๑
ก คำนำ เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการพิจารณากิจกรรมแนวทางการคัดเลือกนวัตกรรมหรือ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เป็นแบบอย่างได้ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประจำปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยนวัตกรรมการจัดการเรียน การสอนที่เป็นแบบอย่างของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย เรื่อง “การพัฒนานวัตกรรม การจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Model ของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ เชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019” เป็นการบริหารจัดการสถานศึกษาตลอดจนการจัดการเรียนการสอน ท่ีนำนโยบายแนวทางการจัดการเรียนการสอนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาเป็นกรอบแนวทางในการ ขบั เคล่อื น โดยนโยบายกำหนดให้โรงเรยี นมคี วามยดื หยนุ่ ในการจดั การเรยี นการสอน จดั การเรียนรู้หลากหลาย รูปแบบ และเน้นให้ทุกโรงเรียนนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย 5 รูปแบบ ได้แก่ 1) On Site คอื ให้มาเรยี นตามปกติ เวน้ ระยะหา่ งทางสังคมหรอื ลดจำนวนนักเรียนต่อห้องลง 2) On Air คอื การออกอากาศผ่าน DLTV เป็นตวั หลักในการกระจายการสอน โดยใช้โรงเรยี นวังไกลกงั วลเป็น ฐานในการจัดการเรียนการสอน 3) Online ให้ครูเป็นผู้จัดการเรียนการสอน ผ่านเครื่องมือที่ทางโรงเรียน กระจายไปสู่นักเรียน เป็นรูปแบบที่ถูกใช้ในการจัดการเรียนการสอนจำนวนมากที่สุด 4) On Demand เป็น การใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น ต่าง ๆ ที่ครูกับนักเรียนใช้ร่วมกัน และ 5) OnHand หากจัดในรูปแบบอื่นๆ ทก่ี ลา่ วมาไม่ได้ ใหโ้ รงเรียนจัดแบบ On Hand คือ จดั ใบงานให้กบั นกั เรยี น เป็นลกั ษณะแบบเรยี นสำเรจ็ รปู โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยในฐานะเป็นสถาบันทางการศึกษาท่ีได้รับความคาดหวังจากสังคม และ ชุมชนในเขตพื้นที่บริการ ได้ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PKOKWIT model เพื่อให้ผู้เรยี นได้เรียนรู้ดว้ ยรปู แบบการจดั การสอนทีห่ ลากหลาย ตามความถนัด ความสนใจ และความ พร้อมของครอบครวั เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ มีทักษะกระบวนการ และมีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์เป็นคนท่ีมี คุณภาพ โดยผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ คือ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา การปรับวิธีการเรียนรู้ การเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การออกแบบการวัดและประเมินผล การนำส่ือ อปุ กรณ์ เทคโนโลยี และแอปพลเิ คชันชว่ ยสอนต่าง ๆ มาใช้เป็นการสร้างนวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้ ตลอดจน การเรียนการสอนหรือการออกแบบการดำเนินงานด้านการศึกษาด้วยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ และต่อยอด องค์ความรู้ท่ีมีอยู่เดิม ทำให้โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยนำไปแก้ไขปญั หา และตอบโจทย์การจัดการเรยี นรู้ท่ี เปลี่ยนแปลง ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างมีประสิทธิภาพและ เกดิ ประสทิ ธผิ ล โรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั
ข สารบัญ หนา้ คำนำ............................................................................................................................................................... ก สารบัญ............................................................................................................................................................ ข ๑. ความสำคัญของผลงานหรอื นวตั กรรมที่นำเสนอ....................................................................................... 1 ๒. จดุ ประสงคแ์ ละเป้าหมาย........................................................................................................................ 10 ๓. กระบวนการผลิตผลงาน ......................................................................................................................... 11 ๔. ผลการดำเนนิ การ ผลสมั ฤทธ์ิและประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั ................................................................................ 22 ๕. ปจั จยั ไปสู่ความสำเรจ็ ............................................................................................................................. 22 ๖. บทเรยี นทไี่ ดร้ บั (Lesson Learned) ...................................................................................................... 23
๑ ๑. ความสำคญั ของผลงานหรอื นวตั กรรมทนี่ ำเสนอ ๑.๑ เหตผุ ลทเี่ กิดแรงบันดาลใจ ความจำเปน็ ปัญหาหรอื ความต้องการที่จะทำผลงาน/ นวัตกรรม การศึกษาเป็นยทุ ธศาสตร์สำคัญของการพฒั นาคณุ ภาพ “คน” ในประเทศ ทัง้ น้กี ารพฒั นาคุณภาพ การศกึ ษา ได้กำหนดไวใ้ นรัฐธรรมนูญ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ หมวด ๕ หน้าท่ีของรฐั มาตรา ๕๔ ได้บัญญัติให้มี การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับ และทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความ เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการ ใน ระบบต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสรมิ ให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวติ และจัดให้มีการร่วมมอื กันระหว่างรัฐ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าที่ดำเนินการกำกับ ส่งเสริม และ สนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล โดยจัดให้มีแผนการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ก้าวหน้า ทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก มุ่งพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นคนดีมีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ตาม ความถนัดของตน และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และยึดมั่นในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย. ๒๕๖๐: ๑- ๙๐) พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาตไิ ด้กำหนดแนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้ของสถานศึกษา และหนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้องดงั น้ี 1) จดั เน้ือหาสาระและกิจกรรมให้ สอดคลอ้ งกบั ความสนใจและ ความถนัดของ ผู้เรยี น โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล 2) ใหม้ ี การฝึกทกั ษะกระบวนการคิด การจดั การ การเผชิญ สถานการณแ์ ละการประยกุ ต์ความรู้มาใช้เพื่อ ปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา 3) จัดกจิ กรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จาก ประสบการณจ์ รงิ ฝึกการปฏิบตั ใิ ห้ทำ ไดค้ ิดเปน็ ทำเปน็ รกั การอา่ น และเกิดการใฝ่รู้อยา่ งตอ่ เน่ือง 4) จัดการ เรยี นการสอนโดยผสมผสาน สาระความร้ดู ้านต่าง ๆ อย่างไดส้ ัดสว่ นสมดุล รวมทัง้ ปลูกฝังคณุ ธรรม ค่านยิ มท่ีดี งาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา 5) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้และมีความ รอบรู้ รวมท้ัง สามารถใช้การวิจัยเปน็ ส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ 6) ผู้เรียนและผู้สอนเรียนรู้ไปพรอ้ ม กันจากสื่อการ เรียนการสอน และแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ 7) การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่มีการประสาน ความร่วมมือ กับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนา ผู้เรียนตามศักยภาพ (พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พทุ ธศักราช 2542) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ส่งผลกระทบต่อ ประชากรโลกเป็นวงกว้าง โดยมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในระยะเวลา อันรวดเร็ว องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) ในวันที่ 11 มีนาคม พุทธศักราช 2563 (WHO. 2020: 17) อีกทั้งการแพร่ระบาดของเช้ือ ไวรัสโคโรนายังทำให้พฤติกรรมมนษุ ย์ พฤติกรรมการบรโิ ภค และการบริการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน หลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้ในหลายภาคส่วนเกิดผลกระทบ เช่น เศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว เทคโนโลยี และ การศึกษา นอกจากนี้ยังส่งผลให้สถานศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ สถานศึกษาเป็น สถานที่ที่มีนักเรียนอยู่รวมกันจำนวนมาก จึงมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การป้องกันและควบคุมโรคระบาดในโรงเรียน จึงเป็นสิ่งที่ตระหนักถึงการป้องกัน ทางด้านสภาวะแวดล้อมในโรงเรียน สุขอนามัยของนักเรียนและการผ่อนปรนการลาป่วยให้กับครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยให้มีการจัดห้องเรียน แบบสลับกันมาเรียน ยกเลิกกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน อีกทั้งยังส่งเสริมให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอน
๒ ออนไลน์ 100% โดยงดเดินทางมาเรียน งดการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการมีการสนับสนนุ ส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและแก้ไข ปญั หาให้แกน่ ักเรยี น เพอ่ื ให้นกั เรียนมคี ุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มภี ูมิคุ้มกนั ทาง จติ ใจทเี่ ข้มแข็งและมีคุณภาพ ชีวิตที่ดี โดยให้ความสำคัญในการดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงได้จัดทำแนว ทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปีการศึกษา 256๔ เพื่อให้โรงเรียนใช้เป็นแนวทางในการ จัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความปลอดภยั ของนักเรียนและ บุคลากรเป็นสำคัญพร้อมกันนั้น ให้ทุกโรงเรียนและทุกสำนักงานเขตพื้นที่ได้ออกแบบในเรื่องการติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลสภาพจริงของแต่ละพื้นทีโ่ ดยใหร้ ายงาน เป็นรายวันหรือตามสถานการณ์ที่เกิดขึน้ จริง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและทนั ต่อสถานการณ์ ส่วนในเรื่องการเผชิญเหตุหรือเตรียมพรอ้ มสำหรับการ เผชิญเหตุ ในจังหวัดที่ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ สีแดง สีส้ม หรือสีเหลือง หากมีเหตุจำเป็นต้องปิดเรียนทุก โรงเรียนในจังหวัดพื้นที่สีแดงให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอน ใน 5 รูปแบบ ได้แก่ 1) On Site คือ ให้มา เรียนตามปกติได้ในพน้ื ที่ที่ไม่ใช่สแี ดง แต่ต้องเว้นระยะหรอื ลดจำนวนนกั เรียนต่อหอ้ งลง สำหรับจังหวัดพื้นที่สี เขียว สามารถจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ตามปกติ 2) On Air คือ การออกอากาศผ่าน DLTV เป็นตัว หลักในการกระจายการสอน โดยใช้โรงเรียนวังไกลกังวลเป็นฐานในการจัดการเรียนการสอน สามารถดูได้ทง้ั รายการที่ออกตามตาราง และรายการท่ีดยู ้อนหลงั 3) Online ใหค้ รูเป็นผจู้ ดั การเรยี นการสอน ผ่านเครื่องมือ ท่ีทางโรงเรียนกระจายไปสู่นักเรียน เป็นรูปแบบที่ถูกใช้ในการจัดการเรียนการสอนจำนวนมากที่สุด 4) On Demand เป็นการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน่ ต่าง ๆ ที่ครูกับนักเรียนใช้ร่วมกัน และ 5) OnHand หากจัดใน รูปแบบอื่นๆ ที่กล่าวมาไม่ได้ ให้โรงเรียนจัดแบบ On Hand คือ จัดใบงานให้กับนักเรียน เป็นลักษณะ แบบเรียนสำเร็จรูป ใหน้ ักเรยี นรับไปเปน็ ชุดไปเรียนดว้ ยตัวเองทบ่ี ้าน โดยมีครอู อกไปเยีย่ มเปน็ ครั้งคราว หรือ ใหผ้ ปู้ กครอง ทำหน้าท่เี ป็นครคู อยช่วยเหลือ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถเรยี นไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ถึงแมโ้ รงเรียนจะปดิ แต่ต้องไม่หยุดการเรียนรู้ (ศูนย์เฉพาะกิจการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน. 256๔) ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน ทั้งครูและนักเรียนต้องพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงใน รปู แบบกระบวนการจดั การเรียนการสอน โดยเฉพาะครูถูกสังคมคาดหวังให้เปล่ียนแปลงบทบาทเพื่อขบั เคล่ือน ให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษที่ 21 ครูจำเป็นต้องมีนวัตกรรมทาง การศึกษา มีทักษะการสอนทท่ี นั สมัย มเี ทคนคิ การสอนสมัยใหม่ ตลอดจนทัศนคติของตนเองต่อการเรียน การสอนในยคุ ดิจิทัลที่สามารถตอบสนองผู้เรยี นท่ีแตกต่าง และมีความหลากหลายเพือ่ ใหส้ ามารถพัฒนาผู้เรียน ให้มีทักษะการคิดขัน้ สูงและมีพฤติกรรมที่เปลีย่ นไปตามความตอ้ งการในศตวรรษที่ 21 สำหรับการเรียนการ สอนออนไลน์นั้นจึงไม่ใช่แค่เพียงให้ผู้เรียนเข้ามาฟังการบรรยายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้สอนต้องมีการ ออกแบบกระบวนการเรียนการสอนโดยให้ผเู้ รยี นได้มีส่วนรว่ ม และมีปฏสิ ัมพนั ธใ์ นการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ด้วย เพราะการท่ีผู้เรียนจะเกิดการเรยี นรู้ ได้นน้ั กต็ ้องอาศัยการลงมือทำหรือการปฏิบัติ การใช้สื่อและเทคโนโลยี ทางการศกึ ษาเปน็ การเช่ือมต่อช่องวา่ งระหว่างครผู ูส้ อนและนักเรียนในการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ใน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาร้อยเอ็ด มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัด นำเอาสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้ในการ จัดการเรียนการสอน ให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บา้ น โดยครูผู้สอนสามารถมอบหมายงาน ตรวจงาน และสร้างแบบวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้ทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา (New normal) ทั้งยังมี จัดการอบรมพัฒนาการใช้สื่อ นวัตกรรมและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยในการจัดการเรียนการสอน และการจัด ประชุมทางไกลขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ และความต้องการของครูผู้สอน เช่น Zoom,
๓ Google Hangouts, Skype, Line, Facetime, Facebook, Messenger, Microsoft Teams, True Visual World, Google Meet, Vroom, WebX เปน็ ต้น (สาํ นักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาร้อยเอ็ด. 2563) โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ตั้งอยู่เลขที่ ๒๔๐ หมู่ที่ ๙ ตำบลรอบเมือง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด สงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษาร้อยเอด็ เปดิ สอนตั้งแตร่ ะดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ถึงระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๖ มีจำนวนนักเรียน ๑,๔๐๑ คน มีการบริหารจัดการสถานศึกษาตลอดจน การจัดการเรียน การสอน โดยนำนโยบายแนวทางการจัดการเรียนการสอนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศึกษา 256๔ มาเป็น กรอบแนวทางในการขับเคลื่อน โดยมีนโยบายให้โรงเรียนมีความยดื หยุน่ ในการจัดการเรียนการสอน จัดการ เรียนรหู้ ลากหลายรูปแบบ และเนน้ ใหท้ ุกโรงเรียนนำเทคโนโลยไี ปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน จาก การหลักการและแนวคิดดังกล่าว โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยในฐานะเปน็ สถาบันทางการศึกษาท่ีได้รับความ คาดหวังจากสังคม และชุมชนในเขตพื้นที่บริการ ได้ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วย กระบวนการ PKOKWIT model เพื่อให้ผู้เรียนได้มีความรู้ มีทักษะกระบวนการ และมีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์เป็นคนที่มีคุณภาพ โดยผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การจัดทำหลักสูตร สถานศึกษา การปรับวิธีการเรียนรู้ การเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล การนำสื่อ อุปกรณ์ เทคโนโลยี และ แอปพลิเคชันช่วยสอนต่าง ๆ มาใช้ เป็นการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนการเรยี นการสอนหรือการออกแบบการดำเนนิ งานด้านการศึกษาด้วยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ และ ต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิมทำให้โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัยนำไปแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์การจัดการ เรียนรู้ที่เปลีย่ นแปลง ในสถานการณแ์ พร่ระบาดของเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควดิ -19) อยา่ งมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธผิ ล ๑.๒ แนวคิด หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลงานหรือนวัตกรรม แนวคิด หลักการ ทฤษฎี รูปแบบ วธิ ีการ ท่ีนำมาใชใ้ นการออกแบบผลงานหรือนวตั กรรม ๑.๒.๑ รูปแบบการบริหารจัดการ การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Model ของโรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย ภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้อื โรคติดต่อ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-1๙) โรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลัยไดก้ ารขับเคลื่อนบรู ณาการจัดการเรียนการรู้ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Model ภายใต้สถานการณ์การแพร่ ระบาดของเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-1๙) โดยมีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มี ความรู้ มีทักษะกระบวนการ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จากการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วย กระบวนการ PKOKWIT model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ๒) เพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PKOKWIT model ที่มีประสิทธิภาพเป็นแบบอยา่ ง ได้ ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเช้ือโรคตดิ ต่อไวรสั โคโรนา 2019 ๓) เพอื่ นำนวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้ ด้วยกระบวนการ PKOKWIT modelเผยแพร่ผลงานทั้งใน และนอกสถานศึกษาร่วมกับภาคีเครือข่ายใน สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 โดยนำรูปแบบการบริหารจัดการ ประกอบด้วย หลักการบริหาร 4 M ได้แก่ คน (Man), เงิน (Money), วัตถุดิบ (Material) และกระบวนการ บริหาร (Management) วิเคราะห์บริบทของสถานศึกษาให้สอดคล้องกบั ความต้องการของผู้เรยี นและชมุ ชน พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ตามพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2562 เปน็ กฎหมายแม่บทของการศึกษาไทย
๔ มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนา “คน” ให้เป็นมนุษย์ทีส่ มบูรณท์ ั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มี จรยิ ธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ อย่างมคี วามสขุ โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียน เป็นสำคัญ และเปิดโอกาสให้ชุมชนและหน่วยงานราชการ เอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อให้ผู้เรียน เป็นผมู้ สี มรรถนะทางร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา เกดิ ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 สามารถนำ องค์ความรู้มาเชื่อมโยงกัน ในแต่ละสาระการเรียนรู้นำไปสู่การประยุกต์ใช้ได้จรงิ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ (Efficiency) ประสิทธิผล (Effectiveness)และความคุ้มค่า (Economy) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้วยความมุ่ง หมายของการศึกษาที่ว่า เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา มีความรู้ มี คุณธรรมจริยธรรมและวัฒนธรรม ในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมี ความสุข หรือ ( เก่ง ดีมี ความสุข ) แสดงดงั ภาพท่ี 1
Objective Input A P ๑) เพือ่ พฒั นาผู้เรียนให้มคี วามรู้ มี ปัจจยั นำเขา้ /ตวั แปร ระบว ทักษะกระบวนการ มีคุณลักษณะอันพงึ - การบรหิ ารจดั การ 4 M ประสงค์ จากการพฒั นานวตั กรรมการ - พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ จดั การเรยี นรู้ ดว้ ยกระบวนการ PKOKWIT - หลักสตู รแกนกลาง model ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน เชอ้ื โรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 - หลักสตู รสถานศกึ ษา - ผู้เรยี น ๒) เพ่ือพัฒนานวตั กรรมการจดั การ - ภาคีเครอื ข่าย เรยี นรู้ ดว้ ยกระบวนการ PKOKWIT - นโยบาย สพฐ. model ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพเปน็ แบบอยา่ งได้ - ประกาศ ศบค. ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชอ้ื โรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ๓) เพอ่ื นำนวัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ ด้วย กระบวนการ PKOKWIT model เผยแพร่ ผลงานทงั้ ใน และนอกสถานศึกษารว่ มกับ ภาคีเครือข่ายในสถานการณ์การ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 Economy Effi ภาพท่ี 2 รูปแบบการบริหารจดั การการพัฒนานวตั กรรมการจ ของโรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัยภายใต้สถานการณก์ ารแพ
๕ Feedback Process Out put Result Out come P - ผเู้ รียนมคี วามรู้ รปู แบบ - ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความ วน ารจดั ารเรียนรู้ การสอนที่หลากหลาย เ เขา้ ใจ มสี มรรถนะทาง - ประหยัดค่าใช้จา่ ยใน รา่ งกาย อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา การเดินทาง มีทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ด้วยกระบวนการ - ผเู้ รียนมผี ลสัมฤทธิ์ PKOKWIT model ทางการเรยี นที่สูงขน้ึ - ผเู้ รยี นมเี วลาว่างใน ผู้เรยี นสามารถคิดวเิ คราะห์ อยา่ งเปน็ ระบบเกดิ ความ การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ย ดี D ตวั เองมากข้นึ ภาคภูมใิ จในการเรยี นรูด้ ว้ ย - ผู้เรียนไดฝ้ กึ ทกั ษะการใช้ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ สอ่ื เทคโนโลยีและการ ด้วยกระบวนการ สบื ค้น PKOKWIT model - ผเู้ รียนเกดิ ทักษะการ มีสุข เรียนนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ผเู้ รยี นสามารถเผยแพร่ องค์ความรทู้ ่เี กดิ จากการ - ภาคีเครือขา่ ยและชมุ ชน เรียนรกู้ ระบวนการจัดการ เรียนรู้สู่สากลรว่ มกับภาคี ภายนอกเขา้ มามีสว่ นรว่ ม เครอื ข่าย ในการออกแบบกจิ กรรม การจัดการเรียนรู้ iciency Effectiveness จดั การเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการ PHOKWIT Model พรร่ ะบาดของเช้ือโรคติดต่อไวรสั โคโรนา 2019
๘ ๑.๒.2 กระบวนการ PHOKWIT Model โรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลัยได้ขบั เคลอื่ นการบริหารจดั การให้บรรลุผลตามเป้าหมาย โดยใช้นวตั กรรม PHOKWIT Model ประกอบด้วย การศึกษาปญั หา (P:Problem) การต้งั สมมติฐาน (H:Hypothesis) การกำหนดวัตถุประสงค์ (O:Objective) การสร้างองค์ความรู้ (K : Knowledge) การลงมือปฏิบัติ (W:Workshop) ผลสะท้อนกลับจากการปฏิบัติ (I : Internalization) ขยายผลองค์ความรู้ (T: Transfer) ซึ่งได้รับแนวคิดและหลักการของการพัฒนาองค์กร จากการใช้วงจรควบคุมคุณภาพ (Quality Control Circle) P-D-C-A ของเดมมิ่ง P-D-C-A คือ P (Plan) การวางแผน D (Do) การลงมือปฏิบัติ C (Check) การตรวจสอบ และ A (Act) ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขส่วนทีม่ ีปัญหา ซึ่งโรงเรียนได้มีกระบวนการดำเนินงาน วางแผนการจดั การเรียนการสอน ด้วยระบบคณุ ภาพ PDCA และ PHOKWIT Model เป็นเครอื่ งมือที่นำไปใช้ เป็นกระบวนการดำเนนิ งาน แสดงดังภาพท่ี ๒ ซ่ึงรายละเอยี ดของนวตั กรรม PHOKWIT Model มดี งั ต่อไปน้ี 1. กระบวนการดำเนินงาน PHOKWIT Model มี 4 ขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ ข้ันท่ี 1 ขั้นวางแผน (PHOK) ประกอบด้วย การศึกษาปัญหา (P:Problem) สภาวะแวดล้อม บริบท วิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบในปีการศึกษาที่ผ่านมา ประเมินความต้องการจำเป็น ความต้องการ ของสถานศึกษา ผู้มีส่วนได้สว่ นเสยี มาตงั้ สมมติฐาน (H:Hypothesis) เพ่ือคาดการณ์ความเปน็ ไปได้ ก่อนการ ดำเนินการพฒั นา แลว้ กำหนดวตั ถุประสงค์และขอบเขต (O:Objective) ของการพัฒนา บนพน้ื ฐานของ องค์ความรู้ (K:Knowledge) ที่ได้จากการสังเคราะห์ จัดระบบข้อมูล ออกแบบนวัตกรรมหรือวิธีการพัฒนา ขั้นท่ี 2 การปฏิบัติการ (W) ประกอบด้วย การลงมือปฏิบัติ (W:Workshop) ตามวิธีการท่ีได้ กำหนดหรอื วางแผนไว้ และตรวจสอบ ประเมินผลการปฏิบตั กิ าร ขั้นท่ี 3 ผลสะท้อนกลับจากการปฏิบัติ (I) ประกอบด้วย กระบวนการส่งความรู้กลับ (Internalization) ผลสะท้อนกลับจากการปฏิบัติลงมือทำ ส่งต่อองค์ความรู้จนเกิดเป็นทักษะและความ เชี่ยวชาญ มีการนำไปใช้ในระดับบุคคลจนกลายเป็นแนวปฏิบัติขององค์กร ด้วยกระบวนการติดตาม กำกับ ประเมินผล อย่างเป็นขั้นตอน โดยการบูรณาการ (Integration) องค์ความรู้ให้เข้ากับบริบท สภาพแวดล้อม และทรัพยากรขององค์กร ขั้นที่ 4 ขั้นขยายผลและเผยแพร่ (T) ประกอบด้วย การขยายผลองค์ความรู้ (T: Transfer) นำองค์ความรู้ที่ได้ เผยแพรผ่ ลงานทั้งใน และนอกสถานศึกษารว่ มกบั ภาคีเครือขา่ ย ภาพท่ี ๒ แผนภาพ PHOKWIT Model
๙ ๑.๒.3 การขับเคลื่อนกระบวนการดำเนินงาน PHOKWIT Model ควบคู่กับแนวคดิ ทางทฤษฎี ทางดา้ นการบรหิ ารและการจัดการศึกษาโรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลยั มีรายละเอียดดังต่อไปน้ี 1. หลักธรรมาภิบาล (Good governance) โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยใช้ หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารโรงเรียน ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคีเครือข่ายอื่นๆทั้งในและนอกองค์กร ให้มี ปฏิสัมพันธ์กนั และเกดิ ความร่วมมอื ในการขับเคลื่อนของสถานศกึ ษา โดยอย่บู นพ้ืนฐานหลกั ธรรมาภิบาล ซึ่ง ดำเนินการโดยใช้หลักการ (1) ยึดการบรรลุภารกิจเป้าหมายขององค์กรเป็นหลัก (2) มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ(3) มีความรับผิดชอบ ส่งเสริมบทบาทของชุมชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัด การศึกษา เชน่ การจัดทำหลกั สตู รท้องถนิ่ มกี ารเชญิ วทิ ยากรภายนอกท่เี ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ น มาให้ความรู้แก่ ครูและผู้เรียน การจัดสรรทรัพยากรให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี, (2542) ว่าด้วยพระราชกฤษฎีกา หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มีการ ประยุกต์ใช้หลกั ธรรมาภิบาลที่เปน็ กฎหมาย เพื่อใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษาให้บรรลุเจตนารมณข์ อง พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ ดงั ต่อไปนี้ 1.1 หลักนิติธรรม ผู้บริหารจะต้องยึดหลักความถูกต้อง คือ มีการพิจารณาปัญหา การตัดสินใจด้วยความถูกต้องตาม กฎระเบียบ ข้อบังคับ ระเบียบ วินัยข้าราชการ และจรรยาบรรณครู ให้ ถูกต้องตามหลักศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีของสังคม ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา และผู้ที่ เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระบบงานของสถานศึกษาทั้ง 4 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ ฝ่ายบริหารงาน งบประมาณ ฝา่ ยบริหารงานบุคคล และฝ่ายบริหารงานกจิ การนักเรียน 1.2 หลักคณุ ธรรม ผ้บู รหิ ารจะต้องยึดหลกั ความเหมาะสม คอื ปฏบิ ตั ิงานไดเ้ หมาะสม ถกู กาลเทศะ ตามหลกั สปั ปุริสธรรม 7 และหลักความยุติธรรม คือ มกี ารวินิจฉัย สัง่ การ และปฏิบัติต่อผู้อยู่ใต้ ปกครอง และบคุ คลทเ่ี กี่ยวข้อง ดว้ ยความชอบธรรม บนพน้ื ฐานแห่งหลกั ธรรม 1.3. หลกั ความโปรง่ ใส ผบู้ รหิ ารจะต้องยดึ หลักความบริสทุ ธ์ิ คอื มกี ารวินิจฉยั สัง่ การ กระทำกิจการงาน ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใช้ระบบสารสนเทศสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดยใช้ หลกั การ PDCA ในระบบงานของสถานศกึ ษาท้ัง 4 ฝ่ายบรหิ ารงาน 1.4. หลกั การมีสว่ นรว่ ม ผ้บู รหิ ารจะตอ้ งให้ผู้ท่ีมสี ่วนได้ส่วนเสียกับการจัดการศึกษา ทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครองตลอดทั้งชุมชนมีส่วนร่วม ดำเนินการจัดการศึกษาในโครงการและกิจกรรมของ สถานศึกษาทจ่ี ดั ข้ึนตลอดปี 1.5. หลักความรับผิดชอบ ผู้บริหารจะต้องให้ผูท้ ี่มีส่วนร่วมในการดำเนินการ จัด การศึกษาได้ตะหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในผลของการจัดการศึกษาที่มีผลผลิตคือตัวผู้เรียนที่มี คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ี่แตกตา่ งกัน 1.6. หลักความคุ้มค่า ผู้บริหารจะต้องใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการ ดำเนินการกับทรัพยากรทางการศึกษาอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้หลักการ PDCA และ PHOKWIT Model เข้ามาตรวจสอบคณุ ภาพของระบบงานทั้ง 4 ฝ่ายอยา่ งครบถ้วน 2. โรงเรียนมาตราฐานสากล (World-class Standard School) การพัฒนาผู้เรยี นให้ มีคุณภาพ ตามโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาที่ใช้เป็นยุทธศาสตร์ ในการขบั เคลอ่ื นโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย พัฒนายกระดบั การจัดการศกึ ษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่า สากล โดยโรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัยไดม้ กี ารพฒั นาหลักสูตร การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ให้สอดคล้อง กับเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อพัฒนา
๑๐ ผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นพลโลก มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ เดียวกับมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานของประเทศช้ันนำ ที่มีคุณภาพการศึกษาสูง ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ด้านการพัฒนาผู้เรียนในโครงการโรงเรยี นมตราฐานสากล คือ มีความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ลำ้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ และร่วมกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก 3. ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศษฐกิจพอเพียง ( Sufficiency Economy Learning Centers) โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ได้พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรคุณธรรม โดยมุ่งเน้น พัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรมควบคู่กับความรู้ และมีทักษะการดำรงชีวิต จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศษฐกิจพอเพียง ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเผยแพร่ เพ่ือเป็นการสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ แก่ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ตลอดจนผู้ปกครองและ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการดำเนินการประชุมวางแผนงานขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียน โดยสร้างการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง โดยผ่านการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งจาก ๙ ฐานการเรยี นรู้ เพื่อใหผ้ ู้เรียนเปน็ ผมู้ ีความรคู้ วามสามารถ มีทักษะการดำรงชีวิตตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอพียง 4. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (The committee of basic education school) และสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย (The Parents and Teacher Association of Nongphokwittayalai school) การขับเคลื่อนโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย จะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ถ้าขาดการส่งเสรมิ และสนับสนุนการดำเนนิ การกิจการด้านต่าง ๆ ของโรงเรยี นหนองพอกวยิ าลัย จากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ท่ีเข้ามาร่วมกำหนดแผนพัฒนา สถานศึกษา รว่ มกับคณะผูบ้ รหิ าร ส่งเสรมิ และสนับสนุนกิจการต่าง ๆ ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการ จัดการศกึ ษา สนับสนนุ งบประมาณในการดำเนนิ การพัฒนา และปรบั ปรุงหลกั สตู รสถานศึกษาใหส้ อดคล้องกับ ความตอ้ งการของผู้เรยี น โดยเนน้ ความแตกต่างของผู้เรียนเป็นสำคัญ และเปิดโอกาสใหช้ ุมชน และหน่วยงาน ราชการ เอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนโรงเรียน เช่น การให้คำปรึกษา การสนับสนุน งบประมาณการเปน็ วิทยากร และการเป็นแหลง่ เรยี นรู้ภายนอกสถานศกึ ษา ๒. จุดประสงค์และเปา้ หมาย ๒.๑ จุดประสงค์ ๑) เพื่อพฒั นาผ้เู รียนให้มีความรู้ มที กั ษะกระบวนการ มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ จากการพฒั นานวตั กรรมการจดั การเรียนรู้ ดว้ ยกระบวนการ PKOKWIT Model ในสถานการณก์ ารแพร่ ระบาดของเช้อื โรคติดตอ่ ไวรสั โคโรนา 2019 ๒) เพอ่ื พฒั นานวัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ ดว้ ยกระบวนการ PKOKWIT Model ทมี่ ปี ระสิทธิภาพ เป็นแบบอย่างได้ ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชื้อโรคตดิ ต่อไวรัสโคโรนา 2019 ๓) เพอ่ื นำนวัตกรรมการจดั การเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PKOKWIT modelเผยแพร่ผลงาน ทงั้ ใน และนอกสถานศึกษารว่ มกบั ภาคีเครอื ขา่ ยในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชือ้ โรคตดิ ต่อไวรัสโคโรนา 2019
๑๑ ๒.๒ เปา้ หมาย - เชิงปริมาณ นักเรียนโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยทุกคน ร้อยละ 100 จำนวน 1,401 คน ได้ผ่าน การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ ไวรสั โคโรนา 2019 - เชงิ คณุ ภาพ นักเรียนโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย เป็นผู้มีสมรรถนะทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา เกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยผ่านการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วย กระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือ โรคตดิ ตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 ๓. กระบวนการผลติ ผลงาน กระบวนการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Model ของโรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ ไวรสั โคโรนา 2019 โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยได้มีกระบวนการดำเนินงานการจัดการเรียนการสอน ภายใต้ สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้ือโรคตดิ ตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 ดว้ ยระบบคณุ ภาพ PDCA และ PHOKWIT Model แสดงดังภาพที่ 3 เป็นเครื่องมือที่นำไปใช้เป็นกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นผู้มีสมรรถนะทาง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 สามารถนำองค์ความรู้มา เชื่อมโยงกันในแต่ละสาระการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ได้จริง นำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต และ เผยแพร่ผลงานทัง้ ในและนอกสถานศกึ ษารว่ มกับภาคเี ครือข่าย การดำเนินงานประกอบดว้ ย 6 ข้ันตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 SWOT Analysis บริบทของโรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลยั ข้ันที่ 2 การเตรยี มความพร้อมในการการจัดการเรียนการสอน ข้ันท่ี 3 การจัดทำหลักสูตรสถานศกึ ษา การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ 4 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ขน้ั ท่ี 5 การวดั ผลและการประเมนิ ผลการเปล่ียนแปลงท่เี กดิ ขึ้น ขน้ั ท่ี 6 การสรา้ งเครอื ข่ายและขยายผล
Best Practices ขน้ั ท่ี ๑ ารพฒั นานวัต รรม ารจัด ารเรียนรู้ด้วย ระบวน าร PHOKWIT SWOT Analysis บรบิ ทขอ โร เร Modelขอ โร เรียนหนอ พอ วิทยาลัย ภายใต้สถาน ารณ์ ารแพร ขัน้ ที่ ๒ ระบาดขอ เชือ้ โรคติดตอไวรัสโคโรนา 2019 ารเตรยี มความพร้อมฯ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชอื้ โรคติดต่อ ข้นั ท่ี ๓ ไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยรูปแบบ 5 On ารจัดทำหลั สตู รสถานศึ ษา ารออ แบบ จิ รรม ารเรียนรู้ ขัน้ ท่ี ๔ การจดั กิจกรรมการ เรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรยี น ON-Site ขัน้ ท่ี ๕ ONline ON-Air ารวัดผลและประเมนิ ผล ON-Demand เปลย่ี นแปล ท่เี ิดข้ึน ON-Hand ขน้ั ท่ี ๖ สร้า เครอื ขายและขยายผ ภาพที่ 3 การพฒั นานวตั กรรมการจัดการเรยี นรูด้ ว้ ยก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบ
๑๒ แนวคดิ ใน ารใน ารออ แบบ ิจ รรม ารจดั ารเรยี น าร รยี น สอน การเตรยี มพรอ้ มการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูภ้ ายใตส้ ถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของเชอื้ โรคตดิ ต่อไวรัสโคโรนา 2019 ดว้ ยรูปแบบ 5 On ประกอบด้วย 1. ความรู้ด้านเนอ้ื หา และการวิเคราะหเ์ น้อื หา 2. ความรู้ดา้ นเทคโนโลยี า/ 3. ความรู้ดา้ นการออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอน ร นรู้ ผลลัพธ์ สมดุล/พรอ้ มรับการเปลีย่ นแปลง ผู้เรียนมสี มรรถนะทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา เกดิ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ในการค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ าร ดว้ ยกระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ เกดิ ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และการคดิ แก้ปญั หา สามารถแก้ปญั หา อยา่ งเป็นระบบ นำองค์ความรูท้ ่ีไดม้ าสงั เคราะหเ์ ป็นนวัตกรรม นำไปส่กู ารเผยแพรท่ งั้ ภายในสถานศึกษาและชุมชนภายนอก ผล กระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย บาดของเชือ้ โรคติดตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019
๑๓ ขั้นตอนกระบวนการออกแบบนวตั กรรม Best Practices “การพฒั นานวตั กรรมการจดั การเรยี นรดู้ ว้ ย กระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อโรคตดิ ต่อไวรสั โคโรนา 2019” มีวธิ ีการดงั ตอ่ ไปนี้ ข้ันที่ 1 SWOT Analysis บริบทของโรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย ได้ใช้เครื่องมือการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) ในการวิเคราะห์บริบทของโรงเรียน เพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึง จุดแข็ง จุดอ่อน สภาพภายในของโรงเรียน โอกาส และอุปสรรคของสภาพภายนอก ซึ่งจะทำให้ทราบว่าแนวทางการพัฒนาระบบขององค์กร และ การปรบั ปรุงการไขก้ ารดำเนินการระบบเดิม สำหรบั การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) โรงเรียน หนองพอกวทิ ยาลัย มดี งั น้ี การประเมินสภาพแวดลอ้ มภายใน 1. จุดแข็ง (Strength) ด้านทรัพยากรที่มีศักยภาพและความสามารถทางการแข่งขัน ได้แก่ ความเชี่ยวชาญในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา โครงสร้างการบริหารสถานศึกษา หลักสูตร สถานศึกษาเน้นความแตกต่างของผู้เรียนเป็นสำคัญ ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนของครูและ บคุ ลากร เทคโนโลยี การใหบ้ ริการทางการศึกษาแก่ผู้เรยี น ภาคีเครอื ขา่ ย และชุมชน 2. จุดอ่อน (Weakness) ด้านทรัพยากร และความเสียเปรียบทางการแข่งขัน ได้แก่ ปัญหา ทางด้านงบประมาณ ขาดสนับสนุนการเทคโนโลยี บริบทพื้นฐานครอบครัวของนักเรียนโรงเรียนหนองพอก วทิ ยาลยั ผปู้ กครองประกอบอาชีพเกษตรกรรม มฐี านะยากจน มผี ลกกระทบต่อการศึกษาต่อในระดับทีส่ งู ข้ึน การประเมนิ สภาพแวดลอ้ มภายนอก 1. โอกาส (Opportunity) สถานศกึ ษาท่ไี ดพ้ ัฒนาศักยภาพ โดยได้รบั การสนบั สนนุ จากองค์กร ภายนอก ทั้งภาครัฐ หน่วยงานเอกชน และภาคีเครือข่ายอื่นๆในชุมชน อีกทั้งผู้ปกครองและชุมชน ให้ความ ร่วมมือในการพัฒนาผ้เู รยี น ส่งผลใหผ้ เู้ รียนเกดิ การพัฒนาอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2. อุปสรรค/ข้อจำกัด (Threats) อุปสรรคภายนอกที่ทำให้สถานศึกษาต้องปรับตัว ประกอบด้วย การมีโรงเรียนใหม่เกิดขึ้น และเป็นคู่แข่งขันใหม่ที่มีศักยภาพ ความต้องการด้านคุณภาพ การศึกษาที่มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ส่งผลให้นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลง ดา้ นพฤติกรรม จากการประเมินสภาพแวดล้อมภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอกขอโรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลยั จงึ ไดม้ ีออกแบบนวัตกรรมทใี่ ชใ้ นการขับเคล่ือนขององคก์ ร คอื กระบวนการ PHOKWIT Model เพอื่ พัฒนา องค์กราใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานสากล ขัน้ ท่ี 2 การเตรยี มความพรอ้ มในการจดั การเรยี นการสอน มวี ธิ ดี ำเนนิ การดังตอ่ ไปนี้ การเตรียมความพร้อมของผู้บริหาร ผู้บริหารมีการกำหนดนโยบาย และการประชุม วางแผนงานที่ชัดเจนในการบริหารจัดการสถานศึกษา ศึกษาสภาพปัจจุบัน ศึกษาปัญหาและแต่งต้ัง คณะกรรมการทำงาน เพือ่ รบั ผดิ ชอบในการบรหิ ารการศกึ ษาให้มีคุณภาพ และสง่ เสรมิ ในด้านการประเมินผล การเรียนรู้ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมมาปรับปรุงแก้ไขการเรียนของผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ในดา้ นการเตรียมการสอน ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเช้อื โรคตดิ ตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 มีการจัด ประชุมผู้บริหารและบุคลากร เพื่อร่วมกันคิดวิเคราะหผ์ ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียนทุกระดับชั้น และ เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์กิ บั เกณฑ์มาตรฐาน
๑๔ การเตรียมความพร้อมของครู ดำเนินการพัฒนาศักยภาพครู เพื่อนำไปพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดศักยภาพตามเปา้ หมาย โดยสามารถสรา้ งและบรู ณาการองค์ความรไู้ ด้ มีการคิดวิเคราะหแ์ ละสร้างสรรค์ เข้าใจเทคโนโลยีและทักษะใหม่ๆ สร้างผู้เรียนให้เป็นนักคิดและนักพัฒนาได้ โดยแผนการดำเนินงาน ได้แก่ การจัดอบรมพัฒนาหลักสูตร พัฒนาบุคลากร เข้าร่วมอบรมออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการ สอนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและ เอกชน และพฒั นาสอื่ นวตั กรรมสำหรบั การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษท่ี 21 แนวคดิ ในการสอนแบ่งเป็น 3 ด้าน 1. ความรดู้ ้านเน้อื หา ผ้สู อนต้องรจู้ ักเนอ้ื หาเป็นอยา่ งดี วเิ คราะหว์ า่ เนอื้ หาใดท่ีต้องการให้ผเู้ รียนได้ เรียนรู้ ความรหู้ รอื ทกั ษะใดทผ่ี เู้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ดต้ นเอง หรอื เนือ้ หาใดที่ครตู ้องช่วยให้ความรผู้ ู้เรียนจึง สามารถเรียนรู้ได้ 2. ความรดู้ า้ นเทคโนโลยี โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยได้มีการจัดอบรมการใช้โปรแกรมสำหรับการ จัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ให้ครูและบุคลาการของโรงเรียน ได้แก่ โปรแกรม google meet/google classroom/ Zoom/ Microsoft team และGoogle site เพื่อให้ครูผู้สอนได้นำไปปรับใช้ในการออกแบบ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ของตนเอง 3. ความรู้ด้านการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนการสอน ผู้สอนต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ใน การสอน มีสื่อการสอน เทคนคิ การสอน และกระบวนการสอนให้เหมาะสมกบั สถานการณ์การแพรร่ ะบาดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 แสดงดงั ภาพที่ 4 ภาพที่ 4 การอบรม Google site เพอื่ เตรยี มความพรอ้ มฝนการเรียนออนไลน์ การเตรียมความพร้อมของนักเรียน ดำเนินการศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล พัฒนาหลักสูตร ของสถานศึกษภายใต้ข้อจำกัดในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้ือโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 มีการวดั ประเมินผลความก้าวหน้าของผู้เรยี นนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อให้เข้ากับยุค สมยั โดยผเู้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ดท้ กุ ที่ ทกุ เวลา การเตรียมความพร้อมของชุมชน โรงเรียนได้มีการประสานสัมพันธ์กับชุมชนให้มีส่วนร่วม ในการติดต่อสื่อสารระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองผ่านช่องทางออนไลน์ และมีการเยี่ยมบ้านออนไลน์ครบ 100 %
๑๕ ข้นั ท่ี 3 การจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา และการออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยโรงเรียนจัดทำ หลกั สูตรสถานศึกษา หน่วยการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการ ส่งเสริมให้เกิดทักษะการเรียนในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นเชิงสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ภายใต้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโรคติดตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 หน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนจัดทำหน่วยการเรียนรู้ที่มีสาระการ เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านได้หลายช่องทาง โดยมีการนำ Google Site มาเป็นช่องทางในการ ติดต่อสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียน บูรณาการตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดสำหรับแต่ละชั้นปี ใน หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) โดยโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย แบ่งรูปแบบการสอนออกเปน็ 5 On ดังน้ี 1. รูป แ บ บ on site โร ง เร ียน หนอ งพ อก ว ิทยาลัยไ ด้ทำก าร เปิดเรียน on-site เมอ่ื วนั ท่ี 14มถิ นุ ายน 2564 โดยโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ไดป้ ระกาศให้ผู้เรยี นทีน่ อกพนื้ ทจ่ี งั หวัดร้อยเอ็ด กลับเข้าพืน้ ทิ่ เพื่อกกั ตัวกอ่ นเปดิ เรยี น 14 วัน โดยการจัดการเรียนการสอนแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมาเรียนทุกวัน แต่แยกเป็นกลุ่ม A และกลุ่มB 2) กลุ่มนักเรียน ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลายมาเรียนสลับวนั เวน้ วนั ไมแ่ บ่งกลมุ่ ในชว่ งไมไ่ ด้มาเรียน on site ทโ่ี รงเรียน ผสู้ อนได้ มอบหมายงานเพื่อนำกลับไปทบทวนบทเรียนที่บ้าน และสร้างกลุ่มช่องทางออนไลน์เพื่อใช้ในติดต่อสื่อสาร นอกจากนี้ในขณะที่เปิดการเรียนการสอนได้มีการออกมาตราการการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคติดต่อ ไวรสั โคโรนา 2019 มีการเฝา้ ระวงั อย่างเครง่ คดั แสดงดงั ภาพท่ี 5 ภาพท่ี 5 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ด้วยรปู แบบ Online 2. รูปแบบการสอน Online ของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยนั้น ได้แบ่งกลุ่มการจัดการเรียนรู้ ผ่านช่องทาง Facebook ออกเปน็ 6 ระดบั ช้ัน โดยมีขอ้ มูลตารางเรยี น แบบเชค็ เวลาเรียน ชอ่ งทางการสง่ งาน และช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับผู้เรียน โดยคุณครูใช้รูปแบบการสอนที่หลากหลาย เช่น Google meet, Google classroom, Google site และLine เปน็ ตน้ นอกจากน้ียังมกี ารวดั และประเมินผลในรูปแบบ ออนไลนท์ ห่ี ลากหลาย เชน่ การทดสอบผา่ นรูปแบบเกม การทดสอบผ่าน Google Form และการทดสอบผ่าน การส่งชนิ้ งาน แสดงดงั ภาพที่ 6
๑๖ ภาพที่ 6 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยรปู แบบ Online 3. รูปแบบการสอนแบบ on-air ผ้เู รยี นสามารถเรยี นรูจ้ ากสื่อออนไลน์อื่นๆ เช่น การจัด การเรียน การสอนผ่านทางไกล DLTV โดยเข้าไปที่เว็บไซต์“หนองพอกวิทยาลัยออนไลน์”ที่เป็นแหล่งรวมรวบสื่อการ จัดการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน มีตารางการออกอากาศ ช่องทางการรับชมและโหลดใบงาน สำหรับการทบทวนเนื้อหาวชิ าเรยี น แสดงดงั ภาพท่ี 7 ภาพท่ี 7 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยรูปแบบ on-air 4. รูปแบบการสอนแบบ on-hand และ on-demand หลังจากที่คุณครูได้ทำการจัดการเรียน การสอนออนไลน์ โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลยั ได้จัดช่องทางการรวมใบงาน แบบฝึกหดั และคลิปวดิ ีโอการสอน ของครู โดยรวบรวมเป็นรายสัปดาห์เพื่อให้ผู้เรียนสะดวกในการค้นหา ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาและทบทวน บทเรียนย้อนหลังได้ นอกจากนี้ยังมีช่องทางการจัดการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สื่อดิจิทัล Project 14 การจัดการ เรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตรอ์ อนไลน์ หอ้ งเรียน DLTV และ DLIT Classroom เปน็ ต้น แสดงดังภาพที่ 8
๑๗ ภาพที่ 8 การจัดกิจกรรมการเรยี นรูด้ ว้ ยรปู แบบ on-hand และ on-demand ขัน้ ท่ี 4 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ โรงเรียนจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้อื โรคตดิ ตอ่ ไวรสั โคโรนา 2019 ของ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมีการดำเนินกิจกรรม โดยนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ เช่น Google meet Google site Facebook และLINE โดยผ้สู อนเลอื กใชต้ ามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจของครู โดยในปัจจุบันโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยได้นำ นวัตกรรมสื่อ เรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียน เกิดองค์ความรู้ที่ หลากหลาย สำหรับช่องทางการติดต่อสื่อสารหลักขอโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย คือ กลุ่ม Facebook แบง่ ออกเป็น 6 ระดบั ช้ัน โดยมีข้อมลู ตารางเรียน แบบเชค็ เวลาเรยี น ช่องทางการส่งงาน และช่องทางการ ติดต่อส่อื สารระหวา่ งครูกับผู้เรยี น โดยคณุ ครใู ช้รูปแบบการสอนทห่ี ลากหลาย เช่น Google meet, Google classroom, Google site และLine เปน็ ต้น นอกจากน้ียังมีการวดั และประเมนิ ผลในรปู แบบออนไลนท์ ่ี หลากหลาย เช่น การทดสอบผ่านรูปแบบเกม การทดสอบผ่าน Google Form และการทดสอบผ่านการส่ง ชนิ้ งาน ดังน้ี 4.1) กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษา มีการจดั การเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย เชน่ Google site Google Meet โดยนำมาบูรณาการกับวิชาเรียนให้ผู้เรียนได้เรียนเรื่องของกีฬาผ่านช่องทางออนไลน์ แสดงดังภาพท่ี 9 ภาพท่ี 9 การจัดการเรยี นการสอนกลุม่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
๑๘ 4.2) กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ มีนำเทคโนโลยี เช่น Google Meet และGoogle Clasroom จัดการเรียนรู้ที่เสริมสร้างสุนทรยี ะด้านศิลปะ ดนตรี ทัศนศิลป์ และนาฏศิลป์ โดยนำวิดีโอตัวอย่างการเร่อื ง ดนตรีและนาฏศิลป์บูรณาการในบทเรียน เช่น การบรรเลงดนตรีประกอบ ให้เหมาะสมกับ การแสดง การสร้างสรรคอ์ อกแบบป้ายวรรณคดที ใ่ี ช้ในการแสดง และออกแบบท่ารำนาฎศิลป์ แสดงดังภาพที่ 10 ภาพท่ี 10 การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ 4.3) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน รักภาษาไทย และการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง โดยนำสื่อเทคโนโลยีเข้ามาบูรณาการในบทเรียนวรรณคดี สำหรบั นกั เรยี นระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เรอ่ื ง พยญั ชนะไทย มาออกแบบการเรยี นรู้ แสดง ดังภาพท่ี 11 ภาพที่ 11 การจัดการเรียนการสอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย 4.4) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ นี่ ำองค์ความรู้ ทางทฤษฎีหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ และความรู้ด้านเทคโนโลยีมาบูรณาการผ่านช่องทางต่างๆ .ใน รปู แบบหลายหลาย เ เพือ่ ให้ผเู้ รียนได้มสี ่วน รายวิชาเทคโนโลยี บูรณาการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะ และองค์ความรู้เกี่ยวกับ วิทยาการสมัยใหม่ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เนน้ ให้ผู้เรยี นสามารถสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี เช่น การนำนาฏมวยไทยที่เป็นผลงานโดดเด่นของโรงเรียนมาเป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การออกแบบจัดทำเว็บไซต์ โดยให้นักเรียนร่วมกันออกแบบจัดทำเว็บไซต์ โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย เพือ่ เผยแพร่ผลงาน และรางวลั ท่ีได้รับ แสดงดังภาพท่ี 12
๑๙ ภาพที่ 12 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4.5) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ การดำรงชวี ติ และทกั ษะอาชีพ ผ่านชอ่ งทางออนไลน์ แสดงดงั ภาพที่ ๑3 ภาพท่ี 13 การจดั การเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
๒๐ 4.6) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาผู้เรียนด้านความคิด ใหร้ ้จู ักการคิดอย่างเปน็ ระบบ มีเหตผุ ล ช่างสังเกต และมีความคิดสรา้ งสรรค์ ผา่ นชอ่ งทางการเรียนรู้ออนไลน์ แสดงดงั ภาพที่ ๑4 ภาพท่ี 14 การจดั การเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 4.7) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี ส่งเสริมทักษะชีวิต การอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ปลูกฝังให้นักเรียนได้ตระหนัก เห็นคุณค่าของ ศิลปวฒั นธรรมไทย แสดงดังภาพที่ ๑5 ภาพท่ี 15 การจัดการเรยี นการสอนกล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๒๑ 4.8) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มกี ารจดั การเรยี นรู้ที่ส่งเสริมทักษะทางด้านการ สอ่ื สารภาษาตา่ งประเทศ เพอ่ื เขา้ สศู่ ตวรรษที่ ๒๑ แสดงดังภาพที่ ๑6 ภาพท่ี 16 การจัดการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ขนั้ ที่ 5 การวดั ผลและประเมนิ ผลการเปล่ียนแปลงทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนินงานการจัดการเรียน การสอน ภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยระบบคุณภาพ PDCA และ PHOKWIT Model เป็นเครื่องมือที่นำไปใช้เป็นกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะทาง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา เกิดทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 เนน้ กระบวนการเรยี นรู้ผ่านการ ลงมือทำ โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัยได้จัดทำ หน่วยการเรียนรู้ที่มีสาระการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น และ ประยุกต์ใช้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดสำหรับแต่ละชั้นปี ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง 2560) ซึ่งได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้ยังมีการวัดและประเมินผลในรูปแบบออนไลน์ที่หลากหลาย เช่น การทดสอบผ่าน รูปแบบเกม การทดสอบผ่าน Google Form และการทดสอบผา่ นการส่งชิ้นงาน ด้วยการดำเนินการดีงกล่าว เกดิ เป็นผลงานการปฏิบตั เิ ปน็ เลิศ (Best Practice) “การพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ” ข้ันที่ 6 การสร้างเครือขา่ ยและขยายผล ขยายผลส่โู รงเรียนเครือขา่ ย และขยายผลสชู่ มุ ชน โรงเรียนมีการขยายผลงานการปฏิบัติเป็นเลศิ (Best Practice) โดยเป็นแหลง่ ศึกษาดูงานของหน่วยงาน ตา่ ง ๆ และเป็นพเี่ ล้ยี งใหค้ ำปรึกษาแก่โรงเรยี นเครือขา่ ย
๒๒ ๔. ผลการดำเนินการ ผลสมั ฤทธิแ์ ละประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ ผลจากการปฏิบัติงานที่เป็นระบบที่มีการบูรณาการเชื่อมโยงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม ความดี ป้องกันทุจรติ ด้วยรูปแบบ “การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ดว้ ยกระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชอ้ื โรคติดตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019” พบว่า 4.๑ ผลการดำเนินการทเี่ กดิ จากจุดประสงค์ ๑) ผูเ้ รยี นมีความรู้ มีทกั ษะกระบวนการ มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จากการพฒั นานวัตกรรม การจัดการเรียนรู้ ดว้ ยกระบวนการ PKOKWIT model ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ โรคติดต่อไวรัส โคโรนา 2019 ๒) นำนวตั กรรมการจดั การเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการ PKOKWIT model ทมี่ ีประสิทธิภาพเป็น แบบอยา่ งได้ ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้อื โรคตดิ ตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 ๓) นำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ PKOKWIT modelเผยแพร่ผลงานทั้งใน และนอกสถานศกึ ษารว่ มกับภาคีเครือข่ายในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชอ้ื โรคติดตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 4.2 ผลสำเร็จ ผลการดำเนินงาน จากระบบ PCDA และ PHOKWIT Model เกิดเป็นผลงานการปฏิบัติ เป็นเลิศ (Best Practice) พบว่า ผู้เรียน มีสมรรถนะทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ได้พัฒนา ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 จากการคน้ คว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการเรยี นรทู้ ีส่ ามารถแกป้ ัญหาอย่าง เป็นระบบ สามารถรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล อย่างครบถ้วน เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมี วจิ ารณญาณ และการคิดแกป้ ัญหา ค้นควา้ และคัดเลือกข้อมลู หรอื องค์ความรูเ้ ปน็ ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ ที่ 21 สามารถค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ผู้เรียนสามารถจัดทำ ผลงานที่เปน็ นวัตกรรมสำคัญ ซง่ึ เป็นผลสรุปของการออกแบบการจดั การเรียนรู้ สามารถนำนวตั กรรมมาศึกษา หาความรู้ นำไปสกู่ ารเผยแพรใ่ ห้กวา้ งขวางมากข้ึน ๕. ปจั จัยไปสู่ความสำเรจ็ 1. กระบวนการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PHOKWIT Model ของโรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย” โดยใชร้ ูปแบบการจัดกิจกรรม PHOKWIT Model สามารถพฒั นาผูเ้ รียนให้ เกิดทักษะในศตวรรษท่ี 21 มสี มรรถนะทางร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา ได้พฒั นาทกั ษะ ในศตวรรษ ที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ เกิดทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้การแก้ปัญหา สามารถสืบเสาะหาความรู้และสร้างองค์ ความรู้ได้ดว้ ยตนเอง 2. นกั เรียนได้นำการจัดกจิ กรรมท้งั 8 กลุม่ สาระการเรยี นรูมาอธบิ าย เชือ่ มโยง และบูรณาการ องคค์ วามรู้ทั้งทางด้านสังคมศาสตร์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งรอบด้าน 3. ผู้บริหารและคณะครู ให้ความเห็นชอบ สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม มีวัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ ในการจดั กจิ กรรมอยา่ งเพียงพอ ๔. การประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมร่วมกันผ่านการเผยแพร่ ทั้งภายใน และภายนอกสถานศึกษาได้รับการตอบรบั เปน็ อย่างดี
๒๓ ๖. บทเรยี นที่ไดร้ ับ (Lesson Learned) ผลการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ด้วย กระบวนการ PHOKWIT Modelของโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โรคติดตอ่ ไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเครอื่ งมอื ทน่ี ำไปใช้เปน็ กระบวนการดำเนินงาน ทำให้ ผู้เรยี น มีสมรรถนะ ทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 จากการค้นคว้าและสร้างองค์ ความรู้ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล อย่าง ครบถ้วน เกิดทักษะการคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และการคิดแก้ปญั หา ค้นคว้าและคัดเลอื ก ข้อมูลหรือองค์ความรู้เป็นทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สามารถค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วย กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลาย และประจักษพ์ ยานทีต่ รวจสอบได้ ผู้เรียนสามารถจัดทำผลงานที่เป็นนวัตกรรมสำคญั ซึ่งเป็นผลสรุปของการ ออกแบบการจดั การเรียนรู้ สามารถนำนวัตกรรมมาศึกษาหาความรู้ นำไปสู่การเผยแพร่ใหก้ ว้างขวางมากข้ึน
๒๔ บรรณานุกรม คณะศึกษาศาสตร์. (2560). โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการ“การจัดการเรียนร้แู บบ Phenomenon-based Teaching and learning. ศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร บริษัท ตรีเพชรอีซซู ุเซลส์ จำกดั . (2562). อซี ซู จุ ัดแขง่ ขันรอบชิงชนะเลิศ “นาฏมวยไทยอซี ซู ”ุ ปที ี่ 9 คัดแชมปร์ ะดับประเทศ ชิงถว้ ยพระราชทานสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวฯ, จาก https://www.isuzu- tis.com/news-activities/public-relations วิจารณ์ พานชิ . (2552). การศกึ ษาองค์ความรู้เกี่ยวกบั คุณลักษณะของคนไทยทพ่ี ึงประสงค์: เชาวนท์ างปญั ญา. กรงุ เทพมหานคร : สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, ราชกิจจานุเบิกษา. เลม่ 134 ตอนที่ 40 ก, 6 เมษายน 2560, หน้า 1-90 สมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวฯ, จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/809046 สมศกั ด์ิ สินธรุ ะเวชญ.์ (2542). มงุ่ ส่คู ุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ: วฒั นาพานิช. สำนักนายกรัฐมนตรี. (2542). ระเบียบสำนกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการสรา้ งระบบกจิ การบ้านเมือง และสงั คมทด่ี ี พ.ศ. 2542. สำนักนายกรฐั มนตรี (เอกสารเผยแพรค่ วามรู้ เร่อื ง หลกั ธรรมภิบาล). สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศกึ ษา 2563. สบื ค้น มกราคม 22, 2564 จาก https://covid19.obec.go.th/. สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษารอ้ ยเอ็ด. (2563) “การอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารจัดการเรียนร้วู ิทยาการคำนวณ สำหรับครู Coding for Teacher สำหรับครูผู้สอนวิทยาการคำนวณ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที่ ่ี 1-3.” รอ้ ยเอ็ด: กล่มุ นิเทศติดตาม และประเมนิ ผลการจัดการศึกษา. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (๒๕๖๒) “สภาวะการศึกษาไทย 2561/2562 การปฏริ ปู การศึกษาใน ยุคดิจิทัล” กรุงเทพฯ : สำนกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. ---------. (2562: 216) การวจิ ัยและพฒั นารปู แบบ กลไกการเสรมิ สรา้ งวินยั นักเรยี นในสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ด้านความซื่อสตั ย์สจุ ริต / กรงุ เทพฯ WHO. (2020). Archived: WHO Timeline - COVID-19. Retrieved January 17, 2021, fromhttps://www.who.int/news-room/detail/27-04-2020-who-timeline---covid-19.
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: