วิชาชวี วทิ ยา อาจารยอ ำพล ขวญั พกั (ครกู าแฟ)
ชีววิทยา ครกู าแฟ ติวเขม้ เติมเต็มความรู้ ชีววิทยา ครกู าแฟ ชีวะ คือ วิทย์ และกเ็ หมือนความรใู้ นศาสตรอ์ ืน ๆ นนั แหละ ธรรมชาติของวิชานีคือ………………………….. 1) PDCA CYCLE 2) เป้ าหมายชดั เจน 3) เวลา คือ สงิ ทีใหค้ วามยตุ ิธรรมกบั ทกุ คน 4) Mind Map คือ กระดาษทด อยา่ เครียด 3C 5) เคยอา่ นสารบญั กนั ไหมเอ่ย 6) มาหมนุ วงลอ้ ฉนั ทําไดก้ นั ดีกว่า Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ ชดุ ที 1 ชีวะ…ลา่ สดุ 1. พืช A และ B เจริญเติบโตในสภาพแวดลอมท่ีตางกัน คือ ทะเลทรายและปาดิบช้ืน โดยพืชแตละชนิด มี ลักษณะใบตา งกัน ดงั นี้ พชื A ใบมกี ารลดรูปใหมีขนาดเล็ก มสี ารเคลอื บทีผ่ ิวใบหนา และมจี าํ นวนปากใบนอ ย พืช B ใบมีขนาดใหญ มสี ารเคลือบทผี่ วิ ใบบาง และมีจํานวนปากใบมาก ผลการศึกษาอัตราการคายน้ํา ของพืช 2 ชนดิ ในชวงเวลาหน่ึง เปนดงั กราฟ จากขอมูล ขอ ใดระบุกราฟแสดงอัตราการคายน้ําของพืชและลกั ษณะพนื้ ทที่ เ่ี หมาะสม ตอ การเจรญิ เติบโตของพืช ดังกลา วไดถูกตอ ง 1. กราฟท่ี 1 แสดงอตั ราการคายนํ้าของพืช A ซึ่งเจริญไดด ใี นพืน้ ที่ทะเลทราย 2. กราฟที่ 1 แสดงอตั ราการคายนํา้ ของพชื B ซ่งึ เจรญิ ไดดใี นพน้ื ท่ที ะเลทราย 3. กราฟที่ 2 แสดงอัตราการคายน้ําของพืช A ซงึ่ เจรญิ ไดด ีในพนื้ ที่ทะเลทราย 4. กราฟท่ี 2 แสดงอตั ราการคายนาํ้ ของพชื A ซึง่ เจริญไดดีในพน้ื ที่ปาดิบชื้น 5. กราฟท่ี 2 แสดงอัตราการคายน้าํ ของพืช B ซึ่งเจรญิ ไดดใี นพืน้ ท่ปี า ดิบชนื้ Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 2. นักเรยี นจดั ชดุ การทดลอง 5 ชุด โดยใชก่งิ ไมท ี่มีอายเุ ทากันจากตนเดยี วกนั เด็ดใบในชุดการทดลองท่ี 3 และ 5 ออกบางสวน จากนั้นแชกิ่งไมในหลอดทดลองท่ีมีนา้ํ 32 มิลลิลิตร และมีน้าํ มันพืช 3 มิลลิลิตร เททับอยู แลวตงั้ ไวในสภาวะทแี่ ตกตา งกนั ดงั ภาพ ชดุ ที่ 1 ชดุ ที่ 2 ชดุ ท่ี 3 ชุดท่ี 4 ชุดที่ 5 ความเขมแสงมาก ความเขม แสงนอ ย ความเขมแสงมาก ความเขม แสงมาก ความเขมแสงมาก ความชืน้ สมั พทั ธมาก ความชื้นสัมพทั ธม าก ความช้ืนสัมพทั ธนอย ความชืน้ สมั พทั ธนอย ความชนื้ สมั พัทธม าก เม่ือเวลาผา นไป 30 นาที พบวา มปี รมิ าณน้ําคงเหลือในหลอดทดลอง ดงั ตาราง ชดุ การทดลองที่ ปริมาณนาํ้ คงเหลือในหลอดทดลอง (mL) 1 15 2 20 3 25 4 10 5 30 Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ ขอ ใดเลอื กชุดการทดลองเพอื่ ศึกษาปจจัยท่ีเกี่ยวของกับการคายน้ําและเปรียบเทยี บ อัตราการคายนํ้าไดถูกตอ ง ชดุ การทดลองทใ่ี ช ปจจยั ทีต่ อ งการศึกษา ผลการเปรียบเทยี บอตั ราการคายนา้ํ 1. 1 และ 2 ความเขมแสง ชุดการทดลองที่ 2 มอี ตั ราการคายนํ้า มากกวา ชุด การทดลองที่ 1 2. 1 และ 4 ความชนื้ สัมพัทธ ชดุ การทดลองที่ 4 มีอตั ราการคายน้ํา มากกวา ชุด การทดลองที่ 1 3. 2 และ 4 จํานวนใบ ชดุ การทดลองที่ 4 มีอัตราการคายนํ้า มากกวา ชุด การทดลองที่ 2 4 3 และ 4 จํานวนใบ ชุดการทดลองท่ี 3 มอี ตั ราการคายนํ้า มากกวา ชุด การทดลองที่ 4 5. 3 และ 5 ความเขม แสง ชดุ การทดลองที่ 5 มอี ตั ราการคายนํ้า มากกวา ชุด การทดลองท่ี 3 3. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากดับออ นสราง “ฮอรโ มนอินซูลนิ ” ไดนอ ยหรอื สรางไมไดเลย ซ่ึงฮอรโมนชนิดนี้ ทําหนา ทชี่ ว ยใหร างกายสลายนํ้าตาลมาใชเปน พลงั งาน เมื่ออนิ ซูลินในรางกายไมเพียงพอ รางกายไมสามารถนํา นาํ้ ตาลในเลือดไปใชไ ด ทาํ ใหป รมิ าณนํ้าตาลในเลือดสูง รางกายจะปรับตัวไปใชพลังงานจากการสลายสารอาหาร อื่น เชน ไขมนั หรือ โปรตนี ซึ่งกอใหเกิดการสะสมของของเสียทเ่ี ปนอนั ตรายในเลือด น้าํ ตาลและของเสียปริมาณ มากทาํ ใหเ ลือดของผปู วยโรคเบาหวานมคี วามเขม ขน สูง รางกายจึงตองขับนาํ้ ตาลและของเสยี ผา นทางปส สาวะ ทาํ ใหผ ปู ว ยโรคเบาหวานปส สาวะบอ ยในปริมาณมากและรสู กึ กระหายนา้ํ ขอใดไมใชส าเหตทุ ่ีทําใหผปู ว ยโรคเบาหวานปสสาวะบอ ย ในปริมาณมาก 1. นาํ้ จะออสโมซสิ จากเซลลม าสเู ลอื ด 2. รา งกายกําจดั น้าํ ตาลทม่ี ีมากเกนิ ในเลอื ด 3. รา งกายกาํ จดั ของเสยี ท่ีเปน อันตรายในเลอื ด 4. ตอ มใตสมองหล่งั ฮอรโมนเขาสูกระแสเลือดไปกระตนุ ทอ หนว ยไต 5. ของเหลวที่ผา นทอหนว ยไตมีปรมิ าณนํา้ ตาลมาก นา้ํ จึงถกู ดูดกลับไดนอย Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 4.โรคลมแดด เกิดจากการที่รา งกายอยูกลางแจง แดดรอนจัดเปนเวลานาน รางกายจึงปรับสมดุลอุณหภมู ิไมท นั ทําใหรา งกายมีอณุ หภมู ิสงู ถงึ 40 - 41 องศาเซลเซียส โดยอาการของผูปว ยทเ่ี ปน โรคลมแดด คือ มีอาการเปน ลม เพอ หมดสติ และอาจเสียชีวติ ได ขอใดกลา วถงึ วธิ กี ารทส่ี ามารถปอ งกนั โรคลมแดดไดถ กู ตอ ง 1. รับประทานยาทกี่ ระตนุ ใหห ลอดเลือดหดตวั 2. ดืม่ นํ้าในปรมิ าณมากเพอื่ ใหเ ลือดเขมขนมาก และมคี วามดันเลอื ดตาํ่ 3. รบั ประทานอาหารปริมาณมากเพือ่ เพิ่มการเผาผลาญอาหารในรา งกาย 4. สวมใสเสื้อผา ที่เบาบางเพอ่ื เพ่ิมการระเหยของเหงื่อและการพาความรอ น 5. ใชผ า เยน็ ประคบสว นตา ง ๆ ของรา งกาย เพ่อื กระตุนอตั ราเมแทบอลซิ มึ ใหเพ่มิ ข้ึน 5.ผปู ว ยรายหนง่ึ มีความผิดปกตขิ องระบบภมู ิคมุ กัน โดยแพทยวนิ จิ ฉยั วา ผปู วยรายนีม้ คี วามผดิ ปกตทิ ีเ่ ซลลเม็ด เลือดขาวชนิดฟาโกไซตแ ละเซลลท ี ตอมาเม่อื ผูปว ยรายนไ้ี ดร บั วัคซีน พบวา ไมสามารถสรา งภูมคิ ุมกันตอ โรคน้นั ได เพราะเหตใุ ดผูปว ยรายนจี้ งึ ไมส ามารถสรา งภมู คิ มุ กันตอ โรคน้ันได 1. เซลลเมด็ เลอื ดขาวชนดิ ฟาโกไซตไมสามารถจับกบั แอนติบอดีได 2. เซลลเ ม็ดเลอื ดขาวชนดิ เซลลท ี่ไมสามารถสง สญั ญาณใหเซลลบแี บง เซลลได 3. เซลลเมด็ เลอื ดขาวชนิดฟาโกไซตไ มสามารถพฒั นาไปเปน เซลลพ ลาสมาได 4. เซลลเ ม็ดเลือดขาวชนดิ เซลลท่ไี มสามารถสรา งแอนตบิ อดที จี่ าํ เพาะกับแอนติเจนได 5. เซลลเม็ดเลือดขาวชนิดเซลลท ไ่ี มส ามารถกระตุน ใหเ ซลลม จี ดจาํ และจาํ แนกแอนติเจนได 6. ขอใดคอื กลไกของรา งกายทที่ าํ ใหเ กิดโรคภมู แิ พ 1. สรา งแอนติเจนเพือ่ ไปจบั แอนตบิ อดี 2. สรา งแอนตบิ อดีเพอื่ ยับยงั้ การสรา งภมู คิ มุ กนั 3. สรา งสารฮิสตามนิ ออกมาเมือ่ ไดรบั สารกอภมู แิ พ 4. สรา งแอนติฮิสตามินเพ่อื กระตุนใหเกิดอาการแพ 5. สรา งเซลลเ มด็ เลอื ดขาวชนดิ ฟาโกไซตใหสรา งแอนตบิ อดี Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 7. โรคฮโี มฟเ ลยี เปนโรคทางพันธุกรรมท่ถี ูกควบคมุ โดยยนื บนโครโมโซมเพศ เพดดิกรีแสดงการถายทอดลักษณะโรคฮโี มฟเลียของครอบครวั หนึ่ง เปนดังแผนภาพ กาํ หนดให ผชู ายปกติ ผูหญงิ ปกติ ผูชายเปน โรคฮีโมฟเ ลยี ผูหญงิ เปนโรคฮโี มฟเลีย จากขอ มูล บคุ คลใดท่ไี มส ามารถสรปุ ไดวา เปน พาหะของโรคฮโี มฟเลีย 1. รุนท่ี I คนที่ 2 2. รุนที่ II คนที่ 3 3. รุนท่ี II คนที่ 4 4. รนุ ที่ III คนท่ี 1 5. รุนท่ี III คนที่ 5 Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 8. สีขนของสัตวช นิดหนึ่งถูกควบคุมดวยยีน Agouti มีแอลลีล 2 แบบ คือ A และ 2 โดยแอลลีล A ควบคุม ลักษณะขนสเี หลอื งซงึ่ เปนลกั ษณะเดน และแอลลีล 2 ควบคุมลักษณะขนสีดําซึ่งเปนลักษณะดอย เพดดิกรีของ สัตวชนดิ นใ้ี นปา แหง หนึ่ง เปน ดังแผนภาพ กําหนดให และ คอื สัตวท ี่มีขนสเี หลอื ง และ คอื สตั วท ม่ี ขี นสีดํา จากขอ มลู สตั วต ัวใดทีส่ ามารถระบคุ ยู นื ไดแนน อนวาเปน Aa 1. รุน ท่ี I ตวั ที่ 2 2. รนุ ท่ี I ตวั ที่ 4 3. รนุ ที่ II ตวั ที่ 2 4. รนุ ท่ี II ตวั ที่ 4 5. รุน ท่ี III ตัวท่ี 2 Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 9. เหตุการณในขอใดที่พบเฉพาะในการแบง เซลลแ บบไมโอซสิ เทานน้ั 1. การเขา คูกนั ของโครโมโซมคเู หมอื น 2. การจําลองตัวเองของโครโมโซมเปน 2 โครมาทิด 3. การแยกกนั ของโครมาทิดท่ยี ึดติดกนั ไปยงั แตล ะข้วั เซลล 4. การแบงเซลลเ ร่ิมตน จากเซลลทม่ี ีโครโมโซมเทา กับ 2n 5. การแบง เซลลในขั้นตอนสุดทา ยจะไดเซลลทม่ี ีโครโมโซม 2 ชดุ 10. ลายพมิ พด ีเอ็นเอของพอแมสองครอบครวั และลูกสามคน ไดแ ก A B และ C เปนดังภาพ จากขอมูล ขอ ใดระบคุ วามสมั พันธข องครอบครวั ไดถ ูกตอง 1. A กับ C เปนลกู ของครอบครัวที่ 1 และ B เปนลูกของครอบครวั ท่ี 2 2. A กบั C เปนลูกของครอบครวั ท่ี 2 และ B เปนลกู ของครอบครัวท่ี 1 3. A เปนลูกของครอบครัวท่ี 1 และ B กับ C เปน ลกู ของครอบครัวที่ 2 4. A B และ C เปนลูกของครอบครัวท่ี 1 5. A B และ C เปนลกู ของครอบครวั ท่ี 2 Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 11. ขอ ใดกลาวถงึ ความหลากหลายทางชีวภาพไมถกู ตอง 1. การเกิดภยั พิบตั ิจะทําใหค วามหลากหลายทางชีวภาพเปล่ยี นแปลงไป 2. การลา สัตวปาท่ีใกลส ญู พนั ธอุ าจทาํ ใหค วามหลากหลายของสปชสี ลดลง 3. การบุกรกุ พืน้ ทปี่ า ชายเลนของมนษุ ยอาจสง ผลตอส่ิงมชี วี ติ ทีอ่ ยใู นระบบนิเวศอ่นื ดว ย 4. การละลายของธารนํา้ แขง็ จะสงผลตอความหลากหลายของระบบนิเวศเฉพาะแถบขว้ั โลก 5. การดือ้ ยาปฏชิ วี นะของแบคทีเรยี เปนผลจากความหลากหลายทางพันธกุ รรมของแบคทเี รีย 12. หมีน้าํ เปนสัตวน าํ้ ขนาดเลก็ (0.05 - 1.20 มลิ ลเิ มตร) มี 8 ขา โดยปลายขามกี รงเล็บ จงึ มลี กั ษณะคลา ยหมี หมี นํา้ สวนใหญมักอาศัยอยูบนบก ซ่ึงหมีนํา้ บนบกเหลานี้ตองการนาํ้ ในการดํารงชีวิต จึงอาศัยอยูตามมอส ไลเคน ดิน และกองเศษใบไม รวมไปถึงบนพืชอิงอาศัย โดยหมีนํ้าบนบก มีความทนทานมาก สามารถอยูรอดไดใน สภาพแวดลอมทไี่ มเ อ้อื ตอ การดํารงชวี ติ ในขณะท่ีหมีนา้ํ ท่อี าศัยอยใู นทะเล ซึง่ เปนกลมุ ที่เกา แกและโบราณทสี่ ดุ ไม สามารถทนทานตอ สภาพแวดลอ มเชน นไี้ ด ขอ ความใดตอไปนี้สอดคลองกบั ทฤษฎกี ารคัดเลือกตามธรรมชาตมิ ากท่ีสดุ 1. หมีน้าํ บนบกมีลําตัวขนาดเลก็ 2. หมีนาํ้ บนบกสามารถพรางตัวไดดี 3. หมีนาํ้ บนบกสามารถซอมแซมรา งกายไดดี 4. หมนี ้ําบนบกสามารถกนิ อาหารไดห ลากหลาย 5. หมนี ํ้าบนบกสามารถอยรู อดจนมีลูกรนุ ถดั ไปได Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 13. แพลงกต อนบลมู คือ ปรากฏการณทแี่ พลงกต อนพชื มีการเจริญเติบโตและเพ่ิมจํานวนอยา งรวดเร็ว เน่ืองจาก ในน้ํามีธาตอุ าหารสูงและมีสภาวะท่ีเหมาะสมกับการเจริญของแพลงกตอนพืช จึงมองเห็นน้ําเปนสีตาง ๆ ซ่ึง แพลงกต อนพชื ทม่ี ีจํานวนมากจะบดบงั แสงอาทิตย จงึ สง ผลกระทบตอการสังเคราะหด ว ยแสงของสงิ่ มชี วี ติ ใตน าํ้ อนื่ ๆ แมว า แพลงกตอนพืชจะสามารถใหแ กส ออกซเิ จน จากการสงั เคราะหด วยแสงได แตเมื่อปรมิ าณธาตอุ าหารในนาํ้ หมดลงแพลงกต อนพชื จํานวนมากนีจ้ ะตาย จึงถกู ยอยสลายดว ยจลุ นิ ทรยี ซึ่งตองใชแ กสออกซิเจนปริมาณมาก ทํา ใหปรมิ าณแกสออกซิเจนในน้ําลดลง ระบบนเิ วศแหลง น้าํ แหงหน่งึ มีสายใยอาหารเปน ดงั แผนภาพ ถาระบบนเิ วศแหลง นา้ํ แหง นี้เกิดแพลงกตอนบลูม จะสงผลตอ องคป ระกอบของระบบนเิ วศนีอ้ ยางไร 1. อาหารของแพลงกดอนสตั วจะลดลง 2. จํานวนของสาหรายและหอยฝาเดยี วจะลดลง 3. ในชว งเวลากลางคนื ปริมาณแกสออกซิเจนในน้ําจะมากกวาเวลากลางวนั 4. หากแพลงกตอนพืชสะสมสารพษิ ภายในเซลล หอยสองฝาจะสะสมสารพิษมากทส่ี ดุ 5. การถา ยทอดพลังงานจากแพลงกตอนพืชไปยังหมกึ มากกวา แพลงกต อนพืชไปยังดาวทะเล Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 14. ระบบนิเวศหน่งึ ที่อยใู นภาวะสมดลุ จะมจี าํ นวนของสง่ิ มชี วี ิตในแตล ะลาํ ดบั ขนั้ ของโซอ าหาร เปนดังแผนภมู ิแทง จากขอ มูล จํานวนของส่งิ มชี ีวิตในแตล ะลาํ ดบั ขัน้ ของโซอาหารสอดคลอ งกบั พรี ะมดิ มวลชวี ภาพ และตวั อยา งชนิด ของส่ิงมีชวี ติ ในขอ ใด Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 15. ปาพรุแหงหน่ึงถูกเผาจนเกิดความเสียหายเปนพื้นที่กวาง โดยพื้นที่ที่ไดรบั ความเสียหาย ถกู แบงเปน 2 บริเวณ ซึง่ มกี ารเปล่ียนแปลงแตกตา งกนั ดงั นี้ บริเวณท่ี 1 ถกู ปลอ ยทิ้งรางจนเกดิ เปน ระบบนเิ วศแบบใหมที่พบเฉพาะพืชลม ลุก บริเวณที่ 2 ถกู ปลอ ยทงิ้ รา งจนเกิดเปนระบบนิเวศแหลงนํ้า ขอ ใดกลาวถกู ตอ งเก่ยี วกับการเปลี่ยนแปลงแทนทท่ี ีเ่ กดิ ขนึ้ ของท้ัง 2 บริเวณ บริเวณท่ี 1 บรเิ วณที่ 2 1. เกิดการเปลย่ี นแปลงแทนท่แี บบทุติยภมู ิ ไมเ กดิ การเปลย่ี นแปลงแทนที่ 2. ไมเ กดิ การเปลยี่ นแปลงแทนที่ เกดิ การเปลี่ยนแปลงแทนทีแ่ บบปฐมภมู ิ 3. เกดิ การเปล่ยี นแปลงแทนทแี่ บบปฐมภูมิ เกิดการเปล่ยี นแปลงแทนทแ่ี บบทตุ ิยภมู ิ 4 เกดิ การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภมู ิ เกิดการเปลี่ยนแปลงแทนทแ่ี บบปฐมภูมิ 5. เกิดการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบทุติยภูมิ เกิดการเปลย่ี นแปลงแทนทแ่ี บบทตุ ิยภูมิ Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ ชดุ ที 2 ชีวะ…คราเดิม 1.ในทะเลทราย ซง่ึ มีอากาศรอนและแหง แลง ถา มนุษยท าํ กจิ กรรมโดยไมด ม่ื นาํ้ ขอใดคอื การเปล่ียนแปลงของรา งกายเพอ่ื ปรับสมดลุ นาํ้ ทนั ทที ห่ี ยดุ ทาํ กจิ กรรม ความเขม ขน ของเลือด ตอมใตส มอง ทอหนว ยไต 1. ลดลง ยับย้ังการสรา งฮอรโมน ไมดดู นา้ํ กลบั 2. ลดลง สรา งฮอรโมน ดดู นํ้ากลบั 3. สูงขึ้น ยบั ยง้ั การสรา งฮอรโมน ไมดดู นา้ํ กลับ 4. สงู ขึน้ สรา งฮอรโ มน ดูดนา้ํ กลับ 5. ไมเ ปลี่ยนแปลง ยับยัง้ การสรา งฮอรโ มน ดดู น้ํากลับ 2.การตรวจสอบโปรตีนบนผวิ นาํ้ ของละอองเรณใู นดอกไม 3 ชนิด เปนดงั ตาราง ถา ผลการตรวจเลอื ดของผปู ว ยที่เปนโรคภมู ิแพล ะอองเรณู พบแอนติบอดี 3 แบบ คือ เปนจาํ นวนมาก จากขอมลู ผูป ว ยควรหลกี เล่ียงละอองเรณูของดอกไมชนดิ ใด เพราะเหตุใด 1.ชนดิ ท่ี 1 และ 3 เนื่องจากโปรตีนบนผิวจะจับกับแอนตบิ อดแี ลว ยบั ย้งั การหลง่ั สารฮสิ ตามีน 2.ชนิดท่ี 1 และ 3 เนอื่ งจากโปรตนี บนผิวจะไมจ ับกับแอนตบิ อดแี ลว กระตุนการหลัง่ สารฮสิ ตามนี 3.ชนิดท่ี 2 และ 3 เน่ืองจากโปรตนี บนผิวจะจับกบั แอนตบิ อดีแลว ยบั ย้งั การหล่งั สารฮิสตามนี 4.ชนดิ ท่ี 2 และ 3 เนอ่ื งจากโปรตีนบนผวิ จะจับกับแอนติบอดแี ลว กระตุนการหลงั่ สารฮสิ ตามนี 5.ชนิดที่ 2 และ 3 เนื่องจากโปรตีนบนผิวจะไมจ ับกับแอนตบิ อดแี ลว กระตนุ การหลัง่ สารฮสิ ตามีน Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 3.นาย ก เคยเปนโรคอสี ุกอใี สตอนอายุ 8 ขวบ ตอ มามกี ารระบาดของโรคอีสกุ อใี สอกี แตพบวา นาย ก ไมเปนโรคน้ี แลว ขอ ใดกลา วถงึ ระบบภูมมุ กันในรา งกายของนาย ก. ตอเชอ้ื โรคอสี ุกอีใสไดถกู ตอ ง 1.รา งกายจะเกดิ ภมู ิคมุ กันแบบรบั มา โดยมเี ชื้อโรคอสี ุกอใี สเปน แอนตเิ จน 2.รา งกายจะเกิดภมู ิคมุ กันแบบกอเอง โดยมีเช้อื โรคอีสุกอใี สเปนแอนติเจน 3.รา งกายจะเกดิ ภมู ิคมุ กนั แบบกอเอง โดยมีเชือ้ โรคอีสุกอีใสเปน แอนติบอดี 4.รา งกายจะเกิดภมู ิคมุ กันแบบรบั มา โดยมเี ชอื้ โรคอสี ุกอใี สเปนทงั้ แอนตเิ จนและแอนตบิ อดี 5.รา งกายจะเกิดภมู คิ มุ กันแบบกอเอง โดยมีเช้อื โรคอสี กุ อใี สเปนทงั้ แอนตเิ จนและแอนตบิ อดี 4.กระบวนการแบง เซลลข องกบ 2 รปู แบบ เปนดงั แผนภาพ Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ จากภาพจาํ ลองการแบง เซลลข องกบ ขอ ใดกลา วถกู ตอ ง 1.ขั้นตอน 1A และ 2A ทําใหจ าํ นวนชดุ โครโมโซมเพ่มิ ข้นึ จาก 2n เปน 4n 2.ขั้นตอน 1B ทาํ ใหมกี ารแลกเปลีย่ นยนี ของโครโมโซมคูเหมอื น 3.ขั้นตอน 2B ทําใหเกดิ การแปรผันทางพนั ธุกรรม 4.ข้นั ตอน 1C และ 2C ทาํ ใหเกดิ การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม 5.ขน้ั ตอน 1C และ 2C ทาํ ใหจ าํ นวนชดุ โครโมโซมลดลงจาก 2n เปน n 5.ชายคนหน่ึงตาบอดสี แตง งานกบั หญงิ ตาปกติ แลว มลี ูกชายคนแรกตาบอดสี ขอ ใดกลา วถงึ ลักษณะตาบอดสใี นครอบครวั นี้ไดถ ูกตอง 1.ลกู ชายทกุ คนจะตาบอดสี 2.ลูกสาวทกุ คนจะมีตาปกติ แตเ ปนพาหะ 3.ลกู ชายมีโอกาสตาบอดสมี ากกวา ลกู สาว 4.ลกู ชายแตล ะคนมโี อกาสตาบอดสรี อ ยละ 50 5.ลกู ชายและลกู สาวแตล ะคนมีโอกาสตาบอดสรี อยละ 25 6.ขอ ใดเปน การประยกุ ตใชเทคโนโลยชี วี ภาพทไ่ี มถ ูกตอง 1.การตรวจหาคนรา ยโดยใชล ายพมิ พด ีเอน็ เอ 2.การระบคุ วามแตกตา งระหวา งแฝดรว มไขด ว ยลายพมิ พด ีเอ็นเอ 3.การอนรุ กั ษพ นั ธกุ ลว ยไมใหม ลี กั ษณะคงเดมิ ดว ยการเพาะเลีย้ งเนอ้ื เย่อื 4.การสรา งกระตา ยที่เหมอื นกบั กระตา ยตนแบบดว ยการโคลนจากเซลลตบั 5.การสรา งแบคทเี รียทผ่ี ลิตนา้ํ มนั จากยีนของสาหรา ยดว ยการใชโ มเลกลุ ดีเอ็นเอลูกผสม Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 7.ขอใดไมใ ชผ ลของการคดั เลือกทางธรรมชาตทิ ่เี กิดจากความแตกตา งของโครงสรา งรา งกาย 1.ยรี าฟมลี าํ คอยาว เพ่ือใหส ามารถเลม็ กนิ ใบไมบ นตน ไมส งู ๆ ได 2.กระตา ยแลพัสมีขนสขี าวทีก่ ลมกลืนกบั หมิ ะ เพ่ือชว ยพรางตวั ในการหลบหลกี ศัตรู 3.สุนัขจงิ้ จอกทะเลทรายมหี าง หู และขายาว เพ่อื เพิม่ พ้นื ทผี่ วิ ในการระบายความรอ น 4.กิ้งกา ทะเลทรายมักออกหากินตอนกลางคืน เพ่ือหลกี เลย่ี งอากาศรอนในตอนกลางวัน 5.นกจาบมจี ะงอยปากใหญแ ละแข็งแรง เพอื่ ใหส ามารถกินเมล็ดพชื ขนาดใหญแ ละมเี ปลอื กแข็งได 8.กะบวนการใดทีท่ าํ ใหแ กส คารบ อนไดออกไซดในบรรยากาศเพมิ่ ข้ึนและลดลง ตามลาํ ดบั 1.การคายนา้ํ การหายใจ 2.การสงั เคราะหด ว ยแสง การหายใจ 3.การหายใจ การยอ ยสลายซากพชื และซากสตั ว 4.การสงั เคราะหดว ยแสง การยอ ยสลายซากพชื และซากสัตว 5.การยอ ยสลายซากพชื และซากสตั ว การสงั เคราะหดว ยแสง 9.ในระบบนิเวศทสี่ มดุลแหง หนึ่ง มกี ารถา ยทอดพลังงานในรปู สายใยอาหาร ดังแผนภาพ Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ ขอใดอธิบายการถา ยทอดพลังงานในสายใยอาหารนี้ไมถ ูกตอ ง 1.หญา เปนผผู ลติ จะมชี วี ภาพมากกวา สง่ิ มชี วี ติ ชนดิ อ่นื ในระบบนิเวศ 2.ถา มีการฉีดสารเคมกี าํ จดั วัชพืช นกจะมกี ารสะสมสารเคมมี ากกวา หอยทาก 3.ถา กระตา ยเพ่มิ ข้นึ จะสง ผลใหจ าํ นวนแมลงและหอยทากลดลงเพราะอาหารนอ ยลง 4.ถา กบและนกมีจาํ นวนลดลง แมลงและหอยทากจะมจี าํ นวนเพ่ิมขน้ึ เพราะผูลา ลดลง 5.พลังงานในโซอาหารจะถา ยทอดไปท่เี หย่ยี วมากทส่ี ุด เพราะเปน ผูบรโิ ภคขน้ั สดุ ทา ย 10.พ้ืนทีใ่ ดจะเกดิ การเปล่ียนแปลงแทนทแ่ี บบปฐมภมู ิ 1.พน้ื ทป่ี า เสอ่ื มโทรม 2.พน้ื ที่มีการเผาทาํ ลายปา 3.พน้ื ท่ีปา ท่เี กดิ นาํ้ ทว มอยางรุนแรง 4.พื้นท่ีถกู ปกคลุมดว ยลาวาจากภูเขาไฟ 5.พน้ื ที่ทาํ ไรนาของชาวนาทถ่ี กู ปลอยทง้ิ รา ง Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 11.ขอมลู แสดงปรมิ าณแกส คารบอนมอนอกไซดและจาํ นวนชนิดของไลเคนที่พบในบรเิ วณที่มรี ะยะหา งจากตัว เมืองตา งกัน ดังตาราง ระยะหา งจากตวั เมอื ง ปรมิ าณแกส คารบ อนมอนอกไซด จาํ นวนชนิดของไลเคน (Km) (ppm) 0 25 พ.ศ.2550 พ.ศ.2555 พ.ศ.2550 พ.ศ.2555 50 5 2 75 1.5 2.0 8 5 100 10 7 125 1.2 1.5 15 13 150 17 15 1.0 1.2 20 18 24 20 0.8 1.0 0.6 0.8 0.4 0.6 0.2 0.4 จากขอ มลู ขอใดกลา วถกู ตอ ง 1.คุณภาพอากาศใน พ.ศ. 2555 ดกี วา พ.ศ.2550 2.จาํ นวนชนดิ ของไลเคนจะเพม่ิ ขน้ึ ตามคณุ ภาพอากาศท่ีลดลง 3.ความหลากหลายของไลเคน แปรผกผนั กบั ระยะหา งจากตวั เมือง 4.ความหลากหลายของไลเคนแปรผกผันกบั ปรมิ าณแกส คารบ อนมอนอกไซด 5.จาํ นวนชนิดของไลเคนในทกุ ระยะหา งจากตวั เมอื งใน พ.ศ.2555 มากกวา พ.ศ.2550 Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ 12.ตารางแสดงจาํ นวนแพลงกต อน และปรมิ าณออกซเิ จนทล่ี ะลายในนาํ้ ของแหลง นาํ้ 2 บริเวณ ทงั้ กอนและหลงั การสรา งโรงงาน เปนดังนี้ จากขอ มลู หลงั สรา งโรงงาน ขอ ความใดกลา วถกู ตอ ง กอนสรา งโรงงาน หลงั สรา งโรงงาน จาํ นวนแพลงกตอน ปรมิ าณออกซิเจน แหลง นา้ํ จาํ นวนแพลงกต อน ปริมาณออกซเิ จนท่ี (หนว ย/mL) ท่ลี ะลายในนาํ้ บรเิ วณที่ 1 (หนว ย/mL) ละลายในนา้ํ (mg/L) บริเวณท่ี 2 (mg/L) 60 6.5 400 1 50 7 55 6 1.แหลง นาํ้ บรเิ วณท่ี 2 มีจาํ นวนแพลงกตอนมากข้นึ ทาํ ใหน า้ํ มคี ุณภาพดขี น้ึ 2.แหลงนา้ํ บริเวณที่ 1 มคี า DO สงู กวา บริเวณที่ 2 บริเวณท่ี 1 จงึ มคี ณุ ภาพนาํ้ ดีกวา 3.แหลงนาํ้ บรเิ วณที่ 1 มีคา BOD สูงกวา บรเิ วณที่ 2 บริเวณที่ 1 จงึ มีคุณภาพนาํ้ ตาํ่ กวา 4.แหลงนา้ํ บริเวณที่ 1 แพลงกต อนใชออกซเิ จนมากกวา บริเวณที่ 2 บริเวณที่ 1 จงึ มีคา BOD สูงกวา 5.แหลง นา้ํ บรเิ วณที่ 1 มจี าํ นวนแพลงกต อนนอ ยกวา บริเวณท่ี 2 แสดงวา บรเิ วณท่ี 1 ไดร บั ผลเสียจาก โรงงานมากกวา Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
ชีววิทยา ครกู าแฟ แบบปรนัยเลือกตอบเชงิ ซอ น 1.ในวันทอ่ี ากาศรอ นและมีฝนตก นักเรยี นคนหน่ึงออกวง่ิ หลังจากฝนตก โดยว่งิ อยางตอ เน่อื งเปนเวลา 1 ชั่วโมง ได ระยะทาง 10 กโิ ลเมตร และไมดมื่ น้ํา ขอความตอไปน้ี อธิบายสภาวะในรา งกายของนักเรยี นคนนี้ทันทีหลังจากท่วี ิง่ เสรจ็ ไดถกู ตอ งใชห รือไม ขอความ ใช หรือ ไมใช 16.1 น้ําในรา งกายมมี ากขึ้น เน่ืองจากเมแทบอลซิ มึ ท่ีสงู ข้นึ ใช / ไมใ ช 16.2 ไตกาํ จัดนา้ํ มากกวา ปกติ เนอื่ งจากมขี องเสยี ปริมาณมากจากกระบวนการเมแทบอ ใช / ไมใ ช ลซิ ึม 16.3 นักเรยี นคนนี้มคี วามเสยี่ งตอการเปนลมแดดมากขึน้ เพราะเหงื่อออกไดนอยลง ใช / ไมใ ช เนื่องจากในอากาศมคี วามชนื้ สงู 2.มลพิษทางน้ําเกดิ จากของเสยี หรือนาํ้ ท้ิงจากชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม หรือการทําเกษตรกรรม น้ําเสียเหลานี้อาจเปนหนึ่งใน สาเหตทุ ่ีทาํ ใหเกิดปรากฎการณน า้ํ ทะเลเปลย่ี นสี (แพลงกต อนบลูม) เนอื่ งจากมีปริมาณธาตุอาหารและสารอินทรียสูง นอกจากนีใ้ น นาํ้ เสยี ยังมีขยะตาง ๆ ปะปนมากมาย โดยเฉพาะขยะพลาสตกิ ทีส่ ดุ ทา ยแลว จะไหลลงสทู ะเล ปจ จบุ นั เร่ิมมีความกงั วลเก่ยี วกับปญหาขยะพลาสติกในทะเล เนื่องจากขยะพลาสตกิ ใชเ วลา หลายรอ ยปใ นการยอยสลายและสะสม เปนแพขยะขนาดใหญในมหาสมทุ ร ขยะพลาสติกเหลา นี้จะคอย ๆ ผพุ ัง และยอยสลายจนมีขนาดเล็กลงเร่ือย ๆ ไปจนถึงระดับนา โนเมตร ซ่งึ พลาสตกิ ขนาดเล็กเหลาน้ีสามารถดูดซับสารปนเปอนจากน้ําทะเล เชน ยาฆาแมลง ดีดีที พีซีบี (PCBs) ซ่ึงสารเหลานี้ เปน พิษตอสิ่งมีชวี ติ ขอความเก่ียวกบั ปญหาสิง่ แวดลอ มตอไปนถี้ กู ตอ งใชห รอื ไม ใช หรือ ไมใช ใช / ไมใช ขอความ ใช / ไมใช 17.1 อัตราการยอยสลายเปนปจจยั หลกั ที่ทาํ ใหข ยะทสี่ ะสมในมหาสมทุ รสวนใหญเปน พลาสติก ใช / ไมใช 17.2 ขยะพลาสติกเปนปจจัยสําคัญของปรากฎการณนํ้าทะเลเปลี่ยนสีเน่ืองจากขยะ พลาสติก ที่ยอ ยสลายจะกลายเปนอาหารของแพลกต อนทาํ ใหแ พลงกตอน เพม่ิ จํานวน อยา งรวดเร็ว 17.3 หากขยะพลาสติกถกู ยอยสลายจนมีขนาดเล็กมาก ๆ อาจเปนสาเหตทุ ีท่ ําใหม นษุ ย ไดร ับสารพิษเขาสรู างกายจากการกินปลาทะเล Amphon Khuanpuck coffee_kafair icecoffeekafair
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: