Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้

ใบความรู้

Published by kob901, 2018-03-28 05:52:08

Description: ใบความรู้

Search

Read the Text Version

24 แผนการจดั การเรียนรู้/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 ชื่อวชิ า กลศาสตร์เคร่ืองกล สอนสปั ดาหท์ ่ี 4-5 ช่ือหน่วย ระบบแรง (Force Systems) คาบรวม 15ชื่อเร่ือง ระบบแรง (Force Systems) จานวนคาบ 6หวั ข้อเร่ืองด้านความรู้ 1. ความหมายและลกั ษณะของแรงด้านทกั ษะ 2. โมเมนตแ์ ละแรงคู่ควบ 3. คานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบด้านจิตพสิ ัย 4. หลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรงด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. คานวณคา่ ของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมสาระสาคญั แรง คือ การกระทาของวตั ถุหน่ึงต่ออีกวตั ถุหน่ึง หรือคือปริมาณที่สามารถทาให้วตั ถุเกิดการเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ี เช่น หยดุ น่ิง เคลื่อนท่ีหรือเปลี่ยนทิศทาง แรงเป็ นปริมาณเวคเตอร์ ดงั น้นั การกาหนดคุณลกั ษณะของแรง จะตอ้ งกาหนดท้งั ขนาด (Magnitude) ทิศทาง (Direction)แนวท่ีแรงกระทา (Sense) และจุดที่แรงกระทา (Point of action)สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย 1. คานวณคา่ ของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบ

25จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้  จุดประสงค์ทว่ั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. เพ่ือใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั การอธิบายความหมายและลกั ษณะของแรง (ด้านความรู้) 2. เพ่ือใหม้ ีทกั ษะในการสังเกตโมเมนตแ์ ละแรงคูค่ วบ (ดา้ นทกั ษะ) 3. เพื่อใหม้ ีทกั ษะในการฝึกคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบ (ดา้ นทกั ษะ) 4. เพื่อใหม้ ีเจตคติที่ดีต่อการยอมรับหลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรง (ดา้ นจิตพิสัย) 5. เพอื่ คานวณคา่ ของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม (ด้านคุณธรรม จริยธรรม)  จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. อธิบายความหมายและลกั ษณะของแรงได้ (ดา้ นความรู้) 2. สังเกตโมเมนตแ์ ละแรงคูค่ วบได้ (ดา้ นทกั ษะ) 3. ฝึกคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบได้ (ดา้ นทกั ษะ) 4. ยอมรับหลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรงได้ (ดา้ นจิตพิสยั ) 5. คานวณค่าของแรงโมเมนต์ แรงคู่ควบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม)

26เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้• ด้านความรู้(ทฤษฎ)ีแรง (Forces) แรง คือ การกระทาของวตั ถุหน่ึงต่ออีกวตั ถุหน่ึง หรือคือปริมาณท่ีสามารถทาให้วตั ถุเกิดการเปล่ียนแปลงการเคลื่อนที่ เช่น หยุดน่ิง เคล่ือนที่หรือเปล่ียนทิศทาง แรงเป็ นปริมาณเวคเตอร์ ดงั น้นั การกาหนดคุณลกั ษณะของแรง จะตอ้ งกาหนดท้งั ขนาด (Magnitude) ทิศทาง (Direction)แนวท่ีแรงกระทา (Sense) และจุดที่แรงกระทา (Point of action) เมื่อพิจารณาถึงแรงจะเห็นไดว้ า่ แรงเกิดจากวตั ถุ 2 ชิ้น กระทากนั โดยตรงและแรงที่เกิดจากวตั ถุ 2 ชิ้นที่มีมวล ทาใหเ้ กิดแรงดึงดูด สาหรับแรงดึงดูดท่ีโลกกระทาต่อวตั ถุเรียกวา่ น้าหนกั แรงที่เกิดจากวตั ถุ 2 ชิ้นกระทากนั โดยตรง แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1. แรงกระทาเป็ นจุด (Concentrated load) หมายถึงแรงที่เกิดจากวตั ถุ 2 ชิ้นสัมผสั กนั โดยมีพ้นื ท่ีสัมผสั เล็ก มากเมื่อเทียบกบั ขนาดของวตั ถุ 2. แรงกระจาย (Distributed load) หมายถึงแรงท่ีเกิดจากวตั ถุ 2 ชิ้นสัมผสั กนั โดยมีพ้นื ท่ีสัมผสั ขนาดใหญ่ แรงกระจายแบ่งออกเป็ น  แรงกระจายสม่าเสมอ  แรงกระจายท่ีเปล่ียนแปลงไปอยา่ งสม่าเสมอ  แรงกระจายที่เปล่ียนแปลงไปอยา่ งไมส่ ม่าเสมอ

27หลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรง (Principle of force analysis) กฎของไซน์ (Law of sine) กฎของโคไซน์ (Law of cosine) กฎสี่เหลี่ยมดา้ นขนาน (Parallelogram law) หาขนาดของแรงลพั ธ์

28ดงั น้นัหามุมท่ีแรงลพั ธ์กระทาไดด้ งั น้ี การแตกแรงในระบบ 2 มิติ (Resolution of forces in a plane) การแตกแรงหมายถึง การจาแนกแรงท่ีกระทาต่อจุดใด ๆ บนวตั ถุ ใหอ้ ยใู่ นแนวเดียวกนั เช่นใหอ้ ยใู่ นแนวแกน x หรือ แนวแกน y เช่น

29 ในกรณีตอ้ งการหามุมท่ีแรง F กระทากบั แกน x (มุม θ) โมเมนตข์ องแรง (Moment of a force) โมเมนต์ หมายถึง ผลของแรงที่กระทาตอ่ วตั ถุ แลว้ ทาให้วตั ถุน้นั เกิดการหมุนรอบจุดใดจุดหน่ึง ค่าของโมเมนตห์ าไดจ้ าก ผลคูณของแรงกบั ระยะทางต้งั ฉากจากจุดหมุนไปถึงแนวแรง ใชก้ ฎมือขวา (Right-handed rule) เขียนเวคเตอร์ของ โมเมนต์ โดยใหน้ ิ้วมือขวาท้งั ส่ีการอบแกน และนิ้วหวั แม่มือช้ีไป ตามแนวแกน เมื่อมีแรงหลายแรงกระทากบั วตั ถุแลว้ ทาใหว้ ตั ถุอยใู่ นสภาวะสมดุล จะไดว้ า่ ΣM = 0 หรือ แรง F สามารถแยกออกไดเ้ ป็ น F1, F2, …………Fn ดงั ไดก้ ล่าวแลว้ จากกฎของส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน แนว

30แรงของแรงทุกแรงจะผา่ นที่จุดเดียวกนั การรวมแรงยอ่ ยหรือการหาแรงลพั ธ์ ก็คือการรวมแรงยอ่ ยท้งั หมดให้เหลือแรงลพั ธ์เพียงแรงเดียว ในทานองเดียวกนั เมื่อรวมโมเมนต์ของแรงย่อยท้งั หมดเขา้ ด้วยกนั ก็จะเหลือโมเมนตเ์ พยี งอนั เดียว ซ่ึงก็คือ ทฤษฎีของวาริยอง (Varignon’s theorem) เวคเตอร์ของโมเมนตท์ ี่มีทิศทางเดียวกนั ให้นามาบวกกนั ถา้ เวคเตอร์ของโมเมนตม์ ีทิศทางตรงกนั ขา้ มให้นามาลบกนั แรงคู่ควบ (Couples) แรงคู่ควบ หมายถึง โมเมนตท์ ่ีเกิดจากแรง 2 แรงที่มีขนาดเท่ากนั และขนานกนั แต่มีทิศทางตรงกนั ขา้ มคา่ ของโมเมนตข์ องแรงคู่ควบ หาไดจ้ ากผลคูณของแรงเพียงแรงเดียวกบั ระยะทางต้งั ฉากระหวา่ งแรงท้งั สอง

31 โมเมนตข์ องแรงคู่ควบจะไม่เปล่ียนแปลง ถา้ แรงคู่ควบกระทาในระนาบท่ีขนานกนั การหาผลลพั ธ์ของโมเมนตข์ องแรงคู่ควบ พจิ ารณารูปที่ 2.17 แรงคู่ควบ M1 และ M2กระทาบนระนาบท่ีแตกตา่ งกนั จะไดผ้ ลลพั ธ์ของโมเมนตข์ องแรงคูค่ วบ M = M1+ M2 ซ่ึงแรงคูค่ วบ M1และ M2 พบกนั ท่ีจุด O เนื่องจากเป็นเวคเตอร์อิสระ

32 สัญลกั ษณ์ของแรงคูค่ วบมีหลายแบบ ดงั แสดงในรูปท่ี 2.18การแตกแรงออกเป็นแรงและแรงคูค่ วบ (Resolution of a force into a force and a couple) ในการแก้ปัญหาทางด้านกลศาสตร์ บ่อยคร้ังมากมีความจาเป็ นที่จะต้องเปลี่ยนตาแหน่งของแรงที่กาหนดให้ เพ่ือใหไ้ ปอยใู่ นแนวแรงอื่น โดยการใชท้ ฤษฎีของแรงคู่ควบ แรงก็จะถูกเคล่ือนยา้ ยเปล่ียนตาแหน่งไปอยใู่ นแนวแรงที่ตอ้ งการ และเกิดแรงคู่ควบข้ึน โดยไมเ่ ปล่ียนแปลงผลกระทบภายนอกใดๆกบั วตั ถุ เม่ือตอ้ งการเปลี่ยนตาแหน่งของแรงท่ีกระทา จากจุด A ไปยงั จุด B กระทาไดโ้ ดยสมมุติแรงข้ึน 2 แรงกระทาท่ีจุด B มีขนาดเท่ากบั แรง F และ –F ทาให้แรง F เดิมกบั แรง –F ใหม่ เกิดเป็ นโมเมนตข์ องแรงคู่ควบ M= Fd

33 ผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบ (Resultants of Coplanar Force Systems) ระบบแรงบนระนาบหรือในระบบ 2 มิติ เป็ นระบบท่ีแรงทุกแรงอยู่บนระนาบเดียวกนั ดงั น้นั ผลลพั ธ์ของแรง (R) ก็อยบู่ นระนาบดว้ ย และผลลพั ธ์ของแรงคู่ควบที่เกิดข้ึนจะต้งั ฉากกบั ระนาบและต้งั ฉากกบั แรงลพั ธ์R ดว้ ย ระบบแรงบนระนาบ แบ่งออกเป็น 1. ระบบแรงที่อยใู่ นแนวเดียวกนั (Colinear Coplanar Force Systems) 2. ระบบแรงที่กระทาที่จุดเดียว (Concurrent Coplanar Force Systems) 3. ระบบแรงที่ขนานกนั (Parallel Coplanar Force Systems) 4. ระบบแรงท่ีกระทาคนละจุด (Nonconcurrent Coplanar Force Systems) ระบบแรงท่ีอยใู่ นแนวเดียวกนั เป็นระบบแรงท่ีแรงทุกแรงอยบู่ นระนาบและอยใู่ นแนวเส้นตรงเดียวกนัการหาแรงลพั ธ์หาไดโ้ ดยการบวกหรือลบเวคเตอร์ของแรงน้นั ๆ ระบบแรงท่ีกระทาท่ีจุดเดียว เป็ นระบบแรงท่ีแนวแรงท้งั หมดพบกนั ที่จุดเดียว ถา้ ใหจ้ ุดน้นั เป็นจุดกาเนิด (Origin) กจ็ ะไม่มีแรงคู่ควบเกิดข้ึน แตถ่ า้ ตอ้ งการยา้ ยแรงท้งั หมดไปกระทาที่จุดอ่ืนก็จะมีแรงคู่ควบเกิดข้ึนดว้ ย ตามทฤษฎีของวาริยอง ในการหาแรงลพั ธ์ใหแ้ ตกแรงแต่ละแรง ให้อยใู่ นแนวแกน x และแกน yแลว้ รวมแรงทางพชี คณิตในแนวแกน จะได้ ΣFx = Rxและ ΣFy = Ry

34 ระบบแรงท่ีขนานกนั เป็ นระบบแรงท่ีแนวแรงท้งั หมดขนานกนั แรงลพั ธ์ที่เกิดข้ึนจะขนานกบั แนวแรงของระบบแรงและมีคา่ เท่ากบั ผลรวมทางพีชคณิตของแรงท้งั หมด ซ่ึงแนวของแรงลพั ธ์หาไดจ้ ากทฤษฎีของวาริยอง ในกรณีที่ R = ΣF = 0 จะทาใหเ้ กิดแรงคูค่ วบ เช่นในรูปที่ 2.23 สมมุติเม่ือรวมแรงท้งั หมดแลว้ ทาให้ R = 0 เม่ือรวมเฉพาะแรง F2 และ F3 จะไดค้ า่ R = F1 ซ่ึงมีทิศทางตรงกนั ขา้ มและขนานกนัจึงเกิดแรงคู่ควบ M = Fd ระบบแรงท่ีกระทาคนละจุด เป็นระบบแรงที่แนวแรงไมไ่ ดพ้ บกนั ท่ีจุดเดียว ขนาดของแรงลพั ธ์ แนวแรงและทิศทางของแรงลพั ธ์ หาไดเ้ ช่นเดียวกบั ระบบแรงท่ีกระทาที่จุดเดียว

35 ในกรณีแรงลพั ธ์ R = 0 จะทาใหเ้ กิดแรงคูค่ วบ เช่นในรูปท่ี 2.25 สมมุติเม่ือรวมแรง F1 และ F2จะไดแ้ รงลพั ธ์ R1 ซ่ึงมีขนาดเท่ากบั F3 มีทิศทางตรงกนั ขา้ มและขนานกนั จึงเกิดแรงคูค่ วบ M = Fd หมายเหตุ สาหรับหวั ขอ้ น้ี ไม่ขอกล่าวในรายละเอียด ซ่ึงจะไดศ้ ึกษาในระดบั ที่สูงข้ึนตอ่ ไป

36• ด้านทกั ษะ+ด้านจติ พสิ ัย (ปฏบิ ตั +ิ ด้านจิตพสิ ัย) (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 2-4) 1. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2• ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 5) 1. คานวณค่าของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม

37 กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที ) 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที )1. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนอ่านเอกสารประกอบการ 1. ผูเ้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการสอนวิชาสอนวชิ า กลศาสตร์เครื่องกล หน่วยท่ี 2 เรื่อง ระบบ กลศาสตร์เคร่ื องกล หน่วยท่ี 2 เร่ื อง ระบบแรงแรง (Force Systems) หน้าท่ี 31 ในส่วนของสาระ (Force Systems) หน้าที่ 31 ในส่ วนของสาระการการเรียนรู้ เรียนรู้2. ผูส้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วยท่ี 2. ผูเ้ รียนทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดประสงค์การ2 เร่ือง ระบบแรง (Force Systems) เรี ยนของหน่วยเรี ยนท่ี 2 เรื่ อง ระบบแรง (Force Systems)3. ผูส้ อนให้ผู้เรียนสังเกตโมเมนต์และแรงคู่ 3. ผเู้ รียนสังเกตโมเมนตแ์ ละแรงคู่ควบพร้อมให้ควบพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ เหตุผลประกอบ2. ข้ันให้ความรู้ ( 180 นาที ) 2. ข้ันให้ความรู้ ( 180 นาที )1. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการ 1. ผูเ้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชาสอน วิชา กลศาสตร์เคร่ื องกล หน่วยที่ 2 เร่ื อง กลศาสตร์เครื่ องกล หน่วยที่ 2 เรื่ อง ระบบแรงระบบแรง (Force Systems) หนา้ ท่ี 33-66 (Force Systems) หนา้ ที่ 33-66 พร้อมทาความเขา้ ใจ2. ผสู้ อนเปิ ดโอกาส ให้ผเู้ รียนถามปัญหา และ 2. ผเู้ รียนถามปัญหา และขอ้ สงสัยจากเน้ือหา โดยขอ้ สงสัยจากเน้ือหา โดยครูและผเู้ รียนฝึ กคานวณหา ครูและผูเ้ รียนฝึ กคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบ ระนาบ3. ข้ันประยุกต์ใช้ ( 105 นาที ) 3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 105 นาที )1. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 2 1. ผเู้ รียนทาทาแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 2 หนา้ 67-หนา้ 67-71 712. ผู้ ส อ น ใ ห้ ผู้ เรี ย น สื บ ค้ น ข้ อ มู ล จ า ก 2. ผเู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต

38 กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน4. ข้นั สรุปและประเมินผล ( 60 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( 60 นาที )1. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีไดเ้ รียน 1. ผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาท่ีได้เรียนให้มีความใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั2. ครูตรวจทาแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 2 พร้อมกบั 2. ผเู้ รียนนาคะแนนจากการทาแบบฝึ กหดั หน่วยที่บนั ทึกคะแนน 2 มาประเมินเพ่อื ดูความกา้ วหนา้ ของตนเอง3. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน 3. ผู้เรี ยน ศึกษ าเพิ่มเติมน อกห้องเรี ยน ด้วยดว้ ยเอกสารประกอบการสอนที่จดั ทาข้ึน เอกสารประกอบการสอนท่ีจดั ทาข้ึน(บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-5) (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) (รวม 360 นาที หรือ 6 คาบเรียน)

39งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผลก่อนเรียน1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนหน่วยที่ 22. ทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดประสงค์การเรียนของหน่วยท่ี 2 และให้ความร่วมมือในการทากิจกรรม ตา่ ง ๆขณะเรียน1. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 2 เรื่อง ระบบแรง (Force Systems)2. ทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 23. ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั จากผสู้ อนหลงั เรียน1. สรุปเน้ือหา เรื่อง ระบบแรง (Force Systems)ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2

40ส่ือการเรียนการสอน/การเรียนรู้สื่อสิ่งพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า กลศาสตร์เครื่องกล (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิง พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-5) 2. ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง ระบบแรง (Force Systems) (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้นั ให้ความรู้ เพ่อื ใหบ้ รรลุจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1-5) 3. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 ข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1 4. แบบประเมินผลงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1 5. แบบประเมินพฤติกรรมการทางาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 2สื่อโสตทศั น์ (ถ้ามี) 1. หนงั สือ เร่ือง ระบบแรง (Force Systems)ส่ือของจริง ระบบแรง (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-5)

41แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนิคสมุทรสาคร 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่นจงั หวดั สมุทรสาครการบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอนื่ 1. บรู ณาการกบั วชิ ากลศาสตร์ยานยนต์ 2. บูรณาการกบั คณิคศาสตร์

42การประเมินผลการเรียนรู้  หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ความรู้ก่อนเบ้ืองตน้ ก่อนการเรียนการสอน ขณะเรียน 1. ทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 2. สงั เกตการทางาน หลงั เรียน 1. ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เพิม่ เติมคาถาม 1. จงอธิบายความหมายและลกั ษณะของแรง 2. โมเมนตแ์ ละแรงคูค่ วบ มีลกั ษณะอยา่ งไร 3. คานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งไร 4. หลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรง คือผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเร็จของผู้เรียน ตรวจแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 2สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ ผเู้ รียนสร้างความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ระบบแรง (Force Systems) 1. วเิ คราะห์และตีความหมาย 2. ต้งั คาถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยกุ ตค์ วามรู้สู่งานอาชีพ

43สมรรถนะการปฏบิ ัตงิ านอาชีพ 1. คานวณค่าของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบสมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง จากการเรียน เร่ือง ระบบแรง (Force Systems) ทาใหผ้ เู้ รียนมีความรู้เพมิ่ เก่ียวกบั การกระทาของวตั ถุหน่ึงตอ่ อีกวตั ถุหน่ึง หรือคือปริมาณที่สามารถทาให้วตั ถุเกิดการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ี เช่น หยดุ นิ่ง เคล่ือนท่ีหรือเปลี่ยนทิศทาง แรงเป็ นปริมาณเวคเตอร์ ดงั น้นั การกาหนดคุณลกั ษณะของแรง จะตอ้ งกาหนดท้งั ขนาด(Magnitude) ทิศทาง (Direction)แนวท่ีแรงกระทา (Sense) และจุดท่ีแรงกระทา (Point of action)

44รายละเอยี ดการประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 1 อธิบายความหมายและลกั ษณะของแรงได้1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบายความหมายและลกั ษณะของแรงได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 สงั เกตโมเมนตแ์ ละแรงคูค่ วบได้1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : สังเกตโมเมนตแ์ ละแรงคูค่ วบได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 3 ฝึกคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบได้1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ฝึกคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 ยอมรับหลกั การพ้ืนฐานของการคานวณแรงได้1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ยอมรับหลกั การพ้นื ฐานของการคานวณแรงได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 5 คานวณค่าของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม1. วธิ ีการประเมิน : ตรวจผลงาน2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : คานวณคา่ ของแรงโมเมนต์ แรงคูค่ วบ และผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม จะได้ 2 คะแนน

45 แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานช่ือกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง...........................รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขท่ี……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่…….ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น 32 11 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรู้เกี่ยวกบั เน้ือหา ความถกู ตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ )2 รูปแบบการนาเสนอ3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม4 บุคลิกลกั ษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้าเสียง ซ่ึงทาให้ผูฟ้ ังมีความ สนใจ รวม ผปู้ ระเมิน…………………………………………………เกณฑ์ การให้ คะแนน1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจนถูกตอ้ ง 3 คะแนน = มีสาระสาคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ครบถว้ น แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ถูกตอ้ ง ไมต่ รงตามจุดประสงค์2. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนาเสนอท่ีเหมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนิคที่แปลกใหม่ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นาเสนอท่ีน่าสนใจ นาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั 2 คะแนน = มเี ทคนิคการนาเสนอที่แปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอท่ีน่าสน ใจ แต่ขาด การประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดุในทอ้ งถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนาเสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ ่าสนใจ3. การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม4. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื 2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื 1 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

46แบบประเมนิ กระบวนการทางานชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง...........................รายช่ือสมาชิก 2……………………………………เลขท่ี……. 4……………………………………เลขท่ี……. 1……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่…….ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น1 การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 3212 การแบ่งหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม3 การปฏิบตั ิหนา้ ที่ท่ีไดร้ บั มอบหมาย4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน รวม ผปู้ ระเมิน………………………………………………… วนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………...เกณฑ์ การให้ คะแนน1. การกาหนดเป้ าหมายร่วมกนั 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายการทางานอยา่ งชดั เจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีส่วนร่วมในการกาหนดเป้ าหมายในการทางาน2. การมอบหมายหนา้ ที่รับผดิ ชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรียมสถานที่ ส่ือ / อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้ วั่ ถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีส่ือ / อปุ กรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง แต่ขาด การจดั เตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ ถึงและมีสื่อ / อุปกรณ์ไมเ่ พียงพอ3. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย และตามเวลาท่ีกาหนด 2 คะแนน = ทางานไดส้ าเร็จตามเป้ าหมาย แต่ชา้ กวา่ เวลาท่ีกาหนด 1 คะแนน = ทางานไม่สาเร็จตามเป้ าหมาย4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไมป่ รับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนไมม่ ีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน

47 บันทกึ หลงั การสอน หน่วยที่ 2 ระบบแรง (Force Systems)ผลการใช้แผนการสอน 1. เน้ือหาสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 2. กิจกรรมการสอนเหมาะสมกบั เน้ือหาและเวลาที่กาหนด 3. สื่อการสอนเหมาะสมดีผลการเรียนของนักเรียน 1. นกั ศึกษาส่วนใหญ่มีความเขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคาถามในกลุ่ม และร่วมกนั ปฏิบตั ิงานท่ีไดร้ ับ มอบหมาย 2. นกั ศึกษากระตือรือร้นและรับผดิ ชอบในการทางานกลุ่มเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จทนั เวลาที่กาหนด 3. นกั ศึกษาสังเกตโมเมนตแ์ ละแรงคู่ควบได้ 4. นกั ศึกษาฝึกคานวณหาผลลพั ธ์ของระบบแรงบนระนาบได้ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้ รบตามหลกั สูตร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทาใหผ้ สู้ อนสอนไดอ้ ยา่ งมน่ั ใจ 3. สอนทนั ตามเวลาที่กาหนด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook