Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore myalbum-ภคินี-เอียดพล

myalbum-ภคินี-เอียดพล

Published by Promporn Bomugng, 2021-01-27 10:04:24

Description: myalbum-ภคินี-เอียดพล

Search

Read the Text Version

1 19 ประเพณี 4 ภาค รวบรวมโดย นางสาว ภคินี เอยี ดพล รหสั นกั ศกึ ษา 6330210010 รายงานชิ้นนเี้ ป็นสว่ นหน่ึงของกจิ กรรมการเรียนในรายงานวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี รหัสวิชา 30001-2001 วิทยาลยั การอาชพี คลองท่อม

2 ประเพณีภาคใต้ ภาคใต้ ดินแดนแห่งความหลากหลายทางประเพณีและวฒั นธรรมท่ี มีความน่าสนใจไม่นอ้ ยไปกวา่ ภาคอ่ืนของไทย เพราะเป็นเมืองที่เตม็ ไปดว้ ย เสน่ห์มนตข์ ลงั ชวนใหน้ ่าข้ึนไปสมั ผสั ความงดงามเหลา่ น้ียง่ิ นกั ภาคใตม้ ี ท้งั สิ้น 14 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั กระบ่ี จงั หวดั ชุมพร จงั หวดั ตรัง จงั หวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั นราธิวาส จงั หวดั ปัตตานี จงั หวดั พงั งา จงั หวดั พทั ลงุ จงั หวดั ภูเกต็ จงั หวดั ระนอง จงั หวดั สตูล จงั หวดั สงขลา จงั หวดั สุราษฎร์ธานี จงั หวดั ยะลา

3 ประเพณลี อยเรือชาวเล เป็นงานประเพณีเก่าแก่ท่ีหาดูไดย้ ากของชาวเลเกาะลนั ตา งานน้ีจดั ข้ึนตรงกบั วนั เพญ็ เดือน 6 และเดือน 11 โดยกลุ่มชาวเลท่ี เกาะลนั ตาและเกาะใกลเ้ คียง จะมาชุมนุมกนั ทาพธิ ีลอยเรือ เพื่อสะเดาะ เคราะห์ บริเวณชายหาดใกลก้ บั บา้ นศาลาด่าน มีการร้องราทาเพลง และ การร่ายรารอบลาเรือดว้ ยจงั หวะและทานองเพลงรองเงง็

4 ประเพณลี าซัง ประเพณีของชาวพทุ ธในจงั หวดั นราธิวาส แถวอาเภอตากใบ เรียกวา่ ลมั ซงั ประเพณีน้ีสืบเนื่องมาจากความเช่ือเรื่องที่นา เร่ืองแม่ โพสพ เช่ือวา่ จะทาใหข้ า้ วในนาปี ต่อไปงอกงาม ใหผ้ ลผลิตสูง หลงั จาก ที่เกบ็ เก่ียวขา้ วเสร็จแลว้ ผนู้ าชุมชนกจ็ ะกาหนดวนั ลาซงั ก่อนวนั ลาซงั ตอ้ งเตรียมการทาขนมจีน ชาวบา้ นจะไปชุมชุมกนั ที่สถานที่จดั งาน ส่วน ใหญม่ กั จะเป็นศาลากลางทุ่งนา โดยจะจดั เตรียมลานกวา้ งกลางทุ่งนา เพือ่ ใชจ้ ดั กิจกรรม หลงั จากเสร็จพธิ ี จากน้นั ชาวบา้ นจะนาขนมจีนมา เล้ียงพระ เสร็จแลว้ จะกินขนมจีนร่วมกนั

5 ประเพณแี ห่ผ้าขนึ้ ธาตุ ชาวนครฯ เชื่อมนั่ วา่ ระบรมธาตุเจดียเ์ ป็นเสมือนตวั แทนของ พระพทุ ธศาสนา ภายในเจดียบ์ รรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทุกปี หน่ึงๆ จะมี การบูชาบวงสรวง ปี ละ 2 คร้ัง คือวนั มาฆบูชา และในวนั วสิ าขบชู า โดยนาผา้ มาห่อหุม้ องคเ์ จดีย์ เพ่อื ความเป็นสิริมงคล มีการจดั ขบวนแห่ ผา้ พระบฏนาข้ึนไปถวายสกั การะ ในเวลากลางคืน จะเวยี นเทียน

6 ประเพณชี ิงเปรต เป็นประเพณีเน่ืองในเทศกาลวนั สารท เดือนสิบของชาวไทย ที่นบั ถือศาสนาพทุ ธ จดั ทาในวดั ทุกวดั ในวนั แรม 14 หรือ 15 ค่า เดือนสิบ โดยทาร้านจดั สารับอาหารคาวหวานไปวางอทุ ิศส่วนกศุ ลให้ เปรตชน (ป่ ู ยา่ ตา ยาย และบรรพบุรุษท่ีล่วงลบั ไปแลว้ ) ร้านที่วาง อาหารเรียกวา่ ร้านเปรต ซ่ึงสร้างไวก้ ลางวดั ยกเสาสูง มีสี่เสาบา้ ง เสา เดียวบา้ ง บนร้านเปรตจะมีสายสิญจว์ งไวร้ อบและต่อยาวไปถึงท่ี พระสงฆน์ งั่ ทาพธิ ีกรรม พธิ ีเสร็จบรรดาผมู้ าร่วมทาบุญกจ็ ะเขา้ ไปรุม แยง่ อาหารส่ิงของ อาหารคาวหวาน ท่ีอยบู่ นร้านเปรตอยา่ งสนุกสนาน จากน้นั กจ็ ะจดั อาหารถวายเพลแก่พระภิกษุสงฆท์ ุกรูปที่อยใู่ นวดั ต่อจากน้นั ผมู้ าร่วมงานทุกคนกจ็ ะกินอาหารร่วมกนั

7 ประเพณชี ักพระ วนั ออกพรรษา แรม 1 ค่า เดือน 11 ชาวบา้ นกบั วดั จะ ร่วมกนั จดั ใหม้ ีการชกั พระ โดยสมมุติไดไ้ ปตอ้ นรับพระพทุ ธเจา้ เสดจ็ กลบั จากดาวดึงส์ ประทบั บุษบกแห่เป็นขบวนไปยงั สถานท่ีต่างๆ วดั ใด จะชกั พระบกหรือชกั พระน้าข้ึนอยกู่ บั ความสะดวกของทอ้ งถิ่น

8 ประเพณภี าคเหนือ  ประเพณขี องภาคเหนือ  เกิดจากการผสมผสานการดาเนินชีวติ และศาสนาพทุ ธความเช่ือ เร่ืองการนบั ถือผี ส่งผลทาใหม้ ีประเพณีท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ของ ประเพณีที่จะแตกต่างกนั ไปตามฤดูกาล ท้งั น้ี ภาคเหนือจะมีงาน ประเพณีในรอบปี แทบทุกเดือน จึงขอยกตวั อยา่ งประเพณี ภาคเหนือบางส่วนมานาเสนอ ดงั น้ี

9 แห่นางแมว ระหวา่ งเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม เป็นช่วงของการเพาะปลูก หากปี ใดฝนแลง้ ไม่มีน้า จะทาใหน้ าขา้ วเสียหาย ชาวบา้ นจึงพ่งึ พาส่ิงเหนือ ธรรมชาติ เช่น ทาพิธีขอฝนโดยการแห่นางแมว โดยมีความเชื่อกนั วา่ หากกระทาเช่นน้นั แลว้ จะช่วยใหฝ้ นตก

10 ประเพณปี อยหลวง หรืองานบุญ ปอยหลวง เป็นเอกลกั ษณ์ของชาวลา้ นนาซ่ึงเป็นผลดีต่อสภาพทางสงั คม ถือวา่ เป็นการใหช้ าวบา้ นไดม้ าทาบุญร่วมกนั ร่วมกนั จดั งานทาใหเ้ กิดความ สามคั คีในการทางาน งานทาบุญปอยหลวงยงั เป็นการรวมญาติพน่ี อ้ งท่ี อยตู่ ่างถ่ินไดม้ ีโอกาสทาบุญร่วมกนั และมีการสืบทอดประเพณีที่เคย ปฏิบตั ิกนั มาคร้ังแต่บรรพชนไม่ใหส้ ูญหายไปจากสงั คม ช่วงเวลาจดั งานเริ่มจากเดือน 5 จนถึงเดือน 7 เหนือ (ตรงกบั เดือนกมุ ภาพนั ธ์ ถึง เดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี ) ระยะเวลา 3-7 วนั

11 ประเพณยี เี่ ป็ ง (วนั เพญ็ เดือนย)่ี หรืองานลอยกระทง โดยจะมีงาน “ตามผางผะติ้ป” (จุดประทีป) ซ่ึงชาวภาคเหนือตอนล่างจะเรียกประเพณีน้ีวา่ “พธิ ีจองเปรียง” หรือ “ลอยโขมด” เป็นงานที่ข้ึนชื่อท่ีจงั หวดั สุโขทยั

12 ประเพณลี อยกระทงสายหรือ ประทีปพนั ดวง ท่ีจงั หวดั ตาก ในเทศกาลเดียวกนั ดว้ ยในเดือน 3 หรือประมาณเดือน ธนั วาคม มีประเพณีต้งั ธรรมหลวง (เทศน์มหาชาติ) และทอดผา้ ป่ า ใน ธนั วาคมจะมีการเกี่ยว “ขา้ วดอ” (คือขา้ วสุกก่อนขา้ วปี ) พอถึงขา้ งแรม จึงจะมีการเก่ียว “ขา้ วปี ”

13 ประเพณตี านตุง ในภาษาถ่ินลา้ นนา ตุง หมายถึง “ธง” จุดประสงคข์ องการทาตุงใน ลา้ นนากค็ ือ การทาถวายเป็นพทุ ธบูชา ชาวลา้ นนาถือวา่ เป็นการทาบุญ อุทิศใหแ้ ก่ผทู้ ี่ล่วงลบั ไปแลว้ หรือถวายเพื่อเป็นปัจจยั ส่งกศุ ลใหแ้ ก่ตน ไปในชาติหนา้ ดว้ ยความเชื่อที่วา่ เม่ือตายไปแลว้ กจ็ ะไดเ้ กาะยดึ ชายตุง ข้ึนสวรรคพ์ น้ จากขมุ นรก วนั ท่ีถวายตุงน้นั นิยมกระทาในวนั พญาวนั ซ่ึง เป็นวนั สุดทา้ ยของเทศกาลสงกรานต์

14 ประเพณีภาคกลาง ภาคกลาง ดินแดนแห่งความหลากหลายทางประเพณีและ วฒั นธรรมที่มีความน่าสนใจไม่นอ้ ยไปกวา่ ภาคอื่นของไทย เพราะเป็น เมืองที่เตม็ ไปดว้ ยเสน่ห์มนตข์ ลงั ชวนใหน้ ่าข้ึนไปสมั ผสั ความงดงาม เหล่าน้ียงิ่ นกั ภาคกลางมีท้งั สิ้น 22 จงั หวดั ไดแ้ ก่ กรุงเทพมหานคร กาแพงเพชร ชยั นาท นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยธุ ยา พจิ ิตร พษิ ณุโลก เพชรบูรณ์ ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทยั สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทยั ธานี

15 ประเพณวี ง่ิ ควาย เป็นหน่ึงในประเพณีอนั เป็นเอกลกั ษณ์ของจงั หวดั ชลบุรีที่มี การจดั มากวา่ 100 ปี แลว้ ประเพณีวง่ิ ควาย เป็นประเพณีท่ีจดั ข้ึนเป็น ประจาทุกปี ในวนั ข้ึน 14 ค่า เดือน 11 หรือก่อนออกพรรษา 1 วนั เพอ่ื เป็นการทาขวญั ควายและใหค้ วายไดพ้ กั ผอ่ นหลงั จากตรากตรากบั การงานในทอ้ งนามายาวนาน นอกจากน้ีประเพณีวงิ่ ควายยงั เป็นการ แสดงความกตญั ญูรู้คุณต่อควายที่เป็นสตั วม์ ีบุญคุณต่อชาวนาและคน ไทยอีกท้งั ยงั เพอ่ื ใหช้ าวบา้ นไดม้ ีโอกาสพกั ผอ่ นมาพบปะสงั สรรคก์ นั ในงานวง่ิ ควาย

16 ประเพณกี วนข้าวทิพย์ เป็นพระราชพธิ ีที่กระทากนั ในเดือน ๑๐ ซ่ึงมีมาต้งั แต่สมยั สุโขทยั และกรุงศรีอยธุ ยา เป็นราชธานี และไดร้ ับการฟ้ื นฟคู ร้ังใหญ่ ใน สมยั รัชกาลท่ี ๑ และมาละเวน้ เลิกรา ไปในสมยั รัชกาล ที่ ๒ และรัชกาล ที่ ๓ แลว้ มาไดร้ ับการฟ้ื นฟู อีกคร้ังหน่ึงในสมยั รัชกาลที่ ๔ เป็นตน้ มา แต่ในปัจจุบนั น้ีส่วนใหญ่จะจดั กนั ในเดือน ๑๒ บางแห่งกเ็ ดือนหน่ึง ซ่ึง คงจะถือเอาระยะที่ขา้ วกลา้ ในทอ้ งนามีรวงขาวเป็นน้านม ของแต่ละปี และชาวบา้ นกม็ ีความพร้อมเพรียง

17 ประเพณี บายศรีสู่ขวญั ขา้ ว ช่วงเวลาประเพณีไทยสู่ขวญั ขา้ ว (ทวั่ ไป) บุญสู่ขวญั ขา้ ว(หมู่บา้ น เนินใหม่ ตาบลโคกกรวด) เรียกขวญั ขา้ ว (หมู่บา้ นท่าด่าน) กระทาในวนั ข้ึน ๓ ค่า เดือน ๓ เพือ่ เรียกขวญั พระแม่โพสพที่ตกหล่นตามทอ้ งนาข้ึน สู่ยงุ้ ฉาง บูชาพระแม่โพสพ ป้องกนั ศตั รูพชื และสตั วท์ าลาย เพอ่ื ใหไ้ ด้ ผลผลิตมากในปี ต่อไป เพ่ือเป็นการบารุงขวญั และความเช่ือของชาวนา รวมถึงการแสดงความกตญั ญูต่อพระแม่โพสพ เพอื่ บนั ดาลใหข้ า้ วในปี หนา้ ไดผ้ ลผลิตดียงิ่ ข้ึน

18 ประเพณีไทย การทาบุญโคนไม้ จงั หวดั .ตราด ระยะเวลา ช่วงเดือนเมษายน และหลงั จากวนั เพญ็ เดือนสิบ สองการทาบุญโคนไม้ เป็นประเพณีไทยพ้นื บา้ นอยา่ งหน่ึงของจงั หวดั ตราดท่ีทาเป็นประจาทุกปี สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความสามคั คี ช่วยเหลือ เก้ือกลู ซ่ึงกนั และกนั ของคนในหมู่บา้ นในชุมชน การทาบุญโคนไมแ้ ละ การทาบุญตามสถานที่สาคญั ในหมู่บา้ น นอกจากจะใหผ้ ลในการดาเนิน ชีวติ โดยตรงแก่ผใู้ หญแ่ ลว้ ยงั เป็นการปลูกฝังใหล้ ูกหลานของตนรู้จกั รัก ป่ า แผน่ ดิน และพ้ืนน้า ไม่คิดทาลายธรรมชาติ ที่ตนตอ้ งพ่งึ พาอาศยั ใน ขณะเดียวกนั ยงั สอดแทรกคุณธรรมเรื่องความกตญั ญูรู้คุณสืบทอดใหแ้ ก่ ลูกหลานในหมู่บา้ น ใหร้ ู้จกั การทาบุญใหท้ าน มีความเมตตาเอ้ือเฟ้ื อ รู้จกั รักผอู้ ่ืน อนั เป็นคุณธรรมหลกั ของการอยรู่ ่วมกนั

19 ประเพณีภาคอีสาน ภาคอีสานเป็นพ้ืนท่ีที่เป็นอารยธรรมโบราณ ประชากรที่อาศยั อยู่ ส่วนมากเป็นคนไทยเช้ือสายลาวและเช้ือสายเขมร มีคตินิยมผกู แน่นอยู่ กบั ประเพณีโบราณมีการรักษา สืบเน่ืองต่อกนั มา จึงเป็นถิ่นแดนท่ีเตม็ ไปดว้ ยกลิ่นอายของวฒั นธรรมประเพณีที่ผสมผสานความเช่ือถือใน เร่ืองของการนบั ถือผี และคติทางพระพทุ ธศาสนาเขา้ ดว้ ยกนั

20 บุญเขา้ พรรษา ในเทศกาลเขา้ พรรษา เปน็ เวลาทพ่ี ระภิกษุสงฆ์จะตอ้ งบาเพญ็ ไตรสิกขา คอื ศีล สมาธิ ปัญญา ให้บรบิ รู ณ์ สว่ นคฤหัสถก์ จ็ ะต้องบาเพญ็ บญุ กริยา วัตถุ ๓ คือ ทาน ศลี ภาวนา ให้เตม็ เป่ียม ตอนเช้าญาตโิ ยมจะนาอาหาร มาถวายพระภิกษุ ตอนบา่ ยนาดอกไม้ธูปเทียน ขา้ วสาร ผา้ อาบน้าฝน รวมกนั ท่ีศาลาวัด ตอนเย็นญาตโิ ยมพากันทาวัตรเย็นแล้วฟงั เทศน์ กาหนด วนั แรม ๑ คา่ เดอื น ๘ จงึ เรียกอีกอย่างหนง่ึ ว่า \"บุญเดือน ๘\"

21 ประเพน้ีบุญผะเหวด หรืองานบุญมหาชาติ คืองานมหากศุ ล ใหร้ าลึกถึงการบาเพญ็ บุญ คือ ความดีที่ยงิ่ ยวด อนั มีการสละความเห็นแก่ตวั เพ่ือผลคือ ประโยชน์สุข อนั ไพศาลของมวลชนมนุษยช์ าติ เป็นสาคญั ดงั น้นั บรรพชนชาวไทย อีสานแต่โบราณ จึงถือเป็นเทศกาลท่ีประชาชนท้งั หลายพึงสนใจร่วม กระทาบาเพญ็ และไดอ้ นุรักษส์ ืบทอดเป็นวฒั นธรรมสืบมา จนถึง อนุชนรุ่นหลงั ที่ควรเห็นคุณค่าและอนุรักษเ์ ป็นวฒั นธรรมสืบไป นอกจากน้ียงั เป็นการสงั สรรค์ ระหวา่ งญาติพ่นี อ้ งจากแดนไกลสมกบั คา กล่าวท่ีวา่ \"กินขา้ วปุ้น เอาบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ\"

22 ประเพณีบุญเบิกฟ้า ประเพณีบุญเบิกฟ้า เป็นประเพณีของชาวมหาสารคามท่ีประกอบข้ึน ตามความเชื่อวา่ เม่ือถึงวนั ข้ึน ๓ ค่า เดือน ๓ ของทุกๆ ปี ฟ้าจะเริ่มไข ประตูฝน โดยจะมีเสียงฟ้าร้อง และทิศท่ีฟ้าร้องเป็นสญั ญาณบ่งบอก ตวั กาหนดปริมาณน้าฝนท่ีจะตกลงมาหล่อเล้ียงการเกษตรในปี น้นั

23 ประเพณี การละเล่นผตี าโขน การละเล่นผตี าโขนมีมานานแลว้ แต่ไม่มีหลกั ฐานปรากฏแน่ชดั วา่ มีมา ต้งั แต่เมื่อใด แต่ชาวบา้ นไดป้ ฏิบตั ิและสืบทอดต่อกนั มาจากบรรพบุรุษ เป็นประเพณีท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ประจาจงั หวดั เลย แสดงในงาน \"บุญ หลวง\" ซ่ึงเป็นการรวมเอาบุญผะเหวดและบุญบ้งั ไฟเป็นบุญเดียวกนั เพอ่ื เป็นการบูชาอารักษห์ ลกั เมือง และพธิ ีการบวงสรวงดวงวญิ ญาณอนั ศกั ด์ิสิทธ์ิของเจา้ ในอดีต

24 ประเพณีบุญบ้งั ไฟ ชาวจงั หวดั ยโสธรร้อยละ ๘๕ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ชาว ยโสธรจึงจดั ประเพณีบุญบ้งั ไฟ เป็นการทาบุญประจาปี ทุกปี ในช่วง เดือนพฤษภาคม ซ่ึงเป็นช่วงก่อนฤดูการทานา เป็นพิธีขอฝนจากพญา แถนใหฝ้ นตกตอ้ งตามฤดูกาล

25 ขอบคุณทรี่ ับชมค่ะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook