Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานตะไคร้หอม

โครงงานตะไคร้หอม

Published by pornchanokmaiwong, 2021-09-30 09:28:05

Description: โครงงานตะไคร้หอม

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบโครงงาน โครงงาน “ตะไครห้ อมไล่ยงุ ” ผจู้ ดั ทำ 1.นางสาวพรชนก ใหม่วงค์ 2.นางสาววนิดาพร พลแสน 3.นางสาวณัฐณิชา เตชะนันท์ 4.นางสาวนันท์นภัส งวิ้ ผา 5.นางสาวปวริศา สุวรรณ ครทู ป่ี รึกษาโครงงาน ครดู ำรงค์ คันธะเรศย์

เอกสารประกอบโครงงาน โครงงาน “ตะไครห้ อมไล่ยงุ ” ผูจ้ ดั ทำ 1.นางสาวพรชนก ใหมว่ งค์ 2.นางสาววนิดาพร พลแสน 3.นางสาวณัฐณชิ า เตชะนันท์ 4.นางสาวนันท์นภสั ง้ิวผา 5.นางสาวปวรศิ า สวุ รรณ ครูท่ีปรกึ ษาโครงงาน ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์

ช่ือโครงงาน “ตะไคร้หอมไล่ยงุ ” ผู้จัดทำ 1นางสาวพรชนก ใหม่วงค์ 2นางสาววนิดาพร พลแสน 3นางสาวณฐั ณิชา เตชนนั ท์ 4นางสาวนันทน์ ภัส ง้ิวผา 5นางสาวปวรศิ า สุวรรณ ปีการศกึ ษา 2564 ทปี่ รึกษาโครงงาน นายดำรงค์ คันธะเรศย์ บทคดั ย่อ การจดั ทำโครงงานคร้งั น้เี กยี่ วกับเรอ่ื งการทำตะไครห้ อมไล่ยงุ มวี ตั ถุประสงคเพื่อ 1. เพ่อื เสนอแนะแนวทางการปอ้ งกนัโรคไขเลือดออกและสารพิษที่เข้าสรู่ า่ งกาย 2. เพือ่ นำวัสดุท่ีมีในท้องถน่ิ มา ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3. เพอื่ นำมาเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ 4. เพอ่ื แสดงศกยั ภาพของนกัเรยี นต่อชมุ ชน ส่งผลสคู่ วามสำเรจ็ กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการศึกษา โดยใชแ้ บบประเมนิ คือ ประชากรบา้ นดอนแก้ว ตำบลเจดียช์ ัย อำเภอปัว จงั หวัด น่าน จำนวน10 คน ผลจากการวเิ คราะห์ ผู้ทใ่ี ชม้ ีความพึงพอในเปน็ อย่างมาก และสามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ นางสาวพรชนก ใหมว่ งค์ นางสาววนดิ าพร พลแสน นางสาวณัฐณิชา เตชนันท์ นางสาวนนั ทน์ ภสั งว้ิ ผา นางสาวปวรศิ า สวุ รรณ

กิตติกรรมประกาศ โครงงานวชิ าชีพเรื่อง “ตะไคร้หอมไลย่ ุง ” สำเร็จลุลว่ งได้ดว้ ยความกรณุ าของอาจารยท์ ี่ ปรึกษา โครงงานได้แกอ่ าจารยร์ดำรงค์ คนั ธะเรศยท์ ่ี ใหค้ ำปรึกษา แนะนำ ในการศกึ ษาค้นคว้า ข้ันตอนและ วธิ ีการทำ โครงงานวิชาชีพจนสำเรจ็ ลุลว่ งดว้ ยดี ผู้จดั ทำจึงขอกราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสูงไว้ ณ โอกาสนขี้ อขอบพระคุณคณะครแู ละคนในชมุ ชนบา้ นดอนแก้ว ท่ใี หค้ วาม อนเุ คราะหด์ า้ นสถานท่ีให้ คณะผจู้ดัทา ไปเผยแพรแ่ ละสาธิตความรูก้ ารทา โครงงาน “ตะไคร้หอมไล่ยุง” จนประสบความสำเรจ็ ขอกราบขอบพระคุณ บดิ า มารดา ทีใ่ หกำลงั ใจในการศกึ ษาเล่าเรียน และเพ่อื นๆท่ีโรงเรียนเรยี นใน โรงเรยี น ท่ใี หค้ วามรว่ มมอื เปน็ อย่างดีในการทำ โครงงานวชิ านจ้ี นกระทัง้ ประสบผลสำเร็จดว้ ยดี นางสาวพรชนก ใหม่วงค์ นางสาววนิดาพร พลแสน นางสาวณฐั ณชิ า เตชนันท์ นางสาวนันท์นภสั งิ้วผา นางสาวปวริศา สวุ รรณ



บทที่ 1 บทนำ ช่ือโครงงำน ตะไคร้หอมไลย่ งุ ช่ือผ้จู ัดทำโครงงำน 1.นางสาวพรชนก ใหมว่ งค์ 2.นางสาววนิดาพร พลแสน 3.นางสาวณฐั ณิชา เตชะนนั ท์ 4.นางสาวนนั ทน์ ภสั งิ้วผา 5.นางสาวปวริศา สุวรรณ ช่ือครูที่ปรึกษำ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ท่มี ำและควำมสำคัญของโครงงำน ปัจจุบนั ถา้ จะกล่าวถึงสัตวท์ ี่เป็นพาหะนาโรค สตั วอ์ นั ดบั ตน้ ๆที่คิดคงไมพ่ น้ ยงุ เนื่องจากยงุ เป็นพาหะนาโรคร้ายต่างๆท่ีคร่าชีวิตคนเป็นจานวนมาก ยงุ เป็นพาหะนาโรคหลายชนิดที่ เป็นอนั ตรายตอ่ มนุษย์ เช่น โรคไขเ้ ลือดออก ไขม้ าลาเรีย โรคเทา้ ชา้ ง เป็นตน้ จึงมีผคู้ ิดทาตวั ยาเพ่อื กาจดั และป้องกนั ยงุ ข้ึนมาหลายชนิด เช่น ครีมทากนั ยงุ ยาจุดกนั ยงุ ยาฉีดกนั ยงุ นา้ มนั ไลย่ งุ เป็นตน้ แต่ยากนั ยงุ เหล่าน้ีก่อใหเ้ กิดปัญหาข้ึนมากมาย เพราะมีสาร ที่เป็นอนั ตรายผสมอยู่ ซ่ึงทาใหผ้ ใู้ ชบ้ างคนเกิดอาการแพ้ ผจู้ ดั ทาโครงงานไดพ้ บวา่ มี ชาวบา้ นในทอ้ งถ่ินไดน้ าใบตะไคร้หอมนามาทุบแลว้ นามาวางไวใ้ กลต้ วั พบวา่ สามารถไล่ ยงุ ได้ จากการคน้ ควา้ ตะไคร้หอมเป็นสมนุ ไพรที่สามารถไล่ยงุ ได้ โดยใบตะไคร้หอม จะมี น้ามนั หอมระเหยสกดั สามารถใชไ้ ล่แมลงได้ เม่ือนาน้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอม มา

ทดสอบกบั ยงุ ที่เป็นพาหะของโรคมาลาเรีย ไขเ้ ลือดออก และเทา้ ชา้ ง พบวา่ มีผลป้องกนั ยงุ กดั ไดน้ าน 8-10 ชม. ดงั น้นั ทางกล่มุ จึงมีความคิดท่ีจะทาการศึกษา คน้ ควา้ โดยนาตะไคร้หอมมาใชใ้ นรูป สเปรย์ โดยใหม้ ีส่วนผสมของใบตะไคร้และน้าตะไคร้ซ่ึงจะไดส้ เปรยท์ ่ีมีประสิทธิภาพใน การไลย่ งุ และ หมดปัญหาการแพส้ ารเคมีได้ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงำน 1. เพอ่ื เสนอแนะแนวทางป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกและสารพิษที่เขา้ สู่ร่างกาย 2. เพ่อื นาวสั ดุที่มีอยใู่ นทอ้ งถิ่นมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 3. เพอื่ นาความรู้ท่ีไดม้ าเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้ 4. เพ่ือใชว้ ลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ขอบเขตของโครงงำน 1.ข้นั ตอนการทาสเปรยต์ ะไคร้หอม 2.การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ 3.ข้นั ตอนการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ 4.แบบสอบถามความพึงพอใจ 5.สรุปรายงานผล

วิธีกำรดำเนนิ งำน 1.ข้นั เตรียมกำร 1.1 ศึกษาโครงงาน 1.2 เขียนโครงงานเสนอ 2.ข้นั ดำเนินกำร 2.1 จดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ 2.2 ออกแบบบรรจุภณั ฑ์ 2.3 ทาการนาเสนอขอ้ มลู 3.ข้นั ประเมินผล 3.1 ประเมินจากแบบสอบถามความพึงพอใจ 3.2 สรุปรายงานผล ประโยชน์ทีค่ ำดว่ำจะได้รับจำกโครงงำน • มีความปลอดภยั และหมดปัญหาจากการแพส้ ารเคมี เพราะใชว้ สั ดุธรรมชาตจิ ากตะไคร้หอม • รู้จกั การนาพชื สมนุ ไพรมาใชไ้ ดต้ รงกบั ความตอ้ งการ • สามารถนาความรู้ไปต่อยอดไดอ้ ีกในเวลาต่อไป • ทราบถึงประโยชนข์ องตะไคร้

บทที่ 2 เอกสำรและงำนวจิ ัยท่ีเกย่ี วข้อง ในการศึกษาเร่ืองตะไคร้หอมไล่ยงุ ผจู้ ดั ทาไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลและเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งดงั น้ี 1.เอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั พืชที่นามาศึกษา คอื ตะไคร้หอม 1.1ลกั ษณะทางพฤศาสตร์ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ พชื ลม้ ลกุ มีอายหุ ลายปี มีเหงา้ ใตด้ ิน ลาตน้ ต้งั ตรง ออกเป็นกอ มีกลิ่นหอม ใบเด่ียว เรียงสลบั รูปยาวแคบ โคนใบแผ่ออกเป็นกาบ มีลิน้ ใบรูปไข่ มีขน อยตู่ รงรอยต่อระหวา่ งใบกบั กาบมีแผน่ ดอกช่อขนาดใหญ่ สีน้าตาล แดง แทงออกจากกลางตน้ ใบประดบั ลกั ษณะคลา้ ยกาบ ดอกช่อเชิงลด แยกเป็นหลายแขนง ออกเป็นคู่ ช่อยอ่ ยมี ใบประดบั ท่ีโคน 2 ใบ ใบนอกมีหยกั ดา้ นนอกแบนเขอบแผอ่ อกเป็นปี กแคบๆ และขอบดา้ นบนสาก ใบในรูป เรือ ปลายแหลมมีเส้นตามยาว 1-3 เสน้ ขอบมีขน แต่ละดอกยอ่ ยมีใบประดบั 2 แผ่น เรียกกาบบนและกาบล่าง กาบบนรูปขอบขนาน เน้ือบาง ขอบมีขน กาบล่างรูปยาว แคบ มีขนแขง็ และปลายแหลม ผลเป็นผลแหง้ เมลด็ เดียว ไม่แตก ส่วนท่ีใชเ้ ป็นยาและสรรพคุณ 1) ลาตน้ ตะไคร้หอมเป็นพืชลม้ ลุก อายปุ ระมาณไดน้ าน 6-8 ปี เป็นพชื ท่ีมีกล่ิน หอม เจริญเติบโตดว้ ยการแตก หน่อ หรือแตกเหงา้ มีทรงพมุ่ เป็นกอคลา้ ยตะไคร้บา้ น มีลาตน้ เน่ือง จาก เหงา้ ส้ัน รูปทรงกระบอกผิวเรียบเกล้ียง ส่วนเหนือดินสูงไดต้ ้งั แต่1-2 เมตร 2) ใบ ใบเป็นใบเด่ียว ขนาดใหญ่ยาว แต่บางกวา่ ตะไคร้บา้ น ใบเรียวยาว กวา้ ง 1.5-2.6 เซนติเมตร ยาว 60-115 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยกั ถ่ี คมแขง็ มีผิวใบสาก ไม่มีขน บริเวณโคนใบดา้ นในมีขน ปลายใบ

ยาวมีลกั ษณะโนม้ ลง ใบมีสีเขยี วแกมเหลืองกาบใบ เป็นส่วนหุม้ ที่มองเป็นลา ตน้ เทียม มีสีเขียวแกมแดงหรือสี ม่วง ซ่ึงต่างจากตะไคร้บา้ นท่ีมีสีขาวอม เขียว 3) ดอกและเมลด็ ดอกออกในฤดูหนาวออกเป็นช่อยาวขนาดใหญ่ เป็นแบบแยก แขนงขนาดใหญ่ยาวประมาณ 100 เซนติเมตรแกนกา้ นช่อยาวโคงห้ กั ไปหกั มา ช่อดอกยอ่ ยเป็น แบบกระจบั หรือแบบเชิงลด ดอกประกอบดว้ ย ดอกสมบรู ณ์เพศกาบล่างมี2 หยกั สีใส รยางคแ์ ขง็ ยาว(ถา้้มีรยางค)้์ไม่มีกาบบน กลบั เกลด็ มี 2 กลบั เกสรเพศ ผมู้ ี 3 อนั เกสรเพศเมียมี 2 อนั ยอดเกสร ปกคลมุ ดว้ ยขนยาวนุ่ม กา้ นยอ่ ยรูปรีเป็นดอกเพศผูห้ รือดอกเป็นหมนั กาบช่อยอยขา้ งล่าง มีเส้น 7-9 เส้น ดอกยอ่ ยจริงมีเกลด็ 1 เกลด็ ยาวประมาณ 0.3 เซนติเมตร มีสีใส ลอ้ มเกสรเพศ ผไู้ ว้ 3 อนั และมี กลีบเกลด็ 2 กลีบ ผลเป็นแบบผลแหงต้ ิดเมลด็ รูปทรงกระบอกออกกลม และมีข้วั ท่ีฐาน 4) น้ามนั หอมระเหยตะไคร้หอม น้ามนั หอมระเหย (volatile oil) เป็นสารอินทรียท์ ่ี พชื สงั เคราะห์ข้ึน มีกลิ่น และ รสเฉพาะตวั ถกู สร้างไวใ้ นเซลลพ์ ิเศษ ผนงเั ซลลต์ อ่ มหรือท่อภายใน พชื น้ามนั หอมระเหยเกิดข้ึนจาก กระบวนการเมทาบอลิซึมระดบั ทตุ ิยภูมิ(secondary metabolite) แต่เป็นสารท่ีไม่ไดท้ าหนา้ ท่ีต่อการเจริญเติบโต เป็นสารที่พบในพืชบางชนิด สารต้งั ตน้ ใน กระบวนการผลิตน้ามนั หอมระเหย เป็นสารท่ีไดจ้ ากปฏิกิริยาเม แทบอลิซึมระดบั ปฐมภมู ิ(primary metabolite) แตกตา่ งกนั ที่มีเอนไซมเ์ ป็นตวั เร่งปฏิกิริยาของการผลิตน้ามนั หอมระเหยแตล่ ะชนิด พืชที่ผลิตน้ามนั หอมระเหยไดจ้ ะสงั เคราะห์จดั เก็บ และปลดปล่อยกลิ่นน้ามนั หอมระเหย แตกตา่ งกนั สาหรับตะไคร้หอม เป็นพืชที่สร้างน้ามนั หอมระเหยจากเซลลข์ นขนาดเลก็ (microhairs) ท่ีอยู่ บริเวณเน้ือเยอ่ื ถาวร abaxial epidermis ของใบ 1.2 สรรพคณุ ของตะไคร้ มีส่วนช่วยในการขบั เหง่ือ เป็นยาบารุงธาตุไฟใหเ้ จริญ (ตน้ ตะไคร้) มีสรรพคณุ เป็นยาบารุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร ช่วยแกอ้ าการเบ่ืออาหาร (ตน้ ) สารสกดั จากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกนั โรคเมะเร็งลาไส้ใหญ่ แกแ้ ละบรรเทาอาการหวดั อาการไอ

ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด) ใชเ้ ป็นยาแกไ้ ขเ้ หนือ (ราก) น้ามนั หอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้ ช่วยแกอ้ าการปวดศีรษะ ช่วยรักษาโรคความดนั โลหิตสูง (ใบสด) ใชเ้ ป็นยาแกอ้ าเจียน หากนาไปใชร้ ่วมกบั สมนุ ไพรชนิดอ่ืนๆ (หวั ตะไคร้) ช่วยแกอ้ าการกษยั เสน้ และแกล้ มใบ (หวั ตะไคร้) รักษาโรคหอบหืด ดว้ ยการใชต้ น้ ตะไคร้ ช่วยแกอ้ าการเสียดแน่นแสบบริเวณหนา้ อก (ราก) ใชเ้ ป็นยาแกอ้ าการปวดทอ้ งและอาการทอ้ งเสีย (ราก) ช่วยแกแ้ ละบรรเทาอาการปวดทอ้ ง ช่วยรักษาอาการทอ้ งอืดทอ้ งเฟ้อ (หวั ตะไคร้) ช่วยในการขบั น้าดีมาช่วยในการยอ่ ยอาหาร น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้ มีส่วนช่วยลดการบีบตวั ของลาไส้ได้ มีฤทธ์ิช่วยในการขบั ปัสสาวะ ช่วยแกอ้ าการปัสสาวะพิการ และรักษาโรคน่ิว (หวั ตะไคร้) ช่วยแกอ้ าการขดั เบา (หวั ตะไคร้) ใชเ้ ป็นยาแกข้ บั ลม (ตน้ ) ช่วยรักษาอหิวาตกโรค ช่วยแกล้ มอมั พาต (หวั ตะไคร้)

ใชเ้ ป็นยารักษาเกล้ือน (หวั ตะไคร้) น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อตา้ นเช้ือราบนผวิ หนงั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ช่วยแกโ้ รคหนองใน หากนาไปผสมกบั สมนุ ไพรชนิดอื่นๆ ประโยชน์ของตะไคร้ นามาใชท้ าเป็นน้าตะไคร้หอม น้าตะไคร้ใบเตย ช่วยดบั ร้อนแกก้ ระหายไดเ้ ป็นอยา่ งดี ช่วยในการบารุงและรักษาสายตา มีส่วนช่วยในการบารุงกระดูกและฟันใหแ้ ขง็ แรง มีส่วนช่วยในการบารุงสมองและเพ่ิมสมาธิ สามารถนามาใชท้ าเป็นยานวดได้ ช่วยแกป้ ัญหาผมแตกปลาย (ตน้ ) มีฤทธ์ ิเป็ นยาช่วยในการนอนหลบั การปลกู ตะไคร้ร่วมกบั ผกั ชนิดอ่ืนๆจะช่วยป้องกนั แมลงไดเ้ ป็นยงั ดี เพราะนามาใชเ้ ป็นส่วนประกอบของสาร ระงบั กลิ่นตา่ งๆ ตน้ ตะไคร้ช่วยดบั กล่ินคาวหรือกล่ินคาวของปลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี กลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไลย่ งุ และกาจดั ยงุ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี เป็นส่วนประกอบของผลิตภณั ฑจ์ าพวกยากนั ยงุ ชนิดตา่ งๆ เช่น ยากนั ยงุ ตะไคร้หอม สารสาคญั ท่ีเป็นสารออกฤทธ์ิ น้ามนั ตะไคร้หอมมีส่วนประกอบที่สาคญั ในการออกฤทธ์ิ คือ camphor, cineol, eugenol, citral และ linalool, citronellal และgeraniol 1.3 ตะไคร้หอมกบั ฤทธ์ิในการไล่ยงุ และแมลง 1. ฤทธ์ิไลย่ งุ และแมลง

น้ามนั ตะไคร้หอม (Citronella oil) ซ่ึงเป็นน้ามนั หอมระเหยสกดั จากตน้ ตะไคร้หอมสามารถใชไ้ ล่ แมลงได้ สามารถป้องกนั ยงุ ลาย ยงุ กน้ ปลอ่ ง และยงุ ราคาญกดั ไดน้ านประมาณ 2 ชว่ั โมง ครีมที่มีส่วนผสมของ น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอมร้อยละ 14 สามารถทาป้องกนั ยงุ ราคาญไดใ้ นอาสาสมคั ร 13 คน จาก ท้งั หมด 20 คน และมีประสิทธิภาพในการป้องกนั ยงุ กดั ไดน้ าน 2 ชว่ั โมง ซ่ึงใกลเ้ คยี งกบั ครีมจากสารสงั เคราะห์ (dimethyl phthatate ร้อยละ 20 และ diethyl toluamide ร้อยละ 5) ครีมท่ีมีน้ามนั จากใบตะไคร้หอม ความเขม้ ขน้ ร้อยละ 1.25, 2.5 และ 5 มีประสิทธิภาพในการป้องกนั ยงุ กน้ ปล่องไดน้ าน 2 ชวั่ โมง และที่ความเขม้ ขน้ ร้อย ละ 10 จะป้องกนั ไดม้ ากกวา่ 4 ชวั่ โมง ตารับครีมท่ีมีส่วนผสมของน้ามนั ขา่ ร้อยละ 5 น้ามนั ตะไคร้หอมร้อย ละ 2.5 และวานิลลินร้อยละ 0.5 มีประสิทธิภาพการป้องกนั ยงุ กดั ไดน้ านกวา่ 6 ชม. น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอม สามารถป้องกนั ยงุ ที่เป็นพาหะของโรคมาลาเรีย ไขเ้ ลือดออก และ เทา้ ชา้ งไดน้ าน 8-10 ชวั่ โมง ความเขม้ ขน้ ที่ใหผ้ ลป้องกนั ยงุ ลายไดร้ ้อยละ 50 (EC50) และร้อยละ 95 (EC95) เท่ากบั ร้อยละ 0.031 และ 5.259 ตามลาดบั น้ามนั หอมระเหยความเขม้ ขน้ ร้อยละ 1 สามารถป้องกนั ยงุ กดั ไดร้ ้อยละ 75.19 สารสกดั ดว้ ยเอทานอลร้อยละ 90 จากตะไคร้หอม และสารสกดั ตะไคร้หอมที่ผสมกบั น้ามนั มะกอกและน้ามนั หอมระเหยกลิ่นชะมดเชด็ เมื่อนามาทดสอบกบั ยงุ ลายและยงุ ราคาญตวั เมีย จะมี ประสิทธิภาพในการไลย่ งุ ไดน้ านประมาณ 2 ชวั่ โมง นอกจากน้ียงั มีผลในการควบคุมและกาจดั ลูกน้ายงุ ไดด้ ว้ ย น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้หอมความเขม้ ขน้ ร้อยละ 10 มีฤทธ์ิไลต่ วั อ่อนของเห็บไดน้ าน ถึง 8 ชว่ั โมง และสามารถไลต่ วั อ่อนของเห็บพนั ธุ์ Amblyomma cajennense ไดด้ ว้ ย ค่า EC50 และ EC90 เท่ากบั 0.089 และ 0.343 มิลลิกรัม/ตารางเซ็นติเมตร และท่ีความเขม้ ขน้ 1.1 มิลลิกรัม/ ตารางเซ็นติเมตร ไลต่ วั อ่อนของเห็บไดร้ ้อยละ 90 นาน 35 ชวั่ โมง นอกจากน้ียงั มีฤทธ์ิไล่แมลงที่ทาลายเมลด็ ขา้ วที่เกบ็ ไว้ โดยไม่มีผลต่อคุณภาพของขา้ ว นอกจากน้ีตะไคร้หอมยงั มีฤทธ์ิไลแ่ มลงวนั ผีเส้ือกลางคนื และ พวกแมลงบินตา่ งๆ ไดด้ ว้ ย

บทท3่ี วิธีการดาเนินโครงงาน โครงงาน”ตะไครห่ อมไลย่ งุ ”ประกอบดว้ ย การทางานในสว่ นต่างๆมี วิธีการดาเนินการ ดงั นี้ 1.กลมุ่ ตวั อยา่ ง 2.เครือ่ งมือในการศกึ ษา 3.วธิ ีการดาเนินการ 4.วิธีการเกบ็ รวมรวบขอ้ มลู 3.1กลุม่ ตัวอย่าง ประชากรบา้ นดอนแกว้ จานวน 10คน 3.2เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการศึกษา -ผลิตภณั ฑ์ -แบบสอบถามความพงึ พอใจ 3.3วิธกี ารดาเนินงาน

3.3.1 อปุ กรณ์ 1แอลกอฮอล์ 2ตะไครห้ อม 3.ขวดสเปรย์ ขนาด 18 cc 3ขวดแกว้ 3.3.2วธิ ีทา 1.สบั ตะไครใ้ หล้ ะเอียด

2.นาตะไครท้ ่สี บั ละเอียดแลว้ ใสล่ งในขวด 3.เตมิ แอลกอฮอลใ์ หท้ ว่ มตะไคร้ 4 หมกั ไวเ้ ป็นเวลา3สปั ดาห์ 5 นาใสข่ วดสเปรย์ 3.3.3 ประโยชนข์ องผลติ ภณั ฑ์

1. เพ่อื เสนอแนะแนวทางปอ้ งกนั โรคไขเ้ ลอื ดออกและสารพษิ ท่เี ขา้ สรู่ า่ งกาย 2. เพ่อื ใชไ้ ลย่ งุ และแมลง 3.3.4 การดูแลรักษาผลตภิ ัณฑ์ 1. วางไวใ้ นท่เี หมาะสม 2. วางใหพ้ น้ จากมอื เด็ก 3.4 วธิ ีการใชง้ านและเก็บรวบรวมขอ้ มลู ไดแ้ จกแบบสอบถามความพงึ พอใจ จานวน 10 คน และ เก็บรวบรวมแบบสอบถาม และสรุปผล

บทที่ 4 ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ในการศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง ตะไคร้หอมไลย่ งุ ผศู้ ึกษาคน้ ควา้ ไดก้ าหนดวตั ถุประสงคแ์ ละสมมติฐาน ไว้ ดงั น้ี วัตถปุ ระสงค์ของปัญหำ 1. เพ่ือเสนอแนะแนวทางป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกและสารพิษที่เขา้ สู่ร่างกาย 2. เพอื่ นาวสั ดุที่มีอยใู่ นทอ้ งถิ่นมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 3. เพอ่ื นาความรู้ที่ไดม้ าเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้ 4. เพอ่ื ใชว้ ลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ สมมตฐิ ำน คาดวา่ ตะไคร้หอมไล่ยงุ จะสามารถไลย่ งุ ไดด้ ีและไม่เป็นอนั ตารายตอ่ ผใู้ ช้ สรุปผลกำรศึกษำ ดังนี้ ประโยชน์ของตะไคร้ มีดงั น้ี 1. มีส่วนช่วยในการขบั เหงื่อ 2. เป็นยาบารุงธาตุไฟให้เจริญ (ตน้ ตะไคร้) 3. มีสรรพคุณเป็นยาบารุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร 4. ช่วยแกอ้ าการเบื่ออาหาร (ตน้ ) 5. สารสกดั จากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกนั โรคเมะเร็งลาไสใ้ หญ่ 6. แกแ้ ละบรรเทาอาการหวดั อาการไอ 7. ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด) 8. ใชเ้ ป็นยาแกไ้ ขเ้ หนือ (ราก) 9. น้ามนั หอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้ 10. ช่วยแกอ้ าการปวดศีรษะ

สรุปผลการศึกษา ตะไคร้มีกลิ่นฉุน ช่วยดบั กล่ินต่างๆและเม่ือปลูกรวมกบั ผกั ชนิดอ่ืนๆจะช่วยป้องกนั แมลงได้ ดงั น้นั ตะไคร้หอมจึงสามารถใชใ้ นการไล่ยงุ และแมลงได้ ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูลด้ำนกำรทดลองใช้ ผลการทดลองใชส้ ื่อสารการเรียนการสอนแยกเป็นบทเรียน 5 บท เรียงลาดบั การเรียนรู้ ผจู้ ดั ทาได้ ยกตวั อยา่ ง 1 บทเรียนดงั น้ี รูปภาพประกอบชิ้นงาน

ควำมพงึ พอใจของผ้ทู ดลองใช้ คำชีแ้ จง ทาเครื่องหมาย แบบประเมนิ ผลกำรจัดโครงงำน ตะไคร้หอมไล่ยงุ ลงในช่องความพอใจท่ีเห็นวา่ เหมาะสมท่ีสุด แตล่ ะช่องความหมายดงั น้ี 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ลาดบั ที่ รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ 5 12 3 4 1 ตน้ ตะไคร้หอมรักษาโรคไดจ้ ริงหรือไม่ 2 ตน้ ตะไคร้หอมมีประโยชน์มากนอ้ ยแค่ไหน 3 สเปรยต์ ะไคร้หอมสามารถไลย่ งุ ไดม้ ากแค่ ไหน 4 สเปรยต์ ะไคร้หอมไล่ยงุ ไดจ้ ริงหรือไม่ 5 ประสิทธิภาพจากสเปรยต์ ะไคร้หอม ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ .................................................................................................................................................................................

บทที่ 5 สรุปผล อภปิ ราย ข้อเสนอแนะ การจดั ทาโครงงาน “ตะไคร้หอมไลย่ ุง” ผจู้ ดั ทาไดส้ รุปผล อภปิ รายผล และมี ขอ้ เสนอแนะดงั นี้ 5.1 สรุปผล สรุปผลไดด้ งั นี้ 5.1.1 วัตถุระสงคข์ องโครงงาน 1.เพ่อื เสนอแนะนาวิธีการปอ้ งกนั โรคไขเ้ ลอื ดออกและสารพิษท่ีเขา้ สรู่ า่ งกาย 2.เพ่อื นาวสั ดทุ ่ีมีอยใู่ นทอ้ งถิ่นมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 3.เพ่อื นาความรูท้ ไ่ี ดม้ าเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ 4.เพ่อื ใชเ้ วลาใหเ้ กิดประโยชน์ 5.1.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรในหมบู่ า้ น บา้ นดอนแกว้ ต.เจดียช์ ยั อ.ปัว จ.นา่ น จานวน 10คน 5.1.3 เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการทดลอง 1.ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี า 2.แบบสอถามความพงึ พอใจ จานวน5ขอ้ แบบ5ระดบั

5.1.4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ของชาวบา้ น บา้ นดอนแกว้ ต.เจดยี ช์ ยั อ.ปัว จ. น่าน จานวน 10คน ท่มี ตี อ่ โครงงาน “ตะไคร้หอมไล่ยงุ ” สามารถใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ จรงิ โดยมคี วามคดิ เหน็ มาก มีค่าเฉลย่ี สงู สดุ เทา่ กบั 4.50 5.2 ปัญหาและอุปสรรค จากการทดลองและนาไปใชง้ าน โครงงาน “ตะไคร้หอมไลย่ งุ ” มกี ารจดั ทาอย่ใู น เกณฑด์ ี แตม่ ขี อ้ บกพรอ่ งบางสว่ นคอื -ขนาดของผลติ ภณั ฑไ์ ม่หลากหลาย 5.2.2 แนวทางแก้ปัญหา -ปรบั เปลี่ยนขนาดท่ใี ชบ้ รรจภุ ณั ฑใ์ หห้ ลากหลาย 5.3 ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะในการทาโครงงานในครง้ั ถดั ไป -จดั ทาบรรจภุ ณั ฑใ์ หม้ ีรูปแบบท่หี ลากหลาย

บรรณานุกรม ทม่ี าและความสาคญั : https://sites.google.com/site/takhirhxmliyung45/bth-thi1 ขอบเขตของการทางาน : https://nadechloveyaya.wixsite.com/phatsariya/blank-frjt2 วธิ ีการดาเนนิ งาน : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2196752

ภาคผนวก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook