วิทย์

หน่วยท่ี6:การใชพ้ ลงั งานเพ่ือการขนส่ง วชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า 30000-1308 นางสาวเมธาวดี สวสั ดี เลขที่21 ปวส.1/3 รหสั นกั ศึกษา64321120345

OBJECTIVE 01 วิเคราะหค์ วามหมายความสาคญั ของการใชพ้ ลงั งานได้ 02 ยกตวั อยา่ งของประเภทพลงั งานได้ 03 วิเคราะหค์ วามสาคญั ของการรขนสง่ แตล่ ะประเภทได้

CONTENTS 01ความหมายและประเภทของพลงั งาน 02ความสาคญั ของการขนสง่ 03การขนสง่ ทางบก 04การขนสง่ ทางนา้ 05การขนสง่ ทางอากาศ

01 ความหมาย พลงั งาน(ENERGY) คือ กิจกรรมท่ที าหรอื ผลของแรงท่ีทาใหว้ ตั ถเุ คล่อื นท่ี หรอื ความสามารถในการทางาน ซง่ึ มีอยใู่ นตวั ของส่งิ ของ ท่สี ามารถเปล่ยี นรูปไดท้ างานได้ ไดแ้ กพ่ ลงั งานหมนุ เวียนและพลงั งานสนิ้ เปลือง 01ประเภทพลงั งาน การจาแนกแหลง่ ท่ีมาของการเกิดสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 แหลง่ คือพลงั งานตน้ กาเนิดหรอื พลงั งานใชแ้ ลว้ หมดไปและพลงั งานแปรรูปหรอื พลงั งานหมนุ เวียน

02 ปัญหาการใชพ้ ลงั งานในประเทศไทย ปัญหาการใชพ้ ลงั งานของประเทศรุนแรงขนึ้ จนอาจกลา่ วไดว้ า่ เป็นวิกฤตการณด์ า้ นพลงั งาน ซง่ึ สรุปสาเหตุ ของวิกฤตการณพ์ ลงั งานไดด้ งั นี้ 1.การขาดแคลนพลงั งานประเภทนา้ มนั เชือ้ เพลงิ 2.ตอ้ งพง่ึ พาการนาเขา้ นา้ มนั เชือ้ เพลงิ จากตา่ งประเทศ 3.ขาดความรูแ้ ละเทเคโนโลยีในการพฒั นาพลงั งาน 4.นโยบายดา้ นพลงั งานของประเทศเพ่ิงเรม่ิ ตน้ อยา่ งจรงิ จงั 5.ความฟ่ มุ เฟือยและการใชพ้ ลงั งานอยา่ งขาดประสทิ ธิภาพ

พลงั งานท่ีใชแ้ ลว้ หมดไป ถา่ นหนิ (coal) ถา่ นหินเป็นหินทีเ่ กิดจากการสะสมของตะกอนที่เป็นซากพชื ท่ตี ายทบั ถมกนั มาเป็น เวลายาวนานและถกู ยอ่ ยสลายโดยปฎกิ ิรยิ าทางเคมี และเม่อื ไดร้ บั อทิ ธิพลความรอ้ นท่ี เพมิ่ ขนึ้ ทาใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงทางเคมีจนซากพชื เหลา่ นนั้ กลายเป็นถา่ นหนิ ในที่สดุ ปิโตรเลยี ม(petroleum) เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาตใิ นชนั้ หนิ ใตพ้ ืนผิวโลกจาการสลายตวั ของอนิ ทรสี ารจานวน มากมาทบั ถมกนั ในหนิ ตะกอนภายใตค้ วามรอ้ นและความดนั มหหาศาล เกิดเป็นสารร ประกอบไฮโดรรคารบ์ อนหลายชนดิ

แรน่ ิวเคลยี ร์ แรก่ มั มนั ตรงั สี เป็นแรท่ ่ีใหพ้ ลงั งานมหาศาล โดยแยกเอาธาตกุ มั ตรงั สีตา่ งๆ สาหรบั ใชป้ ระโยชน์ เชน่ ยเู รเนียม โคบอลต์ เรเดียม และทอเรยี ม ประโยชนข์ องธาตกุ มั มนั ตรงั สี 1.ทาระเบิดนิวเคลียร์ 2.ใชพ้ ลงั งานจากธาตกุ มั มนั ตรงั สีในการผลติ กระแสไฟฟ้า 3.ใชค้ านวณอายขุ องวตั ถโุ บราณ 4.เปลี่ยนแปลงโครโมโซมของส่งิ มีชีวิต 5.ใชใ้ นการแพทย์ เชน่ รกั ษาโรคมะเรง็ เป็นตน้

พลงั งานใชแ้ ลว้ หมดไป

พลังงานหมุนเวียน พลงั งานแสงอาทติ ย์ เป็นพลงั งานทางเลอื กและเป็นพลงั งานท่ีใชแ้ ลว้ ไมห่ มดไป โดยสามารถนามาใชป้ ระโยชนด์ า้ นตา่ งๆ และยงั ชว่ ยรกั ษา ส่งิ แวดลอ้ มใหด้ ี พลงั งานนา้ พลงั งานนา้ นิยมใชใ้ นการผลติ ไฟฟา้ โดยมีกงั หนั นา้ เป็นอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการเปล่ยี นพลงั งานจลนท์ ่มี ีอย่ใู นนา้ ใหเ้ ป็น พลงั งานกลเพ่ือผลิต

พลงั งานชีวมวล เชือ้ เพลิงชีวมวลตา่ งๆ เหลา่ นี้ ไดแ้ ก่ ไม้ เศษไม้ ตอ ฟางขา้ ว ตน้ ออ้ ย และอ่ืนๆ ท่ีไดจ้ ากพชื ผลทางการเกษตรและ กระบวนการเกษตรตา่ งๆ พลงั งานลม พลงั งานลมท่ีจะนามาใชใ้ นการผลิตกระแสไฟฟ้า จะอาศยั อปุ กรณท์ ่เี รยี กวา่ กงั หนั ลม ซง่ึ การใชพ้ ลงั านลมเพ่ือ การผลิตไฟฟา้ ความเรว็ ลมจะตอ้ งสม่าเสมอหรอื กาละงลมเฉล่ยี ตอ่ ปีไม่นอ้ ยกวา่ 6.4-7.0 เมตรตอ่ วนิ าที ท่ี ความสงู 50เมตร

พลงั งานทดแทนเพ่ือการขนสง่ 1.นา้ มนั แก๊สโซฮอล์ พฒั นาขนึ้ มาเป็นเชือ้ เพลงิ ทดแทนนา้ มนั เบนซนิ เกิดจากการผสมระหวา่ งนา้ มนั เบนซินกบั เอทานอล (เอทลิ แอลกฮอลล)์ น้ำมนั แก๊สโซฮอลE์ 10 เป็นสว่ นผสมระหวำ่ งเอทำนอลไม่ น้ำมนั แก๊สโซฮอล2์ 0 เป็นสว่ นผสมระหววำ่ งเอทำนอล เกนิ รอ้ ยละ10และไมต่ ่ำกวำ่ รอ้ ยละ9 กบั น้ำมนั เบนซนิ พน้ื ฐำน ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ20และไมต่ ่ำกวำ่ รอ้ ยละ19 กบั น้ำมนั บนซนิ รอ้ ยละ90โดยปรมิ ำตร ซง่ึ ในทอ้ งตลำดปัจจบุ นั มจี ำหน่ำยทงั้ พน้ื ฐำนรอ้ ยละ80โดยปรมิ ำตร น้ำมนั แก๊สโซฮอลล์ เทน91และน้ำมนั แกส๊ โซฮอลอ์ อกเทน95 น้ำมนั แก๊สโซE85 เป็นสว่ นผสมระหวำ่ งเอทำนอลรอ้ ยละ85 และ ไมต่ ่ำกวำ่ รอ้ ยละ75 กบั น้ำมนั เบนซนิ พน้ื ฐำนรอ้ ยละ15โดยปรมิ ำตร

พลงั งานทดแทนเพ่ือการขนสง่ 2 2.ไบโอดีเซล ผลติ ภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ากการนานา้ มนั พชื หรอื ไขมนั สตั วม์ าผา่ นกระบวนการทางเคมีเพ่อื ใหไ้ ดส้ ารท่ีมีคณุ สมบตั ใิ กลเ้ คยี งกบั นา้ มนั ดเี ซลหมนุ เรว็ สามารถนาไปใชเ้ ป็นเครอ่ื งยนตด์ ีเซลหมนุ เรว็ และสามารถนาไปใชก้ บั เครอ่ื งยนตด์ เี ซลได้ 2.1ไบโอดเี ซลสาหรับ 2.2 ไบโอดเี ซลประเภทเมทลิ เคร่ืองยนตก์ ารเกษตร หรอื เอสเทอรข์ องกรดไขมัน ซง่ึ บางครงั้ เรยี กวา่ ไบโอดีเซลชมุ ชน เป็นไบโอดีเซลท่ีมีคณุ ภาพสงู โดยมี โดยมีประสทิ ธิภาพต่ากวา่ ไบโอ ดเี ซลประเภทเมทิลเอสเทอรข์ อง โครงสรา้ งนา้ มนั ใกลเ้ คียงกบั นา้ มนั กรดไขมนั เพราะเครอ่ื งยนตใ์ น การเกษตรมี เรอ่ื งยนตไ์ ม่ ดีเซลมาก ซบั ซอ้ น จงึ ไมต่ อ้ งใชไ้ บโอดเี ซลท่ี มีคณุ ภาพสงู ก็ได้

03 ความสาคญั ของการขนส่ง • ความหมายของการขนสง่ “การขนสง่ (TRANSPORTATION) ”หมายถึงการเคล่อื นยา้ ยคน(PEOPLE) สนิ คา้ (GOODS)หรอื บรกิ าร(SERVICES)จากตาแหน่ง หน่งึ ไปยงั ตาแหนง่ หนงึ่ ในกรณีของการเคลอ่ื นยา้ ยคนนนั้ จะเป็นเรอ่ื งของการขนสง่ ผโู้ ดยสารเสียเป็นสว่ นใหญ่ในบรบิ ทของหลกั สตู รการจดั การการ ขนสง่ นีน้ ะเนน้ ท่ีการขนสง่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารเป็นสาคญั การขนส่งทางบก ปัญหาจราจรติดขดั การขนสง่ ทางบก แบง่ ออกเป็น ทาง ผลกระทบการขนสง่ ทางบก รถไฟ และทางรถยนต์ การเดินทาง ดว้ ยรถไฟปลอดภยั สะดวกสบาย แต่ อบุ ตั เิ หตจุ ากการขนสง่ ไมส่ ามารถแวะพกั ระหวา่ งทาง หรอื ออกไปขา้ งนอกเสน้ ทางได้ แตก่ าร เดนิ ทางโดยรถยนตส์ ว่ นตวั สามารถ แวะพกั ตามเสน้ ทางท่ีตอ้ งการได้

การขนส่งทางนา้ การขนส่งทางอากาศ การขนสง่ ทางนา้ ตงั้ แตอ่ ดีตมี มีบทบาทสาคญั มากตอ่ การท่องเท่ียว วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือการคา้ ชาย การ เพราะการขนสง่ ทางอากาศมีความ สารวจดินแดน การขนสง่ ผโู้ ดยสาร รวดเรว็ สะดวกสบาย เขา้ ถงึ แลง่ สาหรบั เดนิ ทางเพ่ือการท่องเท่ียวก็ ทอ่ งเท่ียวไดง้ า่ ยและสามารถเดนิ ทาง มีบา้ งแตไ่ มม่ ากนกั การเดนิ เรอื ยงั ระยะไกลแตป่ ระหยดั เวลาในการ อาศยั แรงลมธรรมชาตแิ ละแรงคน เดนิ ทาง ข้อดกี ารขนส่งทางนา้ ขอ้ ดกี ารขนส่งทางอากาศ • ตน้ ทนตอ่ หนว่ ยต่า • รวดเรว็ • ขนสง่ สนิ คา้ ขนาดใหญ่ได้ • สามารถไปไดไ้ กล ในถ่ิน • มีความปลอดภยั มากเพราะใชค้ วามเรว็ ทรุ กนั ดาร ต่า ขอ้ เสยี การขนส่งทางอากาศ ข้อเสียการขนส่งทางนา้ • คา่ ใชจ้ ่ายสงู • ใชร้ ะยะเวลานาน • เกิดอบุ ตั เิ หตงุ า่ ยกวา่ การขนสง่ • ตอ้ งมีปรมิ าณมากพอ คมุ้ คา่ ตอ่ การ อ่นื ขนสง่ • มีอปุ สรรคทางดา้ นสภาพ • ตอ้ งมีการขนถา่ ยซา้ ไม่สามารถรูถ้ งึ จดุ อากาศ รบั สง่ สนิ คา้ ได้ • สง่ิ ของตอ้ งมีนา้ หนกั เบา • ความเสยี หายจากการขนสง่