สาระสาคญั การจดั หมวดหมู่หนังสอื หมายถึง การจดั ระบบเพ่ือช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดค้นหา หนังสือตามความต้องการได้สะดวก รวดเร็ว โดยกาหนดสญั ลกั ษณ์แทนเน้ือหาของหนังสอื ตามหลกั เกณฑข์ องระบบการจดั หมทู่ ห่ี อ้ งสมดุ เลอื กใช้ ระบบการจดั หมวดหมู่หนงั สอื ทห่ี อ้ งสมุด ในสถานศกึ ษานิยมใช้ ได้แก่ การจดั หมวดหมู่ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ ันใช้ตัวอกั ษร A-Z เป็นสญั ลกั ษณแ์ ทนเน้อื หาของหนังสอื และการจดั หมวดหมู่ระบบทศนิยมของดวิ อ้ี ซง่ึ ใชต้ วั เลข อารบิค 3 หลัก เป็นสญั ลักษณ์แทนเน้ือหาของหนังสือ และสญั ลักษณ์ท่ีกาหนดข้นึ จะเป็น เคร่อื งหมายบอกตาแหน่งของหนงั สอื ในหอ้ งสมุด หนังสอื ทม่ี เี น้อื หาเหมอื นกนั หรอื คลา้ ยกนั จะมี สญั ลกั ษณ์เดยี วกนั และตวั เล่มจะวางอยใู่ นท่เี ดยี วกนั สว่ นหนังสอื ท่มี เี น้อื หาเกย่ี วเน่อื งสมั พนั ธ์ กนั จะมสี ญั ลกั ษณ์ใกล้เคยี งกนั และตวั เล่มจะวางอยู่ในตาแหน่งใกล้เคยี งกนั เพ่อื อานวยความ สะดวกแก่ผใู้ ชห้ อ้ งสมุดในการคน้ หาหนังสอื ทต่ี อ้ งการ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของการจดั หมวดหมู่หนงั สอื 2. ประโยชน์ของการจดั หมวดหม่หู นงั สอื 3. ระบบการจดั หมวดหมู่หนงั สอื ทน่ี ิยมใชใ้ นปัจจุบนั 4. เลขเรยี กหนงั สอื และสญั ลกั ษณ์แทนเลขเรยี กหนังสอื 5. การจดั เกบ็ และเรยี งทรพั ยากรสารสนเทศ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของการจดั หมวดหมหู่ นังสอื ได้ 2. บอกประโยชน์ของการจดั หมวดหม่หู นังสอื ได้ 3. อธบิ ายสญั ลกั ษณข์ องการจดั หมูห่ นงั สอื แตล่ ะระบบได้ 4. บอกสว่ นประกอบของเลขเรยี กหนงั สอื ได้ 5. อธบิ ายวธิ กี ารจดั เกบ็ และเรยี งทรพั ยากรสารสนเทศแต่ละประเภทได้
54 ห้องสมุดมที รพั ยากรสารสนเทศจานวนมากและหลากหลายรูปแบบ จึงจาเป็น จะต้องมีการจดั เก็บให้เป็นระบบเพ่อื ให้ผู้ใช้เลือกใช้ และเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ซึ่งห้องสมุดมหี น้าท่ใี นการจดั หา จดั เก็บและพฒั นาทรพั ยากรสารสนเทศให้มคี วามทนั สมยั สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชม้ ากทส่ี ุด เม่อื ทรพั ยากรสารสนเทศมจี านวนมากขน้ึ จงึ ตอ้ ง มวี ธิ กี ารจดั เกบ็ อย่างมหี ลกั เกณฑ์ และเป็นระบบมรี ะเบยี บแบบแผนท่แี น่นอน พรอ้ มทงั้ จดั ทา เคร่ืองมือสาหรับค้นหา ซึ่งอยู่ในรูปแบบสมุดทะเบียน บัตรรายการ หรือฐานข้อมูล ช่วยให้ การค้นหาทรพั ยากรสารสนเทศท่ตี ้องการได้อย่างสะดวกรวดเรว็ การจดั เก็บทเ่ี ป็นระบบจงึ มี การกาหนดสญั ลกั ษณ์แสดงเน้ือหาของหนังสอื แต่ละประเภท ซึ่งสญั ลกั ษณ์น้ีเป็นการบอกถึง ตาแหน่งของหนังสือท่ีอยู่ภายในห้องสมุด เพ่ือให้สะดวกในการจดั เก็บและสืบค้นข้อมูลได้ อยา่ งรวดเรว็ จงึ มผี คู้ ดิ คน้ ระบบการจดั หมวดหมู่หนงั สอื ขน้ึ ภาพท่ี 3.1 ตวั อย่างการจดั หมวดหมู่หนงั สอื ในหอ้ งสมดุ ทม่ี า : http://images.google.co.th ความหมายของการจดั หมวดหม่หู นังสือ การจดั หมวดหมู่ หมายถึง การนาเอาทรพั ยากรสารสนเทศมาจดั แยกประเภทของ แต่ละสาขาวชิ าอย่างกวา้ ง ๆ โดยเล่มทม่ี เี น้อื หาเดยี วกนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั จดั ไวใ้ นกลุ่มเดยี วกนั เพ่ือความสะดวกในการค้นหาสิ่งท่ตี ้องการ โดยการแทนเน้ือหาของทรพั ยากรด้วย เลขหมู่ (น้าทพิ ย์ วภิ าวนิ . 2547 : 92) การจดั หมวดหมู่ทรพั ยากรสารสนเทศ หมายถงึ การจดั เก็บทรพั ยากรสารสนเทศ ประเภทตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นระบบเดยี วกนั โดยยดึ เน้อื หาสาระท่สี าคญั คอื เน้อื หาเดยี วกนั จะจดั เอาไว้ ด้วยกัน และเน้ือหาใกล้เคียงจะอยู่ใกล้กันแล้วให้สญั ลักษณ์แทนเน้ือหาซ่ึงอาจเป็นตัวเลข ตวั อกั ษร หรอื ทงั้ ตวั เลขและตวั อกั ษรผสมกนั (อาไพวรรณ ทพั เป็นไทย. 2549 : 48)
55 การจดั หมวดหมู่ หมายถึง การจดั หมวดหมู่ของหนังสอื และโสตทศั นวสั ดุอ่ืน ๆ ทห่ี อ้ งสมดุ มอี ยทู่ งั้ หมด โดยคานงึ ถงึ ความสะดวก รวดเรว็ ในการหยบิ ใชไ้ ดง้ ่าย(จุมพจน์ วนิชกุล. 2550 : 110) การจดั หมู่ หมายถงึ การจดั หนังสอื ทม่ี เี น้อื เรอ่ื งหรอื แบบการประพนั ธค์ ลา้ ยคลงึ กนั มารวมไว้ดว้ ยกนั เพ่อื อานวยความสะดวกแก่ผูอ้ ่านในการคน้ หาหนังสอื ในห้องสมุดอย่างมาก ทส่ี ดุ (สุกญั ญา กุลนิต.ิ 2549 : 79) การจัดหมู่ หมายถึง การพิจารณาคัดแยกวัสดุสารสนเทศในห้องสมุดตาม เน้ือหาวชิ าโดยกาหนดสัญลักษณ์ตามระบบการจดั หมู่ท่ีห้องสมุด เลอื กใช้แทนเน้ือหาของ หนังสอื ตามสาขาวชิ าท่กี าหนด กล่าวคอื หนังสอื ท่มี เี น้ือหาเหมอื นกนั หรอื คล้ายกันจะจดั ไว้ ดว้ ยกนั ส่วนเน้อื หาเกย่ี วเน่อื งสมั พนั ธก์ นั จะอยบู่ รเิ วณใกลเ้ คยี งกนั เพ่อื อานวยความสะดวกแก่ ผู้ใช้ห้องสมุด ในการเลือกใช้วสั ดุสารสนเทศตามความต้องการ โดยใช้เคร่อื งมือช่วยค้น ทห่ี อ้ งสมุดจดั ไวใ้ ห้ ไดแ้ ก่ บัตรรายการ และฐานขอ้ มูลทรพั ยากรห้องสมุด (คณาจารย์ภาควชิ า บรรณารกั ษศาสตร.์ 2550 : 17) จากความหมายขา้ งต้น สรุปไดว้ ่า การจดั หมวดหมู่หนังสอื หมายถงึ การจดั เก็บ หนังสอื โดยพิจารณาจากเน้ือหาสาระของหนังสือเป็นสาคญั สญั ลักษณ์ท่ีถูกกาหนดข้นึ เป็น เคร่อื งหมายบอกตาแหน่งของหนังสอื ในหอ้ งสมุด หนังสอื ท่มี เี น้ือหาเดียวกนั หรอื คล้ายคลงึ กนั จะมสี ญั ลกั ษณเ์ หมอื นกนั และวางอยใู่ นทเ่ี ดยี วกนั ส่วนหนังสอื ทม่ี เี น้ือหาเก่ียวเน่ืองสมั พนั ธก์ นั จะมสี ญั ลกั ษณ์ใกลเ้ คยี งกนั และวางอยู่ในตาแหน่งทไ่ี มไ่ กลกนั ประโยชน์ของการจดั หมวดหม่หู นังสือ การจัดหมวดหมู่หนังสือมีวิธีการจัดหนังสือท่ีมีเน้ือหา หรือวิธีการประพันธ์ท่ี คลา้ ยกนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั ไวด้ ว้ ยกนั การจดั หมวดหมหู่ นงั สอื อย่างเป็นระบบมปี ระโยชน์ ดงั น้ี 1. หนังสือท่ีมีเน้ือหาอย่างเดียวกนั จะอยู่ในหมวดวิชาเดียวกนั หรือหนังสือท่ีมี เน้ือเร่อื งคล้ายคลึงกนั จะอยู่ใกล้กัน ทาให้ผู้ใช้มโี อกาสเลือกหนังสือท่ีต้องการได้หลายเล่ม มโี อกาสเปรียบเทียบหนังสอื เร่อื งท่ตี ้องการค้นคว้าระหว่างผู้แต่งแต่ละคน และช่วยให้ผู้อ่าน สามารถไดร้ บั ความรใู้ นเน้อื หาสมบูรณย์ งิ่ ขน้ึ 2. หนังสอื แต่ละเล่มจะมีสญั ลักษณ์ท่เี ข้าใจง่าย แทนเน้ือเร่อื งในแต่ละหมวดหมู่ และตาแหน่งการจดั วางบนชนั้ หนังสอื ทแ่ี น่นอน ผใู้ ชเ้ พยี งแต่ทราบสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชแ้ ทนเน้อื เรอ่ื ง ของหนังสือ ก็สามารถอ่านหนังสือท่ีต้องการได้ เพราะสัญลักษณ์เหล่าน้ีจะเป็นดรรชนีท่รี ะบุว่า หนังสอื เล่มทต่ี อ้ งการเกบ็ ไว้ ณ ทใ่ี ดในหอ้ งสมุด ช่วยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถคน้ หาหนงั สอื ไดส้ ะดวกรวดเรว็ 3. หนังสอื ท่มี ีลกั ษณะคาประพนั ธ์อย่างเดียวกนั จะรวมอยู่ในท่เี ดยี วกันตามภาษา ของคาประพนั ธท์ าใหส้ ะดวกในการเลอื กใช้
56 4. ทาใหเ้ จา้ หน้าทห่ี อ้ งสมุดสามารถจดั หนังสอื เขา้ ทไ่ี ดถ้ กู ตอ้ งและรวดเรว็ 5. ทาให้สามารถค้นหาหนังสือได้สะดวกรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถค้นหาหนังสือ ทต่ี อ้ งการไดอ้ ย่างมรี ะบบจากเคร่อื งมอื ช่วยคน้ เชน่ บตั รรายการ และฐานขอ้ มูลหอ้ งสมุด 6. ทาให้ทราบจานวนหนังสือในแต่ละหมวดหมู่ว่ามีจานวนมากน้อยเพียงใด ถา้ หมวดหมูใ่ ดมนี อ้ ยจะไดจ้ ดั หาเพม่ิ เตมิ 7. เพ่ิมประสิทธภิ าพในการสบื ค้นสารสนเทศ คอื ได้สารสนเทศท่ถี ูกตอ้ งสมบูรณ์ รวดเรว็ ประหยดั เวลาและแรงงาน ลดความผดิ พลาดในการสบื คน้ สารสนเทศ ระบบการจดั หมวดหมหู่ นังสือที่นิยมใช้ในปัจจบุ นั หนั งสือ จัด เป็ น ท รัพ ย า ก รส า รส น เท ศท่ีมีคุณ ค่ าท า งด้า น ค วาม รู้และวิช าก า ร การจัดเก็บหนังสือไว้เพ่ือให้บรกิ ารแก่ผู้ใช้และใช้ได้อย่างสะดวก จึงเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับ ผู้มีหน้าท่ีรบั ผิดชอบในการจัดให้บริการ ซ่ึงระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือมีหลายระบบ เป็นระบบท่ีใช้สัญลักษณ์แทนเน้ือหาของหนังสือ สามารถแบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ และ หมวดย่อยตามลาดบั การเลอื กใช้ระบบการจดั หมวดหมู่ใดนัน้ ขน้ึ อยู่กบั ประเภทของห้องสมุด และระบบการจดั หมวดหมู่หนังสือท่ีห้องสมุดของสถานศึกษาในประเทศไทยท่ีนิยมใช้กัน อย่างแพรห่ ลาย มี 2 ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมริกนั และระบบทศนิยมของดิวอี้ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 1. การจดั หมวดหมู่หนังสอื ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมริกนั ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification) หรือ ระบบ L.C. เป็นระบบท่ใี ช้สญั ลกั ษณ์แบบผสมผสานระหว่างตวั อกั ษรโรมนั ตวั พมิ พ์ใหญ่ตงั้ แต่ A–Z และเลขอารบคิ 1– 9999 ยกเว้น I, O, W, X, Y เวน้ ไว้สาหรบั เน้ือหาความรูใ้ หม่ ๆ ทจ่ี ะ เกดิ ขน้ึ ในอนาคต ผู้คิดค้นการจดั หมวดหมู่ระบบน้ีคือ ดร.เฮอร์เบรติ ์ พตั นัม (Dr.Herbert Putnum) เป็นชาวอเมรกิ นั ซึ่งทาหน้าท่ีเป็นบรรณารกั ษ์ของหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ นั เม่อื ปี ค.ศ.1899 นิยมใชก้ นั แพร่หลายในหอ้ งสมุดเฉพาะและหอ้ งสมุดขนาดใหญ่ เช่น หอ้ งสมดุ ในอเมรกิ า ยุโรป เอเชยี และห้องสมุดทวั่ โลก เพราะระบบสามารถรองรบั หนังสอื ได้ เป็นจานวนมากและแบ่งได้ ละเอียด ห้องสมุดมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย ใช้การจดั หมวดหมู่หนังสอื ระบบ หอสมุดรฐั สภาอเมรกิ ัน เน่ืองจากสามารถกระจายหนังสือได้มากกว่า การจดั หมวดหมู่ระบบ ทศนิยมของดิวอ้ี ถึง 2 เท่า เช่น สานักหอสมุดมหาวิทยาลัยรามคาแหง สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สานักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สานกั วทิ ยบรกิ ารมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ สานักหอสมุดมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ เป็นตน้
57 ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ นั แบง่ จากหมวดใหญ่ ไปหาหมวดยอ่ ย ดงั น้ี การแบง่ ครงั้ ท่ี 1 หรอื หมวดใหญ่ คอื แบง่ เน้อื หาวชิ าเป็น 20 หมวดใหญ่ดงั น้ี หมวด A หนังสอื อา้ งอิงทวั่ ไป หนังสอื พมิ พ์ วารสาร สงิ่ พิมพข์ องสมาคม และสถาบนั ทางวชิ าการตา่ ง ๆ ตารางเลข (General work) หมวด B ปรชั ญา ตรรกวทิ ยา อภปิ รชั ญา จติ วทิ ยา สุนทรยี ศาสตร์ จรยิ ศาสตร์ ศาสนา (Philosophy, Psychology, Religion) หมวด C ประวตั อิ ารยธรรม โบราณคดี จดหมายเหตุ พงศาวดาร (Auxiliary Sciences of History) หมวด D ประวัติศาสตร์ทวั่ ไป ประวตั ิศาสตร์โลกตะวนั ออก ภูมิศาสตร์ การทอ่ งเทย่ี ว ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศต่าง ๆ ทงั้ ในยโุ รป แอฟรกิ า เอเชยี และหมูเ่ กาะต่าง ๆ ยกเวน้ ทวปี อเมรกิ า (History : General and Old World) หมวด E-F ประวตั ิศาสตร์ ภูมศิ าสตรก์ ารท่องเทย่ี ว ดนิ แดนในทวปี อเมรกิ า (History : America) หมวด G ภูมศิ าสตรท์ วั่ ไป มานุษยวทิ ยาและการบนั เทงิ (Geography, Anthropology, Recreation) หมวด H สงั คมศาสตร์ (Social Sciences) หมวด J รฐั ศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง (Political Sciences) หมวด K กฎหมาย (Law) หมวด L การศกึ ษา (Education) หมวด M การดนตรี (Music) หมวด N ศลิ ปกรรม (Fine Arts) หมวด P ภาษาและวรรณคดี (Language and Literature) หมวด Q วทิ ยาศาสตรท์ วั่ ไป คณิตศาสตร์ (Sciences) หมวด R แพทยศาสตร์ (Medicine) หมวด S เกษตรกรรม การเลย้ี งสตั ว์ การประมง (Agriculture) หมวด T เทคโนโลยี (Technology) หมวด U ยทุ ธศาสตร์ (Military Science) หมวด V นาวกิ ศาสตร์ (Naval Science) หมวด Z บรรณานุกรม และบรรณารกั ษศาสตร์ (Bibliography and Library Science) นอกจากอกั ษรภาษาองั กฤษท่ใี ชแ้ ทนเน้ือหาวชิ าแลว้ ระบบน้ยี งั ใชต้ วั เลขกากบั รว่ มกบั ตวั อกั ษร เพ่อื ใหก้ ารแบง่ หมวดหมู่สามารถแยกยอ่ ยลงไปไดอ้ กี
58 การแบ่งครงั้ ที่ 2 หรือหมวดย่อย คือ การแบ่งแต่ละหมวดใหญ่ออกเป็น หมวดย่อย โดยใช้ตัวอกั ษรโรมนั ตัวใหญ่สองตวั แทนเน้ือหาของหนังสอื ยกเว้น หมวด E-F หมวด K และหมวด Z ซงึ่ แตล่ ะหมวดใหญ่จะแบ่งยอ่ ยไดม้ ากน้อยต่างกนั ดงั ตวั อย่างในหมวด A และหมวด B หมวด A แบง่ เป็นหมวดยอ่ ย ดงั น้ี AC รวมบทนิพนธ์ รวมเรอ่ื ง หนงั สอื ชดุ (Collections, Collected Works, Series) AF สารานุกรม (Encyclopedias) AG พจนานุกรม และหนังสอื อา้ งองิ ทวั่ ไป (Dictionaries and Other General Reference Books) AT ดชั นี (Indexes) AM พพิ ธิ ภณั ฑสถาน นกั สะสม และการเกบ็ รวบรวม (Museums, Collectors and Collecting) AN หนงั สอื พมิ พ์ (Newspaper) AP วารสาร (Periodicals) AS สถาบนั และสมาคมทางวชิ าการ (Academics and Learned Societies) AY หนงั สอื รายปี สมพตั สร นามานุกรม (Yearbooks, Almanacs, Directories) AZ ประวตั ขิ องนักวชิ าการ ทนุ การศกึ ษาและการเรยี นรู้ หมวด B ปรัชญา จิตวิทยาและศาสนา (Philosophy, Psychology and BC Religion) แบง่ เป็น 2 ตอน ดงั น้ี BD ตอนท่ี 1 B-BJ สาหรบั เน้อื หาทเ่ี ป็นปรชั ญา ตรรกวทิ ยา BF อภปิ รชั ญาจติ วทิ ยา สุนทรยี ศาสตร์ และจรยิ ศาสตร์ BH ตอนท่ี 2 BL-BX สาหรบั เน้อื หาทางดา้ นศาสนาและศาสนวทิ ยา BJ ตรรกวทิ ยา (Logic) BL ปรชั ญาภาคทฤษฎี (Speculative Philosophy) BM จติ วทิ ยา (Psychology) สุนทรยี ศาสตร์ (Aesthetics) จรยิ ศาสตร์ (Ethics) ศาสนา ลทั ธเิ หตุผลนยิ ม ลทั ธจิ ดู า (Judalism)
59 BP ศาสนาอสิ ลาม ลทั ธบิ าไฮม์ BR ศาสนาครสิ ต์ (Christianity) BS คมั ภรี ไ์ บเบลิ (Bible) BT ศาสนวทิ ยาทเ่ี ป็นคาสงั่ สอน (Doctrinal Theology) BV ศาสนวทิ ยาทเ่ี ป็นขอ้ ปฏบิ ตั ิ (Practical Theology) BY ลทั ธแิ ละนิกายตา่ ง ๆ (Demomiations and Sects) การแบ่งครงั้ ท่ี 3 หรือหมยู่ ่อย โดยวธิ เี ตมิ ตวั เลขอารบคิ ตงั้ แต่ 1-9999 เช่น PN1 วารสารสากล PN2 วารสารอเมรกิ นั และองั กฤษ PN86 ประวตั แิ ละวจิ ารณ์ PN101 ผแู้ ต่งอเมรกิ นั องั กฤษ การแบ่งครงั้ ท่ี 4 หรือจุดทศนิ ยม โดยใช้จุดคนั่ และตามด้วยตัวอักษรและ ตวั เลขเพ่อื แสดงรายละเอยี ดหมวดเร่อื ง หรอื รปู แบบ หรอื ประเทศ เชน่ T เทคโนโลยี TX คหกรรมศาสตร์ TX36 อาหารและโภชนาการ TX361 อาหารและโภชนาการของเฉพาะกลมุ่ คน TX361.A3 อาหารและโภชนาการของผสู้ งู อายุ TX361.C5 อาหารและโภชนาการของเดก็ นอกจากน้ียงั มกี ารแบ่งตามตารางเลขเฉพาะ ซง่ึ ตอ้ งใชป้ ระกอบกบั เลขหมู่อีก 5 ตาราง ได้แก่ ตารางวธิ เี ขียน ตารางภูมศิ าสตร์ ตารางการแบ่งตามยุคสมยั ตารางการแบ่ง เฉพาะเร่อื ง ตารางรวม จากการแบ่งหมวดหมู่หนังสอื ย่อย ๆ ถงึ 4 ครงั้ อกี ทงั้ มกี ารแบ่งย่อย โดยใช้ตารางเลขเฉพาะประกอบถงึ 5 ตาราง ทาใหก้ ารจดั หมู่หนังสอื ดว้ ยระบบหอสมุดรฐั สภา อเมรกิ นั มคี วามละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากกว่าการจดั หมู่ระบบอ่ืน จงึ เหมาะสาหรบั ใชก้ บั หอ้ งสมดุ ทม่ี ปี รมิ าณหนังสอื จานวนมาก เช่น ห้องสมุดมหาวทิ ยาลยั หอสมดุ แหง่ ชาติ เป็นตน้ 2. การจดั หมวดหมู่หนงั สือระบบทศนิยมของดิวอี้ ระบบทศนยิ มของดวิ อ้ี (Dewey Decimal Classification) หรอื ระบบ D.C. เป็น ระบบการจดั หมวดหมู่หนังสอื ท่ีใช้ตวั เลขอารบกิ 3 หลกั และจุดทศนิยมเป็นสญั ลกั ษณ์แทน เน้ือหาของหนังสือโดย เมลวิล ดิวอ้ี (Melvil Dewey) ชาวอเมรกิ ัน เป็นผู้คิดค้นการจดั หมู่
60 ระบบน้ีข้นึ ในขณะท่เี ป็นนักศึกษาและเป็นผู้ช่วยบรรณารกั ษ์ อยู่ท่มี หาวทิ ยาลยั แอมเฮอร์ต รฐั แมสซาซูเสตส์ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า แผนการจดั หมู่ระบบทศนิยมของดิวอ้ี พมิ พ์เป็นเล่ม ครงั้ แรกเม่อื ปี ค.ศ.1876 และไดม้ กี ารปรบั ปรุงแก้ไขเพม่ิ เติมเลขหมู่ให้ทนั สมยั อยู่เสมอ ระบบ ทศนยิ มของดวิ อ้เี ป็นระบบ การแบ่งหมู่ทน่ี ิยมใชก้ นั มากในหอ้ งสมุดทวั่ ไป โดยเฉพาะหอ้ งสมุด โรงเรยี นและห้องสมุดวทิ ยาลยั หรอื หอ้ งสมดุ ขนาดกลาง สญั ลกั ษณ์ท่ีใชแ้ ทนเน้อื หาความรูเ้ ป็น ตวั เลขสามารถจดจาไดง้ ่าย การจดั หมวดหมู่ระบบทศนิยมของดวิ อ้ี เป็นระบบทใ่ี ชต้ วั เลขอารบกิ และจุดทศนยิ ม แทนเน้อื หาของหนังสอื โดยในลาดบั แรกแบ่งประเภทของหนงั สอื เป็น 10 หมวดใหญ่ (Classes) และจากหมวดใหญ่แต่ละหมวดแบ่งเป็น 10 หมวดยอ่ ย (Division) โดยแต่ละหมวดย่อยแบ่งเป็น 10 หม่ยู ่อย (Section) ตามลาดบั ดงั น้ี การแบ่งหมคู่ รงั้ ท่ี 1 000 เบด็ เตลด็ ความร้ทู วั่ ไป (General) คอมพิวเตอร์ การอ่าน วารสารศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์ บรรณารกั ษศาสตร์ 100 ปรชั ญา (Philosophy) จิตวิทยา (Psychology) ตรรกศาสตร์ จริยศาสตร์ ศลี ธรรม 200 ศาสนา (Religion) 300 สังคมศาสตร์ (Social Science) เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง กฎหมาย การคมนาคม การทหาร การศกึ ษา การส่อื สาร 400 ภาษา (Language) 500 วิทยาศาสตร์บริสุทธ์ิ (Pure Science) คณิตศาสตร์ (Match) ดาราศาสตร์ พฤกษศาสตร์ ธรรมชาตวิ ทิ ยา ฟิสกิ ส์ เคมี ชวี วทิ ยา 600 วิทยาศาสตรป์ ระยุกต์ (Applied Science) เทคโนโลยี (Technology) แพทยศ์ าสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ คหกรรมศาสตร์ การจดั การธรุ กจิ 700 ศิลปะและการบันเทิ ง (Art and Recreation) ศิลปกรรม วิจิตรศิลป์ มณั ฑนศลิ ป์ นนั ทนาการ การถ่ายภาพ ดนตรี กฬี า 800 วรรณคดี (Literature) วรรณกรรม 900 ประวตั ิศาสตร์ (History) ภูมิศาสตร์ (Geography) ชีวประวตั ิ แผนท่ี และการท่องเทย่ี ว
61 การแบ่งหมู่ครงั้ ท่ี 2 หมวด 000 เบด็ เตลด็ ความร้ทู วั่ ไป 010 บรรณานุกรม 020 บรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารนเิ ทศศาสตร์ 030 สารานุกรม หนงั สอื รวบรวมความรทู้ วั่ ไป 040 (ไมไ่ ดก้ าหนดใช)้ 050 สงิ่ พมิ พต์ อ่ เน่อื ง วารสาร และดรรชนีของสง่ิ พมิ พ์ 060 องคก์ ารต่างๆ และพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยา 070 วารสารศาสตร์ การพมิ พ์ 080 ชุมนุมนพิ นธ์ รวมเร่อื งทวั่ ไป 090 หนังสอื หายาก และหนงั สอื ตน้ ฉบบั ตวั เขยี น หมวด 100 ปรชั ญา จิตวิทยา 110 อภปิ รชั ญา 120 ทฤษฎขี องอภปิ รชั ญา ทฤษฎแี หง่ ความรู้ ความเป็นมนุษย์ 130 จติ วทิ ยานามธรรม 140 ความคดิ ทางปรชั ญาเฉพาะกล่มุ 150 จติ วทิ ยา 160 ตรรกวทิ ยา 170 จรยิ ศาสตร์ จรยิ ธรรม ศลี ธรรม 180 ปรชั ญาตะวนั ออก ปรชั ญาโบราณ ปรชั ญาสมยั กลาง 190 ปรชั ญาตะวนั ตกสมยั ปัจจุบนั หมวด 200 ศาสนา 210 ศาสนาธรรมชาติ 220 คมั ภรี ไ์ บเบลิ 230 เทววทิ ยาตามแนวครสิ ตศ์ าสนา 240 ศลี ธรรมของชาวครสิ เตยี น 250 ระเบยี บแบบแผนของศาสนาครสิ ต์ 260 สงั คมของชาวครสิ ต์ และศาสนศาสตร์ 270 ประวตั ศิ าสนาครสิ ต์ 280 นิกายตา่ งๆ ในศาสนาครสิ ต์ 290 ศาสนาเปรยี บเทยี บ และศาสนาอ่นื ๆ
62 หมวด 300 สงั คมศาสตร์ 310 สถติ ทิ วั่ ไป 320 รฐั ศาสตร์ 330 เศรษฐศาสตร์ 340 กฎหมาย 350 รฐั ประศาสนศาสตร์ การบรหิ ารรฐั กจิ การบรหิ ารกองทพั 360 ปัญหาสงั คม สวสั ดภิ าพสงั คม การบรหิ ารสงั คม 370 การศกึ ษา 380 การพาณชิ ย์ การส่อื สาร การขนส่ง 390 ขนบธรรมเนยี มประเพณี คตชิ นวทิ ยา หมวด 400 ภาษา 410 ภาษาเปรยี บเทยี บ 420 ภาษาองั กฤษ 430 ภาษาเยอรมนั และภาษาในกลมุ่ เยอรมนั 440 ภาษาฝรงั่ เศส 450 ภาษาอติ าเลยี น ภาษารูมาเนยี น 460 ภาษาสเปนและภาษาโปรตุเกส 470 ภาษาละตนิ และกล่มุ ภาษาอติ าเลยี นอน่ื ๆ 480 ภาษากรกี และกลมุ่ ภาษากรกี 490 ภาษาอน่ื ๆ หมวด 500 วิทยาศาสตรบ์ ริสทุ ธ์ิ คณิตศาสตร์ 510 คณิตศาสตร์ 520 ดาราศาสตร์ 530 ฟิสกิ ส์ 540 เคมี 550 ธรณีวทิ ยา เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั โลก 560 ชวี ติ โบราณศกึ ษา บรรพชวี นิ วทิ ยา 570 วทิ ยาศาสตรข์ องสงิ่ มชี วี ติ 580 วทิ ยาศาสตรเ์ กยี่ วกบั พชื (พฤกษศาสตร)์ วทิ ยาศาสตรเ์ กยี่ วกบั พชื (สตั วศาสตร)์ 590
63 หมวด 600 วิทยาศาสตรป์ ระยุกต์ เทคโนโลยี 610 แพทยศาสตร์ 620 วศิ วกรรมศาสตร์ 630 เกษตรศาสตร์ 640 คหกรรมศาสตร์ และชวี ติ ครอบครวั 650 ธุรกจิ และการจดั การธรุ กจิ 660 วศิ วกรรมเคมแี ละเทคโนโลยที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 670 โรงงานอตุ สาหกรรม ผลติ ภณั ฑจ์ ากโรงงาน 680 โรงงานผลติ สนิ คา้ เบด็ เตลด็ อน่ื ๆ 690 การกอ่ สรา้ งและวสั ดุกอ่ สรา้ ง หมวด 700 ศิลปะการบนั เทิง วิจิตรศิลป์ มณั ฑณศิลป์ 710 ภูมสิ ถาปัตย์ การออกแบบพน้ื ท่ี 720 สถาปัตยกรรม 730 ประตมิ ากรรมและศลิ ปกรรมพลาสตกิ 740 มณั ฑนศลิ ป์ การวาดเขยี น และศลิ ปะตกแต่ง 750 จติ รกรรม 760 ศลิ ปะการพมิ พ์ ศลิ ปะกราฟิก 770 การถ่ายภาพ 780 ดนตรี 790 นนั ทนาการ ศลิ ปะการแสดงการกฬี า หมวด 800 วรรณคดี 810 วรรณคดอี เมรกิ นั 820 วรรณคดอี งั กฤษ 830 วรรณคดเี ยอรมนั 840 วรรณคดฝี รงั่ เศส 850 วรรณคดอี ติ าเลยี น 860 วรรณคดสี เปนและโปรตเุ กส 870 วรรณคดลี ะตนิ 880 วรรณคดกี รกี 890 วรรณคดอี น่ื ๆ
64 หมวด 900 ประวตั ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ 910 ภมู ศิ าสตรแ์ ละการทอ่ งเทย่ี ว 920 ชวี ประวตั ิ ประวตั บิ ุคคล 930 ประวตั ศิ าสตรโ์ ลกโบราณ 940 ประวตั ศิ าสตรย์ โุ รป 950 ประวตั ศิ าสตรเ์ อเชยี 960 ประวตั ศิ าสตรแ์ อฟรกิ า 970 ประวตั ศิ าสตรอ์ เมรกิ าเหนอื 980 ประวตั ศิ าสตรอ์ เมรกิ าใต้ 990 ประวตั ศิ าสตรส์ ่วนอน่ื ๆ ของโลกและบรเิ วณนอกโลก จากหมวดย่อยตา่ ง ๆ ซงึ่ มที งั้ หมด 100 หมวดย่อย แต่ละหมวดยอ่ ยสามารถ แบง่ ออกไปไดอ้ กี 10 หมู่ยอ่ ย ตวั อย่างเชน่ หมวด 950 ประวตั ศิ าสตรเ์ อเชยี ทวั่ ไป แบง่ แยกออก ไดเ้ ป็น 10 หมู่ยอ่ ย ดงั น้ี 950 ประวตั ศิ าสตรเ์ อเชยี ทวั่ ไป 951 ประวตั ศิ าสตรจ์ นี 952 ประวตั ศิ าสตรญ์ ่ปี ่นุ 953 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศซาอดุ อิ าระเบยี 954 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศอนิ เดยี 955 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศอหิ ร่าน 956 ประวตั ศิ าสตรก์ ลุ่มประเทศตะวนั ออกไกล เชน่ 956.94 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศอสิ ราเอล 957 ประวตั ศิ าสตรร์ สั เซยี ในเอเชยี 958 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศกลางทวปี เอเชยี เชน่ 958.1 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศอฟั กานสิ ถาน 959 ประวตั ศิ าสตรป์ ระเทศในแหลมอนิ โดจนี ในแต่ละหมู่ย่อยยงั แบ่งย่อยลงไปได้อีกถงึ จุดทศนิยม เช่น 959 ประวตั ศิ าสตร์ ประเทศในแหลมอนิ โดจนี แบ่งยอ่ ยไดเ้ ป็น 959.1 ประวตั ศิ าสตรพ์ มา่ 959.3 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 959.4 ประวตั ศิ าสตรล์ าว 959.5 ประวตั ศิ าสตรม์ าเลเซยี 959.6 ประวตั ศิ าสตรเ์ ขมร 959.7 ประวตั ศิ าสตรเ์ วยี ดนาม
65 และยงั แบ่งย่อยลกึ ลงไปได้อีก เช่น 959.31 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั โบราณ ถึง พ.ศ. 1780 เป็นต้น และยงั แบ่งย่อยลงไปได้อกี เร่อื ย ๆ เป็นจุดทศนิยมไม่รู้จบ เพ่อื ให้ได้ เลขหมู่ท่เี จาะจงมากย่ิงข้นึ ทาให้การจดั หมู่หนังสอื ในระบบทศนิยมของดวิ อ้ไี ด้รบั ความนิยม อย่างแพร่หลายในหอ้ งสมดุ โดยทวั่ ไป โดยเฉพาะห้องสมดุ ในสถานศกึ ษา เพราะมลี กั ษณะเด่น หลายประการ เช่น ใช้สญั ลักษณ์ท่ีเป็นสากล เข้าใจง่าย ไม่แบ่งเน้ือหาละเอียดจนเกินไป และเน้อื หาในแต่ละหมวดมคี วามเกย่ี วเน่ืองสมั พนั ธก์ นั ซึ่งลกั ษณะเด่นทงั้ หมดน้ีทาใหห้ อ้ งสมุด ในสถานศกึ ษาขนาดกลางและขนาดเลก็ เกือบทุกแห่งในประเทศไทย เลอื กใชก้ ารจดั หมวดหมู่ ระบบทศนิยมของดวิ อ้ใี นการจดั หมวดหมู่หนังสอื ในหอ้ งสมดุ ลกั ษณะของระบบการจดั หมวดหมหู่ นังสือที่ดี ระบบการจดั หมวดหมหู่ นังสอื ทด่ี คี วรมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1. จดั หมู่หนงั สอื ตามประเภทตามเน้ือหาของหนงั สอื โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์ทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย เช่น ตวั เลขหรอื ตวั อกั ษรแทนเน้อื หาของหนงั สอื 2. เม่ือจัดหมู่แล้ว หนังสือท่ีมีเน้ือหาเหมือนกันจะต้องอยู่ในท่ีเดียวกันหรือ คลา้ ยคลงึ กนั หรอื สมั พนั ธก์ นั จะตอ้ งอยู่ในบรเิ วณใกลเ้ คยี งกนั 3. เม่ือจัดหมู่หนังสือแล้ว ทาให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหนังสือในห้องสมุดได้ โดยสะดวกรวดเรว็ และง่ายต่อการจดั เกบ็ เขา้ ทเ่ี ดมิ ของบรรณารกั ษห์ รอื เจา้ หน้าทห่ี อ้ งสมดุ 4. เม่อื จดั หม่แู ลว้ จะชว่ ยให้ทราบว่าหอ้ งสมุดมหี นังสอื ในแตล่ ะประเภทมมี ากน้อย เพยี งใด ครอบคลมุ ความตอ้ งการของผใู้ ชห้ อ้ งสมุดหรอื ไม่ เลขเรยี กหนังสือและสญั ลกั ษณ์แทนเลขเรียกหนังสือ เลขเรียกหนังสือ ในห้องสมุดขนาดใหญ่จะมีหนังสือท่ีมีเน้ือหาสาระเดียวกันเป็นจานวนมาก จึงให้ สญั ลักษณ์ท่ีกาหนดแทนเน้ือหาของหนังสือ หรือเลขหมู่หนังสอื เหมือนกัน ทาให้ไม่เห็นความ แตกต่างของหนังสือแต่ละเล่ม เพ่ือให้หนังสือแต่ละเล่มมีสัญลักษณ์ไม่ซ้ากัน จึงจาเป็นต้องมี เลขเรยี กหนงั สอื เพ่อื ชว่ ยในการจดั เกบ็ และคน้ หาหนงั สอื เลขเรียกหนังสือ (Call Number) หมายถึง สญั ลักษณ์ท่หี ้องสมุดกาหนดข้ึนใช้ แทนหนังสอื แต่ละเล่ม เลขเรยี กหนงั สอื ประกอบดว้ ย เลขหมู่หนังสอื อกั ษรช่อื ผู้แตง่ เลขผู้แต่ง และอักษรช่อื เร่อื ง ในบางกรณีอาจมีสญั ลักษณ์อ่ืนเพิ่มข้ึน เช่น เพิ่มเคร่อื งหมาย อักษรย่อ ตวั เลขแสดงปีทพ่ี มิ พ์ เพ่อื แสดงว่าหนงั สอื เล่มน้ีแตกตา่ งจากเล่มอน่ื (น้าทพิ ย์ วภิ าวนิ . 2547 : 98)
66 ห้องสมุดจะใช้เลขเรยี กหนังสอื ในการจดั เก็บหนังสอื บนชนั้ เพ่อื ให้การบรกิ ารและ การดาเนินงานของหอ้ งสมุดมปี ระสทิ ธภิ าพ สาหรบั ผู้ใช้บรกิ ารเลขเรยี กหนังสอื มปี ระโยชน์ใน การคน้ หาหนังสอื บนชนั้ โดยเลขเรยี กหนังสอื จะปรากฏทส่ี นั หนังสอื มุมซา้ ยบตั รรายการและ ในฐานขอ้ มูลหอ้ งสมดุ ซง่ึ เป็นเคร่อื งมอื ชว่ ยคน้ ทห่ี อ้ งสมดุ จดั ทาขน้ึ (ดูรายละเอยี ดในบทท่ี 4) เลขเรยี กหนังสือ มคี วามสาคญั ดงั น้ี 1. ทาใหห้ นังสอื ทกุ เล่มมสี ญั ลกั ษณ์และมตี าแหน่งการจดั วางทแ่ี น่นอน ชว่ ยใหผ้ ใู้ ช้ หอ้ งสมดุ สามารถคน้ หาหนังสอื ไดง้ ่าย 2. ทาให้หนังสอื ทม่ี เี น้ือเร่อื งเหมอื นกนั สมั พนั ธก์ นั อยู่ใกลก้ นั ช่วยใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุด สามารถศกึ ษาเรอ่ื งราวทเ่ี กย่ี วโยงต่อเน่อื งกนั ไดโ้ ดยสะดวก 3. ช่วยให้เจ้าหน้าท่ีห้องสมุดเก็บหนังสือคนื ท่ีเดิมได้ง่ายและรวดเร็วข้นึ ทาให้ หอ้ งสมดุ สามารถบรกิ ารผใู้ ชค้ นต่อไปได้รวดเรว็ มากขน้ึ 4. ช่วยใหท้ ราบว่าห้องสมุดมหี นงั สอื ในแต่ละสาขาวชิ า แต่ละเร่อื งมากน้อยเท่าใด ครอบคลมุ ความตอ้ งการของผใู้ ชห้ อ้ งสมุดหรอื ไม่ เลขเรียกหนังสอื มสี ่วนประกอบทส่ี าคญั ดงั น้ี 1. เลขหมู่หนังสือ (Classification Number) เป็นสัญลักษณ์ท่ีกาหนดข้ึนเพ่ือ แสดงเน้อื หาสาระของหนงั สอื การกาหนดสญั ลกั ษณข์ น้ึ อยู่กบั ระบบการจดั หมวดหมูห่ นงั สอื ของ หอ้ งสมุดแต่ละแหง่ 2. อกั ษรช่ือผ้แู ต่ง เป็นสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้อกั ษรตวั แรกของช่อื ผแู้ ต่งหนังสอื สาหรบั ผแู้ ต่งทเ่ี ป็นชาวตา่ งชาตจิ ะใชอ้ กั ษรตวั แรกของนามสกลุ ผแู้ ต่ง 3. เลขผ้แู ต่งหรือรหสั ผ้แู ต่ง (Author Number) กาหนดมาจากช่อื และนามสกุล ของผแู้ ต่งหนังสอื เรยี งตามลาดบั พยญั ชนะทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ โดยใชค้ มู่ อื การกาหนด เลขผู้แต่งหรือรหสั ผู้แต่งท่ีเป็นมาตรฐาน เช่น ในประเทศไทยจะใช้ตารางเลขผู้แต่งหนังสือ ภาษาไทย จดั ทาโดยหอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร ในการกาหนดเลขผแู้ ต่งทเ่ี ป็นคนไทย 4. อกั ษรช่ือเรื่อง (Work mark) เป็นสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้อกั ษรตวั แรกของช่อื หนังสอื ในห้องสมุดขนาดใหญ่ท่ีมีหนังสือเป็นจานวนมาก โอกาสท่ีหนังสือจะมีเลขหมู่ซ้ากันหรือ เลขผู้แต่งซ้ากนั ย่อมมไี ด้มาก หอ้ งสมุดจงึ ช่วยใหผ้ ู้ใช้เหน็ ความแตกต่างของหนังสอื แต่ละเล่ม โดยใส่อกั ษรตวั แรกของชอ่ื เรอ่ื งไวใ้ นเลขเรยี กหนงั สอื ดว้ ย อกั ษรช่อื เรอ่ื งน้จี ะอยูถ่ ดั จากเลขผแู้ ตง่ หรอื รหสั ผูแ้ ต่ง ตามตวั อย่างดงั ตอ่ ไปน้ี
67 ตวั อย่างเลขเรียกหนังสอื ภาษาไทย หนงั สอื เร่อื ง การใชห้ อ้ งสมดุ ยคุ ใหม่ แตง่ โดย น้าทพิ ย์ วภิ าวนิ มเี ลขเรยี กหนังสอื ดงั น้ี อกั ษรตวั แรกของช่อื ผแู้ ต่ง 025.56 เลขหมหู่ นงั สอื (น้าทพิ ย์ วภิ าวนิ ) น522ก ฉ.2 อกั ษรตวั แรกของชอ่ื เรอ่ื ง เคร่อื งหมายบอกวา่ มี (การใชห้ อ้ งสมดุ ยคุ ใหม)่ หลายฉบบั (ฉบบั ท)่ี เลขผแู้ ตง่ หรอื รหสั ผแู้ ต่ง ตวั อยา่ งเลขเรียกหนังสือภาษาองั กฤษ หนังสอื เร่อื ง Engineering drawing แตง่ โดย Boundy, A. W. มเี ลขเรยี กหนงั สอื ดงั น้ี อกั ษรตวั แรกของนามสกุลผแู้ ต่ง 604.2 เลขหมหู่ นงั สอื (Boundy, A. W.) B765E อกั ษรตวั แรกของชอ่ื เร่อื ง (Engineering drawing ) เลขผแู้ ตง่ หรอื รหสั ผูแ้ ต่ง สญั ลกั ษณ์แทนเลขเรยี กหนงั สือ โดยทวั่ ไปห้องสมุดแต่ละแห่งจะเลือกใช้ระบบการจดั หมวดหมู่หนังสือระบบใด ระบบหน่ึงเท่านัน้ ซ่ึงอยู่กบั ความเหมาะสม ตามวธิ ขี องห้องสมุดแต่ละแห่ง แต่สาหรบั หนังสือ บางประเภทมีลกั ษณะพิเศษ เช่น หนังสือนวนิยาย เร่อื งสนั้ หนังสอื สาหรบั เด็กและเยาวชน หอ้ งสมุดนิยมกาหนดสญั ลกั ษณ์ในรูปของอกั ษรย่อแทนประเภทของหนังสอื โดยสญั ลกั ษณ์น้ี จะปรากฏอยู่เหนอื เลขเรยี กหนังสอื ดงั น้ี ประเภทหนงั สือ สญั ลกั ษณ์ นวนิยาย ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ เรอ่ื งสนั้ หนงั สอื สาหรบั เยาวชน น หรอื นว Fic (Fiction) หรอื N (Novel) หนังสอื อา้ งองิ รายงานการวจิ ยั ร.ส. Sc (Short Story Collection) วทิ ยานพิ นธ์ ย E (Easy Book) หรอื J (Juvenile Literature) อ R หรอื Ref (Reference) วจ Res (Research) วพ Th หรอื Ths (Thesis)
68 นอกจากส่วนสาคญั ดงั กล่าวแล้ว อาจจะมสี ญั ลกั ษณ์อย่างอ่ืนเพม่ิ เตมิ ได้อีกในหลาย กรณีดว้ ยกนั เช่น 1. กรณีหนงั สอื เรอ่ื งเดยี วกนั แตม่ หี ลายฉบบั (Copies) ซ้ากนั จะมเี ครอ่ื งหมายบอก ใหท้ ราบทเ่ี ลขเรยี กหนังสอื มกั จะใช้ ฉ. ตามดว้ ยตวั เลขอารบคิ ตามจานวนเล่มท่ซี ้าในหนังสอื ภาษาไทย เช่น ฉ.2 ฉ.3 และถา้ เป็นภาษาองั กฤษใช้ C ตามดว้ ยตวั เลขอารบคิ ตามจานวนเลม่ ท่ี ซ้าในหนงั สอื ภาษาองั กฤษ เชน่ C.2, C.3 (การใสฉ่ บบั ทซ่ี ้าจะใส่ตงั้ แตเ่ ล่มท่ี 2 เป็นตน้ ไป) 2. กรณีหนังสอื เร่อื งเดยี วกนั แต่มหี ลายเล่ม (Volumes) ต่อกนั จะใช้ ล. ตามดว้ ย เลขอารบคิ ตามลาดบั เล่ม ตงั้ แต่เล่มท่ี 1 เป็นต้นไปในหนังสอื ภาษาไทย เช่น ล.1 ล.2 ล.3 และ ถา้ เป็นภาษาองั กฤษใช้ V ตามดว้ ยเลขโรมนั หรอื เลขอารบคิ ตามลาดบั เลม่ ตงั้ แตเ่ ล่มท่ี 1 เป็นตน้ ไป เช่น V.1, V.2, V.3 หรอื V.l, V.ll, V.lll สญั ลกั ษณเ์ หลา่ น้ี จะเตมิ ใตเ้ ลขผแู้ ตง่ เช่นกนั ตวั อย่างนวนิยายภาษาไทย หนังสอื นวนิยายเร่อื ง แฮรร์ ่พี อตเตอรก์ บั เจ้าชายเลอื ดผสม แต่งโดย โรว์ลง่ิ , เจ. เค. มสี ญั ลักษณ์ แทนเลขเรยี กหนงั สอื ดงั น้ี อกั ษรตวั แรกของ น ยอ่ มาจากนวนยิ าย นามสกุลผแู้ ต่ง ร942ฮ (โรวล์ ง่ิ , เจ. เค.) อกั ษรตวั แรกของชอ่ื เร่อื ง (แฮรร์ พ่ี อตเตอร์ กบั เจา้ ชายเลอื ดผสม) เลขผแู้ ต่งหรอื รหสั ผแู้ ตง่ ตวั อยา่ งหนังสอื อ้างอิงภาษาไทย หนังสอื อา้ งอิงเร่อื ง สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน เล่ม 3 แต่งโดย โครงการสารานุกรมไทย สาหรบั เยาวชน มสี ญั ลกั ษณแ์ ทนเลขเรยี กหนงั สอื ดงั น้ี อกั ษรตวั แรกของช่อื ผแู้ ต่ง อ ยอ่ มาจากหนงั สอื อา้ งองิ (โครงการสารานุกรมไทย 039.95911 เลขหมหู่ นังสอื ค691ส อกั ษรตวั แรกของช่อื เรอ่ื ง สาหรบั เยาวชน) ล.3 (สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน เล่ม 3) เคร่อื งหมายบอกลาดบั เลขผแู้ ตง่ หรอื รหสั ผแู้ ต่ง ของเล่ม (เล่มท)่ี
69 ตวั อย่างหนังสืออา้ งอิงภาษาองั กฤษ หนงั สอื อา้ งองิ เรอ่ื ง Encyclopedia of electronic circuits–Volume 2. แต่งโดย Graf, Rudolf F. มสี ญั ลกั ษณ์แทนเลขเรยี กหนังสอื ดงั น้ี ยอ่ มาจากหนงั สอื อา้ งองิ (Reference Book) R อกั ษรตวั แรกของ 621.3815 เลขหมหู่ นงั สอื นามสกลุ ผแู้ ตง่ G242E อกั ษรตวั แรกของชอ่ื เร่อื ง (Graf, Rudolf F.) V.2 (Encyclopedia of electronic circuits) เครอ่ื งหมายบอกลาดบั เลขผแู้ ต่งหรอื รหสั ผูแ้ ต่ง ของเลม่ (เล่มท)่ี การจดั เกบ็ และเรียงทรพั ยากรสารสนเทศ 1. การจดั เรยี งหนังสอื บนชนั้ การเรยี งหนงั สอื บนชนั้ หนังสอื ของหอ้ งสมดุ ทจ่ี ดั เรยี งไวม้ หี ลกั เกณฑ์ ดงั น้ี 1.1 แยกหนังสอื ท่ปี ระเภทเดยี วกันออกเป็นกลุ่ม ๆ เช่น หนังสอื ภาษาไทย หนังสอื ภาษาองั กฤษ หนังสอื อา้ งองิ เรอ่ื งสนั้ นวนิยาย หนังสอื สาหรบั เดก็ และเยาวชน รายงานวจิ ยั วทิ ยานพิ นธ์ เป็นตน้ 1.2 เรยี งตามลาดบั สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชแ้ ทนเน้อื หาหนงั สอื 1.2.1 หนังสอื ทจ่ี ดั หมวดหมู่ระบบทศนิยมดวิ อ้ี เรยี งจากเลขน้อยไปหา เลขมาก เรยี งจากซ้ายไปขวา เร่ิมตงั้ แต่ชนั้ บนสุดเร่ือยลงมาตามลาดบั จนถึงชนั้ ล่างสุด และ เรยี งลาดบั จากหมวดหมูใ่ หญ่ไปจนถงึ จุดทศนิยม ดงั ตวั อย่าง 005.3 005.36 005.48 005.7 005.94 ว131จ ง237จ ศ139ร ช390ว ด128ก 1.2.2 หนังสอื ท่จี ดั หมวดหม่รู ะบบหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ นั จะเรยี งลาดับ ตามตัวอักษร A-Z และถ้าตัวอักษรซ้ากันจะเรียงตามลาดับจากเลขน้อยไปหาเลขมาก ดงั ตวั อย่าง RD RF RJ RS RS 413 501 185 209 398 .A11 .A02 .M318 .C21 .N12
70 1.3 หนังสือท่ีมีเลขหมู่หนังสือซ้ากัน จะเรียงตามลาดับอักษรตัวแรกของ ช่อื ผู้แต่งสาหรบั ผแู้ ตง่ ท่เี ป็นคนไทย หรอื เรยี งตามลาดบั อกั ษรตวั แรกของนามสกลุ ถ้าเป็นผู้แต่ง ชาวต่างประเทศ ถ้าอักษรตัวแรกของผู้แต่งเหมือนกันจะเรียงตามเลขผู้แต่ง ถ้าเลขผู้แต่ง เหมอื นกนั จะเรยี งตามอกั ษรตวั แรกของช่อื หนงั สอื ตามลาดบั ดงั ตวั อยา่ ง 658.3 658.3 658.3 658.3 658.3 ก390ม จ158อ น203จ น203ว ว213ต BF BF BF BF BF 1880.2 35.5 35.5 85 85 .B4E .A37W .A4W .C52L .C6L 1.4 หนังสือช่อื เดียวกันและเขียนโดยผู้แต่งคนเดยี วกัน จดั หาเข้าห้องสมุด หลายฉบบั จะเรยี งตามลาดบั ฉบบั ทป่ี รากฏใตเ้ ลขเรยี กหนังสอื ดงั ตวั อย่าง 620.1 620.1 620.1 620.1 620.1 อ634ก อ634ก อ634ก อ634ก อ634ก ฉ.1 ฉ.2 ฉ.3 ฉ.4 ฉ.5 QA QA QA QA QA 3561 3561 3561 3561 3561 .D32 .D32 .D32 .K453 .K453 C.1 C.2 C.3 C.1 C.2 1.5 หนังสือท่ีมีหลายเล่มจบหรือหนังสือท่ีเป็นชุด ให้จดั เรียงตามลาดบั เล่มท่ี หรอื เลขชดุ ดงั ตวั อยา่ ง 739.593 739.593 739.593 739.593 739.593 ช334ด ช334ด ช334ด ช334ด ช334ด ล.1 ล.2 ล.3 ล.4 ล.5 BJ BJ BJ BJ BJ 361 361 361 361 361 .D32 .D32 .D32 .K453 .K453 V.1 V.2 V.3 V.1 V.2
71 1.6 หนังสือนวนิยาย เร่อื งสนั้ หนังสือสาหรบั เด็กและเยาวชน จะจดั เรียง ตามลาดบั อกั ษรตวั แรกของช่อื ผแู้ ต่ง เลขผแู้ ต่ง และอกั ษรตวั แรกของช่อื เร่อื ง ดงั ตวั อยา่ ง นนนนน ก121ก ด154ม ป334ด ส226น ส226น ล.1 ล.2 2. การจดั เกบ็ วารสาร วารสารในหอ้ งสมดุ มกี ารจดั ไวใ้ หบ้ รกิ ารมากมาย จงึ ตอ้ งมวี ธิ กี ารจดั เกบ็ ดงั น้ี 2.1 วารสารฉบับใหม่ หรอื ฉบับปัจจุบัน หมายถึง วารสารท่ีห้องสมุดได้รบั ฉบบั ล่าสุด และนามาจดั เรยี งไวต้ ามลาดบั ตวั อกั ษรช่อื วารสาร บนชนั้ สาหรบั วางวารสาร 2.2 วารสารฉบบั ล่วงเวลา จดั เรยี งไวใ้ ต้วารสารช่อื นัน้ ๆ หรอื จดั บรกิ ารแบบ ชนดิ ปิด เม่อื ผใู้ ชต้ อ้ งการวารสารฉบบั ใดตอ้ งแจง้ เจา้ หนา้ ท่ี 2.3 วารสารฉบับเยบ็ เล่ม จะคดั เลือกวารสารท่มี ีผู้ใช้มาก รวบรวมให้ครบปี แล้วส่งไปเย็บเล่มและเก็บไว้บนชนั้ เพ่ือบรกิ ารแก่ผู้อ่านต่อไป โดยเก็บไว้บนชนั้ เปิดให้ผู้ใช้ หยบิ ใชเ้ อง แตบ่ างแหง่ จะเกบ็ ไวบ้ นชนั้ ปิด และมเี จา้ หนา้ ทใ่ี หบ้ รกิ าร หอ้ งสมดุ สว่ นใหญ่จะจดั ทา ดรรชนวี ารสาร เพอ่ื สะดวกในการคน้ หา 2.4 สาหรบั วารสารท่รี วบรวมได้ไม่ครบ รอการเยบ็ เล่มจะเก็บไว้บนชนั้ เปิด เช่นกนั วารสารทม่ี ผี ูใ้ ชน้ ้อยจะนามามดั รวมกนั และแยกเก็บไว้บนชนั้ ปิด ซงึ่ ผใู้ ช้สามารถตดิ ต่อ เจา้ หน้าทเ่ี พอ่ื คน้ หาวารสารทต่ี อ้ งการได้ 3. การจดั เกบ็ จลุ สารและกฤตภาค การจัดเก็บจุลสารและกฤตภาค โดยทัว่ ไปห้องสมุดจะจัดเก็บจุลสารและ กฤตภาคจะแบ่งออกเป็นเร่อื ง ๆ โดยบรรณารกั ษ์กาหนดหวั เรอ่ื งให้จุลสารและกฤตภาคแต่ละ ช่อื เร่อื ง จุลสารและกฤตภาคใดมเี น้ือเร่อื งทานองเดียวกัน จะนามาจดั ไว้ในหวั เร่อื งเดยี วกัน เน้อื เรอ่ื งทห่ี อ้ งสมุดเลอื กทากฤตภาค ไดแ้ ก่ บทความทางวชิ าการทุกสาขาวชิ า ทน่ี ่าสนใจศกึ ษา ค้นคว้า เช่น เร่อื งราวเกี่ยวกับประเทศหรอื สถานท่สี าคญั ต่าง ๆ ชวี ประวตั ิ บุคคล การเมือง การปกครอง สุขภาพอนามยั ภาพและเร่อื งราวทเ่ี กี่ยวกบั ทอ้ งถ่นิ เป็นตน้ เก็บเรยี งใส่แฟ้มตาม หวั เร่อื งนนั้ ๆ แฟ้มละ 1 หวั เร่อื ง และจดั เรยี งแฟ้มทงั้ หมดตามลาดบั ตวั อกั ษรของหวั เร่อื ง ใส่ใน ตจู้ ลุ สารและตูก้ ฤตภาค โดยแยกเป็นภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ ตวั อยา่ งเชน่ กฎหมาย AFRICA การศกึ ษา AGRICULTURE เกษตรกรรม BUSINESS ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ EDUCATION
72 4. การจดั เกบ็ วสั ดไุ ม่ตีพิมพป์ ระเภทส่อื โสตทศั น์ ห้องสมุดโดยทัว่ ไปจัดเก็บวัสดุไม่ตีพิมพ์แยกต่างหาก โดยรวมอยู่ในการให้ บรกิ ารประเภทส่อื โสตทศั น์ ห้องสมุดส่วนใหญ่จดั เรยี งตามลาดบั เลขทะเบยี นของส่อื โสตทศั น์ แต่ละประเภท เป็นการจดั เรยี งประเภทส่อื โสตทศั น์ท่มี อี ยู่ใหเ้ ป็นระบบ โดยใชห้ ลกั การจดั เก็บ ตามชนิดหรอื ประเภทของวสั ดุแลว้ เรยี งลาดบั ตามหมายเลขทะเบยี น ท่เี ขา้ มาในหอ้ งสมดุ ของ วสั ดุแต่ละประเภท เรยี งจากน้อยไปหามาก โดยกาหนดใช้อักษรโรมนั ตวั ใหญ่หรอื อักษรย่อ และเลขทะเบยี นเป็นสญั ลกั ษณแ์ ทนวสั ดแุ ตล่ ะชน้ิ และจดั เกบ็ ในระบบชนั้ ปิด อกั ษรโรมนั ตวั ใหญ่หรอื อกั ษรย่อท่หี ้องสมุดส่วนใหญ่ กาหนดข้นึ เพ่อื ใช้เป็น สญั ลกั ษณ์แทนส่อื โสตทศั น์ประเภทต่าง ๆ มดี งั น้ี CD แทน คอมแพกตด์ สิ ก์ (Compact disc) CAI แทน คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน (Computer aided instruction) DVD แทน แผ่นวดี ที ศั น์ระบบดจิ ติ อล (Digital video disc) VCD แทน แผน่ วดี ที ศั น์ (Video compact disc) FS แทน ภาพเลอ่ื น (Filmstrip) MA แทน แผนท่ี (Map) MIC แทน ไมโครฟิลม์ (Microfilm) MP แทน ฟิล์มภาพยนตร์ (Motion picture) PD แทน แผน่ เสยี ง (Phonodisc) SL แทน ภาพนง่ิ หรอื สไลด์ (Slide) TC แทน เทปบนั ทกึ เสยี งแบบตลบั (Tape cassette) VT แทน วดี ที ศั น์ (Videotape) LD แทน แผน่ วดี ที ศั น์ระบบเลเซอร์ (Laser disc) วสั ดุไม่ตพี มิ พป์ ระเภทสอ่ื โสตทศั น์ทม่ี ไี วส้ าหรบั ให้บรกิ ารในห้องสมุดแต่ละแห่ง อาจจะมไี ม่เหมอื นกนั ข้นึ อยู่กบั ว่าห้องสมุดจะดาเนินการจดั ซ้อื จดั หา ส่อื โสตทศั น์ประเภทใด เขา้ มาให้บรกิ าร ซงึ่ วธิ กี ารท่จี ะเลอื กใชแ้ ละจดั เกบ็ ส่อื โสตทศั น์ ควรพจิ ารณาถึงความเหมาะสม ในดา้ นสถานท่ี จานวนวสั ดุ บุคลากร และการใหบ้ รกิ ารผใู้ ชเ้ ป็นสาคญั อย่างไรก็ตาม ในห้องสมุดขนาดใหญ่ท่มี ีวสั ดุไม่ตีพิมพ์จานวนมาก นิยมจดั หมวดหมู่วสั ดุไม่ตพี ิมพเ์ ช่นเดยี วกนั การจดั หมวดหมู่หนังสอื แลว้ จดั เรยี งเช่นเดยี วกบั หนังสือ จากเลขหมนู่ ้อยไปหาเลขหมมู่ าก พรอ้ มทงั้ จดั ทาเคร่อื งมอื ช่วยคน้ หาเชน่ เดยี วกบั หนงั สอื อกี ดว้ ย
73 สรปุ ท้ายบท การจัดหมวดหมู่หนังสือเป็นการนาทรพั ยากรสารสนเทศมาแยกประเภทตาม เน้ือหาวชิ า โดยใช้สญั ลกั ษณ์แทนเน้ือหาของทรพั ยากรสารสนเทศนัน้ ระบบการจดั หมวดหมู่ หนังสอื ทน่ี ิยมใชก้ นั อย่างเป็นสากล คอื การจดั หมวดหมู่หนังสอื ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ ัน และระบบทศนิยมของดวิ อ้ี นอกจากจะจดั หมวดหมู่หนังสอื โดยใชร้ ะบบการจดั หมู่หนังสอื แลว้ ยงั มหี นงั สอื บางประเภทในหอ้ งสมุด ทไ่ี มน่ ิยมกาหนดเลขหมู่หนังสอื หรอื สญั ลกั ษณต์ ามระบบใด แต่ใชอ้ กั ษรย่อแทนประเภทของหนังสอื การค้นหาทรพั ยากรสารสนเทศจะคน้ ตามเลขเรยี กหนังสอื ประกอบด้วยเลขหมู่หนังสือ อักษรช่ือผู้แต่ง เลขผู้แต่ง และอักษรช่ือเร่อื ง ซ่ึงห้องสมุดใช้ เลขเรยี กหนังสอื ในการจดั เกบ็ หนังสอื บนชนั้ เพ่อื การบรกิ ารและการดาเนนิ งานหอ้ งสมดุ สาหรบั ผูใ้ ชบ้ รกิ ารเลขเรยี กหนังสอื มปี ระโยชน์ในการค้นหาหนังสอื บนชนั้ เลขเรยี กหนังสอื จะปรากฏ ท่สี นั หนังสอื มุมซ้ายบตั รรายการและท่ฐี านข้อมูลห้องสมุด เพ่อื ช่วยอานวยความสะดวกแก่ ผอู้ ่านในการคน้ หาหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ ไดอ้ ย่างถูกต้องและรวดเรว็ ตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ และยังช่วยประหยดั เวลาในการค้นและสามารถปรบั ปรุงข้อบกพร่อง ตลอดจนการเพ่ิมเติม จานวนหนังสอื ในหอ้ งสมุด
74 กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ กิจกรรมที่ 1 ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายการจดั หมวดหมูห่ นังสอื ในหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั ฯ มาพอสงั เขป พร้อมทงั้ บอกประโยชน์ว่าเม่ือจดั หนังสือเป็นหมวดหมู่แล้ว มีข้อดีอย่างไร (10 คะแนน) กิจกรรมท่ี 2 ให้นักเรยี นจบั คู่สญั ลักษณ์และเน้ือหาของหนังสอื ตามท่กี าหนดโดยนาตวั เลข ดา้ นขวามอื มาเขยี นลงในชอ่ งวา่ งดา้ นซา้ ยมอื (10 คะแนน) ....................... 1. ภูมศิ าสตรแ์ ละประวตั ศิ าสตร์ ก. 000 ....................... 2. วรรณคดี วรรณกรรม ข. 100 ....................... 3. เทคโนโลยแี ละวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ ค. 200 ....................... 4. ความรทู้ วั่ ไป ง. 300 ....................... 5. ศลิ ปกรรมและการบนั เทงิ จ. 400 ....................... 6. วทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ ฉ. 500 ....................... 7. ภาษา ช. 600 ....................... 8. ปรชั ญาและจติ วทิ ยา ซ. 700 ....................... 9. สงั คมศาสตร์ ฌ. 800 ......................10. ศาสนา ญ. 900
75 แบบประเมินก่อนและหลงั การเรยี นรู้ จงเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี มกี ารจดั หมหู่ นังสอื ดว้ ยระบบใด ก. ระบบทศนยิ มของดวิ อ้ี ข. ระบบหอสมุดรฐั สภาอเมรกิ นั ค. ระบบโคลอน ง. ระบบยูดซี ี 2. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี จดั เกบ็ หนังสอื ทเ่ี กย่ี วกบั ช่างอตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม และคหกรรม ไวท้ ห่ี มวดใด ก. หมวด 500 ข. หมวด 700 ค. หมวด 600 ง. หมวด 800 3. หนังสอื เกยี่ วกบั การเขยี นรายงานและบรรณานุกรม จดั อยใู่ นหมวดใด ก. หมวด 000 ข. หมวด 100 ค. หมวด 200 ง. หมวด 300 4. หนงั สอื ทเ่ี กย่ี วกบั วรรณคดไี ทย เชน่ ขนุ ชา้ งขนุ แผน พระอภยั มณี จดั อยใู่ นหมวดใด ก. หมวด 600 ข. หมวด 800 ค. หมวด 700 ง. หมวด 900 5. หนงั สอื เกย่ี วกบั ศลิ ปะดนตรแี ละกฬี า จดั อยใู่ นหมวดใด ก. หมวด 600 ข. หมวด 800 ค. หมวด 700 ง. หมวด 900
76 จงใชต้ วั เลขและสญั ลกั ษณต์ อ่ ไปน้ี ตอบคาถามขอ้ 6 - 10 025.58 ศ 336 ห ฉ.10 6. 025.58 หมายถงึ อะไร ก. เลขหมหู่ นงั สอื ข. เลขผแู้ ต่งหรอื รหสั ผูแ้ ต่ง ค. เลขเรยี กหนงั สอื ง. เลขมาตรฐานสากล 7. 336 หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เลขหมหู่ นงั สอื ข. เลขผแู้ ตง่ หรอื รหสั ผูแ้ ตง่ ค. เลขเรยี กหนงั สอื ง. เลขมาตรฐานสากล 8. ฉ.10 หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เป็นการพมิ พค์ รงั้ ท่ี 10 ข. เป็นหนังสอื ชุด ขนาดความยาว 10 เล่ม จบ ค. หนงั สอื เล่มน้อี ยใู่ นหอ้ งสมดุ อย่างนอ้ ย 10 เลม่ ง. สามารถหาพบไดจ้ ากตทู้ ่ี 10 ในชนั้ หนงั สอื 9. ตวั เลขและสญั ลกั ษณ์ทงั้ หมด รวมเรยี กว่าอะไร ก. เลขหมหู่ นงั สอื ข. เลขผแู้ ตง่ / รหสั ผูแ้ ต่ง ค. เลขเรยี กหนงั สอื ง. เลขมาตรฐานสากล 10. นักศกึ ษาสามารถพบตวั เลขและสญั ลกั ษณ์ตามตวั อยา่ งน้ี ไดจ้ ากทใ่ี ด ก. ในฐานขอ้ มลู หอ้ งสมดุ ข. ทส่ี นั หนังสอื และซองบตั รยมื ค. มมุ บนดา้ นซา้ ยของบตั รรายการ ง. ถกู ทุกขอ้
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: