Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน บทที่ 5

เอกสารประกอบการเรียน บทที่ 5

Published by Kittaya Chansawang, 2020-05-29 00:59:01

Description: บทที่ 5

Search

Read the Text Version

สาระสาคญั อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งรวบรวมทรพั ยากรสารสนเทศจานวนมาก เพ่ือให้บรกิ าร สบื คน้ สารสนเทศตามความสนใจ จงึ เปรยี บเสมอื นห้องสมุดขนาดใหญ่ท่สี ามารถค้นหาขอ้ มูล จากเวบ็ ไซต์ต่าง ๆ มาประกอบการเรยี น การทารายงาน การตดั สนิ ใจ จงึ ต้องศกึ ษาวธิ กี ารหา แหล่งขอ้ มูลทน่ี ่าเช่อื ถอื ดว้ ยการใชเ้ ครอ่ื งมอื ชว่ ยคน้ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ และพจิ ารณาความถูกตอ้ ง ของข้อมูลท่ีได้ โดยพิจารณาจากผู้ให้ข้อมูล และเว็บไซต์ท่ีนาเสนอข้อมูลว่าเก่ียวข้องกับ เรอ่ื งนัน้ ๆ โดยตรง นอกจากการหาขอ้ มลู เชงิ วชิ าการแลว้ ยงั สามารถใชป้ ระโยชน์ในดา้ นอน่ื ๆ จากอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การติดต่อส่อื สาร การทาธุรกิจออนไลน์ การบนั เทงิ เป็นต้น ดงั นัน้ อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นเครอ่ื งมอื สาคญั ในการตดิ ต่อการส่อื สารทช่ี ่วยใหผ้ ใู้ ชไ้ ดร้ บั สารสนเทศรวดเรว็ ขน้ึ สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายและวตั ถปุ ระสงคข์ องอนิ เทอรเ์ น็ต 2. การคดั เลอื กแหล่งขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ น็ต 3. หลกั การสบื คน้ สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ นต็ 4. บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ต 5. ขอ้ ดี ขอ้ เสยี และขอ้ จากดั ของระบบอนิ เทอรเ์ น็ต 6. จรยิ ธรรมในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ และอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและวตั ถปุ ระสงคข์ องอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 2. คดั เลอื กแหล่งขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 3. อธบิ ายหลกั การสบื คน้ สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 4. เลอื กใชบ้ รกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 5. บอกขอ้ ดี ขอ้ เสยี และขอ้ จากดั ของระบบอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 6. ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการคน้ หาสารสนเทศไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

98 ปัจจุบนั หอ้ งสมุดยุคใหม่ทุกแหง่ จดั ใหม้ บี รกิ ารอินเทอร์เน็ต ซงึ่ เปรยี บเสมอื นประตู ส่ขู ่าวสารท่ีเช่อื มโยงไปยงั แหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ ทวั่ โลก การส่อื สารผ่านอินเทอรเ์ น็ต จงึ เป็นการ ย่อโลกให้เลก็ ลง เพราะทาใหค้ นทุกคนในโลกสามารถตดิ ต่อส่อื สารกนั ได้ ไม่ว่าจะอาศยั อยู่ใน ประเทศใด การเรยี นรกู้ ารใช้อนิ เทอรเ์ น็ตทถ่ี ูกตอ้ งจงึ เป็นพ้นื ฐานของการส่อื สาร และการสบื คน้ ขอ้ มูลในสงั คมโลกาภิวฒั น์ แหล่งขอ้ มูลท่สี ามารถสบื ค้นผ่านอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่อยู่ในสาขา ดา้ นเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ บรหิ ารธรุ กิจและวฒั นธรรมร่วมสมยั ส่วนขอ้ มูล ทางด้านมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ยงั มีน้อย แต่มีแนวโน้มของการพัฒนามากข้ึนใน ทกุ สาขาเพ่อื การเรยี นรู้ และเผยแพรภ่ ูมปิ ัญญาของมนุษย์ ภาพท่ี 5.1 ตวั อย่างเวบ็ ไซตท์ เ่ี ป็นแหลง่ ขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ ทม่ี า : http://www.teenee.com ความหมายของอินเทอรเ์ น็ตและวตั ถปุ ระสงคข์ องอินเทอรเ์ น็ต 1. ความหมายของอินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอรท์ ่ีมขี นาดใหญ่ ซ่ึงมกี ารเช่อื มโยงเครอื ข่ายท่มี ีความหลากหลาย ให้สามารถติดต่อส่อื สารกันได้ทวั่ โลก โดย อาศยั เครอื ขา่ ยโทรคมนาคมเป็นตวั เชอ่ื มเครอื ข่าย ภายใตม้ าตรฐานการเช่อื มโยงในการสอ่ื สาร ขอ้ มูลท่ีเรียกว่าโปรโตคอล โดยโปรโตคอลท่ีใช้บนอินเทอร์เน็ต คอื TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ทาใหเ้ กดิ การส่อื สารแลกเปลย่ี นขอ้ มูลไดร้ ะยะเวลาอนั สนั้ ซงึ่ ขอ้ มูลทส่ี ามารถใช้ในการตดิ ตอ่ ส่อื สารไดน้ ัน้ มอี ยู่หลายรูปแบบ (โอภาส เอยี่ มสริ วิ งศ์. 2547 : 284) คอมพิวเตอร์ทุกเคร่อื งท่สี ่ือสารบนอินเทอร์เน็ต จะมีหมายเลขประจาเคร่อื ง ทไ่ี ม่ซ้ากนั ซง่ึ เรยี กวา่ ไอพแี อดเดรส (Internet Protocol Address : IP Address) คอื หมายเลข ประจาตัวเคร่อื งเพ่ือจาแนกเคร่อื งในอินเทอร์เน็ตแต่ละเคร่อื ง อินเทอร์เน็ตใช้ไอพีแอดเดรส

99 เพ่อื ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และบอกตาแหน่งท่ตี งั้ ของเว็บไซต์ จงึ กาหนดช่อื เรยี กแทน ไอพีแอดเดรส ได้แก่ โดเมนเนม (Domain Name) เพ่ือให้ง่ายต่อการจดจาและใช้งาน ต่อมาได้ พัฒนาให้มีการเปล่ียนเลขไอพีแอดเดรส ให้กลายเป็ นช่ือท่ีอยู่ท่ีเป็ นข้อความใช้กาหนด ช่อื คอมพวิ เตอร์ ช่อื เครอื ขา่ ย ช่อื ประเทศ ซง่ึ เรยี กระบบน้ีว่าระบบช่อื โดเมน (Domain Name System : DNS) ขน้ึ เชน่ k u . a c . t h ku = ชอ่ื ของคอมพวิ เตอร์ (Server) (ระดบั องคก์ ร) ac = อยู่ในเครอื ขา่ ยประเภทการศกึ ษา (ระดบั เครอื ขา่ ย) th = เครอื ขา่ ยน้อี ย่ใู นประเทศไทย (ระดบั ประเทศ) ระบบช่อื โดเมนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต บอกถึงประเภทของหน่วยงานหรอื องค์กร แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ดงั น้ี ชื่อโดเมน ประเภทของหน่วยงานหรอื องคก์ ร ความหมาย .com / .co Commercial ธรุ กจิ การคา้ /พาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ .edu / .ac Education/Academy การศกึ ษา/สถาบนั การศกึ ษา .gov / .go Government หน่วยงานรฐั บาล .mil / .mi Military หน่วยงานทหาร .net Network หน่วยงานทใ่ี หบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ย .org / .or Organization องคก์ รทไ่ี มแ่ สวงหากาไร .int / .in International องคก์ รระหว่างประเทศ ในปัจจุบันการเติบโตของอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงมีการประกาศใช้ ชอ่ื โดเมนเพม่ิ เตมิ อกี เช่น ช่ือโดเมน ประเภทของหน่วยงานหรอื องค์กร ความหมาย .biz Businesses องคก์ ารธรุ กจิ .info Information Services หน่วยงานใหบ้ รกิ ารขอ้ มูลขา่ วสาร .museum Accredited Museums พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละผเู้ ชย่ี วชาญทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

100 2. วตั ถปุ ระสงคใ์ นการใช้อินเทอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นแหลง่ บรกิ ารสารสนเทศทม่ี คี วามหลากหลาย การเขา้ ใช้บรกิ าร เพ่อื คน้ หาขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ จงึ มวี ตั ถุประสงค์ ดงั น้ี 2.1 เพ่ือการติดต่อส่อื สาร (Communication) เป็นกิจกรรมท่นี ิยมใช้กนั มาก ทส่ี ุด เชน่ การใชจ้ ดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การสนทนาผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต 2.2 เพ่อื ข้อมูลข่าวสาร (Information) เป็นการสบื ค้นสารสนเทศจานวนมาก ผา่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) 2.3 เพอ่ื ความบนั เทงิ (Entertainment) เช่น การดูหนัง ฟังเพลง การใชเ้ ล่นเกม คอมพวิ เตอร์ 2.4 เพ่ือการประกอบธุรกิจ (E-Commerce) เป็นการเลือกซ้ือสินค้าหรอื บรกิ าร และบรกิ ารชาระเงนิ ผา่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2.5 เพอ่ื การศกึ ษา (E-Learning) เป็นการศกึ ษาผา่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกสห์ รอื การ เรยี นบทเรยี นออนไลน์ต่าง ๆ หลกั การสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ นต็ มปี ระโยชน์และเป็นเคร่อื งมอื ทส่ี าคญั ตอ่ การสบื คน้ ขอ้ มลู เป็นอยา่ งมาก เน่ืองจากมเี ครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตท่มี ีขอ้ มูลจานวนมากมายและหลากหลาย ถูกเกบ็ บนั ทกึ ไวใ้ น คลงั ขอ้ มูลของระบบคอมพวิ เตอรต์ ่าง ๆ ทเ่ี ช่อื มต่อกนั เป็นเครอื ขา่ ยทวั่ โลก บรกิ ารการสบื ค้น ขอ้ มูลทไ่ี ดร้ บั ความนิยมอยา่ งมากบนอนิ เทอรเ์ น็ต ไดแ้ ก่ การสบื ค้นสารสนเทศบนเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web : WWW) ท่ีสามารถค้นหาและส่งผ่านข้อมูลในลกั ษณะของส่อื มลั ติมเี ดีย ปฏสิ มั พนั ธ์ (Interactive Multimedia) ทส่ี ามารถมองเหน็ รูปภาพหรอื ภาพเคล่อื นไหวและโตต้ อบ กนั ได้ทนั ที ทงั้ ในลกั ษณะของขอ้ ความหรอื เสยี ง สถาบนั การศกึ ษาต่าง ๆ จงึ ได้มกี ารเช่อื มต่อ การใชง้ านในระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ไวใ้ ชใ้ นหอ้ งสมดุ ดว้ ย เคร่อื งมอื ช่วยคน้ สารสนเทศบนเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ เรยี กวา่ เสริช์เอน็ จิน (Search Engine) ปัจจุบนั มเี วบ็ ไซต์ (Web Site) ท่เี ป็นเคร่อื งมอื ช่วยค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ตอยู่มากมาย ได้แก่ Yahoo, Alta Vista, Excite Search เป็นต้น ซึ่งเป็นการสืบค้นในหมวดภาษาอังกฤษ เครอ่ื งมอื ช่วยคน้ สารสนเทศบนอินเทอรเ์ น็ต ในหมวดภาษาไทยของประเทศไทยกเ็ รม่ิ จะมมี ากข้นึ เช่น Sanook, Siamguru, Bangkok Search, Thai Search, Siam Inside เป็นต้น เน้ือหาหรอื ข้อมูลท่ีได้จะอยู่ในวงแคบ เน่ืองจากความรู้ใหม่หรือความรู้ท่ีเป็ นสากลมักจะเป็ นของ ต่างประเทศ หรอื แม้ว่าหากเป็นของคนไทยเองกจ็ ะนิยมเขยี นเป็นภาษาองั กฤษ และนาลงใน เว็บท่เี ป็นสากลเพ่อื เผยแพร่ความรู้ให้กว้างขวางและเป็นสากลมากข้นึ อย่างไรก็ตามการใช้

101 เคร่อื งมอื สบื คน้ สารสนเทศเหล่าน้ี อาจใหผ้ ลทต่ี รงกบั ความต้องการและไมต่ รงกบั ความตอ้ งการ ผใู้ ชค้ วรศกึ ษารายละเอยี ดและขอ้ ดขี อ้ เสยี ของเคร่อื งมอื ช่วยคน้ ทรพั ยากรสารสนเทศ เพ่อื ทจ่ี ะได้ ใชเ้ วลาในการสบื คน้ สารสนเทศไดต้ รงกบั ความตอ้ งการ และประหยดั เวลาใหม้ ากทส่ี ดุ เสริช์เอ็นจินแต่ละโปรแกรม มีลักษณะท่ีแตกต่างกันออกไป ข้ึนอยู่กับศูนย์ ท่ีให้บริการว่าจดั เก็บสารสนเทศในลักษณะใด แต่โดยมากจะมีวิธีการสืบค้นสารสนเทศ ท่ใี กลเ้ คยี งกนั เน่ืองจากเสรชิ เ์ อน็ จนิ เป็นโปรแกรมพเิ ศษ ทช่ี ่วยคน้ หาตาแหน่งของสารสนเทศ โดยการคน้ หาขอ้ มูล ตอ้ งระบหุ วั ขอ้ และคาสาคญั ท่เี กยี่ วขอ้ งกบั ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการค้นหามากทส่ี ุด การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยเสรชิ เ์ อน็ จนิ แบง่ ได้ 3 รปู แบบ คอื 1) สืบค้นโดยคาสาคัญ (Keyword Index) เป็ นการค้นหาสารสนเทศจาก ฐานข้อมูลดรรชนี โดยใช้คาสาคญั ไปเปรยี บเทยี บดรรชนีฐานขอ้ มูลอินเทอร์เน็ต ผลจากการ คน้ หาจะไดเ้ วบ็ ไซต์ทม่ี ขี อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หรอื มกี ารใชค้ าซา้ กนั ถกู เลอื กขน้ึ มาก่อน เหมาะสาหรบั การค้นหาขอ้ มูลทวั่ ไป โดยไม่เน้นเน้ือหาท่จี ะได้ โปรแกรมค้นหาลักษณะน้ี เช่น Alta Vista, Excite, Look Smart, Lycos และ Northern Light เป็นตน้ ภาพท่ี 5.2 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์ทใ่ี ชส้ บื คน้ ดว้ ยคาสาคญั ทม่ี า : http://www.altavista.com 2) สืบค้นโดยสารบบเร่ือง (Subject Directory) เป็นการคน้ หาขอ้ มูลท่ีมกี ารจดั เกบ็ และวเิ คราะห์ขอ้ มูลเป็นหมวดหม่ตู ามหวั เร่อื ง มลี าดบั ความน่าสนใจ ผลจากการค้นจะไดร้ ายช่อื เวบ็ ไซต์ท่มี สี ารสนเทศทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ความตอ้ งการรวมทงั้ คาอธบิ าย เหมาะสาหรบั การคน้ หา ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการความแมน่ ยา ในการเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มูล เช่น Yahoo, InfoSeek, Sanook, Siam Inside และ Net Center เป็นตน้

102 ภาพท่ี 5.3 ตวั อย่างเวบ็ ไซตท์ ใ่ี ชส้ บื คน้ คาดว้ ยหวั เรอ่ื ง ทม่ี า : http://www.yahoo.com 3) สืบค้นโดยเคร่ืองมือช่วยค้นหลายชนิ ด (Meta Search Engine) เป็นเคร่อื งมือ ชว่ ยคน้ ทใ่ี ชค้ าสงั่ ค้นเพยี งครงั้ เดยี ว แล้วสามารถค้นไดจ้ ากเครอ่ื งมอื ประเภทเดยี วกนั หลายแห่ง ซึง่ ช่วยให้ผู้ใช้ได้รบั ความสะดวกมากข้นึ และเสียเวลาในการค้นหาน้อยลง ผลจากการค้นหา จะทาใหไ้ ดข้ อ้ มลู หลากหลายและแมน่ ยายง่ิ กว่า และยงั มคี วามสามารถพเิ ศษต่าง ๆ คอื สามารถ เช่ือมต่อไปยงั โปรแกรมช่วยค้นอ่ืน ๆ ได้ด้วย เพ่ือช่วยกันดึงข้อมูลออกมาเหมาะสาหรับ การคน้ หาขอ้ มลู ทวั่ ๆ ไป เชน่ Google, Meta Crawlier และ All4One Search Engine เป็นตน้ ภาพท่ี 5.4 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์ทใ่ี ชส้ บื คน้ ดว้ ยเคร่อื งมอื ชว่ ยคน้ หลายชนิด ทม่ี า : http:// www.google.co.th

103 ตวั อย่าง เครอ่ื งมอื ช่วยคน้ สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ต กูเก้ิล (Google) เป็นเคร่อื งมือช่วยค้นท่ีได้รบั ความนิยมมากท่ีสุด โดยรองรบั ความต้องการจากผู้ใช้มากถึงร้อยล้านความต้องการต่อวนั ถ้าต้องการค้นหาเว็บเซิรฟ์ เวอร์ (Web Server) บนอินเทอร์เน็ต 45 ล้านเคร่อื ง จากความต้องการทัง้ หมดแบบทันเวลาใน สภาวะท่มี ผี ูใ้ ชช้ ่องทางส่อื สารข้อมลู บนอนิ เทอร์เนต็ เป็นจานวนมาก จะทาใหก้ ารคน้ หาเวบ็ ไซต์ ในขณะนนั้ ทาไดล้ า่ ชา้ กเู กล้ิ จงึ สรา้ งกลไกทท่ี าหนา้ ทเ่ี ขา้ ไปสารวจเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ตามระยะเวลา ทก่ี าหนด แลว้ ดงึ ขอ้ มลู มาเกบ็ ไวใ้ นฐานขอ้ มูลของกเู กล้ิ การค้นหาข้อมูลด้วยกูเก้ิลให้เข้าไปท่ี http://www.google.co.th ซ่ึงเป็นกูเก้ิลใน ประเทศไทย สามารถกาหนดคาคน้ หาเป็นภาษาไทยหรอื ภาษาองั กฤษได้ และคลกิ ปุ่ม “คน้ หา โดย Google” บนหนา้ จอหลกั ของเวบ็ ไซต์ ภาพท่ี 5.5 ตวั อยา่ งหน้าจอหลกั ของ Google ประเทศไทย ทม่ี า : http://www.google.co.th ภาพท่ี 5.6 ตวั อยา่ งหนา้ จอการคน้ หาขอ้ มลู โดยพมิ พค์ าทต่ี อ้ งการคน้ หา เช่น “ภาวะโลกรอ้ น” ทม่ี า : http://www.google.co.th

104 ภาพท่ี 5.7 ตวั อย่างหน้าจอแสดงผลลพั ธจ์ ากการคน้ หา “ภาวะโลกรอ้ น” ทม่ี า : http://www.google.co.th บริการบนอินเทอรเ์ น็ต การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะใช้หลักการแบบผู้ขอใช้บริการและผู้ให้บริการ หรือ ท่เี รยี กว่า แบบไคลเอนต์เซิรฟ์ เวอร์ (Client Server) ทาให้อินเทอร์เน็ตมกี ารให้บรกิ ารต่าง ๆ มากมาย ผู้ใช้บรกิ ารสามารถเรียกใช้บริการเหล่าน้ีจากระยะไกลได้ เครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต จงึ เป็นเครอื ข่ายท่ไี ม่ขน้ึ กบั ระยะทาง แมว้ ่าผู้ใช้บรกิ ารจะอยู่คนละซีกโลกก็เหมอื นอยู่ใกล้กนั และมีระบบการทางานเป็นแบบโลกาภิวฒั น์ คือ สามารถติดต่อถึงกันได้ทวั่ โลก บรกิ ารบน อินเทอร์เน็ตมีหลายประเภท เพ่ืออานวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้เลอื กใช้ให้เหมาะสมกับ ลกั ษณะงาน ซง่ึ ในทน่ี ้จี ะขอยกตวั อย่างบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ทส่ี าคญั ดงั น้ี 1. บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mali หรือ E-mail) หมายถึง การรับส่ง จดหมายทางอิเล็กทรอนิกส์โดยผ่านเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) ไปยงั ผู้ใด กไ็ ดใ้ นทกุ มุมโลกทม่ี อี ยบู่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ภาพท่ี 5.8 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารรบั ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทม่ี า : http://www.hotmail.com

105 2. บริการข้อมูลข่าวสารและการขนถ่ายแฟ้มข้อมูล (File Transfer Protocol หรือ FTP) หมายถึง บรกิ ารการถ่ายโอนแฟ้มขอ้ มูลท่ผี ู้ใชอ้ ินเทอร์เน็ต สามารถแลกเปลย่ี นขอ้ มูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ขอ้ มูลตวั หนังสอื รูปภาพ เสียง วดี ีโอ หรอื โปรแกรมต่าง ๆ ท่ตี ้องการมายงั เคร่อื งคอมพวิ เตอรข์ องตนเองได้ ภาพท่ี 5.9 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตท์ ใ่ี หบ้ รกิ ารถ่ายโอนแฟ้มขอ้ มูล ทม่ี า : http://www.thaiall.com 3. บริการโปรแกรมบนอินเทอร์เน็ต มีโปรแกรมให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด (download) จากอนิ เทอรเ์ น็ตมาใช้ได้ฟรี โดยจะเรยี กโปรแกรมเหล่าน้ีว่า ฟรีแวร์ (Freeware) นอกจากน้ียงั มโี ปรแกรมประเภทแชรแ์ วร์ (Shareware) ซง่ึ สามารถทดลองใชไ้ ด้ก่อน ถา้ พอใจ จงึ จะตดิ ตอ่ ขอซอ้ื หรอื ขอรบั รหสั การใชง้ านแบบเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ภาพท่ี 5.10 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารดาวน์โหลดโปรแกรมมาใชง้ านได้ ทม่ี า : http://www.games.narak.com

106 4. บรกิ ารสนทนาผ่านเครอื ขา่ ย เป็นบรกิ ารทใ่ี ชว้ ธิ กี ารส่อื สารออนไลน์คลา้ ยคลงึ กบั อเี มล์ แต่สามารถสอ่ื สารถงึ กนั ไดร้ วดเรว็ กว่าดว้ ยการพมิ พโ์ ตต้ อบกนั ไดใ้ นทนั ที ภาพท่ี 5.11 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตท์ ใ่ี ชส้ นทนาโตต้ อบกนั ได้ ทม่ี า : http://www.thaiaseanhomeworkers.org/thai/images/stories/1Msn_HWs.jpg 5. บรกิ ารพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมริ ์ช (E-Commerce) คือ การทา ธุรกรรมผ่านส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ ในทุก ๆ ช่องทางท่เี ป็นอเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น การซ้อื ขายสนิ ค้า และบรกิ าร การโฆษณาผ่านส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นต้น ซ่งึ สมาชกิ สามารถสงั่ ซ้ือของหรอื เรยี กใช้ บรกิ ารตา่ ง ๆ บนอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ ภาพท่ี 5.12 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตร์ า้ นคา้ ออนไลน์ทอ่ี ยู่บนอนิ เทอรเ์ น็ต ทม่ี า : http://www.happymcu.com 6. บริการค้นหาแฟ้ มข้อมูลและฐานข้อมูล อินเทอร์เน็ตเป็ นระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ มแี ฟ้มขอ้ มูลและฐานขอ้ มูลไว้บรกิ ารจานวนมาก จงึ จาเป็นตอ้ งมรี ะบบ หรือโปรแกรมเพ่ือช่วยในการค้นหาแฟ้ มข้อมูลและฐานข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เป็นเคร่อื งมือช่วยค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตท่ีได้รบั ความนิยมจากผู้ใช้บรกิ าร เช่น Google, Yahoo, Alta Vista, Excite เป็นตน้

107 ภาพท่ี 5.13 ตวั อย่างเวบ็ ไซตท์ ใ่ี หบ้ รกิ ารคน้ หาแฟ้มขอ้ มลู และฐานขอ้ มลู ทม่ี า : http://www.altavista.com แหลง่ ข้อมูลบนอินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ท่ีมีสารสนเทศทุกประเภท จดั เก็บอยู่ มากมาย และเป็นแหล่งให้บริการต่าง ๆ ใช้แลกเปล่ียนข้อมูล ข่าวสารทางด้านการศึกษา การวจิ ยั และค้นควา้ ต่าง ๆ กลายเป็นช่องทางให้ผู้ใชไ้ ด้ส่อื สารแลกเปล่ยี นขอ้ มูลกันอย่างอิสระ และยงั ใช้อินเทอรเ์ น็ตในการทากิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา และบคุ คลทวั่ ไป ตวั อยา่ งเชน่ 1. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Journal) หรือ (E-Journal) คือ วารสารท่ี ผู้ใช้บรกิ ารสามารถเข้าถึงหรืออ่านวารสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถอ่านได้โดย ไม่ต้องเสยี ค่าใช้จ่ายบนระบบอินเทอร์เน็ต หรอื วารสารท่หี ้องสมุดต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใน การบอกรบั เป็นสมาชกิ และสามารถใช้งานหรอื เปิดอ่านไดจ้ ากคอมพวิ เตอร์ภายในห้องสมุด เช่น Asia Week เป็นนิตยสารข่าวรายสปั ดาห์ หรอื Business Week Online เป็นวารสารทาง ธรุ กจิ ออนไลน์ เป็นตน้ ภาพท่ี 5.14 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารวารสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี า : http://www.time.com/time/magazine/asia/

108 2. ฐานขอ้ มูลเชงิ พาณิชย์ (Commercial Database) หมายถงึ ฐานขอ้ มูลในสาขาวชิ า ตา่ ง ๆ ท่หี ้องสมุดบอกรบั เป็นสมาชกิ หรอื ผู้ใช้จะต้องจา่ ยเงนิ เพ่อื ใช้ซ้อื เขา้ ถงึ ขอ้ มูลนนั้ ๆ จาก บริษัทผู้ให้ข้อมูล ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์อาจอยู่ในรูปของซีดีรอมหรือฐานข้อมูลออนไลน์ ซง่ึ ตอ้ งจา่ ยค่าเช่าหรอื ค่าธรรมเนียมในการผ่านหรอื ขอรหสั ผ่านเขา้ ไปยงั ฐานขอ้ มลู นัน้ ๆ ผ่าน เครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต เช่น ฐานขอ้ มูลวทิ ยานิพนธ์ของมหาวทิ ยาลยั ในต่างประเทศ ฐานขอ้ มูล ดา้ นการศกึ ษา เป็นตน้ ภาพท่ี 5.15 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตท์ ใ่ี หบ้ รกิ ารฐานขอ้ มลู เชงิ พาณิชย์ ทม่ี า : http://portal.acm.org/dl.cfm 3. เวบ็ ไซต์ของสถาบัน องค์กร บริษัท หรือหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีสามารถเข้าไป คน้ หาขอ้ มูลเพอ่ื ศกึ ษาหาความรไู้ ด้ ภาพท่ี 5.16 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตข์ องกรมควบคมุ โรคกระทรวงสาธารณสขุ ทม่ี า : http://www.ddc.moph.go.th 4. เวบ็ ไซต์ทม่ี รี ะบบคน้ หาขอ้ มูล หรอื เป็นเคร่อื งมอื ช่วยค้นในอนิ เทอรเ์ น็ต ทช่ี ่วย คน้ หาตาแหน่งของสารสนเทศ โดยการค้นหาขอ้ มลู ตอ้ งระบหุ วั ขอ้ และคาสาคญั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการคน้ หามากทส่ี ดุ

109 ภาพท่ี 5.17 ตวั อย่างเวบ็ ไซตท์ ม่ี รี ะบบคน้ หาขอ้ มูลในลกั ษณะใกลเ้ คยี งกบั กเู ก้ลิ ทม่ี า : http://search.pantip.com 5. หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Book) หรอื (E-Book) คอื หนงั สอื ทส่ี ามารถอ่าน ผ่านอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ มลี กั ษณะเดน่ สามารถแสดงผลดว้ ยภาพ เสยี งและภาพเคล่อื นไหวได้ ภาพท่ี 5.18 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตท์ ใ่ี หบ้ รกิ ารหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทม่ี า : http://www.thaiebook.org 6. บทเรยี นออนไลน์ (E-Learning) เป็นระบบการเรยี นการสอนโดยผ่านเครอื ขา่ ย อนิ เทอรเ์ น็ตและเป็นทน่ี ยิ มใชใ้ นสถานศกึ ษาต่าง ๆ ภาพท่ี 5.19 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์ทม่ี รี ะบบการเรยี นการสอนผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ทม่ี า : http://learning.lbtech.ac.th

110 7. วทิ ยุเพ่ือการศกึ ษาและพัฒนาอาชีพ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นแหล่งความรู้ในระบบออนไลน์ โดยการเช่อื มโยงระบบกับวทิ ยุเพ่อื การศกึ ษาและพฒั นา อาชพี เสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั เน้อื หาหรอื บทเรยี นรายวชิ าตา่ ง ๆ ภาพท่ี 5.20 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์วทิ ยุเพอ่ื การศกึ ษาและพฒั นาอาชพี ทม่ี า : http://r-radio.vec.go.th 8. สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นแหล่งขอ้ มูล ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละดา้ นเทคโนโลยี เชน่ ดาราศาสตร์ เป็นตน้ ภาพท่ี 5.21 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทม่ี า : http://www3.ipst.ac.th/index2.php 9. กองทนุ เงนิ ใหก้ ยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา (กยศ.) เป็นองคก์ รการเงนิ เพอ่ื สรา้ งโอกาสทาง การศกึ ษา ใหแ้ กเ่ ยาวชนไทยทข่ี าดแคลนทนุ ทรพั ยใ์ นการเรยี น

111 ภาพท่ี 5.22 ตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์กองทนุ ใหก้ ยู้ มื เพ่อื การศกึ ษา (กยศ.) ทม่ี า : http://www.studentloan.or.th/index.php 10. ศูนย์กาลังคนอาชีวศึกษา เป็ นศูนย์กลางการติดต่อประสานงานระหว่าง สถานศกึ ษากบั สถานประกอบการ ในการค้นหาขอ้ มูลของผู้สาเรจ็ การศกึ ษาด้านอาชวี ศกึ ษา ทวั่ ประเทศ และข้อมูลเกี่ยวกับการหางาน การสมัครงาน ทงั้ งานราชการและรฐั วิสาหกิจ ตาแหน่งงานว่าง รวมทงั้ ขา่ วสารอาชวี ศกึ ษา ภาพท่ี 5.23 ตวั อย่างเวบ็ ไซต์ศูนยก์ าลงั คนอาชวี ศกึ ษา ทม่ี า : http://www.v-cop.net การกรอกขอ้ มูลเข้าสศู่ นู ยก์ าลงั คนอาชีวศึกษา ก่อนจบการศึกษา นักศึกษาจะต้องกรอกข้อมูลของนักศึกษาเข้าสู่ระบบศูนย์ กาลงั คนอาชวี ศกึ ษา ซง่ึ ประโยชน์ทน่ี กั เรยี นนักศกึ ษาจะไดร้ บั มดี งั น้ี 1. ค้นหารายละเอยี ดของสถานประกอบการประเภทต่าง ๆ ท่ตี อ้ งการจ้างงานใน พน้ื ท่ี ทงั้ การทางานแบบเตม็ เวลาและการทางานระหว่างเรยี น

112 2. นาเสนอรายละเอียดขอ้ มูลส่วนบุคคล เพ่อื ให้สถานประกอบการพิจารณาเข้า ทางานผ่านระบบเครอื ขา่ ย www.v-cop.net โดยสามารถทาการบนั ทกึ ขอ้ มูลและใช้บรกิ ารจาก ระบบดงั กล่าว ศนู ยก์ าลงั คนอาชวี ศกึ ษาจะชว่ ยใหน้ กั ศกึ ษาอาชวี ะเรยี นอย่างมเี ป้าเหมายในชวี ติ โดยรวบรวมประวตั กิ ารศกึ ษา การทางาน ประสบการณ์ตา่ ง ๆ 3. คน้ หาแหลง่ ฝึกงาน เรยี นรสู้ ถานประกอบการ 4. สรา้ งความคนุ้ เคยกบั โลกอาชพี ล่วงหน้าก่อนสาเรจ็ การศกึ ษา วิธีการกรอกข้อมลู ของนกั ศึกษาเข้าส่รู ะบบศนู ยก์ าลงั คนอาชีวศกึ ษา วธิ กี ารกรอกรายละเอยี ดขอ้ มูลของนักศกึ ษา มขี นั้ ตอนดงั น้ี ขนั้ ตอนท่ี 1 เขา้ เวบ็ ไซต์ศนู ยก์ าลงั คนอาชวี ศกึ ษา (www.v-cop.net) ขนั้ ตอนท่ี 2 คลกิ ท่ี นกั ศกึ ษาปรบั ปรงุ Resume และหางาน ขัน้ ตอนท่ี 3 นักศึกษาท่ียังไม่เคยกรอกข้อมูลเลย ให้คลิกท่ี ลืมรหัสผ่าน / นักศึกษาท่ีทาการ Login ครงั้ แรก และทาการกรอกข้อมูลตรง สาหรบั นักศึกษาท่ีลืม รหสั ผ่าน เสรจ็ แลว้ คลกิ ตกลง ทห่ี น้าจอจะปรากฏว่า “ขอ้ มลู ของท่านอยู่ในระบบ ท่านสามารถ

113 เขา้ ใชง้ านระบบได”้ ใหค้ ลกิ ท่ี Login เข้าสู่ระบบได้ ในกรณที ห่ี น้าจอปรากฏว่า “ไมพ่ บ ขอ้ มูล การลงทะเบยี นของท่านโปรดตรวจสอบกบั ทางสถาบนั การศกึ ษาของท่านใหม่ !” ให้นักศกึ ษา ติดต่อผู้ประสานงานศูนย์กาลังคนของสถานศกึ ษา (งานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ) เพ่ือขอรบั Username และ Password ใหม่ ขัน้ ตอนท่ี 4 เม่ือสามารถเข้าสู่ระบบได้ หน้าจอจะปรากฏ หน้ าหลัก / หางาน ให้ ตรวจสอบตรงผู้ใชร้ ะบบกอ่ นวา่ ช่อื ตรงกบั ช่อื เราหรอื ไม่ และทาการกรอกขอ้ มลู ทางเทคนคิ แลว้ คลกิ ท่ี บนั ทึก/แกไ้ ข ขนั้ ตอนท่ี 5 คลิกท่ี แก้ไขประวตั ิ Resume และทาการกรอกข้อมูลทุกส่วนให้ ถูกต้องและครบถ้วน (ขอ้ มูลส่วนตัว, ข้อมูลการติดต่อ, ข้อมูลทวั่ ไป, ประวตั ิการศึกษา และ อ่นื ๆ) จากนัน้ คลกิ ท่ี บนั ทึก/แก้ไข ขอ้ มูลทุกส่วน หากมกี ารแกไ้ ขขอ้ มูลตอ้ งคลกิ ท่ี บนั ทึก/ แก้ไข ทุกส่วนทแ่ี กไ้ ขขอ้ มลู ดว้ ยเช่นกนั

