การศกึ ษาคน้ คว้าองค์ความรเู้ รื่อง ผักกาดมหัศจรรย์ Wonderful White Cabbage คณะผู้จดั ทำ นางสาวประทานพร จนุ ทการบัณฑิต ชั้น ม.๕/๓ เลขท๔ี่ นางสาวรนิ รดา ทิศหลา้ ชั้น ม.๕/๓ เลขท่๕ี นายพันธวชั ใหมน่ อ้ ย ชน้ั ม.๕/๓ เลขที่๘ นางสาวจริ ัญญา ทองสุข ช้ัน ม.๕/๓ เลขท่๓ี ๓ นางสาวธนั ยพร อนจุ ร ช้ัน ม.๕/๓ เลขท๓่ี ๘ ครูท่ีปรกึ ษา ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั นี้เปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรยี นปัว อำเภอปัว จังหวัดนา่ น สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓๗ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
การศกึ ษาคน้ คว้าองค์ความรเู้ รื่อง ผักกาดมหัศจรรย์ Wonderful White Cabbage คณะผู้จดั ทำ นางสาวประทานพร จนุ ทการบัณฑิต ชั้น ม.๕/๓ เลขท๔ี่ นางสาวรนิ รดา ทิศหลา้ ชั้น ม.๕/๓ เลขท่๕ี นายพันธวชั ใหมน่ อ้ ย ช้นั ม.๕/๓ เลขที่๘ นางสาวจริ ัญญา ทองสขุ ช้ัน ม.๕/๓ เลขท่๓ี ๓ นางสาวธนั ยพร อนจุ ร ช้ัน ม.๕/๓ เลขท๓่ี ๘ ครทู ่ีปรกึ ษา ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั นี้เปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรยี นปัว อำเภอปัว จังหวัดนา่ น สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓๗ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
ชอื่ เร่ือง : Wonderful White Cabbage หรือ ผกั กาดมหศั จรรย์ ผจู้ ัดทำ : นางสาวประทานพร จุนทการบัณฑติ นางสาวรนิ รดา ทิศหล้า นายพนั ธวัช ใหม่นอ้ ย นางสาวจริ ัญญา ทองสุข นางสาวธันยพร อนุจร ทปี่ รึกษา : ครดู ำรงค์ คนั ธะเรศย์ บทคัดย่อ เรอื่ ง Wonderful White Cabbage หรือ ผกั กาดมหัศจรรย์ มจี ดุ มงุ่ หมายเพ่อื เพื่อให้รู้จักการดดู ซมึ อาหารของพืช และการลำเลียงนำ้ ของพืช วา่ เกดิ ข้นึ ได้อยา่ งไร เพ่ือใหส้ ามารถนำผกั กาดกาดทผ่ี ่าน การทดลอง ไปจัดตกแต่งแจกัน หรือประกอบอาหารได้ โดยในการศึกษาและทดลองใชร้ ะยะเวลา ทง้ั หมด ๒ เดือนและ ๓ อาทิตย์ ซ่ึงสิ่งทใี่ ชใ้ นการศกึ ษาครั้งนไ้ี ดแ้ ก่ ผักกาดขาว และสีผสมอาหาร มี รปู แบบการศึกษาค้นคว้าโดยใช้ Microsoft Word ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์รูปแบบ E-book และการเฉลย่ี หาคา่ รอ้ ยละ จากการศึกษาคร้ังน้ีพบวา่ เม่ือนำผักกาดขาวแช่ไวใ้ นน้ำสีผสมอาหารทเ่ี ตรียมไว้แล้วท้ิงไว้สกั พัก จะเห็นว่าผกั กาดสีขาวบรสิ ทุ ธิ์ได้เปลย่ี นสไี ป และระดับนำ้ ก็ลดลงมาจากตำแหนง่ เดมิ ทเ่ี ราไดก้ ำหนดไว้ โดยการท่ีนำ้ สีผสมอาหารมีการเคลอ่ื นท่ีไปจนทำให้ผักกาดขาวเปลี่ยนสีนนั้ แสดงให้เห็นวา่ มีการ ลำเลยี งนำ้ จากล่างขึ้นบนไปตามกลบี ของผกั กาดขาว (ค)
กิตติกรรมประกาศ โครงงานน้ีสำเรจ็ ลลุ ่วงไดด้ ว้ ยความกรณุ าจากครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ครูประจำวชิ าโครงงานทไี่ ด้ ให้คำเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเลม่ เสร็จสมบรู ณ์ ผูศ้ กึ ษาจึงขอกราบพระคุณเป็นอย่างสงู ขอกราบขอบพระคณุ คุณพ่อ คุณแม่ และผูป้ กครอง ทใ่ี ห้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมท้ังเปน็ กำลังใจท่ดี เี สมอมา ขอบคุณเพ่ือนๆท่ีช่วยให้คำแนะนำดีๆเก่ยี วกบั การเลือกคำและช่วยกันทำหรือให้ความรว่ มมอื เกยี่ วกับโครงงานเล่มนี้ใหส้ ำเรจ็ ลลุ ่วงไปได้ นางสาวประทานพร จนุ ทการบณั ฑติ นางสาวรนิ รดา ทิศหล้า นายพันธวชั ใหม่น้อย นางสาวจิรญั ญา ทองสขุ นางสาวธันยพร อนุจร (ง)
สารบญั หน้า (ค) เรื่อง (ง) บทคดั ย่อ (จ) กิตตกิ รรมประกาศ (ช) สารบัญ (ซ) สารบญั ตาราง ๑ สารบญั รปู ภาพ ๑ บทที่ ๑ บทนำ ๑ ๑ ๑.๑ ที่มาและความสำคญั ๒ ๑.๒ วตั ถุประสงคใ์ นการทำโครงงาน ๓ ๑.๓ ขอบเขตการทำโครงงาน ๓ ๑.๔ ผลทคี่ าดวา่ จะได้รบั ๓ บทท่ี ๒ ทฤษฎที ่ีเก่ียวข้อง ๓ ๒.๑ เร่ืองท๑ี่ ความหมายของผกั กาด ๒.๒ เรอ่ื งท๒ี่ ความหมายของสผี สมอาหาร ๓ ๒.๓ เร่ืองที่๓ แนวคดิ และทฤษฎีในเร่อื ง Wonderful White Cabbage ๔ ๒.๔ เร่ืองท๔่ี ความสำคัญของท่อลำเลยี งนำ้ และน้ำของพืช ๔ ๒.๕ เรื่องที่๕ องค์ประกอบของผกั กาด ๖ ๒.๖ เรอื่ งท๖่ี องค์ประกอบของสีผสมอาหาร ๖ บทที่ ๓ วธิ กี ารศกึ ษาคน้ คว้า ๓.๑ วสั ดุและอปุ กรณ์ (จ)
สารบัญ(ตอ่ ) หนา้ ๖ เร่ือง ๗ ๓.๒ ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน ๗ ๘ บทที่ ๔ ผลการศึกษาคน้ คว้า ๔.๑ ตารางบันทึกระยะเวลาการดดู นำ้ สผี สมอาหารของผักกาดขาว ๙ ๔.๒ การวิเคราะห์ข้อมูลพนื้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม ๑๐ ๔.๓ การวิเคราะหเ์ กี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชน ๑๐ ต่อโครงงานผกั กาดมหศั จรรย์ ๑๐ ๑๐ บทท่ี ๕ สรุป อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ ๑๑ ๕.๑ สรุปผลการทดลอง ๑๒ ๕.๒ ปัญหาและอปุ สรรคในการศึกษาค้นคว้า ๑๓ ๕.๓ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการแก้ปัญหา ๑๖ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ภาคผนวก ก. ประวตั ิผู้จดั ทำ (ฉ)
สารบญั ตาราง หนา้ ๗-๘ ตารางท่ี ๔.๑ ตารางบนั ทึกระยะเวลาการดดู นำ้ สีผสมอาหารของผักกาดขาว ๘-๙ ตารางที่ ๔.๒ การวเิ คราะห์ข้อมูลพ้นื ฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางที่ ๔.๓ การวเิ คราะหเ์ กีย่ วกับความคดิ เห็นของประชาชน ๙ ต่อโครงงานผักกาดมหัศจรรย์ (ช)
สารบญั ภาพ หนา้ ๑๓ ภาพท่ี๖.๑ การทดลองท่ีเวลาศนู ยช์ ั่วโมง ๑๓ ภาพที่๖.๒ การทดลองเมือ่ เวลาผ่านไป ๑ ชว่ั โมง ๑๔ ภาพที่๖.๓ การทดลองเม่อื เวลาผา่ นไป ๒ ช่วั โมง ๑๔ ภาพที่๖.๔ การทดลองเมื่อเวลาผ่านไป ๓ ช่วั โมง ๑๔-๑๕ ภาพท่ี๖.๕ การทดลองเมื่อเวลาผ่านไป ๔ ชั่วโมง ๑๕ ภาพท๖ี่ .๖ การทดลองเมอ่ื เวลาผา่ นไป ๑ คนื (ซ)
บทท่ี ๑ บทนำ ๑.๑ ท่มี าและความสำคญั จากการศึกษาเรื่องการดูดซึมอาหารของพชื และการลำเลยี งน้ำของพชื จึงทำโครงงานนี้ข้นึ มาโดย นำผกั กาดขาวซง่ึ มีเสน้ ใยและทอ่ ลำเลียงน้ำจำนวนมาก โดยคณุ ลักษณะพเิ ศษของผกั กาดขาวคือ มี ความโปร่งแสงสงู กวา่ พืชชนดิ อื่นๆ และเมือ่ นำมาทดลองจะสามารถเห็นความเปล่ียนแปลงอยา่ ง ชดั เจน แต่ถ้าหากทำการทดลองโดยใชน้ ้ำเปล่า น้ำเปลา่ นนั้ จะมีสใี สเม่ือนำผกั กาดมาใส่ในนำ้ เปล่าเมือ่ เกิดการลำเลยี งน้ำและดดู ซึมอาหารเราจะไม่สามารถมองเหน็ ได้ ๑.๒ วตั ถุประสงค์ในการทำโครงงาน 1. เพื่อใหร้ ู้จกั การดดู ซมึ อาหารของพืช และการลำเลียงน้ำของพืช วา่ เกดิ ขึ้นอยา่ งไร 2. เพือ่ ใหส้ ามารถนำผักกาดทผ่ี ่านการทดลอง ไปจัดตกแตง่ แจกัน หรือประกอบอาหารได้ ๑.๓ ขอบเขตของการทำโครงงาน สถานท่ี บ้านหัวน้ำ บา้ นเลขที๑่ ๙ หมู่ท๕่ี ตำบลศลิ าแลง อำเภอปัว จงั หวดั น่าน ระยะเวลา 2เดอื น 3อาทิตย์ (17 สิงหาคม 2563 – 1 พฤศจกิ ายน 2563) ตวั แปรและประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ตวั แปรต้น คือ ผกั กาด และสีผสมอาหาร ตัวแปรตาม การลำเลียงนำ้ ในพืช ตัวแปรควบคุม
๒ ปรมิ าณนำ้ ๑.๔ ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั ๑.นกั เรียนได้เรยี นรเู้ ร่ืองสตี า่ งๆรจู้ กั แม่สีและสามารถตอบคำถามต่างๆเก่ียวกับสีได้ ๒.นักเรียนได้เรียนรเู้ ร่ืองการดูดซมึ ของพชื และการเปลี่ยนแปลงของสีได้ ๓.นกั เรียนไดค้ วามร้จู ากการสังเกตธรรมชาติรอบตัว ๔.นักเรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมอย่างสนุกสนานกับเพ่อื นและมีความกระตอื รือร้นในการทำกิจกรรม ๕.นักเรียนได้มีการแสดงออกและลงมือปฏบิ ตั ิในการทำกจิ กรรมและมีการซักถามเม่อื มขี อ้ สงสยั
บทท๒่ี ทฤษฎที ่เี กยี่ วข้อง ในการศกึ ษาเรือ่ ง Wonderful white cabbage (ผกั กาดมหัศจรรย์) ผู้จัดทำไดร้ วบรวม แนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆจากเอกสารทีเ่ กย่ี วข้องดังตอ่ ไปน้ี ๒.๑ เรื่องท๑่ี ความหมายของผักกาด พชื ลม้ ลกุ ขนาดเลก็ ท่มี ีถนิ่ กำเนดิ มาจากประเทศจีน ซงึ่ เป็นพชื ที่ชาวจีนไดน้ ำมาปรุงอาหารเมือ่ นานมาแล้ว ผักกาดเป็นพชื ใบเลี่ยงเด่ยี ว มสี ีเขียวอ่อน ใบแตกออกอย่โู คนต้น และออกเรียงสลบั กนั รอบๆ จะมองเหน็ เส้นใบได้ชัดเจน ในประเทศไทยมีปลกู ด้วยกนั หลายสายพันธ์ุ และมักจะมผี ลผลิตท่ี ได้จำนวนมากในชว่ งหน้าหนาว และมีประโยชน์สรรพคุณทางยาหลายอยา่ ง ใช้รับประทานทงั้ ลำตน้ และใบ สามารถรบั ประทานแบบสดๆได้ และสามารถนำมาประกอบเมนตู า่ งๆได้หลากหลายอย่าง ๒.๒ เรอ่ื งท่๒ี ความหมายของสีผสมอาหาร สผี สมอาหาร หมายถึง เป็นสที ถ่ี กู ปรุงแตง่ ขนึ้ มา หรอื สงั เคราะห์ข้นึ มาเพื่อใช้ส่งเสรมิ ในการทำให้ อาหารมสี ีสัน และไดร้ บั การดึงดดู จากผบู้ ริโภค แต่ถงึ อย่างไรกต็ ามสผี สมอาหารนน้ั ส่วนใหญ่แล้จะให้ โทษมากกวา่ เพราะอาจเป็นพิษต่อผู้บรโิ ภคเป็นไปได้ สีผสมอาหารนน้ั จะแบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื สี ตามธรรมชาติ และ สสี งั เคราะห์ ซ่ึงสผี สมอาหารนัน้ มีมาต้ังแต่สมัยโบราณ นยิ มนำมาประกอบ อาหาร เช่น แกง เหลือง สเี หลืองของนำ้ แกงได้จากสีเหลอื งของเหงา้ ขม้นิ ชนั เปน็ ต้น ในปัจจุบนั การ ทจ่ี ะเลอื กรบั ประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของสีผสมอาหารนัน้ มเี ยอะมาก ดังนั้นหากเลี่ยงได้ควร เลีย่ งเพราะมนั เป็นพษิ ต่อรา่ งกาย ๒.๓ เร่ืองที่๓ แนวคิดและทฤษฎใี นเร่ือง Wonderful white cabbage ตอ้ งการท่จี ะพฒั นาทักษะด้านการคิดและการสงั เกต เพ่ือให้ได้เรยี นรู้หลกั การวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกบั การดูดนำ้ ของต้นไม้ หรอื เรยี กวา่ การลำเลียงน้ำและอาหารของพชื ท้ังยงั ได้รับความ สนุกสนานเพลิดเพลนิ ในระหว่างทำการทดลอง ๒.๔ เรอ่ื งที๔่ ความสำคัญท่อลำเล้ียงและนำ้ ของพืช ความสำคัญของท่องลำเลียง คอื การลำเลียงน้ำ ธาตอุ าหาร และอาหาร ไปสสู่ ว่ นตา่ งๆของพชื ให้ พชื ไดม้ ีการเจรญิ เติบโตข้ึนไปเรอ่ื ยๆ โดยท่อลำเลยี งมี2ประเภทคอื
๔ ๑.ไซเล็ม (Xylem) มหี น้าทใ่ี นการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากรากไปสู่สว่ นตา่ งๆของพชื ๒.โฟลเอม็ (phloem) มีหน้าท่ใี นการลำเลยี งอาหารของพืชซึ่งมีทศิ การลำเลยี งจากใบไปสู่ส่วนตา่ งๆ ของพืชโดยเป็นการวนอย่ใู นโฟลเอ็ม ความสำคญั ของน้ำ คอื น้ำเปน็ สว่ นประกอบที่มีมากในเซลลฺและยงั สามารถรักษาสมดลุ ใหก้ บั พชื ในการคายนำ้ ของพืชได้ และยงั เปน็ ตัวทท่ี ำละลายของธาตุอาหารของพืชทำให้พืชสามารถนำธาตุ อาหารเหลา่ นีไ้ ปใช้ และนำ้ ยงั เป็นตวั สำคญั ในปฎกิ ริ ยิ าแสงคือเป็นสารต้ังต้นที่ใชส้ ำหรับการสังเคราะห์ ด้วยแสง และยังมีผลต่องการตรึงคารบ์ อนในพืชให้ได้สารผลิตภัณฑ์ ๒.๕ เร่ืองที๕่ องค์ประกอบของผกั กาด ผักกาดขาวมสี ารอาหารต่างๆ เช่น โปรตีน ไขมนั น้ำตาล ทีส่ ำคญั คอื ผักกาดขาวมแี คลเซียมและ วิตามินซีในปรมิ าณสูง แคลเซียมนอกจากจะมหี น้าทเี่ สรมิ สร้างกระดูกและฟนั ให้แข็งแรงแลว้ แคลเซยี มยงั มีบทบาทในการลดความดนั โลหติ สงู และป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกดว้ ย สว่ นวติ ามนิ ซีจะมี บทบาทในการเสริมสรา้ งภมู ิคุ้มกนั เสริมสรา้ งความแข็งแรงของผนงั หลอดเลือด ผักกาดขาวอดุ มไป ด้วย โฟเลต ซึ่งเปน็ สารอาหารท่จี ำเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของทารกในครรภใ์ นระยะ 3 เดอื นแรก ถา้ แม่ไดร้ ับโฟเลตน้อยเกินไป การสร้างระบบประสาทและ DNA ของทารกอาจผิดปรกติได้ ผกั กาดขาวมี สรรพคณุ หลายด้านทงั้ ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้พษิ สรุ า ๒.๖ เร่อื งท๖ี่ องค์ประกอบของสีผสมอาหาร สีผสมอาหาร แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคอื ๑.สสี งั เคราะห์ ซึ่งแบ่งได้อีก ๒ ชนิด คือ ๑.๑ สอี นิ ทรยี ์สังเคราะห์ (certified color หรือ synthetic colorant) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คอื -สีสังเคราะห์ทล่ี ะลายน้ำ แตไ่ ม่ละลายในตวั ทำละลายอินทรีย์ (dyes) เหมาะสำหรับอาหาร ทม่ี นี ำ้ เป็นส่วนประกอบ -สสี ังเคราะหท์ ีล่ ะลายไดใ้ นน้ำมัน (lakes) เหมาะสำหรบั อาหารประเภทไขมนั ๒.สีจากธรรมชาติ แบ่งเป็น 2 ชนดิ คอื ๒.๑ สีอนินทรยี ์ ไดแ้ ก่ ผงถา่ น ปูนขาว และไทเทเนยี มไดออกไซด์ (titanium dioxide) เปน็ ต้น
๕ ๒.๒ สีทสี่ กดั ได้จากธรรมชาติ (natural pigment) ได้แก่ สที ส่ี กดั จากสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของพชื ผกั ผลไม้ จลุ นิ ทรีย์ และสตั ว์ สีผสมอาหารเปน็ อาหารควบคมุ เฉพาะ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ฉบบั ท่ี ฉบับท่ี 21 (พ.ศ. 2522) ซึ่งได้แบ่งสผี สมอาหารทีก่ ระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใชผ้ สมอาหาร ได้ 3 ประเภท คอื ๑.สอี นิ ทรยี ์ท่ีได้จากการสังเคราะห์ ไดแ้ ก่ ๑.๑ จำพวกสแี ดง ๑.๒ จำพวกสเี หลือง ๑.๓ จำพวกสเี ขียว ๑.๔ จำพวกสีน้ำเงิน ๒.สีอนนิ ทรยี ์ ไดแ้ ก่ ๒.๑ ผงถ่านท่ีไดจ้ ากเผาพชื ๒.๒ ไตเตเนยี มไดออกไซด์ ๓. สีทีไ่ ด้จากธรรมชาติ โดยการสกัดพืช ผัก ผลไม้ และสัตวท์ ใี่ ช้บรโิ ภคไดโ้ ดยไม่เกดิ อนั ตราย และสี ชนิดเดยี วกนั ทีไ่ ด้จากการ สังเคราะห์ ๓.๑ สธี รรมชาติ ท่ีสกดั จากพืช ผกั ผลไม้ และสตั ว์ -สเี หลือง -สีแดง -สีเขยี ว -สนี ้ำเงิน -สมี ่วง -สีนำ้ ตาล -สดี ำ -สแี สด ๓.๒ สชี นิดเดยี วกนั ทไี่ ด้จากการสงั เคราะห์
บทที่ ๓ วิธีศกึ ษาค้นควา้ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1. ผักกาดขาว 2. สผี สมอาหาร สีแดง สเี ขยี ว สีส้ม สีเหลอื ง สีมว่ ง 3. น้ำเปล่า 4. แก้วนำ้ 5. ชอ้ นสำหรับคนสี ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน 1. จัดเตรยี มวสั ดุ อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการทำผักกาดขาวเปล่ียนสี 2. หยดสีผสมอาหารลงในแก้วท่บี รรจนุ ้ำ 3. รินนำ้ ลงในแกว้ ทม่ี ีสีอยู่ ไม่ต้องใส่นำ้ เยอะมากเพราะจะทำใหส้ ีจางแลว้ ผสมสใี ห้เขา้ กนั 4. ตัดโคนของต้นผกั กาดขาวออกประมาณ 1 น้ิว 5. นำผักกาดขาวทเ่ี ตรียมไวล้ งในแกว้ นำ้ ท่เี ราผสมสไี ว้แลว้ 6. แช่ผกั กาดขาวในแก้วทงิ้ ไว้ประมาณ 3 ชว่ั โมง 7. วางไว้ สงั เกตสขี องผักกาดขาวทีเ่ ปล่ียนไป และสังเกตระดับของนำ้ ทีล่ ดลง
บทท่ี ๔ ผลการศกึ ษา จากการศึกษาและทดลองผักกาศมหัศจรรย์ พบว่าเมื่อนำผกั กาดขาวแช่ไวใ้ นน้ำสีผสมอาหารที่ เตรียมไว้แลว้ ทง้ิ ไว้สกั พัก จะเห็นวา่ ผักกาดสขี าวบริสทุ ธิ์ได้เปลย่ี นสีไป และระดับนำ้ ก็ลดลงมาจาก ตำแหน่งเดมิ ทีเ่ ราได้กำหนดไวโ้ ดยการที่น้ำสีผสมอาหารมกี ารเคลือ่ นท่ีไปจนทำให้ผักกาดขาวเปลยี่ นสี นน้ั แสดงให้เหน็ ว่ามีการลำเลียงนำ้ จากล่างขึ้นบนไปตามกลีบของผักกาดขาว และระดับน้ำท่ีลดลงน้ัน กเ็ กดิ จากการดดู น้ำของผกั กาดไปยังท่อลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุ ทเ่ี รยี กวา่ ไซเล็ม (Xylem) และท่อ ลำเลียงอาหาร จำพวก น้ำตาล และกรดอะมโิ น ทีส่ ร้างขนึ้ จากการสังเคราะห์แสง เรียกว่า โฟลเอ็ม (Phloem) ท่อลำเลียงทั้งสองจะนำนำ้ และอาหารกระจายไปทุกส่วนของพชื เพ่อื การเจริญเติบโต การศกึ ษาความคิดเหน็ ของนกั เรียน ผูศ้ ึกษาไดท้ ำการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดว้ ยแบบสอบถามจาก กลุ่มตวั อยา่ ง ซ่ึงสามารถเกบ็ ข้อมูลได้ ๑๐๐ % จำนวน ๔๐ คน โดยจะนำเสนอผลการวเิ คราะหใ์ น รูปแบบของการบรรยายประกอบตารางเป็น ๓ สว่ น ดงั น้ี ๔.๑ ตารางบนั ทึกระยะเวลาการดูดน้ำสีผสมอาหารของผักกาดขาว ๔.๒ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู พนื้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม ๔.๓ การวิเคราะห์เก่ียวกับความคิดเหน็ ของประชาชนตอ่ โครงงานผกั กามหัศจรรย์ ๔.๑ ตารางบนั ทกึ ระยะเวลาการดูดนำ้ สผี สมอาหารของผักกาดขาว ระยะเวลา การเปลีย่ นแปลง ๐ ชว่ั โมง ไม่มกี ารเปลี่ยนแปลง ยังไม่เหน็ การดดู น้ำสี ของผกั กาดขาว ๑ ชว่ั โมง เร่ิมมกี ารดูดน้ำสีของผักกาดขาว แตย่ ังเห็นไมค่ ่อยชดั เจน ๒ ชวั่ โมง เร่มิ มกี ารเปลีย่ นแปลง สีเร่มิ ชดั มากย่งิ ข้ึน
๘ ระยะเวลา การเปล่ยี นแปลง ๓ ชว่ั โมง ผักกาดขาวเรม่ิ ดูดน้ำสผี สมอาหารมากข้ึน ๔ ชว่ั โมง สีชดั มากยงิ่ ขนึ้ ผักกาดขาวไดเ้ ปลยี่ นสีไปอยา่ งเหน็ ได้ชดั เจน มากๆ ตามลำตน้ และใบกลายเปน็ สที ่ี เรานำมาทำการทดลอง และเมอ่ื ผศู้ ึกษาอยากทราบว่าถ้าหากทิง้ ไวเ้ ปน็ เวลา ๑ คืน ผลปรากฏจะเปน็ อย่างไร ทางผ้ศู ึกษา จึงไดป้ ล่อยให้ผักกาดขาวดดู น้ำตอ่ ไปอีกท้ังคนื ไดผ้ ลปรากฏว่า ผกั กาดขาวที่ทางผศู้ ึกษาได้ทำการลอง นั้นมีการดูดน้ำเข้าไปทำให้ผกั กาดขาวนน้ั มีสีทชี่ ัดเจนเปน็ อยา่ งมาก ๔.๒ การวิเคราะห์ข้อมลู พื้นฐานของผูต้ อบแบบสอบถาม การวิเคราะห์ขอ้ มูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม สามารถอธบิ ายผลการศึกษาของแต่ละ ปจั จัยได้ดังน้ี เพศ พบว่า กลมุ่ ตวั อยา่ ง ส่วนใหญเ่ ป็นเพศชาย จำนวน ๑๐ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๕ ส่วน เพศหญิง จำนวน ๓๐ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๗๕ ตารางท่ี ๔.๒ แสดงข้อมลู พน้ื ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มูลทัว่ ไป จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย ๑๐ ๒๕ หญิง ๓๐ ๗
อาชพี ๕ ๙ รับราชการ-รัฐวสิ าหกิจ ๑๐ รบั จ้าง-ลกู จา้ ง ๑๕ ๑๒.๕ นกั เรยี น-นกั ศกึ ษา ๑๐ ๒๕ เกษตรกรรม ๓๗.๕ ๒๕ ๔.๓ การวิเคราะห์เก่ยี วกบั ความคดิ เห็นของประชาชนตอ่ โครงงานผกั กาดมหศั จรรย์ ระดับความคิดเห็นของประชากรต่อโครงงานผักกาดมหัศจรรย์ พบวา่ คนส่วนใหญ่มคี วามคิดเห็น ว่า วสั ดอุ ุปกรณ์ วิธีการดำเนินงาน การเปล่ียนสีของผกั กาดมีความเหมาะสมมากที่สดุ และระยะเวลา การนำเสนอ ประโยชน์ของการทดลองนั้น มีความเหมาะสมเป็นลำดับรองลงมาตามลำดับดงั ตารางท่ี ๔.๓ ตารางที่ ๔.๓ แสดงความคิดเหน็ ของประชาชนตอ่ โครงงานผักกาดมหัศจรรย์ ข้อที่ ประเดน็ มากทส่ี ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ดุ ๑ ระยะเวลาในการทำ ๒ วสั ดุอปุ กรณ์ ๓ วธิ กี ารดำเนินงาน ๔ การนำเสนอผลงาน ๕ การเปลีย่ นสีของผักกาด ๖ ประโยชนข์ องการทดลอง
บทท่ี๕ สรุป อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ การจดั ทำโครงงานผ่านแนวทางการจัดการการศึกษาที่บรู ณาการวิทยาศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสารสนเทศ และคณิตศาสตร์ ดว้ ยMicrosoft Word เรอื่ ง Wonderful White Cabbage หรอื ผักกาดมหศั จรรย์ สามารถสรปุ ผลการดำเนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะดังนี้ ๕.๑ สรุปผลการทดลอง เมอื่ พืชสงั เคราะห์ด้วยแสงจะไดน้ ้ำตาลกลูโคส น้ำตาลกลโู คสจะถกู ลำเลียงไปตามก้าน และลำต้น ของผกั กาด ผา่ นทางกลุ่มเซลล์ทที่ ำหนา้ ท่เี ปน็ ท่อลำเลียงอาหารหรอื โฟลเอม็ (Phloem) จากใบไปสู่ สว่ นต่างๆของผักกาด ท่ีกำลงั มกี ารเจรญิ เติบโตและนำไปเก็บสะสมทีร่ าก ลำต้น ด้วยวธิ ีการแพรแ่ ละ การออสโมซิส น้ำจะเข้าสูไ่ ซเลม็ โดยการออสโมซสิ น้ำจะเคลื่อนที่ผ่านเยือ่ เลือกผา่ นไปยงั บริเวณทม่ี ีความเข้มข้น มากดงั น้ันภายในเซลลจ์ ะมีแวคิวโอลทบี่ รรจุสารละสายที่มีความเข้มขน้ สงู ไว้เพื่อออสโมซิสเขา้ ไดง้ า่ ย ทศิ ทางการเคล่ือนที่ของน้ำจะมีทศิ ทางการเคล่อื นทีจ่ ากดา้ นล่างข้นึ สู่ดา้ นบนเสมอ ๕.๒ ปัญหาและอุปสรรคในการศกึ ษาคน้ คว้า การทดลองของ Wonderful White Cabbage หรอื ผักกาดมหัศจรรย์ สอดคล้องกับทฤษฎที ุก อยา่ งไมว่ า่ จะเปน็ ทศิ ทางการเคลอื่ นที่ของน้ำหรือทิศทางการเคลือ่ นท่ีของอาหาร ปัญหาและอปุ สรรคในการศึกษาค้นควา้ และทดลองคร้ังนคี้ ือ ไม่มีบทวจิ ยั ของตา่ งประเทศรองรบั และเนอ้ื หาในศึกษาวจิ ยั ของผู้อื่นมีเน้ือหาน้อยไม่เพยี งพอ ๕.๓ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา ๑.ควรจะมกี ารจดั ทำส่ือท่ีใช้ประกอบการเรยี นรู้ทม่ี ีความหลากหลายมากยิ่งขน้ึ ๒.ควรจะมตี วั อย่างโครงงานทสี่ ามารถให้นักเรียนได้ศกึ ษาและคน้ คว้าไดอ้ ยา่ งครบถว้ น
บรรณานุกรม (๑)http://www.cpiagrotech.com/knowledge-069/ (๒)http://special2.dusitcenter.org/cdcnews/content.php?nid=5312 (๓)https://www.facebook.com/nouburuchildcare/posts/1881128621927066/ (๔)https://hkm.hrdi.or.th/knowledge/detail/38 (๕)http://www.kalasin3.go.th/view.php?article_id=27268&page=2 (๖)http://scir.rmutk.ac.th/files/users/249/project/1500836998.pdf (๗)http://www.the-than.com/samonpai/P/41.html
ภาคผนวก ภาคผนวก ก. ภาพการทดลองการดูดน้ำสผี สมอาหารของผักกาดขาว
๑๓ ภาคผนวก ก. ภาพการทดลองการดูดน้ำสผี สมอาหารของผกั กาดขาว ๖.๑ การทดลองท่ีเวลาศูนยช์ ่วั โมง ไม่มีการเปล่ียนแปลง ยังไม่เหน็ การดูดน้ำสีของผกั กาดขาว ภาพที่๖.๑ การทดลองท่ีเวลาศนู ยช์ วั่ โมง ๖.๒ การทดลองเมื่อเวลาผ่านไป ๑ ช่ัวโมง เร่ิมมีการดดู น้ำสีของผักกาดขาว แต่ยงั เหน็ ไม่คอ่ ยชัดเจน ภาพท๖ี่ .๒ การทดลองเม่ือเวลาผา่ นไป ๑ ชั่วโมง
๑๔ ๖.๓ การทดลองเมื่อเวลาผ่านไป ๒ ชว่ั โมง เร่ิมมกี ารเปลย่ี นแปลง สีเรมิ่ ชัดมากยิ่งขึ้น ภาพที่๖.๓ การทดลองเม่ือเวลาผา่ นไป ๒ ชว่ั โมง ๖.๔ การทดลองเมื่อเวลาผา่ นไป ๓ ชว่ั โมง ผกั กาดขาวเร่มิ ดูดน้ำสผี สมอาหารมากขึน้ สีชัดมากยง่ิ ขน้ึ ภาพที่๖.๔ การทดลองเม่ือเวลาผา่ นไป ๓ ช่วั โมง ๖.๕ การทดลองเมื่อเวลาผ่านไป ๔ ชว่ั โมง ผักกาดขาวได้เปลยี่ นสีไปอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจนมากๆ ตามลำ ต้นและใบกลายเป็นสที ่ีเรานำมาทำการทดลอง
๑๕ ภาพท๖ี่ .๕ การทดลองเม่ือเวลาผา่ นไป ๔ ชั่วโมง ๖.๖ การทดลองเพ่ิมเตมิ เม่ือผ่าเวลาผ่านไป ๑ คืน ผักกาดขาวท่ที างผู้ศกึ ษาได้ทำการลองนน้ั มกี ารดดู นำ้ เข้าไปทำให้ผักกาดขาวน้นั มสี ีที่ชัดเจนเป็นอยา่ งมาก ภาพท่ี๖.๖ การทดลองเมื่อเวลาผา่ นไป ๑ คนื
๑๖ ประวตั ิผจู้ ัดทำ โครงงาน Wonderful White Cabbage หรือ ผกั กาดมหัศจรรย์ ๑.นางสาวประทานพร จุนทการบัณฑติ ประวตั สิ ว่ นตวั วัน เดือน ปที ี่เกดิ : ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๖ อายุ : ๑๗ ปี ทอี่ ยู่ : ๑๘๒ หมู่๗ ตำบลปา่ กลาง อำเภอปัว จังหวัดนา่ น ๕๕๑๒๐ ประวัติการศกึ ษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ชน้ั ป.๖ โรงเรียนปา่ กลางมิตรภาพที๑่ ๖๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชนั้ ม.๓ โรงเรียนปัว ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ชนั้ ม.๔/๓ เลขท่ี ๗ ๒.นางสาวรนิ รดา ทิศหล้า ประวัติสว่ นตวั วนั เดอื น ปีทเ่ี กิด : ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๔๖ อายุ : ๑๗ ปี ทอ่ี ยู่ : ๙๑ หมู่๘ ตำบลศลิ าเพชร อำเภอปัว จังหวดั น่าน ๕๕๑๒๐ ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ชนั้ ป.๖ โรงเรยี นชุมชนศิลาเพชร ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชนั้ ม.๓ โรงเรยี นปวั ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ชน้ั ม.๔/๔ เลขที่ ๘ ๓.นายพันธวัช ใหมน่ อ้ ย ประวตั ิส่วนตวั วนั เดือน ปีท่ีเกิด : ๑๓ กันยายน ๒๕๔๖ อายุ : ๑๗ ปี
๑๗ ทีอ่ ยู่ : ๑๙ หมู่๕ ตำบลศลิ าแลง อำเภอปัว จังหวดั นา่ น ๕๕๑๒๐ ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ชนั้ ป.๖ โรงเรยี นไตรประชาวทิ ยา ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชน้ั ม.๓ โรงเรียนปัว ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ชน้ั ม.๔/๔ เลขที่ ๑๒ ๔.นางสาวจริ ัญญา ทองสขุ ประวตั ิส่วนตัว วัน เดอื น ปที เ่ี กิด : ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๖ อายุ : ๑๗ ปี ทอี่ ยู่ : ๒๓๒ หม่๑ู ๕ ตำบลเปอื อำเภอเชียงกลาง จงั หวัดนา่ น ๕๕๑๖๐ ประวัติการศกึ ษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ชนั้ ป.๖ โรงเรียนชุมชนรัชดาภเิ ษกมติ รภาพท๑่ี ๑๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชน้ั ม.๓ โรงเรยี นปัว ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ชนั้ ม.๔/๔ เลขท่ี ๓๒ ๕.นางสาวธันยพร อนุจร ประวัตสิ ว่ นตวั วนั เดือน ปที ี่เกดิ : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๖ อายุ : ๑๗ ปี ทอี่ ยู่ : ๑๐๔ หมู่๒ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จงั หวัดน่าน ๕๕๑๓๐ ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ชน้ั ป.๖ โรงเรียนหมอ่ มเจรญิ ใจ จิตรพงค์ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ชนั้ ม.๓ โรงเรียนหม่อมเจริญใจ จติ รพงค์ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ชน้ั ม.๔/๔ เลขท่ี ๓๗
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: