คำนำ กจิ กรรมผูส้ งู อายุเป็นรปู แบบหนง่ึ ในการสง่ เสริมการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตของผสู้ งู อายุ ซ่งึ ทางมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมการนาองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health care) โดยอยู่ภายใตโ้ ครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตาบล แบบบูรณาการ 1 ตาบล 1 มหาวิทยาลยั (มหาวิทยาลัยสู่ตาบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ : U2T) ลงไปสู่ชุมชน คณะผู้จัดทาจึงได้ดาเนินการ จัดการ พัฒนาทักษะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผ้สู งู อายุและกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุ โดยเป็นเรื่องท่ีผู้สูงอายุสนใจ และมีความสาคัญต่อการดาเนินชวี ติ ให้กับผู้สูงอายุ อีกทั้งช่วยเพ่ิมพนู ความรู้ทกั ษะชีวติ ท่ีจาเป็น และเป็นพน้ื ที่ ท่ีผู้สูงอายุจะได้แสดงศักยภาพ โดยการถ่ายทอดภูมิความรู้ประสบการณ์ท่ีส่ังสมแก่บุคคลอ่ืน เพ่ือสืบสานภูมิ ปญั ญาใหค้ งคุณค่าคกู่ บั ชมุ ชน จดั ทาโดย คณาจารยแ์ ละเจา้ หน้าทปี่ ระจาโครงการ 1 ตาบล 1 มหาวทิ ยาลยั (U2T) ตาบลเขาฉกรรจ์ อาเภอเขาฉกรรจ์ จงั หวดั สระแก้ว
สำรบญั 3 บทที่ หน้ำ 1 โภชนาการสาหรบั ผสู้ งู อายุ 1 2 การเคลอื่ นไหวของผู้ป่วย 5 3 การดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปากของผู้สูงอายุ 9 4 อารมณข์ องผูส้ งู อายุ 13 5 การจัดสภาพแวดล้อมทเ่ี หมาะสม 14 6 การใชย้ าในผ้สู งู อายุ 19 7 การช่วยเหลอื ผสู้ ูงอายทุ ชี่ ่วยเหลือตวั เองไมไ่ ด/้ พ่ึงพิง 23 บรรณานุกรม 42
ในวัยผู้สูงอายุจะมกี ารเปลยี่ นแปลงทางด้านรา่ งกาย จติ ใจ และสังคม โดยเฉพาะรา่ งกาย แต่คงไม่เท่ากันทุกคน ทาให้ประสิทธิภาพการทางานของอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมถอย ผู้สูงอายุมีความต้องการ พลังงานและสารอาหารเหมือนบคุ คลวัยอ่นื ๆ แตเ่ พยี งต้องการในปรมิ าณที่ลดน้อยลง เพอื่ ให้ผู้สูงอายมุ สี ุขภาพ แข็งแรง การจัดอาหารสาหรบั ผสู้ งู อายุ มีดงั นี้ 1.1 จดั อาหารใหค้ รบ 5 กลมุ่ กลุ่มขา้ ว - แปง้ กลมุ่ ผัก กลมุ่ ผลไม้ กลุม่ เนือ้ สตั ว์ กลุ่มนม และกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่ละกลมุ่ ให้หลากหลาย ในสัดสว่ นและปริมาณท่เี หมาะสม 1.2 เลือกข้าวไม่ขัดสเี ป็นอาหารหลกั สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมือ้ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน วุ้นเสน้ 1.3 เลือกปลา เนื้อสตั วไ์ ม่ตดิ มัน ไข่ ถ่ัวเมล็ดแหง้ มาปรุงประกอบอาหารเป็นประจา 1.4 เลือกเมนูผัก ให้มีความหลากหลายสีและสลับชนิดกันไป จะช่วยให้อาหารมีสีสันน่ารับประทาน มากยง่ิ ข้ึน 1.5 จัดผลไม้ วันละ 1 - 3 สว่ น เลอื กผลไม้รสไมห่ วานจดั 1.6 ดืม่ นมรสจดื วนั ละ 1 - 2 แก้ว หรอื จดั อาหารแหล่งแคลเซียม เชน่ ผกั ใบเขยี วเขม้ ปลาเล็ก ปลาน้อย เต้าหแู้ ขง็ ควรหัน่ อาหารให้เป็นชิ้นขนาดเล็ก เพื่องา่ ยตอ่ การเคี้ยวและย่อย เลือกอาหารชนิดอ่อนนุ่ม หรอื ทาให้ออ่ นนุ่มดว้ ยการต้ม น่ึง ลวก 1.7 ในกรณีที่กินมื้อหลักได้ไม่เพียงพอ อาจจัดให้กินคร้ังละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง แบ่งเป็นม้ือย่อย ๆ วนั ละ 5 - 6 มือ้ 1.8 ลดการปรุงอาหารรสจัด ลดการใช้เคร่ืองปรุงรสหวาน มัน เค็ม โดยใช้สมุนไพรในการปรุงแต่ง เพื่อเพม่ิ รสชาติ ให้ลดและเล่ียงการจัดขนมหวาน อาหารหมกั ดอง อาหารแปรรปู 1.9 ปรุงอาหารสุกใหม่ เลอื กปรงุ ประกอบอาหารด้วยวธิ ลี วก ต้ม นง่ึ อบ เปน็ ส่วนใหญ่ จดั เมนผู ักและแกงกะทแิ ต่พอสมควร เล่ยี งอาหารทอด 1.9.1 จัดใหผ้ สู้ ูงอายุดม่ื น้าสะอาด วันละ 8 แกว้ เล่ยี งการจัดเครือ่ งดมื่ ชาหรือกาแฟ 1.9.2 ลดเคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ เคร่อื งด่มื ชูกาลงั และงดสูบบหุ ร่ี 1.9.3 หมน่ั ร่วมรบั ประทานอาหารพรอ้ มกนั ทั้งครอบครวั สรา้ งความอบอ่นุ ทางจิตใจ ให้ผู้สูงอายุ 1.9.4 หมั่นดูแลน้าหนักตวั ผูส้ ูงอายุ หม่ันดแู ลน้าหนักตัวให้อยูใ่ นเกณฑ์ปกติ ควรช่งั นา้ หนักตัว อย่างนอ้ ยเดือนละครั้ง การประเมนิ วา่ น้าหนักตัวอย่ใู นเกณฑป์ กตหิ รอื ไม่ ทาได้หลายวธิ ี มดี งั นี้
2 1) การประเมนิ ด้วยสายตา วิธีนี้ใช้ประเมนิ ผสู้ ูงอายุทม่ี ีน้าหนกั ตัวนอ้ ย ผอมมาก ๆ หรือผ้สู ูงอายทุ ี่อว้ นมาก สามารถดูด้วยตา เริม่ จากใชห้ ลักงา่ ย ๆ โดยยืนตัวตรงมองปลายเท้าของตัวเอง โดยไม่งอตัวหรือก้ม ถา้ มองไม่เหน็ ปลายน้ิวเท้าแสดงว่าอ้วน หรือดเู งาตนเองในกระจกวา่ มไี ขมนั ตามสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมากกวา่ ทค่ี วรจะเปน็ หรือไม่ ลกั ษณะของความอว้ นมี 3 ลกั ษณะ (1) อว้ นแบบผลแอปเป้ิล มไี ขมนั สะสมบริเวณส่วนบนของร่างกาย บรเิ วณ ท้อง กลางลาตวั (2) อว้ นแบบลูกแพรร์ มไี ขมนั สะสมบรเิ วณส่วนลา่ งของร่างกาย ขาหนีบ สะโพก และตาม แขน ขา (3) อว้ นแบบผลสม้ อ้วน กลมทั้งตัว 2) การใช้สัดส่วนของรอบเอวหารด้วยรอบสะโพกโดยการวัดเส้นรอบเอวและเส้น รอบสะโพก แลว้ นาไปคานวณหาอัตราส่วนของเส้นรอบเอวตอ่ เส้นรอบสะโพก (Waist Hip Ratio : WHR) ซ่งึ มสี ูตร = รอบเอว/รอบสะโพก ผู้ชาย คา่ WHR ไมค่ วรเกิน 1.0 ถ้าค่า WHR เกินท่กี าหนดแสดงว่าอว้ น ผหู้ ญิง ค่า WHR ไม่ควรเกิน 0.8 3) การหาคา่ ดชั นีมวลกาย โดยการช่งั นา้ หนกั ตัวเปน็ กิโลกรมั วัดส่วนสูงเปน็ เมตร แล้วนาไปคานวณโดยใช้สตู รดัชนีมวลกาย = น้าหนัก (กิโลกรมั )/สว่ นสงู (เมตร)² ดัชนีมวลกายน้อยกว่า 18.5 (กิโลกรมั )/(เมตร)² = ผอมหรอื น้าหนักตา่ กวา่ เกณฑ์ 18.5 - 24.9 (กิโลกรัม)/(เมตร)² = นา้ หนกั ตวั ปกติ 25.0 – 29.9 (กิโลกรัม)/(เมตร)² = น้าหนกั เกินตงั้ แต่ 30 (กิโลกรมั )/(เมตร)² = โรคอว้ น 4) หากน้าหนักตัวนอ้ ย ผสู้ ูงอายุควร (1) กินอาหารท่มี ีคณุ คา่ ทางโภชนาการมากข้นึ เชน่ เน้ือสัตว์ โดยเฉพาะ เนอ้ื ปลา นม ไข่ ถั่วเมล็ดแหง้ ผัก ผลไม้ (2) ออกกาลังกายเพ่อื กระตุ้นให้เกดิ ความอยากอาหาร (3) พักผ่อนให้เพยี งพอ (4) ทาจิตใจใหเ้ บิกบาน ไม่เครียด
3 ท่ีปรุงแตง่ รสหวาน 5) หากน้าหนักตัวมาก ผูส้ งู อายุควรทาดังน้ี (1) กนิ อาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ แต่ลดปริมาณ (2) ลดอาหารประเภท ไขมนั แป้ง น้าตาล อาหารรสหวานและเคร่อื งด่มื (3) กนิ ผัก ผลไม้ รสไมห่ วานจดั ให้มากข้นึ (4) ไมก่ ินจบุ จบิ (5) ออกกาลงั กาย และให้รา่ งกายมีการเคลอ่ื นไหวใช้พลงั งาน (6) มคี วามต้ังใจ มุ่งม่นั ทจ่ี ะลดน้าหนกั
4
5 มีความสาคญั ตอ่ การใช้ชวี ติ และความสามารถในการปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจาวนั ผูส้ งู อายทุ ม่ี ีการเคลือ่ นไหวท่ีดี มีประสิทธิภาพกจ็ ะมีคณุ ภาพทด่ี ีตามไปดว้ ย เช่น การลุก การนง่ั การเดิน การอาบน้า เขา้ ห้องน้า การตกั ข้าวกนิ ดว้ ยตนเอง การทางานบา้ น หรือแมก้ ระท่งั การทาสวน ทาไร่ ซึง่ ผูส้ งู อายุ สามารถเสริมสร้างและพัฒนาการเคล่ือนไหวร่างกายให้มีประสิทธิภาพได้ด้วยการมีกิจกรรมทางกายภาพและ การออกกาลงั กายที่เพยี งพอเหมาะสม 2.1 ควำมสำคญั ของกำรมกี จิ กรรมทำงกำยภำพทเี่ พียงพอเหมำะสม มีดงั นี้ 2.1.1 ทาใหห้ วั ใจและปอดแข็งแรงกล้ามเนอ้ื ทกุ ๆ สว่ นแขง็ แรง สามารถปฏบิ ัตกิ ิจวตั ปิ ระจาวนั ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและที่สาคัญสามารถปอ้ งกนั หรือลดความเส่ยี งการหกลม้ ไดด้ ว้ ย 2.1.2 ชว่ ยชะลอหรือลดภาวะโรคประจาตวั เชน่ โรคเบาหวาน โรคความดนั โลหิตสงู และโรคหวั ใจ 2.1.3 ช่วยลดภาวะซมึ เศรา้ ความวติ กกงั วล และทาให้นอนหลับได้ดีข้ึน 2.1.4 ช่วยเพ่ิมโอกาสการเข้าร่วมสังคมของผู้สูงอายุ เช่น การไปวัด การไปหาเพื่อนบ้าน ไปทา กิจกรรมต่าง ๆ ที่ชมรมผสู้ ูงอายุจะเหน็ วา่ การมีกิจกรรมทางกายและการเคลือ่ นไหวรา่ งกายที่เพียงพอเหมาะสม มีความสาคัญมาก ๆ ต่อการเคลือ่ นไหวใช้ชีวิตประจาวันของผสู้ งู อายุ โดยในปี พ.ศ 2563 น้ี องคก์ รอนามัยโลกได้ให้คาแนะนาการมีกิจกรรมทางกายและการเคลอื่ นไหวรา่ งกายที่เพยี งพอเหมาะสม สาหรบั ผูส้ ูงอายุไวด้ งั นี้ 1) ผ้สู งู อายุควรมีกจิ กรรมทางกายทีร่ ะดับเหนือ่ ยปานกลางสะสมให้ไดอ้ ย่างน้อย 150 - 300 ต่อสปั ดาหห์ รือโดยเฉลยี่ อย่างนอ้ ย 30 นาที ได้แก่ กจิ กรรมทางกายในชีวิตประจาวนั เช่น การทางานบา้ น ทาสวน ทาไร่ ลา้ งรถ การเดินทางด้วยการเดนิ ปน่ั จกั รยาน เดินขึ้นบันได และกิจกรรมยามวา่ ง เช่น การออกกาลงั กาย เลน่ กฬี า เดินเร็ว ปั่นจักรยาน วง่ิ เหยาะ ๆ เต้นแอโรบกิ เต้นบาสโลบ 2) บริหารกล้ามเน้ือสว่ นตา่ ง ๆ ให้แขง็ แรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนอ้ื อยา่ งนอ้ ย 2 วัน ต่อสปั ดาห์ ซึ่งจะส่งผลทาใหก้ ารเคลอ่ื นไหวของรา่ งกายของผู้สงู อายมุ ปี ระสทิ ธภิ าพ กลมุ่ กลา้ มเนอื้ ทคี่ วรบรหิ ารให้แขง็ แรง ได้แก่ ต้นขา สะโพก ลาตัว หลงั หวั ไหล่ และแขนโดยบริหารท่าตา่ ง ๆ 12 - 15 ครัง้ นับเปน็ 1 ชุด บริหาร 2 - 3 ชดุ และพักระหวา่ งชดุ 1 นาที ส่วนการยืดเหยียดกล้ามเนื้อใหย้ ดื เหยียดจนรู้สกึ ตงึ แล้วกดค้างไว้ 15 วินาที 3) ผ้สู ูงอายคุ วรมกี ิจกรรมทางกายแบบผสมผสาน ระหวา่ งการเคลื่อนไหวรูปแบบต่าง ๆ การทรงตัวและการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเน้อื อยา่ งน้อย 3 วันตอ่ สัปดาห์ ไดแ้ ก่ เตน้ บาสโลบ เตน้ แอโรบิก ฟ้อนรา ราวง ราไท่จ้ีชกี่ ง กจิ กรรมเหล่านจ้ี ะช่วยพฒั นาการเคลอื่ นไหวของผ้สู ูงอายุใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และเป็นการฝกึ การทรงตัวเพื่อปอ้ งกนั การหกลม้
6 2.2 ขอ้ แนะนำของกำรออกกำลงั กำย 2.2.1 ถา้ ไม่เคยออกกาลัง จะต้องศึกษาหลักการ ให้ถกู ต้องและคอ่ ย ๆ ทา อยา่ หักโหม ถ้าหากมโี รคประจาตวั ตอ้ งปรกึ ษาแพทย์กอ่ น 2.2.2 เลือกชนดิ ของการออกกาลงั ให้เหมาะสมกบั สภาพร่างกายและถกู กบั นสิ ยั 2.2.3 อยา่ แขง่ ขนั กบั ผ้อู ่นื เพ่ือเอาแพเ้ อาชนะ แต่จะออกกาลงั กายเพ่ือกาลังกายของตนเอง 2.2.4 ระวังอุบัตเิ หตุ 2.2.5 ทาโดยสม่าเสมอ สัปดาหล์ ะ 3 - 4 ครัง้ 2.2.6 เม่ือเกดิ อาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะถา้ มีอาการหน้ามืดหรือใจสั่นผิดปกติ ควรชะลอการออกกาลงั ลงและหยุด 2.2.7 ควรออกกาลังเปน็ หม่คู ณะ หรือมเี พ่ือนร่วมการออกกาลัง QR Code ท่าออกกาลงั กายสาหรับผู้สูงอายุ
7 2.3 ชนิดของกำรออกกำลังกำย การออกกาลังกายทเี่ หมาะสมกบั ผู้สงู อายุมหี ลายชนดิ ดังนี้ 2.3.1 การเดิน การเดินเปน็ วธิ กี ารออกกาลังท่ีเหมาะสมกบั ผสู้ ูงอายุ (ยกเว้นแตผ่ สู้ ูงอายุทมี่ ีความพกิ าร ของเทา้ และขอ้ ทาใหล้ าบากในการเดิน) มีข้อที่ตอ้ งปฏิบัติ คือตอ้ งเดินเร็วให้เกดิ การเตน้ ของหัวใจเพม่ิ ข้ึน หากเดินเร็วมากไม่ได้ ต้องเพ่ิมเวลาการเดนิ ใหม้ ากขึน้ ควรใช้รองเท้าทเ่ี หมาะสม เนอ่ื งจากการเดิน เป็นการออกกาลงั แตส่ ่วนเท้าเปน็ สว่ นใหญ่ ขณะเดินมกี ารแกว่งแขนและบรหิ ารกลา้ มเนือ้ คอและหน้าอกบ้าง 1) พยายามเดินบริเวณทมี่ ีอากาศบริสุทธ์ิ ปลอดภยั จากโจรผ้รู ้าย และอบุ ัติเหตุ พยายามเดินตอนเชา้ 2) มีเพือ่ นหรือกลุม่ ร่วมในการเดนิ จะชว่ ยให้เกดิ ความสนุกสนานย่งิ ขึน้ 2.3.2 การว่งิ ช้า ๆ การวิง่ ต่างกบั การเดิน คือการเดินจะมเี ท้าข้างใดข้างหนึ่งแตะพื้นอยู่เสมอ ส่วนการวิง่ จะมีชว่ ง ใดช่วงหน่งึ ท่เี ท้าไมแ่ ตะพน้ื ผูส้ งู อายุถ้าสามารถวง่ิ ได้ก็ไมม่ ีขอ้ ห้ามทจ่ี ะไมใ่ หว้ ิ่ง แต่จะตอ้ งมขี อ้ เขา่ และข้อเทา้ ทด่ี ี (เพราะการวิ่งจะมีแรงกระแทกที่ข้อโดยเฉพาะที่ข้อต่อที่รับน้าหนักมากกว่าการเดิน อาจทาให้บาดเจ็บได้) รวมถึงการสวมใสร่ องเท้าท่ีเหมาะสม 2.3.3 กายบริหารท่าต่าง ๆ กายบริหารท่าต่าง ๆ เหมาะสาหรับผู้สูงอายุ แต่ควรจะต้องบริหารให้เกิดผลถึงระดับหัวใจเต้น เพิ่มขน้ึ 2.3.4 การรามวยจีน หลักการของการรามวยจีน คือการเคล่ือนไหวช้า ๆ แต่ใช้เวลาและสมาธิด้วย เหมาะสาหรับ ผู้สูงอายุ แต่ต้องมีครูผู้ฝึกที่ดี มีกลุ่มที่เหมาะสมและต้องใช้เวลาปฏบิ ัติอย่างจรงิ จัง ผู้ท่ีปฏิบัติหลายคนท่ีผเู้ ขยี น ได้พบปะและร้จู กั มสี ขุ ภาพแข็งแรงดีอยา่ งน่าประหลาด 2.3.5 โยคะ การฝึกโยคะเป็นการออกกาลงั ผสมกบั ควบคุมการหายใจให้เขา้ จังหวะกัน ต้องมคี รูฝกึ ท่ีรู้จรงิ ถา้ ปฏิบัตอิ ย่างจรงิ จังกใ็ หป้ ระโยชนส์ ูง 2.3.6 ชนิดของการออกกาลงั มมี ากมายรวมทงั้ กฬี าชนิดต่าง ๆ การออกกาลงั กายท่เี หมาะสมกบั ผสู้ ูงอายุแตล่ ะคนมีประโยชนท์ งั้ นั้น ท่ีสาคัญจะต้องรู้หลัก การออกกาลงั กายแตล่ ะชนิด ทาท่าท่ีถูกตอ้ ง และออกกาลังสมา่ เสมอตามสภาพของรา่ งกาย ไมห่ กั โหม ไมร่ ุนแรง ไมแ่ ขง่ ขัน ก็จะทาใหร้ ่างกายมีสุขภาพที่ดี
8 2.4 ข้อดีจำกกำรออกกำลงั กำยสำหรับผสู้ งู อำยุ 2.4.1 ชว่ ยตา้ นทานโรคและรักษาโรคได้ การได้ออกกาลังกายอย่างต่อเนื่องและถูกวิธีส่งผลให้มีโอกาสการเกิดโรคภัยไข้เจ็บลดลงได้ เนอ่ื งจากร่างกายมีความแขง็ แรงและระบบการทางานภายในรา่ งกายทยี่ ังทางานได้เปน็ ปกติ นอกจากนี้ การออกกาลงั กายเปน็ ประจายงั ชว่ ยรักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลือดสงู ใหร้ ะดบั นา้ ตาล และไขมันในเลือดลดลงได้ 2.4.2 ชะลอการเสื่อมของอวยั วะ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุระบบการทางานของร่างกายจะเริ่มมีความอ่อนแอลง รวมถึงอวัยวะ ภายในท่อี าจทางานได้ไม่เป็นปกติ การออกกาลังกายจงึ ชว่ ยใหค้ วามแขง็ แรงของระบบการทางานรา่ งกาย ได้ทางานเป็นปกติอกี คร้งั ท้ังนกี้ ็ขึน้ อยกู่ บั ความเหมาะสมของการออกกาลังกายของแตล่ ะบคุ คลดว้ ย ถ้าผสู้ งู อายอุ อกกาลังกายอย่างเปน็ ประจากจ็ ะชว่ ยในการชะลอการเสอื่ มของอวัยวะไดม้ ากขึน้ 2.4.3 ชว่ ยในการทรงตัวและมีรูปรา่ งดีขึน้ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ จะมีปัญหาในเรื่องของกระดูกท่ีเร่ิมไม่แข็งแรง ท่ีอาจมาจากปัญหา การมีน้าหนักตัวมากเกินไป ส่งผลให้กระดูกอ่อนแอและมีอาการเจ็บปวดตามข้อต่อร่างกายได้บ่อย ๆ รวมถึง อาจเกิดการทรงตัวที่ไม่ค่อยดี การออกกาลังกายจะช่วยเพม่ิ การยดื หยุน่ ของกล้ามเนือ้ หรือการฝกึ ฝนกล้ามเนอ้ื ใหแ้ ข็งแรง จึงเป็นสิง่ จาเป็นท่ีจะชว่ ยเพ่ิมประสทิ ธภิ าพของการทรงตัวใหด้ ขี ้ึน ซึง่ นอกจากนั้นแล้วผูส้ ูงอายุ ควรรับประทานอาหารทดี่ ตี ่อสุขภาพและครบ 5 หมดู่ ว้ ย เพอื่ ช่วยในการลดนา้ หนักตวั ทจี่ ะทาให้มีปัญหา เร่อื งการทรงตัวได้ 2.4.4 ชว่ ยสรา้ งสขุ ภาพจิตท่ดี ขี ึน้ การออกกาลังกายนอกจากจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีร่างกายและระบบภายในทแ่ี ข็งแรงแล้ว ยังช่วยในการสร้างสุขภาพจิตท่ีดีขึ้นด้วย เมื่อไม่มีโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วยมารุมเร้าก็จะช่วยลดความกังวล ด้านสุขภาพของผู้สงู อายดุ ้วย นอกจากนแ้ี ลว้ เม่ือผูส้ งู อายุได้มาออกกาลังกายร่วมกันตามสวนสุขภาพ ก็จะช่วย สรา้ งสังคมผู้สูงอายทุ ่ีชอบดูแลตัวเอง ทาใหเ้ กดิ สังคมใหม่ข้ึนมาได้ 2.4.5 สง่ ผลดีต่อการใชช้ ีวิตประจาวัน เมื่อเข้าสวู่ ยั สงู อายสุ ิ่งทีเ่ คยทาไดอ้ ย่างรวดเรว็ ในตอนทยี่ ังหนมุ่ ยงั สาวก็จะทาได้ช้าลง ไม่วา่ จะเป็นการเดิน การลุก การน่งั หรอื กิจกรรมทอี่ าศยั การเคลอื่ นไหวรา่ งกายมาก ๆ กจ็ ะทาไดไ้ มไ่ หว ดังน้ัน การออกกาลังกายจงึ ชว่ ยใหผ้ สู้ ูงอายยุ งั สามารถทากิจกรรมในชวี ติ ประจาวนั ไดเ้ ป็นปกติ หรือลดความลาบาก ในการทากจิ กรรมเหลา่ นั้นลงได้ เน่ืองจากการมีรา่ งกายทแี่ ข็งแรงมากข้นึ
9 2.5 ข้อควรระวงั กำรออกกำลังกำยในวัยสูงอำยุ หากมอี าการใดอาการหนึ่งใน 10 ขอ้ น้ี ให้หยุดออกกาลังกายแลว้ ปรึกษาแพทย์ทันที 2.5.1 หัวใจเตน้ ผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว ไม่สมา่ เสมอ 2.5.2 เจ็บที่บริเวณหัวใจ ปวดแน่นบริเวณลนิ้ ปี่ 2.5.3 หายใจไมเ่ ต็มอ่มิ รู้สกึ เหน่อื ย 2.5.4 รู้สกึ วงิ เวียน เวียนหัว ควบคุมลาตัวหรือแขนขาไมไ่ ด้ 2.5.5 เหงอ่ื ออกมาก ตัวเยน็ 2.5.6 รสู้ ึกหวนั่ ไหวอยา่ งทันทโี ดยหาสาเหตุไม่ได้ 2.5.7 มอี าการออ่ นแรงหรือเปน็ อัมพาต บริเวณแขนขาอย่างกะทนั หนั 2.5.8 มีอาการตามัว 2.5.9 มีอาการพูดไม่ชดั หรอื พูดตะกุกตะกกั 2.5.10 หวั ใจเต้นแรง แมจ้ ะหยดุ พกั ประมาณ 10 วินาทแี ลว้ กต็ าม QR Code วธิ ีการออกกาลงั กายลดอาการวงิ เวยี นศรีษะในผู้สูงอายุ
10 บทที่ 3 กำรดแู ลสขุ ภำพช่องปำกของผ้สู ูงอำยุ ปัญหาสขุ ภาพช่องปากของผสู้ งู อายุ ได้แก่ การสญู เสียฟัน โดยเฉพาะการสญู เสยี ฟนั ทัง้ ปาก สว่ นผูท้ ยี่ ังมีฟันกเ็ ป็นโรคทเ่ี ส่ยี งตอ่ การสูญเสียฟันซต่ี ่อไปมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อผสู้ ูงอายมุ ากมาย คือการปวดฟัน เสียวฟัน มีผลต่อการกิน การนอนหลับ สุขภาพไม่แข็งแรง ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตท้ังร่างกาย จิตใจ และสังคม เช่น ผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันบางส่วนหรือทั้งปากจะรู้สึกอาย ขาดความมั่นใจในสังคม ไม่มั่นใจ ขณะพูด ยิ้ม หรือเคี้ยวอาหาร นอกจากนี้เช้ือโรคหรือการติดเชื้อต่าง ๆ จากในช่องปากยังสามารถแพร่ไปยัง อวัยวะอ่ืน ๆ ได้ เช่น ท่ีปอด หัวใจ ตา เป็นต้น ดังน้ันการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ นอกเหนือจากการ ให้บริการรักษาโดยทันตแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ผู้สูงอายุยังต้องดูแลอนามัยช่องปากด้วยตนเอง เพอ่ื ลดการสญู เสียฟัน 3.1 กำรดแู ลอนำมัยชอ่ งปำกสำหรับผูส้ งู อำยุ 3.1.1 การทาความสะอาดฟนั แท้หรอื ฟนั ถาวร 1) การแปรงฟนั ผสู้ ูงอายุควรแปรงฟนั วันละ 2 ครง้ั คร้งั ละ 2 นาที ใช้แปรงสฟี ันขนนุ่ม เน้นการแปรงบริเวณขอบเหงือก ขยับแบบกลม ๆ หรือขยับแล้วปัดลง จะช่วยป้องกันคอฟันลึก บางรายอาจ แนะนาให้ใช้ผ้าก๊อซเช็ดแทนแปรงสฟี ัน การเปล่ียนแปรงสฟี ันไม่จาเป็นต้องเปลี่ยนทุก 3 เดือน แต่ถ้าผู้สูงอายุ เจ็บป่วย เช่น ป่วยด้วยไขห้ วัดใหญ่ หลงั จากหายแลว้ ควรเปล่ียนแปรงสีฟันใหม่ ส่วนการแปลงลิ้น อาจใชแ้ ปรงสฟี นั หรอื แปรงสาหรบั แปรงลิน้ เฉพาะในการแปรงได้
11 2) การใชไ้ หมขัดฟนั ไหมขดั ฟันมีลักษณะเปน็ เสน้ แบน มที ้งั ขนาดเลก็ และใหญ่ ให้เลือกใช้ ตามขนาดความกว้างของซอกฟัน ใช้สาหรบั ช่วยทาความสะอาดซอกฟนั โดยใช้ควบคูก่ ับแปรงสีฟัน อย่างน้อย วนั ละ 1 ครง้ั ในผ้สู งู อายุที่ไมส่ ามารถใชน้ ้วิ พันไหมขดั ฟัน หรอื ใชไ้ หมขดั ฟนั ชนดิ เปน็ เส้นได้ อาจเลือกใชไ้ หมฟนั แบบมดี า้ มจับโดยใชม้ อื เดียว หรอื อปุ กรณท์ าความสะอาดฟันอย่างอ่ืนทดแทน เช่น ใชไ้ ม้จิ้มฟนั ทีถ่ ูกวธิ ี ใช้แปรงซอกฟัน หรอื ใช้ผา้ กอ๊ ซ 3) การใช้แปรงซอกฟนั เป็นอุปกรณ์ท่ีใชท้ าความสะอาดซอกฟันซี่ที่เป็นช่อง หรือฟันหา่ ง ใช้ง่ายเหมาะสาหรบั ผูส้ งู อายุ วิธกี ารใชเ้ ลอื กขนาดแปรงใหส้ ว่ นทเี่ ปน็ ขนแปรงมขี นาดใหญว่ ่าซอกฟัน ท่ีจะทาความสะอาดเลก็ น้อย จุ่มน้าใหข้ นแปรงออ่ นนมุ่ สอดเบา ๆ เขา้ ไประหวา่ งซอกฟนั ท่เี อยี งไปทาง ปลายฟันขยับเขา้ ออกแนวนอน 4) การทาความสะอาดเยอ่ื บชุ อ่ งปากและลิ้น เพ่อื ขจดั คราบอาหารและจุลนิ ทรีย์ที่ตกค้าง อยู่บรเิ วณเย่อื บชุ อ่ งปาก กระพุ้งแก้ม เพดานปากดา้ นบนของล้นิ ทาความสะอาดทุกคร้ังหลงั อาหาร โดยแปรงสฟี ันหรือ อาจใชไ้ มก้ วาดล้ินวางลงบนล้ินกวาดจากโคนลนิ้ ออกมาดา้ นปลายล้ิน ทาซา้ 4 -5 ครั้ง ส่วนเยอ่ื บชุ อ่ งปาก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก อาจใช้แปรงสฟี นั ขนนุม่ หรอื ใชน้ ิ้วมอื กวาดเบา ๆ
12 5) การใช้น้ายาบว้ นปาก ผู้สูงอายุควรใชน้ ้ายาบ้วนปากที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ แต่มีฟลูออไรด์ ผสม ไมค่ วรใช้นา้ ยาบ้วนปากประเภทผสมนา้ ยาฆา่ เช้ือ น้ายาบ้วนปากทม่ี คี วามเขม้ ข้นของฟลอู อไรดต์ า่ หาซอื้ ไดท้ ัว่ ไปตามรา้ นค้า สามารถใชไ้ ด้ทุกวนั แตถ่ า้ มีความเข้มขน้ สงู ใชไ้ ดส้ ัปดาหล์ ะ 1 ครง้ั และตอ้ งอยู่ ภายใต้การดแู ลของทันตบุคลากร 6) การใชไ้ ม้จ้ิมฟนั ไมจ้ ิ้มฟนั ใชช้ ว่ ยทาความสะอาดขจดั คราบตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ ะหว่างซอกฟนั มักใชไ้ ดถ้ นดั ในฟันหนา้ ควรใชใ้ นกรณที ี่มีเหงอื กร่น มชี ่องเห็นชัด หรอื มชี อ่ งระหว่างแยกรากฟนั แม้ว่าไม้จ้ิมฟัน ใชง้ า่ ยกวา่ ไหมขดั ฟัน แตก่ ็มีขอ้ จากดั มากกว่า ตรงทใ่ี ชไ้ ดเ้ ฉพาะผู้ที่มชี ่องระหวา่ งซฟ่ี ัน ไมส่ ามารถใช้ขัด ทาความสะอาดตรงมุมโค้งของฟัน และซอกฟันปกติ เพราะโอบรอบฟนั ไมไ่ ด้ 3.1.2 การทาความสะอาดฟันเทียม (ฟันปลอม) 1) ฟนั เทียมชนิดถอดได้ อาจมสี ว่ นตะขอท่ใี ชย้ ึดฟนั ขา้ งเคยี งฐานพลาสตกิ หรือโลหะ วางบนเหงอื กหรือเพดานปากเพือ่ รับแรงบดเค้ยี วควรถอดฟันเทียมออกเพื่อลา้ งทาความสะอาดทุกคร้ัง หลังรับประทานอาหารพร้อมกับทาความสะอาดฟันแท้ในปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ฟันผุและมีกลิ่นปาก นอกจากนี้ ควรถอดฟันเทียมออกก่อนนอน เพื่อให้เหงือกได้พกั และฟันเทียมท่ีถอดออกต้องล้างน้าให้สะอาด แชน่ ้าไว้ทกุ คร้งั เพื่อไมใ่ หฐ้ านพลาสติกของฟันเทยี มแหง้ 2) ฟันเทียมชนิดติดแน่น จะสวมทับลงไปบนซี่ฟันหรือใช้ฟันข้างเคียงช่องว่างเป็นหลักยึด ฟันเทียมชนิดนจี้ ะไม่มีตะขอหรอื ฐานบนเหงอื กหรอื เพดานปาก ไมส่ ามารถถอดออกได้ ดงั นั้น การรักษาความสะอาดนอกจากแปรงฟันตามปกติแลว้ ควรใช้ไหมขัดฟนั สอดเขา้ ทาความสะอาด ใตฐ้ านของฟันเทียมตดิ แนน่ ด้วย 3) ควรตรวจเช็คสภาพของฟนั เทียมอยู่เสมอ และควรเปลีย่ นฟันเทยี มให้พอดี กับลักษณะของฟนั หากการเรยี งตัวของฟันเปลยี่ นแปลงไป
13 3.2 กำรรับประทำนอำหำรท่ไี มท่ ำอนั ตรำยต่อสุขภำพช่องปำก 3.2.1 รบั ประทานอาหารเปน็ มื้อไม่กนิ จุบจิบ เพอ่ื ลดการตกคา้ งของเศษอาหาร แตถ่ ้าเลอื กไม่ได้ ควรเลือกอาหารพวกโปรตีนและผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีลักษณะเป็นเส้นใย รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง พุทรา ชมพู่ มนั แกว ถั่วธญั พชื 3.2.2 ลดอาหารรสหวานจดั เชน่ แป้ง นา้ ตาลที่นมิ่ หรอื เหนยี วตดิ ฟนั ใหน้ ้อยลง 3.2.3 หลีกเลี่ยงเคร่ืองดื่ม เช่น ชา กาแฟ ซึ่งสารคาเฟอีนเป็นอันตรายต่อระบบการทางานของหวั ใจ ความดันโลหติ และน้าอดั ลมทีม่ นี ้าตาลและความเปน็ กรดสงู มผี ลต่อการเกดิ ฟนั ผุ การสกึ กรอ่ นของฟนั ควรเปลีย่ นเปน็ นมสด หรือนา้ ผลไม้ ผใู้ ส่ฟันเทยี มควรระมดั ระวงั เปน็ พเิ ศษในการรับประทาน ควรหลกี เล่ยี งอาหารเหนียวและแข็ง 3.2.4 การดูแลผู้สูงอายุท่ีปากแห้งให้จิบน้าบ่อย ๆ หรือเคียวหมากฝร่ัง หรือหาอาหารชนิดท่ีเหน็ แล้ว ทาให้นา้ ลายไหล เชน่ สะเดานา้ ปลาหวาน มะขามปอ้ ม แตต่ ้องระวังอยา่ ให้หวานมาก QR Code วธิ ีการทาความสะอาดช่องปากผู้สูงอายุ
14 บทที่ 4 อำรมณข์ องผสู้ ูงอำยุ หากผู้สูงอายุต้องการมีสุขภาพที่ดตี ้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ หากเกิดอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด โกรธ เศรา้ กลวั ร่างกายจะทางานผดิ ปกติและหลั่งสาร Cortisol ออกมา ผู้สูงอายจุ ะดูแลและควบคมุ อารมณ์ได้ โดยดแู ลจิตใจ ดงั นี้ 4.1 กำรดูแลและควบคุมอำรมณ์ผสู้ งู อำยุ 4.1 ยอมรับบทบาท และสถานภาพทเี่ ปลี่ยนแปลง เมอื่ มีอายมุ ากข้นึ ต้องพอใจ และยอมรับความเปน็ จรงิ ของชีวติ ทีเ่ กิด แก่ เจ็บ ตาย เปน็ เร่อื งธรรมชาติ ภมู ิใจในความดงี าม เป็นตัวอย่างเตือนใจลกู หลาน สร้างสัมพนั ธ์ทดี่ ีกับลกู หลานใหค้ วามชว่ ยเหลือตามความเหมาะสม 4.2 เม่อื กังวลใจ ควรปรกึ ษาคนใกล้ชิด เพอ่ื นบ้าน สมาชิกชมรมผสู้ ูงอายุ เจา้ หน้าท่ีของรัฐ ปฏบิ ตั ิธรรม เปน็ ตน้ 4.3 ทางานอดิเรกท่ีเพลิดเพลิน และมีคุณค่าทางจิตใจ เช่น ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ จะช่วยให้ไม่เหงา และมคี วามสขุ 4.4 พบปะสงั สรรค์กับบคุ คลอน่ื พดู คุยหรือปรับทุกขก์ นั และรว่ มกจิ กรรมกับเพอ่ื น ๆ ในชมรมผสู้ งู อายุ 4.5 ยึดหลกั ศาสนาเป็นทพ่ี งึ ทางใจ สวดมนต์ ปฏิบตั ธิ รรม ฝกึ สมาธิ ทาบญุ ตามความสะดวก และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เวลา และสภาพร่างกายของผสู้ งู อายุ
15 บทที่ 5 กำรจดั สภำพแวดล้อมที่เหมำะสม การจัดสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมสาหรับผสู้ ูงอายุ เป็นผลใหผ้ สู้ ูงอายใุ ช้ชีวติ ในบ้ันปลาย อยา่ งมีความสขุ ปลอดภัยจากอันตรายและอบุ ัตเิ หตุต่าง ๆ ซึง่ เป็นสาเหตขุ องการบาดเจ็บ พกิ าร และเสียชวี ติ 5.1 คำแนะนำกำรจดั สภำพแวดล้อมภำยในหอ้ งนำ 5.1.1 ไม่ควรอยูห่ า่ งจากหอ้ งนอนผสู้ ูงอายเุ กิน 9 ฟตุ เพราะผสู้ ูงอายุมกั มีปญั หาการกล้ันปสั สาวะ ไม่อยู่ อาจไมส่ ะดวกในการไปห้องน้า แต่ถ้าหอ้ งน้าอยู่ไกลอาจแกป้ ัญหาโดยการใชก้ ระโถน หรือหมอ้ นอน ไวใ้ นห้องนอน 5.1.2 ภายในหอ้ งนา้ หรือตลอดทางเดนิ ไปหอ้ งน้า ควรมรี าวยดึ เกาะ 5.1.3 พน้ื ห้องนา้ ควรปูด้วยวัสดุเน้อื หยาบหรือแผ่นยางกันล่นื ไม่มตี ะไครน่ ้าหรอื เปยี กชน้ื หากเปน็ ไปได้ หอ้ งอาบนา้ กับห้องสว้ มควรแยกกนั 5.1.4 อุปกรณ์ภายในหอ้ งนา้ ควรมีเก้าอส้ี าหรบั นง่ั อาบนา้ โดยเฉพาะ แต่ต้องเป็นเก้าอที้ ่ียึดติดกบั พื้น เพื่อป้องกันการลน่ื ไถล ควรผกู สบู่ตดิ กับเชอื ก หรือมีซองตาขา่ ยนมิ่ ๆ หุ้ม เพ่อื ป้องกันสบู่หลุดมอื หากผู้สูงอายุ ก้มเก็บอาจเกิดการหกล้มได้ง่าย ควรใชฝ้ ักบวั อาบน้าแทนการตักอาบด้วยขัน โถสว้ มควรเปน็ แบบนง่ั ราบ จะดีกวา่ แบบนงั่ ยอง ๆ ควรมกี ระดง่ิ หรอื โทรศัพทภ์ ายในห้องน้า เพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื หากมีเหตุฉุกเฉนิ ควรมแี สงสว่างเพยี งพอ การใชส้ ีของฝาผนงั และพ้ืนหอ้ งควรเป็นสตี ัดกนั ตลอดจนเครื่องสุขภัณฑอ์ ืน่ ๆ เชน่ โถส้วม อ่างลา้ งหนา้ ควรมสี ตี า่ งจากพื้นห้อง 5.1.5 ประตูหอ้ งนา้ ควรเปดิ โดยการผลักออกมาฝ่งั ด้านนอกห้องน้า เพ่ือให้สามารถชว่ ยเหลือผู้สงู อายุ ได้ เวลาเกดิ เหตุฉกุ เฉนิ 5.2 คำแนะนำกำรจัดสภำพแวดล้อมภำยในห้องนอน 5.2.1 ไม่ควรจัดเตียงนอนผู้สูงอายุให้ชิดผนังมากจนเกินไป จะทาให้ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน การณ์ในเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ควรจัดเตียงนอนให้อยู่ในตาแหน่งท่ีสามารถเข้าถึงได้ง่าย ความสูงอยู่ในระดับท่ี ผู้สงู อายุน่ังแลว้ สามารถวางเท้าได้ในระดับตั้งฉากกับพ้ืน ทนี่ อนไมค่ วรนุม่ หรอื แข็งเกินไป มโี ต๊ะขา้ งหวั เตยี ง เพ่อื วางสิง่ ของทจี่ าเปน็ และสามารถเอือ้ มถงึ ได้ และควรมโี คมไฟบนหวั เตียงหรอื บนโตะ๊ ขา้ งเตยี ง เพอื่ ให้ผู้สูงอายสุ ามารถเปิด – ปดิ ไฟได้สะดวกในเวลาทจ่ี ะลกุ ไปเข้าหอ้ งน้า เพ่ือเปน็ การป้องกันการหกลม้
16 5.2.2 แสงสว่างภายในหอ้ งนอนมีเพียงพอ สวติ ช์ไฟควรเป็นสีสะท้อนแสง เพ่อื ความสะดวก ในการมองเห็น และอยใู่ นตาแหนง่ ทไ่ี มส่ ูงหรือตา่ เกินไป อาจมไี ฟฉายขนาดทพ่ี อเหมาะ และหลีกเล่ยี ง การใชต้ ะเกยี ง เทียนไข หรือสบู บุหร่ีเวลานอน เพอื่ ปอ้ งกันไฟไหม้ 5.2.3 เก้าอี้สาหรับผสู้ ูงอายุ ตอ้ งมีพนกั พงิ มีท่วี างแขน ความสงู พอเหมาะ โดยเมอ่ื น่ังแลว้ สามารถวางเทา้ ถงึ พน้ื หัวเขา่ ตงั้ ฉากกับพ้นื 5.2.4 ตเู้ สื้อผา้ ไม่ควรสงู จนต้องปีน ถา้ จาเปน็ ตอ้ งปนี เอาสิ่งของ ควรใช้มา้ ตอ่ ขาทม่ี น่ั คง ไม่มีล้อเล่อื น การวางสิ่งของ ถา้ เป็นของหนักควรวางอยชู่ ้ันลา่ งสุด หรอื ตู้ไมค่ วรต่าเกินไปจนตอ้ งกม้ ตัวไปหยบิ ส่งิ ของ 5.2.5 ห้องนอน ไมค่ วรมโี ทรทัศน์ เพราะจะรบกวนการนอนหลบั พกั ผ่อนของผ้สู งู อายุ 5.2.6 ถา้ มีแสงสวา่ งจา้ ส่องเข้าไปในหอ้ งนอน ควรใชผ้ ้ามา่ นบงั แสงหรอื ผ้ามา่ นชนดิ ปรับแสงได้ ซงึ่ จะปอ้ งกันการปวดแสบตาได้ 5.2.7 ประตหู รือหนา้ ต่างท่ีเป็นกระจกใส ควรติดเคร่ืองหมาย เพอ่ื เปน็ สญั ลกั ษณใ์ ห้ทราบ วา่ เป็นกระจก ปอ้ งกันการเดินชน 5.2.8 ฝาผนัง อาจตดิ รูปท่ีมีความหมายสาหรับผูส้ งู อายุ เพือ่ เป็นการระลึกถงึ ความหลงั ป้องกนั ภาวะซมึ เศร้าได้ 5.2.9 สง่ิ ของที่ไม่จาเปน็ ไม่ควรนามาวางในหอ้ งนอน 5.3 คำแนะนำในกำรจดั บนั ได 5.3.1 บันได ควรมีรปู ร่างทรงกลม 2 ขา้ ง เพ่อื ความสะดวกในการยดึ เกาะ มแี ถบสีหรอื สัญลักษณ์ ที่บอกตาแหน่งบนสุดหรือล่างสุด และราวบันไดควรยาวกว่าตัวบันไดเล็กน้อย เพ่ือป้องกันการพลัดตกหกล้ม กรณีที่ก้าวผิด 5.3.2 ความสงู ของบันไดแตล่ ะขนั้ ไมค่ วรเกิน 6 นว้ิ 5.3.3 ขอบบันไดแต่ละขั้นควรตดิ วสั ดุกันลืน่ และมแี ถบสีทีแ่ ตกตา่ งกันจากขั้นอนื่ เพื่อบอกตาแหน่ง ของขน้ั แรกและขน้ั สดุ ท้าย สขี องบันไดและสีของพื้นห้องไม่ควรเป็นสเี ดยี วกัน
17 5.3.4 แสงสวา่ งบรเิ วณบันไดต้องเพียงพอ มีสวิตซไ์ ฟทง้ั ชนั้ บนและช้นั ล่าง ตามขน้ั บันไดจะตอ้ งไม่มี แสงสะทอ้ นหรือขดั จนเงามนั อาจทาให้ก้าวผิดขนั้ ได้หรือเกิดการลืน่ ไถลไดง้ ่าย 5.3.5 ไมว่ างสงิ่ ของใด ๆ ตามขน้ั บนั ได โดยเฉพาะบันไดขั้นบนสุดหรอื ลา่ งสุด เช่น รองเทา้ สตั วเ์ ลย้ี ง พรมเช็ดเท้า ซ่ึงตามปกตพิ รมเชด็ เทา้ ท่ีดีตอ้ งเกาะกบั พน้ื ขอบพรมไมส่ ูง 5.3.6 ไมค่ วรถือสง่ิ ของทง้ั 2 มือเวลาขึน้ - ลงบันได อยา่ งนอ้ ยควรเหลือมอื ไว้อกี ข้างเพ่ือจบั ราวบนั ได 5.4 คำแนะนำเก่ียวกับสภำพพนื หอ้ ง พน้ื ห้องไม่ควรขัดจนเป็นมัน เพราะจะเกดิ แสงสะทอ้ นขัดขวางการเดินของผู้สูงอายุ หรอื ลงนา้ มนั จนลื่น ควรเก็บสายไฟใหเ้ รียบร้อยป้องกันการสะดดุ หกล้ม ปลั๊กไฟไมค่ วรอย่ตู ่าป้องกันการเดินชน สขี องฝาผนัง ควรเป็นสีอ่อนและต่างจากสีของพืน้ หอ้ ง และไม่ควรมีธรณีประตู ถ้าแก้ไขไม่ได้ควรทาสีที่แตกต่างจากพนื้ หอ้ ง ส่ิงของเคร่ืองใช้ ควรจัดให้เป็นระเบียบเป็นทเ่ี ป็นทางไม่กีดขวางทางเดิน 5.5 คำแนะนำเกยี่ วกับข้ำวของเครอื่ งใช้ ข้าวของเครื่องใชค้ วรจัดวางสง่ิ ของใหเ้ ป็นระเบยี บ เป็นท่ีเปน็ ทางไม่กดี ขวางทางเดนิ และไม่ควรเปลี่ยนท่ี เก็บหรือวางของบ่อย เพราะผู้สูงอายจุ ะไมส่ ะดวกในการหยบิ ใชส้ ิง่ ของและอาจหลงลมื ข้าวของเครือ่ งใช้ ควรคานงึ ถงึ สี เนอ่ื งจากสายตาของผสู้ งู อายุมกั จะมองเหน็ สสี ว่างได้ดีกวา่ สที บึ ดงั น้นั ผู้สงู อายจุ ะมองเห็น สีเหลือง สีส้ม และสีแดง ได้ดีกว่าสีเขียว สีม่วง สีน้าเงิน นอกจากนั้นน้าหนักของส่ิงของควรจะมีน้าหนักเบา เพอ่ื ความสะดวกและปลอดภยั ในการหยิบจบั
18 5.5.1 ข้อควรระวัง 1) เสือ้ ผ้าไม่ควรคับหรือหลวมเกินไป โดยเฉพาะถา้ สวมเส้อื ผ้ารุ่มรา่ ม มีเชอื กผูกอาจเกิด การเกาะเก่ียวส่งิ ของหรือสะดุดลม้ ได้ง่าย ความหนาของเส้ือผา้ ควรเหมาะกับภมู ิอากาศ เน่ืองจากในวัยสูงอายุ การระบายความร้อนไมด่ ี และเสอ้ื ผ้าไม่ควรหนกั เกินไป จะทาใหผ้ ู้สูงอายตุ ้องรบั นา้ หนกั เส้อื ผา้ มาก อาจหอบเหน่ือยไดง้ ่าย 2) รองเท้าทีเ่ หมาะสมคือรองเทา้ ห้มุ ส้น ไมค่ บั เกนิ ไป อาจทาใหเ้ จ็บเทา้ เกดิ บาดแผล หรอื เปน็ หดู - ตาปลาได้ ในขณะเดียวกนั ต้องไมห่ ลวมเกินไป เพราะทาให้การเดินไมส่ ะดวกหกลม้ งา่ ย รองเท้าทีเ่ หมาะสม ควรมีลกั ษณะดงั นี้ (1) ความยาว มีช่องวา่ งระหวา่ งปลายนวิ้ เทา้ นว้ิ ที่ยาวทีส่ ดุ ถึงหวั รองเทา้ 1.25 ซม. (2) ความกว้าง น้ิวเท้าวางไดไ้ มซ่ ้อนกัน (3) ความลกึ รองเท้าด้านบนตอ้ งไม่กดหลังเท้า หรอื นว้ิ เท้า (4) เครอื่ งผกู รดั อาจเปน็ เชอื ก หัวเข็มขัด จะเหมาะสมกวา่ ชนิดตดิ ซปิ เพราะแบบซิปเท้าไม่สามารถขยายตวั ได้ (5) ส้นรองเทา้ ไม่ควรสูงเกิน 3.75 ซม. (6) พนื้ รองเท้า ควรเป็นพ้ืนยาง ไม่ลื่น (7) วสั ดุทท่ี า หนงั สตั วด์ ีท่ีสุดเพราะมีความยดื หย่นุ ดกี วา่ พลาสตกิ ซึ่งจะเหมาะสาหรับผูส้ งู อายทุ ี่กลน้ั ปัสสาวะไมอ่ ยู่ 3) แก้วน้า ถ้วยชาม ควรเปน็ ชนิดท่ีมีหจู ับ นา้ หนักเบา เลือกสีท่ีผู้สูงอายุมองเหน็ ได้งา่ ย แก้วนมหรือแก้วน้าด่ืม ไม่ควรจะเป็นสีใสเพราะมองยาก หรือแก้วนมที่ดีควรใช้สีตัดกับสีของนม เช่น นมสีขาว ควรใสใ่ นแก้วสีเข้มจะทาใหผ้ สู้ ูงอายุทราบว่านมอยู่ในระดับใดของแก้ว 4) ผ้าปโู ตะ๊ ควรเปน็ สีต่างจากแก้วน้าหรือจานชาม เพราะถา้ เป็นสเี ดียวกันหมด ผสู้ ูงอายจุ ะแยกสีไมอ่ อกว่าบนโต๊ะมขี องวางอยู่
19 5) ไมเ้ ท้าควรมยี างกนั ล่นื บริเวณปลายไม้ ความยาวอยู่ในระดับทม่ี ือหอ้ ยลงในท่าสบาย งอศอกเล็กน้อย ฝา่ มือวางบนหัวไมเ้ ทา้ พอดี 6) โทรศัพทค์ วรวางไวใ้ นตาแหนง่ ทสี่ ามารถเอื้อมมอื ถึง กรณหี กล้มลงกับพ้นื จะได้ขอความช่วยเหลือได้ทันที และถ้าหกล้มอย่าเพิ่งลุกขึ้นให้นอนน่ิง ๆ ไว้ก่อน สารวจดูว่ามีอะไรหักบ้าง หรือไม่ อาจใชว้ ธิ ตี รวจสอบจากความเจบ็ ปวดก็ได้ ถา้ แนใ่ จว่าไม่มอี ะไรหักจึงลกุ ข้ึน ถา้ สงสยั ควรร้อง ขอความชว่ ยเหลอื หรอื ขยบั ตวั ไปยังทวี่ างโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ 7) สลากยาหรือของบริโภค เช่น เกลอื น้าตาล ควรติดช่อื ตัวโตเพอ่ื ใหม้ องเห็นชัด 8) บริเวณทางเดิน ควรติดไฟฟา้ ใหส้ วา่ ง มรี าวกลมจบั ตลอดทางเดิน ไมม่ ีสง่ิ กีดขวาง 5.6.1 ไม่วางพรมเชด็ เท้า สายไฟ สายโทรศัพท์เกะกะ เพราะจะทาใหส้ ะดดุ และหกล้ม 5.6.2 เฟอร์นิเจอรใ์ นบ้านตอ้ งมั่นคง แข็งแรง ผสู้ ูงอายุจะได้ไมเ่ สยี การทรงตวั เวลาจบั เพ่ือพยงุ ตวั 5.6.3 ตรวจตราเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ และแก๊สให้อยูใ่ นสภาพดี ถ้าชารุดให้ซอ่ มแซมหรือเปลย่ี นใหม่ ถอดปลกั๊ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ หรือปดิ แก๊สหลังใช้งานแล้วทุกคร้งั 5.6.4 หากผูส้ งู อายมุ ีปญั หาในการทรงตัวควรใช้ไม้เท้าช่วยเดนิ 5.6.5 ควรมีโทรศพั ท์และเขยี นหมายเลขโทรศพั ทข์ อความชว่ ยเหลอื เมอ่ื เกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ ไว้ใหผ้ สู้ ูงอายุ ติดต่อ โดยใช้ตัวหนงั สอื ขนาดใหญ่ ชัดเจน ใชส้ ีตัดกับสพี นื้ กระดาษ วางในตาแหน่งทอ่ี ่านไดง้ า่ ย หรือใกล้ทวี่ างโทรศพั ท์ 5.6.6 ก่อนนอนควรตรวจตรา ปิดประตหู นา้ ต่าง ถอดปลัก๊ ไฟ ปดิ เตาแกส๊ ให้เรยี บรอ้ ย เพอื่ ความปลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ยส์ ิน
20 บทท่ี 6 กำรใช้ยำในผู้สูงอำยุ ผู้สูงอายุมีการเปล่ียนแปลงทางด้านต่าง ๆ ของร่างกายที่เส่ือมไปตามอายุที่มากข้ึน ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มักจะมีโรคประจาตัว จึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้ยาเพ่ิมมากข้ึนเป็นพิเศษ ดังน้ันผู้ดูแลผู้สูงอายุท่ีบ้าน ควรมีความรู้เบ้อื งตน้ อยา่ งงา่ ย ดงั น้ี หลักการใช้ยา เพ่อื ใช้ประกอบการพิจารณากอ่ นใหย้ า 6.1 หลกั กำรใช้ยำเบอื งตน้ 6.1.1 ถกู ต้องกับคน คอื ตัวผปู้ ่วยสูงอายุ 6.1.2 ถกู ชนดิ ยา ซึ่งจะบง่ บอกถงึ สรรพคณุ ยาในการรกั ษาโรคแต่ละโรคที่แตกต่างกัน 6.1.3 ถูกขนาดยา เช่น เปน็ มลิ ลิกรมั เมด็ แคปซูล หรอื เป็นหยด 6.1.4 ถกู ทาง เชน่ ทางปาก ทางผวิ หนัง หยอดตา หรอื เหน็บทวารหนกั 6.1.5 ถูกเวลา เช่น ก่อนอาหารเชา้ หรือ หลงั อาหาร หรอื ใหเ้ มอื่ มอี าการ และให้วนั ละกี่คร้งั เปน็ ต้น
21 6.2 ประเภทของยำ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 6.1 ประเภทยาใช้ภายใน ได้แก่ ยาที่ให้เข้าไปในร่างกาย โดยการรับประทานหรือการฉีด เช่น ยาเม็ด แคปซูล ยานา้ ยาผง หรอื ยาฉีด เปน็ ต้น 6.2 ประเภทยาใช้ภายนอก ได้แก่ ยาท่ใี ชภ้ ายนอกร่างกายห้ามรบั ประทาน เชน่ ครมี ยาหยอดตา ยาเหน็บ ยาพ่น เป็นต้น (มกั เขยี นฉลากสแี ดงติดขา้ งกล่องว่า “ยาใชภ้ ายนอก หา้ มรับประทาน”) 6.3 ประเภทของยำภำยในท่ใี ช้กับโรคเรือรังทม่ี ักพบอยูใ่ นผสู้ งู อำยุ 6.3.1 ยารักษาโรคความดันโลหติ สูง มีจุดประสงค์เพื่อลดระดับความดันเลือดให้ต่าลง โดยวิธีการขับปัสสาวะ หรือการลดการทางาน ของหัวใจ ซ่ึงแพทย์มักให้ยาในผู้ท่ีไม่สามารถควบคุมความดันเลือดให้อยู่ระดับท่ีปกติได้ และมักให้พร้อมกับ คาแนะนาการปรับพฤติกรรมการรบั ประทานอาหาร เช่น ลดการกินเค็ม อาหารท่ีมีมันหรอื กะทิ ของหมักดอง ลดเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหร่ี และลดความวิตกกังวล หม่ันออกกาลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น ผลข้างเคียงที่อาจพบจากการใช้ยา ระดับความดันเลือดต่า หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม หรืออาจมีคลนื่ ไส้ อาเจียน ขอ้ ควรปฏิบัติ ควรนอนพักและวัดระดบั ความดนั เลือด หรือนาส่งแพทย์
22 6.3.2 ยารกั ษาโรคเบาหวาน มจี ุดประสงค์เพอ่ื ลดระดับนา้ ตาลในเลอื ด โดยเพมิ่ การดูดซึมน้าตาลไปใชใ้ ห้เกดิ พลังงาน ไม่สะสมในกระแสเลอื ดมากเกนิ ไป มีท้งั ชนิดฉดี และรับประทาน ผลขา้ งเคยี งทอี่ าจพบจากการใชย้ า ระดบั น้าตาลในเลือดต่าเกนิ ไป อาจมีอาการใจสน่ั เหงอื่ ออก ตัวเย็น หนา้ มดื คล้ายจะเปน็ ลมหมดสติได้ ข้อควรปฏิบัติ ควรพกลูกอมหรอื ให้ดื่มน้าหวานสักแกว้ ถ้าไม่ดีขึน้ หรอื หมดสติควรพาไปพบแพทยโ์ ดยดว่ น (ถา้ หมดสตหิ ้ามให้อาหารและน้าทางปาก เพราะอาจสาลกั ได้) 6.3.3 ยารกั ษาโรคหวั ใจ มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือช่วยลดการทางานของหัวใจ ทาให้หัวใจสามารถบีบตัว สบู ฉดี เลือดไปเล้ียงร่างกายได้ดขี ้ึน ผลขา้ งเคยี งท่อี าจพบจากการใช้ยา อาจเกิดการเต้นของหัวใจผดิ ปกติ เชน่ เต้นช้าไปหรอื เต้นเร็วไป ทาใหเ้ กิดอาการเหนือ่ ยหอบ เจบ็ แนน่ หนา้ อก อ่อนเพลยี ไมม่ แี รง เป็นตน้ ข้อควรปฏิบัติ หากมียาอมใต้ลิ้น ให้อมคร้ังละ 1 เม็ด ถ้าไม่หายให้อมติดต่อกัน 3 คร้ัง ห่างกันคร้ังละ 5 นาที ถ้าไม่ดีข้ึนในระหว่างอมยาเม็ดท่ี 2 ควรนาส่งแพทย์ทันที หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกควรนาส่งถึงมือแพทย์ ภายในเวลาไม่เกนิ 2 ช่วั โมง 6.3.4. ยารกั ษาการเจ็บปว่ ยทวั่ ไป 1) ยาลดไข้ ปวดหวั ตวั รอ้ น เช่น พาราเซตามอล (500) ขนาดรบั ประทาน 2 เมด็ ทกุ 4 - 6 ชวั่ โมง หรอื เมื่อมอี าการ 2) ยาแกป้ วดขอ้ กระดกู กลา้ มเน้อื เช่น อินโดซิด บรเู ฟน ไอบรเู ฟนนาโพซนิ ขนาดรบั ประทาน ตามขนาดทก่ี าหนดไว้ ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะจะทาให้เปน็ แผล ในกระเพาะอาหารได้ หรอื หากใชเ้ ป็นระยะเวลานาน ๆ อาจจะทาให้ผู้สงู อายุซมึ และสบั สนได้ และไม่ควรรับประทานในระยะเวลานานเกนิ ไป 3) ยาแก้คล่ืนไส้ อาเจียน เมารถ เช่น ดรามามิน โมติเลียม เป็นต้น รับประทานก่อนเดินทาง ประมาณครง่ึ ช่วั โมง 4) ยาแก้ทอ้ งเสยี เชน่ ผงเกลือแร่ (ขนาดรบั ประทานตามทีร่ ะบขุ า้ งซอง) หรือถ้าไมม่ ี ใช้นา้ ตม้ สุก 1 ขวดกลม (750 ซีซี) หรอื 3 แกว้ + เกลอื ½ชอ้ นชา นา้ ตาลทราย 2 ชอ้ นโต๊ะ รบั ประทานภายใน 24 ชั่วโมง (ระวังการใชใ้ นผทู้ เ่ี ป็นโรคไต) 5) ยาแก้ไขห้ วดั ลดนา้ มกู เชน่ ทฟิ ฟ่ี แอคติเฟต (ควรระวงั การใชย้ าประเภทนี้ในผ้สู งู อายุ หากจาเป็นตอ้ งใช้ควรปรึกษาแพทย)์ นอกจากน้ียังมี ยาแก้แพ้ ยาแกไ้ อ ยาขับเสมหะ เปน็ ต้น หมายเหตุ ถา้ ยาเป็นแคปซลู ไม่ควรแกะออก เพราะจะทาใหก้ ารออกฤทธิ์ของยาไมด่ ีเท่าทคี่ วร
23 6.4 ขอ้ แนะนำในกำรใช้ยำในวยั สูงอำยุ 6.4.1 ผู้ดูแลควรศึกษาถึง รูปร่าง ลักษณะและสรรพคุณของยาแต่ละชนิดท่ีรับประทานอยู่เป็นประจา และแนะนาผสู้ ูงอายทุ ราบด้วย (เวลาแพทย์ถามถ้าจาสรรพคณุ ยาไมไ่ ด้ ก็ตอ้ งบอกรูปรา่ งลักษณะของยาได้ เชน่ เม็ดกลมแบนขนาดเลก็ สีส้ม รับประทานครัง้ ละหนึง่ เม็ดตอนเชา้ เปน็ ตน้ ) 6.4.2 เขยี นขนาดและวิธรี ับประทานตวั โต ๆ ตดิ บนฉลากยา (กรณีท่ีผู้สูงอายยุ ังอา่ นหนงั สือได้ด)ี 6.4.3 อาจใส่กลอ่ งแยกชน้ั ยา เช่น เชา้ – กลางวนั – เยน็ – กอ่ นนอน (ก่อนหรอื หลงั อาหาร) เพราะเคยมผี ้สู งู อายุหลงลมื รับประทานยาซ้า ทาให้เกดิ อนั ตรายมาก 6.4.4 สถานทเ่ี กบ็ ยา ควรให้ปลอดภัยและเกบ็ ไว้หา่ งจากมอื เด็ก (เพราะเคยมเี ด็กหยิบยาไปรบั ประทาน โดยผู้ใหญ่ไม่ทราบซ่ึงอันตรายมาก) บางชนิดต้องเก็บให้พ้นแสง (มักมีขวดสีชาหรือห่อฟอยล์) ยาฉีดเบาหวาน และยาหยอดตาจะเก็บไวบ้ รเิ วณฝาตเู้ ย็น 6.4.5 ถ้าเปน็ ไปไดผ้ ู้ดแู ลผ้สู ูงอายุ ควรหยบิ ยาใหร้ ับประทานเองกับมือ วิธีนจ้ี ะปลอดภยั ทส่ี ดุ 6.4.6 ผดู้ ูแลควรหม่ันพาผ้สู งู อายไุ ปพบแพทย์เป็นประจาตามกาหนดนัดหรือไปกอ่ นกาหนดนดั เมือ่ มอี าการผิดปกตขิ ้นึ 6.5 ข้อควรระวงั ในกำรใชย้ ำในผ้สู งู อำยุ 6.5.1 ยามีปฏิกิริยาต่อกัน คือ การเกิดปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยาต้ังแต่ 2 ชนิดข้ึนไป ซ่ึงบางคร้ัง สามารถใชย้ าร่วมกันได้ แตค่ วรเพมิ่ ระยะเวลาใหห้ ่างกนั ประมาณ 1 - 2 ชม. เพ่อื ปอ้ งกนั การลดการดดู ซึม ของยาอีกตวั หนึ่ง เชน่ ยาแกป้ วดหลายชนิด จะใชค้ วบค่กู ับยาลดกรดหรือยาเคลือบกระเพาะ 6.5.2 ยาเม็ดบารงุ เลอื ด ไมค่ วรรับประทานร่วมกับนม เพราะจะทาให้ประสทิ ธภิ าพของยาลดลง ควรรบั ประทานเว้นช่วงห่างจากการดมื่ นม 2 ชั่วโมง 6.5.3 การหยบิ ยาผิด ลืมกนิ ยาหรอื กนิ ยาเกินขนาดจากการหลงลืม เชน่ คนไขร้ บั ประทานยา ลดความดันโลหิต 2 คร้งั (เพราะคดิ วา่ ยังไม่ได้กิน) ทาให้เกดิ อาการหนา้ มืด เวียนศีรษะเนือ่ งจาก ระดบั ความดนั โลหติ ลดลงตา่ เกนิ ไป ซึง่ ขอ้ น้จี ะเปน็ อันตรายตอ่ ผู้สูงอายมุ าก อาจทาใหส้ มองขาดเลือดไปเลีย้ งได้ 6.5.4 การชอบรับประทานยาสมนุ ไพรบางชนดิ ทีไ่ ม่ไดร้ บั การรับรองมาตรฐาน หรอื การรับประทาน ยาชดุ ทีซ่ ื้อรบั ประทานเอง ตามคาแนะนาของเพอื่ นบ้านหรือหมอต๋ี ซึ่งสว่ นใหญ่จะมสี ารสเตยี รอยด์ จะมีอาการดขี ึน้ ในชว่ งแรก ๆ แตเ่ ม่อื รบั ประทานไปนาน ๆ จะเกิดผลเสยี ตอ่ ไตและสขุ ภาพอย่างมาก 6.5.5 หากเกดิ อาการแพ้ยา เช่น มผี น่ื ข้ึน คนั บวม แนน่ หน้าอก หายใจไม่ออกให้หยุดยาทันที และรีบมาพบแพทย์ และจายาชนดิ ที่แพไ้ ว้ เพื่อให้ประวัตติ อ่ การรักษาทุกคร้ัง 6.5.6 ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันบางกลุ่มทาให้ไอมาก ยาบางกลุ่มทาให้ท้องเสีย ปากแหง้ เป็นต้น อาการตา่ ง ๆ เหล่านีค้ วรปรกึ ษาแพทย์ 6.5.7 การใช้ยาสมุนไพรหรือยาแพทย์แผนโบราณ ยาผีบอก ควรใช้การพิจารณาและควรระมัดระวัง ศกึ ษาจากผู้ทผ่ี ่านการอบรมมาเทา่ นน้ั เพราะอาจเกิดอนั ตรายตอ่ ไตและตับไดภ้ ายหลงั
24 บทที่ 7 กำรชว่ ยเหลอื ผ้สู ูงอำยุทช่ี ่วยเหลอื ตวั เองไม่ได/้ พ่ึงพิง
25
26
27
28
29
30 7.1 กำรจดั ทำ่ ผู้ปว่ ยเพื่อระบำยเสมหะ การขับเสมหะออกจากปอดและหลอดลม การติดเชอื้ ในระบบทางเดินหายใจ จะพบไดบ้ อ่ ย ในผ้ทู ไ่ี ม่สามารถเคลอื่ นไหวขยบั ร่างกายได้และผู้สงู อายุติดเตยี ง เนอื่ งจากกลา้ มเนือ้ ต่าง ๆ อ่อนแรง ทาใหไ้ มส่ ามารถขับเสมหะออกมาได้เอง ดงั นั้น จงึ ตอ้ งช่วยเหลือในการระบายเสมหะ เพือ่ ป้องกนั การเกดิ ภาวะแทรกซอ้ น ตามข้นั ตอน ดงั นี้ 7.1 1 การจดั ทา่ ผูป้ ่วยเพือ่ ระบายเสมหะ เปน็ วธิ ีการท่ีอาศยั แรงโนม้ ถ่วงของโลกเป็นหลกั โดยให้สว่ นของปอดทตี่ อ้ งการระบายเสมหะอยู่สงู กว่าหลอดลมและปาก เพ่ือใหเ้ สมหะไหลออกมาไดด้ ี และขับออกได้ง่าย 7.1.2 การเคาะปอด การเคาะเพอื่ ให้เสมหะระบายออกได้ง่าย โดยใชอ้ ้งุ มือทามอื โค้ง น้วิ ชดิ กันและเคาะ โดยใชก้ ารกระดกข้อมือไมใ่ ช้แรงจากแขนท้ังหมด ขณะเคาะถา้ ผปู้ ่วยไอ ใหห้ ยุดเคาะ 7.1.3 การสนั่ ปอด ใช้วธิ กี ารสนั่ สะเทอื นแทนการเคาะ โดยเหยยี ดแขนตรงแนบฝา่ มือนวิ้ ชิดกัน ออกแรงสัน่ มาจากหัวไหล่ ไม่ควรกดแรงเกินไป อาจเกิดการบาดเจ็บได้ 7.1.4 การไออย่างมีประสิทธิภาพหลงั จากเคาะเสรจ็ ถา้ ผู้ป่วยสามารถไอได้ ให้สอนวธิ ีการไอ คอื เริม่ จากหายใจเข้าใหส้ ดุ กล้ันไว้สกั ครู่ หลงั จากนัน้ ใหไ้ อออกมาแรง ๆ 7.2 ข้อหำ้ มในกำรเคำะปอดและกำรสัน่ ปอดเพ่อื ระบำยเสมหะ 7.2.1 ไอเปน็ เลอื ด 7.2.2 วณั โรคปอดระยะแรก 7.2.3 กระดูกบางผุ 7.2.4 มะเรง็ แพรก่ ระจายกระดกู ซโี่ ครง 7.2.5 หนองในชอ่ งปอด 7.2.6 เนือ้ งอกในปอด
31
32
33
34
35
36
37 7.3 พืนทร่ี อบ ๆ บ้ำนและสง่ิ แวดลอ้ มท่เี หมำะกบั ผู้สูงอำยุ 7.3.1 บรเิ วณทโี่ ลง่ เชน่ หนา้ บา้ น ข้าง ๆ บา้ น ควรมีพื้นที่เท่ากัน ไม่เป็นหลมุ หรือมีก้อนหิน เพอ่ื ป้องกนั การสะดุดล้ม 7.3.2 พุม่ ไมห้ รอื ต้นไม้ ไม่ควรบดบงั มุมมองจากถนน 7.3.3 ทาความสะอาดรอบ ๆ บา้ น ไมป่ ลอ่ ยให้รก เพ่ือป้องกันสัตวม์ ีพิษ รวมทั้งเศษกิง่ ไม้ 7.4 ห้องนอน 7.4.1 ควรปรบั หอ้ งนอนหรือทน่ี อนสาหรบั ผสู้ งู อายุ ใหส้ ะดวกสบาย จดั ใหเ้ ปน็ ระเบียบ สะอาด อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก 7.4.2 เตียงนอน ควรเป็นเตียงเต้ียและมีที่จับ แต่ถ้าไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เลยควรเป็นเตียงสงู เพื่อสะดวกในการดแู ลของผู้ดูแล ทน่ี อนไม่ควรนุ่มหรือแขง็ เกนิ ไป 7.4.3 มีแสงสวา่ งเพียงพอ ควรมีเกา้ อีม้ ีพนกั พิงหลัง ให้ผูส้ งู อายุไว้ในหอ้ งนอน 7.4.5 ควรมีไฟทหี่ ัวเตียงหรือมโี ตะ๊ โคมไฟข้างเตยี ง เพื่อสะดวกตอ่ การเปิด – ปิดไฟในเวลาท่ผี สู้ งู อายุ จะลุกไปเข้าหอ้ งน้า 7.5 หอ้ งนำ 7.5.1 ภายในหอ้ งน้าหรือตลอดทางเดนิ ไปห้องน้า ควรมรี าวยึดเกาะ 7.5.2 พืน้ หอ้ งน้า ควรปูด้วยวสั ดุเนื้อหยาบหรอื แผน่ ยางกนั ลนื่ ไมม่ ีตะไคร่นา้ หรือเปียกชื้น 7.5.3 ควรมีเกา้ อ้ีนง่ั อาบน้า 7.5.4 ประตหู ้องน้า ควรเปดิ โดยการผลักออกมาฝ่งั ดา้ นนอกห้องนา้ เพอ่ื ให้สามารถชว่ ยเหลือผูส้ ูงอายุได้ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉนิ
38 7.6 กำรดแู ลผู้สงู อำยใุ สส่ ำยยำงหรอื ท่ออำหำร 7.6.1 อาหารและวิธีการใหอ้ าหารผา่ นสายยางหรอื ทอ่ ใหอ้ าหาร 1) อาหารเหลว อาหารป่นั ควรปรงุ สุกและสด สะอาด ครงั้ ละไม่มาก 2) จัดทา่ ของผูป้ ่วยให้เหมาะ คอื ทา่ น่ังหรอื ทา่ นอนเอนตวั ไมใ่ ชน่ อนราบ 3) ใหอ้ าหารชา้ ๆ ทลี ะนอ้ ย จนกวา่ จะหมด ประมาณ 15 - 30 นาที หากมกี ารอุดตนั อย่าพยายามดนั 4) สังเกตสายยางหรือท่อให้อาหารตัน แตก ฉีกเป่อื ย หรือไม่ 5) หลังใหอ้ าหารเสรจ็ ทกุ ครัง้ ตอ้ ง (1) ให้น้าสะอาดตามเลก็ น้อย (2) ปิดปากสายยางหรือทอ่ ใหอ้ าหารให้สนิท (3) ใหผ้ ูส้ ูงอายุนงั่ สกั พกั หรอื ลุกเดินช้า ๆ 7.6.2 หมายเหตุ 1) ให้อาหารได้ทุกประเภท ถ้าไม่มีข้อจากัดจากโรคบางโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต หรอื โรคผิวหนงั เปน็ ต้น 2) ถ้าหิวในระหวา่ งม้ือ สามารถใหอ้ าหารเสรมิ เพิ่มเติมได้ 3) ถา้ ใหอ้ าหารแล้วไอหรอื สาลกั แจง้ เจ้าหน้าทสี่ าธารณสขุ ทันที 7.6.3 การดแู ลผู้สูงอายทุ ใ่ี หอ้ าหารทางสายยาง 1) ระมัดระวังไมใ่ ห้สายยางหรือทอ่ ให้อาหารหลุด ถ้ำหลดุ รับประทำนอำหำร ไปพบแพทย์ ทำงปำกไม่ได้ ในวนั เวลำ รำชกำรได้ รบั ประทำนอำหำรทำง ปำกได้ 2) สงั เกตการเสอ่ื มสภาพของสายยางหรือท่อให้อาหาร หากเสื่อมใหเ้ ปลี่ยนใหม่ 3) ทาความสะอาดสายยางหรือท่อใหอ้ าหาร
39 วิธสี ังเกตสายยางหรอื ท่อให้อาหารเสือ่ มสภาพ คือมีลกั ษณะเปอ่ื ยมีนา้ หรือเศษอาหารซึมออกมาขณะให้อาหาร หรอื มรี อยฉกี ขาดรัว่ ซมึ เป็นตน้ 7.7 กำรดแู ลผิวหนงั บริเวณทใ่ี สส่ ำยยำงหรอื ท่อใหอ้ ำหำร 7.7.1 ทาความสะอาดดว้ ยนา้ ยาแอลกอฮอลห์ รอื นา้ ยาเบตาดีน วันละ 2 คร้ัง เช้า-เย็น แตถ่ ้าสกปรกมาก กเ็ พม่ิ การทาความสะอาดไดอ้ กี ตามความเหมาะสม 7.7.2 ไมจ่ าเป็นตอ้ งปิดแผลบรเิ วณน้นั แตถ่ ้ามีอาการระคายเคอื งให้ใชผ้ ้าก๊อซสะอาดปิดได้ หากไมท่ ราบวธิ ีปฏิบตั ิ ควรสอบถามและฝึกปฏบิ ัตจิ ากพยาบาล 7.7.3 สังเกตวา่ มกี ารอกั เสบติดเชือ้ บรเิ วณผิวหนังส่วนน้ันหรอื เปล่า ถ้ามีต้องแจง้ แพทยห์ รือพยาบาล ลักษณะการอักเสบตดิ เชอ้ื คอื ผวิ หนงั จะแดงเจ็บและอาจมีต่มุ หนอง 7.7.4 การดูแลผ้สู งู อายทุ ม่ี เี ครอื่ งช่วยหายใจ ดูแลให้ไดร้ บั ออกซิเจนเพยี งพอ และไมม่ ีการคั่ง ของคาร์บอนไดออกไซด์ โดย 1) ประเมนิ สภาพผู้ป่วย 2) ตรวจและบันทกึ ขอ้ มูลของเคร่ืองช่วยหายใจ 3) ดูดเสมหะเพ่ือใหท้ างเดนิ หายใจโลง่ 4) กรณที ผี่ ู้ปว่ ยใส่ทอ่ ชว่ ยหายใจ ดูแลท่อชว่ ยหายใจให้อยใู่ นตาแหน่งทีเ่ หมาะสม 7.7.5 บนั ทึกปรมิ าตรอากาศท่หี ายใจออกของผูป้ ว่ ยแตล่ ะครงั้ อย่างนอ้ ยวนั ละคร้ัง เพื่อประเมินความก้าวหน้าของผปู้ ว่ ย 7.7.6 ดแู ลเครอื่ งชว่ ยหายใจใหท้ างานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 7.7.7 ประเมนิ สภาพและปอ้ งกันการติดเชือ้ ของทางเดนิ หายใจ 7.7.8 สังเกตลกั ษณะ สี กลิน่ ของเสมหะ เกบ็ เสมหะส่งเพาะเช้อื และตดิ ตามผล
40 7.8 กำรดูแลผูส้ ูงอำยุทใี่ สส่ ำยสวนปสั สำวะ การดูแลผู้สูงอายุท่ีใส่สายสวนปัสสาวะในผู้สูงอายุบางราย มีความจาเป็นต้องคาสายสวนปัสสาวะ ต่อเนอื่ งจากโรงพยาบาลกลบั ไปที่บ้าน เพือ่ เปน็ ทางใหน้ า้ ปสั สาวะไหลไดต้ ลอดเวลา การดูแลผ้สู ูงอายุ ท่คี าสายสวนปัสสาวะอยา่ งถกู ตอ้ ง จะชว่ ยปอ้ งกันการอดุ ตันของสายสวนปัสสาวะ และปอ้ งกนั การตดิ เชอื้ ในระบบทางเดินปัสสาวะ 7.8.1 ขั้นตอนการดแู ลผสู้ ูงอายทุ ่ใี ส่สายสวนปสั สาวะ 1) ดูแลให้ถงุ ปัสสาวะอยตู่ ่ากวา่ บริเวณกระเพาะปสั สาวะของผู้ป่วยเสมอ 2) ดแู ลสายสวนปัสสาวะและถงุ ปสั สาวะ ตามน้ี (1) ใหเ้ ป็นระบบปิดเสมอ ไม่ให้มีรอยแตก รว่ั ซึม (2) ไม่ให้เล่อื นเขา้ - ออก หรือเกิดการดงึ รง้ั ของสาย (3) ไมใ่ หน้ ่งั ทบั สายสวนปัสสาวะ หรือน่งั ทบั ถุงรองรบั น้าปสั สาวะ (4) เทปสั สาวะออกจากถงุ วนั ละ 2 - 3 ครัง้ หรืออย่างน้อยทุก 8 ชวั่ โมง (5) ทาความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธ์และรูเปิดของท่อปัสสาวะทุกวัน วันละ 2 ครง้ั เชา้ - เยน็ ดว้ ยสบู่และน้า (อาจใช้แอลกอฮอล์ 80% เช็ดรเู ปดิ ของท่อ) อาบนา้ หรอื เชด็ ตวั ไดต้ ามปกติ (6) ดม่ื น้าวันละ 8 - 12 แกว้ หรอื ตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่ี และบนั ทึกจานวนปสั สาวะในแต่ละวนั (7) เปล่ียนสายสวนปสั สาวะทุก 4 สปั ดาห์ หรอื เร็วกว่าตามการอดุ ตัน หรือภาวะผิดปกติ QR Code วธิ ีการให้อาหารทางสายยาง
41
42 7.9 กำรปฏิบตั ิตวั เพอ่ื ปอ้ งกนั โรคตำในผู้สูงอำยุ 7.9.1 ตรวจตาเปน็ ประจาทุกปี และเม่ือมีการมองเหน็ ภาพที่เปล่ยี นแปลงไปดงั กลา่ ว ควรรบี มาพบแพทย์ 7.9.2 หยดุ สบู บหุ รี่ 7.9.3 สวมแวน่ ตากนั แดด 7.9.4 รกั ษาโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด 7.9.5 รับประทานผักผลไม้ อาหารครบ 5 หมู่
43 บรรณำนกุ รม กรมการแพทย.์ (2558) คู่มืออาสาสมัครประจาครอบครัว (อสค.) กล่มุ ดูแลผ้สู ูงอายุ สืบคน้ จาก https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document กรมสนบั สนุนบริการสุขภาพ. (2558) คู่มือแกนนาสุขภาพประจาครอบครัว (กสค.) เพื่อการส่งเสริม บทบาทของครอบครัวในการดูแลสุขภาพตนเองหลกั สูตร 18 ชั่วโมง สืบคน้ จาก http://hpc9.anamai.moph.go.th/images/pdf59/old59/old03.pdf จนญั ญา อุดาการ. (2559) ข้อควรระวังในการออกกาลงั กาย สืบคน้ จาก https://goo.gl/JMvzzs ชะลอชรา ชีวายนื ยาว. (2563) คู่มือแนวทางการส่งเสริมสุขภาพดี (Individual Wellness Plan). พมิ พค์ ร้ังที่ 1 สานกั งานกิจการโรงพิมพท์ หารผา่ นศึก : สานกั อนามยั ผสู้ ูงอายุ ท่าออกกาลงั กายสาหรับผู้สูงอายุ (2562) สืบคน้ จาก https://youtu.be/LVJxq6fUzc ธงโภชนาการ (2554) สืบคน้ จาก http://5groups.blogspot.com/2011/08/blog-post_7195.html สานกั การพยาบาล. (2556) โรงเรียนผ้สู ูงอายุ สืบคน้ จาก http://www.thaihealth.or.th สานกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2557) คู่มือการจัดการความรู้พฒั นาระบบ การดูแลผู้สูงอายโุ ดยชุมชนท้องถ่ิน สืบคน้ จาก www.thaihealth.or.th วิธีการทาความสะอาดช่องปากผ้สู ูงอายุ (2563) สืบคน้ จาก https://youtu.be/xkhl-yDT3WE วิธีการออกกาลงั กายลดอาการวงิ เวยี นศรีษะในผู้สูงอายุ (2558) สืบคน้ จาก https://youtu.be/GyygzYz_HeO วธิ ีการให้อาหารทางสายยาง (2563) สืบคน้ จาก https://youtu_be/r55jAblsm7I
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: