วิชา GAT ภาษาไทย อาจารยหชั ปธัญนนท อังกวราปยทชั
รายการตวิ เขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครทู ิวลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 เคลียร์ CONCEPT GAT ย้าํ เรอ่ื งท1่ี 1 ยา้ํ เรอ่ื งท่ี 2 ยํา้ แลว้ กย็ ํ้าอีก!!!!!!!!!!!!!!!! เรยี น GAT ถงึ แกน่ ต้องเรียนกบั คณุ ครทู วิ ลปิ เท่านั้น
รายการตวิ เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คณุ ครทู วิ ลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 บทความท่ี 1 จดุ ออ่ นของคนไทย ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ดิฉันและเพ่ือนๆอีก 4 คนนัดกันชวนคุณแม่มารับประทาน อาหารและสังสรรค์กันที่บ้านดิฉัน ขณะที่คุณแม่ท้ังห้าคนนั่งดูละครทีวีเรื่องโปรด พวกลูกๆก็คุยกันเรื่อง สัพเพเหระต่อท่ีโต๊ะอาหาร พอหมดเรื่องคุยก็หันมาวิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมืองว่ามีปัญหาไม่หยุดไม่หย่อน ลง ท้ายก็มาโทษกันเองว่าเป็นเพราะคนไทยมีจุดอ่อนอย่างน้ันอย่างน้ี เร่ืองนี้คงติดอยู่ในหัวเพื่อนคนหน่ึง วันรุ่งข้ึน จงึ สง่ บทความทเี่ อามาจาก Internet มาให้ เป็นเรอื่ ง จดุ อ่อนของคนไทย 10 ประการ ในมุมมองของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ (คุณวิกรม กรมดิษฐ์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริหารบริษัทอมตะคอร์ปอเรชัน จํากัด เป็น เจ้าของโครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร รวมท้ังบริษัทในเครืออมตะอีกหลายแห่ง) แม้จะมีบางประการที่ ดิฉนั ไมเ่ ห็นดว้ ยนกั แต่ก็ต้องเปดิ ใจกว้างรบั ฟังไว้เพ่อื นํามาใครค่ รวญไตร่ตรองดภู ายหลัง จุดอ่อนดังกล่าวได้แก่ รู้จักหน้าท่ีของตัวเองตํ่ามาก การศึกษายังไม่ทันสมัย มองอนาคตไม่เป็น ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี การกระจายความเจริญยังไม่เต็มท่ี การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มแข็ง อิจฉาตาร้อน เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียว ยังไม่พร้อมในเวทีโลก และสุดท้ายคือ คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็น จดุ อ่อนท้งั 10 น้ี ดฉิ นั ขอนาํ มาขยายความเพียงบางสว่ นบางประการเทา่ ที่เนื้อที่จะอํานวย ประการแรกคือ รจู้ ักหนา้ ท่ขี องตัวเองตาํ่ มากโดยเฉพาะหนา้ ท่ตี ่อสังคม ลักษณะของจุดอ่อนข้อน้ีท่ีเห็น ได้ชดั คือ มีสาํ นกึ ต่อสังคมสว่ นรวมต่าํ และ มือใครยาวสาวได้สาวเอา หลายคนแสวงหาอํานาจเพ่ือจะตักตวง ผลประโยชน์ จนมีคําพูดว่าธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ลักษณะของจุดอ่อนท้ังสองอย่าง ดังกล่าวทําใหบ้ ้านเมืองเราไม่เจริญเท่าท่คี วร ประเทศชาติล้าหลังไปเร่ือยๆ ประการต่อมาคือการศึกษายังไม่ทันสมัยซ่ึงท่ีสําคัญคือเรื่องภาษา เป็นเหตุให้คนไทยขาดโอกาสใน การแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่างๆประเทศอ่ืนๆรู้จักคนไทยน้อยมากเน่ืองจากคนไทยขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ไม่ม่ันใจในตัวเอง การท่ีคนไทยมีโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติน้อยหรือไม่มี ทําให้บ้านเมืองเราไม่เจริญ พอทจี่ ะแขง่ ขนั กับชาตอิ ่นื ๆ ในเวทีโลก จุดอ่อนของคนไทยประการสุดท้ายที่ขอนํามาอธิบายในท่ีนี้คือ คนไทยมองอนาคตไม่เป็น โดยมี ลักษณะเด่นเท่าท่ีสังเกตเห็นคือ คนไทยกว่าร้อยละ 70 ไม่มีเป้าหมายท่ีชัดเจนในอนาคต ทํางานกันแบบวัน ต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยนักท่ีจะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบและอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ชอบพ่ึงพาส่ิงงมงายและโชคชะตา พอใจทํางานแบบตําข้าวสารกรอกหม้อ ลักษณะเช่นน้ีทําให้บ้านเมืองเราไม่ เจรญิ เชน่ กัน ดิฉันจงึ มคี วามเห็นว่าคนเราถ้ารูต้ ัววา่ มจี ดุ ออ่ นอย่างไร ก็ย่อมหาทางปรบั ปรงุ แก้ไขจดุ อ่อนน้ันได้ จึงขอ เชิญชวนท่านท่ีสนใจหารายละเอียดเร่ืองจุดอ่อนของคนไทย 10 ประการจาก Internet มาอ่านเพิ่มเติม หาก พบว่าเรายังมีจุดอ่อนอยู่ก็จะได้นํามาพิจารณาหาวิธีปรับปรุงพัฒนาตนเอง รวมทั้งนําไปอบรมส่ังสอนลูกหลาน ดว้ ย เพ่ือจะไดแ้ กจ้ ุดออ่ นประการสุดท้ายทค่ี ณุ วิกรมวา่ ไวค้ อื คนไทยเลยี้ งลูกไมเ่ ป็น เรียน GAT ถงึ แกน่ ตอ้ งเรียนกับคณุ ครทู วิ ลิปเท่านัน้ 2
รายการตวิ เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คุณครูทวิ ลปิ วาดแผนภูมคิ ําตอบ 08 2541 4142 08 9594 4445 ตารางสรปุ ข้อความทีก่ าํ หนดและเลขกาํ กบั บทความท่ี 1 และที่ว่างสาํ หรับรา่ งรหัสคําตอบ เลขกาํ กบั ขอ้ ความทีก่ ําหนด รหัสคาํ ตอบ 01 การศึกษายงั ไม่ทันสมยั 02 แก้ปญั หาเฉพาะหนา้ ไปวันๆ 03 ขาดโอกาสในการแข่งขนั กบั ตา่ งชาติ 44 จุดออ่ นของคนไทย 05 บา้ นเมอื งเราไมเ่ จริญ 06 มองอนาคตไม่เปน็ 07 มีสํานึกตอ่ สังคมสว่ นร่วมตา่ํ 08 มือใครยาวสาวได้สาวเอา 09 ไมม่ ีเปา้ หมายท่ชี ดั เจนในอนาคต 10 รจู้ กั หน้าท่ขี องตัวเองตํ่ามาก เรยี น GAT ถึงแก่นตอ้ งเรียนกบั คณุ ครทู วิ ลิปเทา่ นน้ั 3
รายการติวเขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คุณครทู วิ ลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 บทความท่ี 2 ปญั หาวัยรุ่น ตน้ เหตแุ ละทางแก้ เวลารับรู้ปัญหาของวัยรุ่น หลายคนมีความหงุดหงิด ไม่พอใจ เบื่อ รู้สึกว่าทําไมเด็กไม่เลือกสิ่งท่ีดี ให้กับตนเอง ทําไมจะต้องสร้างปัญหา จนมีคนจํานวนหนึ่งอยากจัดการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง แต่ในความ เป็นจริงพฤติกรรมที่ปรากฏให้เห็นมีเหตุปัจจัยหลายอย่างเชื่อมโยงกัน ท่ีน่าคิดคือทําไมเด็กบางคนมีปัญหา พฤติกรรม เช่น ติดยาเสพติด เล่นการพนัน ชอบความรุนแรง มีปัญหาเร่ืองเพศ เป็นต้น แต่ทําไมเด็กบางคน ไมม่ ีปญั หาทงั้ ๆทอ่ี ยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่เี สี่ยง ผู้อํานวยการสถาบันราชานุกูลอธิบายถึงปัญหานี้ว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทําให้เกิดปัญหาวัยรุ่นมีมากมายที่ สําคัญคือปัจจัยเส่ียงในครอบครัว ปัจจัยเสี่ยงในชุมชนและสังคม และปัจจัยเส่ียงในตัวเด็กเอง ดังน้ันหากจะ แกไ้ ขปญั หากต็ ้องลดปจั จัยเส่ียงต่างๆ และสร้างปัจจยั ปกป้องเพิ่มข้ึนซงึ่ ท่ีสําคัญก็คือภมู ิคุ้มกันในตัวเดก็ ปัจจัยเส่ียงในครอบครัวส่วนใหญ่เกิดจากวิธีการเล้ียงดูเด็กท่ีไม่ถูกต้อง เช่น ตามใจลูกมากเกินไปไม่รู้ วิธีที่จะจูงใจเด็กให้ทําตามคําส่ังของพ่อแม่ บางครอบครัวใช้วิธีบังคับรุนแรงแต่ไม่เคยแก้ปัญหาได้ บาง ครอบครัวมีปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวจนเด็กไม่อยากกลับบ้าน ในท่ีสุดก็มีกลุ่มของตนเองและรู้สึกว่าตน เป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มมากกว่าของครอบครัว บางครอบครัวส่งเสริมพฤติกรรมท่ีเป็นปัญหา มองว่าปัญหามา จากเพ่ือนหรือคนอ่ืน ปกป้องเด็กในทางที่ผิด ไม่ฝึกเด็กให้รับผิดชอบการกระทําของตนเอง จนอกจากน้ีการที่ ตวั พ่อแมเ่ องมปี ัญหาทางดา้ นพฤติกรรมดว้ ย กเ็ ลยกลายเปน็ เรอ่ื งของลกู ปเู ดมิ ตามพ่อปูแม่ปู สําหรับปัจจัยเส่ียงในตัวเด็กก็เป็นผลมาจากครอบครัวเช่นกัน โดยเฉพาะ การไม่ได้รับการยอมรับจาก คนในครอบครัว ถูกมองว่าเป็นแกะดํา ทําอะไรก็ไม่ได้เรื่อง จะทําให้เด็กมีความคิดต่อต้านสังคม ไม่ยอมรับ กติกาการอยูร่ ว่ มกัน มองพฤติกรรมทีเ่ ปน็ ปญั หาว่าเป็นความทันยุคทนั สมัยและทาํ ให้เป็นทย่ี อมรับในกลมุ่ เหตุสําคัญของปัญหาวัยรุ่นอีกอย่างหนึ่งคือปัจจัยเส่ียงในชุมชนและสังคม ได้แก่การท่ีเด็กเข้าถึง อบายมุข เหล้า ยา อาวธุ สื่อลามก และสิง่ ย่ัวยทุ ัง้ หลายไดโ้ ดยง่าย เมือ่ ทศั นคติของชมุ ชนเองกย็ อมรับส่ิงเหลา่ น้ี และผใู้ หญ่เองกท็ าํ ผดิ ให้เดก็ เห็น เดก็ กย็ อ่ มซมึ ซับรับเอาพฤติกรรมทเ่ี ปน็ ปัญหามาปฏบิ ัตบิ า้ ง ปจั จยั เสีย่ งทั้งสามประการลว้ นเปน็ เหตทุ ที่ าํ ใหเ้ กิดปัญหาต่างๆ ท้ังปัญหาติดยาเสพติด ติดสุรา ติดการ พนัน ชอบความรุนแรง ตลอดจนการมั่วสุมทางเพศและปัญหาอ่ืนๆ ดังนั้นหนทางในการแก้ปัญหาก็คือต้อง ป้องกนั หรอื ลดความเส่ียงต่างๆลง และท่ีสําคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยวิธีการเล้ียงดู เดก็ อย่างถกู ตอ้ งน่ันเอง เรยี น GAT ถึงแกน่ ตอ้ งเรียนกับคณุ ครทู วิ ลปิ เทา่ น้ัน 4
รายการตวิ เขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คณุ ครูทิวลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 ภูมิคุ้มกันสําคัญที่จะต้องช่วยกันสร้างให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก ได้แก่ การช่วยให้เด็กมีเป้าหมายในชีวิต มีบุคลิกภาพท่ีมั่นคง และมีความเชื่อในสิ่งท่ีถูกต้อง ในวัยรุ่นการมีเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องสําคัญ ครอบครัว ต้องช่วยให้เด็กค้นพบส่ิงท่ีตนต้องการและมีความหวังในอนาคต จะทําให้เด็กมุ่งม่ันในความสําเร็จมากกว่าที่จะ ใช้เวลากับส่ิงยว่ั ยุ สําหรับบุคลกิ ภาพท่ีม่ันคงเป็นผลมาจากการท่ีเด็กมีความเช่ือม่ันในคนรอบข้างโดยเฉพาะพ่อ และแม่ เช่ือมน่ั วา่ พอ่ แม่สามารถให้คําแนะนําที่ดี พูดคุยปัญหากับพ่อแม่ได้ ทําให้ม่ันใจในตนเอง ซ่ึงจะสัมพันธ์ กบั ความมน่ั ใจว่าตนสามารถมีชวี ิตทด่ี ีแมจ้ ะแวดล้อมด้วยสิ่งทีเ่ ปน็ ปัญหา สว่ นการมคี วามเชื่อในสิ่งท่ีถูกต้องจะ เกิดขึ้นได้ก็ด้วยการปลูกฝังและอบรมสั่งสอนมาต้ังแต่วัยเด็ก ให้เด็กสามารถแยกแยะสิ่งท่ีถูกต้องได้ แม้จะเห็น คนอนื่ ทําสิง่ ทผ่ี ิดก็ยงั ยืนหยัดทจี่ ะทําสิ่งทถี่ ูกต้องตอ่ ไป ภูมิคุ้มกันท้ังสามประการน้ีนอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาวัยรุ่นทั้งหลายดังกล่าวข้างต้น ยังจะช่วยให้ วัยรุน่ มอี นาคตทส่ี ดใส และเปน็ สมาชิกทดี่ ีในครอบครัว สงั คม และประเทศชาตติ ่อไป ร่างแผนภาพคําตอบ ตารางสรปุ ขอ้ ความทกี่ าํ หนดและเลขกาํ กบั บทความที่ 2 และทีว่ ่างสาํ หรับรา่ งรหัสคาํ ตอบ เลขกาํ กับ ข้อความทกี่ ําหนด ท่วี า่ งสาํ หรบั รา่ งรหสั คาํ ตอบ 01 ชอบความรุนแรง 02 ตดิ ยาเสพตดิ 03 ปจั จยั เส่ียงทท่ี าํ ใหเ้ กิดปญั หาวัยรุ่น 04 ปัจจยั เส่ียงในครอบครวั 05 ปจั จยั เสีย่ งในชมุ ชนและสังคม 06 ภูมิคุ้มกันในตวั เด็ก 07 มีความเชื่อในสิ่งทถี่ กู ต้อง 08 มีปัญหาเรื่องเพศ 09 มีเป้าหมายในชวี ิต 10 วธิ ีการเลยี้ งดเู ดก็ อยา่ งถูกตอ้ ง เรียน GAT ถึงแกน่ ตอ้ งเรยี นกบั คณุ ครทู วิ ลิปเท่านนั้ 5
รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คณุ ครทู วิ ลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 บทความท่ี 3 การล่วงละเมดิ ทางเพศ ภัยใกลต้ ัวสตรี การลว่ งเกินหรอื การลว่ งละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรีเป็นปัญหาที่มีมานาน ข่าวครึกโครมที่สะเทือน สังคมในช่วงที่ผ่านมาคือ การข่มขืนฆ่าเด็กหญิงในขบวนรถไฟแล้วโยนศพท้ิงลงข้างทาง และข่าวการข่มขืนฆ่า นกั ทอ่ งเที่ยวชาวอังกฤษทเ่ี กาะเต่า จงั หวดั สุราษฎร์ธานี ท่ีจริง ความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ ประกอบด้วยการกระทําหลายอย่าง ไม่ได้จํากัด เฉพาะการข่มขืนกระทําชําเรา หรือข่มขืนฆ่าดังตัวอย่างเหตุการณ์ท่ีกล่าวข้างต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การทําอนาจาร ต้ังแต่เบาไปหาหนัก เช่น การล่วงเกินทางเพศด้วยท่าทีท่าทาง คําพูด หรือด้วยสายตา ตลอดจนการกระทําท่ีส่อเจตนาล่วงละเมิดทางเพศ ได้แก่ การถูกเน้ือต้องตัว การแตะต้องลูบคลําบริเวณของ สงวน การกอดจบู เปน็ ต้น นอกจากน้ีการล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เกิดกับผู้หญิงเท่าน้ัน แม้ผู้ชายก็ถูกกระทําได้ แต่ในทน่ี จ้ี ะกล่าวเฉพาะเหตุปัจจัยและแนวทางป้องกันแก้ไขการล่วงละเมิดทางเพศท่ีเกิดขึ้นกับผู้หญิง โดยจะ สรุปสาระสําคัญบางประเด็นท่ี คุณสมชาย เจริญอํานวยสุข ผู้อํานวยการสํานักงานกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ แสดงความเห็นเม่ือเร็วๆ นี้ในรายการเจาะข่าว เช้าน้ี (ช่วงวิเคราะหเ์ จาะลึก) ของสถานี วิทยจุ ุฬา ซง่ึ ดาํ เนนิ รายการโดยดร.ธรี ารตั น์ พันทวี สําหรับเหตุปัจจัยน้ันมีอยู่หลายอย่าง แต่ละอย่างล้วนมีส่วนก่อให้เกิดการกระทําท่ีถือว่าเป็นการล่วง ละเมิดทางเพศ ไมว่ า่ จะเปน็ การทาํ อนาจาร การข่มขนื กระทําชําเรา จนรุนแรงถึงขั้นข่มขืนฆ่า ดังเหตุการณ์ที่ เป็นข่าวครึกโครมไปท่ัวโลกอยู่ในขณะนี้ เหตุโดยพื้นฐานคือ เรื่องค่านิยมทางด้านเพศที่มีทัศนคติว่าผู้ชายมี อํานาจมากกว่าหญิง เพราะผู้หญิงเป็นเพศท่ีอ่อนแอกว่า อยู่ในอาณัติของผู้ชาย จะกระทําอะไรอย่างไรก็ได้ และเมื่อมีเหตุปัจจัยอ่ืนประกอบ ได้แก่ สถานที่เอื้ออํานวย เช่น เป็นที่เปล่ียว แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือ ประจวบกับโอกาส เหมาะ เช่น ผู้หญิงเดินมาคนเดียว หรือมีสิ่งกระตุ้นจนทําให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ซ่ึงท่ี สําคัญคือ สุราและยาเสพติด เป็นตน้ การล่วงละเมิดทางเพศท่ีเกิดข้ึนเป็นจํานวนมากในบ้านเรา เป็นเพราะการลงโทษผู้กระทําผิดเบา เกินไปหรืออย่างไร ประเด็นน้ีคุณอํานวยมีความเห็นว่า โทษท่ีกฎหมายกําหนดเหมาะสมแล้ว เพราะโทษขั้น สูงสุดก็คือ ประหารชีวิต ดังที่ศาลได้ตัดสินให้ประหารชีวิตจําเลยที่ข่มขืนฆ่าเด็กหญิงบนรถไฟ แต่จุดอ่อนใน ขณะนี้ก็คือ กระบวนการที่จะนําผู้กระทําผิดขึ้นมาถึงศาลยุติธรรม เช่น มีการยอมความกันได้หรือไกล่เกลี่ยให้ ยอมรับเงินตอบแทน อย่างไรก็ตาม เรื่องการเพิ่มโทษหรือแก้จุดอ่อนดังกล่าวยังนับว่าเป็นการตั้งรับ ท่ีสําคัญ กว่าคือต้อง เน้นเร่ืองแนวทางการป้องกันไม่ให้มีการกระทําท่ีเป็นการล่วงละเมิดทางเพศเกิดข้ึน ท่ีสําคัญคือ การปรบั ปรงุ แก้ไขพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้มีสถานที่เอ้ืออํานวยต่อการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะพื้นที่ สาธารณะ เชน่ บนรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ ถนนหนทางที่เปล่ียว มืด แสงสว่างไม่เพียงพอ ผู้รับผิดชอบต้อง ดูแลแก้ไข อย่างเช่นเร็วๆ นี้ก็มีการจัดให้มีขบวนรถไฟตู้นอนเฉพาะเด็กและสตรีซ่ึงแม้จะถูกสังคมต่อว่าว่าวัว หายล้อมคอก กถ็ ือวา่ ดกี ว่าไม่ทําอะไร กรุงเทพมหานครกต็ ้องดแู ลถนน สวนสาธารณะ สถานที่เปลี่ยวที่มืดให้มี แสงสว่างเพียงพอ เรื่องสําคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การให้ความรู้เรื่องการป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นต้นว่า ให้รู้ว่าการกระทําอย่างไรเป็นความเส่ียงหรือเป็นการเอ้ืออํานวยต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เช่น เรยี น GAT ถึงแกน่ ต้องเรยี นกับคณุ ครทู วิ ลิปเทา่ น้นั 6
รายการตวิ เขม้ เตมิ เต็มความรู้ ETV PAGE: คณุ ครทู วิ ลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 การไม่รักนวลสงวนตัว การแต่งกายที่ล่อแหลม การแสดงท่าทีกิริยาท่ีไม่เหมาะสมหรือไม่ระมัดระวังท่ีส่อถึง การยัว่ ยุ การเดนิ บนถนนตรอกซอกซอยทีม่ ืดและเปลี่ยว บรเิ วณที่ดินหรอื ตกึ รกร้าง โดยเฉพาะเวลากลางคืน แนวทางการป้องกันทั้งสองประการดังกล่าวนี้จะช่วยลดปัญหาการกระทําทุกอย่างท่ีจัดเป็นการล่วง ละเมดิ ทางเพศลงได้ คุณอํานวยยํ้าในช่วงท้ายว่า ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ต้องเน้นเร่ือง การป้องกัน โดยเร่ิมจากจุดเล็กที่สุดคือครอบครัว ให้มีความรู้ในการป้องกัน ให้ส่ือสารกันระหว่างสมาชิก ครอบครัว ช่วยให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ มีอาชีพ ไม่มียาเสพติดและอบายมุข ชุมชนต้องมี หนว่ ยงานตา่ งๆ จดั การ ให้ความรู้และดูแลใหท้ ุกพ้ืนทีม่ คี วามปลอดภยั ปราศจากปัจจัยเส่ียง ท้ังน้ีมีความมั่นใจ ว่า “ตําบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง” ซ่ึงกําลังพยายามดําเนินการให้เกิดขึ้นให้ได้ 1,000 ตําบล ภายใน ปีงบประมาณ 2558 น้ีจะเป็นกําลังสําคัญในการป้องกันแก้ปัญหาความรุนแรง ซ่ึงรวมถึงปัญหาการล่วงละเมิด ทางเพศด้วย วาดแผนภมู คิ ําตอบ เรยี น GAT ถึงแกน่ ตอ้ งเรยี นกับคณุ ครทู วิ ลปิ เทา่ นั้น 7
รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครทู ิวลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 ตารางสรปุ ข้อความท่ีกําหนดและเลขกาํ กบั บทความที่ 3 และทวี่ ่างสาํ หรับรา่ งรหัสคาํ ตอบ เลขกาํ กับ ขอ้ ความท่ีกําหนด ท่ีวา่ งสาํ หรบั รา่ งรหสั คาํ ตอบ 01 การขม่ ขนื กระทาํ ชําเรา 02 การขม่ ขนื ฆา่ 03 การทาํ อนาจาร 04 การปรับปรุงแกไ้ ขพนื้ ทเ่ี สี่ยง 05 การใหค้ วามรู้เรอื่ งการป้องกนั 06 ความหมายของการล่วงละเมดิ ทางเพศ 07 ทศั นคติวา่ ผชู้ ายมีอาํ นาจมากกว่าหญงิ 08 แนวทางป้องกันแกไ้ ข 09 สถานทเี่ ออื้ อํานวย 10 เหตุปัจจัย เรยี น GAT ถงึ แก่นต้องเรยี นกับคณุ ครทู ิวลิปเทา่ น้นั 8
รายการติวเขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คุณครูทวิ ลปิ บทความท่ี 4 08 2541 4142 08 9594 4445 ความสขุ ของคนอาเซยี น เม่ือไม่นานมานี้ผู้เขียนได้ดูรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเรื่อง ความสุขของคนอาเซียนซึ่งเคย ออกอากาศมาแล้ว รู้สึกแปลกใจว่าทําไมประเทศที่ร่ํารวยท่ีสุดในโลกประเทศหนึ่งคือสิงคโปร์จึงเป็นประเทศท่ี พลเมืองมีความสุขน้อยท่ีสุดในโลก ในขณะที่ประเทศเวียดนาม ซ่ึงประชากรมีรายได้น้อยกว่ามากมายหลาย เท่า จึงมีความสุขมากท่ีสุดเป็นหนึ่งของอาเซียน และเป็นอันดับสองของโลก ทําให้รู้สึกข้องใจจนต้องตามไปดู รายการ ย้อนหลังของไทยพีบีเอส คือรายการ Asean Beyond 2015 ซึ่งออกอากาศครั้งแรกเม่ือปลายเดือน กุมภาพันธ์ ปนี ้ี ความสุขของคนอาเซียน ท่ีจะเล่าสู่กันฟังเป็นข้อสรุปของ The Happy Planet Index (HPI) ซึ่งเป็น องค์กรท่ีสํารวจประชากรโลกแต่ละประเทศว่ามีความสุขมากน้อยเพียงใด ปรากฏว่า 40 อันดับแรกของโลก เปน็ ประเทศในกลุ่มอาเซยี นถงึ 5 ประเทศ คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และลาวโดยอยู่ในอันดับ 2, 14, 20, 24 และ 37 ตามลําดับ แต่ความสุขของคนอาเซยี นท่ีจะกลา่ วในบทความนี้จะไม่ครอบคลุมประเทศ อาเซยี น ทัง้ 10 ประเทศ จะพูดถงึ เฉพาะความสุขของคนสงิ คโปรแ์ ละความสขุ ของคนเวียดนามและคนลาว เกิดอะไรขึ้นกับความสุขของคนสิงคโปร์ ทําไม HPI จึงสรุปว่าประชากรสิงคโปร์มีความสุขน้อยท่ีสุด ชาวสงิ คโปรช์ อื่ เลยี ง เซ เฮียง ซงึ่ เปน็ ชายวัยเกษียณอายจุ ากการทํางาน เจ้าของบล็อกชื่อดังวิจารณ์การทํางาน ของรัฐบาลสิงคโปร์โดยเนน้ ประเดน็ เร่ืองคนยากจนและคนไร้บ้าน และมีชาวสิงคโปร์ติดตามงานเขานับล้านคน ให้สัมภาษณ์ทีมงานผู้จัดทํารายการถึงสถานการณ์ของสิงคโปร์ว่า มีคนทํางานราว 2 ล้านคน แต่คนทํางาน กว่า 460,000 คนมีรายได้ตํ่า คือตํ่ากว่า 1,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน คนทํางานชาวสิงคโปร์มีช่ัวโมง ทํางานต่อสัปดาห์มากที่สุดในโลก คือ 48 ช่ัวโมง ในขณะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงท่ีสุดในโลก เพียง 2 สถานการณ์ก็ลดความสุขของคนสิงคโปรล์ งมากมายอยู่แล้ว แตย่ ังมอี กี สถานการณ์หน่งึ คือ คนสิงคโปร์ กว่าคร่ึงหนึ่งอยู่กับความกลัว ความกลัวท่ีฝังลึกอยู่ในใจก็คือ กลัวว่าหากล้มป่วยลงจะไม่มีเงินพอเสียค่า รักษาพยาบาล เพราะรัฐบาลจะไม่ช่วยเลย กลัวว่าหากเกษียณอายุจากการทํางานจะไม่มีเงินใช้จ่ายจนถึงวัน สุดท้ายของชวี ติ เพราะเงินบาํ นาญเป็นเงินของตวั เองทั้งสิ้น ไม่มเี งินสมทบจากรฐั บาล ตอ้ งภาวนาว่าอย่าให้ ตก งาน อย่าให้เจ็บป่วย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจต้องขายทรัพย์สินขายบ้าน กลายเป็นคนไร้บ้านอยู่อาศัย นอกจากน้ียังกลัวถูกปรับเงิน เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองแห่งการถูกปรับ มีป้ายห้ามกระทําการต่างๆ พร้อมบอก ค่าปรับมากมาย สูงสุดคือ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ถ้าให้อาหารลิง แท็กซ่ีทําผิดกฎจราจรจะถูกปรับครั้งละ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซ่ึงก็คือครึ่งหนึ่งของรายได้แต่ละวัน สถานการณ์แต่ละอย่างที่กล่าวมาน่ีเองบั่นทอน ความสุขของคนสิงคโปร์ และทําให้คนสิงคโปร์มีรอยยิ้มน้อยท่ีสุดในโลก จนรัฐบาลต้องทุ่มเงินจํานวนมากเพื่อ ประชาสมั พนั ธใ์ หผ้ ู้คนยม้ิ ใหก้ ัน เรยี น GAT ถึงแกน่ ต้องเรียนกบั คณุ ครทู ิวลปิ เทา่ นน้ั 9
รายการติวเขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คณุ ครทู ิวลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 ส่วนประเทศเวียดนามและลาวนั้น ถึงแม้จะเป็นประเทศกําลังพัฒนาและมีผลิตภัณฑ์มวลรวมใน ประเทศ หรือ GDP เทยี บไมไ่ ด้เลยกับสิงคโปร์ แต่ผู้คนกลับมีความสุขมากกว่าคนสิงคโปร์ จากการติดตามชีวิต ความ เป็นอยู่ของผู้คน สัมภาษณ์ครูสอนดนตรีและสอนคณิตศาสตร์ชาวเวียดนาม 2 คน และครูสอนวรรณคดี ชาวลาว อีก 1 คนโดยทีมงานผู้ทํารายการ เห็นชัดเจนว่าความสุขของคนเวียดนามและคนลาวมีอยู่ 2 ประการ เป็นอย่างน้อย ท่ีสําคัญคือความสุขจากการได้ทํางานที่ชอบ ครูท้ังสามคนเล่าว่ามีความสุขมากขณะที่สอน นักเรียน ได้เห็น นักเรียนเข้าใจและทําได้ในส่ิงที่สอนก็ยิ่งมีความสุข ครูทั้ง 3 คนยืนยันว่ามีความสุขทั้งๆ ท่ี เงินเดือนค่อนข้างน้อย เมื่อถามว่าทําอย่างไรถึงจะพอค่าใช้จ่าย คําตอบคือครูเวียดนามหารายได้เสริมจากการ สอนพิเศษ ส่วนครูลาวได้ จากการรับทําพิธีสู่ขวัญในโอกาสต่างๆ และลดค่าใช้จ่ายเร่ืองอาหารการกินโดยปลูก ผกั สวนครัวและเล้ยี งไกไ่ ว้กนิ ไข่ สําหรับการดําเนินชีวิตประจําวันของคนทั้งสองประเทศ คนในทีมงานท่ีอยู่ในเมืองใหญ่ๆ อย่าง กรุงเทพฯ บอกว่ารู้สึกอจิ ฉามากเพราะตนเองต้องเร่งรีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เดินทางฝ่าการจราจรอันคับ คัง่ นานนบั ชวั่ โมงกว่าจะถงึ ทที่ าํ งาน ตรงข้ามกับครลู าวท่านนัน้ พอต่นื เช้าก็นงึ่ ขา้ วเหนียว เดินตามสบายกับลูก สาว ออกจากบ้านซ่ึงอยู่ในซอยเล็กๆ มารอตักบาตรท่ีริมถนน ขอรับพรจากพระเสร็จก็เดินกลับบ้าน ช่วย ทํากับข้าว แล้วรับประทานข้าวเช้าร่วมกัน เสร็จแล้วจึงแต่งตัวเดินทางด้วยรถเมล์ไปสอนหนังสือ เม่ือมองโดย ภาพรวมแลว้ สรปุ ไดว้ า่ ความสขุ จากการใช้ชีวติ ทเี่ รยี บงา่ ย คอื ความสุขอกี ประการหน่ึงของคนเวียดนามและ คนลาว หวังว่าผู้มีโอกาสได้อ่านบทความน้ีคงได้ข้อคิดบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเรื่องการดําเนินชีวิตให้มีความสุขโดยไม่ต้องพึ่งพาวัตถุและปัจจัยภายนอกมากนัก หากท่านสนใจ ผู้เขียนบทความน้ีขอแนะนําให้หาหนังสือท่ีกล่าวถึงเรื่องความสุข ซ่ึงพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เขียน ไว้ หลายเลม่ มาอา่ น แล้วท่านจะรูส้ ึกวา่ มคี วามสุขมากข้นึ วาดแผนภูมิคาํ ตอบ เรยี น GAT ถงึ แก่นตอ้ งเรยี นกบั คณุ ครทู วิ ลิปเท่าน้ัน 10
รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครทู วิ ลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 ตารางสรปุ ข้อความท่ีกําหนดและเลขกํากบั บทความท่ี 4 และทว่ี า่ งสาํ หรบั รา่ งรหสั คําตอบ เลขกาํ กบั ขอ้ ความท่ีกําหนด รหัสคาํ ตอบ 11 คนทาํ งานกวา่ 460,000 คนมรี ายได้ตาํ่ 12 คนสงิ คโปรก์ วา่ คร่งึ หน่งึ อย่กู บั ความกลัว 13 ความสขุ ของคนเวยี ดนามและคนลาว 14 ความสขุ ของคนสงิ คโปร์ 15 ความสขุ ของคนอาเซียน 16 ความสุขจากการใช้ชีวิตที่เรยี บงา่ ย 17 ความสุขจากการไดท้ าํ งานท่ีชอบ 18 ช่ัวโมงทาํ งานต่อสัปดาหม์ ากทสี่ ดุ ในโลก 19 มรี อยยมิ้ น้อยทส่ี ดุ ในโลก 20 สถานการณ์ของสิงคโปร์ เรยี น GAT ถึงแกน่ ตอ้ งเรยี นกับคณุ ครทู ิวลปิ เท่านั้น 11
รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครูทวิ ลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 บทความท่ี 5 พษิ ภัยของการบรโิ ภคอาหารรสเค็ม ผู้ท่ีสนใจดูแลรักษาสุขภาพตนเองคงสังเกตเห็นว่าในสื่อหลายแหล่งท้ังส่ือหลักและส่ือออนไลน์ได้ให้ ความรู้เร่ืองการบริโภคอาหารรสเค็มซึ่งมีโซเดียมสูงว่าทําให้เกิดโรคได้หลายโรคขณะเขียนบทความนี้ส่ือของ เครือขา่ ยลดบริโภคเค็มกําลังเสนอใหเ้ ก็บภาษีความเค็มจากอาหารเคร่ืองดื่มขนมขบเคี้ยว ฯลฯ ท่ีมีความเค็มสูง และกรมสรรพสามติ ก็กําลงั พิจารณาวา่ จะเก็บภาษีความเคม็ หรอื ไมอ่ ย่างไร แหล่งโซเดียมสําคัญท่ีสุดท่ีเข้าสู่ร่างกายด้วยการบริโภคก็คือเกลือองค์การอนามัยโลกแนะนําให้กิน โซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งเทียบได้กับเกลือ 5 กรัมหรือประมาณ 1 ช้อนชาต่อวันจากผลการ สํารวจของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลรวมทั้งข้อมูลจากสํานักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าคนไทยส่วนใหญ่ได้รับโซเดียมเกินกว่าสองเท่าของ ปริมาณทคี่ วรได้รบั โซเดยี มเป็นแร่ธาตทุ ่ีมีความจําเป็นต่อรา่ งกายมบี ทบาทสําคัญในการควบคุมความสมดุลของ ความเปน็ กรดดา่ งและปริมาณน้ําในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในภาวะปกติโซเดียมส่วนใหญ่จะอยู่ในน้ําส่วนท่ีอยู่ นอกเซลลแ์ ละในเลือดสว่ นทีเ่ รียกว่าพลาสมาเมือ่ รา่ งกายได้รบั โซเดียมมากเกินไปก็จะดึงนํ้าออกจากเซลล์มาค่ัง อยู่นอกเซลล์และคั่งในหลอดเลือดทําให้เกิดการค่ังของน้ําและโซเดียมในอวัยวะต่าง ๆ นอกจากนี้ใตก็ต้อง ทํางานหนักมากขึ้นในการขับโซเดียมออกจากร่างกายดังนั้นการบริโภคอาหารรสเค็มจัดจึงทําให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ ท่สี ําคัญคอื ความดันโลหิตสงู โรคหวั ใจขาดเลอื ด โรคหลอดเลอื ดสมอง และโรคไต เปน็ ตน้ ในการประชุมพิจารณามาตรการการควบคุมโซเดียมในอาหารเม่ือวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 โดย เครือข่ายลดบริโภคเค็มสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพสํานักงานคณะกรรมการอาหารและ ยาและองค์การอนามัยโลกมีข้อมูลว่าคนไทยป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 21.4 หรือ 11.5 ล้านคน โรคไตร้อยละ 17.5 หรือ 7.6 ล้านคน โรคหัวใจขาดเลือด ร้อยละ 1.4 หรือ 0.75 ล้านคน โรคหลอดเลือด สมองร้อยละ 1.1 หรอื 0.5 ลา้ นคน โดยโรคกลุ่มนเ้ี กดิ จากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้องของประชาชนที่ชื่น ชอบอาหารรสชาติเค็มซงึ่ เปน็ อาหารท่ีมีเกลือหรอื โซเดยี มสูง เรยี น GAT ถึงแก่นตอ้ งเรยี นกับคณุ ครทู วิ ลปิ เทา่ น้ัน 12
รายการตวิ เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คุณครูทิวลปิ 08 2541 4142 08 9594 4445 เมอื่ ทราบถงึ พษิ ภยั ของการบริโภคอาหารรสเค็มก็ควรหันมาใส่ใจเร่ืองอาหารการกินมากขึ้นจากข้อมูล ของกองโภชนาการกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขพบว่าผลิตภณั ฑ์เคร่ืองปรุงรสที่ครัวเรือนคนไทยนิยมใช้กัน มาก 5 ลําดับแรกคือนํ้าปลาซีอ๊ิวขาวเกลือกะปิและซอสหอยนางรมน้ันล้วน แต่มีโซเดียมสูงเช่นเกลือ 1 ช้อน โต๊ะมีโซเดียม 6,000 มิลลิกรัมนํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะมีโซเดียม 1,160-1,420 มิลลิกรัมซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะมี โซเดียม 1,150 มิลลิกรัมกะปิ 1 ช้อนโต๊ะมีโซเดียม 1,430-1,490 มิลลิกรัมซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะมี โซเดียม 420-490 มลิ ลิกรัมนอกจากนี้ยังพบวา่ พฤติกรรมการบริโภคอาหารม้ือหลักของคนไทยมากกว่าร้อยละ 30 จะซื้อกินนอกบ้านท้ัง 3 มื้อโดยเฉพาะกลุ่มที่ทํางานหรือใช้ชีวิตนอกบ้านเช่นข้าราชการนักเรียนนิสิต นักศึกษาพนักงานรัฐวิสาหกิจและลูกจ้างทั่วไปและมากกว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มท่ีอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลซื้อ อาหารกลางวันนอกบ้านอาหารท่ีรับประทานบ่อยในแต่ละวัน ได้แก่ ข้าวราดแกงก๋วยเต๋ียวอาหารจานเดียว และอาหารตามสัง่ ขณะนี้องค์กรหลายแห่งท้ังภาครัฐและเอกชน ได้ทําการรณรงค์ให้ลดการบริโภคเค็มกันอย่าง กว้างขวาง ทําให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารในหมู่ประชาชนจํานวนไม่น้อย ได้แก่ ปรับเปล่ียนนิสัยให้กินอาหารจืดลง รับประทานอาหารสดตามธรรมชาติ ชิมอาหารก่อนเติมเครื่องปรุงรสปรุง อาหารโดยเติมเกลือ น้ําปลา หรือซอสปรุงรสต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด เพ่ือให้คุ้นเคยกับอาหารรสจืด หลีกเล่ียง อาหารเค็ม เช่น ปลาเค็ม หมูเค็ม เนื้อเค็ม เบคอน ไส้กรอก ลดหรือเลิกการใส่ผงชูรสในอาหารเพราะผงชูรสก็ คือโมโนโซเดียมกลูตาเมต หากใส่มากและบ่อยเกินไปร่างกายจะได้รับโซเดียมมาก ไม่กินอาหารสําเร็จรูปและ กงึ่ สาํ เร็จรูปทมี่ เี กลือปรมิ าณมาก การรณรงค์ให้ลดการบริโภคเค็มของภาคส่วนต่าง ๆ นอกจากทําให้พฤติกรรมการกินอาหารเค็ม เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าวยังทําให้อาหารหลายอย่างมีการปรับปรุงสูตร ตัวอย่างเช่น ซอสปรุงรสลดโซเดียม นํ้าปลาสูตรโซเดียมตํ่า น้ํามะเขือเทศดอยคําสูตรโซเดียมตํ่า ปลาร้าลดโซเดียม นอกจากน้ียังมีการรณรงค์ให้ ร่วมกันลงชื่อเพื่อร้องเรียนต่อสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ออกมาตรการลดปริมาณโซเดียมลง ร้อยละ 10 ในผงปรงุ รสของบะหมี่ก่ึงสําเร็จรูปทุกย่ีห้อภายในปี พ.ศ. 2562 เน่ืองจากบะหม่ีกึ่งสําเร็จรูปซึ่งเป็น อาหารใกล้ตัวและเป็นท่ีนิยมอย่างมากนั้น ในแต่ละซองประกอบด้วยผงปรุงรสที่มีปริมาณโซเดียมเฉล่ียถึง 1,500-2,000 มิลลิกรัมซ่ึงเกอื บเท่าหรือเทา่ กบั ปริมาณทัง้ หมดทค่ี วรบรโิ ภคในแตล่ ะวนั ขณะเขียนบทความนี้มีผู้ ร่วมลงชอื่ แลว้ กว่า 23,000 คน พฤติกรรมการกินอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งอาหารสูตรโซเดียมต่ําหรือสูตรลดโซเดียมดัง ตัวอย่างท่ีกล่าวมา จะสามารถป้องกันหรือลดโรคท้ังหลายที่เกิดจากการบริโภคอาหารรสเค็มได้ ดังน้ัน นักเรียน นิสิตนักศึกษาซ่ึงจะเป็นกําลังสําคัญในการพัฒนาประเทศชาติ จึงควรปฏิบัติตนให้ถูกต้องในการ บรโิ ภคอาหาร ทง้ั นีน้ อกจากลดเค็ม ยงั ตอ้ งลดหวาน ลดมันและควรให้ความรู้แก่พ่อแม่ตลอดจนญาตพิ ่นี อ้ งและ เพ่ือนฝูงดว้ ย เรยี น GAT ถงึ แก่นต้องเรยี นกับคณุ ครทู วิ ลิปเทา่ นั้น 13
รายการตวิ เขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครทู วิ ลปิ วาดแผนภมู ิคาํ ตอบ 08 2541 4142 08 9594 4445 ตารางสรปุ ข้อความท่ีกําหนดและเลขกํากบั บทความที่ 5 และที่ว่างสาํ หรับรา่ งรหสั คาํ ตอบ เลขกาํ กบั ข้อความที่กาํ หนด ท่วี า่ งสาํ หรบั รา่ งรหสั คาํ ตอบ 01 การบรโิ ภคอาหารรสเค็ม 02 การรณรงคใ์ หล้ ดการบริโภคเคม็ 03 ความดันโลหติ สงู 04 นํ้าปลาสูตรโซเดียมตํา่ 05 ปรับเปลย่ี นนสิ ยั ให้กินอาหารจืดลง 06 ปลาร้าลดโซเดยี ม 07 โรคไต 08 โรคหัวใจขาดเลือด 09 หลีกเลย่ี งอาหารเคม็ 10 อาหารหลายอยา่ งมกี ารปรบั ปรงุ สตู ร เรยี น GAT ถงึ แกน่ ตอ้ งเรยี นกบั คณุ ครทู วิ ลปิ เทา่ นนั้ 14
รายการตวิ เขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คณุ ครูทิวลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 บทความท่ี 6 ธนาคารปูม้า ช่วงหยุดยาวเสาร์อาทิตย์ต่อเนื่องวันรัฐธรรมนูญ เพ่ือนชวนผู้เขียนไปเที่ยวระยองและจันทบุรีขณะน่ัง กนิ ปูม้านงึ่ ทีแ่ สนอรอ่ ย เพื่อนเล่าใหฟ้ ังว่าเดี๋ยวน้ีมีปูม้ากินตลอดท้ังปีเพราะมีธนาคารปูม้า ด้วยความสนใจจึงหา ข้อมูลเพิ่มเติมจนได้ความรู้เรื่องธนาคารปูม้าจากส่ือหลายรายการมาเล่าสู่กันฟัง เช่น จากรายการเดินหน้า ประเทศไทย กบนอกกะลา และรายการไปตามฝนั ปัจจุบันมีธนาคารปูม้าอยู่หลายร้อยแห่งตามจังหวัดที่อยู่ริมทะเล ตัวอย่างท่ีจะกล่าวในบทความนี้เป็น กิจกรรมของธนาคารปูม้า ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนในพระราชดําริซึ่ง ตั้งอย่ทู ต่ี ําบลคลองขุด อําเภอทา่ ใหม่ จงั หวดั จันทบุรี หลายปีก่อนหน้านี้จํานวนปูม้าในทะเลลดลงอย่างมาก ชาวประมงต้องออกเรือไปไกลกว่าเดิมเพื่อจับ ปลามาทดแทน บ้างก็เลิกทําประมงไปหางานอ่ืนทํา สาเหตุท่ีทําให้จํานวนม้าลดลงมีหลายประการ ท่ีสําคัญ คือจับปูม้าจํานวนมากเกินไป โดยทั่วไปชาวประมงชายฝั่งจะใช้ลอบสําหรับดักปูวางไว้หลาย ๆ จุดในทะเล หรือจบั ปโู ดยใช้อวนขนาดเลก็ แตเ่ ม่อื ปมู า้ เป็นทนี่ ิยมและราคาสูงขึ้นก็จับปูกันอย่างมากมายโดยใช้เคร่ืองมือทํา ประมงทกุ รปู แบบ บางท้องทเ่ี จออวนลากอวนรุนของเรือประมงขนาดใหญ่ชาวประมงชายฝ่ังก็แทบหมดทางทํา มาหากิน เมื่อจบั ปูกนั มากเช่นน้ีการขยายพันธ์ุตามธรรมชาติก็ย่อมไม่ทันกับจํานวนท่ีถูกจับไป นอกจากจะจับปู ไปเป็นจาํ นวนมาก ยงั มสี าเหตุสําคญั อกี ประการหนง่ึ คือ ตัดวงจรการขยายพันธุ์ของปมู า้ เนือ่ งจากชาวประมง ไม่ไดแ้ ยกแยะวา่ ปทู ่ีจบั ได้นั้นมขี นาดเล็กเกนิ ไปหรอื ไม่ หรอื วา่ เป็นปูไข่ทกี่ ําลังจะขยายพนั ธุ์ ในปัจจุบันชุมชนชาวประมงพ้ืนบ้านได้ช่วยกันแก้ปัญหาอย่างเข้มแข็ง โดยได้กําหนดกติการ่วมกันว่า จะไม่จับปูกันอย่างไม่บันยะบันยัง จะช่วยกันดูแลไม่ให้เรือประมงขนาดใหญ่ท่ีใช้อวนลากหรืออวนรุนซ่ึงผิด กฎหมายเข้ามาจับสัตว์นํ้าในเขตประมงชายฝ่ัง ตาข่ายของอวนหรือลอบท่ีใช้จับปูจะต้องมีตาขนาดใหญ่เพ่ือ ไม่ให้ติดปูที่มีขนาดเล็ก และหากมีปูขนาดเล็กติดมาในอวนหรือในลอบดักปูก็จะปล่อยลงทะเลเพื่อให้มีโอกาส เติบโตและขยายพันธ์ุ ตัวอย่างเช่น ชาวประมงพื้นบ้านตกลงกันว่าถ้าปูที่มีขนาดตํ่ากว่า 8 เซนติเมตรจะปล่อย กลับสู่ทะเล และปีต่อไปจะเพิ่มเป็น 10 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงที่สําคัญคือ หากจับได้ปูไข่ท่ีมีไข่ ออกมาอยู่นอกกระดองก็จะรวบรวมไข่ปูไปส่งให้ธนาคารปูม้าเพ่ือทําการเพาะพันธ์ุปูม้าต่อไป ความร่วมมือ ของชุมชนชาวประมงดังกล่าวนี่เอง ที่ทําให้สามารถแก้ไขปัญหาท่ีเป็นสาเหตุทั้งสองประการท่ีทําให้จํานวนปู ม้าลดลงได้เปน็ อย่างดี และทําใหป้ ูม้าในทะเลมีจํานวนเพ่ิมขึน้ เรียน GAT ถึงแก่นตอ้ งเรียนกับคณุ ครทู วิ ลปิ เท่าน้ัน 15
รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ ETV PAGE: คุณครูทวิ ลิป 08 2541 4142 08 9594 4445 งานของศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ มหี ลายอยา่ ง กจิ กรรมของธนาคารปมู ้าเปน็ งานส่วน หนึง่ ของศนู ยน์ โ้ี ดยมีกลมุ่ ชาวประมงพ้ืนบา้ นบริเวณหาดเจ้าหลาว อําเภอท่าใหม่ และตําบลสนามชัย อําเภอนา ยายอามให้ความร่วมมือ เมอื่ ชาวประมงจับปูมาได้ก็จะแยกปูม้าที่มีไข่ติดอยู่นอกกระดองออกมา ชาวประมง จะใช้แปรงขนนิ่มชว่ ยกนั เข่ียไขป่ ลู งไปในถงั นาํ้ แลว้ รวบรวมไปส่งให้ธนาคารปูม้า หลังจากน้ันจะเทไข่ปูลงไปใน ถังเพาะฟกั ซง่ึ มีอยูห่ ลายถงั เชอื่ มตอ่ กันและมีระบบเติมนํ้าหมุนเวยี น เมื่อไข่ปฟู ักเปน็ ตวั ลกู ปูจะว่ายนํ้าข้ึนมาหา แสงท่ีด้านบนซ่ึงมีท่อน้ําล้นให้ลูกปูไหลลงไปในสวิง แล้วรวบรวมลูกปูใส่ถังน้ําเพ่ือนําไปปล่อยในแหล่งนํ้าท่ี เหมาะสม ธนาคารปูม้ามีข้อมูลว่า ปูไข่นอกกระดองหนึ่งตัวจะมีไข่ประมาณ 300,000 ถึง 700,000 ฟอง จะ เหลือรอดได้เป็นปูประมาณร้อยละ 1 คือ ประมาณ 3,000-7,000 ตัวซึ่งนับว่าเป็นจํานวนมากทีเดียว ดังนั้น กจิ กรรมของธนาคารปูม้าจึงมีสว่ นสาํ คัญทีท่ ําให้ปมู ้าในทะเลมจี ํานวนเพ่มิ ข้นึ นอกจากการดาํ เนนิ กจิ กรรมของธนาคารปมู า้ ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาอา่ วคุง้ กระเบนฯ ยงั ไดด้ ําเนินงาน อีกหลายอย่างท่ีเป็นการพัฒนา อนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และจัดการทรัพยากรชายฝ่ังทะเลบริเวณพ้ืนท่ีอ่าวคุ้งกระเบน และพื้นที่ใกล้เคียงให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์ ดังน้ันงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนา อ่าวคุ้งกระเบนฯ จึงสามารถแก้ไขหรือลดปัญหาอีกสองประการท่ีเป็นสาเหตุที่ทําให้จํานวนปูม้าลดลง ประการแรกคือแก้ปัญหาการบุกรุกทําลายป่าชายเลนซ่ึงเป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อนของสัตว์ทะเลท้ังหลาย รวมท้ังปูม้า และอีกประการหน่ึงคือแก้ปัญหาแหล่งน้ําบริเวณป่าชายเลนเน่าเสียซึ่งทําให้ตัวอ่อนของสัตว์ ทะเลเติบโตได้ยากหรือตายไป ดังน้ันงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ๆ ท่ีนอกเหนือจากงาน ธนาคารปมู ้า จึงเป็นเหตุปัจจยั ทสี่ ําคญั อกี ประการหนง่ึ ทท่ี าํ ให้ปูมา้ ในทะเลมจี ํานวนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันชาวประมงมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นเนื่องจากปูม้าในทะเลมีจํานวนเพ่ิมข้ึน นอกจากจะมี รายได้เพ่ิมข้ึนจากการขายปู ครอบครัวของชาวประมงยังมีงานทําท่ีสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยจากการต้มหรื อนึง่ ปูและแกะเนอื้ ปขู ายใหน้ ักทอ่ งเทีย่ วรับประทาน งานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนในพระราชดําริ ได้ช่วยแก้ปัญหาและเพ่ิมจํานวนปูม้า อย่างมีประสิทธิผล เป็นต้นแบบของธนาคารปูม้าในท้องท่ีต่าง ๆ และช่วยให้ทรัพยากรจากท้องทะเลคืนความ อดุ มสมบรู ณ์ นับเป็นพระมหากรณุ าธคิ ุณหาทสี่ ุดมิได้ เรียน GAT ถงึ แกน่ ต้องเรยี นกบั คณุ ครทู ิวลปิ เทา่ นน้ั 16
รายการตวิ เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ ETV PAGE: คุณครูทวิ ลิป วาดแผนภมู คิ ําตอบ 08 2541 4142 08 9594 4445 ตารางสรปุ ข้อความทีก่ ําหนดและเลขกํากบั บทความท่ี 6 และที่ว่างสาํ หรับรา่ งรหสั คาํ ตอบ เลขกาํ กับ ข้อความท่ีกาํ หนด รหสั คาํ ตอบ 11 การบกุ รุกทําลายปา่ ชายเลน 12 กจิ กรรมของธนาคารปูมา้ 13 ความร่วมมือของชุมชนชาวประมง 14 งานของศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาอ่าวคงุ้ กระเบนฯ 15 จับปมู ้าจํานวนมากเกินไป 16 ชาวประมงมีฐานะความเปน็ อยดู่ ีขนึ้ 17 ตัดวงจรการขยายพันธุข์ องปูม้า 18 ปูมา้ ในทะเลมีจํานวนเพ่มิ ขน้ึ 19 สาเหตุทท่ี ําให้จาํ นวนปูมา้ ลดลง 20 แหล่งนํ้าบรเิ วณปา่ ชายเลนเน่าเสีย เรยี น GAT ถึงแกน่ ตอ้ งเรียนกบั คณุ ครทู วิ ลิปเทา่ น้นั 17
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: