudes about a drug help determine whether its use is, considered harmful. For example, both alcohol and marijuana can 4 similar intoxication. However, in some countries consider the moderate use of alcohol as 5 , but many regard any use of marijuana as dangerous. 6 cultural attitudes are reflected in a number of drug laws. 7 , the sale of alcohol is legal in most parts, but the sale of marijuana is not. ผศ. ดร. พนิตนาฏ ขฤู กษ์

1. 1. misuses 2. mismatch 3. misfire 4. mistake 5. misbehave 3. with 2. by 3. these 2. 1. at 5. of 3. protect 4. upon 2. such 3. receivable 5. another 3. Any 3. 1. ones 2. pervade 3. On the contrary 4. other 5. preserve 2. adjustable 4. 1. permit 5. acceptable 4. produce 2. Such 5. otherwise 5. 1. applicable 2. Similarly 4. endurable 5. Simultaneously 6. 1. also 4. Or 7. 1. Finally 4. As a result ผศ. ดร. พนติ นาฏ ขฤู กษ์

รบั ชมรายการ ETV ไดทาง www.etvthai.tv ชอง ETV ทกุ วันเสารแ ละวันอาทติ ยเวลา 11.00 - 12.00 น. และออกอากาศซ้ำเวลา 19.00 - 20.00 น. ชอ ง NBT ทุกวันเสารแ ละวนั อาทติ ยเ วลา 09.00 - 10.00 น. จดั พมิ พโดย ศูนยเ ทคโนโลยีทางการศกึ ษา สำนักงาน กศน. ถนนศรอี ยธุ ยา ราชเทวี กทม. 10400 [email protected] ตวิ เขม เติมเตม็ ความรู Tewkhem Tewkhem