ขอ้ มูลเจา้ ของภมู ปิ ญั ญา ชอ่ื เจ้าของภูมปิ ัญญา นางลมยั แสงสมิ มา ท่ีอยู่ 136 หมู่ที่ 6 บา้ นหนองสะแบง ตำบลโคกใหญ่ อำเภอโนนสงั จังหวดั หนองบวั ลำภู 39140 อาชพี เกษตรกร อายุการศกึ ษาภมู ิปัญญา 20 ปี ชื่อภมู ิปัญญา การทอผ้าพ้ืนเมือง (ผา้ ฝ้ายมัดหมี)่ ประวตั ขิ ้อมลู ภมู ิปัญญา ประวตั ิการกำเนิดภูมิปญั ญาการทอผา้ พืน้ เมือง (ผ้าฝา้ ยมัดหม่ี) ผา้ มัดหมี่ เปน็ การทอผา้ อย่างหนง่ึ ท่ีมกี ารสร้างลวดลายกก่อนท่จี ะทำการย้อมสี การทำลายผ้ามดั หม่ี เป็นการเอกเชอื กมากมัดดา้ ยหรอื มัดเส้นไหมตามลวดลายท่ีได้ออกแบบไว้ การมดั และย้อมลายจะมกี ารทำทัง้ เสน้ ทางแนวยนื และแนวนอน หรอื ทเ่ี รียกว่าแนวพุ่ง การทอผ้ามดั หมโี่ บราณนิยมการย้อมสีดว้ ยสีธรรมชาติ เช่น สีแดงจากครง่ั สนี ำ้ เงนิ จากคราม เปน็ ต้น ปจั จุบันผ้ามดั หมมี่ ีการทำกนั อย่างแพรห่ ลาย สามารถทำไดด้ ีท้งั ผ้าฝ้ายและผ้าไหม โดยเฉพาะผ้าไหมจะมีความ สวยงามมาก นอกจากตวั ผา้ ไหมเองแลว้ ลวดลายและสีสันยังเปน็ ปจั จัยท่ชี ว่ ยสร้างความสวยงามใหม้ ากย่ิงขึ้น การอนรุ ักษล์ วดลายโบราณ และนำมาประยุกต์ใช้ จึงเปน็ สิง่ ที่นา่ จะไดร้ บั การส่งเสรมิ พฒั นาเป็นอยา่ งย่ิง ดังนน้ั การเกบ็ รวบรวมองคค์ วามรู้เก่ียวกับการผลติ ผ้าไหม ผา้ ฝ้ายมัดหม่ีสีธรรมชาติเพ่ือถ่ายทอดสู่คนร่นุ ต่อไปจงึ เป็น เร่ืองทีด่ ีและควรค่าตลอดไป บา้ นหนองสะแบง หมู่ที่ 6 ตำบลโคกใหญ่ อำเภอโนนสัง จงั หวัดหนองบวั ลำภู เปน็ หม่บู ้านหน่ึงที่มีการ ทอผ้าฝา้ ยมัดหม่ีกนั อยา่ งแพร่หลายในหมบู่ ้าน ทงั้ ท่ีทอไวใ้ ช้ในครัวเรือน และนำไปจำหน่ายเพ่ือเปน็ รายไดเ้ สริม ให้กับครัวเรอื น จงึ ได้ก่อเกิดกลุม่ ทอผา้ พ้ืนเมืองบ้านหนองสะแบงขึน้ โดยมี นางลมยั แสงสิมมา เป็นประธาน กลุ่ม
ผตู้ ่อยอดภูมปิ ัญญาการทอผา้ พืน้ เมืองบ้านโพธ์ิชัย นางลมยั แสงสมิ มา อายุ 57 ปี อาชพี เกษตรกร อยู่บา้ นเลขท่ี 136 หม่ทู ่ี 6 บา้ นหนองสะแบง ตำบลโคกใหญ่ อำเภอโนนสงั จงั หวดั หนองบวั ลำภู ไดเ้ ร่มิ เรียนรกู้ ารทอผา้ จากมารดาและครอบครัวต้ังแต่อายุ 18 ปี ซง่ึ เมื่อก่อนได้ทอเพ่ือใช้ในครอบครวั เท่าน้นั ต่อมาเม่ือ 20 ปีก่อนนางลมยั แสงสมิ มา ได้นำความรทู้ ี่มีอยู่ มาตอ่ ยอด โดยเร่มิ ทอลายใหมๆ่ ลวดลายทีเ่ ป็นที่นิยมของท้องตลาด จนทำใหเ้ ป็นท่สี นใจของคนในชุมชนและ บคุ คลทวั่ ไป จึงนำมาขายเปน็ อาชีพเสริม ในเวลาว่างหลงั จากการทำไร่ ทำนา มาจนถึงปัจจบุ นั และไดเ้ ปน็ ประธานจัดต้งั กลุ่มทอผ้าพน้ื เมอื งบา้ นโพธิ์ชยั ทม่ี ีสมาชิกกลุ่ม จำนวน 30 คน การสรา้ งความรู้ (ขัน้ ตอน/วธิ กี ารการสรา้ งภมู ปิ ัญญา) อปุ กรณก์ ารทอผา้ 1. หูก (ก)ี่ เปน็ เครื่องมอื สำหรับทอผา้ มหี ลายขนาดและชนิด แต่มีหลักการพน้ื ฐานอย่างเดยี วกนั คือ การขัดประสานระหวา่ งดา้ ยเสน้ พงุ่ และด้ายเสน้ ยืน จนแน่นเป็นเนื้อผ้า ปัจจบุ นั นิยมใชก้ ี่กระตุก กี่ (หกู ) กกี่ ระตุก 2. ฟืม หรอื ฟนั หวี มลี ักษณะคล้ายหวี ยาวเท่ากบั ความกว้างของหนา้ ผ้าทำด้วยโลหะ มีลกั ษณะเปน็ ซ่ี เล็กๆ มีกรอบทำดว้ ยไม้หรือโลหะ แต่ละซ่ีของฟมื จะเป็นช่องสำหรับสอดด้ายยืน เข้าไป เป็นการจดั เรยี งด้ายยนื ใหห้ ่างกันตามความละเอยี ดของเนอ้ื ผา้ เป็นส่วนท่ีใช้กระทบให้เสน้ ดา้ ยที่ทอเรียงตดิ กนั แน่นเป็นผนื ผา้
3. กง ใช้สำหรับใสไ่ จหม่ี 4. อกั ใชส้ ำหรับกวักหม่ีออกจากกง 5. หลักตนี กง (ไมท้ ใ่ี ช้ยึดทั้งสองขา้ งในการกวกั ดา้ ย)
7. หลอดใส่ด้าย (ลกู ค้น) เป็นอุปกรณ์สำหรบั ใช้ในการค้นเสน้ ดา้ ย โดยเสน้ ด้ายทุกเสน้ ถูกมว้ นหรือ พนั เก็บไวใ้ นหลอดคน้ ซึง่ มลี ักษณะเปน็ หลอดยาวประมาณ 8 นวิ้ เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 1 นิ้ว หลอดคน้ ทำ จากไม้ไผ่ ปจั จุบันนยิ มนำหลอดพลาสติกมาทำเป็นหลอดใส่ดา้ ยเพราะมอี ายุการใช้งานทย่ี าวนานกวา่ ไม้ไผ่ 8. หลา เปน็ เครื่องมือที่ใช้สำหรบั ป่นั หลอด จากอักมาสูโ่ บกเพื่อทำเปน็ ทางตำ่ (เส้นพงุ่ ) เขน็ หรอื ปน่ั หม่ี 2 เส้นรวมกัน เรยี กวา่ เข็นรังกนั เขน็ ควบกัน หรือเขน็ ครุ กัน ถา้ เปน็ หมีค่ นละสี เข็นรวมกันแลว้ เรยี กวา่ มบั ไม ใชแ้ กว่งหม่ี ขัน้ ตอนนเ้ี ปน็ การเกบ็ ปุ่มท่เี รียกวา่ ขหี้ ม่ี ออกจากเส้นหมแี่ ละยงั ทำให้เส้นหมบ่ี ดิ ตัวแน่นข้ึน ให้ทำเปน็ ทางเครือ
ขน้ั ตอนการทอผ้าพ้ืนเมือง 1. การค้นเส้นยืน เป็นวิธกี ารเตรียมเส้นยืนในการทอผ้า โดยนำเสน้ ดา้ ยท่ยี ้อมสีแลว้ มาทำการค้นเครือหูก หรือที่ เรียกวา่ การค้นเสน้ ยืน เริ่มต้นดว้ ยการนำเสน้ ด้ายไปสวมเข้าในกงเพ่ือทำการกรอเส้นด้ายเขา้ อัก จากนั้นทำการ ค้นเสน้ ยนื โดยใช้อุปกรณ์ท่ีเรียกว่า หลกั เฝือ เดินเส้นยนื เพื่อจัดเรยี งเส้นด้าย ตามความกว้างของผนื ผา้ หรอื ขนาดฟืม นับจำนวนเสน้ ยนื โดยใช้ซีไ่ มม้ าคนั่ เพอ่ื มิให้สบั สน และป้องกนั การผดิ พลาดในการนับ 2. การเตรยี มฟืมทอผ้า
สำหรับการทอทม่ี ีการทอต่อเน่อื ง จะใชว้ ธิ กี ารสืบเครือหกู จากฟืมทมี่ ีการเก็บตะกอไว้แล้วจากการทอครั้งก่อน โดยนำเส้นดา้ ยยืนมาผกู กับเส้นยืนเดิมจนครบทุกเสน้ แลว้ จดั เรียงและขึงใหต้ ึงก็พร้อมทจี่ ะทอได้ ก่อนการทอก็ เหมอื นกบั การทอผา้ ชนิดอ่ืนๆ ทต่ี อ้ งนำนำ้ แปง้ ขา้ วหรือน้ำแปง้ มัน ชบุ ดว้ ยผ้า และทาใหท้ ่ัวบนเสน้ ยืน แลว้ ปลอ่ ยใหแ้ ห้งหลงั จากนั้นทาด้วยไขขีผ้ ้งึ ทับอีกครัง้ เพื่อใหเ้ กิดความล่ืนขณะทอ
การจัดเก็บและการค้นคนื ความรู้ (การจดจำ/เอกสาร/ฐานขอ้ มลู ) ใชก้ ารจดจำ การเล่าสู่กนั ฟงั และการฝกึ ปฏิบัติทำเปน็ การสบื ทอดความรู้ไปสคู่ นร่นุ หลงั การถา่ ยทอดความรูแ้ ละการใชป้ ระโยชน์ (ซึมซับไวก้ ับตนเอง หรอื เผยแพรค่ วามรูใ้ หแ้ กอ่ งค์กร) ให้ประชาชน คนรนุ่ หลังท่มี คี วามสนใจ และองค์กรที่สนใจสามารถเขา้ มาศึกษาเรียนรู้ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: