รัก/ สามัคคี /การทำงาน /วัฒนธรรมที่ดีงาม

ลายธงชาติ ผ้ามัดย้อมตัวน้ีมีเรื่องเล่า....ลายของเส้ือตัวนี้ท่านท้ังหลายลอง พิจารณาดูว่าเหมือนกับอะไร ? เฉลยก็คือลายของธงชาติน้ันเอง ซ่ึงประกอบได้ด้วย สีแดง หมายถึง ชาติ สีขาว หมายถึง ศาสนา สีน้าเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ ซึ่งป้าด้าจะ ได้ยินและได้เห็นการเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติในเวลา 08.00 น. และเวลา 18.00 น. ของทุกวัน และป้าด้าเห็นว่าสังคมสมัยนี้คนไทยไม่ค่อยรักกันเหมือนดังก่อน ทะเลาะ โมโหง่าย เปน็ โรคซึมเศร้า มีข่าวการท้าร้ายกันทุกวัน ไม่เว้น แม้แต่เด็ก และผู้หญิง กระท่ังคนแก่ ดังนั้น ป้าด้าจึงมีแนวคิดและเกิดแรงบันดาลใจในการท้าเส้ือมัดย้อม “ลายธงชาติ” โดยน้าต้นแบบมา จากธงชาติของประเทศไทย บวกด้วยจิตวิญญาณและความรักที่มีต่อประเทศชาติของป้าด้า ป้ า ด้ า จึ ง ไ ด้ ส ร้ า ง ล า ย ข อ ง เ ส้ื อ มั ด ย้ อ ม ตั ว นี้ ขึ้ น ม า ด้ ว ย เ ห ตุ ผ ล ท่ี ว่ า “เราอยากให้คนไทยรกั กันเมื่อเห็นเสือ้ ตัวนี้”

ลายพระเสโท ลายน้ไี ดแ้ รงบันดาลใจมาจาก การที่ได้มองภาพในหลวงรัชกาลท่ี 9 ท่ีพระองค์ทรงงานอย่าง หนกั เพอ่ื ให้เหล่าประชาราษฎร์ พระองคส์ ุขสบาย น้าพระทัยของพระองค์หาท่ีสุดไม่ได้ พระองค์ทรงดาริเสมอ วา่ ทาอย่างไรใหป้ ระชาชนของพระองค์ มนี า้ มีไฟฟ้า มีประปาใช้ ทกุ คร้ังที่พระองค์เสด็จ พระองค์ทรงมีโครงการ อันเนอ่ื งมาจากพระราชดารติ ่างๆ มากมาย ในทุกๆครั้ง ที่ดูโทรทัศน์ก็ดี เห็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ก็ดี รูปในปฏิทินก็ดี พระองค์ท่านจะต้องมีกล้อง ถ่ายรูป สมุด ดินสอ เพื่อจดบันทึกเร่ืองราวต่างๆอยู่เสมอ และทุกครั้งท่ีพระองค์ทรงงาน ก็จะมีหยดพระเสโท ไหลออกมา หยดพระเสโท พระองคไ์ หลหยด ตรงไหน ภมู ิประเทศท่ีแห้งแล้ง ก็มีป่า มีฝน มีน้า มีประปา มีถนน มี ไฟฟ้า แกด้ ินเปร้ียว ดินเค็ม นา้ จดื นา้ เค็ม น้ากรอ่ ย ตลอด 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงงานอย่างหนัก เพ่ือให้ประชาชนของพระองค์ มีความเป็นอยู่ท่ีดี ไร้ความทุกข์ยาก ทุกสิ่งที่พระองค์ดาริ ดารัส มันฝ่ังแน่นอยู่ในใจคนไทยทุกคน คนไทยทกุ คนก็ล้วนอยู่ในสายตาพระองค์ เป็นหยดพระเสโท ท่ีแผ่ไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล จึงทาให้เป็นท่ีมาของ ลายผา้ มัดย้อม ลายพระเสโท

ลายบ๊ะจ่าง วันหนึ่งมีโอกาสได้ไปเดินตลาดจีน ชากแงว้ ซง่ึ เป็นตลาดเชิงวฒั นธรรมชาวจนี ไปเจอร้านขาย บ๊ะจ่างน่ารับประทาน เลยชวนแม่ค้าคุยจึงได้รู้ว่าเป็นช่ือ อาหารคาวของจีนชนิดหน่ึง แม่ค้ายังบอกถึงประเพณีการ ไหว้บ๊ะจ่างหรือขนมจ้างของชาวจีน ซ่ึงเป็นประเพณีความ เ ชื่ อ ร ะ ลึ ก ถึ ง ค ว า ม ศ รั ท ธ า ต่ อ ขุ น น า ง ท่ี มี ความซ่ือสัตย์ ทางานอย่างตรงไปตรงมา และมีความ จ ง รั ก ภั ก ดี ต่ อ ป ร ะ เ ท ศ ช า ติ เ ป่ี ย ม ด้ ว ย ค ว า ม รู้ ความสามารถอันสูงย่ิงแล้ว ก็ยังแฝงไปด้วยภูมิปัญญา ชาวบ้าน เพราะเทศกาลการไหว้ขนมบ๊ะจ่างในช่วงฤดูร้อน อาหารมักเก็บได้ไม่นาน เน่าเสียง่าย แต่บ๊ะจ่างที่ทาจากข้าว เหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานมากขึ้น อีกท้ังยังเป็นการ เสริมสร้าง ความสามัคคี ในการให้คนในครอบครัวอยู่ ร่วมกนั พรอ้ มหนา้ พรอ้ มตากันในช่วงเทศกาลด้วย บะ๊ จ่าง สรา้ งความคดิ ระดมจิต คดิ สรา้ งสรรค์ พร้อมใจกนั มดั ย้อม บันดาลใจ หลากสีสนั

ลายรงั ผึ้ง ปจั จบุ ันน้ำผ้ึงน้ำมำใช้ ประโยชน์อย่ำงแพรห่ ลำย ไมว่ ำ่ จะเป็นทำงโภชนำกำร หรอื ทำงกำรแพทยแ์ ละน้ำผง้ึ เปน็ ส่งิ ใหค้ วำมหวำน แรกๆของโลก วันหนง่ึ ขณะทป่ี ำ้ ดำ้ เดินดคู วำม เรียบรอ้ ย รอบตัวบ้ำนจงึ บังเอิญเห็นผง้ึ มำสร้ำง รงั ที่บ้ำน ปำ้ ดำ้ นึกถึงช่วงเวลำทผี่ งึ้ ตวั เล็กกวำ่ จะสรำ้ งรังผงึ้ ไดน้ ้ันใช้ควำมพยำยำมมำกขนำดไหน ป้ำด้ำจึงคิดท่ีจะท้ำลำยเสื้อ โดยออกแบบลำยรังผ้ึง ขึ้นมำ เพื่อสะท้อนถึงประโยชน์ของน้ำผ้ึงควำมพยำยำม ในกำรค่อยๆสร้ำงรังขึ้นมำทีละน้อยทีละน้อยและท่ีส้ำคัญ ป้ำด้ำคิดว่ำรังผ้ึงถือเป็นอีกหน่ึงส่ิงที่แสดงถึงควำมส้ำเร็จ ของผึ้ง มำจำกกำรทำ้ หนำ้ ทข่ี องตัวเองอย่ำงสมบูรณ์ เสอ้ื ลำยรงั ผ้งึ เป็นตวั แทนของกำรพยำยำม ทำ้ หน้ำทขี่ องตวั เองอย่ำงดีทส่ี ดุ เพ่อื ผลลพั ธอ์ ันงดงำม OOCC กศน.อาเภอสตั หีบ จังหวดั ชลบรุ ี

ลายแมงกะพรุน เป็นสัตว์ท่ีอาศัยอยู่ในน้าเค็มและน้าจืด ส่วนมากจะเคลื่อนไหวตามกระแสน้าแต่บางชนิดก็สามารถท่ีจะ เคล่ือนไหวได้ด้วยตนเอง ทังนีเป็นที่รู้กันว่าแมงกะพรุนเป็น สัตว์ท่ีระมัดระวังเสมอเม่ืออยู่ใต้ทะเล เน่ืองจากหนวดของ แมงกะพรุนมีเข็มพิษท่ีสามารถท้าให้ผู้สัมผัสรู้สึกคัน ปวดแสบ ปวดร้อน มีพิษร้ายแต่สีสันของมันก็ท้าให้คนท่ีได้พบเห็นเกิด ความนา่ หลงใหลในความสวยงามท่ีเปน็ เอกลักษณ์ ชวี ติ คนเราก็เหมือนกับแมงกะพรุนที่สามารถอาศัยอยู่ได้ ทุกพืนท่ี รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับพืนท่ีสังคม วัฒนธรรม ถึงจะมีความแตกต่างแต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ใน อีกมุมหนึ่งของชีวิตเราอาศัยร่วมกับคนมากมาย บางคนเป็น มิตร บางคนก็ควรระวังเหมือนแมงกะพรุนท่ีดูสวยงาม น่า หลงใหลแต่ภายในอาจแฝงไปด้วยพิษร้าย แต่ในความ อนั ตรายเรายงั ได้เอาแมงกะพรุนมาเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิต ให้ รู้จกั การปรบั ตัว การเอาตัวรอดจากภัยอนั ตราย

ลายข้าวต้มมัด ข้าวตม้ มัดเป็นหนงึ่ ใน ขนมไทย ทน่ี ้อยคนนักจะบอกวา่ ไม่รู้จัก เนือ่ งจากเป็น ขนมที่มปี ระโยชน์ และมีคณุ คา่ ทาง อาหารสามารถหาวัตถดุ ิบในการทาได้งา่ ยใน ท้องถิ่นนอกจากน้ียงั เป็นขนมที่นาขา้ วซง่ึ เป็น อาหารหลักของคนไทยนามาประยุกต์ ปรุงแต่งเป็นขนมหวาน จึงถือได้ว่า “ข้าวต้มมัด” เป็นหนึ่ง ในภมู ิปัญญาท้องถิน่ ของบรรพบุรุษไทย ในประเพณีไทยน้ัน ข้าวต้มมัดจัดเป็นขนมยอดนิยมท่ีมัก ทาไว้กินเป็นของว่างหรือเอาไปร่วมงานบุญ“ข้าวต้มมัด” ไม่ใช่เพียงขนมที่ใช้รับประทานเท่าน้ัน หากแต่ข้าวต้มมัดยังแฝงไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ด้วยอย่างเต็มเป่ียม คงจะเป็นการดีไม่ น้อย หากทุกคนในสังคมช่วยกันอนุรักษ์ และให้ความสาคัญกับขนมไทย สมกับท่ีบรรพบุรุษของ เราได้คิดค้น และพยายามทาขึ้นมา เพ่ือให้ขนมไทย อยู่คู่คนไทยและประเทศไทย ไม่เลือนหายไปตาม กาลเวลา จึงเกิดความคิดว่าจะอนรุ ักษข์ นมไทย “ขา้ วตม้ มดั ”ไว้ โดยหาวิธีการมดั เสื้อให้ออกมาเป็น ลายข้าวต้มมัด ซ่ึงก็สามารถทาลายออกมาได้สวย มองแล้วก็จะนึกถึงข้าวต้มมัดซ่ึงเป็นขนมไทย และอยากท่รี บั ประทานขน้ึ มาทันที OOCC กศน.อาเภอสตั หบี จงั หวัดชลบรุ ี