114 ขนั้ ตอนท่ี 6 คลกิ ท่ี แนบรปู ถา่ ย เพ่อื ใชร้ ปู ถา่ ยประกอบการสมคั รงาน

115 ขนั้ ตอนท่ี 7 เมอ่ื ทาการกรอกขอ้ มลู ทุกส่วนครบถว้ น หรอื แกไ้ ขขอ้ มลู เรยี บรอ้ ยแล้ว คลกิ ท่ี แสดงผล Resume เพอ่ื ตรวจสอบความถูกตอ้ ง การคดั เลือกแหลง่ ข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต เม่อื ต้องการแหล่งสารสนเทศจากเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต ซงึ่ เปรยี บเสมอื นหอ้ งสมุด ท่มี ีขนาดใหญ่ท่สี ุดในโลก และมฐี านขอ้ มูลจานวนมากท่ีให้บรกิ ารข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ดงั นัน้ เม่อื ตอ้ งการค้นหาและนาขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ น็ตมาใชอ้ า้ งอิงประกอบในการทารายงาน หรอื ผลงานในดา้ นวชิ าการ จงึ ตอ้ งมกี ารคดั เลอื กแหล่งขอ้ มูล เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลทม่ี คี วามถูกต้อง ซง่ึ มหี ลกั เกณฑใ์ นการพจิ ารณาดงั น้ี 1. ความถูกต้องของเน้ือหา มีการค้นคว้าอ้างอิงตามรูปแบบและมาตรฐานทาง วชิ าการ เน้อื หามคี วามทนั สมยั มกี ารปรบั ปรุงขอ้ มลู อย่างสมา่ เสมอ และขอ้ มูลเป็นปัจจุบนั

116 2. ความน่าเช่อื ของผูเ้ ขยี น หรอื ผู้จดั ทาขอ้ มูลในเวบ็ ไซต์ โดยสงั เกตจากการระบุ ช่อื และนามสกุล คุณวุฒิ ตาแหน่ง หรือเป็นผู้มีประสบการณ์เก่ียวกบั เน้ือหานาเสนอข้อมูล หรอื เป็นหน่วยงาน สถาบนั ทร่ี บั ผดิ ชอบในเรอ่ื งนนั้ โดยตรง 3. มีการตรวจสอบข้อมูลเบ้ืองต้นโดยหน่วยงานท่ีเช่ือถือได้ โดยสังเกตจาก ช่อื เวบ็ ไซต์ และกลุ่มโดเมนเนม ถ้าเป็นเวบ็ ไซต์ของหน่วยงานทางราชการจะมีการตรวจสอบ ขอ้ มูลก่อนนาเสนอในเวบ็ ไซต์ จะทาใหม้ คี วามน่าเชอ่ื ถอื มากขน้ึ ข้อดี ข้อเสียและข้อจากดั ของระบบอินเทอรเ์ น็ต ในยุคเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ท่ีก้าวไกลทาให้คนเราใช้ประโยชน์จากเครือข่าย อนิ เทอรเ์ น็ตได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมในทุกด้าน ผูใ้ ชส้ ามารถทจ่ี ะเขา้ ถึงสารสนเทศ ท่มี ีอยู่มากมายและการบรกิ ารในรูปแบบของสาธารณะ ซ่ึงระบบอินเทอร์เน็ตมที งั้ ขอ้ ดที ่เี ป็น ประโยชน์และขอ้ เสยี และขอ้ จากดั ในการใชง้ าน ดงั น้ี ขอ้ ดี 1. ใช้ในการค้นคว้าข้อมูลในลักษณะต่าง ๆ เช่น งานวิจัย บทความได้จาก แหล่งข้อมูลทวั่ โลกไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดสถานศึกษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและไม่ต้อง เสยี เวลาในการเดนิ ทาง และยงั สามารถเขา้ ไปหาขอ้ มลู ไดต้ ลอด 24 ชวั่ โมง 2. สามารถติดตามความเคลอ่ื นไหวของสถานการณ์ต่าง ๆ ทวั่ โลกไดอ้ ย่างรวดเรว็ จากการรายงานของสานกั ขา่ วตา่ ง ๆ 3. สามารถรบั ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากทวั่ โลกไดอ้ ย่างรวดเร็ว โดยไม่ตอ้ ง เสยี ค่าซองจดหมาย ค่าแสตมป์ หรอื ค่าลงทะเบียน แม้จะเป็นการส่งขอ้ ความไปต่างประเทศ ไม่ต้องเสยี เงนิ เพมิ่ เหมอื นการส่งจดหมาย จะเสยี ก็เพยี งค่าโทรศพั ทท์ ่ใี ช้ในการหมุนเขา้ ระบบ อนิ เทอรเ์ นต็ เทา่ นนั้ 4. สามารถสนทนากบั ผอู้ น่ื ทอ่ี ยหู่ ่างไกลได้ ทงั้ ในลกั ษณะการพมิ พข์ อ้ ความโตต้ อบ กนั และการพดู คยุ 5. สามารถเขา้ ร่วมกลุ่มอภิปราย หรือกลุ่มข่าว เพ่อื แสดงความคดิ เหน็ หรอื พูดคุย ถกปัญหากบั ผทู้ ส่ี นใจในเรอ่ื งเดยี วกนั ซงึ่ เป็นการขยายวสิ ยั ทศั น์ในเร่อื งทส่ี นใจนนั้ ๆ 6. สามารถถ่ายโอนโปรแกรม แฟ้มขอ้ ความ ภาพกราฟิก ภาพเคล่อื นไหวจาก เวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารได้ 7. สามารถตรวจดูราคาสนิ ค้าและสงั่ ซ้อื สนิ คา้ รวมทงั้ บรกิ ารต่างๆ ได้โดยไม่ตอ้ ง เสยี เวลาเดนิ ทางไปหา้ งสรรพสนิ คา้ 8. ให้ความบันเทงิ หลากหลายรูปแบบ เช่น ฟังเพลง ดูรายการโทรทศั น์ผ่านทาง อนิ เทอรเ์ น็ต

117 9. สามารถตดิ ประกาศขอ้ ความต่าง ๆ ทต่ี อ้ งการใหผ้ อู้ ่นื ทราบไดอ้ ย่างทวั่ ถงึ 10. มเี สรภี าพในการส่อื สารทุกรปู แบบแก่บคุ คลทุกคน ข้อเสียและข้อจากดั 1. อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นขา่ ยงานคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่ ซึ่งไม่มใี ครเป็นเจา้ ของทุกคน สามารถสร้างเวบ็ ไซต์ หรอื ตดิ ประกาศโฆษณาขอ้ ความต่าง ๆ ไดท้ ุกเร่อื ง ซ่ึงขอ้ ความหรอื ประกาศบางอยา่ งนนั้ อาจเป็นขอ้ มูลทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง หรอื ไมไ่ ดร้ บั การรบั รองจากสถาบนั ทน่ี ่าเชอ่ื ถอื ซงึ่ ผอู้ ่านกค็ วรพจิ ารณาในเร่อื งทอ่ี า่ นนนั้ เป็นอยา่ งดดี ว้ ย 2. อนิ เทอร์เน็ตมโี ปรแกรมและเคร่อื งมอื ท่ชี ่วยในการทางานมากมาย เช่น การใช้ สถานีบริการเพ่ือเช่อื มโยงผู้ใช้บรกิ ารจานวนมาก (Internet Relay Chat หรือ IRC) ในการพูดคุย การใชจ้ ดหมายอิเล็กทรอนิกสใ์ นการรบั ส่งจดหมาย ดงั นัน้ ผู้ใชค้ วรทจ่ี ะทาการศกึ ษาวธิ กี ารใช้ งานโปรแกรมเหลา่ นนั้ ใหล้ ะเอยี ดเสยี กอ่ น จงึ จะสามารถนามาใชง้ านไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. นักเรยี นนักศกึ ษา และเยาวชน อาจจะเขา้ ไปในเวบ็ ไซต์ท่ีไม่เหมาะสมสาหรบั เดก็ และไมเ่ ป็นประโยชน์ หรอื ยวั่ ยทุ างอารมณ์ ทาใหเ้ ป็นอนั ตรายต่อตนเองและสงั คมได้ 4. เวบ็ ไซต์บางอย่างชกั จูงผู้อ่านไปในทางทไ่ี ม่ดี หรอื มกี ารลอ่ ลวงทาให้เส่อื มเสยี หรอื เขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพติด หรอื สงิ่ ผิดกฎหมาย เช่น การพนัน ดงั นัน้ ผู้ปกครองควรมี การแนะนา หรอื ดแู ลบตุ รหลานในการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตดว้ ย จริยธรรมในการใช้อินเทอรเ์ น็ตและอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 1. จริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต จรยิ ธรรมในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต คอื แนวทางในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งถกู ตอ้ ง และมีศีลธรรมมีความรู้สึกผิดชอบชัว่ ดี หรือใช้งานในส่ิงท่ีบุคคลในสงั คมยอมรบั กัน เพ่ือ ประโยชน์ในเชงิ สรา้ งสรรคท์ งั้ ต่อตนเองและสงั คม ในโลกปัจจุบนั ขอ้ มูลและสารสนเทศจานวนมากสามารถสบื ค้นได้อย่างสะดวก ผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตมที งั้ ขอ้ มูลทเ่ี ผยแพร่เป็นสาธารณะ และขอ้ มลู ทผ่ี ใู้ ชต้ อ้ งเสยี ค่าบรกิ าร และดว้ ยความสามารถของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ อ่ี านวยความสะดวกและรวดเรว็ ในการเขา้ ถงึ ข้อมูลสารสนเทศให้กับผู้ใช้น้ีเอง หลายคนจงึ เรม่ิ วิตกกังวลถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ทอ่ี าจถกู จดั เกบ็ และเปิดเผยโดยไม่มเี หตอุ นั ควร ตวั อย่างขอ้ มูลท่ไี ดร้ บั ผลกระทบจากความเป็น สว่ นบคุ คล เช่น ขอ้ ความในจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ถ่ี ูกควบคุมโดยผใู้ หบ้ รกิ าร หรอื ขอ้ มูลทผ่ี ใู้ ช้ ลงทะเบยี นในการเขา้ เยย่ี มชมเวบ็ ไซต์ เป็นตน้ เพ่อื ป้องกนั การละเมดิ สทิ ธคิ วามเป็นส่วนตวั ของ ขอ้ มูลและสารสนเทศ จงึ ควรจะตอ้ งระวงั การใหข้ อ้ มูล โดยเฉพาะการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตทม่ี กี ารระบุ ใหม้ กี ารลงทะเบยี นก่อนเขา้ ใชบ้ รกิ าร เชน่ ขอ้ มูลบัตรเครดติ หรอื เลขประจาตวั ประชาชน เป็นตน้

118 การกระทาทผ่ี ดิ จรยิ ธรรมในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต ไดแ้ ก่ 1.1 การเข้าไปดูขอ้ ความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการบนั ทึกข้อมูลใน เครอ่ื งคอมพวิ เตอรข์ องบคุ คลอน่ื โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต 1.2 การใช้เทคโนโลยีทางอินเทอรเ์ น็ต ในการติดตามความเคล่อื นไหวหรอื พฤตกิ รรมของบคุ คล ทาใหส้ ญู เสยี ความเป็นสว่ นตวั ถอื เป็นการกระทาทผ่ี ดิ จรยิ ธรรม 1.3 การเขา้ ใช้ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตในการขโมยขอ้ มูลหรอื เปลย่ี นแปลง แกไ้ ขขอ้ มูลของบคุ คลอน่ื 1.4 การใช้ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตในการทาใหผ้ ู้อ่นื ใหเ้ กิดความเสยี หาย เชน่ การเผยแพร่ภาพหรอื ขอ้ มลู ส่วนตวั ของบคุ คลอน่ื ลงในอนิ เทอรเ์ นต็ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต 2. อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ (Computer Crime) คอื การกระทาทฝ่ี ่าฝืนกฎหมาย โดยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือขอ้ มูลคอมพิวเตอร์เป็นเคร่อื งมอื เพ่อื วตั ถุประสงค์อันผิด กฎหมายและไรศ้ ลี ธรรม อาชญากรรมโดยการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเคร่อื งมือเกิดข้ึนได้หลายรูปแบบ เช่น การยกั ยอกทรพั ย์ การฉ้อฉล เช่น การโอนเงนิ จากบัญชเี งินฝากของผู้อ่ืนไปใช้ส่วนตัว การโจรกรรมข้อมูลหรอื ความลับของบริษัท การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึง การก่อกวนโดยกลุ่มแฮกเกอร์ (hacker) เช่น ไวรสั คอมพิวเตอร์ เป็นต้น จากประเด็นของ อาชญากรรมคอมพิวเตอรน์ ้ี ทาให้ต้องมกี ารเขม้ งวดเกยี่ วกับเร่อื งกฎหมายลขิ สทิ ธิ์ กฎหมาย ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา และหาแนวทางป้องกนั ทงั้ ทางดา้ นเทคนคิ และดา้ นศลี ธรรมตอ่ ไป สรปุ ท้ายบท เน่ืองจากอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นเสมอื นประตูสขู่ า่ วสารทเ่ี ชอ่ื มโยงไปยงั แหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทวั่ โลก การสบื ค้นขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอรเ์ น็ต เป็นเทคโนโลยีทพ่ี ฒั นาไดอ้ ย่างต่อเน่ือง ทาให้การสบื ค้นเป็นไปได้โดยง่ายสะดวก รวดเรว็ และประหยดั เวลา ทาให้ผู้ใช้สามารถเขา้ ถึง สารสนเทศตามท่ตี ้องการอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การสบื ค้นสารสนเทศหลากกลายวธิ ีโดยเฉพาะ การสบื ค้นสารสนเทศผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ตท่ไี ดร้ บั ความนิยมอย่างมากบนอินเทอรเ์ น็ต ได้แก่ ก า รสืบ ค้ น ส า ร ส น เท ศ บ น เวิล ด์ไ ว ด์เว็บ ส า ม า รถ ค้น ห า แ ล ะส่ ง ผ่ า น ข้อ มู ล ใน ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ส่อื มลั ตมิ เี ดยี ปฏสิ มั พนั ธ์ ทส่ี ามารถมองเหน็ รปู ภาพหรอื ภาพเคล่อื นไหว และโตต้ อบกนั ไดท้ นั ที ทงั้ ในลกั ษณะของขอ้ ความหรอื เสยี ง นอกจากนัน้ บรกิ ารต่าง ๆ บนอนิ เทอรเ์ น็ตทม่ี ใี หเ้ พ่อื ศกึ ษา คน้ คว้าและเพ่อื ความบันเทิงแลว้ อินเทอร์เน็ตมที งั้ ข้อดที ่เี ป็นประโยชน์ ขอ้ เสียและข้อจากดั ในการใชง้ าน รวมถงึ ควรทราบแนวทางในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างถกู ตอ้ งและมศี ลี ธรรมอกี ดว้ ย

119 กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารสบื คน้ ขอ้ มลู จากสารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ต 1. ใหน้ ักเรยี นฝึกปฏบิ ตั ิการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศจากเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต ตามหวั ขอ้ เร่อื งท่กี าหนดให้ เช่น ดาวเทยี มอุตุนิยมวทิ ยา, ดเี อน็ เอ (DNA), ฝนกรด (Acid Aain), เซลลต์ น้ กาเนิด (Stem Cell) เป็นตน้ 2. ใหน้ ักเรยี นค้นหาขอ้ มลู ตามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั จากอนิ เทอรเ์ น็ตโดยใชเ้ คร่อื งมอื ชว่ ยคน้ ใดกไ็ ด้ และทาการสบื คน้ ตามหวั เร่อื งทก่ี าหนดให้ 3. เม่อื ไดข้ อ้ มูลแล้ว ใหจ้ ดรายละเอยี ดของเร่อื งดงั กล่าว ลงในแบบฝึกปฏบิ ัติ และบอกขนั้ ตอนวิธีการสืบค้นในแต่ละขนั้ ตอนให้ถูกต้อง และบอกช่ือเว็บไซต์ผู้ให้ข้อมูล เร่อื งนนั้ ๆ ในเวบ็ ไซตใ์ หค้ รบถว้ น 4. ให้ผู้เรยี นฝึกปฏิบัติหาช่ือเว็บไซต์หลักของหน่วยงานท่ีกาหนดให้ผ่าน เคร่อื งมอื ช่วยคน้ ตามวธิ กี ารทไ่ี ด้เรยี นมาและจดช่อื เวบ็ ไซต์ของหน่วยงานนัน้ ๆ ลงในแบบฝึก ปฏบิ ตั ิ 5. เม่อื ผูเ้ รยี นทากิจกรรมได้ครบถว้ น ตรงตามวตั ถุประสงคจ์ งึ ผ่านกิจกรรมน้ี หากไมถ่ กู ตอ้ งจะไดร้ บั การชแ้ี จงและทาแบบฝึกปฏบิ ตั ใิ หม่

120 ตวั อยา่ ง แบบฝึกปฏบิ ตั กิ ารสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ นต็

121 แบบประเมินก่อนและหลงั การเรียนรู้ จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1. การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ใดทไ่ี ดร้ บั ความนิยมมากทส่ี ดุ ในปัจจบุ นั ก. เพ่อื การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ข. เพ่อื ขอ้ มูลขา่ วสาร ค. เพอ่ื การศกึ ษา ง. เพ่อื ความบนั เทงิ 2. เครือข่ายอินเทอร์เน็ตท่ีสามารถติดต่อส่ือสารกันได้ทวั่ โลก ใช้เทคโนโลยีข้อใด ในการ เช่อื มโยงเครอื ขา่ ย ก. โทรคมนาคม ข. โทรสาร ค. โทรศพั ท์ ง. โทรทศั น์ 3. การคน้ หาขอ้ มลู ท่มี กี ารจดั เก็บ และวเิ คราะหข์ อ้ มูลเป็นหมวดหมู่ ตามหวั เรอ่ื งท่เี วบ็ ไซต์ต่าง ๆ จดั ทาไว้ คอื การสบื คน้ ในรปู แบบใด ก. สบื คน้ โดยคาสาคญั ข. สบื คน้ โดยสารบบเรอ่ื ง ค. สบื คน้ โดยเครอ่ื งมอื ช่วยคน้ หลายชนดิ ง. สบื คน้ โดยเจาะจงแหลง่ ขอ้ มลู 4. การซ้อื ขายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต เรยี กวา่ อะไร ก. จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ข. พาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ค. ธนาคารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ง. บทเรยี นอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 5. ถา้ ตอ้ งการขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเกดิ พายุไซโคลน ควรเลอื กขอ้ มลู จากเวบ็ ไซตข์ องหน่วยงานใด ก. กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา ข. กรมธรณีวทิ ยา ค. กรมศลิ ปากร ง. กรมวชิ าการ

122 6. เวบ็ ไซต์ในขอ้ ใดทใ่ี หบ้ รกิ ารดา้ นธุรกรรมการเงนิ ผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต ก. E - Learning ข. E - Library ค. E - Shopping ง. E - Banking 7. บรกิ ารในขอ้ ใดไม่เกย่ี วขอ้ งกบั อนิ เทอรเ์ น็ต ก. การสบื คน้ ขอ้ มูลในหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี ข. การดูผลการเรยี นจากเวบ็ ไซต์วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ค. การยนื ความจานงของกยู้ มื เงนิ จากกองทนุ ใหก้ ยู้ มื เพ่อื การศกึ ษา ง. การเบกิ ถอนเงนิ จากเคร่อื งเบกิ เงนิ อตั โนมตั ิ 8. หน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบกากบั ดูแลการเผยแพร่ขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็ ของไทยคอื หน่วยงานใด ก. การสอ่ื สารแหง่ ประเทศไทย ข. กระทรวงคมนาคม ค. กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ ง. กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร 9. ขอ้ ใดเป็นเวบ็ ไซต์กองทนุ ใหก้ ยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา (กยศ.) ก. www.v-cop.net ข. www.studentloan.or.th ค. http : learning.lbtech.ac.th ง. http : r-radio.vec.go.th 10. การกระทาในขอ้ ใดจดั เป็นอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ ก. การเรยี กดูขอ้ มลู ในเวบ็ ไซต์ทไ่ี มเ่ หมาะสมกบั วยั ข. การอา่ นจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสข์ องบุคคลอน่ื ค. การโอนเงนิ จากบญั ชผี อู้ ่นื โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต ง. การเผยแพรข่ อ้ มลู เทจ็ ทาใหผ้ อู้ ่นื ไดร้ บั ความเสยี หาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook