Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานฉบับสมบุรณ์

โครงงานฉบับสมบุรณ์

Published by ptpine645hh, 2022-09-11 06:45:12

Description: โครงงานฉบับสมบุรณ์

Search

Read the Text Version

โครงงาน เรื่อง สครับอะโวคาโด้ ผ้จู ัดทา นางสาว วชิ ญาดา สุทธหลวง เลขท่ี 7 นางสาว ปาณิสรา เสือบุญมี เลขท่ี 15 นาย ณฐั นนั ท์ ขตั ิยะ เลขท่ี 26 นางสาว พมิ ผกา จนั ดี เลขท่ี 27 นางสาว สรัลพร ยาวลิ าศ เลขท่ี 28 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4 เสนอ ครู ดารง คนั ธะเรศย์ เอกสารเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ และองคค์ วามรู้ของรายวชิ า(SI) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนปัว จงั หวดั น่าน

ข หวั ขอ้ โครงงาน: การทาสครับจากอะโวคาโด้ ผจู้ ดั ทา: นางสาววชิ ญาดา สุทธหลวง นางสาวปาณิสรา เสือบุญมี นายณฐั นนั ท์ ขตั ิยะ นางสาวพิมผกา จนั ดี นางสาว สรัลพร ยาวิลาศ ท่ีปรึกษา: ครูดารง คนั ธะเรศย์ ปี การศึกษา: 2565

ค บทคัดย่อ เร่ือง การทาสครับจากอะโวคาโด้ มีจุดมุง่ หมายเพ่ือ ๑.เพมิ่ รายไดใ้ หเ้ กษตรที่ขายอโวคาโด้ ๒.นาอะโวคาโดท้ ี่ลน้ ตลาดตลาดมาทาใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด ๓.สร้างรายไดด้ ว้ ยตนเอง ผลการศึกษาคน้ พบวา่ ปัญหาของอะโวคาโดท้ ี่ลน้ ตลาดมีจานวนนอ้ ยลงเกษตรการมีรายไดเ้ พ่มิ ข้นึ และสามารถนารายไดท้ ี่ไดจ้ าก การขายอะโวคาโดน้ ้นั ไปต่อทุนในการปลกู ผลไมช้ นิดอื่นๆที่มีความคล่องต่อเศษฐกิจและทาประโยชน์ มากมาย คณะผจู้ ดั ทา

ง กติ ติกรรมประกาศ การศึกษาคน้ ควา้ การทาโครงงานสครับอะโวคาโดส้ าเร็จลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี คณะผจู้ ดั ทาขอขอบพระครู อาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงานคอมพวิ เตอร์คุณครูดารง คนั ธะเรศยแ์ ละบคุ คาลากรโรงเรียนปัวทกุ ทา่ นที่แนะนา แนวทางการจดั ทาโครงงานฉบบั บน้ี คณะผจู้ ดั ทา

จ คานา โครงงานเลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาการทาสครับอะโวคาโดเ้ พ่อื แกไ้ ขปัญหาท่ีมาจากการปลูกอะโว คาโดแ้ ละขายลน้ ตลาดทาให้ราคาต่า คู่แขง่ ทางการตลาดจานวนมาก ฉะน้นั คณะผูจ้ ดั ทาจึงเลือกศึกษาคน้ ควา้ โครงงานน้ีเพื่อเพมิ่ รายไดใ้ หเ้ กษตรกร คณะผจู้ ดั ทาวา่ โครงงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ตอ่ ท่านที่สนใจ หาก วา่ โครงงานเลม่ น้ีมีส่ิง ผิดพลาดประการใดกต็ าม ก็ขออภยั ไว้ ณ ท่ีน้ีดว้ ย และจะนาปัญหาที่ไดร้ ับไป ปรับปรุงแกไ้ ขหรือ พฒั นาในการโครงงานในคร้ังต่อไป คณะผจู้ ดั ทา

สารบัญ ฉ เรื่อง ค บทคดั ยอ่ ง กิตติกรรมประกาศ จ คานา ๑ บทท่ี ๑ บทนำ ๑.๑ ความเป็นมา ๑.๒ วตั ถุประสงค์ ๑.๓ สมมติฐาน ๑.๔ ขอบเขตการศึกษา ๑.๕ ปรโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ บทที่ ๒ เอกสารเละงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ๑.ความหมาย ๑.๑ ขอ้ มูลทวั่ ไปของสครับ ๑.๒ ที่มาและความสาคญั ของสครับ ๑.๓ ประเภทของสครบั ๒. ขอ้ มูลทวั่ ไปของอะโวคาโด้ ๒.๑ ประโยชน์ ๒.๒ ทาเป็นพษิ บทท่ี ๓ วิธีการดาเนินการศึกษา ๑.ระเบียบวิธีการใชใ้ นการศึกษา ๒.ประชากร/กลุม่ ตวั อยา่ ง ๓.วิธีการดาเนินการ ๔.เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษา ๕.เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ๖.การวิเคราะหข์ อ้ มลู ๗.สถิติท่ีใชใ้ นการศึกษา บทที่ ๔ ผลการศึกษาคน้ ควา้

ช บทที่ ๕ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก

1 บทท่ี 1 บทนำ ๑. ควำมเป็ นมำและควำมสำคญั ของปัญหำ อะโวคาโดเพราะหาไดใ้ นฤดูน้ีเเละมีราคาถูกและมีปริมาณมากในตลาดทาใหส้ ินคา้ ลน้ ตลาดและ เกษตรกรขาดทุนในหลายดา้ นๆและไม่มีทนุ มากพอที่จะนาไปพฒั นาหรือต่อยอดผลผลิตในดา้ น อื่นๆและอะโวคาโดมีสรรพคณุ หลายๆอยา่ ง จากที่เกร่ินนาไปวา่ อะโวคาโดม้ ีสรรพคณุ หลายๆอยา่ งท่ีสามารถนาไปสร้างผลิตภณั ฑห์ ลายๆ ประเภททางคณะผจู้ ดั จึงคดิ คน้ วิธีการทาสครับอะโวคาโดข้ ้ึนมาเพ่ือเพม่ิ รายไดใ้ หเ้ กษตรและเป็น รายไดเ้ สริมใหค้ ณะผจู้ ดั ทา ดงั น้นั ทางคณะผจู้ ดั ทาจึงไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ การทาสครับอะโวคาโดเ้ พ่ือประโยชนต์ ่อคณะผจู้ ดั ทา ผบู้ ริโภคและผใู้ หจ้ าหน่ายสินคา้ ๒. วัตถปุ ระสงค์ ๑.ศกึ ษาวิธีการทาสครับ ๑.๑ ศกึ ษาเกี่ยวกบั อปุ กรร์และสว่ นประกอบท่ีสาคญั ในการผลติ ๑.๒ ศกึ ษาวธิ ีการใช้ ๒.นาอะโวคาโด้ที่มาจานวนมากมาใช้ประโยชน์สงุ สดุ และเพิ่มรายได้ ๓.ช่วยเหลอื เกษตรกรท่ีปลกู อะโวโด้ให้มีรายได้เพมิ่ ขึน้ และมีทนุ ไปต่อยอดการทาผลผลิตอ่ืนๆ เพอ่ื ศกึ ษาในดา้ นต่างๆของอะโวคาโด้ ๓. สมมตุ ฐิ ำน เพ่อื ใหผ้ ิวหนา้ ดีข้ึนโดยธรรมชาติไมต่ อ้ งใชส้ ารเคมี เกษตรกรที่ปลกู อโวคาโดอ้ าจจะมีรายไดเ้ พม่ิ ข้นึ เเละ สามารถนาไปต่อทุนได้่ ๔. ขอบเขตของกำรศึกษำ ๔๑ ประชำกรที่ใช้ในกำรศึกษำ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 ท้งั หมด 40 คน เเละอาจารยท์ ่ีปรึกษา ประจาภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา2565 โรงเรียนปัว น่าน เขต2

2 ๔.๒ เนื้อหำทใ่ี ช้ในกำรศึกษำ เน้ือหำที่ใชใ้ นกำรศึกษำเป็นเน้ือหำท่ีเลือกจำกปัญหำท่ีพบในโรงเรียนหรือเรื่องท่ีนกั เรียนสนใจ คอื การทาสครับจากอะโวคาโด้ ๔.๓ระยะเวลำ ระยะเวลำที่ใชใ้ นกำรศึกษำคร้ังน้ี ดำเนินกำรในปี กำรศึกษำ 2565 ๕.ประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะได้รับ ▪ บารุงผวิ ใหน้ ุ่มเหมือนกน้ เดก็ , ปรับผิวใหก้ ระจ่างใส, ช่วยต่อตา้ นริ้วรอย, ฟ้ื นฟูผวิ ไหมแ้ ดด, ช่วย กระชบั รูขมุ ขน ▪ ลบจุดแหง้ กร้าน ใหเ้ นียนนุ่ม ขาวใสข้นึ อยา่ งเป็น ธรรมชาติ ▪ ทาใหผ้ วิ ชุ่มชื่น มีชีวติ ชีวาคนื ความชุ่มช่ืน ให้ กลบั ผิว ▪ ช่วยกระชบั รูขมุ ขน, ชลอวยั , รักษาปัญาหาสิว, ช่วยขจดั ความมนั บนใบหนา้ , บรรเทาอาการผิวไหม้ จากแดด, ขจดั เซลลผ์ วิ ที่ตายแลว้ , ช่วยใหห้ นา้ สดใสเปล่งปลง่ั , ช่วยผวิ สะอาดใส ▪ ขจดั ลอกเซลลผ์ ิว, กาจดั สิวท้งั สิววยั รุ่น และผใู้ หญ่ ▪ ลดอาการผวิ ดาคล้าหม่นหมอง, ลดรอยด่างดา, หนา้ ใสผวิ เดง้ , ผวิ นุ่มชุ่มช่ืน, ฟ้ื นฟูผวิ เสีย ▪ บารุงผวิ พรรณผดุ ผอ่ ง, ป้องกนั สิว ฝ้า จุดด่างดา ผวิ พรรณดูอ่อนกวา่ วยั

3 บทท่ี 2 เอกสำรและงำนวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้อง ๑.ความหมาย สครับ (scrub) หมายถึง การขดั หรือ การถู เพื่อทาความสะอาดผวิ การสครับผิวจะช่วยในการขจดั สิ่ง สกปรก ท่ีอดุ ตนั ตามรูขมุ ขน รวมท้งั เซลลผ์ วิ เก่าที่เส่ือมสภาพ ท่ีเกาะอยบู่ นบริเวณผิวหนงั ช้นั นอก ให้ สามารถหลดุ ออกไดเ้ ร็วข้นึ จึงทาใหผ้ วิ ดูกระจ่างใสข้ึนและกลบั มาเนียนนุ่มอีกคร้ัง ๑.๑ข้อมูลทัว่ ไปของสครับ -สครับท่ีทามาจากกระบวนการเคมี เป็นสครับที่ทามาจากการสังเคราะห์ เช่น เมด็ พลาสติก หรือ เมด็ พลาสติกเคลือบ (Micro bead) เมด็ สครับ ประเภทน้ีจะมีใหเ้ ลือกตามขนาดต้งั แต่เมด็ ใหญ่ จนถึงเมด็ ละเอียดมาก ซ่ึงคุณภาพของเมด็ สครับจะแตกต่าง กนั ออกไป เช่น บางชนิดเป็นเมด็ พลาสติกธรรมดา บางชนิดจะมีการเคลือบสารสกดั ธรรมชาติ เช่น jojoba bead โดยจะมีใหเ้ ลือกตามขนาดของเมด็ สครับและสี ส่วนลกั ษณะของเมด็ สครับ จะมีลกั ษณะเป็นทรงกลม ขนาดเทา่ กนั ซ่ึงสครับประเภทน้ี มีโอกาสท่ีจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวไดม้ ากกวา่ สครับจาก ธรรมชาติ -สครับท่ีทาจากธรรมชาติ โดยมากเน้ือเมด็ ของสครับจะทาจากเมลด็ ของพชื เช่น walnut meal, corn meal, coconut meal เม็ดสครับที่ได้ จากธรรมชาติ จะมีรูปร่างและขนาดท่ีแตกต่างกนั ออกไป เมด็ สครับกจ็ ะมีประสิทธิภาพในการขดั ที่ดีข้ึน เพราะจะช่วยใหก้ ารขดั ส่ิงสกปรกใหห้ ลดุ ออกไดง้ ่ายข้นึ และเป็นเมด็ สครับที่ก่อใหเ้ กิดการระคายเคืองผวิ ได้ นอ้ ย แต่การสครับผวิ ไม่ควรขดั แรงจนเกินไปและควรขดั อยา่ งเบามือที่สุด ๑.๒ทีม่ าเเละความสาคัญของสครับ เนื่องจากในปัจจุบนั ผคู้ นส่วนใหญใ่ หค้ วามสาคญั กบั รูปลกั ษณ์ภายนอกและการดูแลผิวพรรณเป็นอยา่ งมาก จึงมีการใชผ้ ลิตภณั ฑม์ ากมายในรูปแบบตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นครีมอาบน้า ครีมทาผิว โลชนั่ บารุงต่างๆ สบู่ สครับ เป็นตน้ ผใู้ ชส้ ่วนใหญ่ตอ้ งการให้ผวิ พรรณของตนดูขาวสะอาดสดใสแลดูอ่อนเยาวอ์ ยตู่ ลอดเวลา แต่ หากผลิตภณั ฑท์ ี่ใชน้ ้นั มีการใชส้ ารเคมีมากเกินไปซ่ึงผใู้ ชส้ ่วนใหญ่มกั จะสงั เกตดว้ ยความและเลือกซ้ือ ผลิตภณั ฑโ์ ดยไม่ไดค้ านึงถึงผลเสียที่อาจเกิดตามมาจากสารเคมีน้นั อาจคานึงเพียงแค่วา่ ผลิตภณั ฑน์ ้ีจะช่วย ดูแลผวิ พรรณใหส้ วยงามอยา่ งท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการไดเ้ ท่าน้นั แต่สารเคมีผสมอยใู่ นผลิตภณั ฑอ์ าจทาให้ระคายเคือง ต่อผวิ ของผใู้ ชแ้ ละก่อใหเ้ กิดอาการแพแ้ ก่ผใู้ ชไ้ ด้ ซ่ึงก่อให้เกิดความเสียหายท้งั ทรัพยส์ ินและชีวติ เพราะ นอกจากตอ้ งเสียค่ารักษาพยาบาลเพ่อื รักษาแลว้ ยงั เกิดผลเสียตอ่ ร่างกายอนั เนื่องมาจากอาการแพ้ ดงั น้นั กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จึงคิดวา่ หากคิดคน้ และผลิตผลิตภณั ฑด์ ูแลผิวพรรณจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมีปนเป้ื อน

4 ออกมา น่าจะแกไ้ ขปัญหาสารเคมีท่ีมาจากผลิตภณั ฑด์ ูแลผวิ พรรณตา่ งๆไดเ้ ป็นแน่กลุ่มของขา้ พเจา้ จึงคดิ ที่ จะทาผลิตภณั ฑน์ ้ีออกมาในรูปของสครับขดั ผิวจากขมิน้ ธรรมชาติซ่ึงนอกจากจะช่วยขดั ผิวเพ่ือผลดั เซลลผ์ วิ เก่าออกไปใหผ้ ิวดูกระจ่างใสข้ึนและอ่อนนุ่มข้ึนแลว้ ยงั ช่วยในการดูแลผวิ พรรณไดด้ ีอีกท้งั ยงั มีกล่ินหอม และยงั หาส่วนผสมจากทอ้ งถิ่นไดง้ ่ายโดยไมต่ อ้ งลงทนุ มากเพราะเป็นส่วนผสมที่หาไดง้ ่ายจากธรรมชาติ ราคายอ่ มเยา อีกท้งั ส่วนผสมที่ใชเ้ ป็นสารสกดั จากธรรมชาติซ่ึงปลอดภยั ไร้สารเคมีปนเป้ื อน เน่ืองจากใน ปัจจุบนั ผคู้ นส่วนใหญใ่ ห้ความสาคญั กบั รูปลกั ษณ์ภายนอกและการดูแลผิวพรรณเป็นอยา่ งมากจึงมีการใช้ ผลิตภณั ฑม์ ากมายในรูปแบบต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นครีมอาบน้า ครีมทาผิว โลชน่ั บารุงต่างๆ สบู่ สครับ เป็นตน้ ผใู้ ชส้ ่วนใหญ่ตอ้ งการใหผ้ ิวพรรณของตนดูขาวสะอาดสดใสแลดูอ่อนเยาวอ์ ย่ตู ลอดเวลา แต่หากผลิตภณั ฑ์ ที่ใชน้ ้นั มีการใชส้ ารเคมีมากเกินไปซ่ึงผใู้ ชส้ ่วนใหญ่มกั จะสงั เกตดว้ ยความและเลือกซ้ือผลิตภณั ฑโ์ ดยไมไ่ ด้ คานึงถึงผลเสียท่ีอาจเกิดตามมาจากสารเคมีน้นั อาจคานึงเพยี งแคว่ า่ ผลิตภณั ฑน์ ้ีจะช่วยดูแลผิวพรรณให้ สวยงามอยา่ งท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการไดเ้ ท่าน้นั แตส่ ารเคมีผสมอยใู่ นผลิตภณั ฑอ์ าจทาใหร้ ะคายเคอื งต่อผวิ ของผใู้ ช้ และก่อใหเ้ กิดอาการแพแ้ ก่ผใู้ ชไ้ ด้ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดความเสียหายท้งั ทรัพยส์ ินและชีวิตเพราะนอกจากตอ้ งเสียค่า รักษาพยาบาลเพอ่ื รักษาแลว้ ยงั เกิดผลเสียต่อร่างกายอนั เน่ืองมาจากอาการแพ้ ดงั น้นั กลุม่ ของขา้ พเจา้ จึงคิดวา่ หากคิดคน้ และผลิตผลิตภณั ฑด์ ูแลผวิ พรรณจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมีปนเป้ื อนออกมา น่าจะแกไ้ ขปัญหา สารเคมีท่ีมาจากผลิตภณั ฑด์ ูแลผวิ พรรณตา่ งๆไดเ้ ป็นแน่กลมุ่ ของขา้ พเจา้ จึงคดิ ที่จะทาผลิตภณั ฑน์ ้ีออกมาใน รูปของสครับขดั ผวิ จากขมิ้นธรรมชาติซ่ึงนอกจากจะช่วยขดั ผิวเพ่ือผลดั เซลลผ์ วิ เก่าออกไปใหผ้ ิวดูกระจ่าง ใสข้ึนและออ่ นนุ่มข้ึนแลว้ ยงั ช่วยในการดูแลผวิ พรรณไดด้ ีอีกท้งั ยงั มีกล่ินหอมและยงั หาส่วนผสมจาก ทอ้ งถิ่นไดง้ า่ ยโดยไม่ตอ้ งลงทนุ มากเพราะเป็นส่วนผสมท่ีหาไดง้ ่ายจากธรรมชาติราคายอ่ มเยา อีกท้งั ส่วนผสมท่ีใชเ้ ป็นสารสกดั จากธรรมชาติซ่ึงปลอดภยั ไร้สารเคมีปนเป้ื อน ๑.๓ประเภทของสครับ Oil Base สูตรสครับที่มีส่วนผสมหลกั มาจาก น้ามนั สกดั ธรรมชาติ หรือ น้ามนั สงั เคราะหก์ ลุ่มไตรกลีเซอร์ ไรด์ ใหค้ วามชุ่มช้ืนยาวนาน และความรู้สึกเคลือบผิวหลงั ใช้ นิยมใส่เมด็ สครับเกลือและน้าตาล ซ่ึงไมท่ า ปฏิกิริยาละลายในน้ามนั สครับสูตรน้ีเหมาะมากสาหรับคนผวิ แหง้ ผิวธรรมดา หรือคนท่ีตอ้ งการฟิ ลผอ่ น คลายแบบอโรมา่ Gel Base สครับเจล เน้ือใสโปร่งแสงคลา้ ยเจลลี่ ใหค้ วามนุ่มล่ืน เบา สบาย ละลายเขา้ กบั ผวิ มีส่วนประกอบ หลกั เป็นน้า แต่สามารถพฒั นาสูตรท่ีมีน้ามนั เป็นส่วนผสมได้ ใส่เมด็ สครับไดแ้ ทบทุกชนิด เหมาะมาก สาหรับคนท่ีมีผิวธรรมดา ผิวมนั และคนท่ีผวิ บอบบาง Cream Base ลกั ษณะเป็นเน้ืออิมลั ชนั่ มีส่วนผสมน้ามนั มากกวา่ น้า นวดวนละมนุ ผวิ ใหค้ วามชุ่มช้ืน แตไ่ ม่ เคลือบผิวเหมือนสครับน้ามนั เมด็ สครับทาจากธรรมชาติ เช่น แอปริคอท วอลนทั รวมไปถึงกลุม่ ธญั พืช

5 พวกขา้ วโอ๊ต มอลต์ ขา้ วบาร์เลย่ ์ เหมาะกบั คนที่มีผิวแหง้ และผิวธรรมดา แตไ่ มเ่ หมาะกบั คนผิวมนั และเป็น สิว Lotion Base เน้ือโลชน่ั หรือ เน้ือน้านม นอกจากที่นิยมใชใ้ นสกินแคร์ ยงั สามารถทาเป็นสครับขดั ผิวไดอ้ ีก ดว้ ย มีลกั ษณะคลา้ ยเน้ือครีม แต่มีความเหลวมากกวา่ ทาใหน้ วดวนงา่ ย ไมเ่ หนอะหนะ ช่วยทาความสะอาด ผิวอยา่ งอ่อนโยน และมอบความชุ่มช้ืนสู่ผิว นิยมใส่เมด็ สครับธรรมชาติ เหมาะสาหรับคนสภาพผวิ ธรรมดา และผิวผสม Powder สครับผงสาหรับผสมน้า เน้ือจะละเอียด ไมบ่ าดผิว ข้นึ อยกู่ บั วตั ถุดิบที่นามาแปรรูปเป็นสครับ นิยม แปรรูปจากสมุนไพร เช่น ไพร ขมิ้น ทานาคา สามารถ Mix & Match สูตรไดต้ ามตอ้ งการ กบั ส่วนผสมอื่นๆ เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพผิวของแต่ละคน ๒.ข้อมูลทัว่ ไปของอโวคาโด้ อาโวคาโด หรือ ลูกเนย (องั กฤษ: avocado) เป็นผลไมท้ ่ีมีเน้ือมนั เป็นเนย เป็นตน้ ไมพ้ ้นื เมืองของ รัฐปวยบลาในประเทศเมก็ ซิโก จดั เป็นพืชดอกในวงศ์ Lauraceae ซ่ึงอยใู่ นวงศเ์ ดียวกบั อบเชย, กระวาน และเบยล์ อเรล (bay laurel) ผลของอาโวคาโดมีรูปทรงคลา้ ยสาลี่ รูปไข่ หรือรูปกลม มิชชนั นารีชาวอเมริกนั นามาปลูกในประเทศไทยคร้ังแรกท่ีจงั หวดั น่าน ตอ่ จากน้นั จึงมีหน่วยงานตา่ ง ๆ นาอาโวคาโดมาปลูกมาก ข้นึ อาโวคาโดเป็นไมย้ นื ตน้ ตน้ โตเตม็ ที่สูงถึง 18 เมตร เปลือกตน้ สีน้าตาลอ่อน ผิวขรุขระ ใบสี เขยี วสด ดอกขนาดเลก็ สีเขยี วอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อท่ีปลายก่ิงผลกลมรีหรือทรงลกู แพร์ มีท้งั พนั ธุเ์ ปลือกหนาและเปลือกบาง เน้ือสีเขียวออกเหลือง รสมนั เน้ือละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมลด็ เดียว มีรก หุม้ เมลด็ อาโวคาโดแบง่ เป็น 3 เผา่ คือ[2] • เผา่ กวั เตมาลา ผลสีเขียว ข้วั ผลขรุขระ เมลด็ เรียบเลก็ คอ่ นขา้ งกลม เน้ือหนา ไขมนั สูง ชอบ อากาศหนาวเยน็ ปานกลาง เช่น o พนั ธุแ์ ฮส (Hass) o พนั ธุพ์ ิงคเ์ คอตนั (Pinkerton) • เผา่ อินดีสตะวนั ตก ผวิ ผลเรียบเป็นมนั สีเขียวอมเหลือง เปลือกหนา เมลด็ อยใู่ นโพรงเมลด็ อยา่ งหลวม ๆ รสหวานอ่อน ไขมนั นอ้ ย ชอบอากาศร้อน เช่น o พนั ธุ์ปี เตอร์สนั (Peterson) • เผา่ เมก็ ซิโก ผลเลก็ เรียบ เมื่อแก่สีมว่ ง เปลือกบางกวา่ อีก 2 เผา่ เปลือกหุม้ เมลด็ บาง เมลด็ ใหญ่ อยใู่ นโพรงเมลด็ อยา่ งหลวม ๆ มีไขมนั มากที่สุด ทนอากาศเยน็ ไดด้ ีที่สุด

6 อาโวคาโดเป็นผกั ท่ีมีการคา้ ขายและเพาะปลูกในภูมิอากาศเขตร้อนทว่ั โลก (และบางส่วนในเขต อบอุน่ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย) มีผลสีเขยี วทางลกู สาล่ีท่ีจะสุกหลงั การเก็บเก่ียว ตน้ ไมส้ ามารถถ่ายเรณูในตน้ เดียวกนั ไดแ้ ละบางคร้ังการขยายพนั ธุ์จะใชก้ ารติดตาตอนก่ิงเพ่อื ที่จะสามารถควบคมุ คุณภาพและปริมาณ ของผลได้ ๒.๑ประโยชน์ อาโวคาโดกินดิบไมไ่ ดเ้ พราะมีแทนนินทาใหข้ ม กินมากจะปวดศีรษะรับประทานไดแ้ ต่ผลสุก กิน เป็นผลไมส้ ด หรือกินกบั ไอศกรีม น้าตาล นมขน้ หวาน สลดั เคก้ ชาวเมก็ ซิกนั นิยมใชเ้ น้ืออาโวคาโดปรุงอาหารแทนเนย หรือนามาใชเ้ ป็นส่วนผสมสาคญั ในซอสกวั คา โมเล (Guacamole) ซ่ึงนิยมนามาทาบนแผน่ แป้งทอร์ทิลล่าส์ หรือขนมปัง นอกจากน้ี ชาวเมก็ ซิกนั ยงั นิยมนา อาโวคาโดมาสกดั น้ามนั ทาเคร่ืองสาอาง ใน ฟิ ลิปปิ นส์ บราซิล อินโดนีเชีย เวยี ดนาม และทางตอนใตข้ อง อินเดีย (โดยเฉพาะชายฝั่งเคราล่า ทมิฬนาดู และรัฐกรณาฏกะ) อาโวคาโดมกั นิยมนามาใชป้ รุงเป็นนมป่ัน (Milkshake) หรือใส่ในไอศกรีม และขนมต่าง ๆ นอกจากน้ีใน บราซิล เวียดนาม ฟิ ลิปปิ นส์ และ อินโดนีเซีย อาโวคาโดถูกนามาแปรรูปเป็น เคร่ืองดื่ม โดยผสมกบั น้าตาล นมหรือน้า และอาจเพิม่ อาโวคาโดบด บางคร้ังกม็ กั เติมซอสช็อกโกแลตลงไป ในมอร็อกโค เครื่องด่ืมเยน็ ท่ีทามาจากอาโวคาโดและนมมกั ถกู เติมความหวานดว้ ยน้าตาลไอซ่ิง และเพิม่ รสชาติดว้ ยน้าจากดอกส้ม ๒.๒ความเป็ นพษิ บางคนแพอ้ าโวคาโด โดยแพใ้ นรูปของละอองเกสร หรือหลงั จากรับประทานอาโวคาโดเขา้ ไปท่ีเรียก latex-fruit syndrome[3] เพราะเก่ียวขอ้ งกบั การแพล้ าเทก็ ซ์[4] อาการที่ปรากฏไดแ้ ก่ ลมพษิ ผน่ื คนั ปวดทอ้ ง อาเจียน หรืออาจจะเสียชีวิตได[้5] ใบ เปลือกตน้ และเปลือกช้นั เอนโดคาร์บของอาโวคาโดเป็นพษิ ต่อสัตวห์ ลายชนิดท้งั แมว หมา แพะ กระต่าย หนู นก ปลา ไก่ และมา้ [6] ผลเป็นพษิ กบั นกบางชนิด American Society for the Prevention of Cruelty to Animals (ASPCA) ไดป้ ระกาศวา่ อาโวคาโดเป็นพษิ ตอ่ สตั ว[์7] อาโวคาโดเป็นส่วนผสมในอาหาร สุนขั [8] และอาหารแมว[9] ชนิด AvoDerm ซ่ึง ASPCA ปฏิเสธท่ีจะรับรองวา่ ปลอดภยั หรือไม่

7 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ กำรศึกษำค้นคว้ำ ในกำรศึกษำคร้ังน้ี ผศู้ ึกษำไดท้ ำกำรศึกษำ วิธีการทาสครับอะโวคาโด้ ซ่ึงมีวธิ ีกำรดงั น้ี ๑. ระเบยี บวิธีทใี่ ช้ในกำรศึกษำ สืบคน้ ขอ้ มูลจาก อินเตอร์เน็ต ยทู ปู และสื่อตา่ งๆ ๒. ประชำกร/กล่มุ ตวั อย่ำง ๒.๑ ประชำกร ประชำกรที่ใชใ้ นกำรศึกษำคร้ังน้ี เป็นนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี๕/๔ โรงเรียนปัว ปี กำรศึกษำ ๒๕๕๖ จำนวน ๑ ห้องเรียน เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น.๔๐คน ๒.๓ ระยะเวลำทใ่ี ช้ในกำรศึกษำ ระยะเวลำท่ีใชใ้ นกำรศึกษำ ในปี กำรศึกษำ ๒๕๖๕ ๓. วธิ ีดำเนนิ กำรศึกษำ ๑.กาหนดเรื่องท่ีจะศึกษา โดยสมาชิกท้งั 5 คน ประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผน วา่ จะ ศึกษาเรื่องใด ๒.สารวจปัญหาท่ีพบในปัจจุบนั พบวา่ มีขายอโวคาโดล้ น้ ตลาดขายไดน้ อ้ ย ๓.เสียงของสมาชิกในกลุ่มท้งั หมดเลือกท่ีจะศึกษาวิธีการเเกป้ ัญหาสินคา้ ลน้ ตลาด ๔.ศึกษาแนวคิดในการแกป้ ัญหา ลงความคิดกนั และตกลงไดว้ า่ จะทาสครับจากอโวคาโดเ้ พ่ือเพ่มิ รายไดใ้ หเ้ กษตรกร ๕.สมาชิกในกล่มุ ลงความเห็นกนั วา่ จะใช้ ช่ือเร่ือง สครับอโวคาโด้ ๖.สมาชิกท้งั 5 คนของกลมุ่ พบครูผสู้ อนเพ่ือปรึกษา วางแผนและรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุง แกไ้ ข ๗.เขียนความสาคญั ความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมตุ ิฐาน ขอบเขตการวจิ ยั และ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มลู จากหนงั สือ วทิ ยานิพนธ์และสืบคน้ ขอ้ มลู จาก อินเตอร์เนต็ และจดบนั ทึกในโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ ๘.ดาเนินการทดลอง ๙.ทดสอบประสิทธิภาพ ๑๐.สรุปผล

8 4. เครื่องมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นกำรศึกษำคร้ังน้ี คือ แบบสอบถำม ( หรือแบบประเมินควำมพึงพอใจ) 1 ฉบบั ซ่ึงมีรำยละเอียดดงั น้ี ๔.๑ ออกแบบแบบสอบถำม เรื่อง สครับจากอะโวคาโดโ้ ดยขอคำแนะนำจำกท่ีปรึกษำหรือผสู้ อน โดยเตรียมร่ำงขอ้ คำถำม มีลกั ษณะเป็นขอ้ คำถำมจำนวน ๕ ขอ้ เป็นแบบมำตรำส่วนประมำณ ๕ ระดบั คือ ๕ หมำยถึง เห็นดว้ ยมำกท่ีสุด ๔ หมำยถึง เห็นดว้ ยมำก ๓ หมำยถึง เห็นดว้ ยปำนกลำง ๒ หมำยถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย ๑ หมำยถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยท่ีสุด กำรพิจำรณำคำ่ เฉล่ีย จะใชเ้ กณฑด์ งั น้ี ค่ำเฉล่ีย ๔.๕๑ – ๕.๐๐ หมำยถึง เห็นดว้ ยมำกที่สุด คำ่ เฉลี่ย ๓.๕๑ – ๔.๕๐ หมำยถึง เห็นดว้ ยมำก คำ่ เฉล่ีย๒.๕๑–๓.๕๐ หมำยถึง เห็นดว้ ยปำนกลำง คำ่ เฉล่ีย ๑.๕๑ – ๒.๕๐ หมำยถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย ค่ำเฉลี่ย ๑.๐๐– ๑.๕๐ หมำยถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยที่สุด ๔.๒ สร้ำงแบบสอบถำม เรื่องสครับจากอะโวคาโดโ้ ดยขอคำแนะนำ จำกที่ปรึกษำหรือผสู้ อน จำกน้นั นำมำปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นำไปตรวจสอบควำมเหมำะสม ๔.๓ นำแบบสอบถำมเร่ืองสครับจากอะโวคาโดท้ ่ีแกไ้ ข ปรับปรุงแลว้ ใหก้ ลุ่มตวั อยำ่ งประเมิน หลงั จำกน้นั นำผลที่ไดม้ ำหำค่ำเฉลี่ย ๕. กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล กำรศึกษำคร้ังน้ีไดด้ ำเนินกำรโดยนำแบบสอบถำมที่สร้ำงข้นึ ใหน้ กั เรียนกลมุ่ ตวั อยำ่ งตอบ จำนวน ๕ คน และเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จำกนกั เรียน ท่ีเป็นกลุม่ ตวั อยำ่ ง โดยผศู้ ึกษำท้งั ๕ คน ดำเนินกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง ๖.กำรวิเครำะห์ข้อมูล ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ผศู้ กึ ษาไดว้ เิ คราะหข์ อ้ มลู ดงั น้ี ๖.๑นาแบบสอบถามทงั้ หมดทต่ี อบโดยนกั เรยี นกลุ่มตวั อย่าง มาหาค่าคะแนนรวม ๖.๒ นาผลรวมมาคดิ คา่ รอ้ ยละและการหาคา่ เฉลย่ี

9 ๗.สถิตทิ ี่ใช้ในกำรศึกษำ สถิติที่ใชใ้ นกำรศึกษำคร้ังน้ี คอื ร้อยละและกำรหำคำ่ เฉล่ีย

10 บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า o บารุงผิวใหน้ ุ่มเหมือนกน้ เดก็ , ปรับผิวใหก้ ระจ่างใส, ช่วยตอ่ ตา้ นริ้วรอย, ฟ้ื นฟผู ิวไหมแ้ ดด, ช่วย กระชบั รูขมุ ขน o ลบจุดแหง้ กร้าน ใหเ้ นียนนุ่ม ขาวใสข้นึ อยา่ งเป็น ธรรมชาติ o ทาใหผ้ ิวชุ่มชื่น มีชีวติ ชีวาคืนความชุ่มชื่น ให้ กลบั ผิว o ช่วยกระชบั รูขมุ ขน, ชลอวยั , รักษาปัญาหาสิว, ช่วยขจดั ความมนั บนใบหนา้ , บรรเทาอาการผิว ไหมจ้ ากแดด, ขจดั เซลลผ์ วิ ท่ีตายแลว้ , ช่วยใหห้ นา้ สดใสเปลง่ ปลงั่ , ช่วยผิวสะอาดใส o ขจดั ลอกเซลลผ์ วิ , กาจดั สิวท้งั สิววยั รุ่น และผใู้ หญ่ o ลดอาการผิวดาคล้าหม่นหมอง, ลดรอยด่างดา, หนา้ ใสผวิ เดง้ , ผวิ นุ่มชุ่มช่ืน, ฟ้ื นฟผู วิ เสีย o บารุงผวิ พรรณผุดผอ่ ง, ป้องกนั สิว ฝ้า จุดด่างดา ผิวพรรณดูออ่ นกวา่ วยั o มีสารตา้ นอนุมูลอิสระสูงมาก, ต่อตา้ นความเสื่อมของเซลล,์ ป้องกนั การเกิดสิว, ฆ่าเช้ือแบคทีเรีย, ลดผดผ่ืนคนั , ลดจุดด่างดา และฝ้า, มีฤทธ์ิลดการสร้างเมด็ สีเมลานิน, ช่วยป้องกนั การทาลายผิว จากรังสียวู ี o ช่วยสมานผิว ทาใหผ้ ิวสดใส เต่งตึง ลบริ้วรอย จุดด่างดา o ช่วยใหผ้ ิวขาว เนียนใส อยา่ งเป็นธรรมชาติ, ช่วยรักษาสิว, ช่วยกระชบั รูขมุ ขนบนใบหนา้ , ช่วยลด ริ้วรอยด่างดาตามร่างกาย, ลดริ้วรอยบนใบหนา้ , แกป้ ัญหาหนา้ มนั

11 บทที่ 5 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ จากการวางเเผนการทางานท้งั สิ้น 1.ศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกบั การทาสครับ 2.คานวณงบประมาณ 3.จดั หาวสั ดุที่ตอ้ งจดั ทา 4.เตรียมอปุ กรณ์

12 บรรณานุกรม https://www.ladacosmetic2017.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8 %B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94/%E0%B8%AA%E0%B8 %B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8% A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%88 %E0%B8%A7%E0%B8%99_Und_%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2_Und_%E0 %B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%94 สwww.cream- dhousethailand.com/product/1891690/%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0% B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8 %94%E0%B9%88.html www.exclusiva.co.th/page/id/1546402011574515 Chen, H.; Morrell, P. L.; Ashworth, V. E. T. M.; De La Cruz, M.; Clegg, M. T. (2008). \"Tracing the Geographic Origins of Major Avocado Cultivars\". Journal of Heredity. 100 (1): 56–65. doi:10.1093/jhered/esn068. PMID 18779226.กระโดดข้นึ ไป: 2.0 2.1 2.2 นิดดา หงส์วิวฒั น์ และทวที อง หงส์ววิ ฒั น์. อาโวคาโด ใน ผลไม้ 111 ชนิด: คณุ คา่ อาหารและการกิน. กทม. แสงแดด. 2550 หนา้ 267 – 269↑ Brehler R, Theissen U, Mohr C, Luger T (1997). \"\"Latex-fruit syndrome\": frequency of cross-reacting IgE antibodies\". Allergy. 52 (4): 404–10. doi:10.1111/j.1398- 9995.1997.tb01019.x. PMID 9188921. {{cite journal}}: ไม่รู้จกั พารามิเตอร์ |month= ถูกละเวน้ (helpLatex allergy\". Better Health Channel. คลงั ขอ้ มูลเก่าเกบ็ จากแหลง่ เดิมเม่ือ 2011-12-27. สืบคน้ เมื่อ 2012-08- 02.)\"Notes on poisoning: avocado\". Canadian Biodiversity Information Facility. 2006-06-30. สืบคน้ เม่ือ 2007-12-29.↑ \"AvoDerm Natural Premium Dog Food\". คลงั ขอ้ มลู เก่าเกบ็ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-29. สืบคน้ เมื่อ 2009-01-13. https://shopee.co.th/- %E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%9E%E 0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87!- %E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%80%E 0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0 %B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A1-%E2%80%8B-

13 %E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%82 %E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B9%89- %E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89-100- %E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7- %E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84- %E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E 2%80%8B%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0% B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E2%80%8B- %E2%9D%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A3% E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E2%9D%8C- i.32899183.6019851413

14 ภาคผนวก

15 ประวัตผิ ู้จดั ทา เรื่อง สครับจากอะโวคาโด้ ๑.นางสาว วิชญาดา สุทธหลวง -ประวตั ิส่วนตวั 206 ม.5 บา้ นป่ าลาน ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน -ประวตั ิการศึกษา ปี การศึกษา 2560 โรงเรียนบา้ นป่ าลาน ปี การศึกษา 2563 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2565(ปัจจุบนั ) โรงเรียนปัว ๒.นางสาว ปาณิสรา เสือบุญมี -ประวตั ิส่วนตวั 3/6 บา้ นเส้ียว ต.ไชยวฒั นา อ.ปัว จ.น่าน ปี การศึกษา 2560 โรงเรียนบา้ นบา้ นเส้ียว ปี การศึกษา 2563 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2565(ปัจจุบนั ) โรงเรียนปัว ๓.นาย ณฐั นนั ท์ ขตั ิยะ -ประวตั ิส่วนตวั 66 ม.7 ต.ปอน อ.ทุ่งชา้ ง จ.น่าน -ประวตั ิการศึกษา ปี การศึกษา 2560 โรงเรียนบา้ นเฟื อยลุง ปี การศึกษา 2563 โรงเรียนสตรีศรีน่าน ปี การศึกษา 2565(ปัจจุบนั ) โรงเรียนปัว

16 ๔.นางสาว พมิ ผกา จนั ดี -ประวตั ิส่วนตวั 113 ม.6 บา้ นแพะกลาง ต.ทงุ่ ชา้ ง อ.ทุ่งชา้ ง .น่าน -ประวตั ิการศึกษา ปี การศึกษา 2560 โรงเรียนชุมชนบา้ นทงุ่ ชา้ ง ปี การศึกษา 2563 โรงเรียนทุ่งชา้ ง ปี การศึกษา 2565(ปัจจุบนั ) โรงเรียนปัว ๕.นางสาว สรัลพร ยาวิลาศ -ประวตั ิส่วนตวั เกิดที่บา้ นเลขท่ี 77 ม.8.บา้ นหว้ ยหมากเอียก อเวยี งเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ปัจจุบนั 226/5 ม.2 ต.ทุ่งชา้ ง อ.ทุ่งชา้ ง จ. น่าน บา้ นเลขที่ตามทะเบียนบา้ น 105 ม.4 บา้ นดอนแกว้ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน -ประวตั ิการศึกษา ปี การศึกษา 2560 โรงเรียนบา้ นบา้ นหว้ ยหมากเอียก จ.เชียงราย ปี การศึกษา 2563 โรงเรียนทุ่งชา้ ง ปี การศึกษา 2565(ปัจจุบนั ) โรงเรียนปัว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook