หน้า ๑๓ ๑๕ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๔๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศครุ ุสภา เรอ่ื ง การรบั รองปรญิ ญาตามมาตรฐานวิชาชีพ หลกั สตู ร ๔ ปี พ.ศ. 2563 อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๙ (๗) แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการครุ ุสภา ในการประชมุ คร้งั ที่ 8/2562 วนั ท่ี 30 ตลุ าคม ๒๕๖๒ คุรุสภาจึงกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพ หลกั สูตร ๔ ปี ไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ประกาศนีใ้ หใ้ ชบ้ ังคับตัง้ แต่วันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ ๒ นอกจากจะกาหนดไวเ้ ปน็ อย่างอ่ืน ในประกาศน้ี “หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการรับรอง” หมายความว่า เกณฑ์การรับรองปริญญา ตามมาตรฐานวชิ าชีพ หลักสูตร ๔ ปี “ปริญญา” หมายความว่า ปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร ๔ ปี) หรือท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืน ซึ่งกาหนดให้มกี ารปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษาตามหลักสตู รเปน็ เวลาไมน่ อ้ ยกว่าหนง่ึ ปี “หลักสูตร” หมายความวา่ หลกั สตู รปริญญาตรที างการศึกษา (หลักสูตร ๔ ป)ี “มาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า มาตรฐานวิชาชีพครู ประกอบด้วย มาตรฐานความรู้ และประสบการณว์ ิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบตั งิ าน และมาตรฐานการปฏิบัติตน “สถาบนั ” หมายความว่า มหาวทิ ยาลยั วทิ ยาลัย สถาบัน หรอื หน่วยงานทเ่ี รียกชื่ออย่างอนื่ ทม่ี ฐี านะเทียบเทา่ ซงึ่ จัดการศกึ ษาตามหลกั สูตรในระดับปริญญา “หน่วยงาน” หมายความว่า คณะ หรือหน่วยงานท่ีเรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า ซง่ึ จดั การศกึ ษาตามหลกั สูตรในระดับปรญิ ญา “การปฏิบัติการสอน” หมายความว่า การฝึกปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน รวมทั้ง การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการคุรุสภา “คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งต้ังให้มีหน้าท่ีประเมิน เพื่อการรับรองปริญญา รวมทั้งพิจารณาเปรียบเทียบมาตรฐาน องค์ประกอบและรายละเอียดอ่ืน ๆ ในกรณี ทส่ี ถาบนั จดั การศกึ ษาที่ต่างไปจากมาตรฐานทีก่ าหนด “เลขาธกิ าร” หมายความวา่ เลขาธกิ ารครุ สุ ภา “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าท่ีของสานักงานเลขาธิการคุรุสภา ซง่ึ เลขาธิการแตง่ ตงั้ ข้อ ๓ การรบั รองปริญญาตามมาตรฐานวชิ าชพี โดยพจิ ารณาจากหลกั เกณฑ์ ๓ ดา้ น ดงั นี้ (๑) ดา้ นหลักสูตร
หน้า ๑๔ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๑๔๐ ง ราชกจิ จานุเบกษา (๒) ดา้ นกระบวนการผลิต (๓) ดา้ นผลลัพธ์ องค์ประกอบของเกณฑ์การรับรองตามวรรคหน่ึง และการติดตามผลการรับรองให้เป็นไป ตามรายละเอยี ดแนบทา้ ยประกาศน้ี ข้อ ๔ หลักสูตรที่จะเสนอใหค้ ุรุสภารับรองปรญิ ญา ต้องเปน็ หลักสูตรที่ได้รับความเห็นชอบ หรือได้รบั อนุมัติจากสภาสถาบัน และได้รบั ความเห็นชอบจากหนว่ ยงานที่ควบคมุ กากับ ดูแล ข้อ ๕ สถานที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาต้องได้รับความเห็นชอบหรือได้รับอนุมัติ จากสภาสถาบนั ข้อ ๖ สถาบันที่ประสงค์จะขอรับการประเมินเพ่ือรับรองปริญญา ให้ยื่นคาขอเป็นหนังสือ พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารตามแบบท่ีคุรุสภากาหนดต่อเลขาธิการก่อนเปิดสอนไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน และ สง่ ขอ้ มลู ผเู้ ขา้ ศึกษาแต่ละรุ่นภายในปแี รกของการศึกษา ในกรณีที่สถาบันโดยอนุมัติจากสภาสถาบันได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาก่อนที่ประกาศฉบับนี้ ใช้บังคับ และประสงค์จะขอรับการประเมินเพ่ือรับรองปริญญาให้ย่ืนคาขอเป็นหนังสือ พร้อมท้ังจัดส่ง เอกสารตามแบบทคี่ ุรสุ ภากาหนด และข้อมูลผู้เข้าศึกษาตอ่ เลขาธกิ าร ภายใน ๖๐ วัน นับตงั้ แตว่ นั ท่ี ประกาศฉบับนี้ใชบ้ งั คบั ขอ้ ๗ ให้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพเสนอรายชื่อบุคคลให้คณะกรรมการแต่งต้ัง เพอ่ื ทาหนา้ ท่ีประเมนิ เพอ่ื รับรอง ประกอบด้วย (๑) ประธานอนุกรรมการซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านบริหารจัดการการศึกษาและ มาตรฐานวิชาชีพ โดยมีตาแหน่งทางวิชาการไม่ต่ากว่ารองศาสตราจารย์ หรือดารงตา แหน่ง หรอื เคยดารงตาแหนง่ ทางการบริหารในระดบั อดุ มศกึ ษาไมต่ า่ กวา่ คณบดีหรือเทียบเท่า (๒) อนุกรรมการ จานวนไม่น้อยกว่าส่ีคน ซ่ึงเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้มีความรู้และ ประสบการณด์ ้านบรหิ ารจัดการการศกึ ษา ดา้ นวิชาการ หรอื ด้านการนเิ ทศการศกึ ษาในระดบั อุดมศกึ ษา (๓) อนุกรรมการจากกรรมการครุ สุ ภา จานวนไมเ่ กนิ สองคน ให้เลขาธิการแต่งตั้งพนกั งานเจ้าหนา้ ทค่ี นหนง่ึ เป็นอนุกรรมการและเลขานกุ าร ขอ้ ๘ คณะอนุกรรมการอาจขอข้อมูลเพ่ิมเติม หรือให้สถาบันช้ีแจงรายละเอียดเพิ่มเติม ประกอบการพิจารณาดว้ ยกไ็ ด้ โดยสถาบันจะตอ้ งสง่ ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ภายใน ๔๕ วนั ขอ้ ๙ เม่ือคณะอนุกรรมการประเมินหลักสูตรและการผลิตแล้วให้เสนอคณะกรรมการ พิจารณาตอ่ ไปโดยเร็ว ข้อ ๑๐ เม่ือคณะกรรมการให้การรับรองปริญญาแล้วให้เลขาธิการจัดทาประกาศคุรุสภาและ แจ้งใหส้ ถาบันทราบ ในกรณีท่ีคณะกรรมการเห็นว่า ผลการประเมินไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ให้เลขาธิการแจ้งให้ สถาบนั ปรับปรงุ ให้เปน็ ไปตามเกณฑ์ภายในระยะเวลาทคี่ ณะกรรมการกาหนด
หน้า ๑๕ ๑๕ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๔๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๑๑ ในกรณีที่สถาบันเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่ได้รับการรับรองแล้ว ให้แจ้ง การเปลย่ี นแปลงเป็นหนงั สอื ต่อเลขาธิการ เพอื่ ดาเนินการประเมินตามท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลง หรือในกรณี ท่ีคณะอนุกรรมการติดตามผลการรับรอง ให้นาความในข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๙ และข้อ ๑๐ มาใช้บงั คับโดยอนุโลม คณะกรรมการอาจเพิกถอนการรับรองตามข้อ ๑๐ หากผลการประเมินตามวรรคหนึ่ง ไมเ่ ป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ีก่ าหนด โดยจดั ทาประกาศคุรุสภาและแจง้ ใหส้ ถาบันทราบ ขอ้ ๑๒ การรับรองปริญญาของแต่ละสถาบันมีกาหนดไม่เกินคราวละห้าปีและสถาบัน ตอ้ งขอรบั การประเมนิ ใหมก่ ่อนครบกาหนดไมน่ ้อยกว่า ๖๐ วัน ขอ้ ๑๓ การดาเนนิ งานรบั รองปรญิ ญาของแตล่ ะสถาบันให้แล้วเสรจ็ ภายใน ๑๘๐ วัน ทง้ั นี้ วธิ กี ารและแนวปฏิบัติในการรับรองปริญญาให้เป็นไปตามท่ีคณะอนกุ รรมการกาหนด ข้อ ๑๔ สถาบันจะต้องส่งข้อมูลหลังการรับรองตามที่คุรุสภากาหนด โดยคณะอนุกรรมการ จะติดตามผลเชงิ ประจกั ษ์ ไม่นอ้ ยกวา่ หลกั สตู รละ ๑ ครง้ั ข้อ ๑๕ ปริญญาท่ีคุรุสภาให้การรับรอง เป็นคุณวุฒิท่ีขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ได้ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขท่ีคุรสุ ภากาหนด ให้สถาบันเสนอรายชื่อผู้ได้รับปริญญาในแต่ละปีการศึกษาเพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาต ประกอบวชิ าชีพตอ่ เลขาธกิ าร ข้อ ๑๖ ในกรณที ไี่ มเ่ ปน็ ไปตามประกาศข้อใดข้อหนง่ึ ให้คณะกรรมการพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี 2 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖3 ณฏั ฐพล ทปี สวุ รรณ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการครุ ุสภา
รายละเอียดแนบท้าย ประกาศคุรสุ ภา เร่ือง การรับรองปรญิ ญาตามมาตรฐานวชิ าชีพ หลักสตู ร ๔ ปี พ.ศ. 2563 ------------------- สว่ นท่ี 1 กรอบแนวคิดการกาหนดหลักเกณฑก์ ารรบั รองปริญญา การกาหนดหลักเกณฑ์การรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพของหลักสูตร ๔ ปี มีการกาหนดกรอบแนวคิดของหลักสูตร ๔ ปี เป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะ เน้นการส่ือสาร ไปถึงสถาบันอุดมศึกษาว่าจุดยืนของคุรุสภาต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนการสอน ใหส้ อดรบั กับมาตรฐานวิชาชีพครู ฐานสมรรถนะ เนน้ กระบวนการร่วมพัฒนาไปกับสถาบันอุดมศึกษา ยดึ หลกั การในการทางาน ๖ ด้าน ดงั น้ี ๑. หลักกฎหมาย พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ กาหนดให้คุรุสภามีอานาจหน้าท่ีในการรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพ และผู้ ท่ีจะขอรับ ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม จะต้องมีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ดังน้ัน จึงต้องมีการรับรองปริญญาตามหลักกฎหมายดังกล่าว และผูจ้ ะขอรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตอ้ งมีคุณวุฒทิ ี่คุรสุ ภารับรอง ๒. ต้องเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยเฉพาะกระบวนการปฏิบัติการสอน ในสถานศึกษา นิสิตนักศึกษาต้องได้รับประสบการณ์และสมรรถนะที่เพียงพอสาหรับการออก ไปปฏิบตั ิวิชาชีพในอนาคต และการรบั รองปริญญายดึ กรอบการพิจารณา 3 ดา้ น ได้แก่ ดา้ นหลกั สตู ร ด้านกระบวนการ และด้านผลลัพธ์ รวมถึงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน จาก “Content Based” ไปเป็น “Competency Based” โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาให้กับ สถาบันอุดมศกึ ษา และใชเ้ ปน็ ส่วนหนง่ึ ในกระบวนการตดิ ตามการดาเนินงาน ๓. หลักเกณฑ์การรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา หลักสูตร ๔ ปี ต้องไม่ตา่ กว่าเกณฑเ์ ดมิ แตเ่ พ่มิ จดุ เน้น คอื 3.1 มีโครงสร้างมาตรฐาน เพื่อให้เกิดคุณภาพในการผลติ เน้นการป้องกันและคุ้มครอง ผูบ้ ริโภค 3.2 เปน็ การกระตุน้ ให้สถาบันอุดมศึกษาเกิดการเปล่ียนแปลงกระบวนการจัดการเรียน การสอนท่ีไม่เน้นการบรรยาย แต่ส่งเสริมให้ครูของครูสร้างและใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ เพื่อเปน็ การยกระดับคุณภาพการผลิตครใู หส้ อดคล้องกับการเปล่ยี นแปลงและสภาพปญั หาการศึกษา ในปัจจบุ ัน ๔. กาหนดเฉพาะตัวช้ีวัดท่ีสาคัญ ที่เป็น KSF (Key Success Factor) หรือ Critical point เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาได้เกิดการพัฒนา มีการส่งต่อข้อมูลไปยังคณะกรรมการที่จะทาหน้าท่ี ประเมินและติดตาม และให้ความสาคัญกับ 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กระบวนการในการรับรอง 2) การรายงานของหน่วยผลิต และ 3) กระบวนการติดตามประเมินและจะต้องเป็นการรับรอง โดยขอให้สถาบนั อุดมศึกษามีกระบวนการปรับปรงุ ไปในทศิ ทางทด่ี ีข้ึน
-๒- 5. แก้ปัญหาการดาเนินงานเดิม เช่น แนวปฏิบัติท่ีเน้นการประเมินเอกสาร ตรวจสอบตาม รายการที่กาหนด ซึ่งทาให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติกับสถาบันอุดมศึกษา จึงไม่ควรมีแนวปฏิบัติ แบบเดิม แต่ควรตรวจสอบจากสิ่งที่สถาบันอุดมศึกษาดาเนินการ ว่าสามารถตอบโจทย์ ท่ีคุรุสภากาหนด เพ่ือส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษามีจุดเด่นของตัวเองในการผลิตบัณฑิต และต้อง ไม่ซ้าซอ้ นการดาเนนิ งานของสานักงานปลัดกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม การประกันคุณภาพภายในและภายนอก ๖. สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง เช่น เป้าหมายการจัดการศึกษาตามมาตรฐาน การศึกษาของชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ การใช้และการรู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล การจัดกระบวนการเรียนรู้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ การมแี หลง่ การเรยี นร้ทู ่ีหลากหลาย เป็นต้น ส่วนที่ 2 วธิ ีการรับรองปริญญา การรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา หลักสูตร ๔ ปี มีวิธีการและ หลักเกณฑ์การรบั รองปรญิ ญา ดงั น้ี 2.1 การขอรบั รองปรญิ ญา หลักสูตรท่ีสถาบันอุดมศึกษาเสนอขอรับรอง ต้องเป็นหลักสูตรที่ได้รับความเห็นชอบ หรือได้รับการอนุมัติจากสภาสถาบัน และได้รับทราบจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม 2.2 ระยะเวลาในการย่นื คาขอรับรองปริญญา สถาบันที่ประสงค์จะขอรับการประเมินเพื่อรับรองปริญญาให้ย่ืนคาขอเป็นหนังสือ พร้อมจัดส่งเอกสารตามแบบท่ีคุรุสภากาหนดต่อเลขาธิการก่อนเปิดสอนไม่น้อยกว่า 60 วัน สาหรบั การเสนอขอรบั รองในปี 2562 ไมน่ าเงือ่ นไขน้ีมาประกอบการพิจารณา ส่วนที่ 3 หลกั เกณฑก์ ารรบั รองปริญญา หลักเกณฑ์การรับรองปริญญาตามมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา หลักสูตร ๔ ปี พิจารณา จากองคป์ ระกอบ ๓ ด้าน ดังนี้ ๑) ดา้ นหลักสตู ร ๒) ด้านกระบวนการผลิต และ ๓) ดา้ นผลลพั ธ์ 1. ดา้ นหลักสูตร ประเดน็ การประเมิน เกณฑ์การรับรอง 1.1 แผนการรบั นสิ ิตนักศึกษา 1) มีการรับนิสิตนักศึกษาไม่เกินแผนการรับท่ีกาหนดไว้ใน 1.2 การคัดเลือกนสิ ติ นักศึกษา มคอ.๒ หรือแผนการรับท่ีสภาสถาบันอนุมัติและ เสนอไปยงั หนว่ ยงานที่กากบั ดแู ล 2) จานวนอาจารย์นิเทศก์ ๑ คน ดูแลนิสิตนักศึกษา ที่ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ ไมเ่ กนิ ๑๐ คน มีกระบวนการคัดเลือกนสิ ติ นักศึกษาชัดเจนเป็นระบบ สามารถคดั กรองผู้ท่มี ีคุณลักษณะเหมาะสมกับความเป็นครู
-๓- ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การรับรอง 1.3 ความสอดคล้องของรายวชิ ากบั สถาบันอุดมศึกษาสามารถอธิบายได้ว่าแต่ละรายวิชา มาตรฐานวชิ าชีพ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษาทุกคน มีสมรรถนะสอดคล้องกับ มาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งต้องแสดงข้อมูลหรือหลักฐาน ๑) มาตรฐานความรู้และ เชิงประจักษ์ประกอบการพิจารณา เช่น Curriculum ประสบการณ์วชิ าชีพ mapping ๒) มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน ประกอบด้วย (๑) การปฏบิ ัติงานในหน้าท่ีครู (2) การจัดการเรยี นรู้ (๓) ความสมั พันธก์ บั ผูป้ กครอง และชุมชน ๓) มาตรฐานการปฏบิ ตั ติ น 2. ด้านกระบวนการผลติ ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารรับรอง ๒.๑ หนว่ ยงานท่รี ับผิดชอบ 1) คณะหรือหนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบการผลติ ครตู ้องมี หลักสตู รผลติ ครู บทบาทหนา้ ท่ี ในด้านการผลิตครู หรอื ได้รับมอบหมาย พันธกจิ ท่ีเกีย่ วข้องกบั การผลติ ครู จากสภาสถาบัน ๒.๒ อาจารย์ผสู้ อนรายวชิ าชพี ครู 2) มีหนว่ ยงานท่ีรับผิดชอบดูแลการจดั การเรยี นรู้ ๒.๓ การจดั การเรียนร้/ู รายวชิ าชพี ครู การจัดประสบการณว์ ิชาชีพครู กระบวนการเรียนรู้ และการบ่มเพาะความเปน็ ครู สงั กัดคณะครุศาสตร/์ ศกึ ษาศาสตร์ หรอื ชือ่ เรียกเป็นอยา่ งอ่นื 1) คุณสมบตั ิอาจารยผ์ ูส้ อนรายวิชาชพี ครู สอดคล้องกบั ที่ กาหนด ใน มคอ.๑ ของ อว. 2) อาจารยผ์ สู้ อนมีคณุ วฒุ ิ หรอื ประสบการณส์ อดคล้องกบั รายวชิ าทีส่ อน 1) สัดสว่ นอาจารย์ผูส้ อนต่อผู้เรียน ในรายวชิ าชพี ครูท่มี ี การปฏบิ ัติ ไมเ่ กนิ ๑ : 30 2) มกี ารจัดการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย เสรมิ สรา้ งทักษะ ศตวรรษท่ี 21 โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ 3) ส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องผ้เู รียนโดยใชก้ ระบวนการชมุ ชน การเรยี นรวู้ ชิ าชพี (Professional Learning Community: PLC) ๔) มีการบูรณาการการเรียนรู้กบั สถานศึกษาหรือแหล่ง เรียนรทู้ ่ีเกีย่ วขอ้ ง 5) มีการนาผลการประเมินนสิ ติ นกั ศกึ ษา มาใช้ในการปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้ 6) มีการนาเทคโนโลยสี มยั ใหม่มาประยุกต์ใชใ้ นกระบวนการ จัดการเรียนรู้
-๔- ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การรบั รอง ๒.๔ การวัดและการประเมนิ ๑) มกี ารกาหนดหลกั เกณฑ์ วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๒.๕ บรรยากาศ สภาพแวดล้อม การเรยี นรู้อยา่ งชดั เจนและเป็นระบบ และการใชเ้ ทคโนโลยี 2) อาจารยผ์ ู้สอนในรายวิชาชีพครู ยดึ ถือและปฏบิ ัติตาม 1) มีการจดั บรรยากาศและ เกณฑ์การวัดและประเมินผลท่ีกาหนดในประมวลรายวิชา สภาพแวดล้อมส่งเสริม หรือรายละเอียดรายวชิ า (course syllabus) การเรียนรู้ ๑) มหี ้องเรียนที่เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ทเี่ น้นผู้เรยี นเป็น 2) มีโครงสรา้ งพื้นฐานด้าน สาคัญ เทคโนโลยี ท่สี นบั สนุน การเรียนรู้ ๒) มวี สั ดุ อุปกรณ์ และส่ือการเรยี นรทู้ ่ีเพียงพอและเอ้ือต่อ การจัดการเรียนรู้ ทง้ั ดา้ นปริมาณและคุณภาพ 2.6 ระบบการนิเทศ 3) มหี อ้ งหรือสถานท่ีฝึกปฏบิ ัตกิ ารวชิ าชพี ครูและวิชาเฉพาะ ท่เี หมาะสม 4) มแี หลง่ ทรัพยากรการเรยี นรู้ เช่น หอ้ งสมดุ /หอ้ งสมดุ เสมอื นจรงิ (virtual library) ท่ผี ู้เรยี นสามารถเข้าถึงและ ใช้บรกิ ารได้อยา่ งเพยี งพอ 5) มโี ครงสร้างพ้นื ฐานด้านเทคโนโลยที ี่สนับสนนุ การเรยี นรู้ ในปริมาณและคุณภาพท่ีเหมาะสมกับจานวนผู้เรียน 6) มีการจดั สภาพแวดล้อมท่ีเอื้ออานวยต่อการเรียนรู้และ เสริมสร้างคุณลักษณะบัณฑติ ท่ีพงึ ประสงค์ 1) อาจารยน์ เิ ทศก์ต้องมปี ระสบการณ์ในการนิเทศ ไม่นอ้ ยกว่า 2 ปี กรณมี ปี ระสบการณน์ เิ ทศตา่ กวา่ ที่กาหนดต้องมีอาจารยท์ ี่ทาหน้าท่ีเปน็ อาจารย์นิเทศก์พี่เล้ียง 2) สัดส่วนอาจารยน์ เิ ทศกต์ อ่ นสิ ิตนกั ศึกษา ต้องไมเ่ กิน ๑ : ๑๐ ๓) มีหลกั เกณฑ์ในการมอบหมายภาระงานให้กบั ผทู้ าหนา้ ท่ี อาจารยน์ ิเทศก์ทช่ี ดั เจน 4) มกี ารประชุมสัมมนาอาจารยน์ เิ ทศก์ เพื่อสร้างความเข้าใจ ร่วมกันเกย่ี วกับคูม่ ือการนเิ ทศและเกณฑ์การนเิ ทศ 5) มคี ู่มอื การนิเทศการฝึกปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหว่างเรยี นและ การปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษาในสาขาวิชาเฉพาะ สาหรับอาจารย์นิเทศก์ โดยมเี อกสาร/แบบฟอร์มในการนิเทศ นิสติ นกั ศกึ ษาทชี่ ัดเจน
ประเด็นการประเมนิ -๕- 2.7 การปฏบิ ตั ิการสอน เกณฑก์ ารรับรอง 6) มคี มู่ อื การฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรียนและการปฏิบตั ิ การสอนในสถานศกึ ษาในสาขาวิชาเฉพาะสาหรับนิสติ นักศึกษา 7) มีการนิเทศการฝึกปฏบิ ตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรียน 8) มกี ารนิเทศการปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวชิ า เฉพาะ ไม่น้อยกวา่ ๓ ครง้ั /ภาคเรียน โดยตอ้ งเปน็ การนเิ ทศเต็มคาบการสอนแบบ face to face ไมน่ ้อยกวา่ ๒ ครั้ง และอกี ๑ คร้ัง อาจใชว้ ธิ กี าร นเิ ทศเตม็ คาบการสอนแบบ face to face หรอื วิธีอนื่ ๆ ร่วมดว้ ย เชน่ ผา่ นสื่อออนไลน์ การสมั มนาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ เป็นต้น 9) มีหลกั ฐานการนเิ ทศนิสติ นกั ศึกษา ท่จี ดั เกบ็ เป็นระบบ พรอ้ มรับการตรวจสอบ 1) สถาบันมเี กณฑห์ รือหลกั การในการคัดเลือก สถานศกึ ษาเครือข่ายสาหรบั ปฏิบตั ิการสอน ๒) มีสถานศึกษาเครือขา่ ยความร่วมมือเพื่อเปน็ พน้ื ท่ี ในการปฏบิ ตั ิการสอนตลอดหลักสตู รอย่างเพียงพอ และเหมาะสม 3) มีแผนการทางานรว่ มกนั ระหวา่ งสถาบนั กับสถานศึกษา เครอื ขา่ ยในการพฒั นานิสิตนักศึกษาตลอดวงรอบ ของหลกั สตู ร 4) มีชว่ั โมงการฝึกปฏิบัติวชิ าชพี ระหว่างเรยี นและ การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาในสาขาวชิ าเฉพาะ ไมน่ ้อยกว่า 540 ชั่วโมง สาหรบั ชว่ั โมงการปฏบิ ตั ิการ สอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ ตอ้ งไม่น้อยกวา่ สปั ดาหล์ ะ ๘ คาบ และงานอ่ืนๆ ในหน้าทคี่ รู ไมน่ ้อยกวา่ สปั ดาหล์ ะ ๘ คาบ ไมน่ ้อยกว่า 1 ภาคเรยี น ๕) มีการวจิ ยั เชงิ ปฏิบตั ิการในช้นั เรยี นเป็นรายบคุ คล ๖) มกี ารประเมินสมรรถนะและรายงานผลการพัฒนา คณุ ภาพนิสิตนักศึกษาแยกตามระดับชน้ั ปี ๗) มีการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ารปฏบิ ตั กิ ารสอน ของนิสติ นักศึกษา อย่างนอ้ ยปลี ะ ๑ คร้งั ๘) มแี ผนในการพัฒนา/ปรับปรงุ การปฏิบัติการสอน ในสถานศึกษาทชี่ ดั เจน
ประเด็นการประเมิน -๖- ๒.8 กิจกรรมเสริมความเปน็ ครู เกณฑก์ ารรบั รอง ๒.9 การพัฒนาทกั ษะด้าน ๑) นิสติ นกั ศกึ ษา เข้ารว่ มกจิ กรรมเสริมความเปน็ ครู ภาษาอังกฤษ ปีละไมน่ ้อยกว่า ๒ กจิ กรรม ๒) มกี ารบันทึกการเรยี นรแู้ ละสะท้อนคิดการเปล่ยี นแปลง ทีเ่ กดิ ขึ้นของนิสติ นักศึกษา ๓) มกี ระบวนการติดตามพฒั นาการของนิสติ นกั ศึกษา ตงั้ แต่ชน้ั ปีที่ ๑ - ๔ อย่างเปน็ ระบบ 1) มีแผนการพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษตลอดหลักสูตรท่ีชดั เจน 2) มีการกาหนดร้อยละของผู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ผลสมั ฤทธิ์ของการเข้าร่วมโครงการ/ กจิ กรรมการพฒั นาทักษะ ภาษาอังกฤษ 3. ด้านผลลพั ธ์ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารรบั รอง จานวนบณั ฑติ ไม่เกนิ จากแผนการรับนสิ ิตนกั ศึกษา ๓.๑ จานวนบัณฑติ ทจี่ ะสาเร็จ ทปี่ รากฏใน มคอ.๒ การศึกษา ๑) มีเคร่ืองมือและวธิ ีการในการเกบ็ ข้อมูลท่ชี ัดเจน ๒) ระดับความพึงพอใจของสถานศกึ ษาสาหรบั ปฏบิ ัตกิ ารสอน ๓.๒ ความพงึ พอใจของสถานศึกษา สาหรบั ปฏบิ ัติการสอนท่ีมีต่อ ทีม่ ตี อ่ คุณภาพของนสิ ติ นกั ศึกษา ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๖๐ คุณภาพของนิสิตนักศึกษา 3) นาผลการประเมนิ มาเปน็ แนวทางในการปรับปรงุ /พัฒนา ในเรอื่ ง หมายเหตุ 1) ความรู้ในวิชาเฉพาะ ในระยะเร่ิมแรกท่ียงั ไมม่ ีนสิ ิตนกั ศกึ ษาในหลกั สูตร ๔ ปี 2) กระบวนการจัดการเรยี นการสอน ออกปฏิบตั กิ ารสอน คุรุสภาจะยังไม่บังคับใช้เกณฑน์ ี้ 3) การทางานร่วมกบั ผู้อื่น ในการพจิ ารณาให้การรับรองหลักสตู ร 4) วนิ ัยในการปฏิบตั ิงาน 5) ความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 6) บุคลกิ ภาพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: