Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติวเข้ม ภาษาไทย ตาก

ติวเข้ม ภาษาไทย ตาก

Published by phisit.yaemnun, 2020-07-20 03:50:53

Description: cover-thai

Search

Read the Text Version

วชิ าภาษาไทย O-NET อาจารยหชั ปธญั นนท อังกวราปย ทชั

1    ตะลยุ ขอ้ สอบวิชา ภาษาไทย โวหารการเขียน 1. ขอ้ ใดเป็นบรรยายโวหาร 1. ชายหนุ่มเลยี้ วรถออกจากถนนสายหลัก สวนทางกับชาวบา้ นทต่ี อ้ นฝูงววั อยู่ 2. พน้ เขตเมืองจะมองเหน็ ถนนลบิ โล่ง ทอดยาวไปกลางอ้อมกอดของทวิ ไม้สองฟากทาง 3. ดวงตะวนั โผลพ่ ้นโค้งทุง่ ส่องแสงอ่อนอ่นุ ลบู โลมพ้ืนดินและสรรพชวี ิต 4. ลมเยน็ โชยผา่ นแนวไม้กรายไปตามใบใหญใ่ บนอ้ ยจนฟังเหมอื นเพลงกลอ่ มอารมณ์ 5. บางตน้ ใบแห้งปลวิ หลน่ เกล่อื นเนนิ ดนิ ทิง้ กง่ิ กา้ นเปลอื ยเปล่ายืนนงิ่ งนั 2. ข้อความตอ่ ไปนี้สว่ นใดเป็นบรรยายโวหาร 1) เมฆอันดําครึ้มปกคลุมไปท่วั ทอ้ งฟ้า /2) แสงตะวันที่เคยเจิดจ้ากําลังจางหาย /3) สายฝนชโลมผืน ดินแห่งท่งุ กวา้ ง / 4) พากลิ่นหอมของดนิ ฟุ้งขจายไปทัว่ ทุง่ /5) ชาวนาตา่ งดีใจทจ่ี ะไดเ้ ริ่มฤดูกาลทาํ นารอบใหม่ 1. ส่วนที่ 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนท่ี 3 4. สว่ นที่ 4 5. สว่ นท่ี 5 3. ขอ้ ความตอ่ ไปนสี้ ว่ นใดเป็นบรรยายโวหาร 1) โชติเดินตรงเข้าไปในโบสถ์ เพราะได้ยินว่าที่น่ีมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณ /2) ภาพเหนือประตู ทางเข้าเป็นรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมที่งดงามเหลือบรรยาย /3) ถัดมาเป็นพญามารถูกคล่ืนมหึมาซัด กระโชก /4) เหล่าบริวารมารต่างว่ายน้ําเอาตัวรอดอย่างทุลักทุเล /5) มารแต่ละตนดิ้นรนหนีตายด้วย อาการหวาดผวา 1. สว่ นที่ 1 2. ส่วนที่ 2 3. ส่วนท่ี 3 4. สว่ นท่ี 4 5. สว่ นที่ 5 4. ข้อความตอ่ ไปนี้ส่วนใดเปน็ บรรยายโวหาร 1) ปัง! เห็นผู้คนในห้องโถงว่ิงสับสนอลหม่านจนโกลาหลไปหมด / 2) เสียงหวีดร้องดังสนั่นเหมือน ต้ังใจประสานเสียงกัน / 3) บางคนพยายามว่ิงโครม ๆ หาทางออกจากพื้นที่เพ่ือเอาตัวรอด / 4) จนชน ขา้ วของท่ีวางเรียงรายบนชน้ั กระจกหล่นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กช้ินน้อยเกลื่อนพื้น / 5) เจ้าหน้าที่ออกมา ประกาศดว้ ยเคร่ืองขยายเสยี งขอใหน้ ง่ั ลงและอยูใ่ นความสงบ ทกุ คนทําตาม 1. ส่วนท่ี 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนท่ี 4 5. สว่ นท่ี 5 5. ขอ้ ความตอ่ ไปน้ีใชว้ ิธกี ารอธิบายตามแบบใด ต๊กุ ตาชาววังเป็นตุ๊กตาตวั เท่านว้ิ มือเดก็ รูปรา่ งคลา้ ยคนจริง ๆ โดยใช้ดินเหนียวปั้นแล้วจัดให้อยู่ ในท่าทางต่างๆ กันในแนวเดียวกับท่ีชาววังพึงกระทํา เช่น นั่งพับเพียบ เท้าแขน ทําขนม ร้อยดอกไม้ ทีไ่ ด้ชอื่ นเี้ พราะคนแรกท่ีคดิ ทําขน้ึ เป็นชาววังหลวงในรชั กาลที่ 4 ช่ือคุณเถา้ แกก่ ลีบ 1. นยิ ามและบอกที่มา 2. ช้ีแจงตามลาํ ดับขัน้ ตอน 3. นยิ ามและแนะแนวทางปฏิบตั ิ 4. กล่าวซ้ําดว้ ยถ้อยคําแปลกออกไป 5. ช้สี าเหตแุ ละผลลัพธท์ สี่ ัมพนั ธ์กัน เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ต้องเรียนกับคุณครทู วิ ลปิ รายการติวเข้มเตมิ เตม็ ความรู้ (ETV)

2    6. ขอ้ ความตอ่ ไปนใ้ี ช้วธิ ีการอธิบายตามข้อใด ปลาชะโดมีนิสัยดุร้าย ก้าวร้าว ปลาชะโดตัวผู้มีหน้าท่ีปกป้องฝูงลูกปลาตัวอ่อน ซึ่งเรียกว่าลูกครอก ไม่ใหเ้ ป็นอนั ตราย จงึ มักทาํ ร้ายคนหรือสัตวท์ ล่ี ่วงเขา้ ไปในอาณาเขตของมนั จนบาดเจบ็ หรือถงึ ตายได้ 1. แนะแนวทางปฏิบตั ิ 2. นิยามและให้ตัวอยา่ ง 3. ช้แี จงตามลาํ ดบั ขัน้ ตอน 4. ชีส้ าเหตแุ ละผลลัพธ์ท่สี ัมพนั ธก์ ัน 5. กล่าวซ้าํ ดว้ ยถอ้ ยคําทแี่ ปลกออกไป 7. ข้อความตอ่ ไปน้ีส่วนใดใช้ภาษาไม่เหมาะสมกบั รายงานวชิ าการ 1) วิทยาศาสตร์การกีฬาคือการรวมศาสตร์สาขาต่างๆ มาใช้เพื่อการกีฬา / 2) อาทิ การใช้ฟิสิกส์ วิเคราะห์การเคล่ือนไหวของนักกรีฑา / 3) การใช้โภชนวิทยาศึกษาโภชนาการที่เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละ ประเภท / 4) ความร้เู ร่อื งเคมี เชน่ การศกึ ษาการเกิดและสลายของกรดแล็กตกิ ในกลา้ มเนื้อ / 5) ที่เราต้องเอา ศาสตรต์ า่ งๆ มาใชก้ เ็ พื่อเรียนรู้และเพิ่มขดี ความสามารถของพวกนกั กีฬา 1. ส่วนที่ 1 2. สว่ นที่ 2 3. สว่ นท่ี 3 4. สว่ นที่ 4 5. ส่วนท่ี 5 8. ขอ้ ความต่อไปน้สี ว่ นใดใชภ้ าษาเหมาะสมกับรายงานเชิงวชิ าการ 1) สาหร่ายถือเป็นผู้ผลิตขั้นต้นของโลกที่มีประโยชน์ต่อผู้คนไม่น้อย /2) สาหร่ายทําให้เกิดห่วงโซ่ อาหารที่สมบูรณ์ซึ่งส่งผลต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม /3) นอกจากน้ียังเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหาร อันดับต้น ๆ ของคนเรา /4) มีการนําสาหร่ายมาเป็นส่วนประกอบของเคร่ืองสําอางซึ่งกําลังเป็นกระแสมาแรง ในปัจจุบัน /5) เมอื งไทยเรามีพื้นท่ีทค่ี อ่ นขา้ งเหมาะและยังมีขอ้ ได้เปรยี บในการเพาะเลยี้ งสาหร่ายชนดิ ตา่ ง ๆ 1. สว่ นท่ี 1 2. ส่วนที่ 2 3. สว่ นที่ 3 4. ส่วนที่ 4 5. ส่วนที่ 5 9. ข้อความสว่ นใดใชภ้ าษาไมเ่ หมาะสมกับรายงานวชิ าการ 1) มลู นธิ ิไดด้ ําเนนิ การพฒั นาท่ีดินโดยจัดทําแปลงสาธิตทางเกษตรให้แก่ราษฎร 2)แต่จะทําแบบไหนน้ันก็สุด แท้แตส่ ภาพพน้ื ท่แี ละการทาํ มาหากนิ ของราษฎร 3) เพอื่ เป็นตวั อย่างแกเ่ กษตรกรและประชาชนทส่ี นใจ 4) สามารถเข้า มาสังเกตการณแ์ ละศกึ ษาความรู้ 5) แลว้ นําไปใช้ในการประกอบอาชีพของตนได้ 1. ส่วนท่ี 1 2. สว่ นที่ 2 3. ส่วนท่ี 3 4. สว่ นที่ 4 5. สว่ นที่ 5 เรยี นภาษาไทยใหถ้ งึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรยี นกับคุณครูทวิ ลิป รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ (ETV)

3    10. ข้อความต่อไปน้ีส่วนใดใชภ้ าษาเหมาะสมกบั รายงานเชิงวิชาการ 1) ทกุ วันน้ีข้าวไรซ์เบอรร์ กี ําลังเป็นที่ช่ืนชอบในหมู่คนรักสุขภาพ / 2) เพราะข้าวชนิดน้ีเต็มไปด้วยสารอาหาร และประโยชน์มหาศาล / 3) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ / 4) หลายคนนึกว่าข้าวไรซ์เบอรี เปน็ ของนําเข้า เพราะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ / 5) จริง ๆ แล้วเป็นฝีมือของคนไทยท่ีเอาข้าวขาวดอกมะลิ 105 และข้าว หอมนลิ มาผสมข้ามพันธุก์ ัน 1. ส่วนท่ี 1 2. สว่ นที่ 2 3. ส่วนท่ี 3 4. ส่วนท่ี 4 5. ส่วนที่ 5 11. ข้อความตอ่ ไปน้ีสว่ นใดใชภ้ าษาเหมาะสมกบั รายงานเชิงวชิ าการ 1) เหด็ แครงหรือเห็ดตนี ตุ๊กแกขนึ้ ไปทว่ั ทกุ หนทุกแห่งของเมืองไทย / 2) โดยเฉพาะหนา้ ฝนจะพบเจอเห็ดแครง งอกตามวสั ดุหลายอย่าง / 3) เห็ดแครงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมีสารยับย้ังการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง / 4) แถว ภาคใต้มีการแปรรูปเห็ดแครงเป็นของกินพื้นบ้าน / 5) เด๋ียวนี้ตลาดเคร่ืองสําอางชอบนําเห็ดแครงมาทําเป็นผลิตภัณฑ์ เสริมความงาม 1. สว่ นท่ี 1 2. สว่ นท่ี 2 3. สว่ นท่ี 3 4. ส่วนท่ี 4 5. ส่วนท่ี 5 12. ข้อใดใช้ภาษาเหมาะสมกับการเขยี นรายงานวชิ าการ 1. สสี นั ของผกั ผลไม้มาจากสารเคมที พี่ วกเราเรียกกนั วา่ สารพฤกษเคมี 2. สารประกอบธรรมชาติประเภทนร้ี ่างกายไมส่ ามารถสร้างได้ ต้องไดร้ บั จากพืชเท่าน้ัน 3. สารพฤกษเคมีเปน็ ทร่ี วมของสารต้านอนมุ ลู อสิ ระทีว่ เิ ศษสุด 4. สารพวกนที้ าํ ใหผ้ กั ผลไมม้ สี ี กลิน่ แลว้ กร็ สแบบเฉพาะตัว 5. ทุกวนั นพ้ี บเจอสารพฤกษเคมดี ังกลา่ วมากกว่า 15,000 ชนิด 13. ข้อใดใช้ภาษาเหมาะสมกับการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ 1. งาขมี้ ่อนหรืองามอ้ นนิยมทานกันในแถบเอเชียมานานมากแล้ว 2. ทางตอนเหนือของไทยกม็ กี ารปลูกงาขีม้ อ่ นกันอยา่ งแพร่หลาย 3. สารสกัดจากเมลด็ งามอ้ นมีกรดไขมนั โอเมกา้ 3 ซึ่งจาํ เปน็ ต่อร่างกาย 4. สารเซซามอลในงาม้อนช่วยปอ้ งกนั มะเรง็ แถมยังช่วยใหแ้ ก่ชา้ อีกดว้ ย 5. งาขี้มอ่ นเต็มไปดว้ ยฟอสฟอรสั และแคลเซยี มซ่ึงมากกว่าพืชผกั ทัว่ ไปอยู่หลายเท่าตัว เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ต้องเรยี นกบั คุณครูทิวลปิ รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ (ETV)

4    ระบบเสยี งในภาษาไทย 1. ขอ้ ใดใช้พยญั ชนะสะกดตรงตามมาตราตวั สะกดทกุ คาํ 1. พฤกษาโศกยงู ยางทก่ี ลางชฏั 2. วายพุ ัดก่งิ แกวง่ ดังกงั หัน 3. ทไ่ี มพ้ มุ่ ร่มุ รกเถาวัลยพ์ ัน 4. เป็นฉัตรช้ันชอ่ ดอกออกระคน 5. มะเดื่อดกนกจบั จิกผลสกุ 2. คาํ ประพนั ธ์ตอ่ ไปนี้มคี ําทม่ี อี กั ษรนาํ ก่ีคาํ เลยี งผาอยูภ่ เู ขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย รูปรา่ งอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมอื นกนั 1. 4 คํา 2. 5 คาํ 3. 6 คํา 4. 7 คาํ 5. 8 คาํ 3. คําประพนั ธ์ต่อไปนี้มอี ักษรนาํ กค่ี ํา จะเหลยี วหาผใู้ ดก็ไม่เห็น จะเป็นเพื่อนไร้ท่ีในปา่ แต่ผเู้ ดียวเปลย่ี วองคเ์ อกา กลั ยาสลดระทดใจ จงึ่ โอบอุ้มโอรสข้ึนใสต่ กั กอดจบู ลูบพกั ตรแ์ ลว้ ร่าํ ไห้ อนจิ จาเกิดมาเมือ่ แมไ่ ร้ อยูใ่ นหิมเวศพนาวัน 3. 4 คาํ 4. 5 คํา 5. 6 คาํ 1. 2 คาํ 2. 3 คาํ 4. ข้อความตอ่ ไปน้มี อี ักษรนาํ กีค่ ํา พร้อมเพย์ (Prompt pay) คือการทําธุรกรรมทางการเงินแบบใหม่ท่ีทุกคนควรแสวงหาความรู้ และทํา ความเข้าใจวา่ หนงึ่ เบอร์โทรศพั ท์จะผกู กบั หลายธนาคารไดห้ รือไม่ สามารถลงทะเบียนได้ที่ไหน และลงทะเบียน อยา่ งไร 1. 4 คํา 2. 5 คาํ 3. 6 คาํ 4. 7 คาํ 5. 8 คํา 5. คาํ ท่ีมีรูปวรรณยกุ ต์ในข้อใดใช้รูปวรรณยุกตก์ บั เสียงวรรณยกุ ต์ตรงกนั ทกุ คาํ 1. เรอื ตอร์ปโิ ดลว้ นเหล็กกลา้ อกี สบิ ลาํ ประจําทา่ ทําแลว้ ใหม่ 2. ขา้ จัดสรรทกุ สงิ่ เสรจ็ ไว้ หวงั ใหเ้ ป็นท่ที รงสาํ ราญ 3. มีตึกร้านเรือกสวนผลไม้ แลไปไมส่ น้ิ สดุ ตา 4. จงึ ใหเ้ รง่ รดั เรือน้อยใหญ่ ขนุ นางกํากบั ไปออกแนน่ เนือง 5. เห็นเรอื เจา้ เมืองมาแต่ไกล กส็ ัง่ ให้พวกทหารคอยรับ เรียนภาษาไทยให้ถึงแก่นความรู้ ต้องเรียนกับคุณครทู วิ ลิป รายการติวเข้มเตมิ เต็มความรู้ (ETV)

5    คาํ ไทยแทแ้ ละคํายืมตา่ งประเทศ 6. ขอ้ ความตอ่ ไปนม้ี คี าํ ทบั ศัพทภ์ าษาอังกฤษกคี่ ํา (ไม่นับคําซา้ํ ) ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์นับร้อยล้านล้านเซลล์ สารพันธุกรรมที่เรียกว่าดีเอ็นเอมีอยู่ใน นิวเคลียสภายในเซลล์ทุกเซลล์ ยกเว้นเม็ดเลือดแดง ดีเอ็นเอมีความสําคัญต่อการดํารงชีวิตและ การถา่ ยทอดลักษณะของสง่ิ มชี วี ิตจากชัว่ คนหนงึ่ ไปยงั อีกชัว่ คนหนึ่งหน่วยของดีเอ็นเอ เรียกวา่ ยีนท่ีเรียงตัว กนั อยบู่ นโครโมโซม ซง่ึ มนุษยม์ ีอยู่ 23 ค่ทู ําหน้าท่ีสร้างโปรตีน 1. 5 คาํ 2. 6 คํา 3. 7 คํา 4. 8 คํา 5. 9 คํา 7. ขอ้ ใดมคี ําทับศัพท์ภาษาองั กฤษมากทสี่ ดุ 1. การบริหารร่างกายอย่างสม่ําเสมอช่วยยืดกล้ามเนื้อและสลายไขมัน ทําให้กล้ามเน้ือฟิตและ เฟิร์มยิ่งขน้ึ 2. ภาชนะเมลามีนสามารถทนความร้อนที่อุณหภูมิตํ่ากว่า 100 องศาเซลเซียสได้โดยไม่เกิด อันตราย 3. การรับประทานผลไม้ทําให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์และวิตามินซีในปริมาณพอเหมาะกับความ ต้องการ 4. เมอ่ื เกิดนา้ํ ทว่ มควรนํารถยนต์ไปจอดไว้ในที่สูงและถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันกระแสไฟ ลัดวงจร 5. หน่วยงานนใี้ ช้บุคลากรท่ีมีอยเู่ ขียนเว็บไซตใ์ หม่ เพือ่ รองรับเทคโนโลยแี ละโปรแกรมใหมๆ่ 8. ข้อใดไมม่ คี าํ ยืมจากภาษาบาลหี รอื สันสกฤต 1. ทรงประดิษฐค์ ดิ ใสใ่ หเ้ ปน็ กลอน ไว้ราํ เต้นละครงอนจรติ 2. แต่กอ่ นเก่าได้ดูอยู่เป็นนิจ บํารุงจิตต์ชาวประชาขา้ ราชการ 3. ต้ังโรงต้นสนคนแออัด ซอ้ มหดั แกไ้ ขในราชฐาน 4. เมื่อช้างเผือกมาใหม่ได้ออกงาน ท้ังเครื่องอานโอ่อ่านา่ รกั 5. ตวั ละครเลก็ เล็กเด็กหมด สมเกียรตสิ มยศสมศกั ดิ์ 9. ข้อความตอ่ ไปนี้ใช้คาํ ยืมจากภาษาบาลีหรือสนั สกฤตกคี่ าํ ในอดีตมนษุ ยน์ าํ หนิ ท่ีเช่ือว่าเป็นอัญมณีมีค่ามาประดับร่างกายตามรูปทรงธรรมชาติโดยไม่ทํา ให้หินเสยี น้าํ หนัก ทง้ั เกรงว่าหินจะสูญอาํ นาจวเิ ศษไป 1. 6 คํา 2. 7 คาํ 3. 8 คาํ 4. 9 คาํ 5. 10 คาํ 10. ข้อความนใ้ี ช้คาํ ยมื จากภาษาบาลีสนั สกฤตกคี่ ํา แม้โอโซนท่ีพ้ืนดินจะเป็นอันตราย แต่เมื่อสูงขึ้นไปในช้ันบรรยากาศ ช้ันโอโซนถือเป็นก๊าซท่ี บอบบางท่ีเราตอ้ งรักษา เพราะโอโซนช่วยปอ้ งกนั โลกจากรงั สขี องดวงอาทติ ย์ 1. 3 คํา 2. 4 คาํ 3. 5 คํา 4. 6 คาํ 5. 7 คาํ 11. ขอ้ ความต่อไปน้สี ว่ นใดไม่มีการใชค้ ํายืมจากภาษาบาลสี นั สกฤต 1) โรคภูมิแพ้ถือเป็นโรคฮิตอันดับต้น ๆ ของคนเมือง / 2) เพราะมีอาการท่ี ๆ หาย ๆ อย่าง ต่อเนื่อง / 3) เกิดขึ้นได้ทั้งกับเด็กและผู้สูงวัย / 4) ส่วนใหญ่มักเป็นมาต้ังแต่เด็กและมีคนในครอบครัวเป็น หลายคน / 5) อาจเรียกได้วา่ โรคกรรมพนั ธุ์ 1. สว่ นที่ 1 2. ส่วนที่ 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนที่ 4 5. สว่ นท่ี 5 เรยี นภาษาไทยใหถ้ ึงแก่นความรู้ ต้องเรยี นกับคุณครูทวิ ลิป รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ (ETV)

6    การสรา้ งคํา 12. ข้อใดเป็นคําสมาสทุกคาํ 1. จินตกวี จตุรพักตร์ เจตนา 2. ตรีศลู ตุลา ไตรภาคี 3. นกั ษตั ร นามบัตร เนรเทศ 4. พัสดภุ ัณฑ์ พายัพ พชื มงคล 5. ลขิ สทิ ธ์ิ เลขาธกิ าร ลหโุ ทษ 13. ข้อความตอ่ ไปนี้สว่ นใดมคี ําสมาส 1) เรือนกระจกเป็นโรงเรือนที่สร้างข้ึนเพ่ือเป็นสถานท่ีจัดแสดงพืช / 2) ภายในปลูกและตกแต่งด้วย พืชประเภทเดียวกันชนิดต่างๆ / 3) ให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงธรรมชาติมากท่ีสุด / 4) สามารถควบคุมความช้ืน แสงหรืออุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง / 5) วัสดุที่ใช้เป็นโครงสร้างของอาคารต่างๆ เป็นโลหะผสมที่มีความ แขง็ แกร่งเปน็ พิเศษ 1. สว่ นที่ 1 และ สว่ นท่ี 2 2. ส่วนท่ี 2 และ ส่วนท่ี 3 3. ส่วนท่ี 3 และ ส่วนท่ี 4 4. ส่วนที่ 4 และ ส่วนท่ี 5 5. สว่ นท่ี 5 และ ส่วนท่ี 1 14. ขอ้ ความต่อไปน้สี ่วนใดมีคาํ สมาสมากทสี่ ดุ 1) อุตสาหกรรมสมุนไพรของไทยมีการเจริญเติบโตร้อยละ 15 - 20 ต่อปี / 2) โดยเฉพาะสมุนไพร ที่ผลิตในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชน / 3) ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากภูมิปัญญาของบรรพชนจากรุ่นสู่รุ่นท่ี ทรงคุณค่า / 4) มีความสําคัญในการสร้างความโดดเด่นและอัตลักษณ์ที่ชัดเจนของสปา / 5) ช่วยสร้าง เศรษฐกิจชมุ ชนและสนบั สนนุ การทอ่ งเทย่ี วของไทย 1. สว่ นท่ี 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนที่ 4 5. สว่ นที่ 5 15. ขอ้ ความตอ่ ไปนสี้ ่วนใดไมม่ คี าํ สมาส 1) คนเรามีววิ ัฒนาการจากบรรพบรุ ุษเมือ่ ประมาณไมเ่ กนิ 120,000 ปีมาแล้ว 2) ประวัติศาสตร์ชาติพันธ์ุมนุษย์ มีหลักฐานชัดเจนว่า 3) คนเรารู้จักเขียนจารไว้ตามหน้าผาและผนังถํ้ากันมากกว่า 30,000 ปี 4) หรือเมื่อคร้ัง คนเรายังเป็นมนุษย์โครมันยองแห่งยุคน้ําแข็ง 5) ทั้งหมดน้ีก็เนื่องจากคุณสมบัติของมือและนิ้วท่ีทํางานควบคู่ กันไปอย่างนา่ อัศจรรย์ 1. สว่ นที่ 1 และ 2 2. สว่ นท่ี 2 และ 3 3. ส่วนท่ี 3 และ 4 4. สว่ นที่ 4 และ 5 5. ส่วนที่ 5 และ 1 เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรียนกบั คุณครูทิวลปิ รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

7    16. ขอ้ ความต่อไปนม้ี ีคําสมาสก่ีคํา ประเทศท่ีตั้งอยู่ในทําเลท่ีเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสําคัญ มีโอกาสท่ีจะพัฒนาเศรษฐกิจให้ รงุ่ เรืองและเขม้ แขง็ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว สง่ ผลตอ่ การพัฒนารูปแบบสถาปัตยกรรมใหท้ ันสมยั ได้อยา่ งมีคุณภาพ 1. 2 คํา 2. 3 คาํ 3. 4 คํา 4. 5 คํา 5. 6 คํา 17. ขอ้ ใดไม่มีคาํ ประสม 1. กล้วยมปี ระโยชน์สาํ หรบั ผทู้ ต่ี อ้ งการลดความอ้วน 2. กล้วยมสี ารอาหารพอ ๆ กับมันฝร่ัง 3. กลว้ ยสามารถลดแก๊สทเ่ี กดิ ในกระเพาะได้ 4. นอกจากนค้ี วรยงั เปน็ ผลไมท้ เ่ี หมาะสําหรับผทู้ ี่ทอ้ งเสียบ่อย 5. กล้วยดิบจะชว่ ยให้อาการท้องเดินหยดุ ได้ 18. ข้อใดไม่มีคําประสม 1. แมงมุมกินปลาเป็นสตั วท์ ่กี นิ ปลาเปน็ อาหาร 2. มนั สามารถวา่ ยน้ํา ดําน้ํา และเดินบนผวิ น้ําได้ 3. สารพิษที่อยู่ในรา่ งกายของมนั จะทาํ ลายระบบประสาทจนปลาเปน็ อมั พาต 4. มนั จะลากเหย่ือทมี่ ีนา้ํ หนกั มากกวา่ มันหลายเท่าขึน้ จากนาํ้ 5. มนั ใช้เวลานานมากกว่าจะกินเหยือ่ จนเหลอื แตก่ ระดกู 19. ขอ้ ความสว่ นใดไม่มคี าํ ประสม 1) ขวดนมท่ีเด็กกินแล้วต้องรีบล้างทันที / 2) ถ้าเก็บไว้ล้างรวมกันทีเดียวนมอาจจะบูด / 3) ก่อนจะ ล้างให้แยกขวดและจุกนมออกจากกัน / 4) ใช้นํ้าเปล่าล้างภายในด้วยแปรงล้างขวดให้สะอาด / 5) หากใช้ นํา้ ยาล้างควรเปน็ สารทสี่ กัดจากธรรมชาตเิ พ่อื ให้ความปลอดภยั 1. สว่ นท่ี 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนท่ี 3 4. สว่ นท่ี 4 5. ส่วนที่ 5 20. ขอ้ ความส่วนใดไมม่ ีคําประสม 1) หอยเชอรี่เป็นสัตว์ที่แพร่พันธ์ุได้ตลอดปี / 2) มันเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วโดยอาศัยกินพืชนํ้า เกือบทุกชนิด / 3) เม่ือมีจํานวนมากจึงทําลายพืชที่ปลูกไว้ในไร่นา / 4) หอยชนิดนี้สามารถกินทั้งต้นข้าวท่ีเพิ่ง เร่ิมงอกและท่โี ตเต็มท่ีแล้ว) 5) ชาวนาต้องเร่งหาวธิ ีกาํ จัดเสียตง้ั แตเ่ ริม่ ปลกู ขา้ ว 1. สว่ นที่ 1 2. ส่วนท่ี 2 3. สว่ นท่ี 3 4. สว่ นที่ 4 5. ส่วนท่ี 5 21. ขอ้ ใดเปน็ คาํ ซอ้ นทุกคํา 1. จับกมุ ครบถว้ น สดุ ซึ้ง 2. ส้ินสุด กดดัน ตกั ตวง 3. สาปแชง่ หกั มมุ ยากจน 3. นงุ่ หม่ หาบเร่ สดใส 5. ป่าเถ่อื น คมุ้ ครอง ตบตา เรยี นภาษาไทยใหถ้ งึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรียนกบั คุณครูทวิ ลปิ รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

8    22. ขอ้ ความตอ่ ไปนีส้ ว่ นใดมคี ําซอ้ นมากท่ีสุด 1) สังคมมนุษย์ต้องเดินทางไปเยี่ยมเยียนกัน / 2) หรือแลกเปล่ียนและค้าขายส่ิงของเพ่ือการ ดํารงชวี ิต / 3) ยคุ ประวัตศิ าสตร์ตอนตน้ มนุษยจ์ ึงริเรม่ิ ฝึก มา้ ววั ควาย ลา ล่อ / 4) เพื่อไว้ขี่บรรทุก ของหรือลากล้อรถเล่ือนตามที่มุ่งหมาย / 5) ในท่ีสุดเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้เองวิวัฒนาการของยานพาหนะ ท่เี รยี กวา่ รถยนตจ์ งึ เกิดข้นึ 1. สว่ นที่ 1 2. สว่ นท่ี 2 3. สว่ นที่ 3 4. ส่วนที่ 4 5. ส่วนท่ี 5 23. ขอ้ ความต่อไปน้ีมกี ารใชค้ าํ ซอ้ นก่คี ํา ความทุกข์ของหมีในแถบเอเชียยังไม่หมดสิ้นไป องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกอย่างทํางานเพ่ือหยุดย้ัง การทําทารุณกรรมหมีในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้หมีแสดงละครสัตว์ หรือการบริโภคดีหมี ในขณะนี้มีหมีกว่า 22,000 ตัวถูกกกั ขังไว้ในกรงแคบๆ ทุกตวั ถกู เจาะรูคาไวท้ ี่ทอ้ งเพอื่ ดูดเอานํา้ ดีของมนั ออกมาอย่างต่อเนื่อง 1. 3 คํา 2. 4 คาํ 3. 5 คํา 4. 6 คาํ 5. 7 คํา 24. ขอ้ ความตอ่ ไปนีส้ ่วนใดมกี ารใชค้ าํ ซอ้ นมากท่ีสดุ 1) เมื่อมกี ารกอ่ สร้างอาคาร / 2) จําเป็นต้องมีแบบแปลน / 3) ทางสถาปัตยกรรมจะเน้นรปู รา่ งภายนอก ให้สวยงาม / 4) ทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างต้องคํานึงถึงความม่ันคงของอาคาร / 5) เพื่อมิให้อาคารทรุดหรือ แตกร้าว 1. สว่ นที่ 1 2. สว่ นที่ 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนท่ี 4 5. ส่วนท่ี 5 25. คาํ ท่ีขีดเส้นใตใ้ นขอ้ ใดตอ้ งใชเ้ ปน็ คําซา้ํ เสมอ 1. ฉันบอกตรง ๆ วา่ ไม่ชอบคําพดู ของเขาเลย 2. น้องชายผมคนนที้ าํ อะไรชุ่ย ๆ อย่างนเี้ สมอแหละ 3. เวลาเป็นหวัดควรจิบนาํ้ อุน่ ๆ จะช่วยลดอาการเจ็บคอ 4. แม่บอกใหเ้ ขาพูดเบา ๆ หนอ่ ยออกพระกําลงั สวดอยู่ 5. เมอื่ วานฉันเหน็ เขาวงิ่ ๆ อย่หู น้าบา้ น วนั นีต้ ้องเข้าผ่าไสต้ ่งิ เสยี แลว้ 26. คาํ ที่ขีดเสน้ ใต้ในขอ้ ใดต้องใชเ้ ปน็ คาํ ซ้ําเท่านัน้ 1. คนเก่งๆ อย่างเขาเขา้ ทํางานทไ่ี หนกไ็ ด้ 2. ชาวบ้านทนี่ ่สี ่งข่าวถงึ กนั โดยการบอกต่อๆ กนั ไป 3. ถนนสายนีเ้ ปลย่ี วมาก นานๆ ถงึ จะมีรถผ่านมาสกั คนั 4. ตอนท่สี รา้ งบ้านใหม่ เขาปลูกต้นไมไ้ ว้รอบๆ บริเวณบ้าน 5. จดุ ม่งุ หมายสําคญั ๆ ของโครงการคอื การชว่ ยเหลอื สังคม 27. คําทีข่ ดี เส้นใต้ในข้อใดตอ้ งใช้เป็นคําซํ้าเทา่ นั้น 1. เวลากนิ ขนมหวาน ๆ แลว้ มกั จะหิวนํ้า 2. ลกู หลานของเธอคงโต ๆ กนั หมดแลว้ สินะ 3. อาหารเชา้ บ้านน้ีทาํ ง่าย ๆ มีข้าวตม้ เปน็ หลัก 4. หนแู ดงเอาผ้าคลมุ เตยี งไว้ลวก ๆ เพราะความรีบรอ้ น 5. ซอยนี้ยังมที ่ีวา่ ง ๆ อยู่หลายแปลงเธอสนใจจะซ้อื ไหมล่ะ เรยี นภาษาไทยใหถ้ ึงแกน่ ความรู้ ตอ้ งเรยี นกบั คุณครูทิวลปิ รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

9    ประโยค 28. ข้อใดไมเ่ ป็นประโยค 1. บ้านเป็นหนงึ่ ในปัจจยั ส่ีทม่ี คี วามสําคญั ตอ่ การดาํ รงชวี ติ 2. ทุกคนอยากมีบ้านทส่ี วย น่าอยู่ นา่ อาศัย และรม่ ร่นื 3. ไม้ประดบั ทม่ี ีทรงต้น ใบ และดอกสสี วยงาม 4. ไมป้ ระดบั บางชนดิ สามารถนําไปตกแต่งบ้านหรอื สํานกั งาน 5. ใครจะคดิ วา่ ไม้ประดับทสี่ วยงามน้นั อาจมีพษิ 29. ขอ้ ใดเป็นประโยค 1. การพฒั นาการปลกู ข้าวและการจัดการเพอื่ เพ่ิมมลู คา่ ข้าว 2. นโยบายการพัฒนาขา้ วโดยการจดั ทําแผนระยะยาว 10 ปี 3. ในระยะทผ่ี ่านมาไทยสง่ ออกขา้ วมากเปน็ อันดบั หนึง่ ของโลก 4. การผลติ ข้าวของไทยซง่ึ ได้รับการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพ่ือผู้บริโภค 5. ภาวการณแ์ ขง่ ขันที่ทวคี วามรนุ แรงมากข้ึนทง้ั ดา้ นการผลติ และการตลาด 30. ขอ้ ใดเปน็ ประโยค 1. ความยั่งยืนในการบรหิ ารจดั การกากอุตสาหกรรมและขยะชุมชน 2. การทีป่ ระเทศไทยประสบปญั หากบั การจัดการขยะจากภาคชมุ ชน 3. แนวทางพฒั นาองค์ความรู้เพ่อื แก้ปัญหาขยะล้นเมืองของประเทศ 4. โรงงานบรหิ ารจัดการกากของเสียยคุ ใหม่ตอ้ งไม่กอ่ มลพษิ ตอ่ ชุมชน 5. เทคโนโลยที ่ีแพรห่ ลายโดยมเี ป้าหมายลดผลกระทบทางสิ่งแวดลอ้ ม 31. ข้อความตอ่ ไปนีส้ ่วนใดไม่เป็นประโยค 1) ปัจจุบันสภาพแวดล้อมของสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป / 2) คนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคอาหาร สําเร็จรูปมากขึ้น / 3) ส่วนใหญ่เป็นอาหารท่ีมีโซเดียมและนํ้าตาลสูง / 4) การบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณ น้อยเกินไป รวมถงึ การไม่ออกกาํ ลงั กาย / 5) ปัจจัยเสี่ยงเหล่าน้กี ่อให้เกิดโรคอ้วนและโรคตดิ ต่อเร้ือรัง 1. สว่ นท่ี 1 2. สว่ นท่ี 2 3. สว่ นท่ี 3 4. สว่ นที่ 4 5. สว่ นที่ 5 32. ข้อความต่อไปนี้สว่ นใดไมเ่ ปน็ ประโยค 1) วัฒนธรรมเป็นสมบัติของประเทศท่ีแสดงความเป็นตัวเรา / 2) เป็นสิ่งท่ีชาวไทยแต่โบราณสร้าง และสืบมา / 3) การทําลายวัฒนธรรมส่วนใดส่วนหน่ึงย่อมทําให้วัฒนธรรมท้ังหมดเสื่อมลง / 4) การอนุรักษ์ การพัฒนา และหน้าท่ีในการสืบสานวัฒนธรรม / 5) การเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม คือการป้องกันการทําลาย วัฒนธรรม 1. สว่ นท่ี 1 2. ส่วนที่ 2 3. สว่ นท่ี 3 4. ส่วนที่ 4 5. สว่ นที่ 5 33. ข้อความตอ่ ไปนส้ี ว่ นใดไมเ่ ป็นประโยค 1) อาคารที่มีห้องใต้ดินหรือที่จอดรถติดกับตัวอาคาร / 2) ต้องระวังอย่าให้มีควันรถร่ัวเข้าตัวอาคาร / 3) ควรมีการระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ / 4) อุปกรณ์เคร่ืองเรือนเครื่องมือเครื่องใช้ในอาคาร / 5) ตอ้ งสํารวจดูวา่ ปล่อยสารพษิ เชน่ ฟอร์มาลดีไฮดบ์ า้ งหรือไม่ 1. สว่ นที่ 1 และ ส่วนที่ 3 2. ส่วนที่ 2 และ ส่วนที่ 4 3. สว่ นที่ 3 และ สว่ นที่ 5 4. ส่วนที่ 4 และ สว่ นที่ 1 5. ส่วนที่ 5 และ สว่ นท่ี 2 เรยี นภาษาไทยใหถ้ งึ แก่นความรู้ ต้องเรยี นกบั คุณครูทวิ ลิป รายการติวเขม้ เติมเตม็ ความรู้ (ETV)

10    34. ข้อใดนํามาเตมิ ทา้ ยขอ้ ความต่อไปนแี้ ลว้ ยังคงเป็นประโยคสามญั “เจา้ หนา้ ทอ่ี ทุ ยานใหเ้ ข้าชมถ้าํ ไดเ้ พียงบางส่วน....................” 1. ทีส่ าํ รวจแล้วไม่มอี ันตราย 2. เพราะยงั ไมม่ ีไฟฟา้ เพ่อื ส่องสว่าง 3. เพื่อความปลอดภยั ของนกั ทอ่ งเที่ยว 4. จงึ ทาํ ใหเ้ กิดข้อโต้แยง้ กบั ผู้เขา้ ชม 5. จนกระทงั่ หัวหนา้ อทุ ยานคนใหมม่ ารับตําแหน่ง 35. ขอ้ ความตอ่ ไปนสี้ ่วนใดเปน็ ประโยคสามัญ 1) น้ําเกิดข้ึนได้เพราะมีความชุ่มชื้นของป่าไม้ท่ีให้กําเนิดต้นน้ําลําธาร /2) ป่าไม้สามารถสร้าง ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของป่าไม้ /3) ผืนดินสร้างธาตุอาหารจากใบไม้เล็กใหญ่ในผืนป่า /4) ป่าไม้ ดิน นํ้า ตอ้ งอาศัยกันและผูกพันกนั อย่างแยกไม่ออก / 5) ถา้ ขาดอยา่ งใดอยา่ งหนึ่งไป สว่ นทเ่ี หลือจะอย่อู ยา่ งไร 1. สว่ นที่ 1 2. สว่ นท่ี 2 3. ส่วนท่ี 3 4. สว่ นท่ี 4 5. สว่ นที่ 5 36. ข้อความตอ่ ไปนีส้ ่วนใดไมเ่ ปน็ ประโยคสามัญ 1) เคร่ือง “เดนตีสแกน” เป็นเครื่องเอกซเรย์ฟันสัญชาติไทย /2) เครื่องเอกซเรย์นี้หมุน 1 รอบใน เวลา 18 วินาที /3) เมอ่ื เครื่องประมวลผลเสร็จแล้วจะแสดงภาพในช่องปากแบบ 3 มิติ /4) รังสีจากตัวเครื่องมี ปริมาณตามมาตรฐานเรื่องความปลอดภัย /5) เคร่ือง “เดนตีสแกน” ได้รับการรับรองมาตรฐานไอเอสโอ 13485 1. สว่ นท่ี 1 2. สว่ นท่ี 2 3. ส่วนที่ 3 4. สว่ นท่ี 4 5. สว่ นที่ 5 37. ข้อความตอ่ ไปนี้สว่ นใดเปน็ ประโยคสามัญ 1) เต่าดาวพมา่ เปน็ เตา่ อกี ชนิดหน่งึ ที่หาไดย้ าก / 2) ความสวยงามของมันปรากฏบนกระดองด้วยรูป ดาวอันเป็นเอกลักษณ์ / 3) ความเข้มของสีกระดองจะผันแปรตามสภาพแวดล้อมอย่างน่าอัศจรรย์ / 4) ผู้คน ส่วนหน่ึงตามล่าเพื่อนํากระดองมาปรุงยาสมุนไพรบางชนิด / 5) ปัจจุบันเต่าดาวพม่าลดน้อยลงจนไม่สามารถ เพ่ิมจํานวนไดเ้ องตามธรรมชาติ 1. สว่ นท่ี 1 2. ส่วนที่ 2 3. สว่ นท่ี 3 4. ส่วนที่ 4 5. สว่ นท่ี 5 38. ข้อความตอ่ ไปนีส้ ่วนใดไม่ใชป่ ระโยคสามญั 1) โดยทั่วไปร่างกายคนเราต้องการแคลเซียมประมาณ 270-1,000 มก. ตอ่ วนั / 2) ส่วนใหญ่คนไทย ได้รับแคลเซียมเพียงวันละ 358 มก. / 3) อาหารที่มีแคลเซียมสูงและดูดซึมได้ดีคือนมวัว / 4) ตามปกตินม 1 กล่องจะมีแคลเซยี ม 200 มก. / 5) อาหารจาํ พวกผกั ใบเขียวต่าง ๆ ชว่ ยเสริมปริมาณแคลเซียมได้ 1. ส่วนท่ี 1 2. สว่ นท่ี 2 3. สว่ นที่ 3 4. สว่ นท่ี 4 5. สว่ นท่ี 5 เรียนภาษาไทยให้ถึงแก่นความรู้ ตอ้ งเรยี นกับคุณครูทิวลิป รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ (ETV)

11    วรรณคดแี ละวรรณกรรม สรุปเนอื้ หา การแต่งกลอนสุภาพ 1. สัมผสั ระหว่างวรรค 2. สมั ผสั ระหวา่ งบท 3. การลงเสยี งวรรณยกุ ต์ท้ายวรรค 3.1 วรรคท่ี 1 (วรรคสดับ) ลงทา้ ยไดท้ กุ เสยี ง แต่ ไมน่ ยิ มเสียงสามญั 3.2 วรรคท่ี 2 (วรรครบั ) ลงทา้ ยดว้ ยเสยี งจตั วา หรือ เสยี งเอก หรือเสียงโท 3.3 วรรคท่ี 3 (วรรครอง) ลงทา้ ยด้วยเสยี งสามญั หรือเสยี งตรี 3.4 วรรคท่ี 4 (วรรคสง่ ) ลงทา้ ยด้วยเสยี งสามญั หรือเสียงตรี การแตง่ โคลงสี่สภุ าพ 1. บังคับคาํ เอก(คําทีใ่ ช้ไมเ้ อก) 7 คาํ คาํ โท (คาํ ทใ่ี ชไ้ ม้โท) 4 คาํ 2. ถา้ ไม่มคี ําเอกใหใ้ ชค้ ําตาย หรอื คาํ เอกโทษ (หนา้ นา่ ) 3. ถา้ ไม่มีคาํ โทใหใ้ ชค้ ําโทโทษ (นา่ หนา้ ) เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรียนกบั คุณครูทวิ ลิป รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

12    โวหารภาพพจน์ ( ภาพพจน์ ) Figures of Speech 1. อุปมา นึกถึง ปม = เปรียบเหมือน สังเกต ดุจ ดัง (ด่ัง) เพียง (เพี้ยง) พ่าง เหมือน เสมอ เทียบ เทียม ประเลห่ ์ เลห่ ์ เปรยี บ กล ดูราว ราวกับ ประหนึง่ คล้าย เฉก เช่น ปาน (ปูน) 2. อุปลกั ษณ์ นกึ ถงึ ป = เปรียบเป็น แบบท่ี 1 สงั เกตที่ “เปน็ เทา่ คอื “เช่น แมเ้ นื้อเยน็ เปน็ หว้ งมหรรณพ รักคือดวงจันทร์ รักคอื ตะวัน แบบที่ 2 ตดั “เป็น เท่า คอื “แล้วสลบั ท่ี เช่น พรมหญ้า ไฟโทสะ คนั ฉอ่ งชลาลัย 3. อติพจน์ โอเวอร์ พูดเกนิ จรงิ เชน่ ร้อนตบั จะแตก เรียมรํ่านาํ้ เนตรถว้ ม ถงึ พรหม 4. อวพจน์ พูดน้อยกว่าความเปน็ จริง เชน่ คอยสักอดึ ใจเดยี ว ไม่มีเงนิ เลยสกั บาท 5. บคุ คลวัต(บุคคลสมมุติ)อะไรก็ได้ทไ่ี ม่ใช่คนแตท่ ําไดเ้ หมอื นคน เช่น เขาบอกว่าฟ้าร้องไห้ออกมาเป็นนํ้าฝน 6. ปฎิพากย์ พดู ในเชงิ ขัดแยง้ กนั เช่น จักรวาลว่นุ วายไรส้ าํ เนยี ง เร่ืองนี้ปิดกนั ใหแ้ ซด 7. สทั พจน์ ซาวดอ์ อฟมวิ สิค = การเลยี นเสยี ง 8. นามนยั พูดสับเซตแต่หมายถึงเซต (พูดถึงองค์ประกอบเล็กๆแต่ให้หมายถึงส่ิงท่ีใหญ่กว่า) เช่น ฉัตร หมายถึงความเป็นกษัตริย์ เก้าอี้ หมายถึง ตําแหน่ง พระเกี้ยว หมายถึง จุฬาฯ เน้ือเย็น(เนื้ออุ่น)เอวบาง หมายถึง ผู้หญิง 9. สญั ลักษณ์ เอาส่ิงที่คล้ายหรือมีบางอย่างร่วมกันมาพูดแทนกัน(ตัวตายตัวแทน) เช่น หงส์ หมายถึง คน ชัน้ สูง ดอกฟ้า หมายถึง หญงิ สงู ศักดิ์ ฝง่ั หมายถงึ พระนพิ พาน เรือจ้าง หมายถงึ ครู ศลิ ปะการแต่งคาํ ประพันธ์ 1. การสรรคํา 1.1 คํานงึ ถงึ ความหมาย 1.2 คาํ นงึ ถงึ เน้ือเรื่องและบคุ คลในเรื่อง 1.3 คาํ นงึ ถึงลกั ษณะของคาํ ประพันธ์ 1.4 คาํ นงึ ถึงเสยี ง 2. คําเลยี นเสียงธรรมชาติ (สทั พจน)์ 3. คําท่เี ลน่ เสียงวรรณยุกต์ เช่น ธรณนี ่ีนี้ เป็นพยาน 4. คําท่ีเล่นเสียงสมั ผสั  สัมผัสสระ สระเสียงเดียวกัน+ เสียงพยัญชนะสะกดมาตราเดียวกัน เช่น อันอ้อยตาลหวาน ลิ้นแลว้ สน้ิ ซาก (ตาล-หวาน ลิ้น-สนิ้ )  สัมผัสอักษร(สัมผัสพยัญชนะ) พยัญชนะเสียงเดียวกันจะสัมผัสกันได้ เช่น ผ่องแผ้ว เพลี่ยง พลํ้า (อักษรสูงและอักษรต่ําสัมผัสอักษรกันได้เพราะเป็นพี่น้องกัน(ท ธ ฑ ฒ สามารถสัมผัส กับ ถ ฐ ได้ เป็นต้น) 5. คาํ ท่ีเล่นเสียงหนักเบา หนัก=ครุ เบา=ลหุ เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ต้องเรียนกบั คุณครูทิวลิป รายการติวเขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ (ETV)

13    6. คาํ อัพภาส คาํ ซํา้ ทก่ี ร่อนเสียงพยางคห์ น้า เช่น ระเรือ่ ย ระรนิ วะวาว วะวับ ยะยม้ิ ยะยุ่ง 7. คาํ พ้องเสยี งและคําซา้ํ การซ้ําคํา กค็ ือการใช้คําๆเดยี วกนั ซ้ําในหลายๆจดุ การเลน่ คาํ ก็คือการเอาคาํ พอ้ งเสยี งมาใช้ในหลายๆแหง่ ในคําประพนั ธ์ (คาํ พ้องเสยี ง=คําท่อี ่านเหมอื นกันแต่ความหมายต่างกนั ) ****เล่นคําตา่ งกบั ซา้ํ คําตรงท่ี เล่นคาํ ความหมายจะตา่ งกัน ซํ้าคําความหมายจะเหมอื นกัน)******** 8. การซํ้าคําเลน่ คาํ ใชท้ งั้ สองวธิ ีประกอบกัน 9. การดุลเสยี งและดุลความหมาย นํา้ หนกั ความของข้อความจะเทา่ กนั (เหมือนเส้นขนานทีเ่ คยี งคกู่ นั ไป) 10. ปฏิปจุ ฉา (คําถามเชงิ วาทศิลป์) คาํ ถามท่ไี ม่ต้องการคําตอบแต่พดู ใหค้ ดิ 11. คําไวพจน์ (การหลากคาํ ) คําท่ีความหมายเหมือนกัน(Synonym) เช่น วารี =ชล=ธาร=นที =นํา้ ฯลฯ จินตภาพ จินตภาพ มี 3 ดา้ น คือ 1. ภาพ 2. เสยี ง 3. การเคลอ่ื นไหว (นาฏการ)   เรยี นภาษาไทยให้ถึงแก่นความรู้ ตอ้ งเรยี นกับคุณครูทิวลปิ รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ (ETV)

14    การแต่งคาํ ประพันธ์ 1. ข้อใดจากกลุ่ม ก. และ กลุ่ม ข. เหมาะจะเติมลงในช่องว่าง (ก) และ (ข) ของคําประพันธ์ต่อไปน้ี ตามลาํ ดบั ห่ิงหอ้ ยยะยิบแย้ม เรืองไร จุดตะเกยี งจติ ใจ .....(ก)..... ปลกุ ชวี ติ กางใบ โบยโบก ลอยลอ่ งชมโลกหลา้ .....(ข)..... พาเพลิน ก. 1. โชตชิ ่วง 2. แจ่มจ้า 3. ผ่องแผ้ว 4. รงุ่ โรจน์ 5. สุกสวา่ ง ข. 1. เรอื่ ยเล้ียว 2. เปรมปรีด์ิ 3. หลงใหล 4. ต่นื ตา 5. เริงรา่ 2. ข้อความใดจากกลุ่ม ก. และ กลุ่ม ข. เหมาะจะเติมลงในช่องว่าง (ก) และ (ข) ตามลําดับ ของคําประพันธ์ ตอ่ ไปนี้ อยากพ้นลาํ บากได้ ..........(ก).......... ตอ้ งหมัน่ แกป้ ัญหา สร่างแคลว้ เรง่ งานทกุ เวลา โดยส-ุ จริตนา ทาํ ดง่ั น้ีได้ ..........(ข).......... ชีพพน้ ทุกขท์ น ก. 1. ปรดี า 2. สุขใจ 3. การงาน 4. เงนิ ทอง 5. สินทรัพย์ ข. 1. แลว้ 2. ไซร้ 3. จริง 4. หนา 5. พรอ้ ม 3. คําใดจากกลุ่ม ก. และ กลุ่ม ข. เหมาะจะเติมลงในช่องว่าง (ก) และ (ข) ตามลาํ ดับ ของคาํ ประพันธต์ ่อไปน้ี ทองกวาวพราวพรา่ งทัง้ พนา บานแบง่ ปลายหนาวลา สู.่ ......(ก)....... สีสดงดงามตา แดงสว่าง ยาม.......(ข).......สาดสะทอ้ น ทุ่งคล้ายทองคํา ก. 1. เหย้า 2. เศรา้ 3. รอ้ น 4. บา้ น 5. สุข ข. 1. แสง 2. แดด 3. รงั สี 4. รุ้ง 5. สูรย์ เรยี นภาษาไทยให้ถึงแกน่ ความรู้ ต้องเรียนกบั คุณครูทวิ ลิป รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

15    4. ข้อความใดจากกลุ่ม ก. และ ข. เหมาะจะเติมลงในช่องว่าง (ก.) และ (ข.) ตามลําดับของคําประพันธ์ ต่อไปน้ี พอเราโตปกี เริ่มกล้าขาเริม่ แข็ง ออกโบยบินเต็ม......(ก.).....และกา้ วมั่น ไปตอ่ สูช้ ีวติ เรง่ ฝา่ ฟัน ไม.่ ....(ข.)......มุง่ สูท่ ป่ี ลายทาง ก. 1. ท่ี 2. ตัว 3. ฝนั 4. กวัก 5. แรง ข. 1. ท้อแท้ 2. กลบั ใจ 3. หยุดย้งั 4. ถอยหลัง 5. หวาดหวน่ั 5. ข้อใดไม่มีคาํ ศัพทท์ ่ีมคี วามหมายเหมอื นกบั คาํ ทข่ี ดี เสน้ ใต้ในขอ้ ความตอ่ ไปนี้ บษุ บกเคลอื่ นคลอ้ ยลอยฟา้ 1. ผันผยองล่องลิ่วนภาลัย 2. ด้วยข้าเกดิ มาในธาตรี 3. ลอยไปควา้ งควา้ งกลางอมั พร 4. จนดาวเดือนเลื่อนลับโพยมหน 5. บนั ดาลกายใหญ่เยีย่ มเทียมเวหา 6. ขอ้ ใดไม่มคี ําที่แปลว่าภูเขา 1. ดําเนินโดยอากาศวถิ ี ตามราศีจกั รวาลหวา่ งไศล 2. ดสู ูงเงือ้ มง้าํ แหล่งดงั่ แกล้งทาํ มคี หู าทา่ นํา้ ทกุ แนวไพร 3. คริ นิ ลี้ ้วนแกว้ มณโี ชติ จึงแผลงแสงรุ่งโรจน์ประภสั สร 4. แปดหม่ืนสีพนั โยชน์ลกึ กว้าง อยู่หวา่ งมหาสงิ ขร 5. เนมนิ พศิ ทรงเหมอื นกงรถ จอมบรรพตเลิศล้วนมณียา 7. คาํ ประพนั ธ์ในขอ้ ใดไมม่ คี าํ ท่มี คี วามหมายเหมอื นคาํ ทข่ี ดี เสน้ ใต้ในขอ้ ความต่อไปน้ี คร้ันถงึ ฝั่งสมุทรหยดุ รารอ่ น เหน็ วานรมากมายท้ังนายไพร่ 1. ตะโกนรอ้ งเรียกกนั สนน่ั ไป พร่งั พรอ้ มล้อมไลจ่ บั กุมภณั ฑ์ 2. ใหน้ ายหมวดตรวจพหลพลพฤนท์ ปล่อยกระบินทรจ์ ากทท่ี ลี ะคน 3. เหม่ไอส้ วาฤทธิท์ ายาด พดู จาองอาจประหลาดเหลือ 4. ใหโ้ ยธาพานรินทร์สิน้ ท้ังน้นั ชวนกันสําแดงแผลงฤทธา 5. อันกระบีร่ ้พี ลสกลไกร ท้งั นายไพรย่ ่อมกระหยบิ พรบิ ตา 8. ข้อใดมคี าํ ศัพทท์ ม่ี คี วามหมายไม่ตรงกบั คําที่ขีดเสน้ ใต้ นอกเมอื งมสี ระท่ีกว้างใหญ่ 1. แรมรอ้ นนอนในพนาเวศ 2. ดับเข็ญใหเ้ ย็นทง้ั บรุ ี 3. ได้ดํารงนคเรศเขตขัณฑ์ 4. ออกจากพิชัยธานี 5. เขาจะฉนิ ยนิ รา้ ยทุกพารา 9. ขอ้ ใดมคี าํ ศพั ทท์ ี่มีความหมายวา่ “กลิน่ หอม” 1. ขจายขจรคันธรสรวยรวย 2. นํ้าใสไขทอ่ ปทุมทอง 3. สอดใส่สนับเพลาอลงการ์ 4. เข้าที่สรงสนานสําราญสกนธ์ 5. ทับทรวงดวงกุดน่ั บรรจง เรียนภาษาไทยให้ถงึ แกน่ ความรู้ ต้องเรียนกบั คุณครูทวิ ลิป รายการติวเข้มเตมิ เตม็ ความรู้ (ETV)

  16  5. 5 แหง่ 10. ขอ้ ใดใช้ภาพพจน์อุปมา 1. โอ้ศรีอยธุ ยา น้ําตาทว่ มไอศวรรย์ 2. ผุเปื่อยเป็นตมพลนั ปานป่าชา้ โศกาดรู 3. เวียงวังปรางค์ปราสาท วินาศสนิ้ มไหสูรย์ 4. เหลอื แตก่ ากปฏกิ ลู มูลเถา้ ถา่ นกระดกู ไทย 5. กรวดทรายสะอกึ สะอื้น ยะเยอื กพนื้ กรุงแกว้ ไหว 11. ข้อใดใชภ้ าพพจน์ชนิดเดยี วกบั คําประพนั ธ์ต่อไปน้ี สรมุขมุขสีด่ ้าน เพยี งพมิ านผา่ นเมฆา 1. เรอื มา้ หน้ามุ่งน้ํา แลน่ เฉ่ือยฉ่ําลําระหง 2. เพยี นทองงามดั่งทอง ไมเ่ หมอื นนอ้ งหม่ ตาดพราย 3. เรือสงิ ห์ว่ิงเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝนื ฝา่ ฟอง 4. สุวรรณหงสท์ รงพหู่ ้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ 5. เรอื ครุฑยุดนาคหิ้ว ล่ิวลอยมาพาผันผยอง 12. ข้อใดใชภ้ าพพจน์ต่างกบั ข้ออื่น 1. ผลลูกสุกหา่ มงามงามงอน แต่แตนตอมต่อผึ้งหึ่งหง่ึ ฮือ 2. เหน็ กรวดทรายชายทะเลชโลทร ละเอยี ดอ่อนดังละอองสาํ ลดี ี 3. ทะเลโล่งโวง่ วา่ งนํา้ คา้ งกระเซน็ ดูดาวเดน่ ดวงสง่าเหมือนยามโคม 4. บนั ไดนาคนาคในบนั ไดน้นั ดูผกผนั เพยี งจะเลอื้ ยออกโลดเลน่ 5. ถึงรูปร่างอย่างยุพินกนิ รี แต่เช่นน้แี ล้วไม่มองประคองเคียง 13. ข้อใดมกี ารใช้ภาพพจน์ 1. ทพ่ี ่ึงหนง่ึ พ่งึ ได้แตก่ ายตน เกดิ เป็นคนคดิ เห็นจงึ เจรจา 2. มาจอดหนา้ ทา่ วัดพระเมรขุ ้าม ริมอารามเรอื เรยี งเคยี งขนาน 3. แสยงเส้นโลมาให้อาวรณ์ ถงึ ดงดอนแดนบา้ นกาญจนบุรี 4. มนษุ ย์นที้ ่รี ักอยู่สองสถาน บดิ ามารดารกั มกั เปน็ ผล 5. เกศาหอมฟังดังปรงุ จนั ทน์ จะทรงโฉมโนมพรรณอันใด 14. คาํ ประพนั ธต์ ่อไปน้ีใชภ้ าพพจน์กแ่ี ห่ง ราตรเี ข้าท่ไี สยาสน์ เหนืออาสนพ์ รรณรายฉายฉนั พร้อมหมูพ่ ระสนมกํานัล ดัง่ ดาวล้อมจนั ทรใ์ นอมั พร บันดาลใหร้ อ้ นรุ่มกลุ้มจิต เพียงหนง่ึ จอ้ งพษิ แสงศร จนเวลาใกล้รงุ่ ทินกร ภูธรกเ็ คล้มิ หลับไป 1. 1 แห่ง 2. 2 แห่ง 3. 3 แห่ง 4. 4 แหง่ เรียนภาษาไทยใหถ้ งึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรยี นกบั คุณครทู วิ ลปิ รายการติวเข้มเตมิ เต็มความรู้ (ETV)

17    15. ศลิ ปะในการประพันธ์ตามข้อใดปรากฏในคาํ ประพนั ธ์ต่อไปน้ี กลน่ิ แกว้ แก้วกลน่ิ ชัด พระพายพัดรําเพยกระพอื นามแก้วดอกแก้วคอื แก้วเนตรพีน่ ใี้ ชใ่ คร 1. การเล่นคํา 2. การหลากคํา 3. การใช้คําอพั ภาส 4. การเลียนเสียงธรรมชาติ 5. การเลน่ เสยี งหนักเสียงเบา 16. ขอ้ ใดไม่ปรากฏในคาํ ประพนั ธ์ตอ่ ไปนี้ ข้าศึกดาษเดียร ชระเมียรหมู่ดัสกร มอญพม่าดารดื่น เดินดุจคลื่นคลาฟอง นองน่านในอรรณเวศ ตรสั ทอดพระเนตรเนอื งบร 1. จินตภาพ 2. การเลน่ คาํ 3. สมั ผสั พยัญชนะ 4. การใชภ้ าพพจน์ 5. การใช้ศพั ท์วรรณคดี ใช้ข้อความต่อไปนต้ี อบคาํ ถามข้อ 17-18 1) กรายกรกุมกรชิ ฤทธิไกร 2) มาทรงรถแก้ววสิ ุทธใิ์ ส 3) พออุทัยเรอื งรองส่องศรี 4) พรั่งพรอ้ มพหลมนตรี 5) คลายคลรพี ลยาตรา 17. ศิลปะการประพนั ธ์ตามขอ้ ใดปรากฏในคําประพันธข์ ้างตน้ 1. การเล่นคํา 2. การเล่นสมั ผสั 4. การใช้สญั ลกั ษณ์ 3. การเลน่ จงั หวะ 4. ข้อ 4) 5. ขอ้ 5) 5. การใช้คําพอ้ งรปู 18. ขอ้ ใดมคี ําที่แสดงจินตภาพด้านแสงสี 1. ข้อ 1) 2. ขอ้ 2 ) 3. ข้อ 3) ใช้ข้อความตอ่ ไปน้ตี อบคําถามข้อ 19-20 1) เขา้ กลุม้ รุมรอบท้ังกาย 2) ฉุดลากวุ่นวายตีต้อน 3) อดใจมิไดต้ อ่ กร 4) ราญรอนสัประยทุ ธช์ ิงชัย 5) แตป่ ระหารผลาญชพี จนอ่อนอก 19. ข้อใดไมม่ ีสมั ผสั พยัญชนะ 1. ข้อ 1) 2. ข้อ 3) 3. ข้อ 3) 4. ขอ้ 4) 5. ขอ้ 5) 4. ข้อ 4) 5. ข้อ 5) 20. ขอ้ ใดไมม่ จี ินตภาพดา้ นความเคลอื่ นไหวขอ้ 1) ขอ้ 1) 2. ข้อ 2) 3. ข้อ 3) เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แก่นความรู้ ต้องเรยี นกบั คุณครูทวิ ลปิ รายการติวเขม้ เติมเตม็ ความรู้ (ETV)

18    21. ข้อใดไมม่ ีจินตภาพด้านความเคลื่อนไหว 1. ตกใจลกุ แลน่ พัลวนั 2. ถอื อาวุธไวท้ ง้ั ไพร่นาย 3. บา้ งลากปนื ใหญใ่ สช่ ่อง 4. ดนั กนั ใหข้ น้ึ เชงิ เทนิ ราย 5. บ้างคัว่ กรวดทรายกองเปน็ โกลี 22. คาํ ประพันธ์ตอ่ ไปนข้ี ้อใดมีจินตภาพดา้ นความเคล่ือนไหวทง้ั 2 วรรค 1) โลดลําพองลองเชิงละเลิงมา 2) เห็นแผ่นผาพงิ ผนิดปดิ หนทาง 3) หนักหรือเบาเยาว์อย่ไู มร่ ู้จัก 4) เขา้ ลองผลกั ด้วยกําลงั กพ็ ังผาง 5) เห็นหาดทรายพรายงามเป็นเงนิ ราง 6) ทะเลกว้างข้างขวาลว้ นปา่ ดง 1. วรรคที่ 1 และ วรรคที่ 3 2. วรรคท่ี 2 และ วรรคที่ 5 3. วรรคท่ี 1 และ วรรคท่ี 4 4. วรรคท่ี 2 และ วรรคท่ี 6 5. วรรคที่ 3 และ วรรคที่ 4 23. ขอ้ ใดมจี ินตภาพดา้ นเสยี ง 1) โมโหหุนผลุนออกนอกประตู 2) เทยี่ วตามดูรอยลงในคงคา 3) กระโดดโครมโถมว่ายสายสมุทร 4) อตุ ลุดดาํ ด้นเที่ยวค้นหา 5) ไม่เห็นหัวคว้าไปได้แตป่ ลา 1. วรรคท่ี 1 2. วรรคที่ 2 3. วรรคท่ี 3 4. วรรคที่ 4 5. วรรคท่ี 5 24. ข้อใดใหจ้ ินตภาพที่ไม่ใช่ธรรมชาติ 1. งานปราสาทผาดเยี่ยมโพยมมาน ชชั วาลแก้วเก้าวะวาวตา 2. คณานกเรงิ รอ้ งคะนองไพร เสียงเรไรจกั จ่นั สน่ันเนนิ 3. จนแสงทองรองเรืองอรา่ มฟา้ พระสุรยิ าเยื้องเย่ยี มเหลี่ยมไศล 4. ฝงู กระโห้โลมาขึน้ คลาดคลํา่ บ้างผดุ ดาํ เคลือ่ นคล้อยลอยสลอน 5. เหลา่ ละเมาะเกาะเกียนเหมือนเขียนวาด งามประหลาดแลหลากดังฉากฉาย 25. ขอ้ ใดไม่มีการใช้คาํ อัพภาส 1. ยะเหยาะเหย่าทุกฝีย่างไม่หยอ่ นหยุด 2. พระนางยิง่ หมองศรีโศกกาํ สรดสะอึกสะอน้ื 3. อตุ สาหะตระตรากตระตรําเตร็ดเตร่หาผลาผลไม้ 4. ทรงพระสรวลสํารวลร่าระร่ืนเรงิ รบั เอาขอคาน 5. เสด็จดว่ นๆดะด่มุ เดินเมลิ มุ่งละเมาะไมม้ องหมอบ เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แก่นความรู้ ตอ้ งเรียนกับคุณครูทวิ ลปิ รายการติวเขม้ เติมเตม็ ความรู้ (ETV)

  19  5. 5 คาํ 26. คาํ ประพนั ธต์ อ่ ไปนีใ้ ชค้ าํ อัพภาสกคี่ ํา ณ ชายหาดสะอาดทราย และกรวดทรายประกายวาม วะวาบวบั ระยับยาม ผสานแสงพระจันทรเ์ พญ็ ทะเลแลกระแสหลั่ง อทุ กพล่งั ถะถั่งเหน็ ผสมสีขจีเปน็ ประหนึ่งแก้วตระการเขยี ว 1. 1 คาํ 2. 2 คาํ 3. 3 คาํ 4. 4 คํา 27. ขอ้ ใดเป็นคาํ ถามเชงิ วาทศลิ ป์ 1. บอกพ่อเถิดราอยา่ โศกี เจา้ น้มี นี ามกรใด 2. นอ้ งรักเจา้ จะเห็นเปน็ ไฉน พี่จะให้ไปรบั โอรสา 3. กมุ ารารปู ร่างนน้ั อยา่ งไร เสนเี ร่งไปเอาตวั มา 4. เอาไว้กไู ม่สบายเลย กรรมเอ๋ยเวรใดได้ทํามา 5. เจา้ จะอย่ทู ีท่ ําการในพารา หรือจะชว่ ยเชษฐาวารี 28. ขอ้ ใดเปน็ คําถามเชิงวาทศิลป์ 1. ใครปองรา้ ยหมายมาดจงคลาดแคล้ว ให้ผอ่ งแผ้วภญิ โญเดโชชัย 2. พระมนุ ีนน้ี ามกรใด ธรุ ะไรหรอื จงึ มาถึงธานี 3. เปน็ เหตุใหญไ่ พรจี ะมีมา เสวกาจะคดิ อ่านประการใด 4. แต่กอ่ นเล่าขา้ วปลาหาอยา่ งไร จงึ ไดไ้ วเ้ ปน็ เสบยี งพอเล้ยี งพล 5. พระบิดาพาพระแม่ไปไวไ้ หน จริงหรอื ไม่โปรดเกลา้ เล่าแถลง 29. ข้อใดเป็นคาํ ถามเชิงวาทศลิ ป์ 1. ขนุ ยกั ษ์จกั ประสงค์สง่ิ ใด จงึ เลีย้ วไลม่ หงิ ส์วง่ิ วางมา 2. เหน็ ฝงู นกกกบุตรยิ่งสดุ เศรา้ โอ้ลูกเราไม่รวู้ ่าอย่ไู หน 3. งว่ งเหงาเจา่ จุกทุกข์ถงึ ใคร ทําไมมาอยูใ่ นศาลา 4. บิตุราชมาตรุ งค์ของนงลกั ษณ์ เปน็ ป่ินปักนคั เรศหรอื เศรษฐี 5. เออนี่มธี รุ ะอะไรนน่ั จึงพากันมาในไพรสณฑ์ 30. ข้อใดไม่แสดงอารมณ์เศรา้ โศกอาลัย 1. พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี กรรมเวรสิง่ ใดดง่ั นี้ ทูลพลางโศกีรําพนั 2. ลาํ ดวนเอ๋ยจะดว่ นไปกอ่ นแล้ว ทัง้ เกดแก้วพิกุลยสี่ ุ่นศรี จะโรยร้างห่างส้ินกลิน่ มาลี จาํ ปีเอ๋ยก่ปี จี ะมาพบ 3. จะตัง้ หนา้ อาสาออกชิงชัย มิได้ยอ่ ท้อถอยหลัง สู้ตายไมเ่ สยี ดายชีวัง กวา่ จะส้นิ กาํ ลังของข้าน้ี 4. วา่ พลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่ เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวนั พ่ีไกลสามสดุ ามา 5. เคยหมอบใกลไ้ ด้กลิ่นสุคนธต์ ลบ ละอองอบรสร่นื ชนื่ นาสา สิน้ แผน่ ดินสน้ิ รสสคุ นธา วาสนาเรากส็ น้ิ เหมอื นกลิ่นสคุ นธ์ เรียนภาษาไทยใหถ้ ึงแก่นความรู้ ต้องเรยี นกบั คุณครูทิวลิป รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ (ETV)

20    31. จากคาํ ประพนั ธต์ ่อไปน้ี เมอ่ื คลอดขุนช้างนางเทพทองมคี วามรู้สกึ หลายประการยกเว้นข้อใด นางเทพทองเหลียวหนา้ คว้าลกู ชาย พลกิ ควํา่ พลกิ หงายอยู่ตวั สั่น ทดุ ลกู ปัดสเี หมอื นผีปน้ั หัวลา้ นในครรภด์ งั วงเดือน เสียแรงอมุ้ ท้องประคองมา ชกโคตรแม่อา้ ยหมาขเี้ รื้อนเปื้อน เลย้ี งมันไวใ้ ยอายเพอ่ื นเรอื น หัวเหมอื นโคตรข้างไหนให้เกิดมา 1. ผดิ หวงั 2. ขุ่นเคอื ง 3. รังเกยี จ 4. หวาดกลวั 5. เสียหน้า 32. ขอ้ ใดมีนํ้าเสยี งช่ืนชม 1. เล็บนางอยา่ งเลบ็ นอ้ ง เหลืองดุจทองหาไหนเทียม 2. รสสุคนธส์ ่งกลิ่นกลบ เหมือนนํา้ อบชโลมองค์ 3. เรือชายใกล้กาหลง คดิ โฉมยงเจา้ ตามมา 4. ชอ้ งนางนางคลไ่ี ว้ คิดทรามวนั เคยสรงสยาย 5. กระถินสง่ กล่นิ เกลย้ี ง คดิ หา่ งเพยี งจากจาํ จาง 33. ขอ้ ใดไมไ่ ดก้ ล่าวถงึ ความงามของผูห้ ญิง 1. พกั ตราจิ้มลม้ิ ยม้ิ แยม้ 2. นอ้ งนางดูแฉลม้ แช่มชอ้ ย 3. ทรงโฉมประโลมเลิศลกั ขณา 4. จะพิศไหนไม่เสยี แตส่ กั อยา่ ง 5. เหน็ นางหนงึ่ ประทับแทน่ สุวรรณ 34. ขอ้ ใดไมม่ ีความเช่อื 1. ยิ่งคิดย่งิ แคน้ แนน่ ฤทยั โอ้วา่ เวรใดมาตามทัน 2. ได้สาํ เร็จเสรจ็ สมปรารถนา ดว้ ยบพุ เพนวิ าสาสง่ ให้ 3. สง่ั บ่าวใหล้ งจากอาชา ข้าวสารเสกมากซ็ ัดไป 4. ถงึ เป่าคาถามหาสะเดาะ กลอนหลดุ ผลดุ เผลาะดงั คนถอน 5. อันเดินทางกลางนา้ํ จะลาํ บาก ตอ้ งพลดั พรากยากแค้นถงึ แสนสา 35. ข้อใดไม่มคี วามเช่ือ 1. เปน็ เคราะห์กรรมจําพลัดพราก เอ็งผลจากเบญจเพสแลว้ หรอื หลาน 2. แล้วทําผงอทิ ธเิ จเข้าเจมิ พักตร์ คนเห็นคนทกั รกั ทกุ หนา้ 3. จึงอ่านอาคมขลังตงั้ ใจ สะกดใหน้ ิทราท้งั ธานี 4. วนั พฤหัสวนั นี้ดีนกั หนา อยั กาจะสอนหนงั สอื ให้ 5. ลกู เอย๋ เป็นกําพร้าพระบดิ า สุรยิ ว์ งศพ์ งศาไมเ่ หน็ พกั ตร์ 36. ขอ้ ใดไมม่ ีความเชื่อ 1. เป็นกรรมแล้วแกว้ ตาอย่าร้องไห้ จงหักใจเสยี เถิดนอ้ งอยา่ หมองศรี 2. อันเจ็บปวดยวดยิง่ ทุกสง่ิ มี ไมเ่ ทา่ ทเี่ จ็บชํา้ ระกาํ รัก 3. ขา้ จะกําบงั กายหายตน ไปกลางพลข้าศกึ ไมน่ กึ ขาม 4. น้าํ มันพรายนํา้ มนั จนั ทน์เสกสรรบ่น เคยค้มุ ขงั บงั ตนแต่ไรมา 5. วา่ พลางทางร่ายพระคาถา บันดาลเป็นภษู าผา้ ผอ่ น เรยี นภาษาไทยให้ถงึ แก่นความรู้ ตอ้ งเรียนกับคุณครทู วิ ลิป รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ (ETV)

21    จะไดม้ ีเกียรตยิ ศปรากฏไป อย่ถู า้ํ เดียวสองตัวเหน็ ไม่ได้ 37. ขอ้ ใดแสดงคา่ นิยม ถา้ ดมี ชี ว่ั กม็ ีอย่ทู น่ี ่นั 1. ถวายตัวพระองคท์ รงธรณี มาแปรเป็นพลอยหงุ ไปเสยี ได้ 2. ดง่ั พระยาสีหราชอันกราดเกร้ียว ก็สาํ คญั ทกุ อย่างแต่ข้างดี 3. อนั ความช่วั ย่อมระคนปนกับดี 4. เมื่อแรกเชอ่ื ว่าเนือ้ ทับทมิ แท้ 5. ดว้ ยพ่งึ แรกรู้จกั ความรักนน้ั 38. ขอ้ ใดไมก่ ลา่ วถงึ ค่านยิ ม 1. อน่งึ ไม่ทรยศเจา้ ข้าวแดงตน ก็เปน็ คนเลศิ โลกย่อมลอื ชา 2. จะตายตามความสัตย์ปฏิญญา มใิ หผ้ ิดมาถงึ เทา้ เจา้ คุณ 3. ลกู หมายวา่ จะตายกบั ฝ่าเท้า แทนคุณแมเ่ จา้ จนเปน็ ผี 4. จึงปราศรัยไตถ่ ามความบรุ าณ ขอเชิญทา่ นชี้แจงให้แจ้งใจ 5. สามภิ กั ดิร์ ักกษตั รยิ ส์ วัสดี จะได้มเี กียรติยศปรากฏไป 39. ขอ้ ใดแสดงคา่ นิยม 1. ถงึ กูตายภายหลังให้ลอื ชอ่ื วา่ ใจซ่ือถือสตั ยบ์ ริสุทธิ์ 2. ประเพณีตงี ใู ห้หลงั หัก มันกม็ กั ทาํ ร้ายเมอ่ื ภายหลัง 3. อันเจ็บปวดยวดย่ิงทุกส่งิ มี ไม่เทา่ ทีเ่ จบ็ ชาํ้ ระกํารัก 4. คิดคนงึ ถงึ มติ รแตก่ ่อนเกา่ นจิ จาเจา้ เหนิ ห่างร้างพสิ มัย 5. ใครจะอย่คู าํ ฟ้าท้งั ตาปี ถึงพระศุลีอนิ ทรจ์ นั ทร์ยอ่ มบรรลยั 40. คําประพนั ธต์ อ่ ไปนี้ผูแ้ ตง่ รงั เกยี จเรื่องใดมากที่สดุ ไดเ้ คืองแคน้ แสนยากลาํ บากบอบ ไมส่ มประกอบทรัพย์สนิ ก็ขดั สน แม้นกลบั ชาติเกิดใหมเ่ ป็นกายคน ช่อื วา่ จนแลว้ จงจากกําจดั ไกล 1. ความขัดสน 2. ความลาํ บาก 3. การเกดิ ใหม่ 4. ความเคืองแค้น 5. การพรากจากกนั ท้ังสน้ิ คอื เส้นทางทีส่ ร้างได้ เพยี งเธอใชค้ วามรกั เปน็ แรงขับ ขับเคล่อื นความฝนั อนั ระยบั ข้ึนอยูก่ ับเธอทุ่มเทมากเท่าใด เหนื่อยแต่อยา่ ยอมท้อบนเสน้ ทาง ทุกก้าวย่างยังวาดหวังยงั เคล่ือนไหว ความสาํ เร็จรอโอบกอดเธอไม่ไกล เพยี งเธอใช้หวั ใจรกั ชว่ ยผลักดัน 41. คําประพันธข์ า้ งต้นกล่าวถึงประเด็นใดเป็นสาํ คัญ 1. ความรกั 2. ความฝัน 3. ความหวัง 4. ความอดทน 5. ความจริงใจ 42. คําประพันธ์ตอ่ ไปน้กี ลา่ วถึงเรือ่ งใดเป็นสําคญั บ้างพุง่ ผัดศาสตราอาวธุ อตุ ลุดสบั สนอลหมา่ น หักโหมโรมรนั ประจัญบาน ตีประดาหนา้ กระดานเข้าไป 1. การต่อสกู้ นั 2. ความโกลาหล 3. การฝกึ หัดอาวุธ 4. การใช้ไมก้ ระดานเปน็ โล่ 5. ความหลากหลายของอาวธุ เรยี นภาษาไทยใหถ้ งึ แก่นความรู้ ตอ้ งเรยี นกบั คุณครูทิวลิป รายการติวเขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ (ETV)

22    43. คําประพันธต์ อ่ ไปนีก้ ล่าวถงึ เร่ืองใดเป็นสําคัญ จักเจยี นจอมปลวกเตยี้ เติมภู เขาแฮ ดีแตแ่ ลเ่ นือ้ หนู เพมิ่ ชา้ ง เบียนเบยี ดเจียดพิษงู เพิ่มพษิ นาคนา อุตริรองนํ้าค้าง ใสซ่ ํา้ สาคร 1. สิ่งท่หี าได้ยาก 2. สิ่งท่สี ร้างปญั หา 3. สิ่งท่ีมองไมเ่ หน็ 4. สิ่งที่มผี ลน่ารงั เกียจ 5. สิง่ ทที่ ําแลว้ ไมเ่ กิดประโยชน์ 44. ข้อใดไม่ใช่ข้อคดิ ของคาํ ประพันธ์ต่อไปน้ี พาทผี เู้ ฒา่ สงั่ จําความ แมน่ เทอญ จะทราบสิ่งดีงาม ทว่ั ถว้ น 1. ผู้ใหญส่ อนสิง่ ท่ถี ูกต้องเสมอ 2. เราควรเช่ือฟังคาํ สัง่ สอนของผูใ้ หญ่ 3. คําสอนของผู้ใหญ่มกั มีแต่สิ่งดีงาม 4. ส่ิงดชี ่วั อาจพิจารณาไดจ้ ากคาํ สอนของผู้ใหญ่ 5. ผใู้ หญ่มักจดจําถ้อยคาํ ที่ดีงามไว้ส่งั สอนอย่างทวั่ ถึง 45. ข้อใดเปน็ แนวคิดสําคญั ที่ผูแ้ ต่งต้องการนําเสนอ กาน้ําดาํ ดง่ิ ต้น เอาปลา กาบกคิดใครห่ า เสพบา้ ง ลองดําสมจั ฉา ชลชาติ สวะปะคอค้าง คร่ึงนํ้าจาํ ตาย 1. คนเราไมค่ วรแกง่ แยง่ ชิงดีกบั ผู้อน่ื 2. ธรรมดาของชวี ิตมีเกดิ แลว้ ยอ่ มมดี ับ 3. แต่ละคนต่างมีความสามารถเฉพาะตน 4. การทาํ ส่งิ ท่เี กนิ ความสามารถอาจทาํ ให้เกิดผลเสีย 5. การดถู กู เหยยี ดหยามผู้อืน่ ท่ตี ่าํ ตอ้ ยกว่าตนทําใหเ้ กดิ ศตั รู   รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ (ETV)             เรียนภาษาไทยใหถ้ งึ แกน่ ความรู้ ตอ้ งเรียนกบั คุณครทู วิ ลปิ